“ฮ่าฮ่า…”ครั้นองค์ชายเว่ยกลับถึงตำหนักองค์ชายเว่ยก็อดหัวร่อครืนใหญ่มิได้“ท่านหาน กลยุทธ์ท่านปราดเปรื่องนัก!”“ตัวข้ามิเพียงทำพระชายาขายหน้าเท่านั้นองค์ชายรองยังเสียหน้าด้วย แถมได้โครงการฟื้นฟูย่านการค้ามาง่าย ๆ !”“รางวัล… ตัวข้าจะให้รางวัลท่านหนัก ๆ อย่างงาม!”หานหลินโค้งกายขอบพระคุณยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยรางวัลจากองค์ชายพ่ะย่ะค่ะ! องค์ชาย นี่มิใช่ผลงานกระหม่อมทั้งหมดเป็นวาสนาขององค์ชายด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยพึงพอใจต่อถ้อยคำนี้จนยิ้มไม่หุบหานหลินแอบถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่ตัวเองมีญาณรู้ล่วงหน้า ชิงให้องค์ชายเว่ยไปพูดให้กระจ่างตัดหน้าพระชายาอ๋องอี้ไปฟ้องร้องด้วยแบบนี้หากพระชายาอ๋องอี้ไปฟ้องร้อง จักรพรรดิอู่อันจะสะเอียนเท่านั้นวาจาเหล่านั้นที่องค์ชายเว่ยพูดต่อฝ่าบาทล้วนเป็นหานหลินสอน มิเอ่ยถึงพระชายาอ๋องอี้อย่างไร้มารยาทสักประโยค แต่กลับเน้นความโอบอ้อมอารีขององค์ชายเว่ย และความผูกพันฉันพี่น้องอันลึกซึ้งหานหลินพอใจกับความอัจฉริยะของตนยิ่งเรื่ององค์ชายเว่ยได้รับโครงการฟื้นฟูย่านการค้าแพร่ถึงตำหนักอ๋องอี้เรียบร้อยจ้าวซวนโกรธจนคันฟันพลางอดบ่นกับหลิงอวี๋มิได้“พระชายา ท่
ครั้นหลิงอวี๋ได้ยินว่าชิวเหวินซวงอยากให้ชิวเฮ่ากลับมาหัวใจก็สั่นไหว!ชิวเหวินซวงรู้จักพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส!ฉวยตอนเซียวหลินเทียนมิได้สติจัดการให้ชิวเฮ่ากลับ…?แต่พอหลิงอวี๋คิดแบบนี้ก็ส่ายหน้า รู้สึกว่าความคิดนี้ของตัวเองใจแคบเกินไป!พ่อของชิวเหวินซวงสิ้นแล้วจะให้ชิวเฮ่ากลับมาพิธีศพก็ไม่ใช่เรื่องผิด!ชิวเหวินซวงร้องจนสองตาบวมแดง ดูแล้วก็มิใช่การเสแสร้งนางไม่อาจสงสัยเจตนาร้ายของชิวเหวินซวงได้แค่เพราะไม่ชอบ“ลู่หนาน ยามนี้กำลังคนของเรามิพอ เรียกเฉาอี้กับจูเผิงกลับมาช่วยด้วยเถิด!”เหตุการณ์ล้นหลามไม่จบทำจ้าวซวนดูแลไม่ทั่วถึง บวกกับครั้นที่เซียวหลินเทียนถูกลอบฆ่า องครักษ์ฉกาจหลายนายล้มตาย เขาจึงทำได้แค่ระดมกำลังคนหลิงอวี๋ไม่อยากสอดมือเรื่องของตำหนักอ๋องอี้มากนักจึงนิ่งเงียบเมื่อเห็นหลิงซวนมาหลิงอวี๋แค่สั่งหลิงซวนเอาตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงมอบให้ชิวเหวินซวง ถือเป็นค่าเผากระดาษเงินกระดาษทองของบิดานางจากนั้นหลิงอวี๋ก็ทดลองต่อ นางเพาะเลี้ยงแบคทีเรียเลือดของเซียวหลินเทียน การทดลองหลายหนก่อนหน้าล้มเหลวหมด!หลิงอวี๋ถือหลอดทดลองตริตรองบางอย่างที่ตนเลินเล่อไปพอคิดไปครึ่งค่อนวันก็คิด
“แถมมีหลิงหลานใส่ไคล้ว่าข้าลอบคบชู้กับคน! ทว่าชิวเหวินซวงยังเก็บนางไว้ในตำหนัก!”“ชิวเหวินซวงต้องการสิ่งใด? นางรับใช้ที่ไม่มักใหญ่ใฝ่สูงจักวางแผนทำร้ายข้าแบบนี้หรือ?”จ้าวซวนใคร่ครวญตระหนักได้ว่าเขาไม่อยู่ตำหนักในครานั้นแต่หลังเหตุการณ์จบก็ได้ฟังเหล่าองครักษ์ของลู่หนานคุยเรื่องพวกนี้ จ้าวซวนก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลอยู่น้อย ๆ“พี่ใหญ่จ้าว ข้ามิได้ใส่ร้ายพวกเขาเพราะชิวเฮ่าตบข้า! ครานั้นพฤติกรรมพวกนั้นของชิวเฮ่าช่างมิรู้ผิดชอบชั่วดี!”เมื่อหลิงอวี๋ย้อนนึกถึงชิวเฮ่าเตะหลิงเยวี่ยอย่างโหดเหี้ยมก็เกลียดจนอยากกัดเป็นชิ้น“เด็กเล็กอย่างหลิงเยวี่ย หากเป็นเจ้ากับลู่หนานคงมิลงมือเหี้ยม! แต่หนึ่งบาทาของเขาเตะหลิงเยวี่ยนจนลมหายใจร่อแร่!”“และข้าพระชายาผู้ผ่าเผย ท่านอ๋องให้เขาสังหารข้า แต่เขากลับส่งข้าให้เจ้าปากเบี้ยวทำอัปยศ!”“จากนั้น พอตบอีกหนึ่งฝ่ามือก็ทำเส้นลมปราณหัวใจข้าแตกขาด!”“จากเหตุการณ์ไม่กี่เรื่องนี้ก็ดูออกได้ว่าชิวเฮ่ามิใช่ฝ่ายเดียวกับพวกเจ้า!”“แม้พวกเจ้าจักปกป้องผู้เป็นนาย แต่ก็คงมิทำเรื่องมิรู้ผิดชอบชั่วดี!”หลิงอวี๋ส่ายหน้า “ชิวเหวินซวงอาจมิอำมหิตเช่นชิวเฮ่า!”“แต่ในเมื่อนาง
“สืบเงียบ ๆ!”หลิงอวี๋เห็นจ้าวซวนตื่นตัวพลันกระซิบ“สองวันนี้ข้าจักทำเรื่องแม่บ้านแทนชั่วคราว… ข้าทำสิ่งใจบ้างแล้วจักบอกเจ้า!”“พวกเราแบ่งปันความจริงกันแล้ว แม้ชิวเหวินซวงวางกลป้ายสีข้า ในใจเจ้าก็ต้องตระหนัก!”จ้าวซวนมิกล้ามองเป็นเรื่องเล็ก ความกังวลของหลิงอวี๋มิได้ไร้เหตุผล!หากชิวเหวินซวงกระทำเรื่องอย่างกับเดรัจฉานเช่นนี้จริง เช่นนั้นยังจะมีเรื่องใดที่นางทำไม่ได้อีก!“ขอรับ พระชายา ข้าจักเตรียมองครักษ์หญิงเงาให้ท่านสองคน!”จ้าวซวนกล่าวจริงจังรอบคอบ “พวกนางจักปกป้องท่านในที่ลับ ครั้นเวลาสำคัญเป็นพยานให้ท่านได้ด้วยขอรับ!”หลิงอวี๋มิคุ้นกับการมีคนจับตาดูตัวเองเงียบ ๆ มิติลับของนางมิอาจเปิดเผยได้นางเพิ่งคิดปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นเซียวหลินเทียนหมดสติบนตั่งเตียง หลิงอวี๋ก็เปลี่ยนใจ“ได้ แต่แค่สองวันที่ข้าเป็นแม่บ้านเท่านั้น! ผ่านสองวันไป เจ้าต้องถอนพวกนางออก!”“ขอรับ! ข้าจักไปเตรียมเดี๋ยวนี้ขอรับ!”จ้าวซวนจากไปอย่างหนักอกหนักใจหลิงอวี๋กำลังจะวิจัยต่อ ทันใดนั้นก็มีเสียงเบา ๆ ในลานเรือนหลิงอวี๋ตระหนกครู่หนึ่ง เพิ่งคิดจะออกไปดูก็ได้ยินเสียงเรียกเบา ๆ ของปี้ไห่เฟิงที่ปากประตู “พระ
“พี่จ้าว อย่าได้สงสัยในทักษะทางการแพทย์ของข้าเลย ขอเพียงเจ้าหาปลิงน้ำจืดมาให้ข้าเพียงพอ พรุ่งนี้เจ้าจักได้เห็นท่านอ๋องของพวกเจ้ายิ้มให้เจ้าแล้ว!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างมั่นใจ“ขอรับ ข้าจักไปจัดการประเดี๋ยวนี้!”ขอเพียงยังมีความหวังริบหรี่ที่จะช่วยท่านอ๋องได้ จ้าวซวนก็จะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่ามันจะสมเหตุสมผลหรือไม่ก็ตาม ไปหามันมาก่อนแล้วค่อยว่ากันจ้าวซวนรีบไปจัดการทันทีหลิงซวนเองก็รีบเข้ามาเช่นกัน เมื่อเข้ามาเห็นปี้ไห่เฟิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ หลิงซวนก็ตกใจเช่นกัน“คุณหนูเจ้าคะ พี่ปี้ได้ข่าวอันใดมาจริง ๆ หรือเจ้าคะ?” หลิงซวนเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง“อืม เขาเอาข่าวดีมาให้!”หลิงอวี๋ปิดประตู แล้วสั่งให้หลิงซวนช่วยพยุงปี้ไห่เฟิงไปที่เก้าอี้ที่หลิงอวี๋พักมาสองวันแล้ว“พี่ปี้ ข้าใช้หมาเฟ่ยซาน(1)กับเจ้า มิต้องกังวล เมื่อเจ้าฟื้นขึ้นมา การผ่าตัดของข้าจักเสร็จเรียบร้อยแล้ว!”หลิงอวี๋อธิบายกระบวนการผ่าตัดให้ปี้ไห่เฟิงฟังอย่างง่าย ๆปี้ไห่เฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้ยินเพียงเสียงที่ทำให้คนฟังสบายใจของหลิงอวี๋เท่านั้น“หลังการผ่าตัดเจ้าก็ดูแลตัวเองให้ดี หากหายดีแล้ว หลังจากนั้นหนึ่งเดือนจักสามารถค
“พระชายา ตั๋วเงินนี่มิได้ใช้ ข้าคืนขอรับ!”เขายื่นตั๋วเงินให้หลิงอวี๋ หลิงอวี๋รับมันมา ดึงออกมาสองใบแล้วมอบให้ปี้ไห่เฟิง“พี่ปี้เก็บเงินส่วนนี้ไว้เถิด ฝากขอบคุณพี่น้องของเจ้าแทนข้าด้วย หากไม่มีข่าวดีที่เจ้านำมา ข้าก็คงคิดหาวิธีช่วยท่านอ๋องมิได้!”“เงินเล็กน้อยนี้เอาไปให้พวกเขาซื้อเหล้ากินเถิด!”ปี้ไห่เฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วรับมาสองปีมานี้เขาตกต่ำ มิสนใจอะไรไปมากกว่าการที่เขากินอิ่มและทั้งครอบครัวไม่หิว!แต่ครั้งนี้ตนหนีรอดมาได้เพราะพวกพี่น้องเสี่ยงชีวิตช่วยไว้ เงินจำนวนนี้ เอาไปให้ครอบครัวของพวกพี่น้องก็แล้วกัน!ปี้ไห่เฟิงแอบตัดสินใจ พระชายาดีกับเขาถึงเพียงนี้ เขาสาบานว่าจะภักดีต่อพระชายาไปจนตายอย่างแน่นอน!กระทั่งแม่นมลี่นำไข่ต้มน้ำตาลทรายแดงกับเสื้อผ้ามาให้ ปี้ไห่เฟิงก็กินมันจนหมด สวมเสื้อผ้าที่สะอาดไว้ข้างนอกแล้วออกไปหลิงอวี๋ไม่สนใจเรื่องการพักผ่อน จ้าวซวนกลับมาแล้วพร้อมกับองครักษ์และปลิงน้ำจืดตะกร้าใหญ่“พระชายา ดูสิ หากยังมิพอพวกเราจักไปจับมาอีกขอรับ!”หลิงซวนเห็นปลิงจำนวนมากเบียดเสียดกันอยู่ ก็แทบจะอาเจียนออกมาอย่างขยะแขยงแต่หลิงอวี๋กลับราวกับได้เห็นสมบัติพลางเอ
“เหตุใดท่านอ๋องยังมิตื่น?”หลังจากจ้องมองมาเป็นเวลานาน เซียวหลินเทียนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยลู่หนานเอ่ยถามอย่างทนไม่ไหว “พระชายา ยาเหล่านั้นมิได้ผลใช่หรือไม่ขอรับ?”“รีบร้อนกระไรกัน! หัวใจของเซียวหลินเทียนเต้นช้า ข้าให้ยาแรงกับเขามิได้ การให้น้ำเกลือนี้จะทำให้เขาค่อย ๆ ปรับตัว!”หลิงอวี๋เหลือบมองขวดอย่างเหนื่อยล้าพลางสั่ง “เจ้าดูขวดนี้ไว้ ยาหยดหมดแล้วก็ไปเรียกข้าเถอะ!”“หากเซียวหลินเทียนไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านยาขวดนี้ ข้าจักเพิ่มขนาดยาในขวดต่อไป จากนั้นอีกขวดหนึ่งเขาก็น่าจะฟื้นขึ้นมาแล้ว!”ทันทีที่จ้าวซวนได้ยินสิ่งนี้ก็รีบเอ่ย “นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเถิด! พระชายาไปพักผ่อนสักหน่อยเถิดขอรับ!”หลิงอวี๋ทนไม่ไหวจึงพยักหน้าแล้วเดินไปที่ประตูห้องถัดไป นอนลงบนเก้าอี้ ปิดเปลือกตาลงแล้วหลับไปภายในไม่กี่วินาทีในขณะที่กำลังสะลึมสะลือ ก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอยู่ข้างนอก“พี่จ้าว ยาของข้าสามารถช่วยท่านอ๋องได้อย่างแน่นอน! เจ้าให้ท่านอ๋องกินแล้วท่านอ๋องจักฟื้นทันที!”“ยาของพระชายานี่เกือบจะหมดขวดแล้ว ท่านอ๋องก็ยังมิฟื้น เช่นนั้นมันคงมิได้ผลแน่นอน!”“พี่จ้าว ห
พระชายาหรงเป็นน้องสาวของพระชายาอวิ๋นในองค์จักรพรรดิผู้เป็นแม่ของเซียวหลินเทียน นายท่านเสิ่นเป็นท่านตาของเซียวหลินเทียน ส่วนท่านลุงเสิ่นเป็นลุงของเซียวหลินเทียนและคุณหนูใหญ่ตระกูลเสิ่นก็คือเสิ่นจวนที่ต่อต้านตนมาโดยตลอด!ก่อนหน้านี้คนในตระกูลเสิ่นไม่เคยมาที่ถึงที่ตำหนักมาก่อน นี่ก็ไม่รู้ว่าลมอะไรหอบมากันได้!หลิงอวี๋ทำได้เพียงพาพวกจ้าวซวนออกไปต้อนรับกับพระายาหรงเคยได้พบกันที่งานฉลองในวังเมื่อครั้งที่แล้ว ตอนนั้นนางเออออไปกับคำพูดของพระชายาผิงหยาง ให้เซียวหลินเทียนหย่ากับตนเอง หลิงอวี๋ไม่มีความประทับใจที่ดีต่อนางสักเท่าไหร่ส่วนกับนายท่านสิ่นนี่หลิงอวี๋ได้พบกับเขาเป็นครั้งแรก แล้วก็เห็นว่าผมของนายท่านผู้นี้ถูกหวีอย่างพิถีพิถันมาก ไม่มีผมตรงไหนยุ่งเลยแม้แต่น้อยเขามีรูปร่างเตี้ย ใบหน้าอวบอ้วน และมีเคราแพะตรงคางท่านลุงเสิ่นที่อยู่ข้างหลังนายท่านเสิ่น มีหนวดกระจุกสั้น ๆ และดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นก็จมลึกตรงเบ้าตาเขาเป็นคนสูง ไหล่กว้าง มีท่าทีเศร้าหมอง มองปราดเดียวก็รู้ว่าเขามิใช่คนที่จะเข้ากับใครง่าย!เสิ่นจวนยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา ใบหน้าของนางดูซีดเซียวเล็กน้อยหลังจากถูกไทเฮาตำหนิ
เย่หรงได้ยินคำถามของหลิงอวี๋ก็เอ่ยตอบไป “เรื่องนี้ข้ารู้ดีทีเดียว ตระกูลเหมียวมีฐานะขึ้นมาจากการพึ่งพาเครื่องยาสมุนไพร เนื่องจัดหาสมุนไพรให้หอโอสถไป๋เป่าอยู่บ่อยครั้ง กอปรกับที่เหมียวหยางค่อนข้างมีพรสวรรค์ในการแยกแยะเครื่องยาสมุนไพรด้วย ไป่หลี่ไห่จึงรับไปเป็นศิษย์!”“หลายปีมานี้ด้วยอำนาจของไป่หลี่ไห่ ตระกูลเหมียวจึงมีสถานะที่สูงขึ้นตามไปด้วย แล้วก็ค่อย ๆ ขึ้นไปเป็นตระกูลที่มีฐานะร่ำรวย!”มิน่า!หลิงอวี๋นึกถึงเงื่อนไขที่ตนเสนอให้หลงอิงก่อนหน้านี้ว่า ให้ไป่หลี่ไห่ขับไล่เขาออกจากสำนักเวลานั้นหลิงอวี๋มิรู้ถึงความแข็งแกร่งของตระกูลเหมียว คิดว่านี่เป็นการกระทำที่จะรักษาชื่อเสียงของไป่หลี่ไห่เอาไว้ตอนนี้เมื่อได้รู้ฐานะของตระกูลเหมียวแล้ว หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าเหตุใดตระกูลเหมียวจึงใช้ผู้รอบรู้แก้แค้นตนฐานะระดับตระกูลเหมียวนี้เรื่องเงินเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องเกียรติต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่หากเหมียวหยางถูกไป่หลี่ไห่ขับไล่ออกจากสำนัก ตระกูลเหมียวจะต้องเสียทั้งเกียรติทั้งศักดิ์ศรี อีกทั้งยังหมายความว่า นับจากนี้จะไม่มีไป่หลี่ไห่คอยสนับสนุนพวกเขาอีกต่อไปด้วยเช่นกันสำหรับตระก
นี่คือสิ่งที่หลิงอวี๋กำลังคิดอยู่ในใจ แต่ผู้รอบรู้กลับมองออกหลิงอวี๋อ้าปากค้างอย่างงุนงง มิรู้ว่าควรจะไปต่ออย่างไร“น้องหญิง วันนั้นพี่ใหญ่เห็นเจ้าตากฝนตัวเปียกโชก แล้วก็เห็นบ้านของเราถูกทำลายพังยับเยิน!”“ตอนนั้นข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกับเจ้า… หากข้ามีความสามารถ ข้าก็จะไปทุบบ้านของเหมียวหยางเช่นกัน!”“หากข้าวางยาพิษเป็น ก็คงมิต้องให้เจ้าลงมือหรอก ข้าจะวางยาพิษเขาด้วยตัวข้าเอง!”ผู้รอบรู้เอ่ยออกมาอย่างแน่วแน่ “ดังนั้น ข้ามิได้รับเคราะห์แทนเจ้า และมิได้ถูกเจ้าทำให้เดือดร้อนด้วย เจ้ามิต้องรู้สึกผิด!”“พี่ใหญ่!”ดวงตาของหลิงอวี๋มีน้ำตาคลอขึ้นอย่างอธิบายมิถูก“ข้าเป็นเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก หลังจากแยกอาจารย์ข้าก็เตร็ดเตร่อยู่ในยุทธภพเพียงลำพัง ไม่มีครอบครัว และไม่มีเป้าหมายใด!”ผู้รอบรู้เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “หลังจากที่ได้รู้จักเจ้า ข้าจึงได้มีบ้านและครอบครัว! ข้าออกไปไหนก็มิต้องกังวลแล้วว่าจะไม่มีบ้านให้กลับ และเมื่อกลับมาก็ยังมีเจ้ารอข้ากินข้าวอยู่!”“น้องหญิง ข้าชอบครอบครัวที่พวกเราสร้างขึ้นมา มันทำให้ข้ารู้สึกว่าข้าก็มีความห่วงใยและมีเป้าหมายอยู่เช่นกัน ข้าหวังว่าจะหาเงินได้ม
“พี่ใหญ่มู่ เห็ดหยกนี้มีอยู่ที่ภูเขาใดหรือ?”หลิงอวี๋หันไปเอ่ยถามเขาหากซื้อมิได้นางก็จะไปเก็บด้วยตนเอง มิว่าจะยากลำบากแค่ไหน นางจะต้องหาเห็ดหยกมารักษาสิงจั๋วให้จงได้“ภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”มู่ตงมองหลิงอวี๋ “เจ้าคงมิคิดจะไปเก็บที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์กระมัง! เป็นไปมิได้หรอก!”“มีหลายสาเหตุทีเดียว ประการแรก ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นของราชวงศ์ มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปเก็บสมุนไพรได้ง่าย ๆ!”“ประการที่สอง แม้ว่าท่านหญิงของข้าจะสามารถพูดให้เจ้าและให้เจ้าเข้าไปในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่เจ้ารู้หรือว่าจะต้องไปเก็บที่ใด?”“ภูเขาศักดิ์สิทธิ์มีอยู่สิบแปดยอดเขา ซึ่งแต่ละยอดเขาก็จะมีความสูงชันและอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่พวกตระกูลอู่ที่คอยเฝ้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์อยู่ ก็ยังมิสามารถสำรวจยอดเขาครบทั้งสิบแปดยอดเขาได้ เจ้าไม่มีทางที่จะหาเห็ดหยกเจอท่ามกลางยอดเขามากมายถึงเพียงนั้นหรอก!”ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ มิได้มีเพียงแค่มู่ตงผู้เดียวที่เอ่ยถึงความลึกลับของภูเขาศักดิ์สิทธิ์นี้กับตนวันนั้นเย่หรงก็บอกกับตนว่า จ้าวหรุ่ยหรุ่ยต้องการพานางไปที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เพื่อหาเครื่องยาสมุนไพรมาสลายเลือดเนื้อของนางและก่อน
หลังจากที่พวกเขารับคำสั่งแล้วก็ออกไป แล้วจู่ ๆ เซียวหลินเทียนก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงตะโกนขึ้นมา “หานเหมย เจ้ารอก่อน!”หานเหมยหยุดชะงัก หานอวี้ก็หยุดเช่นกัน จากนั้นทั้งสองคนก็มองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างสงสัย“ตอนที่ข้าจับตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ที่ภูเขาหมางหลิ่ง นางเผลอหลุดปากออกมาเรื่องหนึ่ง… นางบอกว่านางโกหกหลิงอวี๋ว่าน้องสาวนางถูกจับตัวมาขายที่เมืองหลวงแดนเทพ!”แล้วเซียวหลินเทียนก็เอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น “หลิงอวี๋สูญเสียความทรงจำไป และคิดมาตลอดว่าเจ้าคือเสี่ยวอวี้ น้องสาวของนาง! นางมาที่เมืองหลวงแดนเทพก็เพื่อมาตามหาเจ้า!”หานเหมยตะลึง จากนั้นดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา “ฝ่าบาททรงหมายความว่าจะให้หม่อมฉันไปเข้าใกล้ฮองเฮาหรือเพคะ?”“อืม ตอนนี้หลิงอวี๋มีความคลางแคลงใจต่อพวกเรา ทว่ากับเจ้านั้นแตกต่างออกไป หลังจากที่นางสูญเสียความทรงจำไปเจ้าก็อยู่กับนางตลอด! จ้าวหรุ่ยหรุ่ยพูดเช่นนี้แล้ว นางจะต้องเชื่อว่าเป็นจริงแน่ ๆ!”เซียวหลินเทียนมองไปทางหานเหมย “สิ่งที่ข้ามิแน่ใจตอนนี้ก็คือ หลิงอวี๋จำเรื่องอะไรได้บ้าง และนางสงสัยหรือไม่ว่าเจ้ามิใช่น้องสาวของนาง!”“หากเจ้าบุ่มบ่ามไปเข้าใกล้นางเช่นนี้
และหลังจากที่เซียวหลินเทียนรู้เรื่อง สายตาของเขาก็มองไปทางเผยอวี้ ฉินซาน เถาจื่อและคนอื่น ๆ อย่างเย็นชาเมื่อเผยอวี้ถูกมองเช่นนั้นก็รู้สึกหนาวไปทั้งตัว ฉินซานเองก็เหงื่อแตกพลั่กเช่นกันแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะมิได้ก่นด่าออกมา แต่พวกเขาต่างก็รู้สึกกระวนกระวายกันไปหมดในที่สุด เซียวหลินเทียนก็เอ่ยขึ้นมา เขาเอ่ยด้วยเสียงเคร่งขรึง “วันนี้คนที่ถูกจับตัวไปคือสิงจั๋ว พวกเจ้ารู้สึกว่าโชคดีใช่หรือไม่… เพราะคนที่ถูกจับตัวไปมิใช่ฮองเฮาของพวกเจ้า!”ไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งนั้น ทุกคนต่างก็ยืนก้มหน้าอยู่เช่นนั้นพวกเขาเพิ่งจะรู้ข่าวว่าสิงจั๋วถูกหลงเพ่ยเพ่ยส่งกลับไปที่เรือนเล็กหากคนที่ถูกจับตัวไปเป็นหลิงอวี๋ ศัตรูจะรอจนพวกเขารู้ข่าวก่อนแล้วให้ไปช่วยเหลือหรือ?เช่นนั้นจะยังทันหรือ?“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าติดตามข้าออกมาหลายเดือนแล้ว พวกเจ้าคิดถึงครอบครัวและชีวิตก่อนหน้านี้!”เซียวหลินเทียนเปลี่ยนเป็นตะคอกเสียงแข็ง “หากพวกเจ้ารู้สึกว่ามิคุ้นเคยกับการอยู่แดนเทพ เช่นนั้นใครอยากจะกลับไป ข้าก็จะมิห้าม!”เผยอวี้เหงื่อตก จากนั้นก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง“ฝ่าบาท พวกกระหม่อมประมาทละเลย สมควรได้รับโทษพ่ะย่ะค่ะ!”
เป็นหนี้บุญคุณหนึ่งครั้งก็นับว่าเป็นหนี้ เป็นหนี้บุญคุณสองครั้งก็นับว่าเป็นหนี้เช่นกัน!หลิงอวี๋รับความกรุณาของหลงเพ่ยเพ่ยมาแล้ว เอาไว้ค่อยตอบแทนนางภายหน้าก็แล้วกัน!“ข้าจะไปเตรียมยา พี่ใหญ่มู่ ประเดี๋ยวเจ้าช่วยทายาให้พี่ชายข้าที!”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าหน้าอกที่เปลือยเปล่าของผู้รอบรู้นั้นแทบจะไม่มีผิวหนังตรงไหนปกติดีเลย นางจึงจดจำความโหดร้ายของครอบครัวเหมียวหยางไว้ แล้วรีบออกไปเตรียมยานางรีบนำยาทากระปุกใหญ่ที่เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วไปที่ห้องของผู้รอบรู้มู่ตงก็มิได้ปฏิเสธ เขารับยามาแล้วเอ่ยออกไป “แม่นางสิง เมื่อครู่ข้าตรวจดูพี่ชายของเจ้า นอกจากบาดแผลที่ผิวหนังภายนอกเหล่านี้แล้ว แขนซ้ายของเขาก็ถูกตีจนหัก และซี่โครงก็หักไปสองซี่!”“แล้วก็…”ดูเหมือนว่ามู่ตงจะยากที่จะพูดออกมาหลงเพ่ยเพ่ยก็มองไปทางหลิงอวี๋อย่างเห็นใจเช่นกัน“แล้วก็อะไร? พี่ใหญ่มู่พูดออกมาตามตรงเถิด ข้ารับได้ทุกอย่าง!”หลิงอวี๋รู้สึกกังวลขึ้นมา แต่ใบหน้าก็ยังดูสงบอยู่“เชื้อ… เชื้อสายลูกหลานของพี่ใหญ่เจ้าถูกทำลายไปเสียแล้ว ต่อไปอาจจะมิสามารถมีทายาทสืบสกุลให้ตระกูลเจ้าได้แล้ว!”มู่ตงกัดฟันพูดออกมาหลิงอวี๋ราวกั
หลิงอวี๋นั่งอยู่เช่นนั้น มิรู้ว่านั่งอยู่นานเท่าใด เมื่อน้ำมันในตะเกียงหมดลงภายในห้องก็เข้าสู่ความมืดมิด และนางก็มิได้จุดตะเกียงอีกนางนั่งอยู่เงียบ ๆ มิได้หลับทั้งคืนแต่ก็ไม่มีความง่วงเลยแม้แต่น้อยในสมองครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย ในขณะที่กำลังคิดจนเข้าสู่ภวังค์ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก“แม่นางสิง ข้าชื่อไป๋อวี้ เป็นนางรับใช้ของท่านหญิง นางให้ข้านำข้อความมาบอกเจ้า!”หลิงอวี๋ได้สติขึ้นมาทันที จึงวิ่งออกไปเปิดประตูไป๋อวี้คือนางรับใช้ที่หลิงอวี๋พบที่จวนเจ้าแห่งทิศใต้ก่อนหน้านี้ นางรับใช้ผู้นั้นที่ติดตามหลงเพ่ยเพ่ย นางสูงมาก หลิงอวี๋จึงจำนางได้“ไป๋อวี้ มีข่าวคราวพี่ชายข้าแล้วหรือ?” หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างร้อนใจไป๋อวี้ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “ท่านหญิงของข้าลงมือเอง หากไม่มีข่าวอะไร จะมิเป็นการรู้สึกผิดต่อเจ้าหรือ!”“วางใจเถิด เราเจอพี่ชายของเจ้าแล้ว และท่านหญิงก็กำลังพาเขากลับมา นางเกรงว่าเจ้าจะกังวล จึงให้ข้าล่วงหน้ามาบอกเจ้าก่อน!”หลิงอวี๋ถอนหายใจโล่งอก จากนั้นก็จ้องแล้วเอ่ยถามออกไป “ผู้ใดจับตัวเขาไป?”รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋อวี้จางหายไป แล้วมองหลิงอวี๋อย่างเห็นอกเห็นใจ “ก็เป็
หลิงอวี๋ออกจากบ้าน แล้วก็ตรงไปที่จวนเจ้าแห่งทิศใต้นางให้คนเฝ้ายามไปรายงานหลงเพ่ยเพ่ย เมื่อคนเฝ้ายามได้ยินว่านางมาหาหลงเพ่ยเพ่ย ก็รีบส่งคนเข้าไปรายงานในทันทีหลิงอวี๋ยืนอยู่ที่หน้าประตู ก่อนหน้านี้นางเคยผ่านจวนเจ้าแห่งทิศใต้ และรู้สึกเพียงว่าจวนเจ้าแห่งทิศใต้นั้นหรูหรามาก นางมิเคยคาดคิดว่าวันหนึ่งตนจะต้องติดต่อกับจวนเจ้าแห่งทิศใต้หลังจากรอไปสักพัก ก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยพานางรับใช้หนึ่งคนเดินออกมาอย่างรีบร้อนเมื่อหลงเพ่ยเพ่ยเห็นหลิงอวี๋ก็เอ่ยถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง “มีเรื่องอันใดหรือ? มิเช่นนั้นมืดค่ำป่านนี้เจ้าก็คงมิมาหาข้ากระมัง!”ความเฉียบแหลมของหลงเพ่ยเพ่ยทำให้หลิงอวี๋รู้สึกชื่นชมยิ่งนัก นางจึงดึงหลงเพ่ยเพ่ยไปยืนด้านข้าง แล้วเอ่ยเบา ๆ “ข้าอยากให้เจ้าช่วย เวลานี้ข้านึกมิออกว่านอกจากเจ้าแล้วจะมีผู้ใดช่วยข้าได้ ข้าจึงมาหาเจ้า!”“เจ้าอย่าได้กังวล บอกข้ามา หากข้าสามารถช่วยได้ข้าก็จะช่วยอย่างแน่นอน!” หลงเพ่ยเพ่ยเอ่ยปลอบใจหลิงอวี๋หายใจเข้าลึก ๆ ระหว่างทางที่มานางได้เตรียมคำพูดไว้แล้ว จึงเอ่ยออกไป “เจ้าก็รู้ว่าข้ามาหาโอกาสที่เมืองหลวงแดนเทพกับพี่ใหญ่ของข้า และพี่ใหญ่ก็เป็นญาติเพียงคนเดี
หลิงอวี๋ยิ้มออกมา ต่อให้นางใจดีแค่ไหนก็มีขอบเขตของตน ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นกับดักแล้วตนจะพาตัวเองเข้าไปได้อย่างไรกัน!หากตนรู้จักฮูหยินเฉิง บางทีอาจจะเสี่ยงไปช่วยชีวิตนาง!แต่ตนกับฮูหยินเฉิงมิได้รู้จักกัน มิรู้ด้วยซ้ำว่านางเป็นคนดีหรือคนเลวแม้ว่าจะเห็นใจฮูหยินเฉิงที่ต้องประสบความทรมานของการเจ็บป่วย แต่นางก็มิใช่แม่พระ มิสามารถไปช่วยชีวิตทุกคนที่เจ็บป่วยได้หรอก!หลิงอวี๋ครุ่นคิดแล้วเอ่ยกับเย่หรง “ในช่วงสองวันนี้ท่านคอยติดตามอาการป่วยของฮูหยินเฉิงไว้ และไปตรวจสอบตัวตนของแม่ทัพเฉิงให้ละเอียดอีกสักหน่อย!”“หากเขาสามารถเป็นสายลับให้ท่านไปช่วยมารดาของท่านออกมาได้จริง ๆ ข้าจะหาวิธีตามหาหลิงอวี๋มาช่วยชีวิตนาง!”สำหรับเย่หรงแล้ว คนที่สำคัญที่สุดนั้นคือมารดาของเขาหากมั่นใจได้ว่าแม่ทัพเฉิงยินดีจะช่วยเป็นสายลับให้เย่หรง ต่อให้หลิงอวี๋ต้องเสี่ยงอันตรายก็จะช่วยเย่หรงทำสิ่งนี้“เจ้ามีวิธีตามหานางหรือ?”เย่หรงเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ“พี่ชายข้าเก่งเรื่องการสืบหาข่าวมาก บางทีคนที่ผู้อื่นหามิเจอ เขาอาจจะตามหาเจอก็ได้!”หลิงอวี๋ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “เอาตามนี้ก่อนแล้วกัน หากแม่ทัพเฉิงมิควรเชื่อ