“เหตุใดท่านอ๋องยังมิตื่น?”หลังจากจ้องมองมาเป็นเวลานาน เซียวหลินเทียนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยลู่หนานเอ่ยถามอย่างทนไม่ไหว “พระชายา ยาเหล่านั้นมิได้ผลใช่หรือไม่ขอรับ?”“รีบร้อนกระไรกัน! หัวใจของเซียวหลินเทียนเต้นช้า ข้าให้ยาแรงกับเขามิได้ การให้น้ำเกลือนี้จะทำให้เขาค่อย ๆ ปรับตัว!”หลิงอวี๋เหลือบมองขวดอย่างเหนื่อยล้าพลางสั่ง “เจ้าดูขวดนี้ไว้ ยาหยดหมดแล้วก็ไปเรียกข้าเถอะ!”“หากเซียวหลินเทียนไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านยาขวดนี้ ข้าจักเพิ่มขนาดยาในขวดต่อไป จากนั้นอีกขวดหนึ่งเขาก็น่าจะฟื้นขึ้นมาแล้ว!”ทันทีที่จ้าวซวนได้ยินสิ่งนี้ก็รีบเอ่ย “นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเถิด! พระชายาไปพักผ่อนสักหน่อยเถิดขอรับ!”หลิงอวี๋ทนไม่ไหวจึงพยักหน้าแล้วเดินไปที่ประตูห้องถัดไป นอนลงบนเก้าอี้ ปิดเปลือกตาลงแล้วหลับไปภายในไม่กี่วินาทีในขณะที่กำลังสะลึมสะลือ ก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอยู่ข้างนอก“พี่จ้าว ยาของข้าสามารถช่วยท่านอ๋องได้อย่างแน่นอน! เจ้าให้ท่านอ๋องกินแล้วท่านอ๋องจักฟื้นทันที!”“ยาของพระชายานี่เกือบจะหมดขวดแล้ว ท่านอ๋องก็ยังมิฟื้น เช่นนั้นมันคงมิได้ผลแน่นอน!”“พี่จ้าว ห
พระชายาหรงเป็นน้องสาวของพระชายาอวิ๋นในองค์จักรพรรดิผู้เป็นแม่ของเซียวหลินเทียน นายท่านเสิ่นเป็นท่านตาของเซียวหลินเทียน ส่วนท่านลุงเสิ่นเป็นลุงของเซียวหลินเทียนและคุณหนูใหญ่ตระกูลเสิ่นก็คือเสิ่นจวนที่ต่อต้านตนมาโดยตลอด!ก่อนหน้านี้คนในตระกูลเสิ่นไม่เคยมาที่ถึงที่ตำหนักมาก่อน นี่ก็ไม่รู้ว่าลมอะไรหอบมากันได้!หลิงอวี๋ทำได้เพียงพาพวกจ้าวซวนออกไปต้อนรับกับพระายาหรงเคยได้พบกันที่งานฉลองในวังเมื่อครั้งที่แล้ว ตอนนั้นนางเออออไปกับคำพูดของพระชายาผิงหยาง ให้เซียวหลินเทียนหย่ากับตนเอง หลิงอวี๋ไม่มีความประทับใจที่ดีต่อนางสักเท่าไหร่ส่วนกับนายท่านสิ่นนี่หลิงอวี๋ได้พบกับเขาเป็นครั้งแรก แล้วก็เห็นว่าผมของนายท่านผู้นี้ถูกหวีอย่างพิถีพิถันมาก ไม่มีผมตรงไหนยุ่งเลยแม้แต่น้อยเขามีรูปร่างเตี้ย ใบหน้าอวบอ้วน และมีเคราแพะตรงคางท่านลุงเสิ่นที่อยู่ข้างหลังนายท่านเสิ่น มีหนวดกระจุกสั้น ๆ และดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นก็จมลึกตรงเบ้าตาเขาเป็นคนสูง ไหล่กว้าง มีท่าทีเศร้าหมอง มองปราดเดียวก็รู้ว่าเขามิใช่คนที่จะเข้ากับใครง่าย!เสิ่นจวนยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา ใบหน้าของนางดูซีดเซียวเล็กน้อยหลังจากถูกไทเฮาตำหนิ
ท่านลุงเสิ่นมิได้ใจแคบเหมือนนายท่านเสิ่น เขามาด้วยสองจุดประสงค์หากได้รับการยืนยันว่าเซียวหลินเทียนช่วยชีวิตมิได้แล้ว เช่นนั้นก็จะใช้ข้ออ้างว่าหลิงอวี๋จงใจมิช่วยเซียวหลินเทียน ไปขอให้องค์จักรพรรดิทำการหย่าหลิงอวี๋ แล้วยึดทรัพย์สินในตำหนักอ๋องอี้แต่หากได้รับการยืนยันว่าเซียวหลินเทียนยังคงช่วยชีวิตได้ เช่นนั้นก็หาโอกาสให้เสิ่นจวนแต่งงานกับเซียวหลินเทียนเสิ่นจวนถูกไทเฮาตำหนิ ชื่อเสียงของนางถูกทำลาย มิสามารถไปหาคนดี ๆ ในเมืองหลวงได้อีกแล้ว!แต่ขอเพียงเซียวหลินเทียนยังมีชีวิตอยู่ และสามารถแย่งโครงการก่อสร้างฟื้นฟูร้านค้ากลับคืนมาได้ ตระกูลเสิ่นก็จะได้ผลประโยชน์ไปด้วย!โครงการก่อสร้างฟื้นฟูร้านค้าใหญ่ถึงเพียงนั้น สามารถสร้างเงินมหาศาลได้!แม้ว่าขาของเซียวหลินเทียนจะพิการ ไม่มีวาสนาได้เป็นองค์รัชทายาท แต่หากเขาสามารถช่วยทำเงินให้ตระกูลเสิ่นได้ เขาก็จะตายไม่ได้!ทันทีที่ได้ยินว่ามียาแก้พิษ ดวงตาของท่านลุงเสิ่นก็เป็นประกายลุกวาว พลางตะโกนด้วยความโกรธ“หลิงอวี๋ เจ้ามีเจตนาอันใดกัน? มียาแก้พิษกลับมิให้เทียนเอ๋อร์ใช้รักษา เจ้าจักฆ่าเทียนเอ๋อร์ใช่หรือไม่?”“หมอว่าน เอายาแก้พิษไปให้เทียนเ
จ้าวซวนเป็นชายร่างสูง ทั้งยังอยู่ในวัยหนุ่มด้วยในช่วงสองวันมานี้เขาใกล้ชิดกับหลิงอวี๋มาก เขาคิดว่าตนกับหลิงอวี๋บริสุทธิ์ใจ แต่ก็ทนมิได้กับการใส่ร้ายเช่นนี้จ้าวซวนโกรธมากจนหน้าแดง แต่อีกฝ่ายคือพระชายาหรงในองค์จักรพรรดิ เขาจะตบพระชายาหรงได้หรือ?หลิงอวี๋ในแง่มุมของตระกูลเสิ่นนั้น ต่างถูกกล่าวหาจากคนนั้นทีคนนี้ทีว่าสมคบคิดที่จะสังหารเซียวหลินเทียนเพื่อยึดทรัพย์สินของครอบครัวก่อนหน้านี้นางแค่อยากให้เซียวหลินเทียนปลอดภัย มิได้อยากจะถือสาหาความกับตระกูลเสิ่น!บัดนี้เห็นพระชายาหรงที่นานไปก็ยิ่งทำเกินไปเช่นนี้ ทั้งยังทำลายชื่อเสียงตนหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวอีก แล้วยังจะทนต่อไปได้เยี่ยงไร!ตระกูลเสิ่นคิดว่าจะรังแกตนเองได้ง่าย ๆ หรือ?หลิงอวี๋ตะคอกด้วยความโกรธ “พระชายาหรงโปรดระวังวาจาด้วย! ข้ากับพี่จ้าวบริสุทธิ์ใจ พระชายามาใส่ร้ายพวกเราส่ง ๆ เช่นนี้ หมายความเยี่ยงไร?”“ข้าเคารพท่านในฐานะผู้อาวุโส แต่ท่านผู้เป็นผู้อาวุโสกลับมาใส่ร้ายผู้อื่นง่าย ๆ โดยไม่มีหลักฐานใดเช่นนี้ มันได้หรือ?”“องครักษ์จ้าวสละชีวิตช่วยท่านอ๋อง ในช่วงหลายวันมานี้เขามิสนใจพักผ่อนแล้ว เอาแต่ออกไปหายาแก้พิษให
หลิงอวี๋พูดไม่ออก มองตระกูลเสิ่นที่เข้ามาแบบเอิกเกริก แต่กลับทิ้งเสิ่นจวนไว้ ที่แท้นี่ก็คือเป้าหมายสุดท้ายของพวกเขานี่เอง!เสิ่นจวนผู้นี้ ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปมากทีเดียว แต่หลิงอวี๋ไม่เชื่อเด็ดขาดว่านางจะแค่อยู่ดูแลเซียวหลินเทียนเท่านั้นนี่ต้องมาเพราะจุดประสงค์ในการแต่งงานกับเซียวหลินเทียนเป็นแน่!มิฉะนั้นสตรีที่ยังมิได้แต่งงาน ดูแลผู้ชายอยู่ข้างกายเช่นนี้ มันมีเหตุผลหรือ?“ท่านพี่ ท่านพี่ต้องกระหายน้ำแน่! หม่อมฉันเอาน้ำให้!”เสิ่นจวนไม่สนใจสิ่งที่ทุกคนคิด นางเข้าสู่บทบาททันที เข้ามาดูแลเซียวหลินเทียนอย่างขยันขันแข็งเมื่อเห็นคนเหล่านี้ไม่ออกไปข้างนอก เสิ่นจวนจึงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าออกไปกันให้หมด ข้าดูแลท่านพี่ก็พอแล้ว!”“ท่านพี่เพิ่งฟื้นต้องการพักผ่อนให้มาก พวกเจ้าอยู่กันมากเพียงนี้ จักรบกวนเขาท่านพี่!”นางรับใช้ที่เสิ่นจวนพามาสองคนร่วมมือกันไล่พวกเขาออกไปทันทีหลิงอวี๋เหลือบมองเซียวหลินเทียน เห็นว่าเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่จึงเอ่ย“ท่านอ๋องพักผ่อนเถิด อีกเดี๋ยวหม่อมฉันมาดูท่านอีก!”นางเดินนำออกไป แม้ว่าจุดประสงค์ของเสิ่นจวนจะไม่บริสุทธิ์ แต่ก็ไม่มีทางทำร้ายเซียวหลินเทียนห
หลิงอวี๋มิได้ยินเสียงน่ารัก ๆ ของเยวี่ยเยวี่ยมาหลายวันแล้ว นางจึงถือโอกาสนี้คุยกับหลิงเยวี่ย“ท่านตาทวดซื้ออาหารอร่อย ๆ ให้เยวี่ยเยวี่ยมากหลาย! ท่านตาทวดยังเล่าเรื่องนิทานให้เยวี่ยเยวี่ยฟังมาก ๆ ด้วย!”หลิงเยวี่ยเล่าเรื่องหลายวันมานี้ที่ไปพักอยู่ที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนให้หลิงอวี๋ฟังอย่างเจื้อยแจ้วหลิงอวี๋ได้ยินว่าเด็กน้อยกับท่านอดีตเสนาบดีเข้ากันได้ดี ใจก็รู้สึกมีความสุขนักหลิงหว่านพูดถูก การที่มีเด็กร่าเริงแจ่มใสอย่างเยวี่ยเยวี่ยอยู่กับท่านอดีตเสนาบดี ท่านอดีตเสนาบดีอารมณ์ดีขึ้นมากเลย!จากที่หลิงเยวี่ยเล่าให้ฟัง หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าท่านอดีตเสนาบดีฟื้นตัวได้ดีทีเดียว!ขณะที่สองแม่ลูกเกาะก่ายกันอยู่บนเตียง ก็ได้ยินแม่นมลี่เอ่ยเสียงแข็งอยู่ข้างนอก“การจัดเตรียมอาหารเป็นงานของชิวเหวินซวง เกี่ยวอันใดกับคุณหนูของเราด้วย?”“คุณหนูของเรามิสนใจเรื่องของตำหนักอ๋องอี้ ไปเสียเถิด อย่ามารบกวนคุณหนูของเรา!”ทันทีที่หลิงอวี้ได้ยินสิ่งนี้ก็นึกขึ้นได้ว่าจ้าวซวนขอให้ตนเป็นคนจัดการเรื่องในตำหนัก จึงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว“แม่นม ใครมาหาข้าหรือ?”“นางรับใช้ของคุณหนูเสิ่นเจ้าค่ะ ขอให้คุณหนูอธิบาย
หลิงอวี๋กระซิบบอกแผนของตนให้แม่นมลี่ฟัง แม่นมลี่ฟังแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข“ได้เจ้าค่ะ จักทำตามที่คุณหนูบอกเจ้าค่ะ!”“เรื่องโง่เขลาเช่นนี้ คิดตบตาเรา เช่นนั้นเราจักตบหน้าให้ดู!”แม่นมลี่ไปทำตามคำสั่งของหลิงอวี๋อย่างมีความสุขหลิงซวนได้ยินเข้าก็อดหัวเราะไม่ได้พลางเอ่ย“อาจารย์ ท่านหลักแหลมยิ่ง หากเป็นเช่นนี้เราจ่ายเงินเล็กน้อยก็สามารถยุแยงพวกเขาได้แล้ว!”หลิงอวี๋ส่ายหัวพลางเอ่ย “แผนการนี้ทำได้แค่ทำให้พวกที่ไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเอง บางคนหันมาหาเราชั่วคราวเท่านั้น แต่พวกที่ภักดีต่อชิวเหวินซวง พวกเขาไม่มีทางโอนอ่อนให้ง่าย ๆ เช่นนั้นหรอก!”“มิกลัวหรอกเจ้าค่ะ อาจารย์ของเราเก่งที่สุดอยู่แล้ว ต้องจัดการพวกเขาได้อย่างแน่นอน!”หลิงซวนเคารพนับถือหลิงอวี๋อย่างมาก นางยกย่องหลิงอวี๋อย่างร่าเริงหลิงอวี๋มิได้มองโลกในแง่ดีเหมือนนาง หากชิวเหวินซวงกล้ามอบสิทธิ์ดูแลตำหนักไว้ให้ชั่วคราวเช่นนี้ คงต้องวางกับดักไว้ให้ตนมิน้อยแน่!นางต้องระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา!นางมิกลัวปัญหา แต่นางเกลียดที่ต้องรับมือกับปัญหาเหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่าเวลาของนางมีค่านัก นางมิอยากเสียเวลาไปกับคนเหล่านี้!
แม่นมเกาให้แม่ครัวคนหนึ่งไปเอารายการอาหารมาให้หลิงอวี๋เปิดดู มาตรฐานอาหารของเซียวหลินเทียนคืออาหาร 5 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่าง มาตรฐานอาหารขององครักษ์คืออาหาร 3 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่าง ส่วนมาตรฐานอาหารของคนรับใช้ในตำหนักคืออาหาร 2 อย่างกับน้ำแกง 1 อย่างมาตรฐานเช่นนี้สำหรับท่านอ๋องอย่างเซียวหลินเทียน ถือเป็นการจัดการที่ค่อนข้างดูปอน ๆ เกินไปแต่ถึงกระนั้น หลิงอวี๋ก็มิคิดว่าเซียวหลินเทียนจะกินได้หมด มันสิ้นเปลืองเกินไปจริง ๆ!หลิงอวี๋นึกถึงอาหารบนโต๊ะของแม่นมเกา ที่เต็มไปด้วยอาหารเจ็ดแปดอย่าง แล้วนางก็ยกมุมปากยิ้มเยาะอาหารมื้อนี้กินดีกว่าของท่านอ๋องอย่างเซียวหลินเทียนอีก!หลิงอวี๋มิได้พูดโพล่งขึ้นมาทันที ในใจก็คำนวณจำนวนคนที่กินอาหารอยู่ในตำหนักอ๋องอี้เป็นประจำ ตั้งแต่เซียวหลินเทียนไปจนถึงองครักษ์ในตำหนักมีเกือบร้อยคนแล้วเตรียมอาหารให้คนเกือบร้อยคนทุกวัน ในครัวมีคนมากถึงเพียงนี้ก็ไม่นับว่ามากเพียงแต่หลิงอวี๋นึกถึงอาหารที่โลหิตจางอย่างปี้ไห่เฟิงสามารถกินได้ ในครัวนี้สามารถทำอาหารอย่างเท่าเทียมได้จริงหรือ?นางดูสมุดบัญชีการจ่ายตลาด บัญชีเป็นระเบียบมาก แต่เมื่อดูอย่างละเอียด หลิงอ