หลิงอวี๋เห็นเพียงจ้าวเจินเจินที่อยู่ตรงหน้า แต่งหน้าเบา ๆ มีใบหน้าที่งดงามยิ่งนางสวมเสื้อในวังลายดอกไม้สีน้ำเงินเข้ม คู่กับกระโปรงจับจีบสีฟ้าอ่อน ด้านนอกคลุมด้วยผ้าตาข่ายปักลายด้วยด้ายสีเงินด้านนอกผ้าตาข่ายคลุมด้วยผ้าวังสีแดงเข้ม คอเสื้อปักด้วยไข่มุกทะเลเหนือที่ดูสวยงาม ไข่มุกสีขาวเหมือนหิมะดูหรูหราเมื่ออยู่บนผ้าวังสีแดงเข้ม!ครานั้นเซียวหลินเทียนอยากรอจนกว่าจ้าวเจินเจินถึงวัยที่ออกเรือนได้ก่อน แล้วจะไปขอให้องค์จักรพรรดิพระราชทานอภิเษกให้แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกหลิงอวี๋วางแผนให้แต่งงานกับนางจ้าวเจินเจินรอเซียวหลินเทียนอยู่สี่ปี มิยอมแต่งงานเลยจนกระทั่งเมื่อครึ่งปีก่อน จ้าวเจินเจินถึงได้แต่งงานกับองค์ชายคังเซียวหลินอี้หลิงอวี๋คนเดิมนั้นแยกคู่รักออกจากกัน ทำลายชีวิตคู่ของพวกเขาไปตลอดชีวิต!เซียวหลินเทียนจะไม่เกลียดนางได้เยี่ยงไร!ในชีวิตนี้ เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นจ้าวเจินเจิน เซียวหลินเทียนจะนึกถึงว่าหลิงอวี๋ทำลายชีวิตคู่ของพวกเขา!ในชีวิตนี้เซียวหลินเทียนจะไม่มีวันให้อภัยนาง!ในที่สุดหลิงอวี๋ก็รู้เหตุผลว่าเหตุใดในวันนั้นเซียวหลินเทียนจึงผลักนางอย่างแรงถึงเพียงนั้น!คาดว่าใน
“น้องสะใภ้… เจ้าไม่มีวิธีแล้วรึ?”องค์ชายคังเอ่ยถามเชิงตำหนิเสียงดัง “ข้าได้ยินว่าเจ้าคือแม่นางหลิงแพทย์ชั้นเซียนมิใช่รึ? เจ้าช่วยน้องสี่มิได้รึ?”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่น “เสด็จพี่... หม่อมฉันรู้ทักษะทางการแพทย์อยู่บ้าง! แต่แม้ว่าเป็นแพทย์ชั้นเซียนก็มิสามารถรักษาโรคได้ทั้งหมดเพคะ!”“ท่านอ๋องของหม่อมฉัน... ถูกแทงไปสิบกว่าครั้ง และสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือเขาถูกพิษ!”“หลิงอวี๋มีความรู้จำกัด มิสามารถแก้พิษได้!”สายตาองค์ชายคังเป็นประกาย ถูกพิษด้วยหรือ?เช่นนั้นเซียวหลินเทียนก็ตายแน่แล้วมิใช่หรือ?“ถูกพิษอันใดกัน?”องค์ชายคังจ้องพลางเอ่ยถาม เขาต้องทำให้แน่ใจว่าเซียวหลินเทียนจะตายแน่ ๆ!หลิงอวี๋ส่ายหัว “มิรู้ว่าถูกพิษชนิดใด ดังนั้นหลิงอวี๋จึงทำอันใดไม่ได้!”“หรือว่าจะปล่อยให้น้องสี่รอการตายเช่นนี้หรือ?”จ้าวเจินเจินเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ทน “ใครกันที่ทำเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้?”องค์ชายคังเหลือบมองจ้าวเจินเจิน พลางยิ้มเย็นชา“จะมีใครได้เล่า! คนธรรมดาที่ไหนจะกล้าลอบสังหารคนในราชวงศ์ได้! นอกจากเสด็จพี่ใหญ่แล้ว ใครเล่าจะทำเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้!”องค์ชายคังพูดอย่างเสแสร้ง “เจินเจิน เจ้ามิร
หลังจากที่หลิงอวี๋ส่งจ้าวเจินเจินกับเซียวหลินอี้กลับไปแล้ว ตำหนักอ๋องอี้ก็มีคนมาเยี่ยมอีกคน!คราวนี้เป็นท่านอ๋องเฉิง แม่ทัพเฉินและหลี่ว์เซียงท่านอ๋องเฉิงกับหลี่ว์เซียงได้รับแจ้งจากแม่ทัพเฉินแล้วจึงได้รู้ว่าเซียวหลินเทียนถูกลอบสังหาร!ทั้งสองรีบมาทันที แล้วก็พบแม่ทัพเฉินที่หน้าประตู“แม่ทัพเฉิน เกิดเรื่องเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?”ท่านอ๋องเฉิงเห็นแม่ทัพเฉินก็ตะโกนด้วยความโกรธ “ไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง ชัดเจนถึงเพียงนี้ว่ามีคนกล้าลอบสังหารท่านอ๋อง! ความปลอดภัยของเมืองหลวงนี้มันแย่ถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”หลี่ว์เซียงดึงท่านอ๋องเฉิงไว้ “ท่านอ๋องเฉิงอย่าเพิ่งใจร้อน มีอะไรก็เข้าไปพูดข้างในเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงอวี๋ได้รับรายงานจากผู้ดูแลต้อนรับจึงรีบออกไปต้อนรับท่านอ๋องเฉิงเห็นนางก็เอ่ยขึ้นอย่างกังวล “องค์ชายสี่เป็นเยี่ยงไรบ้าง? ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?”“ข้าได้ยินมาว่าเขาถูกแทงหลายครั้ง… โลหิตไหลอาบเต็มรถม้า… ยัง… ยังช่วยเขาได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ได้ยินเสียงของท่านอ๋องเฉิงสั่นด้วยความกังวล แสดงให้เห็นว่าเป็นห่วงเซียวหลินเทียนจริง ๆเมื่อเทียบกับการถามไถ่ที่ไม่แยแสของเซียวหลินอี้เมื่อ
หลิงอวี๋ไม่ได้นอนทั้งคืนอีกแล้ว นางไม่อาจฝากความหวังไว้กับมุกตะขาบฟ้าได้!คนรอบตัวต่างไม่เคยเห็นมุกตะขาบฟ้า เช่นนั้นจึงไม่ชัดเจนว่ามันเป็นแค่ตำนานหรือไม่!นางเจาะเลือดของเซียวหลินเทียนไปทำการทดลองในมิติ พยายามค้นหาองค์ประกอบของสารพิษในร่างกายของเซียวหลินเทียนหลังจากค่ำคืนอันวุ่นวาย หลิงอวี๋ไม่พบสิ่งใดเลยนางออกมาอย่างเหนื่อยล้า ตรวจดูอาการของเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนยังคงนอนเงียบ ๆ หัวใจและชีพจรอ่อนแรงนัก!หลิงอวี๋ตรวจบาดแผล ไม่พบสิ่งผิดปกติหลิงอวี๋ป้อนน้ำหญ้าวานรให้กับเซียวหลินเทียนอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว นางจึงงีบหลับบนเก้าอี้ดูเหมือนว่าจะเพิ่งหลับตา ก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนตัวดังมาจากข้างนอกอีกหลิงอวี๋ลืมตาขึ้นอย่างเหนื่อยล้า แล้วก็เห็นว่าข้างนอกหน้าต่างเป็นเวลารุ่งสางแล้ว“พระชายา... แม่นมลี่ทำโจ๊กมาให้พระชายา ข้าเอามาให้แล้ว พระชายากินสักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงซวนเดินเข้ามาพร้อมกับโจ๊ก เห็นหลิงอวี๋สีหน้าซีดเซียว และมีรอยคล้ำขนาดใหญ่สองรอยใต้ตาของนางนางวางโจ๊กลงบนโต๊ะอย่างทุกข์ใจ “พี่จ้าวได้ส่งคนออกไปตามหามุกตะขาบฟ้าแล้ว อย่าได้กังวลนักเลยเจ้าค่ะ อ
รอก่อนเถอะ!ชิวเหวินซวงกำลังคิดจะขู่หลิงอวี๋อีก ก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากข้างนอกนางเปลี่ยนเป็นใบหน้าโศกเศร้าทันที พลางเอ่ยเสียงสะอื้น“พระชายา ท่านพูดเช่นนี้กับข้าได้เยี่ยงไร! ข้าก็เป็นห่วงท่านอ๋องเหมือนกัน…”หลิงอวี๋ตะลึงเล็กน้อย คนที่หยิ่งผยองเมื่อครู่ กลายเป็นเช่นนี้ในพริบตาได้เยี่ยงไร?นางกำลังคิดจะด่ากลับแต่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าก่อนหลิงอวี๋พูดไม่ออกไปทันที เกรงว่าชิวเหวินซวงกำลังแสดงอยู่สินะ!“พระชายา... เหวินซวง เกิดอะไรขึ้น?”จ้าวซวนกับลู่หนานเดินเข้ามาด้วยกัน“พี่จ้าว ต่อไปข้าจักมิจัดการเรื่องของตำหนักอ๋องอี้แล้ว!”ชิวเหวินซวงหลั่งน้ำตาอย่างคับข้องใจ “พระชายา… พระชายาไม่เพียงแต่บอกว่าข้ายั่วยวนท่านอ๋องเท่านั้น แต่ยังบอกว่าข้าอยากจะบีบให้นางออกไปอีก! ข้า… ข้ามิยอมรับการกล่าวหาจอมปลอมนี้!”“ฮือ ๆ… ข้ามิใช่ข้ารับใช้ของตำหนักอ๋องอี้ เหตุใดข้าจะต้องมารับความโกรธนี้ด้วย!”ชิวเหวินซวงปาดน้ำตา ขณะแสดงท่าทีต่อหลิงอวี๋จากมุมที่จ้าวซวนและลู่หนานไม่สามารถมองเห็นได้ยังไม่ทันที่หลิงอวี๋จะพูดอะไร ลู่หนานที่นึกถึงความสบายใจของเซียวหลินเทียนก็เอ่ยขึ้นมาอย่างหุนหันพลันแล่น“พระชายา
หลิงอวี๋พูดจบก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำร้อนที่หลิงซวนนำมาแล้วประคบร้อนบนหน้าตัวเองน้ำร้อนเปิดรูขุมขนนาง หลิงอวี๋จึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นบ้างนางเช็ดหน้าสะอาดแล้วเอ่ยถาม “พี่ใหญ่จ้าว ทุกอย่างเป็นเยี่ยงไรบ้างรึ?”จ้าวซวนด้วยใจห่วงความปลอดภัยของท่านอ๋อง พูดตรง ๆ ว่า“ข้าให้คนติดประกาศทุกแห่งแล้ว ถ้ามีข่าวจะรายงานพระชายาเอง!”“อือ แต่เรามิอาจหวังแค่มุกตะขาบฟ้าอย่างเดียวได้ยังต้องคิดทางหาวิธีอื่นด้วย!”ทั้งสองคุยกันโดยไม่สนใจชิวเหวินซวงที่แสร้งน้อยใจอยู่ข้าง ๆลู่หนานรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย คิดว่าตนอยู่ต่อก็ไม่ได้ช่วยอะไร จึงดึงชิวเหวินซวงที่กำลังปาดน้ำตาออกไปชิวเหวินซวงเก็บงำความแค้น นางแพ้แล้วรอบนี้ชัดเจนว่าจ้าวซวนฟังแค่คำพูดของหลิงอวี๋นางจะเป็นเช่นนี้ต่อไปมิได้จักต้องพาชิวเฮ่ากลับมา!ขณะนี้เองหลู่ชิ่งเดินเข้ามารายงานอย่างรีบร้อน“พระชายา… ในวังส่งคนมาเยี่ยมเยียนท่านอ๋องขอรับ!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินก็จำต้องออกไปกับจ้าวซวน แต่ละคนที่มาเยี่ยมจะมีสักกี่คนหวังให้เซียวหลินเทียนหายจากใจจริงหรือ?มิใช่มาดูว่าเซียวหลินเทียนตายหรือยังหรอกหรือ!มาคราวนี้เป็นขันทีเซี่ย หมอหลวงจางก
“ขันทีเซี่ย ท่านอ๋องรับกระบี่มากโขจริง ทุกดาบหมายคร่าชีวิต!”“คนบงการเบื้องหลังจะเหี้ยมเกินไปแล้ว! วางพิษใส่ท่านอ๋องได้ลงคอ!”“แม้หลิงอวี๋เป็นหมอ แต่หลิงอวี๋ก็จนปัญญารักษาพิษเหล่านี้!”หลิงอวี๋แนะอาการของเซียวหลินเทียนให้ขันทีเซี่ยตาขันทีเซี่ยกะพริบเล็กน้อยชายมองหมอหลวงจางด้วยสีหน้าไร้อารมณ์หลิงอวี๋นึกถึงในฉับพลัน หมอหลวงจางยังไม่ได้คุกเข่าขออภัยที่ตลาดตามเดิมพัน เขายังมีหน้ามาตำหนักอ๋องอี้ได้อย่างไร?หรือว่าองค์ชายคังไม่เชื่อว่าเซียวหลินเทียนถูกพิษเลยเจาะจงให้หมอหลวงจางมาพิสูจน์หรือ?ช่างเถอะ!หากให้องค์ชายเว่ยรู้ว่าเซียวหลินเทียนถูกพิษจริง แล้วยืมปากเขาเผยแพร่ไป อาจลดระดับความสนใจของพวกเขาต่อเซียวหลินเทียนได้ให้เวลาตนทุ่มเทรักษา!“ถังถีเตี่ยน เจ้าดูออกไหมว่าคือพิษอันใด?”หลิงอวี๋เห็นถังถีเตี่ยนลุกขึ้นพลันรีบเอ่ยถามถังถีเตี่ยนส่ายศีรษะ “ตัวข้าไม่เคยพบพิษแบบนี้มาก่อน! ขออภัยพระชายา ข้าจนปัญญาขอรับ!”“ข้าขอตรวจ!”หมอหลวงจางรอไม่ไหวพลางนั่งลงตรวจชีพจรเซียวหลินเทียนฉับไวหลิงอวี๋ไม่วางใจหมอหลวงจาง จ้องการกระทำของเขาตลอดหวั่นเขาแอบวางกลใส่เซียวหลินเทียนโชคดีที่หมอหลวงจ
ปี้ไห่เฟิงยิ้มขมขื่นกล่าวว่า “ข้าเคยมีเหล่าพี่น้องที่สืบถามข่าวได้เก่งนัก… เพียงแต่ข้าขัดสน มิมีเงินให้สินบนพวกเขา…”“พี่ใหญ่ปี้ รอข้าประเดี๋ยว!”หลิงอวี๋เข้าห้องเร็วทันควันพลางหยิบตั๋วเงินหนึ่งแสนตำลึงออกจากมิตินางหยิบมายัดให้ปี้ไห่เฟิงหมดเกลี้ยง “พี่ใหญ่ปี้ งั้นขอรบกวนเจ้าแล้ว! ช่วยข้าสืบถามข่าวให้เร็วที่สุดเถิด!”เมื่อปี้ไห่เฟิงดูเงินมากมายที่หลิงอวี๋ให้ตนก็รีบยัดกลับคืนครึ่งหนึ่ง“พระชายา มิใช้มากปานนี้ ครึ่งเดียวก็พอแล้วขอรับ!”หลิงอวี๋ยังยัดตั๋วเงินให้เขา “พี่ใหญ่ปี้รับเถิด ออกทำธุระข้างนอกไม่มีเงินจักมิสะดวก! ยังไงก็ควรให้สินบนเจ้าไปสืบถามข้าขอแค่ผลลัพธ์!”ปี้ไห่เฟิงชายมองหลิงอวี๋ลึกซึ้ง นำตั๋วเงินซ่อนในอกเสื้อแล้วจากไปเมื่อหลิงซวนเห็นฉากนี้ก็กระซิบว่า “พระชายา ท่านเชื่อใจคนง่ายเพียงนี้ได้เช่นไรเจ้าคะ!”“นั่นเป็นเงินก้อนใหญ่นัก! ท่านมิกลัวเขาเอาเงินแล้วชิ่งไปหรือ?”หลิงอวี๋ตอบหนักแน่น “พี่ใหญ่ปี้มิใช่คนแบบนั้น! จะใช้คนอย่าระแวงถ้าระแวงก็อย่าใช้ ข้าเชื่อใจเขา!”ขณะทั้งคู่กำลังคุยกัน จ้าวซวนกับลู่หนานก็วิ่งเข้ามา“พระชายา ได้ข่าวมุกตะขาบฟ้าแล้วขอรับ… มีคนบอกที่อยู่มั
จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว
องค์ชายคังถูกกดอยู่ก็พยายามใช้ลิ้นดันออกออกมาอย่างหวาดกลัว แต่มินานยาก็ละลายอยู่ในปากของเขาองค์ชายคังค่อนข้างงุนงง เขาเห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยโน้มตัวลงมาหาตน แล้วสายตาของนางก็มีแสงที่ดูประหลาด“ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า ข้าพูดอะไรเจ้าต้องทำตามนั้น! พูดตาม!”องค์ชายคังมองแสงหลากหลายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าของตนอย่างหลงใหลแล้วเขาก็เอ่ยราวกับเครื่องกล “ท่านเป็นเจ้านายของข้า ท่านพูดอะไรข้าต้องทำตามนั้น!”“ดีมาก!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกเท้าออกอย่างพอใจแล้วพยุงเขาขึ้นมา“องครักษ์เหล่านั้นมิเคารพข้า โบยทุกคนคนละสามสิบไม้!”องค์ชายคังหมุนตัวราวกับเครื่องกลเดินไปที่ประตูแล้วตะโกนออกไป “ใครก็ได้ เอาตัวพวกเขาไปที พวกเขามิให้ความเคารพต่อพระชายา ให้โบยคนละสามสิบไม้!”องครักษ์ของตำหนักองค์ชายคังพากันวิ่งเข้ามา แม้ว่าจะแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปขององค์ชายคัง แต่ก็ลากตัวองครักษ์ที่หมดสติเหล่านั้นออกไปโบยหนานฮุ่ยกับสุ่ยเหอผู้เป็นนางรับใช้ข้างกายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นภาพนั้นก็มิได้ประทับใจแม้แต่น้อย“คุณหนู น่าเสียดายที่ครานี้จับหลิงอวี๋มิได้ มิเช่นนั้นคุณหนูก็คงจะบรรลุฝ่าดินแดนที่เจ็ดไปได้อย่างราบรื่นแล้ว
เซียวหลินเทียนได้เติมเต็มความปรารถนาและได้กอดคนงาม แต่องค์ชายคังแห่งตำหนักองค์ชายคังกลับอยากจะสังหารจ้าวหรุ่ยหรุ่ยใส่ร้ายหลิงอวี๋ครานี้ แต่หลิงอวี๋กลับรอดพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังทำให้หลิงเสียงกังรอดออกมาอีกองค์ชายคังตกใจเมื่อได้ยินจากผู้ใต้บังคับบัญชามารายงานว่าการผ่าตัดของหลิงเสียงกังสำเร็จและเขาก็สามารถลุกเดินได้แล้วแม้ว่าเรื่องที่ปล้นเงินเบี้ยหวัดทหารในตอนนั้นจะถูกจักรพรรดิอู่อันกดเอาไว้แล้ว แต่องค์ชายคังรู้ว่าเสด็จพ่อสงสัยตนเพียงแต่เรื่องนี้จบลงไปภายใต้การจัดการของจ้าวฮุยและพระชายาเส้าทว่ายามนี้อำนาจอยู่ในมือเซียวหลินเทียน หากหลิงเสียงกังไปฟ้องร้อง จากความเกลียดที่เซียวหลินเทียนมีต่อตน เช่นนั้นจะมิช่วยเขาพลิกคดีได้หรือ!ครั้นองค์ชายคังรู้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจับตัวหลิงเสียงกังไปก็ย้ำแล้วย้ำอีกให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารหลิงเสียงกังไปเสีย ไหนเลยจะคิดว่าสุดท้ายจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเสียท่าให้หลิงเสียงกังรอดไปได้“เจ้าทำงานมิสำเร็จทั้งยังทำให้เสียงานอีก… เจ้ารับรองกับข้ามิใช่หรือว่าจะต้องกำจัดหลิงอวี๋กับหลิงเสียงกังได้อย่างแน่นอน?”องค์ชายคังเดือดดาลใส่จ้าวหรุ่ยหรุ่ย “เจ้าดูสถานการ
เซียวหลินเทียนเชื่อฟังราวกับเด็ก เขาดึงหลิงอวี๋ลุกขึ้นแล้วหยิบจอกหนึ่งส่งให้หลิงอวี๋เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นพิธีการดื่มสุรามงคลแบบโบราณ ภาชนะที่ใส่สุรามงคลนี้คือน้ำเต้าที่ผ่าครึ่งเป็นสองส่วน แล้วบ่าวสาวจะต้องดื่มเป็นคู่กันคนละจอกน้ำเต้านี้จะมีขนาดเล็กและมีความประณีต ตรงกลางจะมีเชือกสีแดงผูกเอาไว้ หลิงอวี๋กำลังสงสัยอยู่ว่าสุรามงคลเป็นเช่นนี้เองหรือ ก็ถูกเซียวหลินเทียนเกี่ยวแขนดึงกลับมาจากความคิดที่เลื่อนลอยออกไป“ดื่มสุรามงคลแล้ว นับตั้งแต่นี้ไปท่านทั้งสองก็จะเป็นหนึ่งเดียว จากนี้ไปต้องจับมือร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน...”บรรดานางรับใช้พากันส่งเสียงโห่ร้องเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้ง แล้วเกี่ยวมือของหลิงอวี๋ให้ยกสุรามมงคลขึ้นสายตานี้ชนะคำพูดนับพันนับหมื่น หลิงอวี๋มองดวงตาที่งดงามของเขา พลันใจลอยไปเล็กน้อย จากนี้ไป คนผู้นี้จะเป็นของตนโดยสมบูรณ์แล้วหรือ?นางยกน้ำเต้าไปอยู่ที่ริมฝีปากตามสัญชาตญาณแล้วดื่มพร้อมกันกับเซียวหลินเทียน“เสร็จพิธีเพคะ พวกบ่าวมิรบกวนเวลาความรักของท่านมทั้งสองแล้วเพคะ...”พวกนางรับใช้หายไปกันหมดในทันที ทั้งยังปิดประตูให้ทั้งสองคนอย่างเอาใส
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก