Share

บทที่ 317

Author: กานเฟย
ครั้นเห็นว่าอารมณ์ของผู้ประสบภัยมั่นคงแล้ว ท่านอ๋องเฉิงกับหลี่ว์เซียงจึงกลับวังไปรายงานองค์จักรพรรดิ

เซียวหลินเทียนไปบอกหลิงอวี๋กับแม่ทัพเฉิน จากนั้นจึงนำรายชื่อบริจาคที่แม่ทัพเฉินบันทึกไว้เรียบร้อย แล้วตามพวกเขากลับวัง

จักรพรรดิอู่อันกำลังเตรียมจะรับประทานอาหารกลางวัน นอกจากพระชายาเส้ากับฮองเฮาเว่ยแล้ว ก็ยังมีองค์ชายอีกหลายพระองค์อยู่ด้วย

เมื่อเห็นรายชื่อบริจาคที่เซียวหลินเทียนนำมา จักรพรรดิอู่อันก็มีความสุขมาก และกล่าวชมต่อหน้าองค์ชายทั้งหลาย

“ดี… ดียิ่ง… เรื่องนี้องค์ชายสี่ทำได้ดีมาก!”

“สร้างความอุ่นใจให้กับราษฎร ทั้งยังช่วยราชสำนักแก้ปัญหาเรื่องทุนการสร้างฟื้นฟูอีกส่วนหนึ่งด้วย! เรื่องนี้ทำได้ดีจริง ๆ!”

จักรพรรดิอู่อันเห็นเซียวหลินเทียนบริจาคเงินเองด้วยหนึ่งล้านก็หรี่ตาลงพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“องค์ชายสี่บริจาคเงินด้วยตัวเองหนึ่งล้าน นี่ก็เอาเงินออมส่วนใหญ่ออกมาเลยกระมัง?”

เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเก้อเขิน “ขอตอบเสด็จพ่อ นี่คือรางวัลจากเสด็จพ่อที่กระหม่อมสะสมไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อมมิมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้เงิน เมื่อคิดว่าเงินคลังมีอยู่จำกัด หากสามารถช
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
รักสัยสัย หัวจัยสองล้อ
รำครานมากๆๆๆๆๆๆ
goodnovel comment avatar
รักสัยสัย หัวจัยสองล้อ
ไม่ต้องการเห็นโฆษณา
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 318

    กระทั่งเซียวหลินเทียนกับเจ้ากรมพระคลังและพวกหลี่ว์เซียงทำแผนการก่อสร้างฟื้นฟูออกมาก็พบกับองค์ชายเว่ยเซียวหลินเยี่ยนที่เตรียมจะออกจากวังเข้าพอดีองค์ชายเว่ยจ้องเซียวหลินเทียนอย่างอึมครึม“ช่วงนี้องค์ชายสี่สุขภาพแข็งแรงดียิ่ง! ทำงานหนักตลอดทั้งวันมิพักเลย!”“ข้าว่าเจ้าพักผ่อนอยู่ที่บ้านดีกว่าเถอะ!”“เนื่องสูญเสียขาไปก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่หากเสียชีวิตไปแล้วล่ะก็… เช่นนั้นจักมิมีที่ให้ร้องไห้หนา!”องค์ชายเว่ยเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มจอมปลอม การข่มขู่ในคำพูดนั้นเผยให้เห็นบนใบหน้าเซียวหลินเทียนสีหน้าเย็นชา พลางเอ่ยอย่างมีความหมาย“มีความพยายามที่จะกังวลในเรื่องนี้ได้ เสด็จพี่ไปกังวลเกี่ยวกับความสูญเสียของเหมืองไม่ดีกว่าหรือ!”“เจ้า...!”องค์ชายเว่ยจ้องเขาอย่างดุร้าย อยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก แต่ถูกที่ปรึกษาหานหลินดึงตัวออกไปหานหลินกระซิบเตือน “องค์ชาย มิทรงฉุนเฉียวพ่ะย่ะค่ะ!”“แม้ว่าท่านอ๋องอี้จะได้รับงานใหญ่ขั้นนี้ แต่จักทำต่อได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความปรารถนาขององค์ชายมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”องค์ชายเว่ยยิ้มร้าย มองหานหลิน “เรื่องนี้ข้าฝากให้เจ้าไปจัดการ…”“คราวที่แล้วเจ้าคนพิการนี่ก็ทำข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 319

    หลิงอวี๋เห็นกระดาษบนโต๊ะจึงเอ่ยถาม“อืม นี่คือแผนที่แน่นอนแล้ว เจ้าช่วยข้าดูหน่อยว่ายังมีตรงไหนที่ผิดปกติหรือไม่!”เซียวหลินเทียนเองก็ไม่เคอะเขิน ผลักกระดาษนั้นไปให้หลิงอวี๋ทั้งทีที่เห็นเส้นเหล่านั้นหลิงอวี๋ก็รู้สึกปวดหัว ถือถ้วยชาแล้วนั่งลงโดยไม่แม้แต่จะมองเลย“ท่านตรัสให้หม่อมฉันฟังดีกว่า! หม่อมฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างบ้าน ท่านแค่บอกหม่อมฉันว่าวางแผนเยี่ยงไร มีสิ่งอำนวยความสะดวกอันใดบ้าง หากหม่อมฉันฟังแล้วคิดว่าไม่พอ หม่อมฉันค่อยเพิ่มให้ท่าน!” เซียวหลินเทียนอธิบายคร่าว ๆ ให้หลิงอวี๋ฟัง หลิงอวี๋ง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น แต่ก็ยังฝืนดึงสติเอาไว้แล้วฟังอยู่กระทั่งเมื่อได้ยินเงื่อนไขที่ตระกูลกวนโวยวายเรียกร้อง และความลำบากใจของเจ้ากรมพระคลังหลิงอวี๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “นี่ไม่ใช่เรื่องยากอันใดเลย! แม้ว่าตระกูลกวนจะมีร้านค้าอยู่ แต่คนอื่น ๆ ก็มีเช่นกัน!”“ท่านก็ยึดตามทำเลที่จดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วสร้างร้านให้พวกเขาใหม่ตามนั้น!”“ทั้งทำเลที่รุ่งเรืองและทำเลธรรมดาต่างก็มีราคาที่กำหนดไว้ หากอยากขยายพื้นที่ ก็จ่ายส่วนต่างเพิ่ม!”“ผู้ที่ยินดีจะแลกเปลี่ยน สามารถใช้พื้นที่ข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 320

    ”บังอาจ!”ทันทีที่เซียวหลินเทียนเห็นก็ตะคอกด้วยความโกรธ “หยุดให้หมด ใครอนุญาตให้พวกเจ้าสังหารผู้ประสบภัย!”พวกทหารเหล่านั้นเพิกเฉยต่อคำพูดของเซียวหลินเทียน และยังคงบุกเข้าไปต่อ“พวกเจ้าเป็นลูกน้องของผู้ใด?”จ้าวซวนเห็นว่าทหารพวกนั้นยังคงบุกเข้าไป ก็ขี่ม้าไปข้างหน้าคิดจะหยุดพวกเขา“ท่านอ๋อง… ช่วยด้วย!”ผู้ประสบภัยหลายคนพุ่งเข้ามาที่หน้ารถม้าของเซียวหลินเทียนจู่ ๆ เซียวหลินเทียนก็รู้สึกถึงเจตนาฆ่า เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นผู้ประสบภัยคนหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างดุร้าย มือของเขาดึงออกจากเสื้อผ้า...เขาถือดาบที่ส่องประกายอยู่ในมือ...“ระวัง… พวกเขาไม่ใช่ผู้ประสบภัยจริง ๆ…”เซียวหลินเทียนตะโกนอย่างทั้งตกใจทั้งโกรธ แล้วเห็นดาบพุ่งเข้ามาทางตนเองเขารีบเอนตัวไปข้างหลังเพื่อหลีกเลี่ยงดาบที่จะแทงเข้าที่หน้าอกของเขาดาบแทงเข้าที่หน้าอก จากนั้นผงแป้งก็โปรยลงบนใบหน้าของเขาเซียวหลินเทียนติดอยู่ในรถม้า ไม่สามารถหลบหนีได้ทัน ร่างกายของเขาก็อ่อนแรงไปทันที!พวกมันใช้ยาพิษ!ปลอมตัวเป็นผู้ประสบภัยที่เขาจะไม่ระวังตัวที่สุดแล้วมาลอบสังหารเขา!มือสังหารไม่ให้เวลาเขาได้โกรธเลย!ดาบเล่มที่สอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 321

    “เหลือไว้สักคน!”คำพูดของหลิงอวี๋เอ่ยออกไปแล้ว แต่มันก็สายเกินไป!จ้าวซวนกับพวกองครักษ์ต่างได้รับบาดเจ็บ หากพวกเขาไม่รีบจัดการอย่างรวดเร็ว อาจจะไม่มีใครสามารถอยู่ต่อได้แล้วพวกองครักษ์ภายใต้การนำของจ้าวซวน ทุกการเคลื่อนไหวล้วนต้องถึงแก่ชีวิตการร่วมมือของแส้ม้าของปี้ไห่เฟิงที่อยู่บนรถม้านั้นระงับเหตุลงได้ทันใดนั้น มือสังหารเหล่านั้นก็ตายด้วยน้ำมือขององครักษ์เหล่านี้“รีบไปดูท่านอ๋องเร็วเข้า...”จ้าวซวนได้รับบาดเจ็บที่ต้นขา โลหิตเปื้อนชุ่มขากางเกงจนเป็นสีแดง แต่เขาไม่สนใจตัวเขาเอง คว้าคบไฟแล้วรีบวิ่งไปข้างหน้าหลิงอวี๋ก็รีบวิ่งแซงจ้าวซวนขึ้นไปบนรถม้าเมื่อได้รับแสงสว่างจากคบไฟ หลิงอวี๋ก็เห็นว่าในรถม้าเต็มไปด้วยโลหิต เซียวหลินเทียนก็ถูกศพของมือสังหารทั้งสองคนกดทับอยู่ข้างใต้“เซียวหลินเทียน...”หลิงอวี๋มือสั่น จะไปยกศพของมือสังหาร แต่กลับไม่สามารถขยับออกไปได้จ้าวซวนเห็นดังนั้น เขาก็ส่งคบไฟให้กับองครักษ์คนหนึ่ง ลากศพทั้งสองออกจากรถม้าด้วยมือคนละข้างอย่างไม่สนใจแสงคบไฟส่องไปที่ตัวของเซียวหลินเทียน ตาของหลิงอวี๋แดงขึ้นมาทันทีร่างกายของเซียวหลินเทียนเต็มไปด้วยโลหิต เสื้อผ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 322

    รถม้าของตำหนักอ๋องอี้เพิ่งออกไปได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม รถก็กลับมาอย่างเร่งรีบแม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่ร่างกายที่เต็มไปด้วยโลหิตก็อยู่ในสายตาของคนจำนวนไม่น้อยคนเดินผ่านไปมาต่างก็ตกใจ นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?จ้าวซวนมิสนใจว่าคนเหล่านั้นจะสงสัยอะไร ขี่รถม้าตรงเข้าไปในตำหนักอ๋องอี้ ไปที่เรือนของเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่ที่ขาของเซียวหลินเทียนได้รับบาดเจ็บ สถานที่หลายจุดของตำหนักอ๋องอี้ก็ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าออกของเขาคิดไม่ถึงเลยว่าความสะดวกสบายเช่นนี้ วันหนึ่งจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยชีวิต“ใครก็ได้ หาตะเกียงน้ำมันมาหน่อย ยิ่งเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี!”“หลิงซิน ไปเอาน้ำร้อนมา!”“หลิงซวน ถือล่วมยาตามข้าเข้ามา ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!”หลิงอวี๋สั่งอย่างเร่งรีบจ้าวซวนทนอาการบาดเจ็บที่ขาแล้วอุ้มเซียวหลินเทียนเข้าไปในห้องนอนเพียงลำพัง“ลู่หนาน ถอดม่านเตียงออก!”หลิงอวี๋ไม่ชอบม่านบังแสง จึงรีบเอ่ยลู่หนานรีบวิ่งไปดึงม่านเตียงออกอย่างรวดเร็วหลู่ชิ่งกับองครักษ์คนหนึ่งรีบจุดตะเกียงน้ำมันในห้องทั้งหมด มีองครักษ์นำตะเกียงมาเพิ่มอีกสองสามอัน ทำให้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 323

    ชิวเหวินซวงจิตใจสับสนวุ่นวายมาก ตั้งแต่ชิวเฮ่าจากไป เซียวหลินเทียนก็มีหลายเรื่องเลยที่นางไม่รู้!นางเป็นเหมือนคนตาบอดที่ติดอยู่ในตำหนักอ๋องอี้แห่งนี้ ไม่รู้เลยว่าเซียวหลินเทียนทำอะไรอยู่ข้างนอกบ้าง!หากเซียวหลินเทียนได้รับการช่วยชีวิตไว้ได้ นางจะต้องหาวิธีให้เซียวหลินเทียนพาชิวเฮ่ากลับมา!สองพี่น้องทำมามากมายถึงเพียงนี้กว่าจะให้ได้รับความไว้วางใจของเซียวหลินเทียน จะมาล้มเหลวเช่นนี้มิได้!ชิวเหวินซวงทำแผลให้จ้าวซวน พลางถือโอกาสถามว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง หลิงซวนได้ตรวจเลือดแล้ว พบว่ามีองครักษ์หลายคนที่มีหมู่เลือดตรงกับของเซียวหลินเทียนหลิงอวี๋ให้นางเจาะเลือดออกมาใส่ไว้ในถุงเลือดแล้วถ่ายเลือดให้เซียวหลินเทียนหลิงอวี๋หยิบสำลีแอลกอฮอล์มาทำความสะอาดบาดแผลของเซียวหลินเทียนด้วยตัวนางเองแม้ว่านางจะทำเรื่องเช่นนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีครั้งไหนทำให้นางใจสั่นเช่นวันนี้นางไม่กล้ามองหน้าเซียวหลินเทียน แล้วหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ตนเองนางจะต้องช่วยชีวิตเขาให้ได้!หลิงอวี๋สร้างกำลังใจให้ตน พลางเย็บแผลอย่างรวดเร็วไปด้วยกระทั่งตอนที่จัดการกับบาดแผลบนหน้าอกของเซียวหล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 324

    ชิวเหวินซวงฉวยโอกาสนั้นเอ่ยขึ้นมา “พระชายา ท่านเหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ไปพักผ่อนเถิด! ข้าจะดูแลท่านอ๋องเอง!”“ไม่ต้อง! ข้าเป็นพระชายา ทั้งยังเป็นหมอ มีหรือที่ข้าจะยังหลับสบายได้ขณะที่สามีได้รับบาดเจ็บ!”หลิงอวี๋ปฏิเสธเรียบ ๆ “ความหวังดีของเจ้า ข้าจะบอกท่านอ๋องเมื่อเขาตื่นมา!”“หากเจ้าอยากช่วยจริง ๆ ก็ไปบอกให้ที่ห้องครัวต้มไข่น้ำตาลทรายแดงให้กับพวกองครักษ์ที่บริจาคเลือดและได้รับบาดเจ็บเสีย! ทำอาหารให้พวกเขากินด้วย!”ชิวเหวินซวงเกลียดน้ำเสียงที่เหมือนเป็นนายหญิงของหลิงอวี๋มาก แต่หลิงอวี๋พูดถูก นางจึงหาเหตุผลที่จะปฏิเสธมิได้ชิวเหวินซวงทำได้เพียงเอ่ย “ข้าลืมเรื่องนี้ไปเลย โชคดีที่พระชายาเตือนข้า ข้าจักไปจัดการเดี๋ยวนี้แล!”ชิวเหวินซวงเดินไปด้วยความโกรธ จ้าวซวนยังคงกังวลอยู่ เขาจ้องหลิงอวี๋ พลางเอ่ยถาม“ท่านอ๋องจะฟื้นเมื่อใดหรือขอรับ?”หลิงอวี๋รู้ว่าจ้าวซวนเป็นคนหนักแน่น ในเวลานี้นางไม่สามารถปิดบังจ้าวซวนได้“ข้าช่วยดูแลบาดแผลให้ท่านอ๋องแล้ว! แต่...”“ท่านอ๋องถูกพิษ ข้าแยกมิออกว่ามันคือพิษชนิดใด! ยามนี้ข้ามิสามารถช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมาได้!”หลิงอวี๋เห็นจ้าวซวนหน้าซีดลงทันที ในใจก็รู้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 325

    จ้าวซวนพยักหน้าหนักแน่น เมื่อเห็นว่าชิวเหวินซวงยังไม่กลับมา จึงเอ่ย“พระชายา อย่าตำหนิข้าที่พูดมากความเลย... ข้ารู้ว่าท่านกับท่านอ๋องมีความคิดจะหย่าร้างกัน!”“แต่ก่อนที่จะมีการหย่าร้าง ท่านยังคงเป็นพระชายาอ๋องอี้อยู่… ยามนี้ท่านอ๋องหมดสติยังไม่ฟื้น พระชายาควรแบกรับหน้าที่ของตนไว้ขอรับ!”“อำนาจการจัดการตำหนัก พระชายาหามองเฉยมิจัดการมิได้แล้ว! แม้ว่าชิวเหวินซวงจักทำได้ดีเพียงใด แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนนอกขอรับ!”“หากพระชายาไม่อยากให้นางอยู่ในตำหนักอ๋องอี้จริง ๆ ก็ใช้วิธีการบางอย่างเสียเถิด! ข้าจักสนับสนุนพระชายาขอรับ!”คำพูดของจ้าวซวนทำให้หลิงอวี๋ตะลึง นางมิเคยคิดที่จะเข้าไปแทรกแซงเรื่องในตำหนักอ๋องอี้เลย!เพราะไม่ช้าก็เร็วนางก็จะหย่าร้างกับเซียวหลินเทียนอยู่แล้ว แทรกแซงไปเช่นนี้ จะดีหรือ?“พี่จ้าว เช่นนี้ไม่ดีหรอกกระมัง!”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “เจ้าก็รู้ท่าทีของท่านอ๋องที่มีต่อข้าก่อนหน้านี้! หากข้าเข้าไปแทรกแซงเช่นนี้ เขาฟื้นขึ้นมาคงมิพอใจเป็นแน่!”หลิงอวี๋นึกถึงที่เซียวหลินเทียนเชื่อใจชิวเฮ่ามากถึงเพียงนั้น อีกทั้งชิวเฮ่าก็เป็นผู้มีพระคุณของเซียวหลินเทียนด้วย!นางไม่อยา

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1893

    เมื่อครอบครัวของเจี่ยงหัวกลับมาที่เรือ พวกเขาก็พบศพไร้หัวในห้องของเขา มีคราบเลือดยาวบนผนังไม้ของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกสลักด้วยกระบี่อาบเลือด“จุดจบของคนทรยศ!”ครอบครัวของเจี่ยงหัวตกใจกลัวมากจนสละเรือและหนีไปในคืนนั้นพวกเขามิรู้ว่าที่จริงแล้วเซียวหลินเทียนมิคิดจะเอาผิดพวกเขา ทุกคนควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และการสังหารเจี่ยงหัวนั้นก็เพียงพอแล้วเซียวหลินเทียนส่งศีรษะของเจี่ยงหัวให้สือหรง ทันใดนั้นสือหรงก็ร้องไห้เศร้าโศกและนำศีรษะของเจี่ยงหัวไปเซ่นให้กับครอบครัวของตนหลังจากนั้น สือหรงก็กระทำการบางอย่าง เขาเขียนจดหมายเลือดเรื่องที่เจี่ยงหัวสมคบคิดกับมหาปราชญ์สังหารเหล่าศิษย์ของตำหนักปีกเงิน และคัดลอกสำเนาไปหลายสิบฉบับภายในคืนเดียววันรุ่งขึ้น ที่ประตูเมืองในพื้นที่นั้นมีพ่อค้าจำนวนมากกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง แล้วก็มีคนพบศีรษะของเจี่ยงหัวที่แขวนอยู่บนกำแพงเมือง และยังมีจดหมายเลือดที่สือหรงเป็นคนเขียน ซึ่งเขียนประณามความผิดของเจี่ยงหัวขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็มีจดหมายเลือดมากมายปลิวลงมาจากกำแพงเมืองทันใดนั้นความผิดฐานทรยศอาจารย์และสมคบคิดกับมหาปราชญ์ของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1892

    หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น หลิงอวี๋ก็คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วสารพัดและสังหารผู้คนเป็นผักปลาแต่หลิงอวี๋กลับมิรู้เลยว่ามหาปราชญ์เป็นผู้สั่งให้คนบิดเบือนและแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปหลังจากที่เขากลับไปถึงเมืองหลวงแดนเทพเซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินนั้นคนหนึ่งทำให้มหาปราชญ์ตาบอด และอีกคนก็ตัดแขนข้างหนึ่งของมหาปราชญ์ มหาปราชญ์จะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรหากเขามิแก้แค้น!เขาทำให้เซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินเสียชื่อเสียงและทำให้ผู้คนทั่วหล้าลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา ส่วนมหาปราชญ์ใช้โอกาสนี้พักฟื้นและหาโอกาสเหมาะเพื่อช่วงชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคือ กระบี่คุณอู่ของเซียวหลินเทียนอีกครั้งมหาปราชญ์มิได้บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบกระบี่อายุนับพันปีเล่มนี้ ด้วยคิดว่ากระบี่เล่มนี้เป็นของตน จึงมิอยากให้ใครมาแย่งชิงมันไปการแพร่กระจายข่าวลือเป็นหนึ่งในอุบายของมหาปราชญ์ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและป้องกันมิให้เขาพบกับเหล่าศิษย์จากตำหนักปีกเงินซึ่งเป็นไปตามคาดว่าข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปยังวงกว้างด้วยความรวดเร็วบรรดาศิษย์ตำหนักปีกเงินบางส่วนที่กระจายอยู่ตามสถาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1891

    ผู้รอบรู้ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เมื่อไรกันที่เขาได้รับความเชื่อใจจากใครบางคนมากมายถึงเพียงนี้!หลิงอวี๋พูดไปตามตรง “พี่ใหญ่ มีเรื่องบางอย่างที่ตอนนี้ข้ายังบอกท่านมิได้ มิใช่ว่าข้ามิไว้ใจท่าน แต่หากพูดไปแล้วมันอาจสร้างปัญหามากมายให้ท่านได้!”“เชื่อใจข้าเถิด สักวันข้าจะเล่าให้ท่านฟังทุกอย่าง!”ผู้รอบรู้มองตั๋วเงินในมือของตนพลางพูดอย่างใจกว้างว่า “ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง หากเจ้ามิอยากพูดก็มิต้องพูดหรอก พี่ใหญ่เชื่อใจเจ้า!”หลิงอวี๋ถึงกับยอมมอบของมีค่าทั้งหมดให้กับตนเช่นนี้ แม้จะมีความลับปิดบังต่อตนผู้รอบรู้ก็ย่อมยอมรับได้ขอแค่เขาเชื่อใจว่าหลิงอวี๋ไม่มีเจตนาร้ายก็พอแล้วสองพี่น้องพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน ต่อมาในวันรุ่งขึ้นที่ฟ้ายังมิสว่าง ผู้รอบรู้ก็รีบรุดไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคันโชคดีที่รถม้าเพิ่งส่งผู้โดยสารเพื่อขึ้นเรือไป ผู้รอบรู้จึงได้เช่ารถม้ามาในราคาสิบตำลึงส่วนหลิงอวี๋นั้นเพิ่งตื่น และผู้รอบรู้ก็วิ่งเข้ามาเคาะประตูด้วยความลิงโลด “น้องชาย รีบลุกเถิด พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว! รถม้ากำลังรออยู่ข้างนอก”หลิงอวี๋รีบอาบน้ำแต่งตัวและแบกห่อผ้าของตนออกมา ผู้รอบรู้ยัดถุงกระดาษไขใบห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1890

    ผู้รอบรู้พูดมิออกแล้ว หลิงอวี๋มิรู้อะไรเลย แล้วจะจ่ายยาที่ถูกต้องได้อย่างไร!“พี่สิง ข้าอยากรู้มากว่าท่านรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าผู้รอบรู้ลำบากใจ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”ใบหน้าของผู้รอบรู้กระตุก เขาหันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง เมื่อก่อนข้าเป็นคนของตำหนักปีกเงิน ข้าเป็นคนของเจี่ยงฮั๋วผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา เมื่อสองปีก่อนข้าทำงานพลาดไป ทำให้เจี่ยงฮั๋วโกรธ เขาจึงไล่ข้าออกจากตำหนักปีกเงิน!”“ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังคิดจะหาโอกาสขอพบท่านเจ้าตำหนักเก่า แล้วกลับไปที่ตำหนักปีกเงินอีกครั้ง แต่ตอนนี้ตำหนักปีกเงินเสื่อมโทรมลงไปแล้ว ได้ยินว่าเจ้าตำหนักเก่าป่วยหนักและมิรับงานแล้ว ข้าจึงได้เร่ร่อนอยู่ข้างนอกตลอดเช่นนี้!”“คนที่ออกมาจากตำหนักปีกเงินล้วนเก่งในการสืบหาข้อมูล แม้ว่าข้าจะออกจากตำหนักปีกเงินไปแล้ว แต่ข้าก็เคยชินกับสัญชาตญาณนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่ใจกับข้อมูลแต่ละประเภทมาก อยากจะรู้มากแค่ไหนก็มิยาก!”หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าผู้รอบรู้ก็เป็นคนที่มีภูมิหลังเช่นก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status