หลิงอวี๋เห็นเพียงจ้าวเจินเจินที่อยู่ตรงหน้า แต่งหน้าเบา ๆ มีใบหน้าที่งดงามยิ่งนางสวมเสื้อในวังลายดอกไม้สีน้ำเงินเข้ม คู่กับกระโปรงจับจีบสีฟ้าอ่อน ด้านนอกคลุมด้วยผ้าตาข่ายปักลายด้วยด้ายสีเงินด้านนอกผ้าตาข่ายคลุมด้วยผ้าวังสีแดงเข้ม คอเสื้อปักด้วยไข่มุกทะเลเหนือที่ดูสวยงาม ไข่มุกสีขาวเหมือนหิมะดูหรูหราเมื่ออยู่บนผ้าวังสีแดงเข้ม!ครานั้นเซียวหลินเทียนอยากรอจนกว่าจ้าวเจินเจินถึงวัยที่ออกเรือนได้ก่อน แล้วจะไปขอให้องค์จักรพรรดิพระราชทานอภิเษกให้แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกหลิงอวี๋วางแผนให้แต่งงานกับนางจ้าวเจินเจินรอเซียวหลินเทียนอยู่สี่ปี มิยอมแต่งงานเลยจนกระทั่งเมื่อครึ่งปีก่อน จ้าวเจินเจินถึงได้แต่งงานกับองค์ชายคังเซียวหลินอี้หลิงอวี๋คนเดิมนั้นแยกคู่รักออกจากกัน ทำลายชีวิตคู่ของพวกเขาไปตลอดชีวิต!เซียวหลินเทียนจะไม่เกลียดนางได้เยี่ยงไร!ในชีวิตนี้ เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นจ้าวเจินเจิน เซียวหลินเทียนจะนึกถึงว่าหลิงอวี๋ทำลายชีวิตคู่ของพวกเขา!ในชีวิตนี้เซียวหลินเทียนจะไม่มีวันให้อภัยนาง!ในที่สุดหลิงอวี๋ก็รู้เหตุผลว่าเหตุใดในวันนั้นเซียวหลินเทียนจึงผลักนางอย่างแรงถึงเพียงนั้น!คาดว่าใน
“น้องสะใภ้… เจ้าไม่มีวิธีแล้วรึ?”องค์ชายคังเอ่ยถามเชิงตำหนิเสียงดัง “ข้าได้ยินว่าเจ้าคือแม่นางหลิงแพทย์ชั้นเซียนมิใช่รึ? เจ้าช่วยน้องสี่มิได้รึ?”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่น “เสด็จพี่... หม่อมฉันรู้ทักษะทางการแพทย์อยู่บ้าง! แต่แม้ว่าเป็นแพทย์ชั้นเซียนก็มิสามารถรักษาโรคได้ทั้งหมดเพคะ!”“ท่านอ๋องของหม่อมฉัน... ถูกแทงไปสิบกว่าครั้ง และสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือเขาถูกพิษ!”“หลิงอวี๋มีความรู้จำกัด มิสามารถแก้พิษได้!”สายตาองค์ชายคังเป็นประกาย ถูกพิษด้วยหรือ?เช่นนั้นเซียวหลินเทียนก็ตายแน่แล้วมิใช่หรือ?“ถูกพิษอันใดกัน?”องค์ชายคังจ้องพลางเอ่ยถาม เขาต้องทำให้แน่ใจว่าเซียวหลินเทียนจะตายแน่ ๆ!หลิงอวี๋ส่ายหัว “มิรู้ว่าถูกพิษชนิดใด ดังนั้นหลิงอวี๋จึงทำอันใดไม่ได้!”“หรือว่าจะปล่อยให้น้องสี่รอการตายเช่นนี้หรือ?”จ้าวเจินเจินเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ทน “ใครกันที่ทำเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้?”องค์ชายคังเหลือบมองจ้าวเจินเจิน พลางยิ้มเย็นชา“จะมีใครได้เล่า! คนธรรมดาที่ไหนจะกล้าลอบสังหารคนในราชวงศ์ได้! นอกจากเสด็จพี่ใหญ่แล้ว ใครเล่าจะทำเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้!”องค์ชายคังพูดอย่างเสแสร้ง “เจินเจิน เจ้ามิร
หลังจากที่หลิงอวี๋ส่งจ้าวเจินเจินกับเซียวหลินอี้กลับไปแล้ว ตำหนักอ๋องอี้ก็มีคนมาเยี่ยมอีกคน!คราวนี้เป็นท่านอ๋องเฉิง แม่ทัพเฉินและหลี่ว์เซียงท่านอ๋องเฉิงกับหลี่ว์เซียงได้รับแจ้งจากแม่ทัพเฉินแล้วจึงได้รู้ว่าเซียวหลินเทียนถูกลอบสังหาร!ทั้งสองรีบมาทันที แล้วก็พบแม่ทัพเฉินที่หน้าประตู“แม่ทัพเฉิน เกิดเรื่องเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?”ท่านอ๋องเฉิงเห็นแม่ทัพเฉินก็ตะโกนด้วยความโกรธ “ไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง ชัดเจนถึงเพียงนี้ว่ามีคนกล้าลอบสังหารท่านอ๋อง! ความปลอดภัยของเมืองหลวงนี้มันแย่ถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”หลี่ว์เซียงดึงท่านอ๋องเฉิงไว้ “ท่านอ๋องเฉิงอย่าเพิ่งใจร้อน มีอะไรก็เข้าไปพูดข้างในเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงอวี๋ได้รับรายงานจากผู้ดูแลต้อนรับจึงรีบออกไปต้อนรับท่านอ๋องเฉิงเห็นนางก็เอ่ยขึ้นอย่างกังวล “องค์ชายสี่เป็นเยี่ยงไรบ้าง? ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?”“ข้าได้ยินมาว่าเขาถูกแทงหลายครั้ง… โลหิตไหลอาบเต็มรถม้า… ยัง… ยังช่วยเขาได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ได้ยินเสียงของท่านอ๋องเฉิงสั่นด้วยความกังวล แสดงให้เห็นว่าเป็นห่วงเซียวหลินเทียนจริง ๆเมื่อเทียบกับการถามไถ่ที่ไม่แยแสของเซียวหลินอี้เมื่อ
หลิงอวี๋ไม่ได้นอนทั้งคืนอีกแล้ว นางไม่อาจฝากความหวังไว้กับมุกตะขาบฟ้าได้!คนรอบตัวต่างไม่เคยเห็นมุกตะขาบฟ้า เช่นนั้นจึงไม่ชัดเจนว่ามันเป็นแค่ตำนานหรือไม่!นางเจาะเลือดของเซียวหลินเทียนไปทำการทดลองในมิติ พยายามค้นหาองค์ประกอบของสารพิษในร่างกายของเซียวหลินเทียนหลังจากค่ำคืนอันวุ่นวาย หลิงอวี๋ไม่พบสิ่งใดเลยนางออกมาอย่างเหนื่อยล้า ตรวจดูอาการของเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนยังคงนอนเงียบ ๆ หัวใจและชีพจรอ่อนแรงนัก!หลิงอวี๋ตรวจบาดแผล ไม่พบสิ่งผิดปกติหลิงอวี๋ป้อนน้ำหญ้าวานรให้กับเซียวหลินเทียนอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว นางจึงงีบหลับบนเก้าอี้ดูเหมือนว่าจะเพิ่งหลับตา ก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนตัวดังมาจากข้างนอกอีกหลิงอวี๋ลืมตาขึ้นอย่างเหนื่อยล้า แล้วก็เห็นว่าข้างนอกหน้าต่างเป็นเวลารุ่งสางแล้ว“พระชายา... แม่นมลี่ทำโจ๊กมาให้พระชายา ข้าเอามาให้แล้ว พระชายากินสักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงซวนเดินเข้ามาพร้อมกับโจ๊ก เห็นหลิงอวี๋สีหน้าซีดเซียว และมีรอยคล้ำขนาดใหญ่สองรอยใต้ตาของนางนางวางโจ๊กลงบนโต๊ะอย่างทุกข์ใจ “พี่จ้าวได้ส่งคนออกไปตามหามุกตะขาบฟ้าแล้ว อย่าได้กังวลนักเลยเจ้าค่ะ อ
รอก่อนเถอะ!ชิวเหวินซวงกำลังคิดจะขู่หลิงอวี๋อีก ก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากข้างนอกนางเปลี่ยนเป็นใบหน้าโศกเศร้าทันที พลางเอ่ยเสียงสะอื้น“พระชายา ท่านพูดเช่นนี้กับข้าได้เยี่ยงไร! ข้าก็เป็นห่วงท่านอ๋องเหมือนกัน…”หลิงอวี๋ตะลึงเล็กน้อย คนที่หยิ่งผยองเมื่อครู่ กลายเป็นเช่นนี้ในพริบตาได้เยี่ยงไร?นางกำลังคิดจะด่ากลับแต่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าก่อนหลิงอวี๋พูดไม่ออกไปทันที เกรงว่าชิวเหวินซวงกำลังแสดงอยู่สินะ!“พระชายา... เหวินซวง เกิดอะไรขึ้น?”จ้าวซวนกับลู่หนานเดินเข้ามาด้วยกัน“พี่จ้าว ต่อไปข้าจักมิจัดการเรื่องของตำหนักอ๋องอี้แล้ว!”ชิวเหวินซวงหลั่งน้ำตาอย่างคับข้องใจ “พระชายา… พระชายาไม่เพียงแต่บอกว่าข้ายั่วยวนท่านอ๋องเท่านั้น แต่ยังบอกว่าข้าอยากจะบีบให้นางออกไปอีก! ข้า… ข้ามิยอมรับการกล่าวหาจอมปลอมนี้!”“ฮือ ๆ… ข้ามิใช่ข้ารับใช้ของตำหนักอ๋องอี้ เหตุใดข้าจะต้องมารับความโกรธนี้ด้วย!”ชิวเหวินซวงปาดน้ำตา ขณะแสดงท่าทีต่อหลิงอวี๋จากมุมที่จ้าวซวนและลู่หนานไม่สามารถมองเห็นได้ยังไม่ทันที่หลิงอวี๋จะพูดอะไร ลู่หนานที่นึกถึงความสบายใจของเซียวหลินเทียนก็เอ่ยขึ้นมาอย่างหุนหันพลันแล่น“พระชายา
หลิงอวี๋พูดจบก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำร้อนที่หลิงซวนนำมาแล้วประคบร้อนบนหน้าตัวเองน้ำร้อนเปิดรูขุมขนนาง หลิงอวี๋จึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นบ้างนางเช็ดหน้าสะอาดแล้วเอ่ยถาม “พี่ใหญ่จ้าว ทุกอย่างเป็นเยี่ยงไรบ้างรึ?”จ้าวซวนด้วยใจห่วงความปลอดภัยของท่านอ๋อง พูดตรง ๆ ว่า“ข้าให้คนติดประกาศทุกแห่งแล้ว ถ้ามีข่าวจะรายงานพระชายาเอง!”“อือ แต่เรามิอาจหวังแค่มุกตะขาบฟ้าอย่างเดียวได้ยังต้องคิดทางหาวิธีอื่นด้วย!”ทั้งสองคุยกันโดยไม่สนใจชิวเหวินซวงที่แสร้งน้อยใจอยู่ข้าง ๆลู่หนานรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย คิดว่าตนอยู่ต่อก็ไม่ได้ช่วยอะไร จึงดึงชิวเหวินซวงที่กำลังปาดน้ำตาออกไปชิวเหวินซวงเก็บงำความแค้น นางแพ้แล้วรอบนี้ชัดเจนว่าจ้าวซวนฟังแค่คำพูดของหลิงอวี๋นางจะเป็นเช่นนี้ต่อไปมิได้จักต้องพาชิวเฮ่ากลับมา!ขณะนี้เองหลู่ชิ่งเดินเข้ามารายงานอย่างรีบร้อน“พระชายา… ในวังส่งคนมาเยี่ยมเยียนท่านอ๋องขอรับ!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินก็จำต้องออกไปกับจ้าวซวน แต่ละคนที่มาเยี่ยมจะมีสักกี่คนหวังให้เซียวหลินเทียนหายจากใจจริงหรือ?มิใช่มาดูว่าเซียวหลินเทียนตายหรือยังหรอกหรือ!มาคราวนี้เป็นขันทีเซี่ย หมอหลวงจางก
“ขันทีเซี่ย ท่านอ๋องรับกระบี่มากโขจริง ทุกดาบหมายคร่าชีวิต!”“คนบงการเบื้องหลังจะเหี้ยมเกินไปแล้ว! วางพิษใส่ท่านอ๋องได้ลงคอ!”“แม้หลิงอวี๋เป็นหมอ แต่หลิงอวี๋ก็จนปัญญารักษาพิษเหล่านี้!”หลิงอวี๋แนะอาการของเซียวหลินเทียนให้ขันทีเซี่ยตาขันทีเซี่ยกะพริบเล็กน้อยชายมองหมอหลวงจางด้วยสีหน้าไร้อารมณ์หลิงอวี๋นึกถึงในฉับพลัน หมอหลวงจางยังไม่ได้คุกเข่าขออภัยที่ตลาดตามเดิมพัน เขายังมีหน้ามาตำหนักอ๋องอี้ได้อย่างไร?หรือว่าองค์ชายคังไม่เชื่อว่าเซียวหลินเทียนถูกพิษเลยเจาะจงให้หมอหลวงจางมาพิสูจน์หรือ?ช่างเถอะ!หากให้องค์ชายเว่ยรู้ว่าเซียวหลินเทียนถูกพิษจริง แล้วยืมปากเขาเผยแพร่ไป อาจลดระดับความสนใจของพวกเขาต่อเซียวหลินเทียนได้ให้เวลาตนทุ่มเทรักษา!“ถังถีเตี่ยน เจ้าดูออกไหมว่าคือพิษอันใด?”หลิงอวี๋เห็นถังถีเตี่ยนลุกขึ้นพลันรีบเอ่ยถามถังถีเตี่ยนส่ายศีรษะ “ตัวข้าไม่เคยพบพิษแบบนี้มาก่อน! ขออภัยพระชายา ข้าจนปัญญาขอรับ!”“ข้าขอตรวจ!”หมอหลวงจางรอไม่ไหวพลางนั่งลงตรวจชีพจรเซียวหลินเทียนฉับไวหลิงอวี๋ไม่วางใจหมอหลวงจาง จ้องการกระทำของเขาตลอดหวั่นเขาแอบวางกลใส่เซียวหลินเทียนโชคดีที่หมอหลวงจ
ปี้ไห่เฟิงยิ้มขมขื่นกล่าวว่า “ข้าเคยมีเหล่าพี่น้องที่สืบถามข่าวได้เก่งนัก… เพียงแต่ข้าขัดสน มิมีเงินให้สินบนพวกเขา…”“พี่ใหญ่ปี้ รอข้าประเดี๋ยว!”หลิงอวี๋เข้าห้องเร็วทันควันพลางหยิบตั๋วเงินหนึ่งแสนตำลึงออกจากมิตินางหยิบมายัดให้ปี้ไห่เฟิงหมดเกลี้ยง “พี่ใหญ่ปี้ งั้นขอรบกวนเจ้าแล้ว! ช่วยข้าสืบถามข่าวให้เร็วที่สุดเถิด!”เมื่อปี้ไห่เฟิงดูเงินมากมายที่หลิงอวี๋ให้ตนก็รีบยัดกลับคืนครึ่งหนึ่ง“พระชายา มิใช้มากปานนี้ ครึ่งเดียวก็พอแล้วขอรับ!”หลิงอวี๋ยังยัดตั๋วเงินให้เขา “พี่ใหญ่ปี้รับเถิด ออกทำธุระข้างนอกไม่มีเงินจักมิสะดวก! ยังไงก็ควรให้สินบนเจ้าไปสืบถามข้าขอแค่ผลลัพธ์!”ปี้ไห่เฟิงชายมองหลิงอวี๋ลึกซึ้ง นำตั๋วเงินซ่อนในอกเสื้อแล้วจากไปเมื่อหลิงซวนเห็นฉากนี้ก็กระซิบว่า “พระชายา ท่านเชื่อใจคนง่ายเพียงนี้ได้เช่นไรเจ้าคะ!”“นั่นเป็นเงินก้อนใหญ่นัก! ท่านมิกลัวเขาเอาเงินแล้วชิ่งไปหรือ?”หลิงอวี๋ตอบหนักแน่น “พี่ใหญ่ปี้มิใช่คนแบบนั้น! จะใช้คนอย่าระแวงถ้าระแวงก็อย่าใช้ ข้าเชื่อใจเขา!”ขณะทั้งคู่กำลังคุยกัน จ้าวซวนกับลู่หนานก็วิ่งเข้ามา“พระชายา ได้ข่าวมุกตะขาบฟ้าแล้วขอรับ… มีคนบอกที่อยู่มั
“ตกลง ข้าจะเข้าร่วมการประลอง!”หลิงอวี๋เอ่ยออกมาอย่างแน่วแน่เย่ซื่อฝานและท่านผู้เฒ่าเย่ต่างสบตากัน พวกเขารู้ดีว่าเสี่ยวชีหนีมิพ้นการประลองในครั้งนี้ ทว่าเสี่ยวชีจะชนะได้จริงหรือ?หลายปีมานี้ตระกูลเย่กับหอโอสถไป๋เป่าต่อสู้กันอย่างเปิดเผย และพวกเขาก็รู้จักคนของไป่หลี่ไห่ดีที่สุดการประลองที่ดูเปิดเผยนี้ ลับหลังอาจจะซ่อนเจตนาฆ่ามิรู้จบเอาไว้ก็ได้!ไป่หลี่ไห่ได้สูญเสียคนไปแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นหากมิได้เตรียมตัวมาอย่างดีเขาไม่มีทางเสนอการประลองเช่นนี้เป็นอันขาด!หลงเพ่ยเพ่ยออกไปก่อน แต่พ่อลูกตระกูลเย่ยังอยู่ ทั้งสองต่างก็มองหลิงอวี๋ด้วยความกังวลหลังจากผ่านไปสักพัก ท่านผู้เฒ่าเย่ก็เอ่ยขึ้นก่อน “เสี่ยวชี เจ้าต้องเตรียมใจเอาไว้ด้วย นี่มิใช่การประลองที่ยุติธรรมเป็นแน่!”“ไป่หลี่ไห่มีกลอุบายมากมาย หากเขามิมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะเจ้าได้เขาไม่มีทางเสนอการประลองหรอก!”หลิงอวี๋คิดเอาไว้แล้ว นางจึงเอ่ยออกไปเรียบ ๆ “ท่านผู้อาวุโส ข้ารู้ แต่ข้าไม่มีทางให้ถอยแล้วเจ้าค่ะ!”หากมิเข้าร่วมก็จะมิได้เห็ดหยก ทั้งยังต้องชดใช้เหมียวหยางด้วยชีวิตอีกนางสามารถต่อสู้กับเหมียวหยางได้ และสามารถต่อสู้กับไ
หลิงอวี๋จึงบอกการคาดเดาของตนให้พ่อลูกตระกูลเย่ฟังทั้งหมดท่านผู้เฒ่าเย่หมดคำพูดไปเลยทีเดียว ทรัพย์สินของตระกูลเหมียวไป่หลี่ไห่ก็จับจ้องอยู่เช่นกัน คนผู้นี้ช่างไม่มีขอบเขตของความเป็นคนเอาเสียเลย!“ท่านผู้อาวุโส ท่านอาจารย์ ข้าคาดว่าการประลองครั้งนี้คงมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะเหมียวหยางเหลือเวลาอีกเพียงสามวันเท่านั้นเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋เอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “ไป่หลี่ไห่กล้าเสนอข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผลเช่นนี้ เขามั่นใจว่าจะบีบข้าลงได้แน่นอน! เพียงแต่ข้ามิรู้ว่าเขาจะใช้วิธีใด!”ท่านผู้เฒ่าเย่หัวเราะเยาะออกมา “เขาจะใช้วิธีใดได้อีกเล่า… อำนาจของเจ้าแห่งทะเลและความโปรดปรานของมหาเทพหลงก็เพียงพอที่จะทำให้เขาทำทุกอย่างที่ต้องการได้แล้ว!”“เขาสามารถทำได้แม้กระทั่งขอพระราชโองการบีบให้เจ้ามอบยาแก้พิษให้ แต่นี่จะเป็นการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่จนเกินไป หากเขายังคิดที่จะอยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เขาก็น่าจะมิทำเช่นนั้น!”หลงเพ่ยเพ่ยเพิ่งเข้าประตูมาก็ได้ยินประโยคนี้เข้า นางจึงอดมิได้ที่จะเอ่ยขัดจังหวะขึ้นมา“ท่านผู้เฒ่าเย่ ท่านคิดผิดไปแล้ว… ไป่หลี่ไห่จะทำเช่นนั้นจริง ๆ เจ้าค่ะ!”“ว่ากระไรนะ?”ท่านผู้เ
หลังจากที่หลงอิงไปแล้ว เรือนเล็กก็เงียบสงบลง แต่หลิงอวี๋รู้ว่านี่เป็นเพียงความสงบภายนอกเท่านั้นในเมื่อไป่หลี่ไห่มีความคิดเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นเขาจะต้องหาวิธีมาบีบให้ตนประลองกับเขาอย่างแน่นอนเหมียวหยางเหลือเวลาอีกเพียงแค่สามวัน ก่อนที่ร่างกายของเขาจะเน่าเปื่อยและตายไป ดังนั้นไป่หลี่ไห่จึงเหลือเวลาอยู่มิมากแล้วหลิงอวี๋ทำอาหารกลางวันแล้วกินพร้อมกับมู่ตงและไป๋อวี้นางต้มโจ๊กที่มีคุณค่าทางโภชนาแยกให้กับผู้รอบรู้ และเมื่อป้อนโจ๊กให้ผู้รอบรู้เสร็จแล้วเย่ซื่อฝานกับท่านผู้เฒ่าตระกูลเย่ก็มาเยี่ยมผู้รอบรู้ถึงที่เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเย่ซื่อฝานกับท่านผู้เฒ่าเย่มา ในใจของนางก็พลันรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา พวกเขามาเยี่ยมผู้รอบรู้ถึงที่ ก็นับว่าเป็นการมาสนับสนุนตนเช่นกัน!“เสี่ยวชี พี่ชายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”ท่านผู้เฒ่าเย่เดินเข้าประตูมาก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงหลิงอวี๋ยิ้มขมขื่น “ยังดีที่ช่วยเหลือกลับมาได้ทันเวลา มิเช่นนั้นก็คงสิ้นชีพไปแล้วเจ้าค่ะ!”ท่านผู้เฒ่าเย่สีหน้ามืดมนลง แล้วเดินเข้าไปในห้องของผู้รอบรู้พร้อมกับหลิงอวี๋ด้วยผู้รอบรู้นอนอยู่บนเตียง ยังมิสามารถขยับตัวได้ จมูกช้ำและใบหน้าบวม ร
หลิงอวี๋เห็นว่าสีหน้าหลงอิงดูจริงใจ จึงจะเชื่อนางไปก่อน“เจ้ารู้เรื่องที่พี่ชายของข้าถูกตระกูลเหมียวแก้แค้นแล้ว เช่นนั้นอาจารย์ของเจ้าก็ต้องรู้แล้วเช่นกัน แล้วเขามีท่าทีอย่างไร?”หลิงอวี๋เอ่ยถามออกไปหลงอิงรู้สึกปวดหัวขึ้นมา จากนั้นเอ่ยออกไปด้วยใจแน่วแน่ “เสี่ยวอวี๋ ข้าจะพูดกับเจ้าตามความจริงก็แล้วกัน ท่านอาจารย์ของข้ามิอยากรับเงื่อนไขการขับไล่เหมียวหยางออกจากสำนักอีกต่อไปแล้ว เขาบอกว่าเดิมทีแล้วนี่เป็นการประลองระหว่างคนรุ่นหลัง มิได้หมายความว่าเขาไร้ความสามารถ!”“เขาต้องการประลองกับเจ้าดูสักครั้ง เป็นการประลองปรุงยาพิษต่อหน้าธารกำนัล หากว่าเขาแพ้ เขาจะตอบตกลงในเงื่อนไขทั้งหมดของเจ้า!”“แต่หากว่าเจ้าแพ้ เจ้าจะต้องมอบยาแก้พิษให้เหมียวหยาง!”หลิงอวี๋อดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา “มิได้หมายความว่าเขาไร้ความสามารถงั้นหรือ? ปรมาจารย์ไป่หลี่ก็สามารถพูดคำเช่นนี้ออกมาได้ ข้านับถือเขาเสียจนอยากจะโขกหัวคารวะให้เสียจริง ๆ!”“ข้าให้เวลาเขาสิบวัน เขาปรุงยาแก้พิษมิได้ แล้วยังมิยอมรับว่าเขาไร้ความสามารถอีกหรือ? ในเมื่อนี่เป็นการประลองของคนรุ่นหลัง ในฐานะที่เขาเป็นผู้อาวุโสจะมาประลองกับข้า เช่นนี้จะ
เย่หรงได้ยินคำถามของหลิงอวี๋ก็เอ่ยตอบไป “เรื่องนี้ข้ารู้ดีทีเดียว ตระกูลเหมียวมีฐานะขึ้นมาจากการพึ่งพาเครื่องยาสมุนไพร เนื่องจัดหาสมุนไพรให้หอโอสถไป๋เป่าอยู่บ่อยครั้ง กอปรกับที่เหมียวหยางค่อนข้างมีพรสวรรค์ในการแยกแยะเครื่องยาสมุนไพรด้วย ไป่หลี่ไห่จึงรับไปเป็นศิษย์!”“หลายปีมานี้ด้วยอำนาจของไป่หลี่ไห่ ตระกูลเหมียวจึงมีสถานะที่สูงขึ้นตามไปด้วย แล้วก็ค่อย ๆ ขึ้นไปเป็นตระกูลที่มีฐานะร่ำรวย!”มิน่า!หลิงอวี๋นึกถึงเงื่อนไขที่ตนเสนอให้หลงอิงก่อนหน้านี้ว่า ให้ไป่หลี่ไห่ขับไล่เขาออกจากสำนักเวลานั้นหลิงอวี๋มิรู้ถึงความแข็งแกร่งของตระกูลเหมียว คิดว่านี่เป็นการกระทำที่จะรักษาชื่อเสียงของไป่หลี่ไห่เอาไว้ตอนนี้เมื่อได้รู้ฐานะของตระกูลเหมียวแล้ว หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าเหตุใดตระกูลเหมียวจึงใช้ผู้รอบรู้แก้แค้นตนฐานะระดับตระกูลเหมียวนี้เรื่องเงินเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องเกียรติต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่หากเหมียวหยางถูกไป่หลี่ไห่ขับไล่ออกจากสำนัก ตระกูลเหมียวจะต้องเสียทั้งเกียรติทั้งศักดิ์ศรี อีกทั้งยังหมายความว่า นับจากนี้จะไม่มีไป่หลี่ไห่คอยสนับสนุนพวกเขาอีกต่อไปด้วยเช่นกันสำหรับตระก
นี่คือสิ่งที่หลิงอวี๋กำลังคิดอยู่ในใจ แต่ผู้รอบรู้กลับมองออกหลิงอวี๋อ้าปากค้างอย่างงุนงง มิรู้ว่าควรจะไปต่ออย่างไร“น้องหญิง วันนั้นพี่ใหญ่เห็นเจ้าตากฝนตัวเปียกโชก แล้วก็เห็นบ้านของเราถูกทำลายพังยับเยิน!”“ตอนนั้นข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกับเจ้า… หากข้ามีความสามารถ ข้าก็จะไปทุบบ้านของเหมียวหยางเช่นกัน!”“หากข้าวางยาพิษเป็น ก็คงมิต้องให้เจ้าลงมือหรอก ข้าจะวางยาพิษเขาด้วยตัวข้าเอง!”ผู้รอบรู้เอ่ยออกมาอย่างแน่วแน่ “ดังนั้น ข้ามิได้รับเคราะห์แทนเจ้า และมิได้ถูกเจ้าทำให้เดือดร้อนด้วย เจ้ามิต้องรู้สึกผิด!”“พี่ใหญ่!”ดวงตาของหลิงอวี๋มีน้ำตาคลอขึ้นอย่างอธิบายมิถูก“ข้าเป็นเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก หลังจากแยกอาจารย์ข้าก็เตร็ดเตร่อยู่ในยุทธภพเพียงลำพัง ไม่มีครอบครัว และไม่มีเป้าหมายใด!”ผู้รอบรู้เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “หลังจากที่ได้รู้จักเจ้า ข้าจึงได้มีบ้านและครอบครัว! ข้าออกไปไหนก็มิต้องกังวลแล้วว่าจะไม่มีบ้านให้กลับ และเมื่อกลับมาก็ยังมีเจ้ารอข้ากินข้าวอยู่!”“น้องหญิง ข้าชอบครอบครัวที่พวกเราสร้างขึ้นมา มันทำให้ข้ารู้สึกว่าข้าก็มีความห่วงใยและมีเป้าหมายอยู่เช่นกัน ข้าหวังว่าจะหาเงินได้ม
“พี่ใหญ่มู่ เห็ดหยกนี้มีอยู่ที่ภูเขาใดหรือ?”หลิงอวี๋หันไปเอ่ยถามเขาหากซื้อมิได้นางก็จะไปเก็บด้วยตนเอง มิว่าจะยากลำบากแค่ไหน นางจะต้องหาเห็ดหยกมารักษาสิงจั๋วให้จงได้“ภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”มู่ตงมองหลิงอวี๋ “เจ้าคงมิคิดจะไปเก็บที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์กระมัง! เป็นไปมิได้หรอก!”“มีหลายสาเหตุทีเดียว ประการแรก ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นของราชวงศ์ มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปเก็บสมุนไพรได้ง่าย ๆ!”“ประการที่สอง แม้ว่าท่านหญิงของข้าจะสามารถพูดให้เจ้าและให้เจ้าเข้าไปในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่เจ้ารู้หรือว่าจะต้องไปเก็บที่ใด?”“ภูเขาศักดิ์สิทธิ์มีอยู่สิบแปดยอดเขา ซึ่งแต่ละยอดเขาก็จะมีความสูงชันและอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่พวกตระกูลอู่ที่คอยเฝ้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์อยู่ ก็ยังมิสามารถสำรวจยอดเขาครบทั้งสิบแปดยอดเขาได้ เจ้าไม่มีทางที่จะหาเห็ดหยกเจอท่ามกลางยอดเขามากมายถึงเพียงนั้นหรอก!”ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ มิได้มีเพียงแค่มู่ตงผู้เดียวที่เอ่ยถึงความลึกลับของภูเขาศักดิ์สิทธิ์นี้กับตนวันนั้นเย่หรงก็บอกกับตนว่า จ้าวหรุ่ยหรุ่ยต้องการพานางไปที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เพื่อหาเครื่องยาสมุนไพรมาสลายเลือดเนื้อของนางและก่อน
หลังจากที่พวกเขารับคำสั่งแล้วก็ออกไป แล้วจู่ ๆ เซียวหลินเทียนก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงตะโกนขึ้นมา “หานเหมย เจ้ารอก่อน!”หานเหมยหยุดชะงัก หานอวี้ก็หยุดเช่นกัน จากนั้นทั้งสองคนก็มองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างสงสัย“ตอนที่ข้าจับตัวจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ที่ภูเขาหมางหลิ่ง นางเผลอหลุดปากออกมาเรื่องหนึ่ง… นางบอกว่านางโกหกหลิงอวี๋ว่าน้องสาวนางถูกจับตัวมาขายที่เมืองหลวงแดนเทพ!”แล้วเซียวหลินเทียนก็เอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น “หลิงอวี๋สูญเสียความทรงจำไป และคิดมาตลอดว่าเจ้าคือเสี่ยวอวี้ น้องสาวของนาง! นางมาที่เมืองหลวงแดนเทพก็เพื่อมาตามหาเจ้า!”หานเหมยตะลึง จากนั้นดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา “ฝ่าบาททรงหมายความว่าจะให้หม่อมฉันไปเข้าใกล้ฮองเฮาหรือเพคะ?”“อืม ตอนนี้หลิงอวี๋มีความคลางแคลงใจต่อพวกเรา ทว่ากับเจ้านั้นแตกต่างออกไป หลังจากที่นางสูญเสียความทรงจำไปเจ้าก็อยู่กับนางตลอด! จ้าวหรุ่ยหรุ่ยพูดเช่นนี้แล้ว นางจะต้องเชื่อว่าเป็นจริงแน่ ๆ!”เซียวหลินเทียนมองไปทางหานเหมย “สิ่งที่ข้ามิแน่ใจตอนนี้ก็คือ หลิงอวี๋จำเรื่องอะไรได้บ้าง และนางสงสัยหรือไม่ว่าเจ้ามิใช่น้องสาวของนาง!”“หากเจ้าบุ่มบ่ามไปเข้าใกล้นางเช่นนี้
และหลังจากที่เซียวหลินเทียนรู้เรื่อง สายตาของเขาก็มองไปทางเผยอวี้ ฉินซาน เถาจื่อและคนอื่น ๆ อย่างเย็นชาเมื่อเผยอวี้ถูกมองเช่นนั้นก็รู้สึกหนาวไปทั้งตัว ฉินซานเองก็เหงื่อแตกพลั่กเช่นกันแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะมิได้ก่นด่าออกมา แต่พวกเขาต่างก็รู้สึกกระวนกระวายกันไปหมดในที่สุด เซียวหลินเทียนก็เอ่ยขึ้นมา เขาเอ่ยด้วยเสียงเคร่งขรึง “วันนี้คนที่ถูกจับตัวไปคือสิงจั๋ว พวกเจ้ารู้สึกว่าโชคดีใช่หรือไม่… เพราะคนที่ถูกจับตัวไปมิใช่ฮองเฮาของพวกเจ้า!”ไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งนั้น ทุกคนต่างก็ยืนก้มหน้าอยู่เช่นนั้นพวกเขาเพิ่งจะรู้ข่าวว่าสิงจั๋วถูกหลงเพ่ยเพ่ยส่งกลับไปที่เรือนเล็กหากคนที่ถูกจับตัวไปเป็นหลิงอวี๋ ศัตรูจะรอจนพวกเขารู้ข่าวก่อนแล้วให้ไปช่วยเหลือหรือ?เช่นนั้นจะยังทันหรือ?“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าติดตามข้าออกมาหลายเดือนแล้ว พวกเจ้าคิดถึงครอบครัวและชีวิตก่อนหน้านี้!”เซียวหลินเทียนเปลี่ยนเป็นตะคอกเสียงแข็ง “หากพวกเจ้ารู้สึกว่ามิคุ้นเคยกับการอยู่แดนเทพ เช่นนั้นใครอยากจะกลับไป ข้าก็จะมิห้าม!”เผยอวี้เหงื่อตก จากนั้นก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง“ฝ่าบาท พวกกระหม่อมประมาทละเลย สมควรได้รับโทษพ่ะย่ะค่ะ!”