Share

บทที่ 234

Author: กานเฟย
เซียวหลินเทียนให้อิ๋นฮู๋ไปหาว่ายังมีใครกำลังตามหาหลิงอวี๋อยู่บ้าง

เวลานี้เขากำลังรอข่าวจากอิ๋นฮู๋อยู่

ด้านนอก ชิวเหวินซวงยกอาหารมื้อดึกมา

นางยืนอยู่ที่หน้าประตู ดูความเรียบร้อยของกิ๊บติดผม และจัดชุด ก่อนที่จะเปิดประตูเดินเข้าไป

เซียวหลินเทียนนั่งที่หน้าโต๊ะหนังสือ กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับยุทธวิธีการทหารอยู่

“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเสวยอาหารเย็นไปไม่เท่าไร หิวหรือไม่เพคะ? หม่อมฉันทำมื้อดึกมาให้ เสวยหน่อยเถิดเพคะ!”

ชิวเหวินซวงหยิบถาดมาวางบนโต๊ะหนังสือของเซียวหลินเทียน

นางแสร้งเอ่ยอย่างเผด็จการ “หม่อมฉันทำด้วยตัวเองเลยเพคะ! ท่านอ๋อง หากท่านอ๋องไม่เสวย หม่อมฉันไม่ยอมเพคะ!”

นางพูดไปก็หยิบหนังสือการทหารของเซียวหลินเทียนออกไปวางไว้ข้าง ๆ ไปด้วย

เซียวหลินเทียนไม่เคยมองว่าชิวเหวินซวงเป็นนางรับใช้จริง ๆ เลย!

นางกล้าทำเช่นนี้ ก็เพราะกำลังวางตัวเองอยู่ในฐานะน้องสาวที่ห่วงใยพี่ชาย!

เซียวหลินเทียนเคยชินกับท่าทีเช่นนี้ของนางแล้ว จึงมิได้แสดงความไม่พอใจใด ๆ!

เขายกมือขึ้นกุมขมับ พลางเอ่ยเรียบ ๆ “ไม่อยากกิน เจ้ายกมันออกไปให้พวกจ้าวซวนกินเถิด!”

“ทำเช่นนั้นมิได้หนาเพคะ! ท่านอ๋อง หม่อมฉันรู้ว่าท่าน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 235

    “พอแล้ว!”“ข้าทำเอง!”เซียวหลินเทียนสะบัดมือของชิวเหวินซวงด้วยสีหน้าไม่พอใจ พลางเอ่ยเรียบ ๆ “มันไม่ได้ลวก!”“เจ้าลืมไปแล้วหรือ? ขาของข้าไม่มีความรู้สึกอันใด หากรู้สึกเจ็บจริง ๆ เหตุใดข้าต้องไปหาหมอไปทั่วทุกที่ด้วยเล่า!”เซียวหลินเทียนมองอาหารบนโต๊ะ ไม่มีอารมณ์จะกินแล้ว“เจ้าลงไปก่อนเถอะ!”ชิวเหวินซวงเอ่ยอย่างไม่สบายใจ “ท่านอ๋อง เป็นความผิดของหม่อมฉันที่ซุ่มซ่าม! หม่อมฉันจักไปเอาอาภรณ์มาให้ท่านอ๋องเปลี่ยนเพคะ!”“ลู่หนานไปเอาได้ เจ้าออกไปเถอะ!”เสียงของเซียวหลินเทียนเย็นชาเล็กน้อยชิวเหวินซวงหน้าแดง พลางเอ่ยเบา ๆ “ท่านอ๋อง หม่อมฉันใจร้อน พูดผิดไป หม่อมฉันจะไปเรียกพี่ลู่หนานประเดี๋ยวนี้เลยเพคะ!”นางรีบร้อนเดินออกไปเรียกลู่หนานให้เข้ามาหลังจากที่ปิดห้องไป ชิวเหวินซวงก็ไม่รีบร้อนแล้ว นางยืนอยู่ข้างนอกฟังความเคลื่อนไหวข้างในลู่หนาน น้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านอ๋อง น้ำแกงลวกหรือพ่ะย่ะค่ะ? เหตุใดวันนี้เหวินซวงถึงไม่ระมัดระวังเยี่ยงนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “ไม่เป็นไร นางก็มิได้ระวังเช่นกัน! เปลี่ยนแล้วก็ไม่เป็นไรแล้ว!”“ที่ตำหนักมีเหวินซวงช่วยจัดการดูแลอยู่ พวกเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 236

    “กระหม่อมรู้สึกว่าคนทั้งสองกลุ่มนี้น่าจะเป็นพวกเดียวกัน คนของหานหลินอยู่ในที่แจ้ง คนของหอเหยี่ยวราตรีอยู่ในที่ลับ!”“เพียงแต่ข้ายังไม่พบหลักฐานที่พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกัน!”เซียวหลินเทียนถูนิ้ว พลางครุ่นคิดคนของอิ๋นฮู๋ไปตามหาหลิงอวี๋ตามทิศทางสายน้ำ แต่พื้นที่หลายสิบลี้นั้นใหญ่เกินไป การค้นหาแบบหลับหูหลับตาหาจึงเปลืองแรงเปลืองเวลาเขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ย“เจ้าแบ่งกำลังคนออก ส่วนหนึ่งจับตาดูของหานหลินไว้ อีกส่วนหนึ่งจับตาดูคนของหอเหยี่ยวราตรีไว้!”“และอีกส่วนหนึ่ง ไปหาปลายสายนำตรงหมู่บ้านใกล้ ๆ! คอยจับตาดูว่าในหมู่บ้านมีเรื่องอันใดผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่!”“ต้องดำเนินการให้รวดเร็ว ต้องตามหาพระชายาให้เจอก่อนหน้าพวกหานหลิน!”“พ่ะย่ะค่ะ!” อิ๋นฮู๋รีบหายตัวไปทันทีเซียวหลินเทียนยังคงรักษาท่าทีนั้นไว้ ในหัวก็ครุ่นคิดอยู่ตลอดเหตุใดองค์ชายเว่ยจึงรีบร้อนจะกำจัดหลิงอวี๋?เพียงเพื่อไม่ให้หลิงอวี๋รักษาขาของตนเองหรือ?หรือยังมีเรื่องภายในที่ตนมิรู้อีก?การกระทำของชิวเหวินซวงในวันนี้ เป็นเพียงการหยั่งเชิง หรือมีอะไรเกี่ยวข้องกับที่หลิงอวี๋ลงมือกับองค์ชายเว่ย?......วันรุ่งขึ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 237

    หลิงอวี๋รีบหันไปมอง นอกจากจางเสี่ยวเยี่ยนที่สีหน้าจริงจังแล้ว ก็ไม่เห็นใครเข้ามาหลิงอวี๋โหดร้ายขึ้นมาทันที แล้วรีบเทยาสลบลงในซุปจากนั้นก็รีบคนจากนั้น หลิงอวี๋ก็รีบโยนห่อยาเข้าไปในกองไฟ แล้ววิ่งไปที่ประตู“ข้าอยู่นี่ ใครตามหาข้าหรือ!”“ข้าเองที่หาเจ้า ตามข้ามาสิ!”หลิงอวี๋เห็นว่าคนที่มาคือเถาเฉิง หัวใจของนางเต้นรัว ค่อนข้างโกรธเวลานี้เถาเฉิงมาหาตนเองจะมีเรื่องอันใด จะไม่ทำลายแผนการหลบหนีของตนเองใช่หรือไม่!“มีอะไรหรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ดี “ข้ายังต้องส่งอาหารให้พวกช่างตีเหล็กอีก!”“ข้าหาผู้ช่วยสองสามคนให้เจ้าแล้ว ให้พวกเขาไปส่งก็พอ เจ้าตามข้ามา!”เถาเฉิงเอ่ยอย่างชัดเจนหลิงอวี๋ได้ยินน้ำเสียงของเขามิได้ดูใจดีเหมือนเมื่อคืนนี้ ก็ยิ่งรู้สึกกังวลหรือว่าแผนที่พวกจางเฉียนจะหลบหนีจะรั่วไหลออกไปแล้ว?“เสี่ยวเยี่ยน เจ้าไปส่งอาหารก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าจะมาหาเจ้า!”หลิงอวี๋เห็นสายตาที่เป็นกังวลของจางเสี่ยวเยี่ยน จึงตบไหล่ของนางอย่างปลอบโยนพูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินตามเถาเฉิงไปที่ค่ายทหารเข้าไปในเรือนของทหารจู หลิงอวี๋ก็ยิ่งรู้สึกว่าใจจะมาจุกอยู่ที่ลำคอทหารจูที่มีท่าทีรุนแ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 238

    มือของหลิงอวี๋ขยับไปที่เอวโดยไม่รู้ตัว ครุ่นคิดว่าตนเองมีโอกาสที่จะจับทหารจูมัดแล้วหลบหนีไปมากแค่ไหน!“ทหารจู เจ้าพูดเล่นแล้ว! พระชายาอ๋องอี้กระไรนั่นคือผู้ใดกัน? ข้ามิรู้จริง ๆ!”“ข้าเป็นแค่เด็กผู้หญิงที่ไปเยี่ยมญาติแล้วพลักตกเขา!”หลิงอวี๋แย้มยิ้ม พยายามลดความระวังตัวของทหารจู หากลงมือให้ดีก็จะได้บรรลุเป้าหมายเห็นได้ชัดว่าทหารจูไม่ได้หลอกง่ายถึงเพียงนั้น เขาเอ่ยถามเสียงเข้มงวด“ท่านอ๋องอี้ส่งท่านไปสำรวจเหมืองหรือ? เขารู้เรื่องในเหมืองมากแค่ไหน?”“ท่านอ๋องอี้คิดจะกระทำอันใดกันแน่?”“ท่านคือพระชายาอ๋องอี้ใช่หรือไม่”หลิงอวี๋อ้าปากค้างกับคำถามแต่ละคำถามของทหารจู นางไม่รู้ว่าจะแก้ต่างเยี่ยงไร!หลิงอวี๋หยิบมีดผ่าตัดออกมา ตอนที่กำลังคิดจะทุ่มสุดตัวเข้าไปควบคุมทหารจูจู่ ๆ เถาเฉิงก็ตะโกนมาจากด้านนอก “พี่จู ทหารเฉามาแล้ว ให้พี่รีบไปที่ค่ายทหารทันที!”หัวใจของหลิงอวี๋เต้นรัว ทหารเฉาที่จับตัวนางมาที่นี่มาแล้วหรือ?เช่นนั้นแผนการหลบหนีของพวกเขาในวันนี้จะยังเป็นจริงได้หรือไม่?สีหน้าของทหารจูเปลี่ยนไป พลางตะโกนด้วยเสียงเรียบ “เถาเฉิง เจ้าไปจัดการก่อนเถิด บอกว่าข้าจะรีบไป!”“ขอรับ!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 239

    สงบ! สงบไว้!หลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปที่หลังประตูอย่างเงียบ ๆเมื่อลอดช่องประตูเข้าไป หลิงอวี๋ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรคนที่หันหลังให้ตนเองคือทหารจู ดูเหมือนว่าทหารจูเพิ่งจะออกมาก็ถูกทหารเฉาขวางกั้นไว้เลย“ทหารเฉา ข้าให้เถาเฉิงพาพระชายาอ๋องอี้ออกจากห้องขังจริง ๆ แต่มิได้ให้พามาหาข้าที่นี่!”ทหารจูเอ่ยอย่างใจเย็น “เจ้าส่งจดหมายให้ข้าฆ่านางมิใช่หรือ?”“ข้าทำตามคำสั่งของเจ้า ให้เถาเฉิงพานางไปฆ่าที่เหมืองหมายเลขหนึ่งแล้ว!”“หืม? เร็วถึงเพียงนี้เลยหรือ? ไป พาข้าไปดูศพหน่อย!” ทหารเฉาเอ่ยอย่างเย็นชาทหารจูเอ่ยอย่างไม่ยินใจ “เหตุใด ทหารเฉายังมิเชื่อข้าหรือ?”ทหารเฉาเอ่ยด้วยท่าทีแปลก ๆ“ไม่ใช่ว่าข้ามิเชื่อเจ้า! แต่ว่าเรื่องนี้มันสำคัญมาก ข้าต้องยืนยันก่อนจึงจะสามารถอธิบายให้แม่ทัพหลูฟังได้!”“หากทหารเฉามิเชื่อก็ไปดูด้วยตัวเองเลย แซ่จูไม่สบาย จึงมิขอไปด้วย! เถาเฉิง เราไปกินข้าวกันเถิด!”ทหารจูลากเถาเฉิงออกไป“หยุด!”สีหน้าของทหารเฉาเข้มขึ้น “จูจวิน เจ้ากล้าขัดคำสั่งรึ?”ทหารจูหัวเราะเยาะอย่างไม่เกรงใจ “ข้าขัดคำสั่งเยี่ยงไรเล่า? เจ้าให้ข้าฆ่านาง ข้าก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 240

    "บุกเลย!"ทางค่ายทหาร พวกทหารเฉาทุกคนก็ได้ยินเสียงอึกทึกกึกก้องนั้นเช่นกันทหารเฉาทั้งตกใจทั้งโกรธ พลางตะคอก “จูจวิน เจ้าจะกบฏรึ? ข้าจะฆ่าเจ้าแน่!”เขาชักดาบออกมา เหวี่ยงดาบไปที่เถาเฉิงที่ขวางหน้าทหารจูอยู่ทหารจูได้ยินเสียงตะคอก ความมั่นใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เขาดึงเถาเฉิงออกไป แล้วดาบในมือก็ปัดดาบของทหารเฉาปลิวไปจูจวินส่งเสียงคำรามยาว มีชีวิตชีวา แล้วหัวเราะพลางเอ่ย“ข้าทนกับพวกเจ้ามานานมากแล้ว… ไอ้ทหารไร้สาระกระไรนี่ ข้าไม่ทำแล้ว!”“มา วันนี้ข้าจะฆ่าพวกอันธพาลที่ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญเยี่ยงพวกเจ้า ไอ้พวกไร้ความสามารถ...”ดาบในมือของทหารเฉาถูกปัดปลิวไปแล้ว ปากเสือก็ถูกทหารจูทำให้เลือดไหลออกมาเขาเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงหันหลังวิ่งไป วิ่งไปพลางตะโกนไปด้วย“จูจวิน หากเจ้ากล้าฆ่าข้า แม่ทัพหลูจะไม่มีทางปล่อยเจ้าแน่! เขาจักต้องช่วยข้าแก้แค้น จักต้องฆ่าครอบครัวของเจ้า!”จูจวินเห็นว่าถึงเวลานี้แล้ว ทหารเฉาก็ยังจะยกเอาแม่ทัพหลูมาข่มขู่ตนเอง ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเขาถลาไปข้างหน้า เหวี่ยงดาบในมือไปที่ขาของทหารเฉาเมื่อเห็นว่าขาของทหารเฉาตกอยู่ในอันตราย ก็มีดาบยื่นออกมาแทรก แล้วปัดออก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 241

    “แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง...”หลิงอวี๋หลับตาอย่างสิ้นหวังเมื่อเห็นหอกกำลังจะปักเข้าหว่างคิ้วแต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเสียงโลหะใส ๆ กระทบกันสามเสียงหลิงอวี๋รู้สึกมีบางอย่างพันรอบเอวของตน พลางร่างทั้งตัวนางก็ถูกยกขึ้นลอยตัวแล้วนางรีบลืมตาพลันเห็นใบหน้ารูปงามของเซียวหลินเทียนปรากฏต่อหน้าตนเขาใช้มือค้ำไม้เท้าพยุงร่างตัวเอง อีกข้างถือแส้หลิงอวี๋กำลังถูกแส้ในมือเซียวหลินเทียนพันรอบหลิงอวี๋รีบเอี้ยวหัวมองมือสังหารคนนั้นพลันเห็นมือสังหารกำลังสู้กันอุตลุดกับคนผมเงินที่สวมหน้ากากอยู่ต่อไป หลิงอวี๋เห็นจ้าวซวนกับเหล่าองครักษ์ของเสี่ยวหลินเทียนทยอยกันพุ่งเข้ามามือสังหารคนนั้นเห็นท่าไม่ดีจึงขว้างระเบิดควันพลางค่อย ๆ แกว่งกระโดดขึ้นสันกำแพง พวกเขาลอยขึ้นหายไปในความมืดทันใด“ท่านอ๋อง นั่งเร็วเข้าพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเอาเก้าอี้ล้อของเซียวหลินเทียนมาแล้ว ขาของเซียวหลินเทียนยืนนานมิได้เลยกลับไปนั่งบนเก้าอี้ล้อหลิงอวี๋เห็นคนของตนทั้งหมดในลาน เวลานี้ก็ถอนหายใจโล่งอกไม่สนใจถามเซียวหลินเทียนว่าหาที่นี่พบได้อย่างไรก็พลันเอ่ยเรียก“จ้าวซวน รีบไปช่วยทหารจู เป็นพวกเขาช่วยชีวิตข้าไว้!”จ้าวซวนยิ้มต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 242

    จูจวินไม่ได้พูดต่อพลางดึงเถาเฉิงคุกเข่าลง ‘ตุ้บ’“ท่านอ๋อง พวกกระหม่อมช่วยคนเลวทำผิด สมควรได้รับโทษ แม้ตายก็ไม่เสียดายพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่คนเหล่านี้ตายอย่างไม่เป็นธรรม! ได้โปรดท่านอ๋องสนับสนุนเพื่อพวกเขาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”แววตาเซียวหลินเทียนขรึมขึ้น เอ่ยเสียงทุ้ม “เข้าไปดูหน่อย!”จูจวินเหยียดกายยืนถือคบเพลิงพากลุ่มคนเดินเข้าไปภายในเหมืองถ้ำมืดสนิท เดินไปสิบกว่าเมตรก็พบหลุมรกร้างแห่งหนึ่งจูจวินน้ำตาคลอเบ้าทิ้งคบเพลิงพลางเข้าไป ฝูงชนก็เห็นแสงคบเพลิงสาดส่องกองกระดูกขาวด้านล่างทันใดมีคนหลายคนที่อยู่บนสุดยังสวมเสื้อผ้าอยู่ เห็นได้ชัดว่าตายเร็ว ๆ นี้เพิ่งถูกโยนลงไป!“แซ่จูเพิ่งมาเหมืองได้ครึ่งปี ทว่าก่อนหน้าก็ทิ้งศพมากหลายในนี้แล้ว! นับไม่หวาดไม่ไหว!”“ช่วงครึ่งปีนี้ โยนมาเจ็ดสิบแปดศพในเหมืองถ้ำพ่ะย่ะค่ะ!”“คนที่มีชื่อ แซ่จูล้วนทำลงสมุดทะเบียนแล้ว คนไม่มีชื่อ แซ่จูก็ลงทะเบียนหมายเลข!”จูจวินขบฟันกล่าว “แซ่จูสิ้นทางช่วยพวกเขาล้างแค้นแก้ไขความอยุติธรรม ทำได้แค่ใช้วิธีเช่นนี้จดบันทึกชื่อของพวกเขา หวังว่าสักวันหนึ่งจะเป็นประโยชน์!”แม่ทัพเฉินกับอันเจ๋อที่ตามมาต่างตะลึงกับศพมหาศาล!

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1893

    เมื่อครอบครัวของเจี่ยงหัวกลับมาที่เรือ พวกเขาก็พบศพไร้หัวในห้องของเขา มีคราบเลือดยาวบนผนังไม้ของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกสลักด้วยกระบี่อาบเลือด“จุดจบของคนทรยศ!”ครอบครัวของเจี่ยงหัวตกใจกลัวมากจนสละเรือและหนีไปในคืนนั้นพวกเขามิรู้ว่าที่จริงแล้วเซียวหลินเทียนมิคิดจะเอาผิดพวกเขา ทุกคนควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และการสังหารเจี่ยงหัวนั้นก็เพียงพอแล้วเซียวหลินเทียนส่งศีรษะของเจี่ยงหัวให้สือหรง ทันใดนั้นสือหรงก็ร้องไห้เศร้าโศกและนำศีรษะของเจี่ยงหัวไปเซ่นให้กับครอบครัวของตนหลังจากนั้น สือหรงก็กระทำการบางอย่าง เขาเขียนจดหมายเลือดเรื่องที่เจี่ยงหัวสมคบคิดกับมหาปราชญ์สังหารเหล่าศิษย์ของตำหนักปีกเงิน และคัดลอกสำเนาไปหลายสิบฉบับภายในคืนเดียววันรุ่งขึ้น ที่ประตูเมืองในพื้นที่นั้นมีพ่อค้าจำนวนมากกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง แล้วก็มีคนพบศีรษะของเจี่ยงหัวที่แขวนอยู่บนกำแพงเมือง และยังมีจดหมายเลือดที่สือหรงเป็นคนเขียน ซึ่งเขียนประณามความผิดของเจี่ยงหัวขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็มีจดหมายเลือดมากมายปลิวลงมาจากกำแพงเมืองทันใดนั้นความผิดฐานทรยศอาจารย์และสมคบคิดกับมหาปราชญ์ของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1892

    หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น หลิงอวี๋ก็คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วสารพัดและสังหารผู้คนเป็นผักปลาแต่หลิงอวี๋กลับมิรู้เลยว่ามหาปราชญ์เป็นผู้สั่งให้คนบิดเบือนและแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปหลังจากที่เขากลับไปถึงเมืองหลวงแดนเทพเซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินนั้นคนหนึ่งทำให้มหาปราชญ์ตาบอด และอีกคนก็ตัดแขนข้างหนึ่งของมหาปราชญ์ มหาปราชญ์จะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรหากเขามิแก้แค้น!เขาทำให้เซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินเสียชื่อเสียงและทำให้ผู้คนทั่วหล้าลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา ส่วนมหาปราชญ์ใช้โอกาสนี้พักฟื้นและหาโอกาสเหมาะเพื่อช่วงชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคือ กระบี่คุณอู่ของเซียวหลินเทียนอีกครั้งมหาปราชญ์มิได้บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบกระบี่อายุนับพันปีเล่มนี้ ด้วยคิดว่ากระบี่เล่มนี้เป็นของตน จึงมิอยากให้ใครมาแย่งชิงมันไปการแพร่กระจายข่าวลือเป็นหนึ่งในอุบายของมหาปราชญ์ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและป้องกันมิให้เขาพบกับเหล่าศิษย์จากตำหนักปีกเงินซึ่งเป็นไปตามคาดว่าข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปยังวงกว้างด้วยความรวดเร็วบรรดาศิษย์ตำหนักปีกเงินบางส่วนที่กระจายอยู่ตามสถาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1891

    ผู้รอบรู้ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เมื่อไรกันที่เขาได้รับความเชื่อใจจากใครบางคนมากมายถึงเพียงนี้!หลิงอวี๋พูดไปตามตรง “พี่ใหญ่ มีเรื่องบางอย่างที่ตอนนี้ข้ายังบอกท่านมิได้ มิใช่ว่าข้ามิไว้ใจท่าน แต่หากพูดไปแล้วมันอาจสร้างปัญหามากมายให้ท่านได้!”“เชื่อใจข้าเถิด สักวันข้าจะเล่าให้ท่านฟังทุกอย่าง!”ผู้รอบรู้มองตั๋วเงินในมือของตนพลางพูดอย่างใจกว้างว่า “ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง หากเจ้ามิอยากพูดก็มิต้องพูดหรอก พี่ใหญ่เชื่อใจเจ้า!”หลิงอวี๋ถึงกับยอมมอบของมีค่าทั้งหมดให้กับตนเช่นนี้ แม้จะมีความลับปิดบังต่อตนผู้รอบรู้ก็ย่อมยอมรับได้ขอแค่เขาเชื่อใจว่าหลิงอวี๋ไม่มีเจตนาร้ายก็พอแล้วสองพี่น้องพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน ต่อมาในวันรุ่งขึ้นที่ฟ้ายังมิสว่าง ผู้รอบรู้ก็รีบรุดไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคันโชคดีที่รถม้าเพิ่งส่งผู้โดยสารเพื่อขึ้นเรือไป ผู้รอบรู้จึงได้เช่ารถม้ามาในราคาสิบตำลึงส่วนหลิงอวี๋นั้นเพิ่งตื่น และผู้รอบรู้ก็วิ่งเข้ามาเคาะประตูด้วยความลิงโลด “น้องชาย รีบลุกเถิด พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว! รถม้ากำลังรออยู่ข้างนอก”หลิงอวี๋รีบอาบน้ำแต่งตัวและแบกห่อผ้าของตนออกมา ผู้รอบรู้ยัดถุงกระดาษไขใบห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1890

    ผู้รอบรู้พูดมิออกแล้ว หลิงอวี๋มิรู้อะไรเลย แล้วจะจ่ายยาที่ถูกต้องได้อย่างไร!“พี่สิง ข้าอยากรู้มากว่าท่านรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าผู้รอบรู้ลำบากใจ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”ใบหน้าของผู้รอบรู้กระตุก เขาหันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง เมื่อก่อนข้าเป็นคนของตำหนักปีกเงิน ข้าเป็นคนของเจี่ยงฮั๋วผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา เมื่อสองปีก่อนข้าทำงานพลาดไป ทำให้เจี่ยงฮั๋วโกรธ เขาจึงไล่ข้าออกจากตำหนักปีกเงิน!”“ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังคิดจะหาโอกาสขอพบท่านเจ้าตำหนักเก่า แล้วกลับไปที่ตำหนักปีกเงินอีกครั้ง แต่ตอนนี้ตำหนักปีกเงินเสื่อมโทรมลงไปแล้ว ได้ยินว่าเจ้าตำหนักเก่าป่วยหนักและมิรับงานแล้ว ข้าจึงได้เร่ร่อนอยู่ข้างนอกตลอดเช่นนี้!”“คนที่ออกมาจากตำหนักปีกเงินล้วนเก่งในการสืบหาข้อมูล แม้ว่าข้าจะออกจากตำหนักปีกเงินไปแล้ว แต่ข้าก็เคยชินกับสัญชาตญาณนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่ใจกับข้อมูลแต่ละประเภทมาก อยากจะรู้มากแค่ไหนก็มิยาก!”หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าผู้รอบรู้ก็เป็นคนที่มีภูมิหลังเช่นก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status