แชร์

บทที่ 354

ผู้เขียน: กานเฟย
หลิงอวี๋กระซิบบอกแผนของตนให้แม่นมลี่ฟัง แม่นมลี่ฟังแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข

“ได้เจ้าค่ะ จักทำตามที่คุณหนูบอกเจ้าค่ะ!”

“เรื่องโง่เขลาเช่นนี้ คิดตบตาเรา เช่นนั้นเราจักตบหน้าให้ดู!”

แม่นมลี่ไปทำตามคำสั่งของหลิงอวี๋อย่างมีความสุข

หลิงซวนได้ยินเข้าก็อดหัวเราะไม่ได้พลางเอ่ย

“อาจารย์ ท่านหลักแหลมยิ่ง หากเป็นเช่นนี้เราจ่ายเงินเล็กน้อยก็สามารถยุแยงพวกเขาได้แล้ว!”

หลิงอวี๋ส่ายหัวพลางเอ่ย “แผนการนี้ทำได้แค่ทำให้พวกที่ไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเอง บางคนหันมาหาเราชั่วคราวเท่านั้น แต่พวกที่ภักดีต่อชิวเหวินซวง พวกเขาไม่มีทางโอนอ่อนให้ง่าย ๆ เช่นนั้นหรอก!”

“มิกลัวหรอกเจ้าค่ะ อาจารย์ของเราเก่งที่สุดอยู่แล้ว ต้องจัดการพวกเขาได้อย่างแน่นอน!”

หลิงซวนเคารพนับถือหลิงอวี๋อย่างมาก นางยกย่องหลิงอวี๋อย่างร่าเริง

หลิงอวี๋มิได้มองโลกในแง่ดีเหมือนนาง หากชิวเหวินซวงกล้ามอบสิทธิ์ดูแลตำหนักไว้ให้ชั่วคราวเช่นนี้ คงต้องวางกับดักไว้ให้ตนมิน้อยแน่!

นางต้องระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา!

นางมิกลัวปัญหา แต่นางเกลียดที่ต้องรับมือกับปัญหาเหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่า

เวลาของนางมีค่านัก นางมิอยากเสียเวลาไปกับคนเหล่านี้!

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
แสง แห่งศรัทธา
เขียนให้ออกจากตำหนักเสียที เก่งแล้วมาอยู่ทำไม
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 355

    แม่นมเกาให้แม่ครัวคนหนึ่งไปเอารายการอาหารมาให้หลิงอวี๋เปิดดู มาตรฐานอาหารของเซียวหลินเทียนคืออาหาร 5 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่าง มาตรฐานอาหารขององครักษ์คืออาหาร 3 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่าง ส่วนมาตรฐานอาหารของคนรับใช้ในตำหนักคืออาหาร 2 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่างมาตรฐานเช่นนี้สำหรับท่านอ๋องอย่างเซียวหลินเทียน ถือเป็นการจัดการที่ค่อนข้างดูปอน ๆ เกินไปแต่ถึงกระนั้น หลิงอวี๋ก็มิคิดว่าเซียวหลินเทียนจะกินได้หมด มันสิ้นเปลืองเกินไปจริง ๆ!หลิงอวี๋นึกถึงอาหารบนโต๊ะของแม่นมเกา ที่เต็มไปด้วยอาหารเจ็ดแปดอย่าง แล้วนางก็ยกมุมปากยิ้มเยาะอาหารมื้อนี้กินดีกว่าของท่านอ๋องอย่างเซียวหลินเทียนอีก!หลิงอวี๋มิได้พูดโพล่งขึ้นมาทันที ในใจก็คำนวณจำนวนคนที่กินอาหารอยู่ในตำหนักอ๋องอี้เป็นประจำ ตั้งแต่เซียวหลินเทียนไปจนถึงองครักษ์ในตำหนักมีเกือบร้อยคนแล้วเตรียมอาหารให้คนเกือบร้อยคนทุกวัน ในครัวมีคนมากถึงเพียงนี้ก็ไม่นับว่ามากเพียงแต่หลิงอวี๋นึกถึงอาหารที่โลหิตจางอย่างปี้ไห่เฟิงสามารถกินได้ ในครัวนี้สามารถทำอาหารอย่างเท่าเทียมได้จริงหรือ?นางดูสมุดบัญชีการจ่ายตลาด บัญชีเป็นระเบียบมาก แต่เมื่อดูอย่างละเอียด หลิงอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 356

    เด็กคนหนึ่งคว้าชามอาหารแล้วเริ่มโยนใส่หลิงอวี๋หลิงซวนรีบดึงหลิงอวี๋หลบทันทีเด็กอีกคนก็คว้าชามอาหารแล้วโยนใส่หลิงอวี๋อีกเช่นกันพวกเขาทั้งสองคนโยนมาจากทั้งซ้ายและขวา ชามอาหารถูกโยนเข้ามากระทบกันเกิดเสียงดังหลิงซวนป้องกันหลิงอวี๋ไว้ ไม่ได้หลบไปไหน น้ำมันในชามสาดมาใส่กระโปรงของนางเป็นคราบทันที“ลูกใครกัน หยุด หากมิหยุดอย่ามาหาว่าข้ามิเกรงใจ!”หลิงอวี๋ตะคอกด้วยความโกรธ“พระชายา.. .หากพระชายาโกรธก็มาลงที่บ่าวเจ้าค่ะ จะตีหรือจะฆ่าก็สุดแล้วแต่พระชายา อย่าตีหลานชายของบ่าวเลยเจ้าค่ะ!”แม่นมเการีบวิ่งเข้าไปกอดขาของหลิงอวี๋ไว้แน่น พลางเอ่ยอย่างเศร้า ๆ“พระชายา บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ บ่าวขออภัยพระชายา พระชายาปล่อยหลานชายของบ่าวเถิดเจ้าค่ะ!”“เด็ก ๆ ยังเด็ก อย่าลงมือกับพวกเขาเลยหนาเจ้าคะ!”คนรับใช้ในครัวต่างลุกขึ้นเดินเข้ามา แล้วคุกเข่าลงกับพื้น“พระชายาโปรดไว้ชีวิตเถิด! อย่าฆ่าเด็ก ๆ เลย! พวกเขายังเด็กไม่รู้ความ! อย่าถือสาพวกเขาเลยเจ้าค่ะ!”หลิงซวนเห็นพฤติกรรมเลวร้ายของคนเหล่านี้ก็โกรธจนตัวสั่น นางกับหลิงอวี๋ยังมิได้ทำอะไรเลย แต่คนเหล่านี้กลับมาย้อนเล่นงานพวกนาง!พูดจาเหลวไหลไร้สาระ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 357

    “องครักษ์จ้าว บ่าวถูกใส่ร้ายอย่างมิยุติธรรม!”“บ่าวไม่ได้โกงเลย… นี่คงเป็นแผนการใส่ร้ายบ่าวของพระชายาเพื่อขับไล่บ่าวออกไป!”“พระชายายังต้องจำคำพูดไม่ดีที่บ่าวต่อว่าหลิงซินเมื่อคราที่แล้วได้ และนี่เป็นการมาล้างแค้นให้หลิงซิน!”หัวใจของหลิงอวี๋เต้นตึกตัก นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว ที่แท้นี่ก็เป็นกับดักที่ชิวเหวินซวงกับแม่นมเกาวางไว้จริง ๆ!สมุดบัญชีเป็นของปลอม หากแม่นมเกามิได้โกง การที่ตนต่อว่านางเช่นนี้ คนรับใช้ในตำหนักก็จะคิดว่าตนเอาอำนาจมาใช้ในการแก้แค้น!หลิงซวนตกตะลึง นางไม่เคยคิดเลยว่าแม่นมเกาจะมาไม้นี้หลิงซวนตะโกนอย่างร้อนใจ "พี่จ้าว นางเป็นคนให้สมุดบัญชีนี้พวกเรา พวกเรามิได้สับเปลี่ยน! จะใส่ร้ายนางได้เยี่ยงไร!"“องครักษ์จ้าว พระชายาสับเปลี่ยนสมุดบัญชีของแม่นมเกาจริง ๆ เจ้าค่ะ! เราทุกคนเห็นกับตา สมุดบัญชีที่แม่นมเกาหยิบออกมาไม่ใช่เล่มนี้!”“สมุดบัญชีครัวแม่นมเกาบันทึกเองทั้งหมด ลายมือของแม่นมเกาจะต้องบิดเบี้ยว เรียบร้อยเช่นนี้ที่ไหนกัน!”แม่ครัวที่มีไฝดำอยู่ตรงจมูกก้าวเข้ามาช่วยคนรับใช้คนอื่น ๆ ในครัวก็เอ่ยขึ้นอย่างร่วมมือกัน“องครักษ์จ้าว พระชา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 358

    แม้ว่าองครักษ์ผู้นั้นจะไม่พอใจที่หลิงอวี๋ทำให้คนรับใช้ต้องเดือดร้อน แต่เห็นจ้าวซวนจ้องมองตนอยู่ ก็มิกล้าขัดคำสั่ง ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้า พลางเอ่ยเรียบ ๆ“หมูตุ๋นวุ้นเส้น แตงกวาตุ๋นซี่โครง เต้าหู้หม้อไฟ และน้ำแกงกะหล่ำปลีขอรับ!”หลิงอวี๋ชี้ไปที่โต๊ะของแม่นมเกา “เจ้าไปดูว่าสิ่งที่พวกเขากินคืออะไร?”องครักษ์เดินไปดูอาหารบนโต๊ะของครอบครัวแม่นมเกา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยองครักษ์ก้าวถอยหลังมา มองหลิงอวี๋ หากหลิงอวี๋มิเอ่ยถาม เขาก็มิกล้าพูดออกไป“พวกเจ้าทุกคน ผลัดกันเข้ามาดู!”พวกองครักษ์หลายคนพร้อมทั้งจ้าวซวนก้าวไปอย่างสงสัย หลังจากมองไปรอบ ๆ สีหน้าของทุกคนก็ดูไม่มีความสุข แต่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา“ทุกคนในครัวต่างบอกว่าข้าสับเปลี่ยนบัญชี! ก็อาจจะเป็นข้าเองที่สับเปลี่ยนบัญชีก็ได้!”"แต่ข้าก็มิได้เก่งถึงขนาดที่ข้ากับหลิงซวนจักจงใจเอาอาหารจำนวนมากมาสับเปลี่ยนอาหารบนโต๊ะของพวกเขาได้หรอกใช่หรือไม่?”พวกองครักษ์พูดไม่ออกแล้ว หากจะทำเช่นนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่! จะเป็นไปได้เยี่ยงไร!หลิงอวี๋หัวเราะเยาะ “เมื่อครู่แม่นมเกาเพิ่งบอกกับข้าว่า อาหารพวกนี้องครักษ์อย่างพวกเจ้ากินมิหมด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 359

    หลิงอวี๋ยิ้ม หลิงซวนนี่นับวันก็ยิ่งใส่ใจจริง ๆ!นางยิ้มพลางเอ่ย “มิอาจใช้อำนาจของทางการในทางที่ผิดได้!"พวกแม่ครัวได้ยินหลิงซวนบอกว่าจะส่งให้ทางการ สีหน้าก็ตกใจหน้าซีดไปทันทีกระทั่งได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ สีหน้าถึงได้ดีขึ้นเล็กน้อยไหนเลยจะรู้ว่าหลิงอวี๋จะพูดประโยคถัดไป“ทำร้ายพวกเขานั้นมิดี! แต่หลิงซวนคำพูดของเจ้ามันเตือนข้า ได้ยินว่ากองทัพตะวันตกเฉียงเหนือนั้นลำบากนัก อาหารก็ไม่ดี ไม่มีผู้ใดทำอาหารให้!”“มิสู้ข้าทำความดีซื้อพวกนางแล้วส่งไปทำอาหารให้ทหารกองทัพตะวันตกเฉียงเหนือดีกว่ารึ!”หลิงซวนแสร้งทำเป็นเอ่ยอย่างไม่สบายใจ “เช่นนี้ก็ดีเลยเจ้าค่ะ แต่ข้าได้ยินมาว่า ทางตะวันตกเฉียงเหนือมีหมาป่าจำนวนมากนัก แม่ครัวของพวกเขาจำนวนมากเลยที่วิ่งมิเร็วแล้วถูกหมาป่ากินไป...”แม่ครัวเหล่านี้ต่างหวาดกลัวแทบตายกับคำพูดของหลิงซวน!ทางตะวันตกเฉียงเหนือนั้นยากลำบากยิ่ง กอปรกับมีหมาป่าอยู่ด้วย น่ากลัวนัก!“พระชายา… บ่าวจักบอกว่าแม่นมเกาบังคับให้เราทำสิ่งนี้ นางบอกว่าให้เราร่วมมือกับนางเพื่อไล่พระชายาออกไป…”“พระชายา… บ่าวเห็นแล้วเจ้าค่ะ สมุดบัญชีที่แม่นมเกามอบให้พระชายานั้นเป็นเล่มที่อยู่ในม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 360

    แม่นมเกากับครอบครัวของนางถูกองครักษ์จ้าวจับตัวไป ในไม่ช้าเรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วตำหนักอ๋องอี้คนรับใช้ต่างตัวสั่นด้วยความกลัวมิกล้าเล่นลูกไม้ใด ๆ แล้วส่วนทางด้านแม่นมลี่ วิธีที่หลิงอวี๋สอนคือการใช้เงินหากออกคำสั่งแล้วไม่ทำ ก็จ่ายเงิน เพิ่มเงินให้อีกหนึ่งตำลึง ก็มีคนรับใช้แย่งกันไปทำให้แล้ว!แม้ว่าชิวเหวินซวงจะเคยบอกว่าจะทำให้หลิงอวี๋ลำบาก แต่ก็ยังไม่ได้ผลอย่างแท้จริงเลย พวกคนที่ยอมโอนอ่อนให้พวกนี้ก็แค่ฟังแล้วก็จบ!ยิ่งไปกว่านั้น ชะตากรรมของครอบครัวแม่นมเกาก็เป็นตัวอย่างแล้ว คนเหล่านี้ต้องมีการสนับสนุนเยอะมากเท่านั้นถึงจะมีปัญหากับหลิงอวี๋ได้ทันทีที่เรื่องในครัวผ่านพ้นไป ถึงจะไม่ให้เงิน คนรับใช้หล่านี้ต่างก็ทำงานให้!อย่างมากก็รอชิวเหวินซวงกลับมา แล้วร้องห่มร้องไห้บอกว่าตนถูกหลิงอวี๋บังคับ ชิวเหวินซวงจะมีปัญญาทำให้พวกเขาทั้งหมดทำงานให้จริงหรือ?หลิงอวี๋คุยกับแม่ครัวที่เหลืออยู่เป็นเวลานานแม้ว่าห้องครัวจะดูไม่โดดเด่นนัก ทำแค่งานบ้านเท่านั้น แต่ห้องครัวก็เป็นสถานที่ที่รวบรวมข้อมูลไว้มากที่สุดเจ้านายคนไหนชอบรสชาติไหน หรือแม้กระทั่งความรู้สึกในแต่ละวันเป็นเช่นไร แม่ครัวเห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 361

    ยังดีที่มีคนเข้าใจ!หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนกระจ่าง เขาไม่ได้แค้นตนเพียงเพราะการยุยงของตระกูลเสิ่น ช่างปลื้มใจนักหากเซียวหลินเทียนยังสับสนเหมือนแต่ก่อน โดนคนเสี้ยมไม่กี่ประโยคก็เกลียดตนแล้ว เช่นนั้นหลิงอวี๋คงไม่รักษาขาเขาอีก!“จ้าวซวนทูลท่านหรือยังว่าองค์ชายเว่ยแย่งกิจราชการท่าน?”หลิงอวี๋นั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงพลางดึงมือเซียวหลินเทียนมาตรวจชีพจรใจนางยังหวาดระแวงกับยาถอนพิษของชิวเฮ่า นางต้องตรวจเซียวหลินเทียนว่าล้างพิษแล้วจริงหรือไม่“ทูลแล้วขอรับ แม้แต่เรื่องที่ไปขอยาก็บอกแล้ว!”เซียวหลินเทียนนึกถึงวาจาที่จ้าวซวนเอ่ยก็โกรธจนคันฟันองค์ชายเว่ยส่งคนมาลอบฆ่าตนพลางวางพิษใส่ตน!เขายังกล้าให้หลิงอวี๋คุกเข่าถอดรองเท้าให้ ราวกับเซียวหลินเทียนถูกทำให้อัปยศด้วย“ข้าจะไม่ปล่อยไปอย่างนี้!”ดวงตาเซียวหลินเทียนดุดัน “เจ้าวางใจ หนี้อัปยศก้อนนี้ ข้าจักทวงคืนให้พวกเจ้าแน่!”หลิงอวี๋หัวเราะน้อย ๆ กล่าวมีนัยลึกซึ้ง“องค์ชายเว่ยทรงงานที่กรมโยธาธิการ ท่านหมายชิงกิจราชการคืนก็มิใช่ไร้ทางเพคะ!”เซียวหลินเทียนหัวเราะหยัน “เจ้าพูดถูก! ข้าฟังจ้าวซวนมาว่าองค์ชายคังคิดทวงคืนความยุติธรรมเพื่อข้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 362

    แม่นมเฉา!หลิงอวี๋นึกถึงคำที่หลิงซวนพูดฉับพลัน แม่นมที่มีหน้าคล้ายม้าและหางคิ้วโก่งคือแม่นมเฉาที่เสิ่นจวนพามา!หลิงอวี๋หัวเราะหยัน ไม่คิดว่าจะเคยชินกับการอาศัยบารมีของนาย เที่ยวรังแกชาวบ้าน!“แม่นมเฉามิพอใจรึ? อ้อ งั้นข้าก็รู้จักเรือนดี ๆ อยู่หนา แม่นมอยากให้คุณหนูของพวกเจ้าย้ายไปหรือไม่เล่า!”เมื่อแม่นมเฉาได้ฟังก็คิดว่าหลิงอวี๋กลัวตน กล่าวอย่างกิ้งก่าได้ทอง“หากมีเรือนดีก็ต้องย้ายแน่ เจ้าให้คนมาขนของพวกเราไปเดี๋ยวนี้เลย!”หลิงอวี๋ชี้ไปยังศาลาพักริมน้ำที่ด้านหลัง ยิ้มกล่าวว่า“ศาลาริมน้ำคือเรือนที่ดีที่สุดแห่งตำหนักอ๋องอี้ พวกเจ้าอยากย้ายก็ย้ายมาเถอะ!”“ตัวข้าเหนื่อยมาทั้งวันต้องไปพักก่อน! ข้าเห็นเจ้าพาคนมามิน้อยอยากย้ายก็ขนเองแล้วกัน!”ครั้นพูดจบ หลิงอวี๋ก็พาหลิงซวนไปแม่นมเฉาโกรธจนตะโกนเรียก “พระชายาอ๋องอี้ ท่านต้อนรับแขกเช่นนี้เรอะ?”“ข้าจักไปทูลนายท่านกับพระชายาหรงเฟย… จักทำให้ท่านอ๋องหย่ากับเจ้าแน่!”หลิงอวี๋ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นางอยากเอ็ดตะโรก็เอาเลย ให้เซียวหลินเทียนฟังเองว่า บุตรผู้น้องเขาพาคนพฤติกรรมเยี่ยงไรมา!แม่นมเฉามิได้โง่ขนาดนั้น เมื่อร้องสองประโยคเสร็จเห็นหล

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status