แชร์

บทที่ 265

ผู้เขียน: กานเฟย
หลิงเยี่ยนยังคิดจะพูดอะไรต่อ แต่ไม่รู้ว่าหลิงเฟิงไปพูดอะไรกับนาง หลิงเยี่ยนจ้องหลิงอวี๋อย่างดุร้าย​ จากนั้นก็ไปยืนข้าง​ ๆ

“น้องสาวของเจ้ามิรู้ความเท่าใด​ อาอวี๋อย่าถือสานางหนา!”

หวางซือยิ้มพลางเอ่ย “ท่านพ่อของเจ้าคิดถึงเจ้าตลอด​ อยากจะไปเยี่ยมเจ้าอยู่ตลอด แต่เขาไม่มีเวลา!”

“ยามนี้มาเจอเรื่องท่านปู่ของเจ้าได้รับบาดเจ็บอีก ยิ่งไม่มีเวลาไปใหญ่!”

หลิงเสียงเซิงฟังอยู่ด้านข้างอย่างรำคาญ เขาแค่อยากให้ท่านอ๋องอี้รีบไปเยี่ยมท่านอดีตเสนาบดี​ แล้วจะได้ส่งพวกเขากลับไป

“ฮูหยิน พาพวกท่านอ๋องอี้เข้าไปเยี่ยมท่านพ่อเถิด!”

“แต่ว่าหมอจางกำลังตรวจพ่อของข้าอยู่ จักรบกวนเวลานานเกินไปมิได้!”

“หวังว่าท่านอ๋องอี้จะอภัยให้กระหม่อม!”

หลิงอวี๋ไม่สนใจที่จะพูดจาเสแสร้งกับพวกเขา จึงเอ่ยไปตรง​ ๆ

“ท่านอ๋อง พวกเราเข้าไปเยี่ยมท่านปู่กันเถิดเพคะ!”

เซียวหลินเทียนพยักหน้าอย่างเย่อหยิ่ง

เขาทำสิ่งนี้เพื่อสนับสนุนหลิงอวี๋​ ใช้ตัวตนของตัวเขาเองมากดดันหลิงเสียงเซิง เพื่อที่หลิงอวี๋จะได้ตรวจท่านอดีตเสนาบดีอย่างสะดวก

หลิงอวี๋รีบเข็นเขาเข้าไป

ทันทีที่นางเข้าไปในห้อง หลิงอวี๋ก็เห็นหมอจางกำลังนั่งตรวจท่านอดีตเสนาบดีอยู่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 266

    มือของหมอจางสั่น​ สมุนไพรที่ยังกดไว้ไม่ดีก็หกกระจายลงบนพื้นเขากลัวว่าสิ่งต่าง​ ๆ​ จะถูกเปิดโปง​ จึงตะโกนด้วยความโกรธ“อาลักษณ์หลิง โรคนี้ยังจักรักษาอยู่หรือไม่? พระชายาอ๋องอี้เข้ามาวุ่นวายเช่นนี้ ข้าจักรักษาท่านอดีตเสนาบดีได้เยี่ยงไร?”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสมุนไพรนี้มีค่ามากเท่าใด? ข้างในนี้ข้าเพิ่มเครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าลงไปมากมาย! มันหกไปหมดแล้ว ใครจะรับผิดชอบ?”“เจ้ามิได้รักษาโรคด้วยซ้ำ แต่คิดจะฆ่าท่านปู่ของข้า!”สมุนไพรหกกระจายหมดแล้ว​ กลิ่นพิเศษนั้นก็ยิ่งเข้มข้นยิ่งขึ้น!หลิงอวี๋ยิ่งมั่นใจว่าในสมุนไพรมีการเติมสิ่งผิดปกติเข้าไป​ นางจึงก่นด่าด้วยความโกรธ“หมอจาง เจ้ากล้าบอกอย่างชัดเจนหรือไม่ว่าเจ้าเติมอะไรลงในยาสมุนไพรบ้าง?”เมื่อหลิงเสียงเซิงเห็นหลิงอวี๋ก้าวร้าวต่อหมอจางเขาก็โกรธมากจนคว้าแขนของหลิงอวี๋ พลางตะคอก“นังผู้หญิงชั่วร้าย นี่เจ้ามิพอใจท่านปู่ของเจ้าหรือ ถึงได้มาช่วยหมอจางมิให้ช่วยท่านปู่ของเจ้า?”“หากเจ้ายังจะวุ่นวายอีกก็ไสหัวไป! ที่นี่มิต้อนรับเจ้า!”ก่อนที่หลิงเสียงเซิงจะเข้าไป เขากระซิบบอกหวางซือถึงเจตนาขององค์ชายเว่ยแล้วแม้ว่าหวางซือจะไม่รู้ว่าเหตุใดองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 267

    ครั้นได้ยินดังนั้นหมอจางก็หันไปมองท่านอดีตเสนาบดีบนเตียงโดยไม่รู้ตัวแม้ว่ายาสมุนไพรของเขาจะถูกหลิงอวี๋ทำหกไปแล้ว​ แต่ยาทั้งสองนี้ก็ได้ถูกนำไปใช้กับบาดแผลของท่านอดีตเสนาบดีแล้วสมุนไพรเมื่อเจอกับเลือดก็สลายซึมเข้าไปแล้ว ขอเพียงถ่วงเวลาไว้เป็นเวลาธูปสองดอก ท่านอดีตเสนาบดีก็จะถูกพิษจนตาย ทั้งยังตรวจสอบอะไรไม่ได้ด้วย!หมอจางยิ่งคิดก็ยิ่งมั่นใจ เขาเอ่ยเยาะเย้ย “ท่านอดีตเสนาบดีได้รับบาดเจ็บหนักเกินไป ข้าทำได้เพียงพยายามอย่างสุดความสามารถและปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา!”“หากท่านอดีตเสนาบดีโชคดีรอดพ้นคืนนี้ไปได้ ต่อจากนี้ก็จะราบรื่นไม่มีเรื่องใด​แล้ว!”“แต่หากโชคร้าย​ ท่านอดีตเสนาบดีจะสิ้นลมหายใจภายในเวลาไม่ถึงสามชั่วยาม!”“หา!”หลิงเสียงเซิงหน้าเจื่อนไปทันที สั่นอยู่ครู่หนึ่งแล้วคว้าแขนของหลิงเฟิงพยุงตัวเองไว้แม้ว่าเขาคิดจะขวางหลิงอวี๋ในการช่วยท่านอดีตเสนาบดี​ แต่เมื่อได้ยินว่าท่านอดีตเสนาบดีจะมีเวลามีชีวิตอยู่ได้เพียงสามชั่วโมงเท่านั้น​ หลิงเสียงเซิงก็ตกใจ“อาอวี๋ ท่านปู่ของเจ้า… จะไม่รอดจริง​ ๆ หรือ?”ป้าสะใภ้ใหญ่ตกใจกลัวกับคำพูดของหมอจางจนหน้าซีดท่านอดีตเสนาบดีเป็นคนสำคัญของ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 268

    เซียวหลินเทียนเห็นครอบครัวของหลิงเสียงเซิงปฏิบัติต่อหลิงอวี๋เช่นนี้ต่อหน้าเขา​ ก็พลันโกรธขึ้นมาทักษะทางการแพทย์ของหลิงอวี๋ได้รับการยอมรับจากท่านฮั๋ว​ หลี่ว์เซียงกับตระกูลกวนปฏิบัติต่อหลิงอวี๋ด้วยความสุภาพ และจ่ายเงินให้เป็นจำนวนมากเพื่อให้ได้รับการรักษาจากหลิงอวี๋!แต่ในสายตาของครอบครัวหลิงเสียงเซิง​ กลับมองราวกับว่าเป็นของไร้ประโยชน์!สิ่งนี้ทำให้เซียวหลินเทียนสงสัยในเจตนาของหลิงเสียงเซิง!เขาเป็นบุตรชายแท้ ๆ​ ของท่านอดีตเสนาบดีจริงหรือไม่?ในใต้หล้านี้มีคนที่สามารถรักษาพ่อของตนเองได้ แต่กลับมีเหตุผลที่จะปฏิเสธหรือ?เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดกลัว​ เขาอดไม่ได้ที่จะกระแอมแรง ๆ พลางเอ่ยอย่างโกรธจัด“บังอาจ! คิดว่าข้าไม่มีตัวตนรึ?”ในห้องนั้นเงียบลงทันที เวลานี้หมอจางดูเหมือนจะค้นพบการมีอยู่ของอ๋องอี้แล้ว จึงก้าวถอยหลังไปอย่างรู้สึกผิดดวงตาที่เฉียบคมของเซียวหลินเทียนจับจ้องไปที่หลิงเสียงเซิงหลิงเสียงเซิงตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว!สายตานี้ของท่านอ๋องอี้… เหตุใดจึงน่ากลัวถึงเพียงนี้!ดูเหมือนว่าจะมองเจตนาของตนออกเลย!โชคดีที่หลังจากนั้นสายตาของเซียวหลินเทียนเคลื่อนไปหาหมอจาง​

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 269

    คำพูดนี้ของเซียวหลินเทียนทำให้หลิงอวี๋ค่อนข้างพอใจเนื่องยามนี้นางไม่สามารถหาหลักฐานใด ๆ มาพิสูจน์ได้ว่าหมอจางวางยาพิษท่านอดีตเสนาบดีการให้เขาอับอายต่อธารกำนัล ยอมรับว่าตนเป็นหมอที่ไม่ได้เรื่อง ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเช่นกัน!ยิ่งไปกว่านั้น เบื้องหลังของหมอจางจะต้องมีคนที่สั่งการอยู่แน่รอให้นางสืบให้รู้ชัดก่อนเถิดว่าใครอยู่เบื้องหลัง แล้วค่อยมาคิดบัญชีพร้อมกัน!คิดถึงตรงนี้หลิงอวี๋ก็ไม่กังวลอีก พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงรำคาญ“ออกไปกันก่อนเถิด ข้าจักไปรักษาท่านปู่ของข้าแล้ว!”เซียวหลินเทียนเห็นความกังวลของหลิงอวี๋ จึงเร่งไล่ให้ทุกคนออกไปทันทีที่หลิงเสียงเซิงได้ยินก็กังวล ลืมเรื่องความกลัวที่มีต่อเซียวหลินเทียน พลางตะโกน“ท่านอ๋องอี้ นี่เป็นเรื่องของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน ยังมิถึงคราวที่ท่านอ๋องต้องตัดสินใจ!”“หากท่านอ๋องยังเข้ามายุ่งวุ่นวายอีก พวกเราจักไปให้องค์จักรพรรดิพิพากษา!”เซียวหลินเทียนมองไปทางหลิงเสียงเซิงย่างเย็นชา ไม่สามารถระงับความโกรธของตนได้อีกต่อไป พลางตะคอกเสียงจริงจัง“อาลักษณ์หลิง ท่านอยากไปตัดสินเรื่องนี้ต่อหน้าองค์จักรพรรดิรึ? เช่นนั้นเราก็ไปกันเลยเถอะ!”“ข้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 270

    “หว่านเอ๋อร์ รีบไปเอาน้ำร้อนมา!”หลิงหว่านตกใจจนอึ้งไป พอถูกหลิงอวี๋ผลักถึงได้เรียกสติกลับมา รีบวิ่งออกไปเรียกให้คนเอาน้ำร้อนมาด้วยความตื่นตระหนกหลิงอวี๋ปิดประตูอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งไปตรวจท่านอดีตเสนาบดีเมื่อเปิดสมุนไพรที่หมอจางห่อไว้ หลิงอวี๋ก็เห็นหนองสีเหลืองและสีแดงไหลออกมาจากบาดแผลที่ขาซ้ายของท่านอดีตเสนาบดีแผลติดเชื้อสาหัสและมีหนองแล้ว!หลิงอวี๋ไม่กังวลกับการติดเชื้อที่บาดแผล สิ่งที่นางกังวลคือสมุนไพรพิษสองชนิดที่หมอใช้กับท่านอดีตเสนาบดีนางรู้สึกได้ว่า ท่านอดีตเสนาบดีหัวใจล้มเหลวแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่หมอจางเต็มใจที่จะเดิมพันกับตน!เขาคิดว่าท่านอดีตเสนาบดีเลือดเป็นพิษแล้ว ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้แล้วสินะ!หลิงอวี๋สงบสติอารมณ์แล้วออกคำสั่ง “หลิงซวน รีบนำกล่องยาของข้าออกมา เตรียมทำการผ่าตัด!”หลิงอวี๋ฉวยโอกาสที่หลิงซวนไปเตรียมตัว รีบเข้าไปในมิติ หยิบอุปกรณ์สำหรับการล้างพิษ และเครื่องมือผ่าตัดอย่างพวกแผ่นเหล็กออกมานางได้ตรวจอาการบาดเจ็บของท่านอดีตเสนาบดีแล้ว ข้อเข่าของท่านอดีตเสนาบดีหักทั้งหมด การบาดเจ็บของหมอนรองข้อเข่าก็รุนแรงมาก!ต้องผ่าตัดแล้วตรึงด้วยแผ่นเหล็กกระทั่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 271

    หลิงอวี๋มองท่าทางดีใจเหลิงของหมอหลวงจางอย่างเย็นชา ตะโกนขึ้นฉับพลัน“หมอหลวงจาง ผู้ใดบอกเจ้าว่าท่านปู่ข้าสิ้นชีพแล้ว?”“เจ้าเป็นแพทย์แต่เอะอะก็หวังให้คนไข้ตาย เจ้าศึกษาจรรยาบรรณวิชาชีพในท้องสุนัขมาหรือไร?”หมอหลวงจางพลันยิ้มหยันกล่าวว่า“พระชายาอ๋องอี้ ข้าไม่ได้ภูมิปัญญาระดับสตรีอย่างเจ้า! หากรักษาคนไข้หายก็เรียกว่าหมอเก่ง”“ทว่าเจ้ารักษาท่านอดีตเสนาบดีตายจะพูดดีอีกก็ไร้ประโยชน์!”“ท่านอาลักษณ์หลิง เมื่อกี้คุณหนูรองเจ้าพูดถูกแล้ว หลิงอวี๋มาล้างแค้น! นางเกลียดที่ท่านอดีตเสนาบดีตัดขาดความสัมพันธ์กับนางในปีนั้น…”“หุบปาก…”เสียงสูงวัยหนึ่งดังขึ้นในห้องหมอหลวงจางยังนึกว่าตัวเองฟังผิดไป ทว่าหลิงหว่านสายตาแหลมคมเห็นท่านอดีตเสนาบดีกำลังยันกายเหยียดขึ้น“ท่านปู่ฟื้นแล้ว!”หลิงหว่านตะโกนลั่นตื่นเต้น พุ่งไปประคองท่านอดีตเสนาบดี น้ำตาไหลพรากหยดลงท่านปู่ยังรอด!พี่หลิงหลิงช่วยชีวิตท่านปู่ไว้!“ท่านพ่อ…”หลิงเสียงเซิงตะลึงงันแล้วเช่นกัน พลางมองบิดาที่หมดสติอย่างงงงันเมื่อครู่ คาดไม่ถึงว่าจะเหยียดกายลุกได้แล้วบนหน้าหวางซืองงงันเหมือนกัน วิชาแพทย์หลิงอวี๋ไม่คิดว่าจะเลิศล้ำขนาดนี้?

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 272

    เซียวหลินเทียนด่าอย่างโมโหว่า “ท่านอาลักษณ์หลิง ท่านยังคือบิดาของหลิงอวี๋รึ?”“หมอหลวงจางให้ประโยชน์เจ้ามากเท่าไร เจ้าถึงช่วยคนนอกมิช่วยญาติเช่นนี้?”หลิงเสียงเซิงคอแข็งตรงเอ่ยเรียก “ท่านอ๋องอี้ กระหม่อมหยัดยืนเท็จจริงมิช่วยญาติ! เดิมทีก็มิใช่หลิงอวี๋ช่วยพ่อกระหม่อม กระหม่อมจักมิขาดจิตสำนึกพูดปด!”เซียวหลินเทียนหัวเราะเคืองขุ่นพลางตะโกน “ช่างเป็นวาจามิขาดจิตสำนึกซะจริง!”“หลิงอวี๋ เจ้ามาบอกทุกคน เจ้าช่วยท่านอดีตเสนาบดีเช่นไร?”หลิงอวี๋โดนหลิงเสียงเซิงทำรู้สึกผิดหวังเช่นกัน เจ้าพ่อแย่คนนี้จนตอนนี้ยังคิดเอาผลงานให้หมอหลวงจาง!หมอหลวงจางให้ผลประโยชน์เขามากเท่าใดกันแน่?“ท่านปู่ล้มขาหักเนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บ! ตามขั้นตอนรักษาทั่วไปคือจัดการแผลแบบนี้ จำเป็นต้องทำความสะอาดขูดเนื้อเสียออก หลีกเลี่ยงแผลเปื่อยติดเชื้อ!”หลิงอวี๋หัวเราะเยือกเย็นชี้ถาดยาข้างเตียงที่ยังไม่ได้เก็บกวาด“ในถาดเป็นเนื้อเสียที่หม่อมฉันช่วยท่านปู่ขูดทำความสะอาด! เดิมทีหมอหลวงจางมิได้ขูดออก เขารักษาแผลท่านปู่เช่นนี้ไม่มีทางหายได้เด็ดขาดเพคะ!”ทุกคนมองตามทิศของนิ้วมือหลิงอวี๋ก็เห็นเนื้อเสียขาวเหลืองประปรายในถาด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 273

    เมื่อคำพูดนี้ออกมา สีหน้าหลิงเสียงเซิงผกผันสิ้นทว่ากำลังมองดาบแวววับของลู่หนานยังคงกวัดแกว่งตรงหน้า แม้ยืมความกล้าหาญของหลิงเสียงเซิง เขาก็ไม่กล้าซักถามหลิงอวี๋อีกท่านอดีตเสนาบดีหัวเราะเยาะหยัน เอ่ยขุ่นเคืองว่า “หมอหลวงจาง เจ้าหลอกเอาเงินเพราะข้าพูดไม่ได้หรือ?”“ถึงแม้สติข้าเลอะเลือน แต่ยังรู้สึกตัวอยู่! เดิมทีเจ้าเข้ามาไม่ได้ป้อนยาลับอะไรข้าเลย!”“หลังเจ้าทายาสมุนไพรให้ข้า ขาข้าก็เจ็บรุนแรงเริ่มหายใจลำบาก”“ข้าฟื้นได้ ทั้งหมดคือหลานสาวข้าช่วยรักษาข้า! หากปล่อยหมอกำมะลออย่างเจ้ามารักษา ข้าคงตายไปแล้วกระมัง!”หมอหลวงจางตกใจสั่นเทิ้มทั้งร่าง คาดไม่ถึงว่าท่านอดีตเสนาบดีจะเข้าใจกระจ่าง?เช่นนั้นเขารู้เรื่องที่ตนวางยาพิษเขาหรือไม่?สมองหมอหลวงจางปั่นป่วนเร็วรี่ เรื่องวางยาพิษตีให้ตายก็ยอมรับไม่ได้!หมอหลวงจางคุกเข่าลงดังตุ้บ พูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ“ได้โปรดท่านอดีตเสนาบดีให้อภัยความผิด… ทั้งมวลคือความสับสนชั่วขณะของข้า! ถึงคิดแอบอ้างผลงานขอรับ!”“ข้าขอแสดงการขออภัยพระชายาอ๋องอี้… พระชายาอ๋องอี้ ข้าผิดแล้ว...”“ช้าก่อน!”เซียวหลินเทียนยิ้มเยาะ “หมอหลวงจางว่าโขกหัวคำนับแสดงการขออภัยแก่

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1893

    เมื่อครอบครัวของเจี่ยงหัวกลับมาที่เรือ พวกเขาก็พบศพไร้หัวในห้องของเขา มีคราบเลือดยาวบนผนังไม้ของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกสลักด้วยกระบี่อาบเลือด“จุดจบของคนทรยศ!”ครอบครัวของเจี่ยงหัวตกใจกลัวมากจนสละเรือและหนีไปในคืนนั้นพวกเขามิรู้ว่าที่จริงแล้วเซียวหลินเทียนมิคิดจะเอาผิดพวกเขา ทุกคนควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และการสังหารเจี่ยงหัวนั้นก็เพียงพอแล้วเซียวหลินเทียนส่งศีรษะของเจี่ยงหัวให้สือหรง ทันใดนั้นสือหรงก็ร้องไห้เศร้าโศกและนำศีรษะของเจี่ยงหัวไปเซ่นให้กับครอบครัวของตนหลังจากนั้น สือหรงก็กระทำการบางอย่าง เขาเขียนจดหมายเลือดเรื่องที่เจี่ยงหัวสมคบคิดกับมหาปราชญ์สังหารเหล่าศิษย์ของตำหนักปีกเงิน และคัดลอกสำเนาไปหลายสิบฉบับภายในคืนเดียววันรุ่งขึ้น ที่ประตูเมืองในพื้นที่นั้นมีพ่อค้าจำนวนมากกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง แล้วก็มีคนพบศีรษะของเจี่ยงหัวที่แขวนอยู่บนกำแพงเมือง และยังมีจดหมายเลือดที่สือหรงเป็นคนเขียน ซึ่งเขียนประณามความผิดของเจี่ยงหัวขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็มีจดหมายเลือดมากมายปลิวลงมาจากกำแพงเมืองทันใดนั้นความผิดฐานทรยศอาจารย์และสมคบคิดกับมหาปราชญ์ของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1892

    หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น หลิงอวี๋ก็คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วสารพัดและสังหารผู้คนเป็นผักปลาแต่หลิงอวี๋กลับมิรู้เลยว่ามหาปราชญ์เป็นผู้สั่งให้คนบิดเบือนและแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปหลังจากที่เขากลับไปถึงเมืองหลวงแดนเทพเซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินนั้นคนหนึ่งทำให้มหาปราชญ์ตาบอด และอีกคนก็ตัดแขนข้างหนึ่งของมหาปราชญ์ มหาปราชญ์จะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรหากเขามิแก้แค้น!เขาทำให้เซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินเสียชื่อเสียงและทำให้ผู้คนทั่วหล้าลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา ส่วนมหาปราชญ์ใช้โอกาสนี้พักฟื้นและหาโอกาสเหมาะเพื่อช่วงชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคือ กระบี่คุณอู่ของเซียวหลินเทียนอีกครั้งมหาปราชญ์มิได้บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบกระบี่อายุนับพันปีเล่มนี้ ด้วยคิดว่ากระบี่เล่มนี้เป็นของตน จึงมิอยากให้ใครมาแย่งชิงมันไปการแพร่กระจายข่าวลือเป็นหนึ่งในอุบายของมหาปราชญ์ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและป้องกันมิให้เขาพบกับเหล่าศิษย์จากตำหนักปีกเงินซึ่งเป็นไปตามคาดว่าข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปยังวงกว้างด้วยความรวดเร็วบรรดาศิษย์ตำหนักปีกเงินบางส่วนที่กระจายอยู่ตามสถาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1891

    ผู้รอบรู้ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เมื่อไรกันที่เขาได้รับความเชื่อใจจากใครบางคนมากมายถึงเพียงนี้!หลิงอวี๋พูดไปตามตรง “พี่ใหญ่ มีเรื่องบางอย่างที่ตอนนี้ข้ายังบอกท่านมิได้ มิใช่ว่าข้ามิไว้ใจท่าน แต่หากพูดไปแล้วมันอาจสร้างปัญหามากมายให้ท่านได้!”“เชื่อใจข้าเถิด สักวันข้าจะเล่าให้ท่านฟังทุกอย่าง!”ผู้รอบรู้มองตั๋วเงินในมือของตนพลางพูดอย่างใจกว้างว่า “ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง หากเจ้ามิอยากพูดก็มิต้องพูดหรอก พี่ใหญ่เชื่อใจเจ้า!”หลิงอวี๋ถึงกับยอมมอบของมีค่าทั้งหมดให้กับตนเช่นนี้ แม้จะมีความลับปิดบังต่อตนผู้รอบรู้ก็ย่อมยอมรับได้ขอแค่เขาเชื่อใจว่าหลิงอวี๋ไม่มีเจตนาร้ายก็พอแล้วสองพี่น้องพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน ต่อมาในวันรุ่งขึ้นที่ฟ้ายังมิสว่าง ผู้รอบรู้ก็รีบรุดไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคันโชคดีที่รถม้าเพิ่งส่งผู้โดยสารเพื่อขึ้นเรือไป ผู้รอบรู้จึงได้เช่ารถม้ามาในราคาสิบตำลึงส่วนหลิงอวี๋นั้นเพิ่งตื่น และผู้รอบรู้ก็วิ่งเข้ามาเคาะประตูด้วยความลิงโลด “น้องชาย รีบลุกเถิด พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว! รถม้ากำลังรออยู่ข้างนอก”หลิงอวี๋รีบอาบน้ำแต่งตัวและแบกห่อผ้าของตนออกมา ผู้รอบรู้ยัดถุงกระดาษไขใบห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1890

    ผู้รอบรู้พูดมิออกแล้ว หลิงอวี๋มิรู้อะไรเลย แล้วจะจ่ายยาที่ถูกต้องได้อย่างไร!“พี่สิง ข้าอยากรู้มากว่าท่านรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าผู้รอบรู้ลำบากใจ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”ใบหน้าของผู้รอบรู้กระตุก เขาหันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง เมื่อก่อนข้าเป็นคนของตำหนักปีกเงิน ข้าเป็นคนของเจี่ยงฮั๋วผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา เมื่อสองปีก่อนข้าทำงานพลาดไป ทำให้เจี่ยงฮั๋วโกรธ เขาจึงไล่ข้าออกจากตำหนักปีกเงิน!”“ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังคิดจะหาโอกาสขอพบท่านเจ้าตำหนักเก่า แล้วกลับไปที่ตำหนักปีกเงินอีกครั้ง แต่ตอนนี้ตำหนักปีกเงินเสื่อมโทรมลงไปแล้ว ได้ยินว่าเจ้าตำหนักเก่าป่วยหนักและมิรับงานแล้ว ข้าจึงได้เร่ร่อนอยู่ข้างนอกตลอดเช่นนี้!”“คนที่ออกมาจากตำหนักปีกเงินล้วนเก่งในการสืบหาข้อมูล แม้ว่าข้าจะออกจากตำหนักปีกเงินไปแล้ว แต่ข้าก็เคยชินกับสัญชาตญาณนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่ใจกับข้อมูลแต่ละประเภทมาก อยากจะรู้มากแค่ไหนก็มิยาก!”หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าผู้รอบรู้ก็เป็นคนที่มีภูมิหลังเช่นก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status