แม่นมเกาให้แม่ครัวคนหนึ่งไปเอารายการอาหารมาให้หลิงอวี๋เปิดดู มาตรฐานอาหารของเซียวหลินเทียนคืออาหาร 5 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่าง มาตรฐานอาหารขององครักษ์คืออาหาร 3 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่าง ส่วนมาตรฐานอาหารของคนรับใช้ในตำหนักคืออาหาร 2 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่างมาตรฐานเช่นนี้สำหรับท่านอ๋องอย่างเซียวหลินเทียน ถือเป็นการจัดการที่ค่อนข้างดูปอน ๆ เกินไปแต่ถึงกระนั้น หลิงอวี๋ก็มิคิดว่าเซียวหลินเทียนจะกินได้หมด มันสิ้นเปลืองเกินไปจริง ๆ!หลิงอวี๋นึกถึงอาหารบนโต๊ะของแม่นมเกา ที่เต็มไปด้วยอาหารเจ็ดแปดอย่าง แล้วนางก็ยกมุมปากยิ้มเยาะอาหารมื้อนี้กินดีกว่าของท่านอ๋องอย่างเซียวหลินเทียนอีก!หลิงอวี๋มิได้พูดโพล่งขึ้นมาทันที ในใจก็คำนวณจำนวนคนที่กินอาหารอยู่ในตำหนักอ๋องอี้เป็นประจำ ตั้งแต่เซียวหลินเทียนไปจนถึงองครักษ์ในตำหนักมีเกือบร้อยคนแล้วเตรียมอาหารให้คนเกือบร้อยคนทุกวัน ในครัวมีคนมากถึงเพียงนี้ก็ไม่นับว่ามากเพียงแต่หลิงอวี๋นึกถึงอาหารที่โลหิตจางอย่างปี้ไห่เฟิงสามารถกินได้ ในครัวนี้สามารถทำอาหารอย่างเท่าเทียมได้จริงหรือ?นางดูสมุดบัญชีการจ่ายตลาด บัญชีเป็นระเบียบมาก แต่เมื่อดูอย่างละเอียด หลิงอ
เด็กคนหนึ่งคว้าชามอาหารแล้วเริ่มโยนใส่หลิงอวี๋หลิงซวนรีบดึงหลิงอวี๋หลบทันทีเด็กอีกคนก็คว้าชามอาหารแล้วโยนใส่หลิงอวี๋อีกเช่นกันพวกเขาทั้งสองคนโยนมาจากทั้งซ้ายและขวา ชามอาหารถูกโยนเข้ามากระทบกันเกิดเสียงดังหลิงซวนป้องกันหลิงอวี๋ไว้ ไม่ได้หลบไปไหน น้ำมันในชามสาดมาใส่กระโปรงของนางเป็นคราบทันที“ลูกใครกัน หยุด หากมิหยุดอย่ามาหาว่าข้ามิเกรงใจ!”หลิงอวี๋ตะคอกด้วยความโกรธ“พระชายา.. .หากพระชายาโกรธก็มาลงที่บ่าวเจ้าค่ะ จะตีหรือจะฆ่าก็สุดแล้วแต่พระชายา อย่าตีหลานชายของบ่าวเลยเจ้าค่ะ!”แม่นมเการีบวิ่งเข้าไปกอดขาของหลิงอวี๋ไว้แน่น พลางเอ่ยอย่างเศร้า ๆ“พระชายา บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ บ่าวขออภัยพระชายา พระชายาปล่อยหลานชายของบ่าวเถิดเจ้าค่ะ!”“เด็ก ๆ ยังเด็ก อย่าลงมือกับพวกเขาเลยหนาเจ้าคะ!”คนรับใช้ในครัวต่างลุกขึ้นเดินเข้ามา แล้วคุกเข่าลงกับพื้น“พระชายาโปรดไว้ชีวิตเถิด! อย่าฆ่าเด็ก ๆ เลย! พวกเขายังเด็กไม่รู้ความ! อย่าถือสาพวกเขาเลยเจ้าค่ะ!”หลิงซวนเห็นพฤติกรรมเลวร้ายของคนเหล่านี้ก็โกรธจนตัวสั่น นางกับหลิงอวี๋ยังมิได้ทำอะไรเลย แต่คนเหล่านี้กลับมาย้อนเล่นงานพวกนาง!พูดจาเหลวไหลไร้สาระ
“องครักษ์จ้าว บ่าวถูกใส่ร้ายอย่างมิยุติธรรม!”“บ่าวไม่ได้โกงเลย… นี่คงเป็นแผนการใส่ร้ายบ่าวของพระชายาเพื่อขับไล่บ่าวออกไป!”“พระชายายังต้องจำคำพูดไม่ดีที่บ่าวต่อว่าหลิงซินเมื่อคราที่แล้วได้ และนี่เป็นการมาล้างแค้นให้หลิงซิน!”หัวใจของหลิงอวี๋เต้นตึกตัก นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว ที่แท้นี่ก็เป็นกับดักที่ชิวเหวินซวงกับแม่นมเกาวางไว้จริง ๆ!สมุดบัญชีเป็นของปลอม หากแม่นมเกามิได้โกง การที่ตนต่อว่านางเช่นนี้ คนรับใช้ในตำหนักก็จะคิดว่าตนเอาอำนาจมาใช้ในการแก้แค้น!หลิงซวนตกตะลึง นางไม่เคยคิดเลยว่าแม่นมเกาจะมาไม้นี้หลิงซวนตะโกนอย่างร้อนใจ "พี่จ้าว นางเป็นคนให้สมุดบัญชีนี้พวกเรา พวกเรามิได้สับเปลี่ยน! จะใส่ร้ายนางได้เยี่ยงไร!"“องครักษ์จ้าว พระชายาสับเปลี่ยนสมุดบัญชีของแม่นมเกาจริง ๆ เจ้าค่ะ! เราทุกคนเห็นกับตา สมุดบัญชีที่แม่นมเกาหยิบออกมาไม่ใช่เล่มนี้!”“สมุดบัญชีครัวแม่นมเกาบันทึกเองทั้งหมด ลายมือของแม่นมเกาจะต้องบิดเบี้ยว เรียบร้อยเช่นนี้ที่ไหนกัน!”แม่ครัวที่มีไฝดำอยู่ตรงจมูกก้าวเข้ามาช่วยคนรับใช้คนอื่น ๆ ในครัวก็เอ่ยขึ้นอย่างร่วมมือกัน“องครักษ์จ้าว พระชา
แม้ว่าองครักษ์ผู้นั้นจะไม่พอใจที่หลิงอวี๋ทำให้คนรับใช้ต้องเดือดร้อน แต่เห็นจ้าวซวนจ้องมองตนอยู่ ก็มิกล้าขัดคำสั่ง ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้า พลางเอ่ยเรียบ ๆ“หมูตุ๋นวุ้นเส้น แตงกวาตุ๋นซี่โครง เต้าหู้หม้อไฟ และน้ำแกงกะหล่ำปลีขอรับ!”หลิงอวี๋ชี้ไปที่โต๊ะของแม่นมเกา “เจ้าไปดูว่าสิ่งที่พวกเขากินคืออะไร?”องครักษ์เดินไปดูอาหารบนโต๊ะของครอบครัวแม่นมเกา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยองครักษ์ก้าวถอยหลังมา มองหลิงอวี๋ หากหลิงอวี๋มิเอ่ยถาม เขาก็มิกล้าพูดออกไป“พวกเจ้าทุกคน ผลัดกันเข้ามาดู!”พวกองครักษ์หลายคนพร้อมทั้งจ้าวซวนก้าวไปอย่างสงสัย หลังจากมองไปรอบ ๆ สีหน้าของทุกคนก็ดูไม่มีความสุข แต่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา“ทุกคนในครัวต่างบอกว่าข้าสับเปลี่ยนบัญชี! ก็อาจจะเป็นข้าเองที่สับเปลี่ยนบัญชีก็ได้!”"แต่ข้าก็มิได้เก่งถึงขนาดที่ข้ากับหลิงซวนจักจงใจเอาอาหารจำนวนมากมาสับเปลี่ยนอาหารบนโต๊ะของพวกเขาได้หรอกใช่หรือไม่?”พวกองครักษ์พูดไม่ออกแล้ว หากจะทำเช่นนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่! จะเป็นไปได้เยี่ยงไร!หลิงอวี๋หัวเราะเยาะ “เมื่อครู่แม่นมเกาเพิ่งบอกกับข้าว่า อาหารพวกนี้องครักษ์อย่างพวกเจ้ากินมิหมด
หลิงอวี๋ยิ้ม หลิงซวนนี่นับวันก็ยิ่งใส่ใจจริง ๆ!นางยิ้มพลางเอ่ย “มิอาจใช้อำนาจของทางการในทางที่ผิดได้!"พวกแม่ครัวได้ยินหลิงซวนบอกว่าจะส่งให้ทางการ สีหน้าก็ตกใจหน้าซีดไปทันทีกระทั่งได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ สีหน้าถึงได้ดีขึ้นเล็กน้อยไหนเลยจะรู้ว่าหลิงอวี๋จะพูดประโยคถัดไป“ทำร้ายพวกเขานั้นมิดี! แต่หลิงซวนคำพูดของเจ้ามันเตือนข้า ได้ยินว่ากองทัพตะวันตกเฉียงเหนือนั้นลำบากนัก อาหารก็ไม่ดี ไม่มีผู้ใดทำอาหารให้!”“มิสู้ข้าทำความดีซื้อพวกนางแล้วส่งไปทำอาหารให้ทหารกองทัพตะวันตกเฉียงเหนือดีกว่ารึ!”หลิงซวนแสร้งทำเป็นเอ่ยอย่างไม่สบายใจ “เช่นนี้ก็ดีเลยเจ้าค่ะ แต่ข้าได้ยินมาว่า ทางตะวันตกเฉียงเหนือมีหมาป่าจำนวนมากนัก แม่ครัวของพวกเขาจำนวนมากเลยที่วิ่งมิเร็วแล้วถูกหมาป่ากินไป...”แม่ครัวเหล่านี้ต่างหวาดกลัวแทบตายกับคำพูดของหลิงซวน!ทางตะวันตกเฉียงเหนือนั้นยากลำบากยิ่ง กอปรกับมีหมาป่าอยู่ด้วย น่ากลัวนัก!“พระชายา… บ่าวจักบอกว่าแม่นมเกาบังคับให้เราทำสิ่งนี้ นางบอกว่าให้เราร่วมมือกับนางเพื่อไล่พระชายาออกไป…”“พระชายา… บ่าวเห็นแล้วเจ้าค่ะ สมุดบัญชีที่แม่นมเกามอบให้พระชายานั้นเป็นเล่มที่อยู่ในม
แม่นมเกากับครอบครัวของนางถูกองครักษ์จ้าวจับตัวไป ในไม่ช้าเรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วตำหนักอ๋องอี้คนรับใช้ต่างตัวสั่นด้วยความกลัวมิกล้าเล่นลูกไม้ใด ๆ แล้วส่วนทางด้านแม่นมลี่ วิธีที่หลิงอวี๋สอนคือการใช้เงินหากออกคำสั่งแล้วไม่ทำ ก็จ่ายเงิน เพิ่มเงินให้อีกหนึ่งตำลึง ก็มีคนรับใช้แย่งกันไปทำให้แล้ว!แม้ว่าชิวเหวินซวงจะเคยบอกว่าจะทำให้หลิงอวี๋ลำบาก แต่ก็ยังไม่ได้ผลอย่างแท้จริงเลย พวกคนที่ยอมโอนอ่อนให้พวกนี้ก็แค่ฟังแล้วก็จบ!ยิ่งไปกว่านั้น ชะตากรรมของครอบครัวแม่นมเกาก็เป็นตัวอย่างแล้ว คนเหล่านี้ต้องมีการสนับสนุนเยอะมากเท่านั้นถึงจะมีปัญหากับหลิงอวี๋ได้ทันทีที่เรื่องในครัวผ่านพ้นไป ถึงจะไม่ให้เงิน คนรับใช้หล่านี้ต่างก็ทำงานให้!อย่างมากก็รอชิวเหวินซวงกลับมา แล้วร้องห่มร้องไห้บอกว่าตนถูกหลิงอวี๋บังคับ ชิวเหวินซวงจะมีปัญญาทำให้พวกเขาทั้งหมดทำงานให้จริงหรือ?หลิงอวี๋คุยกับแม่ครัวที่เหลืออยู่เป็นเวลานานแม้ว่าห้องครัวจะดูไม่โดดเด่นนัก ทำแค่งานบ้านเท่านั้น แต่ห้องครัวก็เป็นสถานที่ที่รวบรวมข้อมูลไว้มากที่สุดเจ้านายคนไหนชอบรสชาติไหน หรือแม้กระทั่งความรู้สึกในแต่ละวันเป็นเช่นไร แม่ครัวเห
ยังดีที่มีคนเข้าใจ!หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนกระจ่าง เขาไม่ได้แค้นตนเพียงเพราะการยุยงของตระกูลเสิ่น ช่างปลื้มใจนักหากเซียวหลินเทียนยังสับสนเหมือนแต่ก่อน โดนคนเสี้ยมไม่กี่ประโยคก็เกลียดตนแล้ว เช่นนั้นหลิงอวี๋คงไม่รักษาขาเขาอีก!“จ้าวซวนทูลท่านหรือยังว่าองค์ชายเว่ยแย่งกิจราชการท่าน?”หลิงอวี๋นั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงพลางดึงมือเซียวหลินเทียนมาตรวจชีพจรใจนางยังหวาดระแวงกับยาถอนพิษของชิวเฮ่า นางต้องตรวจเซียวหลินเทียนว่าล้างพิษแล้วจริงหรือไม่“ทูลแล้วขอรับ แม้แต่เรื่องที่ไปขอยาก็บอกแล้ว!”เซียวหลินเทียนนึกถึงวาจาที่จ้าวซวนเอ่ยก็โกรธจนคันฟันองค์ชายเว่ยส่งคนมาลอบฆ่าตนพลางวางพิษใส่ตน!เขายังกล้าให้หลิงอวี๋คุกเข่าถอดรองเท้าให้ ราวกับเซียวหลินเทียนถูกทำให้อัปยศด้วย“ข้าจะไม่ปล่อยไปอย่างนี้!”ดวงตาเซียวหลินเทียนดุดัน “เจ้าวางใจ หนี้อัปยศก้อนนี้ ข้าจักทวงคืนให้พวกเจ้าแน่!”หลิงอวี๋หัวเราะน้อย ๆ กล่าวมีนัยลึกซึ้ง“องค์ชายเว่ยทรงงานที่กรมโยธาธิการ ท่านหมายชิงกิจราชการคืนก็มิใช่ไร้ทางเพคะ!”เซียวหลินเทียนหัวเราะหยัน “เจ้าพูดถูก! ข้าฟังจ้าวซวนมาว่าองค์ชายคังคิดทวงคืนความยุติธรรมเพื่อข้า
แม่นมเฉา!หลิงอวี๋นึกถึงคำที่หลิงซวนพูดฉับพลัน แม่นมที่มีหน้าคล้ายม้าและหางคิ้วโก่งคือแม่นมเฉาที่เสิ่นจวนพามา!หลิงอวี๋หัวเราะหยัน ไม่คิดว่าจะเคยชินกับการอาศัยบารมีของนาย เที่ยวรังแกชาวบ้าน!“แม่นมเฉามิพอใจรึ? อ้อ งั้นข้าก็รู้จักเรือนดี ๆ อยู่หนา แม่นมอยากให้คุณหนูของพวกเจ้าย้ายไปหรือไม่เล่า!”เมื่อแม่นมเฉาได้ฟังก็คิดว่าหลิงอวี๋กลัวตน กล่าวอย่างกิ้งก่าได้ทอง“หากมีเรือนดีก็ต้องย้ายแน่ เจ้าให้คนมาขนของพวกเราไปเดี๋ยวนี้เลย!”หลิงอวี๋ชี้ไปยังศาลาพักริมน้ำที่ด้านหลัง ยิ้มกล่าวว่า“ศาลาริมน้ำคือเรือนที่ดีที่สุดแห่งตำหนักอ๋องอี้ พวกเจ้าอยากย้ายก็ย้ายมาเถอะ!”“ตัวข้าเหนื่อยมาทั้งวันต้องไปพักก่อน! ข้าเห็นเจ้าพาคนมามิน้อยอยากย้ายก็ขนเองแล้วกัน!”ครั้นพูดจบ หลิงอวี๋ก็พาหลิงซวนไปแม่นมเฉาโกรธจนตะโกนเรียก “พระชายาอ๋องอี้ ท่านต้อนรับแขกเช่นนี้เรอะ?”“ข้าจักไปทูลนายท่านกับพระชายาหรงเฟย… จักทำให้ท่านอ๋องหย่ากับเจ้าแน่!”หลิงอวี๋ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นางอยากเอ็ดตะโรก็เอาเลย ให้เซียวหลินเทียนฟังเองว่า บุตรผู้น้องเขาพาคนพฤติกรรมเยี่ยงไรมา!แม่นมเฉามิได้โง่ขนาดนั้น เมื่อร้องสองประโยคเสร็จเห็นหล
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต