องค์ชายเย่คลี่กระดาษนั้นออกมา เม็ดยายังคงอยู่ข้างในหลิงอวี๋รับยานั้นมาดมกลิ่น กลิ่นอาเจียนมาพร้อมกับกลิ่นหอม ซึ่งเป็นกลิ่นที่นางเคยได้กลิ่นจากแม่นางซือก่อนหน้านี้“รอสักครู่ หม่อมฉันดูว่ามันคือสิ่งใด!”หลิงอวี๋วิ่งไปด้านหลังฉากกั้นลม แล้วรีบเข้าไปในมิติเพื่อตรวจสอบยาเม็ดนั้นหลังจากนั้นไม่นานผลลัพธ์ก็ออกมา หลิงอวี๋อ่านจบในรวดเดียวแล้วเดินออกไปองค์ชายเย่ยืนนิ่งอยู่ต่อหน้าทารก จ้องมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่น่าสงสารนั้น“องึ์ชายห้า ยาเม็ดนี้ไม่มีพิษ แต่ในนี้ประกอบด้วยส่วนผสมของยาสองอย่างคือใบยี่โถกับเซิงหมาดำ! เมื่อยาทั้งสองรวมกันจะทำให้พระชายาเป็นหมันในภายภาคหน้าเพคะ!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชา “ยาทั้งสองนี้ไร้กลิ่น! แต่หม่อมฉันกลับได้กลิ่นหอม!”“อีกทั้งหม่อมฉันยังพบดอกคำฝอยอยู่ในอาเจียนของจูหลานด้วย ยานี้ยังเป็นยาช่วยการขับเลือด!”“ยาชนิดนี้สามารถใช้ขับเลือดในสตรีได้ แต่หากใช้กับสตรีมีครรภ์จะทำให้เลือดไหลไม่หยุด!”“แม่นางซือเพิ่งมาถึงไม่นาน แต่ตอนที่จูหลานมาก็มีเลือดออกมากแล้ว ดังนั้นแม่นางซือมิน่าใช่คนที่ให้จูหลานกินดอกคำฝอย!”องค์ชายเย่ยิ่งฟังก็ยิ่งหวาดกลัว เขาไม่คาดคิดเลยว่าแค่พร
สายตาของเซียวหลินเทียนมองไปที่องค์ชายเย่อย่างเคร่งขรึม แม้ว่าเขาจะเชื่อในทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋ แต่นี่ก็เป็นเรื่องการทำคลอด และก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ไม่มีประสบการณ์ในการทำคลอดมาก่อนเลยนางช่วยพระชายาเย่ไม่ได้จริง ๆ หรือ?แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาสาบานว่าจะไม่มีทางปล่อยให้องค์ชายเย่ทำให้หลิงอวี๋ต้องลำบากใจเด็ดขาด!“หลานเอ๋อร์ของข้า… หลิงอวี๋ ท่านคืนชีวิตของหลานหลานให้ข้าเถิด!”ฮูหยินจูสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็สะบัดมือของจูเฮ่าแล้วเดินโซเซเข้าไป“ผู้ใดบอกว่าพระชายาเย่ตายแล้วเล่า?”หลิงอวี๋กลัวว่าฮูหยินจูจะล้ม จึงรีบก้าวไปพยุงนาง พลางเอ่ยเสียงอ่อนโยน“ฮูหยินจูมาดูนี่สิ นางแค่หมดเรี่ยวแรงหลังคลอดเลยสลบไปเท่านั้น ประเดี๋ยวพอให้เลือดเสร็จ นางก็จะฟื้นขึ้นมาแล้ว!”ความหวังริบหรี่เกิดขึ้นในใจของฮูหยินจู แล้วหลิงอวี๋ก็พยุงนางเข้าไปนางยื่นมือไปสัมผัสลมหายใจของจูหลาน และรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของจูหลานที่พ่นใส่มือของตนหัวใจของนางจึงมีชีวิตชีวาขึ้นมา“พระชายาอ๋องอี้ เช่นนั้นนางยังสามารถให้กำเนิดลูกอีกได้หรือไม่?”ฮูหยินจูจับมือหลิงอวี๋พลางเอ่ยถามอย่างมีความหวัง“ได้แน่นอนสิ เมื่อคร
“เช่นนั้นรึ?”ทันใดนั้นหลิงอวี๋ก็เอ่ยอย่างเฉียบขาด “เช่นนั้นก็หยิบยาของเจ้าออกมาเทียบดูว่าข้ากล่าวหาเจ้าหรือไม่!”เมื่อเห็นยาเม็ดนั้นสีหน้าของพระชายาเว่ยก็เปลี่ยนไปทันที พลางจ้องแม่นางซืออย่างไม่พอใจแม่นางซือเอ่ยโต้แย้งขึ้นมา “หรือว่าพระชายาอ๋องอี้อยากจะขโมยยาสูตรลับของข้า? ข้าบอกไปแล้วว่ายาเม็ดนี้มิใช่ของข้า เหตุใดท่านต้องบอกว่ามันเป็นของข้าด้วยเล่า!”“หรือว่าเพราะสถานะของท่านสูงส่งกว่าข้า จึงใช้อำนาจบังคับผู้อื่นเช่นนี้ได้กระนั้นรึ?”“ข้าหรือจะชอบยาสูตรลับที่ทำร้ายคนของเจ้า? ช่างตลกยิ่งนัก!”หลิงอวี๋เอ่ยเสียงขรึม “การวางยาพิษทายาทของราชวงศ์จะต้องถูกตัดหัว! เจ้ากล้าให้ค้นตัวหรือไม่เล่า?!”พระชายาเว่ยสงบลงครู่หนึ่งแล้วขมวดคิ้วพลางเอ่ย “น้องสะใภ้สี่ เหตุใดเจ้าจึงบอกว่าแม่นางซือคิดจะวางยาพิษท่านชายน้อย? ยาเม็ดนี้มีสิ่งใดผิดปกติหรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชา “มีบางอย่างผิดปกติกับยาเม็ดนี้เป็นแน่แล้ว ในยานี้มีใบยี่โถกับเซิงหมาดำ ยาทั้งสองรวมกันจะทำให้พระชายาเย่เป็นหมันในภายภาคหน้า!”“ว่ากระไรนะ?!”ฮูหยินจูยืนอยู่ตรงประตู พอได้ยินคำกล่าวของหลิงอวี๋ก็กรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ“แม
แม่นมของแม่นางซือกรีดร้องขึ้นมาด้วยความโกรธ “นี่ยังมีกฎเกณฑ์อยู่หรือไม่? แม่นางของข้าใจดีมาทำคลอดให้พวกท่าน แต่พวกท่านกลับปฏิบัติต่อนางเยี่ยงนี้หรือ!”“หุบปาก ที่นี่ใช่ที่ที่เจ้าจะพูดจาเช่นนี้รึ? หากกล้าพูดขึ้นมาอีก ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตายโทษฐานช่วยคนชั่วกระทำความผิด!”องค์ชายเย่ตะคอกอย่างเด็ดขาดสีหน้าของพระชายาเว่ยก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เมื่อเห็นว่าองค์ชายเย่โกรธมากถึงเพียงนี้ ก็มิกล้าเกลี้ยกล่อมอีกต่อไป กลัวว่าองค์ชายเย่จะเอาความโกรธมาลงกับตน!หลังจากนั้นไม่นาน นางรับใช้ก็พบยาสองสามเม็ดจากกระเป๋าปักของแม่นางซือ จึงนำไปมอบให้องค์ชายเย่องค์ชายเย่มอบมันให้หลิงอวี๋ หลิงอวี๋ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วเลือกออกมาสองเม็ด จากนั้นก็ยิ้มเยาะให้แม่นางซือพลางเอ่ย“ยังจะบอกว่ายามิใช่ของเจ้าอีกรึ! ส่วนผสมของยาสองเม็ดนี้เหมือนกับยาเม็ดที่จูหลานอาเจียนออกมา ในนี้มีส่วมผสมของใบยี่โถกับเซิงหมาดำ! เจ้ายังจะเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีกหรือไม่?”สีหน้าของแม่นางซือดูมืดมนไปทันที แต่นางก็ยังฝืนเอ่ย“พระชายาอ๋องอี้ ในเมื่อท่านมีความเชี่ยวชาญในด้านวิชาแพทย์มากถึงเพียงนี้! เหตุใดท่านมิตรวจดูยาเม็ดอื่นด้วยเล่า? ยาเหล่าน
“องค์ชายเย่โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย! ไม่มีใครสั่งหม่อมฉันจริง ๆ เพคะ นางรับใช้ให้ยาผิดเพคะ!”แม่นางซือตกใจจนหน้าซีด เหลือบมองพระชายาเว่ยอย่างเงียบ ๆ หวังว่าพระชายาเว่ยจะเอ่ยอะไรเพื่อช่วยตนบ้างพระชายาเว่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “องค์ชายห้า บางทีนางรับใช้อาจจะให้ยาผิดจริง ๆ ก็ได้ มียามากจนนางแยกมิออกก็เป็นไปได้!”องค์ชายเย่เกลียดพระชายาเว่ยจนเข้ากระดูกมานานแล้ว!ทีแรกนางก็ขวางหลิงอวี๋มิให้เข้าไปช่วยจูหลานกับลูก พูดก็ขัดแย้งกันอีกตอนนี้ยังจะพูดช่วยคนที่ทำร้ายจูหลานอีกด้วย ช่างน่ารังเกียจเสียจริงองค์ชายเย่อดมิได้ที่จะตะคอกด้วยโทสะ“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเป็นคนเชิญแม่นางซือมา ท่านพูดช่วยนางเช่นนี้ หรือว่าท่านคือคนที่สั่งการให้นางวางยาพิษจูหลานเล่า?”“ก่อนหน้านี้รถม้าของท่านก็ชนรถม้าตำหนักข้าจนทำให้หลานหลานต้องคลอดก่อนกำหนด!”“ยามนี้นางผดุงครรภ์ที่ท่านเชิญมาก็ให้ยาเช่นนี้กับหลานหลาน! แล้วท่านยังจะช่วยพูดให้นางผดุงครรภ์ที่ชั่วร้ายเช่นนี้อีก! ท่านอยากให้หลานหลานของข้าตายไปทั้งแม่ทั้งลูกจริง ๆ ใช่หรือไม่?”พระชายาเว่ยสีหน้าเปลี่ยนไปทันที พลางตะคอกเสียงแข็ง“องค์ชายห้า นี่ท่านตรัสเรื
พระชายาเว่ยเห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นตระหนก มีแวบหนึ่งที่นางกังวลว่าแม่นางซือจะทนไม่ไหวแล้วเปิดโปงตน!แต่เมื่อเห็นว่าแม่นางซือถูกทุบตีอย่างหนักถึงเพียงนี้ก็ยังมิเปิดโปงตน นางก็โล่งใจหลิงอวี๋แอบนับถือคำพูดของพระชายาเว่ย ความเด็ดขาดและไหวพริบนี่ช่างเหนือชั้นจริง ๆ!เซียวหลินเทียนมองอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาเย็นชา เมื่อครู่เขาเห็นภาพที่แม่นางซือแอบเหลือบมองพระชายาเว่ยอยู่เขารู้ดีว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับพระชายาเว่ยเป็นแน่ ทว่าหากมิสามารถง้างปากของแม่นางซือได้ พวกเขาก็จะไม่มีหลักฐานที่จะกล่าวหาพระชายาเว่ยเซียวหลินเทียนไม่มีความรู้สึกดีกับนางผดุงครรภ์ที่ฆ่าคนได้ การทุบตีคนเลวทรามเช่นนี้จนตายเป็นเพียงการกำจัดอันตรายจากผู้คนเท่านั้นเอง!กระทั่งเห็นแม่นางซือถูกทุบตีปางตาย จนลมหายใจรวยรินแล้วพระชายาเว่ยก็แสร้งทำเป็นถอนหายใจ พลางเอ่ยกับองค์ชายเย่“องค์ชายห้า นี่เป็นความผิดของหม่อมฉันเอง! หม่อมฉันมิรู้จักนางดีแล้วเกือบทำร้ายน้องสะใภ้ห้าแล้ว!”“แต่หม่อมฉันคาดมิถึงเลยจริง ๆ ว่า แม่นางซือจะเป็นคนเช่นนี้! กล้าดีอย่างไรมาหยามพวกเราเช่นนี้!”“โชคดีที่วันนี้น้องสะใภ้สี่อยู่ที่นี่ มิเ
แม้ว่าพระชายาเว่ยจะเข้าใจแล้ว แต่ก็กังวลว่าหลิงอวี๋กำลังสร้างความขัดแย้งระหว่างตนเองกับจ้าวเจินเจินอยู่ เพราะอยากให้องค์ชายเว่ยขัดแย้งกับองค์ชายคัง แล้วท่านอ๋องอี้ก็จะช่วงชิงผลประโยชน์ไปในที่สุด!นางจึงแสร้งทำเป็นเข้าใจพลางเอ่ยถามอย่างมึนงง “น้องสะใภ้สี่ เจ้าหมายความเช่นไร?”“พี่สะใภ้ใหญ่อยู่ฟังต่อสิแล้วจะรู้เอง!”หลิงอวี๋หันไปหานางผดุงครรภ์ทั้งสองด้วยรอยยิ้มมิคล้ายยิ้ม แล้วมองพวกนางอยู่เช่นนั้นโดยมิเอ่ยวาจานางผดุงครรภ์ทั้งสองตกใจกับท่าทีของหลิงอวี๋ แต่ก็อดกลั้นมิพูดอะไรออกไปเซียวหลินเทียนใจเต้น หลิงอวี๋พบอะไรอีกแล้วหรือ?เขามองไปทางนางผดุงครรภ์ทั้งสองด้วยสายตาเฉียบคม กลิ่นอายเย็นชาของเขาแข็งแกร่งกว่าของหลิงอวี๋มาก ทำให้นางผดุงครรภ์ทั้งสองรู้สึกว่าอากาศรอบตัวพวกนางเย็นยะเยือกขึ้นมาฉับพลันขนลุกซู่ทั่วทั้งร่างกายทันที!พระชายาเว่ยเป็นคนฉลาด เมื่อนึกถึงเหตุและผลที่ตามมา ก็คิดขึ้นได้ว่าหลิงอวี๋อาจพบอะไรบางอย่าง นางจึงจ้องมองนางผดุงครรภ์ทั้งสองอย่างไม่สบอารมณ์...องค์ชายเย่รู้สึกว่าบรรยากาศผิดปกติ จึงมองไปทางนางผดุงครรภ์ทั้งสองเช่นกัน หรือว่าพิษในตัวบุตรชายของตนเกิดจากนางผดุงครร
หลังจากนั้นไม่นาน นิ้วของนางผดุงครรภ์อ้วนก็เปลี่ยนเป็นสีแดง นางตกใจจนหน้าซีด พลางตะโกนลั่น“พระชายาอ๋องอี้ นี่เป็นการกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรมเลย บ่าวมิเคยแตะต้องดอกคำฝอยด้วยซ้ำ…”ยังมิทันที่นางผดุงครรภ์อ้วนจะพูดจบ หลิงซวนก็ตบหน้าอ้วน ๆ ของนางอย่างแรง พลางตะคอกด้วยความโกรธ“เจ้ามิเคยแตะต้องเลยหรือ? เช่นนั้นเหตุใดมือเจ้าถึงเปลี่ยนเป็นสีแดง? แล้วไฉนมือของนางถึงมิเปลี่ยนเล่า?”“ที่แท้คนที่คิดจะวางยาพิษท่านชายน้อยก็คือทาสชั่วเช่นเจ้า!”องค์ชายเย่ควบคุมตัวเองมิได้อีกต่อไป เขาชักดาบขององครักษ์ออกมาแล้วเดินเข้าไปอย่างดุร้าย “วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้า ทาสชั่ว!”นางผดุงครรภ์อ้วนตกใจจนปัสสาวะแทบรั่ว พลางร้องออกมาเสียงสั่น “องค์ชายเย่ บ่าวถูกใส่ร้ายเพคะ แม้ว่าบ่าวจะเผลอใส่ดอกคำฝอยลงในน้ำแกงกระตุ้นการคลอด แต่ดอกคำฝอยนั้นหาได้เป็นพิษไม่เพคะ!”“พระชายาอ๋องอี้ ในเมื่อท่านเป็นแพทย์ชั้นเซียน ท่านก็ควรรู้ว่าดอกคำฝอยสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและขจัดภาวะเลือดคั่งเท่านั้น มิได้เป็นพิษจริง ๆ!”แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับพระชายาเว่ย แต่เมื่อได้ยินสิ่งนี้ก็อดมิได้ที่จะเอ่ยแทรก “น้องสะใภ้สี่ เจ้าดูผิดไปหรือ
หลิงอวี๋อยู่ด้านหลังได้ยินคำพูดนี้ ใจก็กระตุกไปเล็กน้อย จากนั้นยื่นมือไปลูบหน้าของตนโดยมิรู้ตัวคนที่ป้าวเฉิงช่วยตระกูลหวงฝู่ตามหาก็คือตน!แล้วคนที่เขาบอกว่าถูกสังหารไปแล้วนั่นคือใครกัน?หรือว่าจะเป็นหัวหน้าเสิ่นกับเสี่ยวเจียง?หลิงอวี๋เหงื่อตก หากเป็นพวกเขาสองคนที่ถูกสังหารไปจริง ๆ แล้วคนที่สังหารพวกเขาคือใคร?หากมือสังหารพบว่าหัวหน้าเสิ่นมิได้สังหารตน จะกำลังตามหาตนอยู่หรือไม่?เถ้าแก่เจียงที่อยู่ด้านหน้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของป้าวเฉิงกับตระกูลหวงฝู่ดี เมื่อได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยออกไป “คนตายไปแล้วก็ส่งศพไปให้เจ้าวังก็จบแล้ว เหตุใดพี่ใหญ่ป้าวต้องไปตรวจสอบด้วยตนเองเล่า!”“เจ้ามิเข้าใจ คนที่เจ้าวังต้องการคือสตรีผู้หนึ่ง สตรีผู้นั้นมีความสำคัญต่อเจ้าวังมาก เจ้าวังบอกมาว่าขอเพียงข้าตามหานางพบและยังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะให้สมบัติก้อนโตกับข้า!”ป้าวเฉิงเอ่ยอย่างเป็นทุกข์ “สิ่งที่ข้ากังวลในตอนนี้ก็คือ คนที่ถูกสังหารจะเป็นสตรีผู้นั้น เช่นนั้นก็มิสามารถไปอธิบายกับเจ้าวังได้แล้ว!”“จริงสิ บอกเรื่องของเจ้ามาก่อนเถิด เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?”เถ้าแก่เจียงจึงหันไปเรียก “น้องหญิง มานี่!”
มิต้องให้เสี่ยวซานเอ๋อร์ออกไปซื้อพวกของใช้ประจำวัน เพราะเมื่อฮูหยินเจียงรู้ว่าเถ้าแก่เจียงให้ผู้มีพระคุณมาอาศัยอยู่ที่เรือนเล็กที่ว่างอยู่ของตระกูล นางก็รีบให้แม่นมข้างกายเอาผ้าห่มและเหล่าของใช้ประจำวันบางส่วนไปให้ด้วยตนเอง หลิงอวี๋เลือกให้ห้องทางทิศตะวันออกเป็นห้องนอน หลิงซินเองก็มีห้องนอนของตนเช่นกันหลิงอวี๋อยู่คนเดียว หลิงซินแค่ต้องรับใช้งานก็พอแล้วหลิงซินรู้สึกขอบคุณหลิงอวี๋ จึงเช็ดหน้าต่างห้องนอนทั้งสองห้องอย่างขยันขันแข็งจนสะอาดดึกมากแล้วนางก็ยังคงทำงานยุ่งอยู่“หลิงซิน ไปพักผ่อนเถิด แล้วก็นำยาไปทาหน้าเจ้าเสีย!”หลิงอวี๋นำยาทาบาดแผลที่เสี่ยวซานเอ๋อร์ออกไปซื้อมาส่งให้หลิงซินพลางเอ่ย “เจ้าทาหน้าแล้วพักผ่อน วันพรุ่งยังต้องไปพบนายใหญ่ป้าวกับข้าอีก!”“หลิงซิน ข้าเพิ่งมาที่นี่ มิได้เข้าใจและคุ้นเคยกับคนที่นี่นัก หากมีอะไรที่ข้าทำมิถูกต้องเจ้าก็อย่าลืมเตือนข้าด้วย!”“เจ้าค่ะคุณหนู!”หลิงซินรับยาทาบาดแผลมาอย่างขอบคุณ เดิมทีอยากจะรับใช้จนหลิงอวี๋หลับก่อนค่อยไป แต่ก็ถูกหลิงอวี๋ไล่ออกมาเสียก่อน“ข้ามิได้อ่อนแอบอบบางถึงเพียงนั้น เจ้ามิต้องมารับใช้ข้า ประเดี๋ยวเจ้าค่อย ๆ คุ้นเคย
ทันทีที่เถ้าแก่เจียงได้ยินก็มิสนใจแล้วเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “คุณหนูเจียงคงจะมากับครอบครัวใช่หรือไม่? แล้ววางแผนว่าจะอยู่ที่นี่กี่วันหรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นแล้วเอ่ย “ข้ามากับน้องสาวข้า แต่ผลก็คือแยกจากกันไปแล้ว! ข้าต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะตามหาน้องสาวข้าเจอ!”วันนี้เสี่ยวซานเอ๋อร์พบกับหลิงอวี๋ได้เงินมาหลายสิบตำลึง หากทำงานต่อไปก็จะมีตำแหน่งแล้ว เขาจึงรีบช่วย“พี่ใหญ่เจียง เดิมทีคุณหนูเจียงคิดว่าจะขายกำไลหยกแล้วไปหานายใหญ่ป้าวให้ช่วยตามหาน้องสาว ท่านกับนายใหญ่ป้าวมีมิตรไมตรีต่อกัน ท่านช่วยคุณหนูเจียงพูดหน่อยเถิด!”“เรื่องนี้จะไปยากอะไร วันพรุ่งข้าจะพาเจ้าไปพบกับพี่ใหญ่ป้าว!”เถ้าแก่เจียงเอ่ยขึ้นมาอีก “ข้ายังมีเรือนว่างอยู่ หากคุณหนูมิรังเกียจก็อย่าไปพักที่โรงเตี๊ยมเลย ย้ายมาอยู่ในเรือนข้าเถิด!”เดิมทีหลิงอวี๋คิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อคิดว่ามิรู้ว่าเมื่อใดจึงจะหาเสี่ยวอวี้พบ ตนก็มีเงินอยู่มิมาก จะให้พักโรงเตี๊ยมตลอดก็คงมิใช่เรื่องนางจึงเอ่ย “เรือนนั้นของเถ้าแก่เจียงให้ข้าเช่าอยู่ชั่วคราวเถิด ข้าจะจ่ายค่าเช่า!”เถ้าแก่เจียงหน้านิ่งไป แล้วเอ่ยอย่างมิพอใจ “คุณหนูเจียงพูดอะไรกัน เจ้าช่วยลู
ทั้งสามคนเข้าไปนั่ง จากนั้นเถ้าแก่เจียงก็พูดออกมาตามตรง “มิทราบว่าผู้มีพระคุณมาหาเจียงโหม่วด้วยเรื่องใดหรือ? ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตหย่งเอ๋อร์ไว้ มิว่าจะเป็นเรื่องอะไรเจียงโหม่วก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่!”หลิงอวี๋นำกำไลหยกออกมา แล้วยิ้มจาง ๆ “ข้าขาดเงินค่าเดินทาง จึงมาขายเครื่องประดับ เถ้าแก่เจียงลองดูว่าจะได้เงินสักเท่าไร หากเหมาะสมข้าก็จะขายให้เถ้าแก่เจียง!”เถ้าแก่เจียงรับกำไลหยกมาดู กำไลหยกนี้คุณภาพพอได้ ตามปกติแล้วเขาให้ราคาหนึ่งพันตำลึงก็ถือว่าสูงมากแล้ว!แต่นี่เป็นกำไลหยกของผู้มีพระคุณ เถ้าแก่เจียงหรือจะกล้ากดราคา“สามพันตำลึง!”เถ้าแก่เจียงตอบออกไปหลิงอวี๋ตะลึง หัวหน้าเสิ่นบอกว่ากำไลหยกนี้ได้ราคาเพียงสองพันตำลึงเถ้าแก่เจียงให้ตนสามพัน เห็นได้ชัดว่าเป็นความเห็นอกเห็นใจหลิงอวี๋หรือจะเอาเปรียบเล็ก ๆ เช่นนี้ เมื่อครู่ที่ช่วยเหลือเจียงหย่งก็มิได้ใช้เครื่องยาสมุนไพรใด ๆ เป็นการช่วยเหลือง่าย ๆ เท่านั้น“สองพัน เถ้าแก่เจียงเอาเงินมาเถิด! กำไลหยกนี้เป็นของท่านแล้ว!”เสี่ยวซานเอ๋อร์อยู่ด้านข้างก็ขยิบตาให้หลิงอวี๋มิหยุด คุณหนูใหญ่ผู้นี้โง่หรือไม่ มีแต่คนต่อรองราคาให้มากขึ้น มีที
เถ้าแก่เจียงเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้นก็กำลังคิดจะด่า หลิงอวี๋ก็อุ้มเจียงหย่งมาและหันหลังให้ตนแล้วสองมือของนางกอดรัดอยู่ตรงช่วงท้องของเจียงหย่ง มือหนึ่งกำหมัดแล้ววางด้านหัวแม่มือของกำปั้นนั้นอยู่ที่ตรงอกและตรงท้องของเจียงหย่งส่วนมืออีกข้างของหลิงอวี๋ก็จับมือที่กำหมัดไว้แล้วรีบกระทุ้งที่ช่วงท้องของเจียงหย่งอย่างแรงการกระทำนี้ทำเอาเถ้าแก่เจียงโกรธจนกำหมัดไปทุบที่หัวของหลิงอวี๋“ให้ตายสิ นี่เป็นการช่วยเหลือหรือทำร้ายกันแน่ วางลูกชายข้าลงเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า”หลิงอวี๋อุ้มเจียงหย่งหลบมา พลางตะคอกใส่เถ้าแก่เจียง “ข้ากำลังช่วยลูกท่านอยู่ ท่านมิเห็นหรือว่าเขากำลังจะตายแล้ว?”“ท่านอย่ามารบกวนข้า หากข้ารักษาเขาตาย ข้าจะชดใช้เขาด้วยชีวิต!”แม้ว่าฮูหยินเจียงจะดูมิเข้าใจวิธีการช่วยเหลือของหลิงอวี๋ แต่ลูกชายใกล้จะตายแล้วจริง ๆ ขอเพียงมีความหวังเพียงเล็กน้อยนางก็จะไม่มีทางยอมแพ้นางดึงเถ้าแก่เจียงไว้หลิงอวี๋ก็ใช้วิธีเดิมกระทุ้งเข้าที่ช่วงท้องของเจียงหย่งต่อไปหลังจากทำเช่นนี้ไปสามครั้ง เจียงหย่งก็ไอแค่ก ๆ แล้วถั่วลิสงเม็ดหนึ่งที่มีเลือดติดอยู่ก็หลุดออกมาจากปากเขาและกระเด็นลงส
เสี่ยวซานเอ๋อร์จึงพาหลิงอวี๋ไปขายกำไลหยก ระหว่างทางเสี่ยวซานเอ๋อร์ก็ยังเล่าเรื่องอื่น ๆ ในเมื่อนี้ให้หลิงอวี๋ฟังอีกหลิงอวี๋เอ่ยถามไปอย่างอ้อม ๆ “เสี่ยวซานเอ๋อร์ ข้ามากับน้องสาว แต่น้องสาวข้าหายตัวไปแล้ว ได้ยินว่าป้าวเฉิงเจ้าถิ่นที่นี่เก่งเรื่องตามหาคน หากข้าไปขอให้เขาช่วย จะต้องใช้เงินเท่าใดหรือ?”เสี่ยวซานเอ๋อร์ขมวดคิ้ว “คุณหนูใหญ่ แม้ว่านายใหญ่ป้าวจะเก่งเรื่องตามหาคน แต่ก็มิใช่ว่าจะช่วยใครง่าย ๆ! หากจะไปขอร้องเขาแล้วมีเงินมิถึงหลักพันเขาก็มิสนใจหรอก!”“สองพันพอหรือไม่?”หลิงอวี๋นึกถึงที่หัวหน้าเสิ่นบอกว่ากำไลหยกนี้สามารถขายได้สองพันตำลึงจึงเอ่ยถาม“แล้วแต่คน!”เสี่ยวซานเอ๋อร์คิดว่าหลิงอวี๋ใจกว้างกับตนมากจึงเอ่ยขึ้นมา “ข้ารู้จักกับผู้ดูแลหมู่บ้านตระกูลป้าว ข้าจะไปคุยกับเขาดู เขาน่าจะช่วยได้!”“เช่นนั้นขอร้องเจ้าด้วย! รอให้ขายกำไลหยก จากนั้นเจ้าก็ค่อยพาข้าไปหาเขา ข้าจะมิให้เจ้าขาดทุนอย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋ใจชื้นขึ้นมา เงินทองเป็นของนอกกาย ขอเพียงตามหาเสี่ยวอวี้เจอ และพวกนางได้ใช้ชีวิตด้วยกัน เรื่องความจนก็มิกลัวหรอกกระทั่งมาถึงที่บ้านเถ้าแก่เจียงที่รับซื้อกำไลหยก ทั้งสองยังม
“ไปหาสมบัติที่ภูเขาหิมะหรือ? อยากตายนักหรือไรกัน! ภูเขาหิมะนั่นกินคนมิเหลือแม้กระดูก!”แขกคนหนึ่งส่ายหน้าแล้วเอ่ย“คนเหล่านี้แตกต่างไป พวกเขาแต่ละคนมีวรยุทธ์แก่กล้า อีกทั้งยังพาคนเข้าไปตั้งมากมาย มิน่าจะเป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้วกระมัง!”“พวกเราเองก็ตามไปหากำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างดีหรือไม่!”แขกอีกคนหนึ่งยิ้มออกมาแล้วเอ่ย “เจ้าน่ะหรือ อย่าไปเลย ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่กำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย จะกลับกลายเป็นว่าเอาชีวิตไปทิ้งอยู่ข้างในนั้นน่ะสิ!”“เสี่ยวซานเอ๋อร์ หากเจ้าอยากจะร่ำรวยจริง ๆ พี่ชี้ช่องทางให้ดีหรือไม่?”หลิงอวี๋เหลือบมองเสี่ยวซานเอ๋อร์ผู้นั้น เขาเป็นวัยรุ่นอายุประมาณยี่สิบ ดูผอมและอ่อนแอมาก การแต่งกายก็ดูเรียบง่ายธรรมดาเครื่องหน้างดงาม ทว่าดวงตาค่อนข้างแปลก ดูเหมือนมองคนแล้วมิสามารถมองให้ชัดเจนได้สงสัยจะตาเหล่กระมัง!เสี่ยวซานเอ๋อร์ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “พี่หาน ช่องทางอะไรหรือ? รีบบอกมาเร็วเข้า หากข้าร่ำรวยแล้วจะไม่มีทางลืมเจ้าแน่นอน!”“ไปเป็นผู้ค้ามนุษย์อย่างหม่าเฉียงอย่างไรเล่า! เจ้ามิเห็นหรือว่าทาสหญิงหนึ่งเกวียนของเขาขายไปได้สี่แสนหกหมื่น? การค้าขายนี้ง่ายดายกว่าที่เจ
หัวหน้าเสิ่นถูกปู้ติงจ้องมองอยู่ด้วยสายตาดุร้ายก็ไม่มีทางเลือก จึงต้องเขียนหนังสือยอมรับผิด เขาขอแค่เพียงหลบหนีไปได้ อย่างก็อื่นค่อยว่ากันทีหลัง“หัวหน้าเสิ่น หากจะตามหาคนคนหนึ่งควรเริ่มจากที่ใด?”สุดท้ายหลิงอวี๋ก็ถามหัวหน้าเสิ่นไปหนึ่งคำถามหัวหน้าเสิ่นยิ้มขมขื่น “หากแม่นางจะตามหาคน ป้าวเฉิงคนที่ข้าพูดถึงเมื่อครู่คือคนที่มีความสามารถเก่งกาจยิ่งนัก เขามีลูกน้องมากมาย อีกทั้งคนในหมู่บ้านที่อยู่รอบ ๆ นี้ก็เชื่อฟังเขาด้วย”“หากเจ้าจะตามหาคน ขอเพียงมีเงินมากพอ เขาก็จะช่วยตามหาคนให้ได้เร็วที่สุด!”หลิงอวี๋อยากจะตามหาเสี่ยวอวี้น้องสาวของตน เมื่อได้ยินดังนั้นก็สนใจขึ้นมาแต่ตนไม่มีเงินติดตัวสักแดง จะไปพูดให้ป้าวเฉิงตามหาคนให้ตนได้อย่างไรกัน!“หัวหน้าเสิ่น เอาของมีค่าที่ท่านน้าหลินให้มาให้ข้าสักชิ้นเถิด!”หลิงอวี๋เอ่ยออกไปตามตรง “ข้าไม่มีเงินติดตัวสักแดง เจ้าก็ถือว่าทำบุญแล้วกัน!”ต่อให้หลิงอวี๋จะต้องการของมีค่าทั้งหมดของหัวหน้าเสิ่น หัวหน้าเสิ่นก็มิกล้าบอกว่าไม่ นับประสาอะไรกับหนึ่งชิ้นเล่า!หัวหน้าเสิ่นรีบเปิดห่อของตนแล้วหันหลังให้หลิงอวี๋หยิบกำไลหยกออกมาหนึ่งชิ้น!“แม่นาง กำไลหยก
“อย่า… อย่าฆ่าข้า!”หัวหน้าเสิ่นกลัวจนร้องออกมาเสียงสั่นเขาเชื่อมั่นในวรยุทธ์ของตนว่าจะสามารถหนีไปได้อย่างราบรื่น ไหนเลยจะคิดว่าจะหนีมิพ้นหมาป่าตัวนี้!“หึ! ข้าบอกไปแล้วว่า นอกเสียจากเจ้าจะเร็วกว่าปู้ติง มิเช่นนั้นก็ให้เชื่อฟังคำของข้า! เจ้าอยากจะทนทุกข์ก่อนจึงจะยอมฟังหรือไร?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะพลางเดินเข้าไป เรี่ยวแรงที่ตัวนางกลับคืนมาแล้วลูกปัดสีเขียวนี้มหัศจรรย์จริง ๆ!แต่หลิงอวี๋มิได้มีความคิดที่จะครอบครองเป็นของตน นี่คือของของแม่หมาป่า ในเมื่อให้ปู้ติงไปแล้วเช่นนั้นก็เป็นของปู้ติง“ปู้ติง! ปล่อยเขาเถิด!”ปู้ติงจึงปล่อยหัวหน้าเสิ่นอย่างเชื่อฟัง หลิงอวี๋ก็ลูบหัวมันอย่างเอ็นดู จากนั้นก็เอาลูกปัดสีเขียวยัดเข้าปากมันไป“เสี่ยวเจียง ปิดประตู!”หลิงอวี๋เอ่ยกับเสี่ยวเจียงที่กลัวจนสั่นมิหยุดเสี่ยวเจียงมองขาที่เลือดไหลของหัวหน้าเสิ่น เมื่อครู่หมาป่าตัวนั้นรวดเร็วมาก เขาหนีมิได้เลยมีหรือเสี่ยวเจียงจะกล้ามิฟังคำพูดของหลิงอวี๋ เขาจึงเดินไปปิดประตูด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น“ข้าถามอะไรเจ้าก็ตอบสิ่งนั้น มิเช่นนั้นครั้งต่อไปที่ปู้ติงกัดจะมิใช่ขาของเจ้า แต่เป็นคอ เข้าใจหรือไม่?”หลิ