สายตาของเซียวหลินเทียนมองไปที่องค์ชายเย่อย่างเคร่งขรึม แม้ว่าเขาจะเชื่อในทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋ แต่นี่ก็เป็นเรื่องการทำคลอด และก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ไม่มีประสบการณ์ในการทำคลอดมาก่อนเลยนางช่วยพระชายาเย่ไม่ได้จริง ๆ หรือ?แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาสาบานว่าจะไม่มีทางปล่อยให้องค์ชายเย่ทำให้หลิงอวี๋ต้องลำบากใจเด็ดขาด!“หลานเอ๋อร์ของข้า… หลิงอวี๋ ท่านคืนชีวิตของหลานหลานให้ข้าเถิด!”ฮูหยินจูสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็สะบัดมือของจูเฮ่าแล้วเดินโซเซเข้าไป“ผู้ใดบอกว่าพระชายาเย่ตายแล้วเล่า?”หลิงอวี๋กลัวว่าฮูหยินจูจะล้ม จึงรีบก้าวไปพยุงนาง พลางเอ่ยเสียงอ่อนโยน“ฮูหยินจูมาดูนี่สิ นางแค่หมดเรี่ยวแรงหลังคลอดเลยสลบไปเท่านั้น ประเดี๋ยวพอให้เลือดเสร็จ นางก็จะฟื้นขึ้นมาแล้ว!”ความหวังริบหรี่เกิดขึ้นในใจของฮูหยินจู แล้วหลิงอวี๋ก็พยุงนางเข้าไปนางยื่นมือไปสัมผัสลมหายใจของจูหลาน และรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของจูหลานที่พ่นใส่มือของตนหัวใจของนางจึงมีชีวิตชีวาขึ้นมา“พระชายาอ๋องอี้ เช่นนั้นนางยังสามารถให้กำเนิดลูกอีกได้หรือไม่?”ฮูหยินจูจับมือหลิงอวี๋พลางเอ่ยถามอย่างมีความหวัง“ได้แน่นอนสิ เมื่อคร
“เช่นนั้นรึ?”ทันใดนั้นหลิงอวี๋ก็เอ่ยอย่างเฉียบขาด “เช่นนั้นก็หยิบยาของเจ้าออกมาเทียบดูว่าข้ากล่าวหาเจ้าหรือไม่!”เมื่อเห็นยาเม็ดนั้นสีหน้าของพระชายาเว่ยก็เปลี่ยนไปทันที พลางจ้องแม่นางซืออย่างไม่พอใจแม่นางซือเอ่ยโต้แย้งขึ้นมา “หรือว่าพระชายาอ๋องอี้อยากจะขโมยยาสูตรลับของข้า? ข้าบอกไปแล้วว่ายาเม็ดนี้มิใช่ของข้า เหตุใดท่านต้องบอกว่ามันเป็นของข้าด้วยเล่า!”“หรือว่าเพราะสถานะของท่านสูงส่งกว่าข้า จึงใช้อำนาจบังคับผู้อื่นเช่นนี้ได้กระนั้นรึ?”“ข้าหรือจะชอบยาสูตรลับที่ทำร้ายคนของเจ้า? ช่างตลกยิ่งนัก!”หลิงอวี๋เอ่ยเสียงขรึม “การวางยาพิษทายาทของราชวงศ์จะต้องถูกตัดหัว! เจ้ากล้าให้ค้นตัวหรือไม่เล่า?!”พระชายาเว่ยสงบลงครู่หนึ่งแล้วขมวดคิ้วพลางเอ่ย “น้องสะใภ้สี่ เหตุใดเจ้าจึงบอกว่าแม่นางซือคิดจะวางยาพิษท่านชายน้อย? ยาเม็ดนี้มีสิ่งใดผิดปกติหรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชา “มีบางอย่างผิดปกติกับยาเม็ดนี้เป็นแน่แล้ว ในยานี้มีใบยี่โถกับเซิงหมาดำ ยาทั้งสองรวมกันจะทำให้พระชายาเย่เป็นหมันในภายภาคหน้า!”“ว่ากระไรนะ?!”ฮูหยินจูยืนอยู่ตรงประตู พอได้ยินคำกล่าวของหลิงอวี๋ก็กรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ“แม
แม่นมของแม่นางซือกรีดร้องขึ้นมาด้วยความโกรธ “นี่ยังมีกฎเกณฑ์อยู่หรือไม่? แม่นางของข้าใจดีมาทำคลอดให้พวกท่าน แต่พวกท่านกลับปฏิบัติต่อนางเยี่ยงนี้หรือ!”“หุบปาก ที่นี่ใช่ที่ที่เจ้าจะพูดจาเช่นนี้รึ? หากกล้าพูดขึ้นมาอีก ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตายโทษฐานช่วยคนชั่วกระทำความผิด!”องค์ชายเย่ตะคอกอย่างเด็ดขาดสีหน้าของพระชายาเว่ยก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เมื่อเห็นว่าองค์ชายเย่โกรธมากถึงเพียงนี้ ก็มิกล้าเกลี้ยกล่อมอีกต่อไป กลัวว่าองค์ชายเย่จะเอาความโกรธมาลงกับตน!หลังจากนั้นไม่นาน นางรับใช้ก็พบยาสองสามเม็ดจากกระเป๋าปักของแม่นางซือ จึงนำไปมอบให้องค์ชายเย่องค์ชายเย่มอบมันให้หลิงอวี๋ หลิงอวี๋ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วเลือกออกมาสองเม็ด จากนั้นก็ยิ้มเยาะให้แม่นางซือพลางเอ่ย“ยังจะบอกว่ายามิใช่ของเจ้าอีกรึ! ส่วนผสมของยาสองเม็ดนี้เหมือนกับยาเม็ดที่จูหลานอาเจียนออกมา ในนี้มีส่วมผสมของใบยี่โถกับเซิงหมาดำ! เจ้ายังจะเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีกหรือไม่?”สีหน้าของแม่นางซือดูมืดมนไปทันที แต่นางก็ยังฝืนเอ่ย“พระชายาอ๋องอี้ ในเมื่อท่านมีความเชี่ยวชาญในด้านวิชาแพทย์มากถึงเพียงนี้! เหตุใดท่านมิตรวจดูยาเม็ดอื่นด้วยเล่า? ยาเหล่าน
“องค์ชายเย่โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย! ไม่มีใครสั่งหม่อมฉันจริง ๆ เพคะ นางรับใช้ให้ยาผิดเพคะ!”แม่นางซือตกใจจนหน้าซีด เหลือบมองพระชายาเว่ยอย่างเงียบ ๆ หวังว่าพระชายาเว่ยจะเอ่ยอะไรเพื่อช่วยตนบ้างพระชายาเว่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “องค์ชายห้า บางทีนางรับใช้อาจจะให้ยาผิดจริง ๆ ก็ได้ มียามากจนนางแยกมิออกก็เป็นไปได้!”องค์ชายเย่เกลียดพระชายาเว่ยจนเข้ากระดูกมานานแล้ว!ทีแรกนางก็ขวางหลิงอวี๋มิให้เข้าไปช่วยจูหลานกับลูก พูดก็ขัดแย้งกันอีกตอนนี้ยังจะพูดช่วยคนที่ทำร้ายจูหลานอีกด้วย ช่างน่ารังเกียจเสียจริงองค์ชายเย่อดมิได้ที่จะตะคอกด้วยโทสะ“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเป็นคนเชิญแม่นางซือมา ท่านพูดช่วยนางเช่นนี้ หรือว่าท่านคือคนที่สั่งการให้นางวางยาพิษจูหลานเล่า?”“ก่อนหน้านี้รถม้าของท่านก็ชนรถม้าตำหนักข้าจนทำให้หลานหลานต้องคลอดก่อนกำหนด!”“ยามนี้นางผดุงครรภ์ที่ท่านเชิญมาก็ให้ยาเช่นนี้กับหลานหลาน! แล้วท่านยังจะช่วยพูดให้นางผดุงครรภ์ที่ชั่วร้ายเช่นนี้อีก! ท่านอยากให้หลานหลานของข้าตายไปทั้งแม่ทั้งลูกจริง ๆ ใช่หรือไม่?”พระชายาเว่ยสีหน้าเปลี่ยนไปทันที พลางตะคอกเสียงแข็ง“องค์ชายห้า นี่ท่านตรัสเรื
พระชายาเว่ยเห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นตระหนก มีแวบหนึ่งที่นางกังวลว่าแม่นางซือจะทนไม่ไหวแล้วเปิดโปงตน!แต่เมื่อเห็นว่าแม่นางซือถูกทุบตีอย่างหนักถึงเพียงนี้ก็ยังมิเปิดโปงตน นางก็โล่งใจหลิงอวี๋แอบนับถือคำพูดของพระชายาเว่ย ความเด็ดขาดและไหวพริบนี่ช่างเหนือชั้นจริง ๆ!เซียวหลินเทียนมองอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาเย็นชา เมื่อครู่เขาเห็นภาพที่แม่นางซือแอบเหลือบมองพระชายาเว่ยอยู่เขารู้ดีว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับพระชายาเว่ยเป็นแน่ ทว่าหากมิสามารถง้างปากของแม่นางซือได้ พวกเขาก็จะไม่มีหลักฐานที่จะกล่าวหาพระชายาเว่ยเซียวหลินเทียนไม่มีความรู้สึกดีกับนางผดุงครรภ์ที่ฆ่าคนได้ การทุบตีคนเลวทรามเช่นนี้จนตายเป็นเพียงการกำจัดอันตรายจากผู้คนเท่านั้นเอง!กระทั่งเห็นแม่นางซือถูกทุบตีปางตาย จนลมหายใจรวยรินแล้วพระชายาเว่ยก็แสร้งทำเป็นถอนหายใจ พลางเอ่ยกับองค์ชายเย่“องค์ชายห้า นี่เป็นความผิดของหม่อมฉันเอง! หม่อมฉันมิรู้จักนางดีแล้วเกือบทำร้ายน้องสะใภ้ห้าแล้ว!”“แต่หม่อมฉันคาดมิถึงเลยจริง ๆ ว่า แม่นางซือจะเป็นคนเช่นนี้! กล้าดีอย่างไรมาหยามพวกเราเช่นนี้!”“โชคดีที่วันนี้น้องสะใภ้สี่อยู่ที่นี่ มิเ
แม้ว่าพระชายาเว่ยจะเข้าใจแล้ว แต่ก็กังวลว่าหลิงอวี๋กำลังสร้างความขัดแย้งระหว่างตนเองกับจ้าวเจินเจินอยู่ เพราะอยากให้องค์ชายเว่ยขัดแย้งกับองค์ชายคัง แล้วท่านอ๋องอี้ก็จะช่วงชิงผลประโยชน์ไปในที่สุด!นางจึงแสร้งทำเป็นเข้าใจพลางเอ่ยถามอย่างมึนงง “น้องสะใภ้สี่ เจ้าหมายความเช่นไร?”“พี่สะใภ้ใหญ่อยู่ฟังต่อสิแล้วจะรู้เอง!”หลิงอวี๋หันไปหานางผดุงครรภ์ทั้งสองด้วยรอยยิ้มมิคล้ายยิ้ม แล้วมองพวกนางอยู่เช่นนั้นโดยมิเอ่ยวาจานางผดุงครรภ์ทั้งสองตกใจกับท่าทีของหลิงอวี๋ แต่ก็อดกลั้นมิพูดอะไรออกไปเซียวหลินเทียนใจเต้น หลิงอวี๋พบอะไรอีกแล้วหรือ?เขามองไปทางนางผดุงครรภ์ทั้งสองด้วยสายตาเฉียบคม กลิ่นอายเย็นชาของเขาแข็งแกร่งกว่าของหลิงอวี๋มาก ทำให้นางผดุงครรภ์ทั้งสองรู้สึกว่าอากาศรอบตัวพวกนางเย็นยะเยือกขึ้นมาฉับพลันขนลุกซู่ทั่วทั้งร่างกายทันที!พระชายาเว่ยเป็นคนฉลาด เมื่อนึกถึงเหตุและผลที่ตามมา ก็คิดขึ้นได้ว่าหลิงอวี๋อาจพบอะไรบางอย่าง นางจึงจ้องมองนางผดุงครรภ์ทั้งสองอย่างไม่สบอารมณ์...องค์ชายเย่รู้สึกว่าบรรยากาศผิดปกติ จึงมองไปทางนางผดุงครรภ์ทั้งสองเช่นกัน หรือว่าพิษในตัวบุตรชายของตนเกิดจากนางผดุงครร
หลังจากนั้นไม่นาน นิ้วของนางผดุงครรภ์อ้วนก็เปลี่ยนเป็นสีแดง นางตกใจจนหน้าซีด พลางตะโกนลั่น“พระชายาอ๋องอี้ นี่เป็นการกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรมเลย บ่าวมิเคยแตะต้องดอกคำฝอยด้วยซ้ำ…”ยังมิทันที่นางผดุงครรภ์อ้วนจะพูดจบ หลิงซวนก็ตบหน้าอ้วน ๆ ของนางอย่างแรง พลางตะคอกด้วยความโกรธ“เจ้ามิเคยแตะต้องเลยหรือ? เช่นนั้นเหตุใดมือเจ้าถึงเปลี่ยนเป็นสีแดง? แล้วไฉนมือของนางถึงมิเปลี่ยนเล่า?”“ที่แท้คนที่คิดจะวางยาพิษท่านชายน้อยก็คือทาสชั่วเช่นเจ้า!”องค์ชายเย่ควบคุมตัวเองมิได้อีกต่อไป เขาชักดาบขององครักษ์ออกมาแล้วเดินเข้าไปอย่างดุร้าย “วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้า ทาสชั่ว!”นางผดุงครรภ์อ้วนตกใจจนปัสสาวะแทบรั่ว พลางร้องออกมาเสียงสั่น “องค์ชายเย่ บ่าวถูกใส่ร้ายเพคะ แม้ว่าบ่าวจะเผลอใส่ดอกคำฝอยลงในน้ำแกงกระตุ้นการคลอด แต่ดอกคำฝอยนั้นหาได้เป็นพิษไม่เพคะ!”“พระชายาอ๋องอี้ ในเมื่อท่านเป็นแพทย์ชั้นเซียน ท่านก็ควรรู้ว่าดอกคำฝอยสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและขจัดภาวะเลือดคั่งเท่านั้น มิได้เป็นพิษจริง ๆ!”แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับพระชายาเว่ย แต่เมื่อได้ยินสิ่งนี้ก็อดมิได้ที่จะเอ่ยแทรก “น้องสะใภ้สี่ เจ้าดูผิดไปหรือ
องค์ชายเย่ถูกพี่ภรรยาดุเข้าก็หน้าแดง พลางรีบเอ่ย “ข้ามิได้เอามานะ สิ่งนี้พระชายาคังมอบให้หลานหลาน!”“ช่วงก่อนหน้านี้หลานหลานไปที่ตำหนักองค์ชายคังแล้วเห็นดอกไม้นี้สวยงาม นางจึงเอ่ยชมแล้วพระชายาคังก็ให้ดอกไม้นี้มา!”เมื่อพระชายาเว่ยได้ยินสิ่งนี้ก็ยิ้มอย่างเย็นชา พลางมองไปที่นางผดุงครรภ์ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องสืบสวนแล้ว ต้องเป็นจ้าวเจินเจินแน่ ๆ ที่ให้ชะเอมเทศที่มีสารพิษนี้กับจูหลานตอนนี้ยังจะส่งนางผดุงครรภ์มาให้จูหลานกินดอกคำฝอยเพื่อกระตุ้นพิษอีก เมื่อทั้งสองอย่างรวมกัน จูหลานจะคลอดลูกอย่างราบรื่นได้เยี่ยงไรเล่า!ยิ่งไปกว่านั้นจ้าวเจินเจินยังวางแผนให้รถม้าของตนชนกับรถม้าของจูหลาน และหากจูหลานตายไปเช่นนี้ ตนก็จะต้องถูกตราหน้า!แผนของจ้าวเจินเจินเป็นแผนการชั่วร้ายที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย!ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยระวังมาก่อนเลย จึงส่งแม่นางซือมาทำร้ายจูหลาน มันไม่จำเป็นเอาเสียเลย!สิ่งที่พระชายาเว่ยนึกถึง หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเองก็นึกถึงเช่นกันทั้งสองต่างมองไปทางองค์ชายเย่ จูหลานชอบดอกไม้นี้เอง แต่จ้าวเจินเจินเองก็สามารถพูดได้ว่านางไม่รู้เลยว่าดอกไม้นั้นมีพิษ!นางให้จูหลานด้ว