ชิวเหวินซวงจิตใจสับสนวุ่นวายมาก ตั้งแต่ชิวเฮ่าจากไป เซียวหลินเทียนก็มีหลายเรื่องเลยที่นางไม่รู้!นางเป็นเหมือนคนตาบอดที่ติดอยู่ในตำหนักอ๋องอี้แห่งนี้ ไม่รู้เลยว่าเซียวหลินเทียนทำอะไรอยู่ข้างนอกบ้าง!หากเซียวหลินเทียนได้รับการช่วยชีวิตไว้ได้ นางจะต้องหาวิธีให้เซียวหลินเทียนพาชิวเฮ่ากลับมา!สองพี่น้องทำมามากมายถึงเพียงนี้กว่าจะให้ได้รับความไว้วางใจของเซียวหลินเทียน จะมาล้มเหลวเช่นนี้มิได้!ชิวเหวินซวงทำแผลให้จ้าวซวน พลางถือโอกาสถามว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง หลิงซวนได้ตรวจเลือดแล้ว พบว่ามีองครักษ์หลายคนที่มีหมู่เลือดตรงกับของเซียวหลินเทียนหลิงอวี๋ให้นางเจาะเลือดออกมาใส่ไว้ในถุงเลือดแล้วถ่ายเลือดให้เซียวหลินเทียนหลิงอวี๋หยิบสำลีแอลกอฮอล์มาทำความสะอาดบาดแผลของเซียวหลินเทียนด้วยตัวนางเองแม้ว่านางจะทำเรื่องเช่นนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีครั้งไหนทำให้นางใจสั่นเช่นวันนี้นางไม่กล้ามองหน้าเซียวหลินเทียน แล้วหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ตนเองนางจะต้องช่วยชีวิตเขาให้ได้!หลิงอวี๋สร้างกำลังใจให้ตน พลางเย็บแผลอย่างรวดเร็วไปด้วยกระทั่งตอนที่จัดการกับบาดแผลบนหน้าอกของเซียวหล
ชิวเหวินซวงฉวยโอกาสนั้นเอ่ยขึ้นมา “พระชายา ท่านเหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ไปพักผ่อนเถิด! ข้าจะดูแลท่านอ๋องเอง!”“ไม่ต้อง! ข้าเป็นพระชายา ทั้งยังเป็นหมอ มีหรือที่ข้าจะยังหลับสบายได้ขณะที่สามีได้รับบาดเจ็บ!”หลิงอวี๋ปฏิเสธเรียบ ๆ “ความหวังดีของเจ้า ข้าจะบอกท่านอ๋องเมื่อเขาตื่นมา!”“หากเจ้าอยากช่วยจริง ๆ ก็ไปบอกให้ที่ห้องครัวต้มไข่น้ำตาลทรายแดงให้กับพวกองครักษ์ที่บริจาคเลือดและได้รับบาดเจ็บเสีย! ทำอาหารให้พวกเขากินด้วย!”ชิวเหวินซวงเกลียดน้ำเสียงที่เหมือนเป็นนายหญิงของหลิงอวี๋มาก แต่หลิงอวี๋พูดถูก นางจึงหาเหตุผลที่จะปฏิเสธมิได้ชิวเหวินซวงทำได้เพียงเอ่ย “ข้าลืมเรื่องนี้ไปเลย โชคดีที่พระชายาเตือนข้า ข้าจักไปจัดการเดี๋ยวนี้แล!”ชิวเหวินซวงเดินไปด้วยความโกรธ จ้าวซวนยังคงกังวลอยู่ เขาจ้องหลิงอวี๋ พลางเอ่ยถาม“ท่านอ๋องจะฟื้นเมื่อใดหรือขอรับ?”หลิงอวี๋รู้ว่าจ้าวซวนเป็นคนหนักแน่น ในเวลานี้นางไม่สามารถปิดบังจ้าวซวนได้“ข้าช่วยดูแลบาดแผลให้ท่านอ๋องแล้ว! แต่...”“ท่านอ๋องถูกพิษ ข้าแยกมิออกว่ามันคือพิษชนิดใด! ยามนี้ข้ามิสามารถช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมาได้!”หลิงอวี๋เห็นจ้าวซวนหน้าซีดลงทันที ในใจก็รู้
จ้าวซวนพยักหน้าหนักแน่น เมื่อเห็นว่าชิวเหวินซวงยังไม่กลับมา จึงเอ่ย“พระชายา อย่าตำหนิข้าที่พูดมากความเลย... ข้ารู้ว่าท่านกับท่านอ๋องมีความคิดจะหย่าร้างกัน!”“แต่ก่อนที่จะมีการหย่าร้าง ท่านยังคงเป็นพระชายาอ๋องอี้อยู่… ยามนี้ท่านอ๋องหมดสติยังไม่ฟื้น พระชายาควรแบกรับหน้าที่ของตนไว้ขอรับ!”“อำนาจการจัดการตำหนัก พระชายาหามองเฉยมิจัดการมิได้แล้ว! แม้ว่าชิวเหวินซวงจักทำได้ดีเพียงใด แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนนอกขอรับ!”“หากพระชายาไม่อยากให้นางอยู่ในตำหนักอ๋องอี้จริง ๆ ก็ใช้วิธีการบางอย่างเสียเถิด! ข้าจักสนับสนุนพระชายาขอรับ!”คำพูดของจ้าวซวนทำให้หลิงอวี๋ตะลึง นางมิเคยคิดที่จะเข้าไปแทรกแซงเรื่องในตำหนักอ๋องอี้เลย!เพราะไม่ช้าก็เร็วนางก็จะหย่าร้างกับเซียวหลินเทียนอยู่แล้ว แทรกแซงไปเช่นนี้ จะดีหรือ?“พี่จ้าว เช่นนี้ไม่ดีหรอกกระมัง!”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “เจ้าก็รู้ท่าทีของท่านอ๋องที่มีต่อข้าก่อนหน้านี้! หากข้าเข้าไปแทรกแซงเช่นนี้ เขาฟื้นขึ้นมาคงมิพอใจเป็นแน่!”หลิงอวี๋นึกถึงที่เซียวหลินเทียนเชื่อใจชิวเฮ่ามากถึงเพียงนั้น อีกทั้งชิวเฮ่าก็เป็นผู้มีพระคุณของเซียวหลินเทียนด้วย!นางไม่อยา
หลิงอวี๋เห็นเพียงจ้าวเจินเจินที่อยู่ตรงหน้า แต่งหน้าเบา ๆ มีใบหน้าที่งดงามยิ่งนางสวมเสื้อในวังลายดอกไม้สีน้ำเงินเข้ม คู่กับกระโปรงจับจีบสีฟ้าอ่อน ด้านนอกคลุมด้วยผ้าตาข่ายปักลายด้วยด้ายสีเงินด้านนอกผ้าตาข่ายคลุมด้วยผ้าวังสีแดงเข้ม คอเสื้อปักด้วยไข่มุกทะเลเหนือที่ดูสวยงาม ไข่มุกสีขาวเหมือนหิมะดูหรูหราเมื่ออยู่บนผ้าวังสีแดงเข้ม!ครานั้นเซียวหลินเทียนอยากรอจนกว่าจ้าวเจินเจินถึงวัยที่ออกเรือนได้ก่อน แล้วจะไปขอให้องค์จักรพรรดิพระราชทานอภิเษกให้แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกหลิงอวี๋วางแผนให้แต่งงานกับนางจ้าวเจินเจินรอเซียวหลินเทียนอยู่สี่ปี มิยอมแต่งงานเลยจนกระทั่งเมื่อครึ่งปีก่อน จ้าวเจินเจินถึงได้แต่งงานกับองค์ชายคังเซียวหลินอี้หลิงอวี๋คนเดิมนั้นแยกคู่รักออกจากกัน ทำลายชีวิตคู่ของพวกเขาไปตลอดชีวิต!เซียวหลินเทียนจะไม่เกลียดนางได้เยี่ยงไร!ในชีวิตนี้ เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นจ้าวเจินเจิน เซียวหลินเทียนจะนึกถึงว่าหลิงอวี๋ทำลายชีวิตคู่ของพวกเขา!ในชีวิตนี้เซียวหลินเทียนจะไม่มีวันให้อภัยนาง!ในที่สุดหลิงอวี๋ก็รู้เหตุผลว่าเหตุใดในวันนั้นเซียวหลินเทียนจึงผลักนางอย่างแรงถึงเพียงนั้น!คาดว่าใน
“น้องสะใภ้… เจ้าไม่มีวิธีแล้วรึ?”องค์ชายคังเอ่ยถามเชิงตำหนิเสียงดัง “ข้าได้ยินว่าเจ้าคือแม่นางหลิงแพทย์ชั้นเซียนมิใช่รึ? เจ้าช่วยน้องสี่มิได้รึ?”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่น “เสด็จพี่... หม่อมฉันรู้ทักษะทางการแพทย์อยู่บ้าง! แต่แม้ว่าเป็นแพทย์ชั้นเซียนก็มิสามารถรักษาโรคได้ทั้งหมดเพคะ!”“ท่านอ๋องของหม่อมฉัน... ถูกแทงไปสิบกว่าครั้ง และสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือเขาถูกพิษ!”“หลิงอวี๋มีความรู้จำกัด มิสามารถแก้พิษได้!”สายตาองค์ชายคังเป็นประกาย ถูกพิษด้วยหรือ?เช่นนั้นเซียวหลินเทียนก็ตายแน่แล้วมิใช่หรือ?“ถูกพิษอันใดกัน?”องค์ชายคังจ้องพลางเอ่ยถาม เขาต้องทำให้แน่ใจว่าเซียวหลินเทียนจะตายแน่ ๆ!หลิงอวี๋ส่ายหัว “มิรู้ว่าถูกพิษชนิดใด ดังนั้นหลิงอวี๋จึงทำอันใดไม่ได้!”“หรือว่าจะปล่อยให้น้องสี่รอการตายเช่นนี้หรือ?”จ้าวเจินเจินเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ทน “ใครกันที่ทำเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้?”องค์ชายคังเหลือบมองจ้าวเจินเจิน พลางยิ้มเย็นชา“จะมีใครได้เล่า! คนธรรมดาที่ไหนจะกล้าลอบสังหารคนในราชวงศ์ได้! นอกจากเสด็จพี่ใหญ่แล้ว ใครเล่าจะทำเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้!”องค์ชายคังพูดอย่างเสแสร้ง “เจินเจิน เจ้ามิร
หลังจากที่หลิงอวี๋ส่งจ้าวเจินเจินกับเซียวหลินอี้กลับไปแล้ว ตำหนักอ๋องอี้ก็มีคนมาเยี่ยมอีกคน!คราวนี้เป็นท่านอ๋องเฉิง แม่ทัพเฉินและหลี่ว์เซียงท่านอ๋องเฉิงกับหลี่ว์เซียงได้รับแจ้งจากแม่ทัพเฉินแล้วจึงได้รู้ว่าเซียวหลินเทียนถูกลอบสังหาร!ทั้งสองรีบมาทันที แล้วก็พบแม่ทัพเฉินที่หน้าประตู“แม่ทัพเฉิน เกิดเรื่องเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?”ท่านอ๋องเฉิงเห็นแม่ทัพเฉินก็ตะโกนด้วยความโกรธ “ไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง ชัดเจนถึงเพียงนี้ว่ามีคนกล้าลอบสังหารท่านอ๋อง! ความปลอดภัยของเมืองหลวงนี้มันแย่ถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”หลี่ว์เซียงดึงท่านอ๋องเฉิงไว้ “ท่านอ๋องเฉิงอย่าเพิ่งใจร้อน มีอะไรก็เข้าไปพูดข้างในเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงอวี๋ได้รับรายงานจากผู้ดูแลต้อนรับจึงรีบออกไปต้อนรับท่านอ๋องเฉิงเห็นนางก็เอ่ยขึ้นอย่างกังวล “องค์ชายสี่เป็นเยี่ยงไรบ้าง? ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?”“ข้าได้ยินมาว่าเขาถูกแทงหลายครั้ง… โลหิตไหลอาบเต็มรถม้า… ยัง… ยังช่วยเขาได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ได้ยินเสียงของท่านอ๋องเฉิงสั่นด้วยความกังวล แสดงให้เห็นว่าเป็นห่วงเซียวหลินเทียนจริง ๆเมื่อเทียบกับการถามไถ่ที่ไม่แยแสของเซียวหลินอี้เมื่อ
หลิงอวี๋ไม่ได้นอนทั้งคืนอีกแล้ว นางไม่อาจฝากความหวังไว้กับมุกตะขาบฟ้าได้!คนรอบตัวต่างไม่เคยเห็นมุกตะขาบฟ้า เช่นนั้นจึงไม่ชัดเจนว่ามันเป็นแค่ตำนานหรือไม่!นางเจาะเลือดของเซียวหลินเทียนไปทำการทดลองในมิติ พยายามค้นหาองค์ประกอบของสารพิษในร่างกายของเซียวหลินเทียนหลังจากค่ำคืนอันวุ่นวาย หลิงอวี๋ไม่พบสิ่งใดเลยนางออกมาอย่างเหนื่อยล้า ตรวจดูอาการของเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนยังคงนอนเงียบ ๆ หัวใจและชีพจรอ่อนแรงนัก!หลิงอวี๋ตรวจบาดแผล ไม่พบสิ่งผิดปกติหลิงอวี๋ป้อนน้ำหญ้าวานรให้กับเซียวหลินเทียนอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว นางจึงงีบหลับบนเก้าอี้ดูเหมือนว่าจะเพิ่งหลับตา ก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนตัวดังมาจากข้างนอกอีกหลิงอวี๋ลืมตาขึ้นอย่างเหนื่อยล้า แล้วก็เห็นว่าข้างนอกหน้าต่างเป็นเวลารุ่งสางแล้ว“พระชายา... แม่นมลี่ทำโจ๊กมาให้พระชายา ข้าเอามาให้แล้ว พระชายากินสักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงซวนเดินเข้ามาพร้อมกับโจ๊ก เห็นหลิงอวี๋สีหน้าซีดเซียว และมีรอยคล้ำขนาดใหญ่สองรอยใต้ตาของนางนางวางโจ๊กลงบนโต๊ะอย่างทุกข์ใจ “พี่จ้าวได้ส่งคนออกไปตามหามุกตะขาบฟ้าแล้ว อย่าได้กังวลนักเลยเจ้าค่ะ อ
รอก่อนเถอะ!ชิวเหวินซวงกำลังคิดจะขู่หลิงอวี๋อีก ก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากข้างนอกนางเปลี่ยนเป็นใบหน้าโศกเศร้าทันที พลางเอ่ยเสียงสะอื้น“พระชายา ท่านพูดเช่นนี้กับข้าได้เยี่ยงไร! ข้าก็เป็นห่วงท่านอ๋องเหมือนกัน…”หลิงอวี๋ตะลึงเล็กน้อย คนที่หยิ่งผยองเมื่อครู่ กลายเป็นเช่นนี้ในพริบตาได้เยี่ยงไร?นางกำลังคิดจะด่ากลับแต่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าก่อนหลิงอวี๋พูดไม่ออกไปทันที เกรงว่าชิวเหวินซวงกำลังแสดงอยู่สินะ!“พระชายา... เหวินซวง เกิดอะไรขึ้น?”จ้าวซวนกับลู่หนานเดินเข้ามาด้วยกัน“พี่จ้าว ต่อไปข้าจักมิจัดการเรื่องของตำหนักอ๋องอี้แล้ว!”ชิวเหวินซวงหลั่งน้ำตาอย่างคับข้องใจ “พระชายา… พระชายาไม่เพียงแต่บอกว่าข้ายั่วยวนท่านอ๋องเท่านั้น แต่ยังบอกว่าข้าอยากจะบีบให้นางออกไปอีก! ข้า… ข้ามิยอมรับการกล่าวหาจอมปลอมนี้!”“ฮือ ๆ… ข้ามิใช่ข้ารับใช้ของตำหนักอ๋องอี้ เหตุใดข้าจะต้องมารับความโกรธนี้ด้วย!”ชิวเหวินซวงปาดน้ำตา ขณะแสดงท่าทีต่อหลิงอวี๋จากมุมที่จ้าวซวนและลู่หนานไม่สามารถมองเห็นได้ยังไม่ทันที่หลิงอวี๋จะพูดอะไร ลู่หนานที่นึกถึงความสบายใจของเซียวหลินเทียนก็เอ่ยขึ้นมาอย่างหุนหันพลันแล่น“พระชายา