“หลิงอวี๋ หุบปากซะ!”ทันทีที่เซียวหลินเทียนได้ยินว่าหลิงอวี๋คิดการกบฏอีกครั้ง ทั้งยังพูดจาโอหังด้วย จึงเอ่ยห้ามไว้อย่างเด็ดขาด“หึ ทำได้ลงคอ ยังจะกลัวผู้อื่นพูดอีกหรือ?”แม้ว่าหลิงอวี๋จะโกรธ แต่นางก็ยังคงลดเสียงลง พลางเอ่ยถาม“มันเกี่ยวกับผู้ใดกันแน่? องค์จักรพรรดิถึงได้มิให้สอบสวน?”“เสด็จพ่อมิได้บอกว่ามิให้สอบสวน เขาตกลงที่จะสอบสวนแล้ว!”“ทั้งยังส่งหลี่ว์เซียงกับท่านอ๋องเฉิงให้ยกพลไปจับกุมพวกตระกูลอู๋กับแม่ทัพหลูด้วย!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างใจเย็น “ต่อไปเจ้าก็ระวังคำพูดด้วย อย่าได้เอะอะกระไรก็เอ่ยคำพูดคิดการกบฏ!”“หากเจ้าจักรนหาที่ตาย ก็อย่าดึงพวกเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย!”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินว่าหลี่ว์เซียงกับท่านอ๋องเฉิงยกพลไปแล้วก็พลันโล่งอก ตนเข้าใจผิดแล้ว!ยอมสอบสวนก็ดี!นางวางใจในความประพฤติของหลี่ว์เซียงกับท่านอ๋องเฉิงว่าอย่างน้อยก็สามารถให้ความยุติธรรมแก่พวกจางเหมยได้!“เช่นนั้นเหตุใดท่านถึงไม่สบายพระทัยเล่า?”หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องที่ลู่หนานบอกว่าเซียวหลินเทียนอารมณ์ไม่ดี ก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง“เสด็จพ่อของท่านตำหนิว่าท่านเข้าไปจุ้นจ้านหรือ?”เซียวหลินเทียนส่าย
เซียวหลินเทียนได้ยินก็รู้ทันทีว่าหลิงอวี๋มองใจความสำคัญในนั้นออกแล้วเขามองหลิงอวี๋อย่างประหลาดใจ ยิ่งนานวันก็ยิ่งรู้สึกว่านางผู้นี้ฉลาดยิ่งเมื่อคืนที่คฤหาสน์ของหลี่ว์เซียง ยามนั้นเซียวหลินเทียนยังคิดอยู่เลยว่าจะโน้มน้าวหลี่ว์เซียงได้เยี่ยงไร ไหนเลยจะรู้ว่าตนไม่จำเป็นต้องออกหน้าด้วยซ้ำวาทศิลป์ที่ฮึกเหิมของหลิงอวี๋พอเอ่ยออกมาก็โน้มน้าวหลี่ว์เซียงได้แล้วครานั้นเซียวหลินเทียนฟังอยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกเลือดพล่านฮึกเหิมขึ้นมาเพราะคำพูดของหลิงอวี๋เช่นกันเขาไม่มีทางจะจินตนาการได้เลยว่า หลิงอวี๋คนเมื่อก่อนที่รู้จักแค่กินดื่มและเล่นสนุกสนานไปวัน ๆ นั้น พอจริงจังขึ้นมาก็เป็นห่วงแคว้นและประชาชนเช่นกัน!ยามนั้นเซียวหลินเทียนเองก็คิดว่า หากหลิงอวี๋เป็นผู้ชาย จะต้องเป็นผู้บัญชาการทหารท่านหนึ่งแน่นอน!วาทศิลป์นี้ ไม่มีผู้ใดเทียบได้เลย!ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น ความหดหู่ใจก็ออกมาโดยไม่รู้ตัว“หลังจากนั้นเสด็จพ่อมาพบข้าตามลำพังที่ศาลาในสวน และเห็นด้วยที่ข้าจะเข้าไปทำงานในราชสำนักอีกครั้ง!”“เช่นนั้นก็ดีเลย!” หลิงอวี๋ดีใจแทนเซียวหลินเทียน“ไม่ช้าก็เร็วท่านก็จะยืนได้ เข้าไปทำงานในราชสำนักเร็วส
“จักเข้ามาเหตุใดมิเคาะประตูเล่า!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างโกรธ ๆ เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นชิวเหวินซวงความบูดบึ้งบนใบหน้าของเซียวหลินเทียนยังคงไม่ลดลง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เหวินซวง คราวหลังจะเข้ามาก็อย่าลืมเคาะประตูด้วย!”“ท่านอ๋อง... พระชายาอ๋องอี้ก็อยู่หรือเจ้าคะ!”ชิวเหวินซวงหน้าแดง พลางเอ่ยอย่างรวดเร็ว“หม่อมฉันขอประทานอภัย เหวินซวงเสียมารยาท! ต่อไปหม่อมฉันจะจำไว้ว่าต้องเคาะประตูเพคะ!”“หม่อมฉัน… ประเดี๋ยวหม่อมฉันจะกลับมาใหม่เพคะ!”แม้ว่านางจะบอกเช่นนี้ แต่เท้ากลับไม่ขยับแม้แต่น้อย นางถือสำรับอาหารไม่รู้ว่าควรจะเดินหน้าเข้าไปหรือถอยดีหลิงอวี๋ถูกเซียวหลินเทียนกดลงบนหน้าอกของเขา นางได้กลิ่นอำพันทะเลจาง ๆ บนร่างกายของเซียวหลินเทียนเลยทีเดียวนางได้ยินว่า แม่ดอกบัวขาว(1)ชิวเหวินซวงมา!แม้ว่าจะไม่รู้ว่าเหตุใดเซียวหลินเทียนถึงต้องเล่นละครกับตนก็ตาม!แต่เมื่อนึกถึงที่ชิวเหวินซวงหลงใหลเซียวหลินเทียนมาโดยตลอด หลิงอวี๋ก็อยากจะแกล้งขึ้นมานางจงใจบิดเอว พลางเอ่ยเสียงรำคาญใจ“ท่านอ๋อง ให้นางไปสิเพคะ! ไม่เคยเห็นนางรับใช้ที่ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์เช่นนี้มาก่อนเลย มีอย่างที่ไหนเข้ามาในห้อง
จ้าวซวนมองเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนเอ่ยน้ำเสียงทุ้ม “ท่านอดีตเสนาบดีออกไปฝึกทหาร มิรู้ว่าไปทำเยี่ยงไรเข้าม้ามันตกใจ ก็เลยตกหลังม้า หมดสติไปหลายวันแล้ว!”“แม่ทัพหยวนผู้เป็นรองแม่ทัพของเขาส่งเขากลับมาเมืองหลวง เพิ่งกลับมาถึงจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนเอง!”หลิงอวี๋ได้ยินก็กังวล นึกถึงภาพที่ท่านอดีตเสนาบดีคุกเข่าลงต่อหน้าจักรพรรดิอู่อันเพื่อช่วยเหลือตนเองในวันนั้นนางก็หันหลังแล้ววิ่งออกไป “หม่อมฉันต้องไปดู!”“หลิงอวี๋ รอก่อน! ข้าไปกับเจ้าด้วย! ข้ายังมีเรื่องจักบอกเจ้าอีก!”เซียวหลินเทียนรีบหยุดหลิงอวี๋ไว้หลิงอวี๋หยุด พลางเอ่ยกับจ้าวซวน “เจ้าไปที่เรือนบุหงาแล้วเรียกหลิงซวนให้ไปกับข้า!”จ้าวซวนพยักหน้า จากนั้นก็รีบไปเรียก“หลิงอวี๋ เรื่องอาการบาดเจ็บของท่านอดีตเสนาบดีเกิดขึ้นก่อนที่เจ้าจะหายตัวไป… ข้ามีการคาดเดาไว้ แต่ยังมิได้รับการยืนยัน!”เซียวหลินเทียนกลัวว่าหลิงอวี๋จะไม่รู้อะไร ไม่สามารถจัดการได้ จึงกระซิบ“เจ้าเอาแต่ถามว่าใครคิดจะฆ่าเจ้ามิใช่หรือ? หากมิได้เป็นศัตรูคู่แค้นกัน ใครจะส่งมือวสังหารจากหอเหยี่ยวราตรีมาตามล่าเจ้ากันเล่า?”หลิงอวี๋คิดอยู่ครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วพลางถาม“ท
“ท่านพ่อ ข้าได้ยินว่าท่านปู่ได้รับบาดเจ็บ ข้าเป็นห่วงมากจึงตั้งใจมาเยี่ยมท่านปู่!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างอดทน“ตระกูลหลิงของเราไม่มีหญิงอกตัญญูเช่นเจ้า!”“ท่านปู่ของเจ้าตัดสัมพันธ์กับเจ้าไปแล้ว ไม่ว่าความเป็นหรือความตายก็ไม่เกี่ยวกระไรกับเจ้า! ไสหัวไปจากที่นี่ซะ!”หลิงเสียงเซิงไม่เคยอยากพบหลิงอวี๋ครั้งที่แล้วในงานฉลองวันพระราชสมภพ ท่านอดีตเสนาบดีทำให้จักรพรรดิมิพอใจอย่างมากเพื่อช่วยนาง!แม้แต่ท่านลุงก็ยังเกลียดชังหลิงอวี๋ที่ทำให้เขาต้องอับอายเรื่องของกำนัล เขาตำหนิหลิงเสียงเชิงเรื่องนี้ด้วยครั้นพบกันอย่าว่าแต่เอ่ยประชดเยาะเย้ยเลย ทั้งยังขู่ว่าจะทำให้หลิงเสียงเซิงสูญเสียตำแหน่งอาลักษณ์ของสำนักฮั่นหลินด้วย!หลายวันมานี้หลิงเสียงเซิงกังวลว่าตำแหน่งของตนจะไม่ปลอดภัยเดิมทีก็วุ่นวายใจมากพอแล้ว ไหนเลยจะรู้ว่าเมื่อครู่จะถูกองค์ชายเว่ยเซียวหลินเยี่ยนส่งคนมาเรียกตัวไปอีกคราที่หลิงเสียงเซิงไปยังคงคิดว่า หรือองค์ชายเว่ยจะต้องการคุยกับตนเรื่องการแต่งงานให้หลิงเยี่ยนเข้าตำหนักองค์ชายเว่ยในฐานะชายารองไหนเลยจะรู้ว่าองค์ชายเว่ยไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้เลย เขาเพียงเอ่ยอย่างเศร้า ๆ“อาลักษณ์หลิง
ท่านอ๋องอี้!หลิงเสียงเซิงเป็นคนแรกที่เห็นเซียวหลินเทียนใบหน้าของเขามีประกายความดูถูกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวท่านอ๋องขาพิการผู้นี้ ยามที่สามารถนำทัพได้ เขาก็ยังหวังว่าเขาจะสามารถนั่งตำแหน่งนั้นและสนับสนุนตน!แต่ยามนี้ เขาเป็นคนไร้ประโยชน์ไปเสียแล้ว!แม้ว่าเขาจะเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่ก็เป็นท่านอ๋อง!หลิงเสียงเซิงยังไม่ใจกล้าพอ ที่จะกล้าเมินเฉยต่อท่านอ๋องผู้ที่จักรพรรดิทรงแต่งตั้งด้วยตัวเอง!“ท่านอ๋องอี้!”เขาโค้งคำนับอย่างไม่เต็มใจเซียวหลินเทียนถูกลู่หนานเข็นเข้ามา ทุกคนที่ดูความสนุกอยู่บริเวณรอบ ๆ ต่างพากันหลีกทางให้“ธรณีประตูของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนนี่สูงนักหนา!”“ข้ายังมิรู้เลยว่า มาเยี่ยมท่านอดีตเสนาบดี แล้วจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนจะปฏิบัติต่อผู้มาเยือนเช่นนี้!”เซียวหลินเทียนไม่แสดงสีหน้าใด ๆ สายตาของเขาจ้องมองที่ใบหน้าของหลิงเสียงเซิงอย่างเย็นชาหลิงเสียงเซิงที่เพิ่งจะดูถูกอยู่ในใจ ก็ขาสั่นโดยไม่รู้ตัวเกิดอะไรขึ้น?เซียวหลินเทียนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปนานแล้วไม่ใช่หรือ?เหตุใดสายตาของเขาจึงเย็นชากว่าตอนที่จักรพรรดิอู่อันโกรธเสียอีก มันเฉียบคมราวกับมีดเลย“ทะ… ท่านอ๋อง! กร
“หลิงอวี๋เข้ามิได้! เช่นนั้นพระชายาอ๋องอี้เล่า?”“อาลักษณ์หลิง ท่านอยากเป็นศัตรูกับตำหนักอ๋องอี้ของพวกเราใช่หรือไม่?”ลู่หนานติดตามฝ่าฟันไปกับเซียวหลินเทียนในที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายมามากมาย เขาไม่เห็นอาลักษณ์ของสำนักฮั่นหลินอยู่ในสายตาหรอกเขาวางมือที่เอว แล้วชักดาบออกมาครึ่งหนึ่งหลิงเสียงเซิงเห็นดังนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดไร้สีเลือดไปทันควันเขาเป็นข้าราชการ ร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็กจึงไม่เคยฝึกฝนวรยุทธเลย มีหรือจะทนต่อแรงกดดันของสองคนนี้ได้!เสียงตุ้บพลันดังขึ้น หลิงเสียงเซิงคุกเข่าลงอย่างอ่อนแรง“ท่านอ๋อง เชิญพ่ะย่ะค่ะ! พระ… พระชายาอ๋องอี้ก็เช่นกัน!”หลิงเยี่ยนที่ยังคงคุกเข่าอยู่ที่พื้นเห็นภาพนี้ ก็โกรธมากจนแทบกระอักเลือดท่านพ่อของนางจะสู้กว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไร?นางยังคาดหวังว่าเขาจะระบายความโกรธให้นาง แต่ยามนี้กลับสูญเปล่าไปแล้ว!หลิงอวี๋ก็ตกตะลึงเช่นกันท่านพ่อใจเสาะผู้นี้ หากเขายืนกรานไปตลอด นางยังจะมองเขาดีขึ้นมาบ้าง!แต่ตอนนี้… นางพูดไม่ออกเลยทีเดียว!“ยังไม่ตามมาอีก!”เซียวหลินเทียนเข้าไปแล้ว แต่พบว่าหลิงอวี๋ไม่ได้ตามเข้ามาเมื่อหันกลับไปเห็นท่าทีเหม่อลอยของ
หลิงเยี่ยนยังคิดจะพูดอะไรต่อ แต่ไม่รู้ว่าหลิงเฟิงไปพูดอะไรกับนาง หลิงเยี่ยนจ้องหลิงอวี๋อย่างดุร้าย จากนั้นก็ไปยืนข้าง ๆ“น้องสาวของเจ้ามิรู้ความเท่าใด อาอวี๋อย่าถือสานางหนา!”หวางซือยิ้มพลางเอ่ย “ท่านพ่อของเจ้าคิดถึงเจ้าตลอด อยากจะไปเยี่ยมเจ้าอยู่ตลอด แต่เขาไม่มีเวลา!”“ยามนี้มาเจอเรื่องท่านปู่ของเจ้าได้รับบาดเจ็บอีก ยิ่งไม่มีเวลาไปใหญ่!”หลิงเสียงเซิงฟังอยู่ด้านข้างอย่างรำคาญ เขาแค่อยากให้ท่านอ๋องอี้รีบไปเยี่ยมท่านอดีตเสนาบดี แล้วจะได้ส่งพวกเขากลับไป“ฮูหยิน พาพวกท่านอ๋องอี้เข้าไปเยี่ยมท่านพ่อเถิด!”“แต่ว่าหมอจางกำลังตรวจพ่อของข้าอยู่ จักรบกวนเวลานานเกินไปมิได้!”“หวังว่าท่านอ๋องอี้จะอภัยให้กระหม่อม!”หลิงอวี๋ไม่สนใจที่จะพูดจาเสแสร้งกับพวกเขา จึงเอ่ยไปตรง ๆ“ท่านอ๋อง พวกเราเข้าไปเยี่ยมท่านปู่กันเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าอย่างเย่อหยิ่งเขาทำสิ่งนี้เพื่อสนับสนุนหลิงอวี๋ ใช้ตัวตนของตัวเขาเองมากดดันหลิงเสียงเซิง เพื่อที่หลิงอวี๋จะได้ตรวจท่านอดีตเสนาบดีอย่างสะดวกหลิงอวี๋รีบเข็นเขาเข้าไปทันทีที่นางเข้าไปในห้อง หลิงอวี๋ก็เห็นหมอจางกำลังนั่งตรวจท่านอดีตเสนาบดีอยู่