จ้าวซวนตกใจกับคำพูดหลิงอวี๋ครู่หนึ่งแล้วถามฉงน“พระชายา ท่านรู้ว่าองค์ชายเว่ยไม่มีมุกตะขาบฟ้าได้เช่นไร?”หลิงอวี๋หัวเราะเย็นชา มองเย้ยองค์ชายเว่ยที่ท่าทีแข็งค้างในพริบตา“ข้อแรก พี่ใหญ่จ้าว เจ้ามิรู้สึกว่าบังเอิญเกินไปรึ? พวกเราเพิ่งตามหามุกตะขาบฟ้าแล้วก็มีคนพูดทันทีว่าองค์ชายเว่ยมี!”“นี่มิใช่องค์ชายเว่ยวางอุบายล่อพวกเราเข้าเรือนหรือไร?”“เขาหมายให้เรายอมทำทุกอย่างเพื่อขอมุกตะขาบฟ้าจึงวางหลุมพรางนี้!”หลิงอวี๋ปรายจ้องหานหลินเหี้ยม สมองหมู ๆ ขององค์ชายเว่ยคงคิดแผนแยบยลแบบนี้มิได้ เป็นหานหลินคิดแผนนี้แน่ ๆ!นางจะจำบัญชีนี้ไว้!หานหลินผู้นี้ทำนางเลือดขึ้นหน้าได้จริง!นางจะให้เขาต้องชดใช้แน่!หลิงอวี๋จ้องหานหลินจนรู้สึกขนลุกขนชัน สายตาสตรีผู้นี้ดุดันเกินไป รัศมีข่มขวัญทำคนกดดันล้นหลาม!“ข้อสอง นั่นคือหลักฐานที่หักล้างมิได้…”หลิงอวี๋หัวร่อเยาะเอ่ยว่า “จักเป็นนักต้มตุ๋นก็เป็นให้มืออาชีพหน่อย! แม้แต่มุกตะขาบฟ้าคืออันใดก็มิเข้าใจ จักกล้าว่าตนมี!”หลิงอวี๋มองจ้าวซวนกับคนอื่น ๆ ที่ยังสีหน้าสับสนจึงกล่าวอย่างอดทน“ข้าบอกขอยืมใช้มุกตะขาบฟ้าถอนพิษให้ท่านอ๋องแล้วส่งคืนองค์ชายเว่ย!”
“เรื่องวันนี้จะปล่อยไปอย่างนี้มิได้!”พอกลับถึงตำหนักอ๋องอี้ จ้าวซวนก็เอ่ยฉุนเฉียว“องค์ชายเว่ยส่งมือสังหารลอบสังหารท่านอ๋อง และตอนนี้วางอุบายล่อเราให้ไปขายขี้หน้าอีก!”“เราต้องเข้าวังกราบทูลองค์จักรพรรดิให้ฝ่าบาทค้ำจุนแทนท่านอ๋อง!”หลิงอวี๋ขบคิดแก้แค้นสักพัก รู้สึกว่าการเข้าวังไม่มีอะไรน่าสนใจทุกสิ่งเกิดขึ้นที่ตำหนักองค์ชายเว่ย ไร้พยานคนนอกอยู่ในเหตุการณ์ องค์ชายเว่ยจึงเถียงข้าง ๆ คู ๆ ได้เต็มที่นางเอาเวลาที่เปิดศึกน้ำลายไปค้นคว้ายาพิษของเซียวหลิวจะดีกว่ายิ่งกว่านั้น นางส่งคนไปทูลในวังแล้ว ไทเฮากับจักรพรรดิต่างรู้เรื่องที่เซียวหลินเทียนถูกพิษ!หากพวกเขาช่วยได้ก็จะช่วยเป็นธรรมดา!แต่พวกเขาช่วยไม่ได้ นั่นก็ต้องพึ่งตัวเอง!“พี่ใหญ่ปี้กลับมาหรือยัง?”หลิงอวี๋ถามหลิงซินหลิงซินส่ายหน้า “ยังเจ้าค่ะ! ส่วนแม่นมลี่ผ่านมาเที่ยวหนึ่งกล่าวว่ามีเรื่องต้องคุยกับคุณหนู ให้คุณหนูกลับเรือนบุหงาสักเที่ยวเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋สับสนเล็กน้อย แม่นมลี่มาหาตนทำไม?นางสั่งหลิงซวนป้อนน้ำเซียวหลินเทียนแล้วไปเรือนบุหงาทันทีเมื่อเข้าเรือนก็เห็นแม่นมลี่กำลังกวาดถูลาน หลิงอวี๋เอ่ยถาม “แม่นม หลิงซินว่
เมื่อหานหลินเห็นพวกหลิงอวี๋ไปแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกทะแม่ง เขาจึงอดพูดมิได้“องค์ชาย เรื่องวันนี้แพร่ออกไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ว่าเราใช้ข่าวเท็จล่อพระชายาอ๋องอี้มาขายหน้า!”“หากพระชายาอ๋องอี้กลืนความอัปยศนี้มิได้ รุดไปทูลสถานการณ์ต่อหน้าไทเฮากับองค์จักรพรรดิจักไม่เอื้อผลต่อท่านนักหนาพ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยหัวเราะเยาะ “ตัวข้าจักต้องกลัวสตรีแค่คนเดียวรึ? หากนางไปฟ้อง ข้าก็มีวิธีจัดการนาง!”หานหลินยังคงหวั่นวิตก ทันใดนั้นความคิดเฉียบแหลมจึงบังเกิดพลันกล่าวว่า“องค์ชาย มิเช่นนั้นท่านเข้าวังประเดี๋ยวนี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“เราทำพระชายาอ๋องอี้อัปยศมิได้ แต่อาจคุมตาเดินเบี้ยนางได้พ่ะย่ะค่ะ!”หานหลินกระซิบกระซาบใกล้ ๆ ข้างหูองค์ชายเว่ยพักหนึ่งองค์ชายเว่ยฟังแล้วตาเป็นประกาย พลันยิ้มเอ่ยว่า “ท่านหาน มุกนี้ของเจ้าปราดเปรื่องยิ่งนัก! ได้ ตัวข้าจะเข้าวังเดี๋ยวนี้แล!”องค์ชายเว่ยให้คนเตรียมรถม้า อารามไปพระราชวังจักรพรรดิกับฮองเฮากำลังพูดคุยเป็นเพื่อนไทเฮาในตำหนักไทเฮา เมื่อได้ยินว่าองค์ชายเว่ยมาไทเฮาก็นึกถึงเรื่องที่แม่นมเว่ยพูดกับตน“ให้เขาเข้ามาเถอะ!”องค์ชายเว่ยรีบเดินเข้ามาและน้อมคารวะไทเฮา
จักรพรรดิอู่อันเห็นองค์ชายเว่ยกังวลจนน้ำตาแทบตกจึงรู้ว่า องค์ชายเว่ยสิ้นหวังจากการถูกใส่ไคล้เป็นใครโดนบีบส่งของที่ตัวเองไม่มีแบบนี้มิร้อนใจสิแปลก!จักรพรรดิอู่อันพลันเอ่ยกริ้ว“พระชายาช่างไม่รู้จักฟังเหตุผลเสียเลย! แม้จะเป็นห่วงความปลอดภัยขององค์ชายสี่ก็มิควรฝืนใจคน!”“ได้ เรื่องนี้ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจักส่งคนไปช่วยเจ้าพูดให้กระจ่าง!”ไทเฮามองดวงตาแดงก่ำเนื่องร้อนใจขององค์ชายเว่ย ทั้งเห็นจักรพรรดิทรงกริ้ว หวั่นฝ่าบาทพาลใส่หลิงอวี๋จึงกล่าวปลอบ“เยี่ยนเอ๋อร์อย่ากังวล หากไม่มีมุกตะขาบฟ้าเราค่อยหาทางอื่นช่วยน้องเจ้าแล้วกัน!”“ฝ่าบาท พระชายาอ๋องอี้คงเป็นห่วงความปลอดภัยของอ๋องอี้เหมือนกัน จึงใจร้อนไป พวกเจ้าอย่าดุด่านางแรงเถิด!”“ไทเฮา เสด็จพ่อ กระหม่อมมิคิดหยุมหยิมกับสตรี! แม้พระชายาอ๋องอี้จักสับสน แต่ก็เป็นห่วงความปลอดภัยของน้องสี่ถึงหลงกลคนอื่นพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมแค่แค้นคนที่ปล่อยข่าวโคมลอยพวกนั้นมีเจตนาที่ยากจักหยั่งรู้! เสี้ยมความสัมพันธ์ของกระหม่อมกับตำหนักอ๋องอี้พ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยพูดด้วยสัจธรรม “เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ เรื่องก่อนหน้าที่กระหม่อมแย่งฟื้นฟูย่านการค้ากับน้องสี่ เพ
“ฮ่าฮ่า…”ครั้นองค์ชายเว่ยกลับถึงตำหนักองค์ชายเว่ยก็อดหัวร่อครืนใหญ่มิได้“ท่านหาน กลยุทธ์ท่านปราดเปรื่องนัก!”“ตัวข้ามิเพียงทำพระชายาขายหน้าเท่านั้นองค์ชายรองยังเสียหน้าด้วย แถมได้โครงการฟื้นฟูย่านการค้ามาง่าย ๆ !”“รางวัล… ตัวข้าจะให้รางวัลท่านหนัก ๆ อย่างงาม!”หานหลินโค้งกายขอบพระคุณยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยรางวัลจากองค์ชายพ่ะย่ะค่ะ! องค์ชาย นี่มิใช่ผลงานกระหม่อมทั้งหมดเป็นวาสนาขององค์ชายด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเว่ยพึงพอใจต่อถ้อยคำนี้จนยิ้มไม่หุบหานหลินแอบถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่ตัวเองมีญาณรู้ล่วงหน้า ชิงให้องค์ชายเว่ยไปพูดให้กระจ่างตัดหน้าพระชายาอ๋องอี้ไปฟ้องร้องด้วยแบบนี้หากพระชายาอ๋องอี้ไปฟ้องร้อง จักรพรรดิอู่อันจะสะเอียนเท่านั้นวาจาเหล่านั้นที่องค์ชายเว่ยพูดต่อฝ่าบาทล้วนเป็นหานหลินสอน มิเอ่ยถึงพระชายาอ๋องอี้อย่างไร้มารยาทสักประโยค แต่กลับเน้นความโอบอ้อมอารีขององค์ชายเว่ย และความผูกพันฉันพี่น้องอันลึกซึ้งหานหลินพอใจกับความอัจฉริยะของตนยิ่งเรื่ององค์ชายเว่ยได้รับโครงการฟื้นฟูย่านการค้าแพร่ถึงตำหนักอ๋องอี้เรียบร้อยจ้าวซวนโกรธจนคันฟันพลางอดบ่นกับหลิงอวี๋มิได้“พระชายา ท่
ครั้นหลิงอวี๋ได้ยินว่าชิวเหวินซวงอยากให้ชิวเฮ่ากลับมาหัวใจก็สั่นไหว!ชิวเหวินซวงรู้จักพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส!ฉวยตอนเซียวหลินเทียนมิได้สติจัดการให้ชิวเฮ่ากลับ…?แต่พอหลิงอวี๋คิดแบบนี้ก็ส่ายหน้า รู้สึกว่าความคิดนี้ของตัวเองใจแคบเกินไป!พ่อของชิวเหวินซวงสิ้นแล้วจะให้ชิวเฮ่ากลับมาพิธีศพก็ไม่ใช่เรื่องผิด!ชิวเหวินซวงร้องจนสองตาบวมแดง ดูแล้วก็มิใช่การเสแสร้งนางไม่อาจสงสัยเจตนาร้ายของชิวเหวินซวงได้แค่เพราะไม่ชอบ“ลู่หนาน ยามนี้กำลังคนของเรามิพอ เรียกเฉาอี้กับจูเผิงกลับมาช่วยด้วยเถิด!”เหตุการณ์ล้นหลามไม่จบทำจ้าวซวนดูแลไม่ทั่วถึง บวกกับครั้นที่เซียวหลินเทียนถูกลอบฆ่า องครักษ์ฉกาจหลายนายล้มตาย เขาจึงทำได้แค่ระดมกำลังคนหลิงอวี๋ไม่อยากสอดมือเรื่องของตำหนักอ๋องอี้มากนักจึงนิ่งเงียบเมื่อเห็นหลิงซวนมาหลิงอวี๋แค่สั่งหลิงซวนเอาตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงมอบให้ชิวเหวินซวง ถือเป็นค่าเผากระดาษเงินกระดาษทองของบิดานางจากนั้นหลิงอวี๋ก็ทดลองต่อ นางเพาะเลี้ยงแบคทีเรียเลือดของเซียวหลินเทียน การทดลองหลายหนก่อนหน้าล้มเหลวหมด!หลิงอวี๋ถือหลอดทดลองตริตรองบางอย่างที่ตนเลินเล่อไปพอคิดไปครึ่งค่อนวันก็คิด
“แถมมีหลิงหลานใส่ไคล้ว่าข้าลอบคบชู้กับคน! ทว่าชิวเหวินซวงยังเก็บนางไว้ในตำหนัก!”“ชิวเหวินซวงต้องการสิ่งใด? นางรับใช้ที่ไม่มักใหญ่ใฝ่สูงจักวางแผนทำร้ายข้าแบบนี้หรือ?”จ้าวซวนใคร่ครวญตระหนักได้ว่าเขาไม่อยู่ตำหนักในครานั้นแต่หลังเหตุการณ์จบก็ได้ฟังเหล่าองครักษ์ของลู่หนานคุยเรื่องพวกนี้ จ้าวซวนก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลอยู่น้อย ๆ“พี่ใหญ่จ้าว ข้ามิได้ใส่ร้ายพวกเขาเพราะชิวเฮ่าตบข้า! ครานั้นพฤติกรรมพวกนั้นของชิวเฮ่าช่างมิรู้ผิดชอบชั่วดี!”เมื่อหลิงอวี๋ย้อนนึกถึงชิวเฮ่าเตะหลิงเยวี่ยอย่างโหดเหี้ยมก็เกลียดจนอยากกัดเป็นชิ้น“เด็กเล็กอย่างหลิงเยวี่ย หากเป็นเจ้ากับลู่หนานคงมิลงมือเหี้ยม! แต่หนึ่งบาทาของเขาเตะหลิงเยวี่ยนจนลมหายใจร่อแร่!”“และข้าพระชายาผู้ผ่าเผย ท่านอ๋องให้เขาสังหารข้า แต่เขากลับส่งข้าให้เจ้าปากเบี้ยวทำอัปยศ!”“จากนั้น พอตบอีกหนึ่งฝ่ามือก็ทำเส้นลมปราณหัวใจข้าแตกขาด!”“จากเหตุการณ์ไม่กี่เรื่องนี้ก็ดูออกได้ว่าชิวเฮ่ามิใช่ฝ่ายเดียวกับพวกเจ้า!”“แม้พวกเจ้าจักปกป้องผู้เป็นนาย แต่ก็คงมิทำเรื่องมิรู้ผิดชอบชั่วดี!”หลิงอวี๋ส่ายหน้า “ชิวเหวินซวงอาจมิอำมหิตเช่นชิวเฮ่า!”“แต่ในเมื่อนาง
“สืบเงียบ ๆ!”หลิงอวี๋เห็นจ้าวซวนตื่นตัวพลันกระซิบ“สองวันนี้ข้าจักทำเรื่องแม่บ้านแทนชั่วคราว… ข้าทำสิ่งใจบ้างแล้วจักบอกเจ้า!”“พวกเราแบ่งปันความจริงกันแล้ว แม้ชิวเหวินซวงวางกลป้ายสีข้า ในใจเจ้าก็ต้องตระหนัก!”จ้าวซวนมิกล้ามองเป็นเรื่องเล็ก ความกังวลของหลิงอวี๋มิได้ไร้เหตุผล!หากชิวเหวินซวงกระทำเรื่องอย่างกับเดรัจฉานเช่นนี้จริง เช่นนั้นยังจะมีเรื่องใดที่นางทำไม่ได้อีก!“ขอรับ พระชายา ข้าจักเตรียมองครักษ์หญิงเงาให้ท่านสองคน!”จ้าวซวนกล่าวจริงจังรอบคอบ “พวกนางจักปกป้องท่านในที่ลับ ครั้นเวลาสำคัญเป็นพยานให้ท่านได้ด้วยขอรับ!”หลิงอวี๋มิคุ้นกับการมีคนจับตาดูตัวเองเงียบ ๆ มิติลับของนางมิอาจเปิดเผยได้นางเพิ่งคิดปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นเซียวหลินเทียนหมดสติบนตั่งเตียง หลิงอวี๋ก็เปลี่ยนใจ“ได้ แต่แค่สองวันที่ข้าเป็นแม่บ้านเท่านั้น! ผ่านสองวันไป เจ้าต้องถอนพวกนางออก!”“ขอรับ! ข้าจักไปเตรียมเดี๋ยวนี้ขอรับ!”จ้าวซวนจากไปอย่างหนักอกหนักใจหลิงอวี๋กำลังจะวิจัยต่อ ทันใดนั้นก็มีเสียงเบา ๆ ในลานเรือนหลิงอวี๋ตระหนกครู่หนึ่ง เพิ่งคิดจะออกไปดูก็ได้ยินเสียงเรียกเบา ๆ ของปี้ไห่เฟิงที่ปากประตู “พระ