องค์ชายเว่ยทั้งโกรธและเกลียดตระกูลหยาง พวกเขากล้าสมคบคิดกับแคว้นศัตรู เอาชื่อของตนไปทำเรื่องที่ทำลายชื่อเสียงให้เสียหายหลังจากที่องค์ชายเว่ยรายงานเรื่องหยางซ่างจื้อแล้ว เขาก็ยังเอาหลักฐานอีกจำนวนมากที่หยางซ่างจื้อขูดเลือดขูดเนื้อราษฎรมารายงานองค์จักรพรรดิด้วยทั้งยังเสนอตัวว่าจะไปจับกุมหยางซ่างจื้อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่จุนโจวด้วยตนเอง ‘อย่างแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม’ ด้วยขณะที่จักรพรรดิอู่อันลังเลว่าควรจะส่งเขาไปจับหยางซ่างจื้อหรือไม่ สาส์นของเซียวหลินเทียนก็ถูกส่งกลับมาพอดีจักรพรรดิอู่อันโกรธมากเมื่อเห็นว่าครอบครัวของหยางซ่างจื้อขายอาวุธ อาหาร และเครื่องยาสมุนไพรให้กับฉีตะวันออกในเวลานี้ จ้าวฮุยพ่อแท้ ๆ ของจ้าวเจินเจินก็ถือโอกาสซ้ำเติม พลางเอ่ยกับจักรพรรดิอู่อัน“ฝ่าบาท หยางซ่างจื้อกับแม่ทัพเซี่ยล้วนเป็นคนสนิทขององค์ชายเว่ย! ครั้งล่าสุดที่เหมืองก็มีคนค้นพบว่าคนขององค์ชายเว่ยกำลังแอบสร้างอาวุธอยู่มิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“อาวุธเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็กระจัดกระจายไปมิรู้ว่าไปที่ใดบ้าง ที่แท้หยางซ่างจื้อกับแม่ทัพเซี่ยก็ลักลอบเอาออกไปกับขายให้กับฉีตะวันออก!”“แม้ว่าตอนนี้ทั้งสี่
ท่านอ๋องเฉิงได้รับจดหมายลับของเซียวหลินเทียน จึงร่วมมือกับเซียวหลินเทียนจับกุมกับเจ้าหน้าที่เหล่านี้ด้วยความรวดเร็วแม้ว่าองค์ชายเว่ยจะรู้เรื่องนี้ในภายหลัง ทว่าก็สายเกินไปแล้วมีคนเกี่ยวพันมากมายถึงเพียงนี้ หรือว่าเขาจะต้องฆ่าปิดปากทีละคนเล่า?เช่นนั้นจะไม่เป็นการบอกองค์จักรพรรดิตรง ๆ หรือว่าตนเองเป็นฆาตกร?คดีแล้วคดีเล่าล้วนมีความเกี่ยวข้องกับองค์ชายเว่ยทั้งทางตรงและทางอ้อม กอปรกับมีจ้าวฮุยเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟอีกต่อให้จักรพรรดิอู่อันโง่เขลาก็รู้ว่าองค์ชายเว่ยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ขณะที่เขาส่งคนสนิทไปจับหยางซ่างจื้อที่หลบหนีไป ก็สั่งให้คนกักขังองค์ชายเว่ยไว้ในตำหนักองค์ชายเว่ยด้วยแค่รอเซียวหลินเทียนพาหยางต้าหู่และคนอื่น ๆ กลับมายังเมืองหลวง จากนั้นค่อยสืบสวนคดีด้วยกันเมื่อจักรพรรดิอู่อันได้รับสาส์นกราบทูลก็สั่งให้กองทัพหลวงจับตัวครอบครัวของแม่ทัพเซี่ย หยางซ่างจื้อ และรองผู้บัญชาการอู๋เข้าคุกทันทีพ่อแม่ของรองผู้บัญชาการอู๋กลับบ้านเกิดเพื่อดูแลตัวเอง จักรพรรดิอู่อันก็ส่งคนไปจับกุมและยึดทรัพย์สินของพวกเขาด้วยหลังจากตกสวรรค์มาลงนรกในชั่วข้ามคืน ฮูหยินอู๋ก็ยัง
ก่อนหน้านี้หลิงเยี่ยนปิดบังเรื่องนี้กับหลิงเสียงเซิงและหวางซือ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับองค์ชายเว่ยในช่วงสองวันที่ผ่านมา หลิงเยี่ยนจึงเริ่มวิตกกังวล แล้วไปสารภาพกับหวางซือตอนนี้ฮองเฮาเว่ยมิอนุญาตให้หลิงเยี่ยนได้เข้าไปเป็นชายารองแล้ว เช่นนั้นจะทำอย่างไรกับเด็กในท้องของหลิงเยี่ยนเล่า?มิว่าในเมืองหลวงจะวุ่นวายแค่ไหน เซียวหลินเทียนก็ยังคงรีบไปที่เมืองหลวงตามกำหนดการระหว่างทางเซียวหลินเทียนนั้นพบปัญหามากมาย มือสังหารสามคนที่ถูกจับได้ในหอเหยี่ยวราตรี เดิมทีต้องถูกพาไปยังเมืองหลวงอย่างลับ ๆแต่มิรู้ว่าข่าวหลุดออกไปได้อย่างไร มือสังหารทั้งสามคนจึงถูกสังหารไปพร้อมกับองครักษ์ที่พาพวกเขาไปเมืองหลวงแล้วหมอเฝิงก็กินยาพิษฆ่าตัวตายระหว่างเดินทางกลับอีกเซียวหลินเทียนมิเชื่อว่าคนรักตัวกลัวตายเยี่ยงหมอเฝิงจะกินยาพิษฆ่าตัวตาย แต่หลังจากตรวจอาหารที่เขากินและผู้คุมแล้วก็มิพบอะไรน่าสงสัยเลยสุดท้ายหลิงอวี๋ก็ได้ทำการชันสูตรพลิกศพหมอเฝิง แล้วพบเข็มเงินจุ่มยาพิษร้ายแรงปักอยู่ที่คอของหมอเฝิงหลิงอวี๋จำได้ทันทีว่า ตอนหลิงผิงถูกขังอยู่ในเรือนของเกิ่งเสี่ยวหาว ชิวเหวินซวงก็ใช้เข็มเงินสังหารผู้คุมสองคนที่
เซียวหลินเทียนเรียกหาใครมิทันแล้ว หลิงอวี๋บอกว่าเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ต้องกินยาแก้พิษให้ทันเวลามิฉะนั้นพิษจะซึมเข้าสู่กระแสเลือด แล้วเขาจะหัวใจวายและตายได้ในเวลาอันสั้นเซียวหลินเทียนไม่มีเวลาแม้แต่จะสวมอาภรณ์ เขารีบหยิบยาแก้พิษที่หลิงอวี๋ให้มาแล้วกลืนลงไปทันทีในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น เซียวหลินเทียนรู้สึกว่าตนมิสามารถยกมือขึ้นได้แล้ว ความรู้สึกเฉื่อยชานั้นแล่นไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วหัวใจเต้นเร็วผิดปกติราวกับว่ามันจะกระโดดออกมาจากอกในไม่ช้านี้เขารู้สึกเวียนหัวจึงนั่งลงไปบนเก้าอี้ในตอนที่เซียวหลินเทียนคิดว่าตัวเองจะต้องตายเพราะหัวใจวาย ความรู้สึกเย็น ๆ ที่อธิบายมิได้ก็แพร่กระจายออกมาจากลำคอของเขาเซียวหลินเทียนรู้สึกว่าความถี่การเต้นของหัวใจของตนลดลงอย่างช้า ๆ และเขาก็มองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ชัดเจนขึ้นยาแก้พิษที่หลิงอวี๋ให้มาออกฤทธิ์แล้ว!เซียวหลินเทียนเหงื่อท่วมตัว ประสบการณ์ความเป็นความตายในชั่วพริบตา ประสบการณ์ที่ขึ้นจากนรกสู่สวรรค์เช่นนี้เขามิอยากสัมผัสมันอีกแล้วในชีวิตนี้เซียวหลินเทียนรอจนกลับมาเป็นปกติก่อนถึงตะโกนเรียกด้วยเสียงแหบ “หลู่ชิ่ง!”หลู่ชิ่งได้
จ้าวซวนเหลือบมองหมอเฉินอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “หมอเฉิน ทุกคนต้องถูกตรวจสอบทั้งหมด! หากท่านบริสุทธิ์ ไฉนต้องกลัวการตรวจสอบด้วยเล่า!”“อย่ามาพูดจาไร้สาระ ยกมือขึ้นให้ข้าตรวจสอบเดี๋ยวก็รู้!”จ้าวซวนหยิบโคมไฟรังสียูวีออกมา แม้ว่าหมอเฉินจะมิพอใจ แต่พอเห็นหมอหานกับหมอหลี่ยกมือขึ้นอย่างให้ความร่วมมือ เขาก็มองมือของตนอย่างเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จึงยกมือขึ้นอย่างสบายใจจ้าวซวนส่องโคมไฟไปที่พวกเขา ครั้นเห็นว่ามือของหมอหานกับหมอหลี่ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่บนฝ่ามือทั้งสองของหมอเฉินเรืองแสงไปด้วยสีเขียว ๆ บนเสื้อผ้าของเขาก็ด้วยสีหน้าของจ้าวซวนเปลี่ยนไปทันที เขาชักดาบออกมาพร้อมกับตะโกนออกไป “มือสังหารคือหมอเฉิน จับตัวเขาไว้!”องครักษ์ที่ฉินซานพามานั้นรีบวิ่งขึ้นมาทันทีแล้วชักดาบมาล้อมหมอเฉินไว้หมอเฉินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตะโกนด้วยความโกรธ “องครักษ์จ้าว อย่ามาใส่ร้ายข้านะ… ข้านอนอยู่ในห้องตลอด มิได้ออกไปข้างนอกเลย แล้วข้าจะเป็นมือสังหารที่ลอบสังหารท่านอ๋องได้เยี่ยงไร!”“มิได้ออกไปไหนเลยรึ? เช่นนั้นที่มือเรืองแสงเต็มไปหมดนี่เจ้าจะอธิบายเยี่ยงไร?”หลิงอวี๋กับเซียวหลิ
จ้าวซวนรีบวิ่งไปคว้ากรามของหมอเฉินแล้วค้นในปากของเขาทันทีหลังจากนั้นไม่นาน จ้าวซวนก็พบฟันปลอมที่มีถุงพิษอยู่ด้วยเพื่อป้องกันหมอเฉินซ่อนเข็มพิษไว้ในร่างกาย จ้าวซวนกับองครักษ์จึงลากหมอเฉินเข้าไปในห้องแล้วเปลื้องผ้าเขาจนหมด จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเขาใหม่ในเสื้อผ้าของหมอเฉิน พวกเขาพบเข็มพิษหนึ่งห่อกับยาพิษอีกสองห่อ นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรอื่นอีกท่านจินต้าจัดให้หมอหานกับคนอื่น ๆ ไปอาศัยอยู่ในเรือนอื่น ในเรือนนี้มีเพียงคนของเซียวหลินเทียนอยู่เท่านั้นหลิงอวี๋ตรวจดูยาพิษทั้งสองห่อ ล้วนเป็นพิษที่อันตรายถึงชีวิตทั้งคู่ หากกินเข้าไปจะตายภายในไม่กี่นาทีนางแอบดีใจที่ยาพิษที่หมอเฝิงวางใส่ตนนั้นมิร้ายแรงถึงชีวิตเช่นนี้ มิเช่นนั้นตนคงทนอยู่จนพวกเซียวหลินเทียนหายาแก้พิษมิได้หรอก“หมอเฉิน ตัวตนของเจ้ามิใช่เพียงแค่หมอของโรงหุยชุนใช่หรือไม่?”เซียวหลินเทียนกำลังสอบปากคำหมอเฉินหมอเฉินไม่มีโอกาสฆ่าตัวตายแล้ว เขาอดทนต่อความเจ็บปวดแล้วมองเซียวหลินเทียนโดยมิพูดอะไรเลยสักคำ“เจ้ากับชิวเหวินอิงเป็นพวกเดียวกันใช่หรือไม่? นางหนีออกจากตำหนักอ๋องอี้มา เป็นเจ้าที่รับนางไปอยู่ด้วยใช่หรือไม่?”หมอเฉินยั
เซียวหลินเทียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆ ก็คิดบางอย่างได้พลางเอ่ย “ท่านจินต้า ท่านคิดว่าเช่นนี้จะเป็นไปได้หรือไม่… ชิวเหวินอิงหนีออกจากตำหนักอ๋องอี้ บางทีนางอาจจะแอบเข้าไปในตำหนักองค์ชายเว่ยก็ได้!”“ตอนนี้องค์ชายเว่ยกำลังลำบาก ชิวเหวินอิงจึงส่งสัญญาณให้หมอเฉินฆ่าหมอเฝิงเพื่อที่จะไม่เปิดเผยที่อยู่ของตนเอง!”“ตราบใดที่องค์ชายเว่ยไม่ล้ม นางก็ยังมีโอกาสคอยปลุกปั่นสร้างปัญหาได้อยู่!”“ส่วนทางด้านองค์ชายคัง จ้าวเจินเจินจัดการเรื่องภายในได้ดีมาก ชิวเหวินอิงไม่มีทางแฝงตัวเข้าไปได้แน่!”ท่านจินต้าตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าลงแล้วเอ่ย “ท่านอ๋อง การคาดเดาของท่านสมเหตุสมผลแล้ว กระหม่อมจะส่งคนไปตรวจสอบรายละเอียดเรื่องคนที่ถูกเพิ่มเข้าตำหนักองค์ชายเว่ยหลังจากที่ชิวเหวินอิงจากไปดูพ่ะย่ะค่ะ!”คืนนั้น “ศพ” ของหมอเฉินถูกจ้าวซวนลากออกไปฝัง นอกจากจ้าวซวนกับคนวงในอีกสองสามคนแล้ว ไม่มีใครเลยรู้ว่าหมอเฉินยังมีชีวิตอยู่สำหรับมือสังหารที่สมควรตาย ไม่มีใครสนใจการมีอยู่ของเขาหรอกการเดินทางที่เหลือเป็นไปอย่างราบรื่น ทุกคนมาถึงเมืองหลวงโดยสวัสดิภาพเมื่อหลิงอวี๋เห็นประตูเมืองหลวง นางก็รู้สึกสบายใจอย่าง
“ท่านแม่… ท่านแม่...”ทันทีที่หลิงอวี๋ลงจากรถม้า หลิงเยวี่ยก็พุ่งเข้ามากอดต้นขาของนางแล้วเรียกอยู่ตลอดเด็กชายเพิ่งมาถึงต้นขาของหลิงอวี๋ ใบหน้าส่วนใหญ่ของเขาจมอยู่ในกระโปรงของหลิงอวี๋แล้ว แม้ว่าหลิงอวี๋จะดึงเขา เขาก็มิยอมออกมา“ท่านแม่!”เสียงของหลิงเยวี่ยขึ้นจมูกเล็กน้อย เหมือนว่ากำลังร้องไห้อยู่เลยหลิงอวี๋คุกเข่าลงกอดเขาแล้วเอ่ยถามเสียงนุ่มนวล “เยวี่ยเยวี่ยได้รับความคับข้องใจอะไรหรือไม่? มีใครรังแกเยวี่ยเยวี่ยหรือ? บอกแม่มา แม่จะไปตีเขาจนเลือดออกเลย!”หลิงเยวี่ยส่ายหัวอย่างแรง แต่ยังคงก้มหน้าอยู่หลิงอวี๋ยิ้มพลางเอ่ย “เยวี่ยเยวี่ยร้องไห้หรือ?”หลิงเยวี่ยยังคงส่ายหัว พลางเอ่ยด้วยเสียงคับข้องใจ “เยวี่ยเยวี่ยมิได้ร้องไห้ขอรับ!”“ไม่ร้องไห้ แล้วนี่มันอะไรกัน?”หลิงอวี๋สัมผัสใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาที่เต็มไปด้วยน้ำตา“มิได้ร้องไห้… ก็มิได้ร้องไห้สิขอรับ!”หลิงเยวี่ยโผตัวไปบนไหล่ของหลิงอวี๋ ซ่อนใบหน้าเล็ก ๆ ของตนไว้ในอาภรณ์ของหลิงอวี๋“เอาเถิด ๆ… มิได้ร้องไห้ก็มิได้ร้องไห้ เยวี่ยเยวี่ยของเราคงฝุ่นเข้าตากระมัง!”หลิงอวี๋หัวเราะ เด็กผู้นี้ต้องอายแน่ ๆ!แม้ว่าปกติแล้วหลิงเยวี่ยจะมี