“ท่านอ๋อง กระหม่อมได้ยินมาว่ากวนซินมิเพียงแต่สูญเสียทรัพย์สินของตระกูลกวนไปเท่านั้น แต่ยังถูกท่านกวนเอ้อร์ไล่ล่าด้วย! คิดมิถึงเลยเขาจะตกต่ำกลายมาเป็นโจรจริง ๆ!”“กระหม่อมเห็นเขาพาคนมาสิบกว่าคน ลูกน้องของเขาสารภาพว่าเดิมทีกวนซินคิดจะแปรพักตร์ไปหาแม่ทัพเซี่ย แต่แม่ทัพเซี่ยรับคำสั่งขององค์ชายเว่ยและต้องการเอาชีวิตเขา เขาจึงไม่มีที่จะไป ถึงได้มาหาเงินจากการปล้น!”เซียวหลินเทียนพูดมิออกเลย ตระกูลกวนในอดีตร่ำรวยระดับแคว้น นายน้อยกวนซินผู้นี้ก็ถือตนอยู่สูงมิเห็นผู้ใดอยู่ในสายตาไหนเลยจะคิดว่ายามนี้จะต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการปล้น!“รอให้เรื่องในเว่ยโจวจัดการเรียบร้อย ปี้ไห่เฟิงเจ้าพาคนไปจับกวนซิน!”ตอนแรกเซียวหลินเทียนโกรธหลิงอวี๋ที่มิสามารถช่วยภรรยาของท่านกวนเอ้อร์ได้ทันเวลา นี่เป็นปมในใจของเขามาโดยตลอดหากจับตัวกวนซินแล้วมอบให้ท่านกวนเอ้อร์ได้ ก็จะเป็นการแก้ปมในใจของท่านกวนเอ้อร์ได้!“พ่ะย่ะค่ะ!”ปี้ไห่เฟิงพยักหน้า แล้วสั่งให้คนขนเครื่องยาสมุนไพรไปกับเกิ่งเสี่ยวหาวต่อผ่านไปครึ่งชั่วยาม คนของเผยอวี้ก็มาส่งข่าวว่าเผยอวี้ยึดเว่ยโจวได้สำเร็จแล้วคนในครอบครัวของข้าหลวงหยางทั้งหมดถูกเผยอวี
เซียวหลินเทียนกำลังจัดการจดหมายของข้าหลวงหยาง เตรียมเขียนส่งไปยังเมืองหลวงให้จักรพรรดิอู่อันแจ้งเตือนฉีตะวันออกทันใดนั้น แม่ทัพเว่ยชั่วคราว ข่งฮุยกับเผิงเลี่ยงได้ส่งคนมารายงานว่า พวกเขาได้ยึดกองกำลังที่เหลือของแม่ทัพเซี่ยไว้ได้แล้วเซียวหลินเทียนตอบกลับทันทีให้พวกเขาตั้งฐานที่มั่นแล้วมุ่งหน้าไปพบกันที่เว่ยโจวทางเขากำลังรอให้หลิงอวี๋ผ่าตัดเสร็จแล้วจึงจะเตรียมย้ายไปประจำการที่เว่ยโจวในที่สุดหลิงอวี๋ก็ทำการผ่าตัดกับลู่หนานเสร็จแล้ว นางทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเหนื่อยล้า อาภรณ์ของนางเปียกโชกไปด้วยเหงื่อหลิงซวนเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของนางอย่างปวดใจแล้วยื่นชามน้ำให้นาง“อาจารย์ ทางนี้ข้าดูแลเอง ท่านออกไปหาอะไรกินก่อนเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงซวนเอ่ยทั้งน้ำตา “ท่านทำการผ่าตัดมาหลายชั่วยามแล้ว ทั้งยังมีคนไข้รออยู่อีกจำนวนมาก ท่านจะทรุดมิได้นะเจ้าคะ!”“อืม!”หลิงอวี๋ตั้งสมาธิจดจ่อมาตลอด ทั้งยังต้องคุกเข่าทำการผ่าตัดอีก ขาทั้งสองข้างของนางมิรู้สึกอะไรแล้วร่างกายของนางก็อ่อนล้ามาก นางรู้ว่าหลิงซวนหวังดีกับตน จึงพยักหน้า“ข้าจะไปนอนพักสักหน่อย เจ้าคอยดูลู่หนานไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยนให้รีบไป
เซียวหลินเทียนเดินออกมาก็เห็นองครักษ์คนหนึ่งกำลังพยุงชายที่ได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกายอยู่ด้านนอกรถม้าของหลิงอวี๋“หลิงเสี่ยง?”ท่านจินต้าบอกเซียวหลินเทียนเรื่องที่ฉินซานช่วยเหลือหลิงเสี่ยงมาแล้วเซียวหลินเทียนเห็นชายแปลกหน้าคนนี้มีส่วนสูงพอ ๆ กับตน จึงเดาตัวตนของเขาได้“ท่านอ๋องอี้!”หลิงเสี่ยงพยักหน้าให้เซียวหลินเทียนอยู่ไกล ๆหลิงอวี๋เป็นน้องสาวของตน เขาไม่มีทางลืมได้ว่าเพื่อนร่วมงานของเขาบอกมาว่าท่านอ๋องอี้ไม่เพียงแต่เกลียดหลิงอวี๋เท่านั้น แต่ยังโบยหลิงอวี๋ถึงห้าสิบไม้ด้วยหลิงเสี่ยงมิสามารถเข้าใกล้น้องเขยคนนี้ได้จริง ๆ“บาดเจ็บไม่ร้ายแรงใช่หรือไม่?”เซียวหลินเทียนเอ่ย “ฉินซานบอกข้าแล้ว ข้าได้ส่งคนไปเอาของที่เจ้าซ่อนไว้ออกมาแล้ว!”“มิต้องกังวล ความพากเพียรของเจ้าจะได้รับผลอย่างแน่นอน!"“พ่ะย่ะค่ะ!” หลิงเสี่ยงพยักหน้าอย่างเฉยเมย เขาได้ทำสิ่งที่ตนควรทำแล้ว ที่เหลือก็เป็นเรื่องของท่านอ๋องอี้กับองค์จักรพรรดิแล้ว“ทางด้านแม่ทัพกู่ได้จับกุมคนของรองผู้บัญชาการอู๋ไว้แล้ว แม่ทัพกู่รู้ว่าเจ้าอยู่กับข้าทางนี้ รอไปถึงเว่ยโจว เขาจะมาหาเจ้า!”เซียวหลินเทียนเห็นได้จากท่าทีของหลิงเสี่ยงว
เถาจื่อรีบไปเอายาทันทีทางด้านหลู่ชิ่งไปเรียกหมอเฝิงกับหมอหานมาแล้วเมื่อหมอเฝิงเห็นสภาพของหลิงอวี๋ ในใจก็มีความสุข ในที่สุดตนก็จะทำภารกิจของฮองเฮาเว่ยสำเร็จแล้ว!หลิงอวี๋เริ่มได้รับพิษแล้ว และผลก็เป็นเหมือนกับที่คนของฮองเฮาเว่ยบอกเลยว่ามันไม่ต่างจากการติดโรคระบาดจากสถานการณ์นี้ หลิงอวี๋จะต้องตายภายในสามวันอย่างแน่นอน!หมอเฝิงแสร้งทำเป็นจับชีพจรของหลิงอวี๋แล้วเอ่ย “ท่านอ๋อง คาดว่าพระชายาน่าจะติดโรคระบาดแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางพัฒนาวิธีการรักษาโรคระบาดแล้วมิใช่หรือ?”“กระหม่อมเห็นว่าตำรับยาอื่น ๆ สู้ของนางมิได้ ดังนั้นทำตามตำรับยาของนางเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”หมอหานมองใบหน้าของหลิงอวี๋ เห็นว่าตุ่มน้ำพุพองมิต่างจากผู้ป่วยที่ติดโรคระบาด เขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย“ตำรับยาของพระชายาอ๋องอี้เมื่อนำไปใช้กับผู้ป่วยของเราแล้ว ผลลัพธ์ก็ดีกว่าตำรับยาที่เราจัดไว้จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ แค่ใช้ตำรับยาของพระชายาอ๋องอี้ตามที่หมอเฝิงบอกก็พอ!”เซียวหลินเทียนเห็นทั้งคู่บอกเช่นนี้ก็รู้สึกโล่งใจโชคดีที่หลิงอวี๋ได้พัฒนาวิธีรักษาโรคโรคระบาดได้แล้ว มิฉะนั้นตอนนี้เขาก็มิรู้จริง ๆ ว่าต้องทำเยี่ยงไร!เถาจื่อเอายามาป้อนให้หลิง
เซียวหลินเทียนพบจุดนี้เมื่อคืนนี้ และนี่คือสิ่งที่ทำให้เขากลัดกลุ้มตระกูลหยางถวายเงินให้กับองค์ชายเว่ย แม้ว่าเรื่องนี้จะมีบัญชีที่สามารถพิสูจน์ได้แต่ในจดหมายระหว่างองค์ชายเว่ยกับตระกูลหยาง กลับไม่มีการเอ่ยถึงการสมรู้ร่วมคิดกับฉีตะวันออกเลยเซียวหลินเทียนมิได้เลวร้ายถึงเพียงนั้นที่จะปลอมแปลงหลักฐานเพื่อโค่นล้มองค์ชายเว่ยแต่หากตระกูลหยาง และพวกแม่ทัพเซี่ยล้มไปหมดแล้ว แต่องค์ชายเว่ยรอดไปโดยมิได้รับผลกระทบใด ๆ เซียวหลินเทียนก็มิยอมให้เป็นเช่นนั้นหรอก!หากไม่มีการหนุนหลังจากองค์ชายเว่ยและให้ความสะดวกสบายให้กับหยางจื้อฟาง หลายปีมานี้ตระกูลหยางจะทำเงินได้มากมายถึงเพียงนี้ได้เยี่ยงไร!“ท่านจินต้า ศึกษาจดหมายกับสมุดบัญชีเหล่านี้อย่างรอบคอบอีกที แม้ว่าเราจะไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าองค์ชายเว่ยสมคบคิดกับแคว้นศัตรู แต่เราต้องยืนยันหลักฐานที่เขาปกป้องตระกูลหยาง!”เซียวหลินเทียนหัวเราะเยาะ “คราวที่แล้วเขาให้คนจากหอเหยี่ยวราตรีมาลอบสังหารข้า คราวนี้ก็ส่งนักฆ่ามาใช้กลอุบายแบบเดียวกันอีก! หากข้าปล่อยไปเช่นนี้ เขาก็จะต้องหนักข้อขึ้นอีก!”“แม้ว่าจะปล่อยให้เขาตายมิได้ แต่อย่างน้อยเราก็ต้องให้เขาถูก
หลิงหว่านมิกล้าเอ่ยถามฉินซานว่าเกิดอะไรขึ้น กลัวจะไปตอกย้ำเขา นางจึงจัดที่พักให้พวกเขาแล้วไปถามหลู่ชิ่งหลู่ชิ่งเล่าเรื่องทุกอย่างที่เจ่าจวงให้หลิงหว่านฟัง แล้วหลิงหว่านก็โกรธจนตัวสั่นมิน่าวันนี้องค์หญิงหกจึงสงบมาก ที่แท้นางก็ทำสิ่งที่น่ารังเกียจและน่าอายไว้มากมาย รู้สึกผิดสินะ!“ไฉนนางมิตาย! นางทำร้ายทุกคนเช่นนี้!”หลิงหว่านมองลู่หนานที่ชีวิตยังแขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้วมิรู้ว่าจะด่าองค์หญิงหกเยี่ยงไรดีเลยหลิงอวี๋ล้มป่วยแล้ว เมื่อมีคนอาศัยอยู่ในศาลาว่าการมากถึงเพียงนี้ หลิงหว่านจึงกลายเป็นคนที่ต้องดูแลเรื่องภายในนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เป็นแม่บ้าน นางกังวลไปเสียทุกอย่าง หลิงหว่านถูกบังคับให้เติบโตขึ้นแล้วนางมิสามารถทำทุกอย่างเองได้ จึงคิดว่าเกิ่งเสี่ยวหาวเป็นเจ้าของร้านอาหาร ก็เลยลากเกิ่งเสี่ยวหาวไปช่วยนางซื้อของและจัดการอาหารสิ่งที่ทำให้หลิงหว่านประหลาดใจอย่างมากก็คือ เกิ่งเสี่ยวหาวพานางรับใช้สองคนที่รู้วรยุทธมาด้วย บอกว่าก่อนหน้านี้รับปากไว้ว่าจะซื้อพวกนางให้หลิงอวี๋เขาคิดว่าหลิงอวี๋ต้องการความช่วยเหลือตอนออกไปข้างนอก ดังนั้นจึงพาพวกนางมาด้วยนางรับใช้สองคนนี้ คนหนึ่งชื่
หลิงซวนเฝ้าหลิงอวี๋อยู่เช่นนี้ หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วยาม นางก็รู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายของหลิงอวี๋ลดลงอย่างช้า ๆหลิงซวนกลัวว่าตนจะวินิจฉัยผิด จึงรีบหยิบที่วัดอุณหภูมิของหลิงอวี๋ออกมา หลังจากตรวจแล้ว อุณหภูมิร่างกายของหลิงอวี๋ลดลงเหลือสามสิบแปดองศาแล้ว“ดีแล้ว ยาออกฤทธิ์แล้ว!”หลิงซวนถอนหายใจโล่งอก“แต่เหตุใดตุ่มแผลพุพองของคุณหนูถึงยังเหมือนเดิมเล่า?” เถาจื่อเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ“ข้าเห็นหลี่เฉียงกินยาที่คุณหนูให้ พออุณหภูมิร่างกายของเขาลดลง ตุ่มแผลพุพองเหล่านั้นก็ค่อย ๆ หายไป!”หลิงซวนยิ้มพลางเอ่ย “ก็เจ้าบอกว่าคุณหนูดูดซึมยาช้า เช่นนั้นเราค่อย ๆ ทำไปเถิด ตอนนี้อุณหภูมิของนางก็ลดลงแล้ว แผลพุพองก็คงจะค่อย ๆ ยุบลงเช่นกัน!”เถาจื่อพยักหน้า “เช่นนั้นก็ดีเลย!”เวลานี้ หลิงเสี่ยงก็เดินเข้ามา“นายน้อย...”เมื่อเถาจื่อกับหลิงซวนเห็นดังนั้น ก็ลุกขึ้นทักทายหลิงเสี่ยงรู้จักกับเถาจื่อและหลิงซวนแล้ว เขาจึงพยักหน้าแล้วเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “คุณหนูดีขึ้นหรือไม่?”“ยังมิฟื้นเลยเจ้าค่ะ! แต่อุณหภูมิร่างกายนางลดลงแล้ว! อีกสักพักก็น่าจะฟื้น!” หลิงซวนเอ่ยหลิงเสี่ยงเดินไปแล้วก็เห็นว่าหลิงอวี๋ย
หลิงเสี่ยงนั่งอยู่เป็นเวลานาน แต่หลิงอวี๋ก็ยังไม่ฟื้น เขาเป็นบุรุษมิสามารถอยู่ในเรือนพักของหลิงอวี๋ตลอดได้ จึงกลับไปในตอนเย็น หลังจากที่เซียวหลินเทียนจัดการงานเสร็จสิ้นแล้ว ก็นึกถึงหลิงอวี๋จึงมาเยี่ยมหลิงซวนให้ยาหลิงอวี๋อีกครั้งแล้ว เมื่อเห็นว่าอุณหภูมิร่างกายของนางกลับมาเป็นปกติ จึงเอ่ยกับเซียวหลินเทียน“ท่านอ๋อง อุณหภูมิของคุณหนูกลับมาเป็นปกติแล้วเพคะ! อีกเดี๋ยวก็คงจะฟื้นแล้ว! อย่ากังวลมากเกินไปเลยเพคะ!”“อืม พวกเจ้าไปพักผ่อนสักหน่อยเถิด ข้าจะเฝ้านางเอง!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าแล้วนั่งลงข้างเตียงหลิงซวนเรียกเถาจื่อออกไป ทั้งสองเองก็มิกล้าออกไปไหนไกล จึงนั่งพักผ่อนอยู่ตรงทางเดินเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่กำลังหลับอยู่ เขามิคุ้นเคยกับหลิงอวี๋ที่เป็นเช่นนี้เอาเสียเลยตอนนางตื่น นางก็สามารถพูดคุยกับตนได้ แต่การนอนเช่นนี้มันทำให้เขารู้สึกว่าหลิงอวี๋ผู้นี้ช่างแปลกเหลือเกินตุ่มน้ำพุพองเต็มใบหน้าของนาง ดูน่าเกลียดมาก!เซียวหลินเทียนนึกขึ้นได้ว่าตอนที่หลิงอวี๋ถูกตนเองเฆี่ยนตีนั้น ร่างกายกับใบหน้าของนางเต็มไปด้วยบาดแผลจากแส้ ดูน่าเกลียดเสียยิ่งกว่าตอนนี้อีก!ในเวลานั้นตนเต็มไป