ท่านอ๋องอี้!หลิงเสียงเซิงเป็นคนแรกที่เห็นเซียวหลินเทียนใบหน้าของเขามีประกายความดูถูกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวท่านอ๋องขาพิการผู้นี้ ยามที่สามารถนำทัพได้ เขาก็ยังหวังว่าเขาจะสามารถนั่งตำแหน่งนั้นและสนับสนุนตน!แต่ยามนี้ เขาเป็นคนไร้ประโยชน์ไปเสียแล้ว!แม้ว่าเขาจะเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่ก็เป็นท่านอ๋อง!หลิงเสียงเซิงยังไม่ใจกล้าพอ ที่จะกล้าเมินเฉยต่อท่านอ๋องผู้ที่จักรพรรดิทรงแต่งตั้งด้วยตัวเอง!“ท่านอ๋องอี้!”เขาโค้งคำนับอย่างไม่เต็มใจเซียวหลินเทียนถูกลู่หนานเข็นเข้ามา ทุกคนที่ดูความสนุกอยู่บริเวณรอบ ๆ ต่างพากันหลีกทางให้“ธรณีประตูของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนนี่สูงนักหนา!”“ข้ายังมิรู้เลยว่า มาเยี่ยมท่านอดีตเสนาบดี แล้วจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนจะปฏิบัติต่อผู้มาเยือนเช่นนี้!”เซียวหลินเทียนไม่แสดงสีหน้าใด ๆ สายตาของเขาจ้องมองที่ใบหน้าของหลิงเสียงเซิงอย่างเย็นชาหลิงเสียงเซิงที่เพิ่งจะดูถูกอยู่ในใจ ก็ขาสั่นโดยไม่รู้ตัวเกิดอะไรขึ้น?เซียวหลินเทียนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปนานแล้วไม่ใช่หรือ?เหตุใดสายตาของเขาจึงเย็นชากว่าตอนที่จักรพรรดิอู่อันโกรธเสียอีก มันเฉียบคมราวกับมีดเลย“ทะ… ท่านอ๋อง! กร
“หลิงอวี๋เข้ามิได้! เช่นนั้นพระชายาอ๋องอี้เล่า?”“อาลักษณ์หลิง ท่านอยากเป็นศัตรูกับตำหนักอ๋องอี้ของพวกเราใช่หรือไม่?”ลู่หนานติดตามฝ่าฟันไปกับเซียวหลินเทียนในที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายมามากมาย เขาไม่เห็นอาลักษณ์ของสำนักฮั่นหลินอยู่ในสายตาหรอกเขาวางมือที่เอว แล้วชักดาบออกมาครึ่งหนึ่งหลิงเสียงเซิงเห็นดังนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดไร้สีเลือดไปทันควันเขาเป็นข้าราชการ ร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็กจึงไม่เคยฝึกฝนวรยุทธเลย มีหรือจะทนต่อแรงกดดันของสองคนนี้ได้!เสียงตุ้บพลันดังขึ้น หลิงเสียงเซิงคุกเข่าลงอย่างอ่อนแรง“ท่านอ๋อง เชิญพ่ะย่ะค่ะ! พระ… พระชายาอ๋องอี้ก็เช่นกัน!”หลิงเยี่ยนที่ยังคงคุกเข่าอยู่ที่พื้นเห็นภาพนี้ ก็โกรธมากจนแทบกระอักเลือดท่านพ่อของนางจะสู้กว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไร?นางยังคาดหวังว่าเขาจะระบายความโกรธให้นาง แต่ยามนี้กลับสูญเปล่าไปแล้ว!หลิงอวี๋ก็ตกตะลึงเช่นกันท่านพ่อใจเสาะผู้นี้ หากเขายืนกรานไปตลอด นางยังจะมองเขาดีขึ้นมาบ้าง!แต่ตอนนี้… นางพูดไม่ออกเลยทีเดียว!“ยังไม่ตามมาอีก!”เซียวหลินเทียนเข้าไปแล้ว แต่พบว่าหลิงอวี๋ไม่ได้ตามเข้ามาเมื่อหันกลับไปเห็นท่าทีเหม่อลอยของ
หลิงเยี่ยนยังคิดจะพูดอะไรต่อ แต่ไม่รู้ว่าหลิงเฟิงไปพูดอะไรกับนาง หลิงเยี่ยนจ้องหลิงอวี๋อย่างดุร้าย จากนั้นก็ไปยืนข้าง ๆ“น้องสาวของเจ้ามิรู้ความเท่าใด อาอวี๋อย่าถือสานางหนา!”หวางซือยิ้มพลางเอ่ย “ท่านพ่อของเจ้าคิดถึงเจ้าตลอด อยากจะไปเยี่ยมเจ้าอยู่ตลอด แต่เขาไม่มีเวลา!”“ยามนี้มาเจอเรื่องท่านปู่ของเจ้าได้รับบาดเจ็บอีก ยิ่งไม่มีเวลาไปใหญ่!”หลิงเสียงเซิงฟังอยู่ด้านข้างอย่างรำคาญ เขาแค่อยากให้ท่านอ๋องอี้รีบไปเยี่ยมท่านอดีตเสนาบดี แล้วจะได้ส่งพวกเขากลับไป“ฮูหยิน พาพวกท่านอ๋องอี้เข้าไปเยี่ยมท่านพ่อเถิด!”“แต่ว่าหมอจางกำลังตรวจพ่อของข้าอยู่ จักรบกวนเวลานานเกินไปมิได้!”“หวังว่าท่านอ๋องอี้จะอภัยให้กระหม่อม!”หลิงอวี๋ไม่สนใจที่จะพูดจาเสแสร้งกับพวกเขา จึงเอ่ยไปตรง ๆ“ท่านอ๋อง พวกเราเข้าไปเยี่ยมท่านปู่กันเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าอย่างเย่อหยิ่งเขาทำสิ่งนี้เพื่อสนับสนุนหลิงอวี๋ ใช้ตัวตนของตัวเขาเองมากดดันหลิงเสียงเซิง เพื่อที่หลิงอวี๋จะได้ตรวจท่านอดีตเสนาบดีอย่างสะดวกหลิงอวี๋รีบเข็นเขาเข้าไปทันทีที่นางเข้าไปในห้อง หลิงอวี๋ก็เห็นหมอจางกำลังนั่งตรวจท่านอดีตเสนาบดีอยู่
มือของหมอจางสั่น สมุนไพรที่ยังกดไว้ไม่ดีก็หกกระจายลงบนพื้นเขากลัวว่าสิ่งต่าง ๆ จะถูกเปิดโปง จึงตะโกนด้วยความโกรธ“อาลักษณ์หลิง โรคนี้ยังจักรักษาอยู่หรือไม่? พระชายาอ๋องอี้เข้ามาวุ่นวายเช่นนี้ ข้าจักรักษาท่านอดีตเสนาบดีได้เยี่ยงไร?”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสมุนไพรนี้มีค่ามากเท่าใด? ข้างในนี้ข้าเพิ่มเครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าลงไปมากมาย! มันหกไปหมดแล้ว ใครจะรับผิดชอบ?”“เจ้ามิได้รักษาโรคด้วยซ้ำ แต่คิดจะฆ่าท่านปู่ของข้า!”สมุนไพรหกกระจายหมดแล้ว กลิ่นพิเศษนั้นก็ยิ่งเข้มข้นยิ่งขึ้น!หลิงอวี๋ยิ่งมั่นใจว่าในสมุนไพรมีการเติมสิ่งผิดปกติเข้าไป นางจึงก่นด่าด้วยความโกรธ“หมอจาง เจ้ากล้าบอกอย่างชัดเจนหรือไม่ว่าเจ้าเติมอะไรลงในยาสมุนไพรบ้าง?”เมื่อหลิงเสียงเซิงเห็นหลิงอวี๋ก้าวร้าวต่อหมอจางเขาก็โกรธมากจนคว้าแขนของหลิงอวี๋ พลางตะคอก“นังผู้หญิงชั่วร้าย นี่เจ้ามิพอใจท่านปู่ของเจ้าหรือ ถึงได้มาช่วยหมอจางมิให้ช่วยท่านปู่ของเจ้า?”“หากเจ้ายังจะวุ่นวายอีกก็ไสหัวไป! ที่นี่มิต้อนรับเจ้า!”ก่อนที่หลิงเสียงเซิงจะเข้าไป เขากระซิบบอกหวางซือถึงเจตนาขององค์ชายเว่ยแล้วแม้ว่าหวางซือจะไม่รู้ว่าเหตุใดองค์ชายเ
ครั้นได้ยินดังนั้นหมอจางก็หันไปมองท่านอดีตเสนาบดีบนเตียงโดยไม่รู้ตัวแม้ว่ายาสมุนไพรของเขาจะถูกหลิงอวี๋ทำหกไปแล้ว แต่ยาทั้งสองนี้ก็ได้ถูกนำไปใช้กับบาดแผลของท่านอดีตเสนาบดีแล้วสมุนไพรเมื่อเจอกับเลือดก็สลายซึมเข้าไปแล้ว ขอเพียงถ่วงเวลาไว้เป็นเวลาธูปสองดอก ท่านอดีตเสนาบดีก็จะถูกพิษจนตาย ทั้งยังตรวจสอบอะไรไม่ได้ด้วย!หมอจางยิ่งคิดก็ยิ่งมั่นใจ เขาเอ่ยเยาะเย้ย “ท่านอดีตเสนาบดีได้รับบาดเจ็บหนักเกินไป ข้าทำได้เพียงพยายามอย่างสุดความสามารถและปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา!”“หากท่านอดีตเสนาบดีโชคดีรอดพ้นคืนนี้ไปได้ ต่อจากนี้ก็จะราบรื่นไม่มีเรื่องใดแล้ว!”“แต่หากโชคร้าย ท่านอดีตเสนาบดีจะสิ้นลมหายใจภายในเวลาไม่ถึงสามชั่วยาม!”“หา!”หลิงเสียงเซิงหน้าเจื่อนไปทันที สั่นอยู่ครู่หนึ่งแล้วคว้าแขนของหลิงเฟิงพยุงตัวเองไว้แม้ว่าเขาคิดจะขวางหลิงอวี๋ในการช่วยท่านอดีตเสนาบดี แต่เมื่อได้ยินว่าท่านอดีตเสนาบดีจะมีเวลามีชีวิตอยู่ได้เพียงสามชั่วโมงเท่านั้น หลิงเสียงเซิงก็ตกใจ“อาอวี๋ ท่านปู่ของเจ้า… จะไม่รอดจริง ๆ หรือ?”ป้าสะใภ้ใหญ่ตกใจกลัวกับคำพูดของหมอจางจนหน้าซีดท่านอดีตเสนาบดีเป็นคนสำคัญของ
เซียวหลินเทียนเห็นครอบครัวของหลิงเสียงเซิงปฏิบัติต่อหลิงอวี๋เช่นนี้ต่อหน้าเขา ก็พลันโกรธขึ้นมาทักษะทางการแพทย์ของหลิงอวี๋ได้รับการยอมรับจากท่านฮั๋ว หลี่ว์เซียงกับตระกูลกวนปฏิบัติต่อหลิงอวี๋ด้วยความสุภาพ และจ่ายเงินให้เป็นจำนวนมากเพื่อให้ได้รับการรักษาจากหลิงอวี๋!แต่ในสายตาของครอบครัวหลิงเสียงเซิง กลับมองราวกับว่าเป็นของไร้ประโยชน์!สิ่งนี้ทำให้เซียวหลินเทียนสงสัยในเจตนาของหลิงเสียงเซิง!เขาเป็นบุตรชายแท้ ๆ ของท่านอดีตเสนาบดีจริงหรือไม่?ในใต้หล้านี้มีคนที่สามารถรักษาพ่อของตนเองได้ แต่กลับมีเหตุผลที่จะปฏิเสธหรือ?เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดกลัว เขาอดไม่ได้ที่จะกระแอมแรง ๆ พลางเอ่ยอย่างโกรธจัด“บังอาจ! คิดว่าข้าไม่มีตัวตนรึ?”ในห้องนั้นเงียบลงทันที เวลานี้หมอจางดูเหมือนจะค้นพบการมีอยู่ของอ๋องอี้แล้ว จึงก้าวถอยหลังไปอย่างรู้สึกผิดดวงตาที่เฉียบคมของเซียวหลินเทียนจับจ้องไปที่หลิงเสียงเซิงหลิงเสียงเซิงตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว!สายตานี้ของท่านอ๋องอี้… เหตุใดจึงน่ากลัวถึงเพียงนี้!ดูเหมือนว่าจะมองเจตนาของตนออกเลย!โชคดีที่หลังจากนั้นสายตาของเซียวหลินเทียนเคลื่อนไปหาหมอจาง
คำพูดนี้ของเซียวหลินเทียนทำให้หลิงอวี๋ค่อนข้างพอใจเนื่องยามนี้นางไม่สามารถหาหลักฐานใด ๆ มาพิสูจน์ได้ว่าหมอจางวางยาพิษท่านอดีตเสนาบดีการให้เขาอับอายต่อธารกำนัล ยอมรับว่าตนเป็นหมอที่ไม่ได้เรื่อง ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเช่นกัน!ยิ่งไปกว่านั้น เบื้องหลังของหมอจางจะต้องมีคนที่สั่งการอยู่แน่รอให้นางสืบให้รู้ชัดก่อนเถิดว่าใครอยู่เบื้องหลัง แล้วค่อยมาคิดบัญชีพร้อมกัน!คิดถึงตรงนี้หลิงอวี๋ก็ไม่กังวลอีก พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงรำคาญ“ออกไปกันก่อนเถิด ข้าจักไปรักษาท่านปู่ของข้าแล้ว!”เซียวหลินเทียนเห็นความกังวลของหลิงอวี๋ จึงเร่งไล่ให้ทุกคนออกไปทันทีที่หลิงเสียงเซิงได้ยินก็กังวล ลืมเรื่องความกลัวที่มีต่อเซียวหลินเทียน พลางตะโกน“ท่านอ๋องอี้ นี่เป็นเรื่องของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน ยังมิถึงคราวที่ท่านอ๋องต้องตัดสินใจ!”“หากท่านอ๋องยังเข้ามายุ่งวุ่นวายอีก พวกเราจักไปให้องค์จักรพรรดิพิพากษา!”เซียวหลินเทียนมองไปทางหลิงเสียงเซิงย่างเย็นชา ไม่สามารถระงับความโกรธของตนได้อีกต่อไป พลางตะคอกเสียงจริงจัง“อาลักษณ์หลิง ท่านอยากไปตัดสินเรื่องนี้ต่อหน้าองค์จักรพรรดิรึ? เช่นนั้นเราก็ไปกันเลยเถอะ!”“ข้
“หว่านเอ๋อร์ รีบไปเอาน้ำร้อนมา!”หลิงหว่านตกใจจนอึ้งไป พอถูกหลิงอวี๋ผลักถึงได้เรียกสติกลับมา รีบวิ่งออกไปเรียกให้คนเอาน้ำร้อนมาด้วยความตื่นตระหนกหลิงอวี๋ปิดประตูอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งไปตรวจท่านอดีตเสนาบดีเมื่อเปิดสมุนไพรที่หมอจางห่อไว้ หลิงอวี๋ก็เห็นหนองสีเหลืองและสีแดงไหลออกมาจากบาดแผลที่ขาซ้ายของท่านอดีตเสนาบดีแผลติดเชื้อสาหัสและมีหนองแล้ว!หลิงอวี๋ไม่กังวลกับการติดเชื้อที่บาดแผล สิ่งที่นางกังวลคือสมุนไพรพิษสองชนิดที่หมอใช้กับท่านอดีตเสนาบดีนางรู้สึกได้ว่า ท่านอดีตเสนาบดีหัวใจล้มเหลวแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่หมอจางเต็มใจที่จะเดิมพันกับตน!เขาคิดว่าท่านอดีตเสนาบดีเลือดเป็นพิษแล้ว ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้แล้วสินะ!หลิงอวี๋สงบสติอารมณ์แล้วออกคำสั่ง “หลิงซวน รีบนำกล่องยาของข้าออกมา เตรียมทำการผ่าตัด!”หลิงอวี๋ฉวยโอกาสที่หลิงซวนไปเตรียมตัว รีบเข้าไปในมิติ หยิบอุปกรณ์สำหรับการล้างพิษ และเครื่องมือผ่าตัดอย่างพวกแผ่นเหล็กออกมานางได้ตรวจอาการบาดเจ็บของท่านอดีตเสนาบดีแล้ว ข้อเข่าของท่านอดีตเสนาบดีหักทั้งหมด การบาดเจ็บของหมอนรองข้อเข่าก็รุนแรงมาก!ต้องผ่าตัดแล้วตรึงด้วยแผ่นเหล็กกระทั่
จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว
องค์ชายคังถูกกดอยู่ก็พยายามใช้ลิ้นดันออกออกมาอย่างหวาดกลัว แต่มินานยาก็ละลายอยู่ในปากของเขาองค์ชายคังค่อนข้างงุนงง เขาเห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยโน้มตัวลงมาหาตน แล้วสายตาของนางก็มีแสงที่ดูประหลาด“ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า ข้าพูดอะไรเจ้าต้องทำตามนั้น! พูดตาม!”องค์ชายคังมองแสงหลากหลายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าของตนอย่างหลงใหลแล้วเขาก็เอ่ยราวกับเครื่องกล “ท่านเป็นเจ้านายของข้า ท่านพูดอะไรข้าต้องทำตามนั้น!”“ดีมาก!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกเท้าออกอย่างพอใจแล้วพยุงเขาขึ้นมา“องครักษ์เหล่านั้นมิเคารพข้า โบยทุกคนคนละสามสิบไม้!”องค์ชายคังหมุนตัวราวกับเครื่องกลเดินไปที่ประตูแล้วตะโกนออกไป “ใครก็ได้ เอาตัวพวกเขาไปที พวกเขามิให้ความเคารพต่อพระชายา ให้โบยคนละสามสิบไม้!”องครักษ์ของตำหนักองค์ชายคังพากันวิ่งเข้ามา แม้ว่าจะแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปขององค์ชายคัง แต่ก็ลากตัวองครักษ์ที่หมดสติเหล่านั้นออกไปโบยหนานฮุ่ยกับสุ่ยเหอผู้เป็นนางรับใช้ข้างกายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นภาพนั้นก็มิได้ประทับใจแม้แต่น้อย“คุณหนู น่าเสียดายที่ครานี้จับหลิงอวี๋มิได้ มิเช่นนั้นคุณหนูก็คงจะบรรลุฝ่าดินแดนที่เจ็ดไปได้อย่างราบรื่นแล้ว
เซียวหลินเทียนได้เติมเต็มความปรารถนาและได้กอดคนงาม แต่องค์ชายคังแห่งตำหนักองค์ชายคังกลับอยากจะสังหารจ้าวหรุ่ยหรุ่ยใส่ร้ายหลิงอวี๋ครานี้ แต่หลิงอวี๋กลับรอดพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังทำให้หลิงเสียงกังรอดออกมาอีกองค์ชายคังตกใจเมื่อได้ยินจากผู้ใต้บังคับบัญชามารายงานว่าการผ่าตัดของหลิงเสียงกังสำเร็จและเขาก็สามารถลุกเดินได้แล้วแม้ว่าเรื่องที่ปล้นเงินเบี้ยหวัดทหารในตอนนั้นจะถูกจักรพรรดิอู่อันกดเอาไว้แล้ว แต่องค์ชายคังรู้ว่าเสด็จพ่อสงสัยตนเพียงแต่เรื่องนี้จบลงไปภายใต้การจัดการของจ้าวฮุยและพระชายาเส้าทว่ายามนี้อำนาจอยู่ในมือเซียวหลินเทียน หากหลิงเสียงกังไปฟ้องร้อง จากความเกลียดที่เซียวหลินเทียนมีต่อตน เช่นนั้นจะมิช่วยเขาพลิกคดีได้หรือ!ครั้นองค์ชายคังรู้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจับตัวหลิงเสียงกังไปก็ย้ำแล้วย้ำอีกให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารหลิงเสียงกังไปเสีย ไหนเลยจะคิดว่าสุดท้ายจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเสียท่าให้หลิงเสียงกังรอดไปได้“เจ้าทำงานมิสำเร็จทั้งยังทำให้เสียงานอีก… เจ้ารับรองกับข้ามิใช่หรือว่าจะต้องกำจัดหลิงอวี๋กับหลิงเสียงกังได้อย่างแน่นอน?”องค์ชายคังเดือดดาลใส่จ้าวหรุ่ยหรุ่ย “เจ้าดูสถานการ
เซียวหลินเทียนเชื่อฟังราวกับเด็ก เขาดึงหลิงอวี๋ลุกขึ้นแล้วหยิบจอกหนึ่งส่งให้หลิงอวี๋เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นพิธีการดื่มสุรามงคลแบบโบราณ ภาชนะที่ใส่สุรามงคลนี้คือน้ำเต้าที่ผ่าครึ่งเป็นสองส่วน แล้วบ่าวสาวจะต้องดื่มเป็นคู่กันคนละจอกน้ำเต้านี้จะมีขนาดเล็กและมีความประณีต ตรงกลางจะมีเชือกสีแดงผูกเอาไว้ หลิงอวี๋กำลังสงสัยอยู่ว่าสุรามงคลเป็นเช่นนี้เองหรือ ก็ถูกเซียวหลินเทียนเกี่ยวแขนดึงกลับมาจากความคิดที่เลื่อนลอยออกไป“ดื่มสุรามงคลแล้ว นับตั้งแต่นี้ไปท่านทั้งสองก็จะเป็นหนึ่งเดียว จากนี้ไปต้องจับมือร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน...”บรรดานางรับใช้พากันส่งเสียงโห่ร้องเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้ง แล้วเกี่ยวมือของหลิงอวี๋ให้ยกสุรามมงคลขึ้นสายตานี้ชนะคำพูดนับพันนับหมื่น หลิงอวี๋มองดวงตาที่งดงามของเขา พลันใจลอยไปเล็กน้อย จากนี้ไป คนผู้นี้จะเป็นของตนโดยสมบูรณ์แล้วหรือ?นางยกน้ำเต้าไปอยู่ที่ริมฝีปากตามสัญชาตญาณแล้วดื่มพร้อมกันกับเซียวหลินเทียน“เสร็จพิธีเพคะ พวกบ่าวมิรบกวนเวลาความรักของท่านมทั้งสองแล้วเพคะ...”พวกนางรับใช้หายไปกันหมดในทันที ทั้งยังปิดประตูให้ทั้งสองคนอย่างเอาใส
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก