Share

บทที่ 330

Author: กานเฟย
รอก่อนเถอะ!

ชิวเหวินซวงกำลังคิดจะขู่หลิงอวี๋อีก ก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากข้างนอก

นางเปลี่ยนเป็นใบหน้าโศกเศร้าทันที พลางเอ่ยเสียงสะอื้น

“พระชายา ท่านพูดเช่นนี้กับข้าได้เยี่ยงไร! ข้าก็เป็นห่วงท่านอ๋องเหมือนกัน…”

หลิงอวี๋ตะลึงเล็กน้อย คนที่หยิ่งผยองเมื่อครู่ กลายเป็นเช่นนี้ในพริบตาได้เยี่ยงไร?

นางกำลังคิดจะด่ากลับแต่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าก่อน

หลิงอวี๋พูดไม่ออกไปทันที เกรงว่าชิวเหวินซวงกำลังแสดงอยู่สินะ!

“พระชายา... เหวินซวง เกิดอะไรขึ้น?”

จ้าวซวนกับลู่หนานเดินเข้ามาด้วยกัน

“พี่จ้าว ต่อไปข้าจักมิจัดการเรื่องของตำหนักอ๋องอี้แล้ว!”

ชิวเหวินซวงหลั่งน้ำตาอย่างคับข้องใจ “พระชายา… พระชายาไม่เพียงแต่บอกว่าข้ายั่วยวนท่านอ๋องเท่านั้น แต่ยังบอกว่าข้าอยากจะบีบให้นางออกไปอีก! ข้า… ข้ามิยอมรับการกล่าวหาจอมปลอมนี้!”

“ฮือ ๆ… ข้ามิใช่ข้ารับใช้ของตำหนักอ๋องอี้ เหตุใดข้าจะต้องมารับความโกรธนี้ด้วย!”

ชิวเหวินซวงปาดน้ำตา ขณะแสดงท่าทีต่อหลิงอวี๋จากมุมที่จ้าวซวนและลู่หนานไม่สามารถมองเห็นได้

ยังไม่ทันที่หลิงอวี๋จะพูดอะไร ลู่หนานที่นึกถึงความสบายใจของเซียวหลินเทียนก็เอ่ยขึ้นมาอย่างหุนหันพลันแล่น

“พระชายา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 331

    หลิงอวี๋พูดจบก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำร้อนที่หลิงซวนนำมาแล้วประคบร้อนบนหน้าตัวเองน้ำร้อนเปิดรูขุมขนนาง หลิงอวี๋จึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นบ้างนางเช็ดหน้าสะอาดแล้วเอ่ยถาม “พี่ใหญ่จ้าว ทุกอย่างเป็นเยี่ยงไรบ้างรึ?”จ้าวซวนด้วยใจห่วงความปลอดภัยของท่านอ๋อง พูดตรง ๆ ว่า“ข้าให้คนติดประกาศทุกแห่งแล้ว ถ้ามีข่าวจะรายงานพระชายาเอง!”“อือ แต่เรามิอาจหวังแค่มุกตะขาบฟ้าอย่างเดียวได้ยังต้องคิดทางหาวิธีอื่นด้วย!”ทั้งสองคุยกันโดยไม่สนใจชิวเหวินซวงที่แสร้งน้อยใจอยู่ข้าง ๆลู่หนานรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย คิดว่าตนอยู่ต่อก็ไม่ได้ช่วยอะไร จึงดึงชิวเหวินซวงที่กำลังปาดน้ำตาออกไปชิวเหวินซวงเก็บงำความแค้น นางแพ้แล้วรอบนี้ชัดเจนว่าจ้าวซวนฟังแค่คำพูดของหลิงอวี๋นางจะเป็นเช่นนี้ต่อไปมิได้จักต้องพาชิวเฮ่ากลับมา!ขณะนี้เองหลู่ชิ่งเดินเข้ามารายงานอย่างรีบร้อน“พระชายา… ในวังส่งคนมาเยี่ยมเยียนท่านอ๋องขอรับ!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินก็จำต้องออกไปกับจ้าวซวน แต่ละคนที่มาเยี่ยมจะมีสักกี่คนหวังให้เซียวหลินเทียนหายจากใจจริงหรือ?มิใช่มาดูว่าเซียวหลินเทียนตายหรือยังหรอกหรือ!มาคราวนี้เป็นขันทีเซี่ย หมอหลวงจางก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 332

    “ขันทีเซี่ย ท่านอ๋องรับกระบี่มากโขจริง ทุกดาบหมายคร่าชีวิต!”“คนบงการเบื้องหลังจะเหี้ยมเกินไปแล้ว! วางพิษใส่ท่านอ๋องได้ลงคอ!”“แม้หลิงอวี๋เป็นหมอ แต่หลิงอวี๋ก็จนปัญญารักษาพิษเหล่านี้!”หลิงอวี๋แนะอาการของเซียวหลินเทียนให้ขันทีเซี่ยตาขันทีเซี่ยกะพริบเล็กน้อยชายมองหมอหลวงจางด้วยสีหน้าไร้อารมณ์หลิงอวี๋นึกถึงในฉับพลัน หมอหลวงจางยังไม่ได้คุกเข่าขออภัยที่ตลาดตามเดิมพัน เขายังมีหน้ามาตำหนักอ๋องอี้ได้อย่างไร?หรือว่าองค์ชายคังไม่เชื่อว่าเซียวหลินเทียนถูกพิษเลยเจาะจงให้หมอหลวงจางมาพิสูจน์หรือ?ช่างเถอะ!หากให้องค์ชายเว่ยรู้ว่าเซียวหลินเทียนถูกพิษจริง แล้วยืมปากเขาเผยแพร่ไป อาจลดระดับความสนใจของพวกเขาต่อเซียวหลินเทียนได้ให้เวลาตนทุ่มเทรักษา!“ถังถีเตี่ยน เจ้าดูออกไหมว่าคือพิษอันใด?”หลิงอวี๋เห็นถังถีเตี่ยนลุกขึ้นพลันรีบเอ่ยถามถังถีเตี่ยนส่ายศีรษะ “ตัวข้าไม่เคยพบพิษแบบนี้มาก่อน! ขออภัยพระชายา ข้าจนปัญญาขอรับ!”“ข้าขอตรวจ!”หมอหลวงจางรอไม่ไหวพลางนั่งลงตรวจชีพจรเซียวหลินเทียนฉับไวหลิงอวี๋ไม่วางใจหมอหลวงจาง จ้องการกระทำของเขาตลอดหวั่นเขาแอบวางกลใส่เซียวหลินเทียนโชคดีที่หมอหลวงจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 333

    ปี้ไห่เฟิงยิ้มขมขื่นกล่าวว่า “ข้าเคยมีเหล่าพี่น้องที่สืบถามข่าวได้เก่งนัก… เพียงแต่ข้าขัดสน มิมีเงินให้สินบนพวกเขา…”“พี่ใหญ่ปี้ รอข้าประเดี๋ยว!”หลิงอวี๋เข้าห้องเร็วทันควันพลางหยิบตั๋วเงินหนึ่งแสนตำลึงออกจากมิตินางหยิบมายัดให้ปี้ไห่เฟิงหมดเกลี้ยง “พี่ใหญ่ปี้ งั้นขอรบกวนเจ้าแล้ว! ช่วยข้าสืบถามข่าวให้เร็วที่สุดเถิด!”เมื่อปี้ไห่เฟิงดูเงินมากมายที่หลิงอวี๋ให้ตนก็รีบยัดกลับคืนครึ่งหนึ่ง“พระชายา มิใช้มากปานนี้ ครึ่งเดียวก็พอแล้วขอรับ!”หลิงอวี๋ยังยัดตั๋วเงินให้เขา “พี่ใหญ่ปี้รับเถิด ออกทำธุระข้างนอกไม่มีเงินจักมิสะดวก! ยังไงก็ควรให้สินบนเจ้าไปสืบถามข้าขอแค่ผลลัพธ์!”ปี้ไห่เฟิงชายมองหลิงอวี๋ลึกซึ้ง นำตั๋วเงินซ่อนในอกเสื้อแล้วจากไปเมื่อหลิงซวนเห็นฉากนี้ก็กระซิบว่า “พระชายา ท่านเชื่อใจคนง่ายเพียงนี้ได้เช่นไรเจ้าคะ!”“นั่นเป็นเงินก้อนใหญ่นัก! ท่านมิกลัวเขาเอาเงินแล้วชิ่งไปหรือ?”หลิงอวี๋ตอบหนักแน่น “พี่ใหญ่ปี้มิใช่คนแบบนั้น! จะใช้คนอย่าระแวงถ้าระแวงก็อย่าใช้ ข้าเชื่อใจเขา!”ขณะทั้งคู่กำลังคุยกัน จ้าวซวนกับลู่หนานก็วิ่งเข้ามา“พระชายา ได้ข่าวมุกตะขาบฟ้าแล้วขอรับ… มีคนบอกที่อยู่มั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 334

    ครั้นถึงหน้าตำหนักองค์ชายเว่ย จ้าวซวนส่งไพ่(1)ให้คนเฝ้าประตู เอ่ยเสียงทุ้ม“รบกวนทูลช่วยเราหน่อยว่า พระชายาอ๋องอี้แห่งตำหนักอ๋องอี้ขอเข้าเฝ้าองค์ชายเว่ย!”คนเฝ้าประตูมองไพ่กล่าวเย็นชาว่า “องค์ชายของเราเสด็จไปออกแต่เช้า! ยังมิเสด็จกลับตำหนักเลย!”จ้าวซวนส่งยิ้มกล่าว “องค์ชายเว่ยไปที่ใดแล้วเล่า?”คนเฝ้าประตูพูดเหลืออดว่า “ผู้น้อยเป็นแค่คนเฝ้าประตู องค์ชายไปที่ใด ผู้น้อยจะหารู้ไม่?”“พวกเจ้าหมายขอเข้าเฝ้าองค์ชายก็อยู่คอยเถิด!”จ้าวซวนทำได้แค่กลับมาแจ้งหลิงอวี๋ หลังหลิงอวี๋ฟังก็ยิ้มหยัน“จ้าวซวน เจ้าส่งคนไปสืบถามว่าองค์ชายเว่ยออกไปจริงแน่หรือไม่ และไปที่ใด!”จ้าวซวนเข้าใจความคิดของหลิงอวี๋ทันที เขาผงกศีรษะพลางรีบพาคนไปสืบถามข่าวในไม่ช้า จ้าวซวนก็พาคนกลับมาส่ายหน้าต่อหลิงอวี๋กล่าวว่า“พระชายา เราถามคนละแวกนี้แล้วขอรับ วันนี้ไม่มีใครเห็นองค์ชายเว่ยออกจากตำหนัก!”“แม้แต่โรงน้ำชา โรงเหล้าที่พระองค์ทรงไปบ่อยก็ไม่เห็นเหมือนกันขอรับ!”ลู่หนานอดพูดมิได้ “องค์ชายเว่ยอยู่ตำหนักเป็นแน่ นี่คงเจตนากลั่นแกล้งพวกเรา!”หลิงอวี๋ไม่พูดจา แม้รู้ชัดว่าองค์ชายเว่ยอยู่ตำหนักและเขาหมายกลั่นแกล้ง หร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 335

    ชิวเหวินซวงหน้าแดงจรดใบหูต่อวาจาหลิงซวนพลางมองถลึงหลิงซวนเดือลดาล เพิ่งคิดด่ากลับก็พลันถูกลู่หนานดึกไปเสียแล้ว“หลิงซวน เหวินซวงเป็นห่วงท่านอ๋องเหมือนกัน!”ปัญหาสถานะที่ฟังหลิงซวนเอ่ยถึง ลู่หนานกลัวชิวเหวินซวงเสียหายจึงพูดไกล่เกลี่ยมั่ว ๆ“พวกเราทะเลาะกัน! ถ้าคนข้างนอกได้ยินเข้าแล้วมองตำหนักอ๋องอี้ขบขันจะทำยังไง?”หลิงซวนกลอกตาใส่ลู่หนานวันนี้ลู่นานทำอะไรล้วนไม่เข้าตา นางเห็นลู่หนานดึงชิวเหวินซวงไปข้างหลังยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตานักคนอย่างชิวเหวินซวงยังจำต้องปกป้องงั้นรึ?หลิงซวนกลับไปข้างกายหลิงอวี๋ฮึดฮัด โดยอดเสียงพึมพำมิได้“กิริยาดั่งปีศาจจิ้งจอกดูแล้วทำคนสะเอียนนัก! มิรู้จริง ๆ ไฉนยังมีบางคนตาบอดช่วยเข้าข้างนาง!”หลิงอวี๋เคยประสบพฤติกรรมตีสองหน้าของชิวเหวินซวงแล้วจึงมิแปลกใจเลยนางปลอบหลิงซวนสองประโยคแล้วขบคิดแผนรับมือต่อเมื่อรออีกครึ่งชั่วยาม ดวงอาทิตย์สาดส่องจนหลิงอวี๋พร่าเลือน ทว่าตำหนักองค์ชายเว่ยยังเงียบกริบ หรือว่าแผนตนจะไม่ได้ผล?ชิวเหวินซวงอดกล่าวเยาะเย้ยมิได้ “พระชายาอ๋องอี้ ดูเหมือนการยั่วยุนี้ของท่านจะไม่เป็นผล!”เสียงพูดยังไม่ทันสิ้น คนเฝ้าประตูที่ตำหนักองค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 336

    หานหลินมองท่าทางขมขื่นพูดไม่ออกของพวกเขาอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องพลางยิ้มเหยียดตำหนักอ๋องอี้คิดยืมคำติฉินภายนอกบีบคั้นองค์ชายของพวกเขายอมจำนน?หากหานหลินพังแผนจิ๊บจ๊อยนี้มิได้ นั่นคงมิคู่ควรเป็นที่ปรึกษาอันดับหนึ่งขององค์ชายเว่ยแล้วกระมัง!หานหลินสะบัดพัดคลี่บนมือเบา ๆ คิดหาเก้าอี้มางีบหลับเป็นเพื่อนองค์ชายเว่ย จากนั้นก็เพลิดเพลินกับท่าทีลำบากลำบนของคนเหล่านี้เสีย!“คุณชายท่านนี้ควรเรียกว่ากระไร?”หลิงอวี๋เอ่ยถามกะทันหัน“ข้าแซ่หาน!”หานหลินชายมองหลิงอวี๋พลางพูดเหลืออด “อย่าคุย! รบกวนองค์ชายของเรา เขาบรรทมมิพอจะกริ้วเอาได้ขอรับ!”หลิงอวี๋ลากเสียงยาว “อ้อ… เสด็จพี่ใหญ่ทรงเพลียมากนัก!”“อา เสด็จพ่อนี่จริง ๆ เลย หากิจราชการมากหลายปานนี้ให้เสด็จพี่ใหญ่จัดการได้เช่นไรกัน!”“กลับไปข้าต้องพูดคุยกับเสด็จพ่อให้กระจ่าง ขออย่าให้เสด็จพี่ใหญ่ทรงงานมากเพียงนี้ มิฉะนั้นสุขภาพเสด็จพี่ใหญ่ทรุดโทรมได้!”เมื่อจ้าวซวนได้ยินก็แอบหัวเราะในใจ นับถือความปราดเปรื่องมุกนี้ของหลิงอวี๋นักหานหลินโกรธจนหน้ากระตุกรีบฉุดชายเสื้อองค์ชายเว่ยแน่น ส่งสัญญาณให้เขาเลิกแกล้งหลับชัดเจนว่ามุกนี้ใช้มิได้ผล!หากหล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 337

    องค์ชายเว่ยสั่นขาพลางมองรองเท้าหุ้มข้อตนมีจุดสกปรกก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ทันใด“เป็นพวกเจ้าพูดเองหนา! ว่าทำอะไรย่อมได้! อย่าว่าตัวข้ากลั่นแกล้งพวกเจ้าแล้วกัน!”“เห็นหรือไม่ว่ารองเท้าตัวข้าสกปรก! มาช่วยข้าทำความสะอาดซิ!”เพื่อแสดงจิตใจซื่อสัตย์ ชิวเหวินซวงก้าวไปข้างหน้าทันทีแม้ลู่หนานจะรู้สึกว่ามิเหมาะก็ไม่ได้รั้งนางไว้หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ ถึงชิวเหวินซวงต้องขายหน้าก็มิคิดยั้งนางไว้เหมือนกันลู่หนานกับจ้าวซวนมองเรื่องที่ไร้ศักดิ์ศรีประเภทนี้ว่าทำไปแล้วจะได้อะไร!เมื่อองค์ชายเว่ยเห็นคนที่เดินมาแต่งตัวเป็นนางรับใช้ก็ยิ้มเยาะกล่าวว่า“ผู้ใดว่าให้เจ้ามา เจ้านับเป็นสิ่งของกระไร? ไสหัวไป…”“พระชายาอ๋องอี้ มิใช่เจ้าอ้อนวอนตัวข้ารึ? เจ้ามา!”“คุกเข่าช่วยตัวข้าถอดรองเท้าทำความสะอาดซะ แล้วข้าจะให้เจ้ายืมใช้มุกตะขาบฟ้า!”เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออก หลิงอวี๋โกรธเกรี้ยวฉับพลันแค่จัดการสิ่งสกปรกบนรองเท้าก็รู้สึกอัปยศเกินพอแล้ว!องค์ชายเว่ยยังกล้าเพิ่มเงื่อนไขคุกเข่าด้วย นางไม่เห็นพ้องต่อความอัปยศอดสูเช่นนี้อันขาด!“พวกเรากลับ!”หลิงอวี๋ตะโกนดุเดือดหันหน้าหมายไปชิวเหวินซวงกลับพูดประโยคหนึ่งอย่างใสซื่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 338

    จ้าวซวนตกใจกับคำพูดหลิงอวี๋ครู่หนึ่งแล้วถามฉงน“พระชายา ท่านรู้ว่าองค์ชายเว่ยไม่มีมุกตะขาบฟ้าได้เช่นไร?”หลิงอวี๋หัวเราะเย็นชา มองเย้ยองค์ชายเว่ยที่ท่าทีแข็งค้างในพริบตา“ข้อแรก พี่ใหญ่จ้าว เจ้ามิรู้สึกว่าบังเอิญเกินไปรึ? พวกเราเพิ่งตามหามุกตะขาบฟ้าแล้วก็มีคนพูดทันทีว่าองค์ชายเว่ยมี!”“นี่มิใช่องค์ชายเว่ยวางอุบายล่อพวกเราเข้าเรือนหรือไร?”“เขาหมายให้เรายอมทำทุกอย่างเพื่อขอมุกตะขาบฟ้าจึงวางหลุมพรางนี้!”หลิงอวี๋ปรายจ้องหานหลินเหี้ยม สมองหมู ๆ ขององค์ชายเว่ยคงคิดแผนแยบยลแบบนี้มิได้ เป็นหานหลินคิดแผนนี้แน่ ๆ!นางจะจำบัญชีนี้ไว้!หานหลินผู้นี้ทำนางเลือดขึ้นหน้าได้จริง!นางจะให้เขาต้องชดใช้แน่!หลิงอวี๋จ้องหานหลินจนรู้สึกขนลุกขนชัน สายตาสตรีผู้นี้ดุดันเกินไป รัศมีข่มขวัญทำคนกดดันล้นหลาม!“ข้อสอง นั่นคือหลักฐานที่หักล้างมิได้…”หลิงอวี๋หัวร่อเยาะเอ่ยว่า “จักเป็นนักต้มตุ๋นก็เป็นให้มืออาชีพหน่อย! แม้แต่มุกตะขาบฟ้าคืออันใดก็มิเข้าใจ จักกล้าว่าตนมี!”หลิงอวี๋มองจ้าวซวนกับคนอื่น ๆ ที่ยังสีหน้าสับสนจึงกล่าวอย่างอดทน“ข้าบอกขอยืมใช้มุกตะขาบฟ้าถอนพิษให้ท่านอ๋องแล้วส่งคืนองค์ชายเว่ย!”

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1893

    เมื่อครอบครัวของเจี่ยงหัวกลับมาที่เรือ พวกเขาก็พบศพไร้หัวในห้องของเขา มีคราบเลือดยาวบนผนังไม้ของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกสลักด้วยกระบี่อาบเลือด“จุดจบของคนทรยศ!”ครอบครัวของเจี่ยงหัวตกใจกลัวมากจนสละเรือและหนีไปในคืนนั้นพวกเขามิรู้ว่าที่จริงแล้วเซียวหลินเทียนมิคิดจะเอาผิดพวกเขา ทุกคนควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และการสังหารเจี่ยงหัวนั้นก็เพียงพอแล้วเซียวหลินเทียนส่งศีรษะของเจี่ยงหัวให้สือหรง ทันใดนั้นสือหรงก็ร้องไห้เศร้าโศกและนำศีรษะของเจี่ยงหัวไปเซ่นให้กับครอบครัวของตนหลังจากนั้น สือหรงก็กระทำการบางอย่าง เขาเขียนจดหมายเลือดเรื่องที่เจี่ยงหัวสมคบคิดกับมหาปราชญ์สังหารเหล่าศิษย์ของตำหนักปีกเงิน และคัดลอกสำเนาไปหลายสิบฉบับภายในคืนเดียววันรุ่งขึ้น ที่ประตูเมืองในพื้นที่นั้นมีพ่อค้าจำนวนมากกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง แล้วก็มีคนพบศีรษะของเจี่ยงหัวที่แขวนอยู่บนกำแพงเมือง และยังมีจดหมายเลือดที่สือหรงเป็นคนเขียน ซึ่งเขียนประณามความผิดของเจี่ยงหัวขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็มีจดหมายเลือดมากมายปลิวลงมาจากกำแพงเมืองทันใดนั้นความผิดฐานทรยศอาจารย์และสมคบคิดกับมหาปราชญ์ของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1892

    หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น หลิงอวี๋ก็คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วสารพัดและสังหารผู้คนเป็นผักปลาแต่หลิงอวี๋กลับมิรู้เลยว่ามหาปราชญ์เป็นผู้สั่งให้คนบิดเบือนและแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปหลังจากที่เขากลับไปถึงเมืองหลวงแดนเทพเซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินนั้นคนหนึ่งทำให้มหาปราชญ์ตาบอด และอีกคนก็ตัดแขนข้างหนึ่งของมหาปราชญ์ มหาปราชญ์จะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรหากเขามิแก้แค้น!เขาทำให้เซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินเสียชื่อเสียงและทำให้ผู้คนทั่วหล้าลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา ส่วนมหาปราชญ์ใช้โอกาสนี้พักฟื้นและหาโอกาสเหมาะเพื่อช่วงชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคือ กระบี่คุณอู่ของเซียวหลินเทียนอีกครั้งมหาปราชญ์มิได้บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบกระบี่อายุนับพันปีเล่มนี้ ด้วยคิดว่ากระบี่เล่มนี้เป็นของตน จึงมิอยากให้ใครมาแย่งชิงมันไปการแพร่กระจายข่าวลือเป็นหนึ่งในอุบายของมหาปราชญ์ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและป้องกันมิให้เขาพบกับเหล่าศิษย์จากตำหนักปีกเงินซึ่งเป็นไปตามคาดว่าข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปยังวงกว้างด้วยความรวดเร็วบรรดาศิษย์ตำหนักปีกเงินบางส่วนที่กระจายอยู่ตามสถาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1891

    ผู้รอบรู้ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เมื่อไรกันที่เขาได้รับความเชื่อใจจากใครบางคนมากมายถึงเพียงนี้!หลิงอวี๋พูดไปตามตรง “พี่ใหญ่ มีเรื่องบางอย่างที่ตอนนี้ข้ายังบอกท่านมิได้ มิใช่ว่าข้ามิไว้ใจท่าน แต่หากพูดไปแล้วมันอาจสร้างปัญหามากมายให้ท่านได้!”“เชื่อใจข้าเถิด สักวันข้าจะเล่าให้ท่านฟังทุกอย่าง!”ผู้รอบรู้มองตั๋วเงินในมือของตนพลางพูดอย่างใจกว้างว่า “ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง หากเจ้ามิอยากพูดก็มิต้องพูดหรอก พี่ใหญ่เชื่อใจเจ้า!”หลิงอวี๋ถึงกับยอมมอบของมีค่าทั้งหมดให้กับตนเช่นนี้ แม้จะมีความลับปิดบังต่อตนผู้รอบรู้ก็ย่อมยอมรับได้ขอแค่เขาเชื่อใจว่าหลิงอวี๋ไม่มีเจตนาร้ายก็พอแล้วสองพี่น้องพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน ต่อมาในวันรุ่งขึ้นที่ฟ้ายังมิสว่าง ผู้รอบรู้ก็รีบรุดไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคันโชคดีที่รถม้าเพิ่งส่งผู้โดยสารเพื่อขึ้นเรือไป ผู้รอบรู้จึงได้เช่ารถม้ามาในราคาสิบตำลึงส่วนหลิงอวี๋นั้นเพิ่งตื่น และผู้รอบรู้ก็วิ่งเข้ามาเคาะประตูด้วยความลิงโลด “น้องชาย รีบลุกเถิด พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว! รถม้ากำลังรออยู่ข้างนอก”หลิงอวี๋รีบอาบน้ำแต่งตัวและแบกห่อผ้าของตนออกมา ผู้รอบรู้ยัดถุงกระดาษไขใบห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1890

    ผู้รอบรู้พูดมิออกแล้ว หลิงอวี๋มิรู้อะไรเลย แล้วจะจ่ายยาที่ถูกต้องได้อย่างไร!“พี่สิง ข้าอยากรู้มากว่าท่านรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าผู้รอบรู้ลำบากใจ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”ใบหน้าของผู้รอบรู้กระตุก เขาหันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง เมื่อก่อนข้าเป็นคนของตำหนักปีกเงิน ข้าเป็นคนของเจี่ยงฮั๋วผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา เมื่อสองปีก่อนข้าทำงานพลาดไป ทำให้เจี่ยงฮั๋วโกรธ เขาจึงไล่ข้าออกจากตำหนักปีกเงิน!”“ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังคิดจะหาโอกาสขอพบท่านเจ้าตำหนักเก่า แล้วกลับไปที่ตำหนักปีกเงินอีกครั้ง แต่ตอนนี้ตำหนักปีกเงินเสื่อมโทรมลงไปแล้ว ได้ยินว่าเจ้าตำหนักเก่าป่วยหนักและมิรับงานแล้ว ข้าจึงได้เร่ร่อนอยู่ข้างนอกตลอดเช่นนี้!”“คนที่ออกมาจากตำหนักปีกเงินล้วนเก่งในการสืบหาข้อมูล แม้ว่าข้าจะออกจากตำหนักปีกเงินไปแล้ว แต่ข้าก็เคยชินกับสัญชาตญาณนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่ใจกับข้อมูลแต่ละประเภทมาก อยากจะรู้มากแค่ไหนก็มิยาก!”หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าผู้รอบรู้ก็เป็นคนที่มีภูมิหลังเช่นก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status