“อิ่งเอ๋อร์ ข้าจักมิสนใจเจ้าได้เยี่ยงไรเล่า!”องค์ชายคังกอดกวนอิ่งอย่างอ่อนโยน พลางหันกลับมากับเอ่ยกับเส้าเจิ้งซาน“ท่านลุง ท่านพาพวกเขาไปที่ห้องส่วนตัวห้องอื่นก่อนเถิด! อีกประเดี๋ยวข้าจักตามไป!”“องค์ชาย… องค์ชาย...”กวนอิ่งทนไม่ไหวแล้ว ยังไม่ทันที่พวกเส้าเจิ้งซานจะออกไป นางก็ฉีกทึ้งอาภรณ์ขององค์ชายคังอย่างบ้าคลั่ง ปากก็ร้องครวญครางไปเรื่อยเปื่อยคนของราชการเห็นดังนั้นก็หน้าแดงเขินอายทันที ไม่รอให้เส้าเจิ้งซานเอ่ยเรียก พวกเขาก็วิ่งออกไปแล้ว“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ห้ามผู้ใดแพร่งพรายเด็ดขาด!”เส้าเจิ้งซานเดินตามออกมาแล้วปิดประตูพลางเอ่ยเตือนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างดุร้ายเขาเป็นลุงขององค์ชายคัง ไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่กระจายแล้วส่งผลกระทบต่อองค์ชายคัง!บริกรตกใจกลัวจนตัวสั่นไปหมด และพยักหน้าพวกคนของราชการยังคงต้องพึ่งพาองค์ชายคังอยู่พลันรีบพยักหน้ารับปากทันใดจ้าวเจินเจินเห็นภาพกวนอิ่งฉีกทึ้งอาภรณ์ขององค์ชายคังก็โกรธมากจนตัวสั่นนางสารเลวผู้นี้ ต่อหน้าทุกคนกลางวันแสก ๆ ยังกล้าเกาะแกะองค์ชายคังเช่นนี้ ช่างต่ำเสียจริง! ต่ำตมนัก!จ้าวเจินเจินลืมไปสนิทเลยว่านางเองต่างหากที่เป
กวนอิ่งซุกเข้าไปในอ้อมแขนขององค์ชายคังแสร้งเอ่ยอ่อนแอ“ในตำหนัก มีองค์ชายปกป้องหม่อมฉันอยู่ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายหม่อมฉัน!”“องค์ชายเพคะ เมื่อหม่อมฉันแต่งงานเข้าตำหนักองค์ชายคัง ก็จะต้องใช้ทรัพย์สินของตระกูลกวนมาสนับสนุนองค์ชายสุดกำลังแน่นอนเพคะ!”องค์ชายคังนึกถึงคำพูดของมารดา และเห็นว่ากวนอิ่งรีบร้อนจะเข้าตำหนักจึงเอ่ยเสียงนุ่มนวล“เช่นนั้นคืนนี้ก็ตามข้ากลับตำหนักเถอะ! ข้าทำผิดกับเจ้าไปแล้ว… ก่อนหน้านี้ข้าก็อยากแต่งเจ้าเข้าตำหนักอย่างมีพิธีรีตองอยู่แล้ว!”ทันทีที่กวนอิ่งเห็นว่าบรรลุเป้าหมายก็แนบกายเข้าไปพลางเอ่ย“อิ่งเอ๋อร์เข้าใจเจตนาขององค์ชายเพคะ… เรื่องพิธีการมิสำคัญ ขอเพียงได้อยู่กับองค์ชาย อิ่งเอ๋อร์ก็พอใจแล้วเพคะ!”กวนอิ่งก็อยากจะแต่งงานกับองค์ชายคังอย่างมีพิธีรีตองเช่นกัน แต่ตำแหน่งพระชายารองจะต้องมีพิธีรีตองเพียงใดกันเชียว!นางคิดอย่างร้ายกาจ รอให้นางเข้าตำหนักองค์ชายคังก่อน นางจะหาทางปลิดชีพจ้าวเจินเจิน จากนั้นจะให้กำเนิดบุตรชายให้องค์ชายคัง!ถึงเวลานั้น ตัวนางเองก็จะอาศัยความสำคัญของบุตร ขอให้องค์ชายคังจัดงานแต่งงานอีกครั้งจากนั้นจะมีพิธีแต่งงานเข้าตำหนักองค์ชายคัง
ลู่หนานพาเซียวหลินเทียนกลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้อย่างรีบร้อนเขาบังคับรถม้าตรงไปที่เรือนของเซียวหลินเทียน และรีบให้จูเผิงไปตามหาจ้าวซวนอย่างเร่งด่วนลู่หนานกับเฉาอี้เพิ่งจะพาเซียวหลินเทียนเข้ามาในห้องนอน จ้าวซวนก็กระหืดกระหอบเข้ามาลู่หนานเห็นเขาก็เอ่ยอย่างกังวลทันที“พี่จ้าว ท่านอ๋องกระอักเลือด!”“เจ้ารีบไปเชิญพระชายามาเร็วเข้า!”จ้าวซวนเห็นรอยเลือดขนาดใหญ่บนหน้าอกของเซียวหลินเทียน และใบหน้าแดงปานโลหิต จึงพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น!เขาโกรธมากจนอยากจะอัดลู่หนานให้เละสักที เรื่องที่เซียวหลินเทียนถูกลอบสังหารครั้งที่แล้วไม่เพียงพอให้ลู่หนานระวังตัวอีกหรือ?กล้าออกไปข้างนอกกับเซียวหลินเทียนเป็นการส่วนตัวโดยไม่รายงาน นี่ลู่หนานคิดจะปลิดชีพท่านอ๋องหรือไร?“ประเดี๋ยวข้าจักชำระความกับเจ้าทีหลัง!”จ้าวซวนทิ้งคำพูดดุร้ายนี้ไว้ แล้วรีบวิ่งไปหาหลิงอวี๋ครั้งที่แล้วหลิงอวี๋ช่วยหลู่ชิ่งไว้ ในช่วงสองวันมานี้ก็มาตรวจและเปลี่ยนยาให้หลู่ชิ่งทุกวัน แต่พวกทหารองครักษ์ใต้บังคับบัญชาของเขาล้วนไม่อยากพบหลิงอวี๋แม้ว่าพวกเขาจะมิกล้าพูดคำพูดแย่ ๆ ต่อหน้าหลิงอวี๋อีก แต่การแสดงออกทางสีหน้าว่าดูถูกนั
หลิงซวนเลิกคิ้ว อยากจะด่าลู่หนานลู่หนานกลัวว่าหลิงอวี๋จะโกรธ จึงรีบเอ่ย“พระชายา พระชายาเข้าไปดูก็จะรู้ หลิงซวนอย่าเข้าไปจะดีกว่า หากนางเห็นเข้าคงมิเป็นการดีขอรับ!”หลิงอวี๋เลิกคิ้ว มองลู่หนานอย่างประหลาดใจ ครั้งนี้นางไม่โกรธเพราะว่าหลิงอวี๋รู้จักลู่หนาน เขาถือว่าชีวิตของเซียวหลินเทียนล้ำค่ายิ่งกว่าชีวิตของเขาเอง!การที่เขาพูดเช่นนี้ มิใช่เป็นการห้ามหลิงซวนมิให้รักษา แต่...เซียวหลินเทียนที่อยู่ในห้องอาจจะมีบาดแผลที่ไม่สะดวกจะให้หลิงซวนเห็นจริง ๆ!“หลิงซวน เจ้ารออยู่ข้างนอก! ข้าเข้าไปดูเอง!”หลิงอวี๋หยิบล่วมยาจากมือของหลิงซวนแล้วเดินเข้าไปเมื่อเดินเข้าไปใกล้เตียง หลิงอวี๋ได้กลิ่นคาวแปลก ๆ แรกเริ่มนางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกระทั่งได้ยินเสียงโอดครวญของเซียวหลินเทียน และได้เห็นใบหน้าแดงก่ำของเซียวหลินเทียน นางก็เข้าใจได้ทันทีใบหน้าของหลิงอวี๋แดงขึ้นทันที บัดนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดลู่หนานถึงไม่ให้หลิงซวนเข้ามาหลิงซวนเป็นสตรี หากให้นางเห็นภาพนี้เข้า ไม่เพียงแต่เซียวหลินเทียนเท่านั้นที่จะกระอักกระอ่วน แต่หลิงซวนก็จะกระอักกระอ่วนไปด้วย!หลิงอวี๋รีบหยิบยาแก้พิษออกมาแล้วโน้มต
อาการบาดเจ็บภายในเช่นนี้ก็ดูไม่เหมือนถูกทุบตีเลย!หรือว่าจะทำร้ายตัวเอง? หรือมีอุบัติเหตุอื่น?หลิงอวี๋คิดไม่ออกว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นจึงลุกขึ้นยืนพวกเขาจะเป็นเช่นไรก็มิได้เกี่ยวอะไรกับนาง นางมารักษาเซียวหลินเทียนก็เพราะเห็นแก่จ้าวซวน!เซียวหลินเทียนพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุใดนางต้องกังวลแทนเขาด้วยว่าผู้ใดเป็นคนวางแผนจัดการเขา?หลิงอวี๋เบ้ปากอย่างยินดี หึ สมน้ำหน้า!เซียวหลินเทียนควรจะได้ดื่มด่ำรสชาติของการถูกคนที่ไว้ใจมากที่สุดวางแผนร้ายใส่เสียบ้าง!เพื่อเลี่ยงให้บุรุษผู้นี้คิดว่าใต้หล้านี้มีเพียงแค่จ้าวเจินเจินที่เป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด!ในใจเขา หลิงอวี๋เป็นสตรีเลวทรามตลอดไป!หลิงอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว จึงหยิบล่วมยาของตนขึ้นมาแล้วเดินออกไป“พระชายา… ท่านอ๋องเป็นเยี่ยงไรบ้างขอรับ?”จ้าวซวนก้าวไปหาอย่างร้อนใจยังไม่ทันที่หลิงอวี๋จะพูดอะไร ดวงตาที่เฉียบคมของหลิงซวนก็เห็นอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของหลิงอวี๋ จึงกรีดร้องด้วยความโกรธขึ้นมา“อาจารย์ อ๋องบัดซบนั่นตีท่านหรือ? บัดซบ… ท่านมาช่วยเขา เขาก็ยังกล้าตีท่านอีก! ข้าจะจัดการให้ท่านเอง…”หลิงซวนพุ่งเข้าไปข้า
“ท่านอ๋อง กระหม่อมตรวจสอบแล้ว กวนอิ่งอาศัยอยู่ในเรือนที่เป็นสินสอดของจ้าวเจินเจินพ่ะย่ะค่ะ นางยังมีความขัดแย้งกับจ้าวเจินเจิน และยังเฆี่ยนตีคนในเรือนกับนางรับใช้ของจ้าวเจินเจินด้วย!”จ้าวซวนเอ่ยอย่างใจเย็น “การต่อสู้ระหว่างสตรีนั้นมิเหมือนกับดาบจริงระหว่างบุรุษพ่ะย่ะค่ะ...”“บางที พระชายาคังอาจกังวลว่าหากกวนอิ่งแต่งงานเข้ามาในตำหนักองค์ชายคังแล้วจะแย่งความเป็นที่โปรดปรานกับตน กลัวว่าจักควบคุมนางมิได้จึงวางแผนใส่ร้ายกวนอิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”“เช่นนั้นเหตุใดจึงเป็นข้าเล่า? หากจ้าวเจินเจินอยากใส่ร้ายกวนอิ่งก็แค่หาบุรุษใดก็ได้ให้นางก็ได้นี่!”เซียวหลินเทียนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสตรีที่เขาเคยรักมากจะผลักเขาไปหาสตรีอื่น!จ้าวซวนมองเซียวหลินเทียน พลางเอ่ยเบา ๆ “ท่านอ๋อง ลู่หนานบอกเรื่องที่หอริมธาราวันนั้นกับผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว...”“กระหม่อมได้แต่เดาว่าพระชายาคังกลัวว่าท่านอ๋องกับพระชายาอ๋องอี้จักเปิดโปงในสิ่งที่นางทำ ดังนั้นจึงรีบร้อนตีตัวออกหากจากท่านอ๋อง!”“ท่านอ๋องปราดเปรื่องและเป็นเทพสงคราม แต่มิได้มีประสบการณ์ในเรื่องระหว่างบุรุษสตรีนัก ท่านอ๋องมิเข้าใจหัวใจของสตรีนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได
พอจ้าวซวนพูดมาเช่นนั้นสีหน้าของเซียวหลินเทียนก็มืดมนความอับอายที่หลิงอวี๋นำมาให้ตนจะทิ้งมันลงเช่นนี้ได้หรือ?แต่จ้าวซวนพูดถูก ไม่ว่าเมื่อก่อนหลิงอวี๋จะทำผิดต่อตนเช่นไร นางก็ช่วยตนไว้สองครั้ง เช่นนั้นความแค้นทั้งหมดควรลบมันไปได้แล้ว!“ท่านอ๋อง… ท่านอ๋องกังวลว่าหากทำดีกับพระชายาแล้วนางจักได้คืบเอาศอกใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”จ้าวซวนยิ้มขมขื่น “กระหม่อมรู้สึกว่า ท่านอ๋องมิจำเป็นต้องมีความกังวลเช่นนี้เลย!”เซียวหลินเทียนมองเขาอย่างสงสัยจ้าวซวนเอ่ยเสียงเบา “ท่านอ๋องโดนวางยาประเภทนั้น… เมื่อครู่ครั้นพระชายามา ท่านอ๋องก็กัดนางจนเจ็บตัว!”“หากพระชายายังมีความคิดเกินเลยกับท่านอ๋องอยู่ เช่นนั้นคงมิขัดขืนแล้วปล่อยเลยตามเลยไป… ก็จบแล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่พระชายามิได้ทำเยี่ยงนั้น! กลับให้ยาแก้พิษแก่ท่านอ๋องแทน!”เซียวหลินเทียนหน้าแดงทันทีเขา… เขากัดหลิงอวี๋หรือ?“ท่านอ๋องพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมไปจัดการเรื่องต่าง ๆ เอง!”จ้าวซวนกลัวว่าเซียวหลินเทียนจะอาย จึงถอยออกไปอย่างรู้งานเซียวหลินเทียนรู้สึกอายมากจริง ๆ ทั้งยังโกรธอยู่เล็ก ๆ ด้วยหลิงอวี๋เห็นด้านที่น่าเกลียดของเขาจริง
วันนี้หลิงอวี๋ไปเปลี่ยนยาให้หลู่ชิ่งอีกครั้งจ้าวซวนมองอยู่ด้านข้าง พอเห็นหลิงอวี๋ตรวจเสร็จ เขาก็เอ่ยถามก่อนดื่ม“พระชายา นี่ก็หลายวันแล้ว! เหตุใดหลู่ชิ่งยังพูดมิได้อีกขอรับ?”หลิงอวี๋ก็รู้สึกว่ามันแปลกเช่นกัน อาการบาดเจ็บของหลู่ชิ่งฟื้นตัวได้ดี ครั้นเมื่อตนตรวจเขาดวงตาของเขายังมองตามมือของตนได้นี่เป็นการพิสูจน์ว่าสติปัญญาของหลู่ชิ่งมิได้รับผลกระทบใด ๆนางกำลังจะพูด แต่สายตาเหลือบไปเห็นชิวเฮ่าเดินอยู่ข้างนอกหลิงอวี๋ใจเต้น ส่ายหัวพลางเอ่ย “ข้ามิพบปัญหาใด ๆ ! มิรู้ว่าสิ่งใดส่งผลกระทบต่อเขา!”จ้าวซวนมองหลู่ชิ่ง ถอนหายใจพลางเอ่ย “หากเขามิหายดี ข้าก็ทำได้เพียงให้คนไปส่งเขากลับบ้านเกิดเท่านั้น!”“เขายังเยาว์นัก ครั้นมาพึ่งพิงข้ายังมีสุขภาพแข็งแรง... บัดนี้กลายเป็นเช่นนี้... ข้าไม่มีหน้าไปพบพ่อแม่ของเขาแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มมิเอ่ยสิ่งใด พลางก้มหน้าเก็บล่วมยาทันใดนั้น นางก็เห็นหลู่ชิ่งกะพริบตาให้ตนอย่างสิ้นหวังหลิงอวี๋มองอีกครั้ง หลู่ชิ่งก็ดูท่าทางบื้อ ๆ ไปอีกครั้งหลิงอวี๋เงยหน้าขึ้น ก็เห็นชิวเฮ่าเดินเข้ามา“พระชายาอ๋องอี้ หลู่ชิ่งมิสามารถฟื้นตัวได้แล้วจริงหรือขอรับ?”ชิวเฮ่าเอ