แชร์

บทที่ 334

ผู้เขียน: กานเฟย
ครั้นถึงหน้าตำหนักองค์ชายเว่ย จ้าวซวนส่งไพ่(1)ให้คนเฝ้าประตู เอ่ยเสียงทุ้ม

“รบกวนทูลช่วยเราหน่อยว่า พระชายาอ๋องอี้แห่งตำหนักอ๋องอี้ขอเข้าเฝ้าองค์ชายเว่ย!”

คนเฝ้าประตูมองไพ่กล่าวเย็นชาว่า “องค์ชายของเราเสด็จไปออกแต่เช้า! ยังมิเสด็จกลับตำหนักเลย!”

จ้าวซวนส่งยิ้มกล่าว “องค์ชายเว่ยไปที่ใดแล้วเล่า?”

คนเฝ้าประตูพูดเหลืออดว่า “ผู้น้อยเป็นแค่คนเฝ้าประตู องค์ชายไปที่ใด ผู้น้อยจะหารู้ไม่?”

“พวกเจ้าหมายขอเข้าเฝ้าองค์ชายก็อยู่คอยเถิด!”

จ้าวซวนทำได้แค่กลับมาแจ้งหลิงอวี๋ หลังหลิงอวี๋ฟังก็ยิ้มหยัน

“จ้าวซวน เจ้าส่งคนไปสืบถามว่าองค์ชายเว่ยออกไปจริงแน่หรือไม่ และไปที่ใด!”

จ้าวซวนเข้าใจความคิดของหลิงอวี๋ทันที เขาผงกศีรษะพลางรีบพาคนไปสืบถามข่าว

ในไม่ช้า จ้าวซวนก็พาคนกลับมาส่ายหน้าต่อหลิงอวี๋กล่าวว่า

“พระชายา เราถามคนละแวกนี้แล้วขอรับ วันนี้ไม่มีใครเห็นองค์ชายเว่ยออกจากตำหนัก!”

“แม้แต่โรงน้ำชา โรงเหล้าที่พระองค์ทรงไปบ่อยก็ไม่เห็นเหมือนกันขอรับ!”

ลู่หนานอดพูดมิได้ “องค์ชายเว่ยอยู่ตำหนักเป็นแน่ นี่คงเจตนากลั่นแกล้งพวกเรา!”

หลิงอวี๋ไม่พูดจา แม้รู้ชัดว่าองค์ชายเว่ยอยู่ตำหนักและเขาหมายกลั่นแกล้ง หร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 335

    ชิวเหวินซวงหน้าแดงจรดใบหูต่อวาจาหลิงซวนพลางมองถลึงหลิงซวนเดือลดาล เพิ่งคิดด่ากลับก็พลันถูกลู่หนานดึกไปเสียแล้ว“หลิงซวน เหวินซวงเป็นห่วงท่านอ๋องเหมือนกัน!”ปัญหาสถานะที่ฟังหลิงซวนเอ่ยถึง ลู่หนานกลัวชิวเหวินซวงเสียหายจึงพูดไกล่เกลี่ยมั่ว ๆ“พวกเราทะเลาะกัน! ถ้าคนข้างนอกได้ยินเข้าแล้วมองตำหนักอ๋องอี้ขบขันจะทำยังไง?”หลิงซวนกลอกตาใส่ลู่หนานวันนี้ลู่นานทำอะไรล้วนไม่เข้าตา นางเห็นลู่หนานดึงชิวเหวินซวงไปข้างหลังยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตานักคนอย่างชิวเหวินซวงยังจำต้องปกป้องงั้นรึ?หลิงซวนกลับไปข้างกายหลิงอวี๋ฮึดฮัด โดยอดเสียงพึมพำมิได้“กิริยาดั่งปีศาจจิ้งจอกดูแล้วทำคนสะเอียนนัก! มิรู้จริง ๆ ไฉนยังมีบางคนตาบอดช่วยเข้าข้างนาง!”หลิงอวี๋เคยประสบพฤติกรรมตีสองหน้าของชิวเหวินซวงแล้วจึงมิแปลกใจเลยนางปลอบหลิงซวนสองประโยคแล้วขบคิดแผนรับมือต่อเมื่อรออีกครึ่งชั่วยาม ดวงอาทิตย์สาดส่องจนหลิงอวี๋พร่าเลือน ทว่าตำหนักองค์ชายเว่ยยังเงียบกริบ หรือว่าแผนตนจะไม่ได้ผล?ชิวเหวินซวงอดกล่าวเยาะเย้ยมิได้ “พระชายาอ๋องอี้ ดูเหมือนการยั่วยุนี้ของท่านจะไม่เป็นผล!”เสียงพูดยังไม่ทันสิ้น คนเฝ้าประตูที่ตำหนักองค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 336

    หานหลินมองท่าทางขมขื่นพูดไม่ออกของพวกเขาอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องพลางยิ้มเหยียดตำหนักอ๋องอี้คิดยืมคำติฉินภายนอกบีบคั้นองค์ชายของพวกเขายอมจำนน?หากหานหลินพังแผนจิ๊บจ๊อยนี้มิได้ นั่นคงมิคู่ควรเป็นที่ปรึกษาอันดับหนึ่งขององค์ชายเว่ยแล้วกระมัง!หานหลินสะบัดพัดคลี่บนมือเบา ๆ คิดหาเก้าอี้มางีบหลับเป็นเพื่อนองค์ชายเว่ย จากนั้นก็เพลิดเพลินกับท่าทีลำบากลำบนของคนเหล่านี้เสีย!“คุณชายท่านนี้ควรเรียกว่ากระไร?”หลิงอวี๋เอ่ยถามกะทันหัน“ข้าแซ่หาน!”หานหลินชายมองหลิงอวี๋พลางพูดเหลืออด “อย่าคุย! รบกวนองค์ชายของเรา เขาบรรทมมิพอจะกริ้วเอาได้ขอรับ!”หลิงอวี๋ลากเสียงยาว “อ้อ… เสด็จพี่ใหญ่ทรงเพลียมากนัก!”“อา เสด็จพ่อนี่จริง ๆ เลย หากิจราชการมากหลายปานนี้ให้เสด็จพี่ใหญ่จัดการได้เช่นไรกัน!”“กลับไปข้าต้องพูดคุยกับเสด็จพ่อให้กระจ่าง ขออย่าให้เสด็จพี่ใหญ่ทรงงานมากเพียงนี้ มิฉะนั้นสุขภาพเสด็จพี่ใหญ่ทรุดโทรมได้!”เมื่อจ้าวซวนได้ยินก็แอบหัวเราะในใจ นับถือความปราดเปรื่องมุกนี้ของหลิงอวี๋นักหานหลินโกรธจนหน้ากระตุกรีบฉุดชายเสื้อองค์ชายเว่ยแน่น ส่งสัญญาณให้เขาเลิกแกล้งหลับชัดเจนว่ามุกนี้ใช้มิได้ผล!หากหล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 337

    องค์ชายเว่ยสั่นขาพลางมองรองเท้าหุ้มข้อตนมีจุดสกปรกก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ทันใด“เป็นพวกเจ้าพูดเองหนา! ว่าทำอะไรย่อมได้! อย่าว่าตัวข้ากลั่นแกล้งพวกเจ้าแล้วกัน!”“เห็นหรือไม่ว่ารองเท้าตัวข้าสกปรก! มาช่วยข้าทำความสะอาดซิ!”เพื่อแสดงจิตใจซื่อสัตย์ ชิวเหวินซวงก้าวไปข้างหน้าทันทีแม้ลู่หนานจะรู้สึกว่ามิเหมาะก็ไม่ได้รั้งนางไว้หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ ถึงชิวเหวินซวงต้องขายหน้าก็มิคิดยั้งนางไว้เหมือนกันลู่หนานกับจ้าวซวนมองเรื่องที่ไร้ศักดิ์ศรีประเภทนี้ว่าทำไปแล้วจะได้อะไร!เมื่อองค์ชายเว่ยเห็นคนที่เดินมาแต่งตัวเป็นนางรับใช้ก็ยิ้มเยาะกล่าวว่า“ผู้ใดว่าให้เจ้ามา เจ้านับเป็นสิ่งของกระไร? ไสหัวไป…”“พระชายาอ๋องอี้ มิใช่เจ้าอ้อนวอนตัวข้ารึ? เจ้ามา!”“คุกเข่าช่วยตัวข้าถอดรองเท้าทำความสะอาดซะ แล้วข้าจะให้เจ้ายืมใช้มุกตะขาบฟ้า!”เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออก หลิงอวี๋โกรธเกรี้ยวฉับพลันแค่จัดการสิ่งสกปรกบนรองเท้าก็รู้สึกอัปยศเกินพอแล้ว!องค์ชายเว่ยยังกล้าเพิ่มเงื่อนไขคุกเข่าด้วย นางไม่เห็นพ้องต่อความอัปยศอดสูเช่นนี้อันขาด!“พวกเรากลับ!”หลิงอวี๋ตะโกนดุเดือดหันหน้าหมายไปชิวเหวินซวงกลับพูดประโยคหนึ่งอย่างใสซื่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 338

    จ้าวซวนตกใจกับคำพูดหลิงอวี๋ครู่หนึ่งแล้วถามฉงน“พระชายา ท่านรู้ว่าองค์ชายเว่ยไม่มีมุกตะขาบฟ้าได้เช่นไร?”หลิงอวี๋หัวเราะเย็นชา มองเย้ยองค์ชายเว่ยที่ท่าทีแข็งค้างในพริบตา“ข้อแรก พี่ใหญ่จ้าว เจ้ามิรู้สึกว่าบังเอิญเกินไปรึ? พวกเราเพิ่งตามหามุกตะขาบฟ้าแล้วก็มีคนพูดทันทีว่าองค์ชายเว่ยมี!”“นี่มิใช่องค์ชายเว่ยวางอุบายล่อพวกเราเข้าเรือนหรือไร?”“เขาหมายให้เรายอมทำทุกอย่างเพื่อขอมุกตะขาบฟ้าจึงวางหลุมพรางนี้!”หลิงอวี๋ปรายจ้องหานหลินเหี้ยม สมองหมู ๆ ขององค์ชายเว่ยคงคิดแผนแยบยลแบบนี้มิได้ เป็นหานหลินคิดแผนนี้แน่ ๆ!นางจะจำบัญชีนี้ไว้!หานหลินผู้นี้ทำนางเลือดขึ้นหน้าได้จริง!นางจะให้เขาต้องชดใช้แน่!หลิงอวี๋จ้องหานหลินจนรู้สึกขนลุกขนชัน สายตาสตรีผู้นี้ดุดันเกินไป รัศมีข่มขวัญทำคนกดดันล้นหลาม!“ข้อสอง นั่นคือหลักฐานที่หักล้างมิได้…”หลิงอวี๋หัวร่อเยาะเอ่ยว่า “จักเป็นนักต้มตุ๋นก็เป็นให้มืออาชีพหน่อย! แม้แต่มุกตะขาบฟ้าคืออันใดก็มิเข้าใจ จักกล้าว่าตนมี!”หลิงอวี๋มองจ้าวซวนกับคนอื่น ๆ ที่ยังสีหน้าสับสนจึงกล่าวอย่างอดทน“ข้าบอกขอยืมใช้มุกตะขาบฟ้าถอนพิษให้ท่านอ๋องแล้วส่งคืนองค์ชายเว่ย!”

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 339

    “เรื่องวันนี้จะปล่อยไปอย่างนี้มิได้!”พอกลับถึงตำหนักอ๋องอี้ จ้าวซวนก็เอ่ยฉุนเฉียว“องค์ชายเว่ยส่งมือสังหารลอบสังหารท่านอ๋อง และตอนนี้วางอุบายล่อเราให้ไปขายขี้หน้าอีก!”“เราต้องเข้าวังกราบทูลองค์จักรพรรดิให้ฝ่าบาทค้ำจุนแทนท่านอ๋อง!”หลิงอวี๋ขบคิดแก้แค้นสักพัก รู้สึกว่าการเข้าวังไม่มีอะไรน่าสนใจทุกสิ่งเกิดขึ้นที่ตำหนักองค์ชายเว่ย ไร้พยานคนนอกอยู่ในเหตุการณ์ องค์ชายเว่ยจึงเถียงข้าง ๆ คู ๆ ได้เต็มที่นางเอาเวลาที่เปิดศึกน้ำลายไปค้นคว้ายาพิษของเซียวหลิวจะดีกว่ายิ่งกว่านั้น นางส่งคนไปทูลในวังแล้ว ไทเฮากับจักรพรรดิต่างรู้เรื่องที่เซียวหลินเทียนถูกพิษ!หากพวกเขาช่วยได้ก็จะช่วยเป็นธรรมดา!แต่พวกเขาช่วยไม่ได้ นั่นก็ต้องพึ่งตัวเอง!“พี่ใหญ่ปี้กลับมาหรือยัง?”หลิงอวี๋ถามหลิงซินหลิงซินส่ายหน้า “ยังเจ้าค่ะ! ส่วนแม่นมลี่ผ่านมาเที่ยวหนึ่งกล่าวว่ามีเรื่องต้องคุยกับคุณหนู ให้คุณหนูกลับเรือนบุหงาสักเที่ยวเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋สับสนเล็กน้อย แม่นมลี่มาหาตนทำไม?นางสั่งหลิงซวนป้อนน้ำเซียวหลินเทียนแล้วไปเรือนบุหงาทันทีเมื่อเข้าเรือนก็เห็นแม่นมลี่กำลังกวาดถูลาน หลิงอวี๋เอ่ยถาม “แม่นม หลิงซินว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 340

    เมื่อหานหลินเห็นพวกหลิงอวี๋ไปแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกทะแม่ง เขาจึงอดพูดมิได้“องค์ชาย เรื่องวันนี้แพร่ออกไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ว่าเราใช้ข่าวเท็จล่อพระชายาอ๋องอี้มาขายหน้า!”“หากพระชายาอ๋องอี้กลืนความอัปยศนี้มิได้ รุดไปทูลสถานการณ์ต่อหน้าไทเฮากับองค์จักรพรรดิจักไม่เอื้อผลต่อท่านนักหนาพ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยหัวเราะเยาะ “ตัวข้าจักต้องกลัวสตรีแค่คนเดียวรึ? หากนางไปฟ้อง ข้าก็มีวิธีจัดการนาง!”หานหลินยังคงหวั่นวิตก ทันใดนั้นความคิดเฉียบแหลมจึงบังเกิดพลันกล่าวว่า“องค์ชาย มิเช่นนั้นท่านเข้าวังประเดี๋ยวนี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“เราทำพระชายาอ๋องอี้อัปยศมิได้ แต่อาจคุมตาเดินเบี้ยนางได้พ่ะย่ะค่ะ!”หานหลินกระซิบกระซาบใกล้ ๆ ข้างหูองค์ชายเว่ยพักหนึ่งองค์ชายเว่ยฟังแล้วตาเป็นประกาย พลันยิ้มเอ่ยว่า “ท่านหาน มุกนี้ของเจ้าปราดเปรื่องยิ่งนัก! ได้ ตัวข้าจะเข้าวังเดี๋ยวนี้แล!”องค์ชายเว่ยให้คนเตรียมรถม้า อารามไปพระราชวังจักรพรรดิกับฮองเฮากำลังพูดคุยเป็นเพื่อนไทเฮาในตำหนักไทเฮา เมื่อได้ยินว่าองค์ชายเว่ยมาไทเฮาก็นึกถึงเรื่องที่แม่นมเว่ยพูดกับตน“ให้เขาเข้ามาเถอะ!”องค์ชายเว่ยรีบเดินเข้ามาและน้อมคารวะไทเฮา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 341

    จักรพรรดิอู่อันเห็นองค์ชายเว่ยกังวลจนน้ำตาแทบตกจึงรู้ว่า องค์ชายเว่ยสิ้นหวังจากการถูกใส่ไคล้เป็นใครโดนบีบส่งของที่ตัวเองไม่มีแบบนี้มิร้อนใจสิแปลก!จักรพรรดิอู่อันพลันเอ่ยกริ้ว“พระชายาช่างไม่รู้จักฟังเหตุผลเสียเลย! แม้จะเป็นห่วงความปลอดภัยขององค์ชายสี่ก็มิควรฝืนใจคน!”“ได้ เรื่องนี้ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจักส่งคนไปช่วยเจ้าพูดให้กระจ่าง!”ไทเฮามองดวงตาแดงก่ำเนื่องร้อนใจขององค์ชายเว่ย ทั้งเห็นจักรพรรดิทรงกริ้ว หวั่นฝ่าบาทพาลใส่หลิงอวี๋จึงกล่าวปลอบ“เยี่ยนเอ๋อร์อย่ากังวล หากไม่มีมุกตะขาบฟ้าเราค่อยหาทางอื่นช่วยน้องเจ้าแล้วกัน!”“ฝ่าบาท พระชายาอ๋องอี้คงเป็นห่วงความปลอดภัยของอ๋องอี้เหมือนกัน จึงใจร้อนไป พวกเจ้าอย่าดุด่านางแรงเถิด!”“ไทเฮา เสด็จพ่อ กระหม่อมมิคิดหยุมหยิมกับสตรี! แม้พระชายาอ๋องอี้จักสับสน แต่ก็เป็นห่วงความปลอดภัยของน้องสี่ถึงหลงกลคนอื่นพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมแค่แค้นคนที่ปล่อยข่าวโคมลอยพวกนั้นมีเจตนาที่ยากจักหยั่งรู้! เสี้ยมความสัมพันธ์ของกระหม่อมกับตำหนักอ๋องอี้พ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยพูดด้วยสัจธรรม “เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ เรื่องก่อนหน้าที่กระหม่อมแย่งฟื้นฟูย่านการค้ากับน้องสี่ เพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 342

    “ฮ่าฮ่า…”ครั้นองค์ชายเว่ยกลับถึงตำหนักองค์ชายเว่ยก็อดหัวร่อครืนใหญ่มิได้“ท่านหาน กลยุทธ์ท่านปราดเปรื่องนัก!”“ตัวข้ามิเพียงทำพระชายาขายหน้าเท่านั้นองค์ชายรองยังเสียหน้าด้วย แถมได้โครงการฟื้นฟูย่านการค้ามาง่าย ๆ !”“รางวัล… ตัวข้าจะให้รางวัลท่านหนัก ๆ อย่างงาม!”หานหลินโค้งกายขอบพระคุณยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยรางวัลจากองค์ชายพ่ะย่ะค่ะ! องค์ชาย นี่มิใช่ผลงานกระหม่อมทั้งหมดเป็นวาสนาขององค์ชายด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยพึงพอใจต่อถ้อยคำนี้จนยิ้มไม่หุบหานหลินแอบถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่ตัวเองมีญาณรู้ล่วงหน้า ชิงให้องค์ชายเว่ยไปพูดให้กระจ่างตัดหน้าพระชายาอ๋องอี้ไปฟ้องร้องด้วยแบบนี้หากพระชายาอ๋องอี้ไปฟ้องร้อง จักรพรรดิอู่อันจะสะเอียนเท่านั้นวาจาเหล่านั้นที่องค์ชายเว่ยพูดต่อฝ่าบาทล้วนเป็นหานหลินสอน มิเอ่ยถึงพระชายาอ๋องอี้อย่างไร้มารยาทสักประโยค แต่กลับเน้นความโอบอ้อมอารีขององค์ชายเว่ย และความผูกพันฉันพี่น้องอันลึกซึ้งหานหลินพอใจกับความอัจฉริยะของตนยิ่งเรื่ององค์ชายเว่ยได้รับโครงการฟื้นฟูย่านการค้าแพร่ถึงตำหนักอ๋องอี้เรียบร้อยจ้าวซวนโกรธจนคันฟันพลางอดบ่นกับหลิงอวี๋มิได้“พระชายา ท่

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status