เซียวหลินเทียนให้อิ๋นฮู๋ไปหาว่ายังมีใครกำลังตามหาหลิงอวี๋อยู่บ้างเวลานี้เขากำลังรอข่าวจากอิ๋นฮู๋อยู่ด้านนอก ชิวเหวินซวงยกอาหารมื้อดึกมานางยืนอยู่ที่หน้าประตู ดูความเรียบร้อยของกิ๊บติดผม และจัดชุด ก่อนที่จะเปิดประตูเดินเข้าไปเซียวหลินเทียนนั่งที่หน้าโต๊ะหนังสือ กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับยุทธวิธีการทหารอยู่“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเสวยอาหารเย็นไปไม่เท่าไร หิวหรือไม่เพคะ? หม่อมฉันทำมื้อดึกมาให้ เสวยหน่อยเถิดเพคะ!”ชิวเหวินซวงหยิบถาดมาวางบนโต๊ะหนังสือของเซียวหลินเทียนนางแสร้งเอ่ยอย่างเผด็จการ “หม่อมฉันทำด้วยตัวเองเลยเพคะ! ท่านอ๋อง หากท่านอ๋องไม่เสวย หม่อมฉันไม่ยอมเพคะ!”นางพูดไปก็หยิบหนังสือการทหารของเซียวหลินเทียนออกไปวางไว้ข้าง ๆ ไปด้วยเซียวหลินเทียนไม่เคยมองว่าชิวเหวินซวงเป็นนางรับใช้จริง ๆ เลย!นางกล้าทำเช่นนี้ ก็เพราะกำลังวางตัวเองอยู่ในฐานะน้องสาวที่ห่วงใยพี่ชาย!เซียวหลินเทียนเคยชินกับท่าทีเช่นนี้ของนางแล้ว จึงมิได้แสดงความไม่พอใจใด ๆ!เขายกมือขึ้นกุมขมับ พลางเอ่ยเรียบ ๆ “ไม่อยากกิน เจ้ายกมันออกไปให้พวกจ้าวซวนกินเถิด!”“ทำเช่นนั้นมิได้หนาเพคะ! ท่านอ๋อง หม่อมฉันรู้ว่าท่าน
“พอแล้ว!”“ข้าทำเอง!”เซียวหลินเทียนสะบัดมือของชิวเหวินซวงด้วยสีหน้าไม่พอใจ พลางเอ่ยเรียบ ๆ “มันไม่ได้ลวก!”“เจ้าลืมไปแล้วหรือ? ขาของข้าไม่มีความรู้สึกอันใด หากรู้สึกเจ็บจริง ๆ เหตุใดข้าต้องไปหาหมอไปทั่วทุกที่ด้วยเล่า!”เซียวหลินเทียนมองอาหารบนโต๊ะ ไม่มีอารมณ์จะกินแล้ว“เจ้าลงไปก่อนเถอะ!”ชิวเหวินซวงเอ่ยอย่างไม่สบายใจ “ท่านอ๋อง เป็นความผิดของหม่อมฉันที่ซุ่มซ่าม! หม่อมฉันจักไปเอาอาภรณ์มาให้ท่านอ๋องเปลี่ยนเพคะ!”“ลู่หนานไปเอาได้ เจ้าออกไปเถอะ!”เสียงของเซียวหลินเทียนเย็นชาเล็กน้อยชิวเหวินซวงหน้าแดง พลางเอ่ยเบา ๆ “ท่านอ๋อง หม่อมฉันใจร้อน พูดผิดไป หม่อมฉันจะไปเรียกพี่ลู่หนานประเดี๋ยวนี้เลยเพคะ!”นางรีบร้อนเดินออกไปเรียกลู่หนานให้เข้ามาหลังจากที่ปิดห้องไป ชิวเหวินซวงก็ไม่รีบร้อนแล้ว นางยืนอยู่ข้างนอกฟังความเคลื่อนไหวข้างในลู่หนาน น้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านอ๋อง น้ำแกงลวกหรือพ่ะย่ะค่ะ? เหตุใดวันนี้เหวินซวงถึงไม่ระมัดระวังเยี่ยงนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “ไม่เป็นไร นางก็มิได้ระวังเช่นกัน! เปลี่ยนแล้วก็ไม่เป็นไรแล้ว!”“ที่ตำหนักมีเหวินซวงช่วยจัดการดูแลอยู่ พวกเ
“กระหม่อมรู้สึกว่าคนทั้งสองกลุ่มนี้น่าจะเป็นพวกเดียวกัน คนของหานหลินอยู่ในที่แจ้ง คนของหอเหยี่ยวราตรีอยู่ในที่ลับ!”“เพียงแต่ข้ายังไม่พบหลักฐานที่พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกัน!”เซียวหลินเทียนถูนิ้ว พลางครุ่นคิดคนของอิ๋นฮู๋ไปตามหาหลิงอวี๋ตามทิศทางสายน้ำ แต่พื้นที่หลายสิบลี้นั้นใหญ่เกินไป การค้นหาแบบหลับหูหลับตาหาจึงเปลืองแรงเปลืองเวลาเขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ย“เจ้าแบ่งกำลังคนออก ส่วนหนึ่งจับตาดูของหานหลินไว้ อีกส่วนหนึ่งจับตาดูคนของหอเหยี่ยวราตรีไว้!”“และอีกส่วนหนึ่ง ไปหาปลายสายนำตรงหมู่บ้านใกล้ ๆ! คอยจับตาดูว่าในหมู่บ้านมีเรื่องอันใดผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่!”“ต้องดำเนินการให้รวดเร็ว ต้องตามหาพระชายาให้เจอก่อนหน้าพวกหานหลิน!”“พ่ะย่ะค่ะ!” อิ๋นฮู๋รีบหายตัวไปทันทีเซียวหลินเทียนยังคงรักษาท่าทีนั้นไว้ ในหัวก็ครุ่นคิดอยู่ตลอดเหตุใดองค์ชายเว่ยจึงรีบร้อนจะกำจัดหลิงอวี๋?เพียงเพื่อไม่ให้หลิงอวี๋รักษาขาของตนเองหรือ?หรือยังมีเรื่องภายในที่ตนมิรู้อีก?การกระทำของชิวเหวินซวงในวันนี้ เป็นเพียงการหยั่งเชิง หรือมีอะไรเกี่ยวข้องกับที่หลิงอวี๋ลงมือกับองค์ชายเว่ย?......วันรุ่งขึ
หลิงอวี๋รีบหันไปมอง นอกจากจางเสี่ยวเยี่ยนที่สีหน้าจริงจังแล้ว ก็ไม่เห็นใครเข้ามาหลิงอวี๋โหดร้ายขึ้นมาทันที แล้วรีบเทยาสลบลงในซุปจากนั้นก็รีบคนจากนั้น หลิงอวี๋ก็รีบโยนห่อยาเข้าไปในกองไฟ แล้ววิ่งไปที่ประตู“ข้าอยู่นี่ ใครตามหาข้าหรือ!”“ข้าเองที่หาเจ้า ตามข้ามาสิ!”หลิงอวี๋เห็นว่าคนที่มาคือเถาเฉิง หัวใจของนางเต้นรัว ค่อนข้างโกรธเวลานี้เถาเฉิงมาหาตนเองจะมีเรื่องอันใด จะไม่ทำลายแผนการหลบหนีของตนเองใช่หรือไม่!“มีอะไรหรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ดี “ข้ายังต้องส่งอาหารให้พวกช่างตีเหล็กอีก!”“ข้าหาผู้ช่วยสองสามคนให้เจ้าแล้ว ให้พวกเขาไปส่งก็พอ เจ้าตามข้ามา!”เถาเฉิงเอ่ยอย่างชัดเจนหลิงอวี๋ได้ยินน้ำเสียงของเขามิได้ดูใจดีเหมือนเมื่อคืนนี้ ก็ยิ่งรู้สึกกังวลหรือว่าแผนที่พวกจางเฉียนจะหลบหนีจะรั่วไหลออกไปแล้ว?“เสี่ยวเยี่ยน เจ้าไปส่งอาหารก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าจะมาหาเจ้า!”หลิงอวี๋เห็นสายตาที่เป็นกังวลของจางเสี่ยวเยี่ยน จึงตบไหล่ของนางอย่างปลอบโยนพูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินตามเถาเฉิงไปที่ค่ายทหารเข้าไปในเรือนของทหารจู หลิงอวี๋ก็ยิ่งรู้สึกว่าใจจะมาจุกอยู่ที่ลำคอทหารจูที่มีท่าทีรุนแ
มือของหลิงอวี๋ขยับไปที่เอวโดยไม่รู้ตัว ครุ่นคิดว่าตนเองมีโอกาสที่จะจับทหารจูมัดแล้วหลบหนีไปมากแค่ไหน!“ทหารจู เจ้าพูดเล่นแล้ว! พระชายาอ๋องอี้กระไรนั่นคือผู้ใดกัน? ข้ามิรู้จริง ๆ!”“ข้าเป็นแค่เด็กผู้หญิงที่ไปเยี่ยมญาติแล้วพลักตกเขา!”หลิงอวี๋แย้มยิ้ม พยายามลดความระวังตัวของทหารจู หากลงมือให้ดีก็จะได้บรรลุเป้าหมายเห็นได้ชัดว่าทหารจูไม่ได้หลอกง่ายถึงเพียงนั้น เขาเอ่ยถามเสียงเข้มงวด“ท่านอ๋องอี้ส่งท่านไปสำรวจเหมืองหรือ? เขารู้เรื่องในเหมืองมากแค่ไหน?”“ท่านอ๋องอี้คิดจะกระทำอันใดกันแน่?”“ท่านคือพระชายาอ๋องอี้ใช่หรือไม่”หลิงอวี๋อ้าปากค้างกับคำถามแต่ละคำถามของทหารจู นางไม่รู้ว่าจะแก้ต่างเยี่ยงไร!หลิงอวี๋หยิบมีดผ่าตัดออกมา ตอนที่กำลังคิดจะทุ่มสุดตัวเข้าไปควบคุมทหารจูจู่ ๆ เถาเฉิงก็ตะโกนมาจากด้านนอก “พี่จู ทหารเฉามาแล้ว ให้พี่รีบไปที่ค่ายทหารทันที!”หัวใจของหลิงอวี๋เต้นรัว ทหารเฉาที่จับตัวนางมาที่นี่มาแล้วหรือ?เช่นนั้นแผนการหลบหนีของพวกเขาในวันนี้จะยังเป็นจริงได้หรือไม่?สีหน้าของทหารจูเปลี่ยนไป พลางตะโกนด้วยเสียงเรียบ “เถาเฉิง เจ้าไปจัดการก่อนเถิด บอกว่าข้าจะรีบไป!”“ขอรับ!
สงบ! สงบไว้!หลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปที่หลังประตูอย่างเงียบ ๆเมื่อลอดช่องประตูเข้าไป หลิงอวี๋ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรคนที่หันหลังให้ตนเองคือทหารจู ดูเหมือนว่าทหารจูเพิ่งจะออกมาก็ถูกทหารเฉาขวางกั้นไว้เลย“ทหารเฉา ข้าให้เถาเฉิงพาพระชายาอ๋องอี้ออกจากห้องขังจริง ๆ แต่มิได้ให้พามาหาข้าที่นี่!”ทหารจูเอ่ยอย่างใจเย็น “เจ้าส่งจดหมายให้ข้าฆ่านางมิใช่หรือ?”“ข้าทำตามคำสั่งของเจ้า ให้เถาเฉิงพานางไปฆ่าที่เหมืองหมายเลขหนึ่งแล้ว!”“หืม? เร็วถึงเพียงนี้เลยหรือ? ไป พาข้าไปดูศพหน่อย!” ทหารเฉาเอ่ยอย่างเย็นชาทหารจูเอ่ยอย่างไม่ยินใจ “เหตุใด ทหารเฉายังมิเชื่อข้าหรือ?”ทหารเฉาเอ่ยด้วยท่าทีแปลก ๆ“ไม่ใช่ว่าข้ามิเชื่อเจ้า! แต่ว่าเรื่องนี้มันสำคัญมาก ข้าต้องยืนยันก่อนจึงจะสามารถอธิบายให้แม่ทัพหลูฟังได้!”“หากทหารเฉามิเชื่อก็ไปดูด้วยตัวเองเลย แซ่จูไม่สบาย จึงมิขอไปด้วย! เถาเฉิง เราไปกินข้าวกันเถิด!”ทหารจูลากเถาเฉิงออกไป“หยุด!”สีหน้าของทหารเฉาเข้มขึ้น “จูจวิน เจ้ากล้าขัดคำสั่งรึ?”ทหารจูหัวเราะเยาะอย่างไม่เกรงใจ “ข้าขัดคำสั่งเยี่ยงไรเล่า? เจ้าให้ข้าฆ่านาง ข้าก
"บุกเลย!"ทางค่ายทหาร พวกทหารเฉาทุกคนก็ได้ยินเสียงอึกทึกกึกก้องนั้นเช่นกันทหารเฉาทั้งตกใจทั้งโกรธ พลางตะคอก “จูจวิน เจ้าจะกบฏรึ? ข้าจะฆ่าเจ้าแน่!”เขาชักดาบออกมา เหวี่ยงดาบไปที่เถาเฉิงที่ขวางหน้าทหารจูอยู่ทหารจูได้ยินเสียงตะคอก ความมั่นใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เขาดึงเถาเฉิงออกไป แล้วดาบในมือก็ปัดดาบของทหารเฉาปลิวไปจูจวินส่งเสียงคำรามยาว มีชีวิตชีวา แล้วหัวเราะพลางเอ่ย“ข้าทนกับพวกเจ้ามานานมากแล้ว… ไอ้ทหารไร้สาระกระไรนี่ ข้าไม่ทำแล้ว!”“มา วันนี้ข้าจะฆ่าพวกอันธพาลที่ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญเยี่ยงพวกเจ้า ไอ้พวกไร้ความสามารถ...”ดาบในมือของทหารเฉาถูกปัดปลิวไปแล้ว ปากเสือก็ถูกทหารจูทำให้เลือดไหลออกมาเขาเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงหันหลังวิ่งไป วิ่งไปพลางตะโกนไปด้วย“จูจวิน หากเจ้ากล้าฆ่าข้า แม่ทัพหลูจะไม่มีทางปล่อยเจ้าแน่! เขาจักต้องช่วยข้าแก้แค้น จักต้องฆ่าครอบครัวของเจ้า!”จูจวินเห็นว่าถึงเวลานี้แล้ว ทหารเฉาก็ยังจะยกเอาแม่ทัพหลูมาข่มขู่ตนเอง ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเขาถลาไปข้างหน้า เหวี่ยงดาบในมือไปที่ขาของทหารเฉาเมื่อเห็นว่าขาของทหารเฉาตกอยู่ในอันตราย ก็มีดาบยื่นออกมาแทรก แล้วปัดออก
“แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง...”หลิงอวี๋หลับตาอย่างสิ้นหวังเมื่อเห็นหอกกำลังจะปักเข้าหว่างคิ้วแต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเสียงโลหะใส ๆ กระทบกันสามเสียงหลิงอวี๋รู้สึกมีบางอย่างพันรอบเอวของตน พลางร่างทั้งตัวนางก็ถูกยกขึ้นลอยตัวแล้วนางรีบลืมตาพลันเห็นใบหน้ารูปงามของเซียวหลินเทียนปรากฏต่อหน้าตนเขาใช้มือค้ำไม้เท้าพยุงร่างตัวเอง อีกข้างถือแส้หลิงอวี๋กำลังถูกแส้ในมือเซียวหลินเทียนพันรอบหลิงอวี๋รีบเอี้ยวหัวมองมือสังหารคนนั้นพลันเห็นมือสังหารกำลังสู้กันอุตลุดกับคนผมเงินที่สวมหน้ากากอยู่ต่อไป หลิงอวี๋เห็นจ้าวซวนกับเหล่าองครักษ์ของเสี่ยวหลินเทียนทยอยกันพุ่งเข้ามามือสังหารคนนั้นเห็นท่าไม่ดีจึงขว้างระเบิดควันพลางค่อย ๆ แกว่งกระโดดขึ้นสันกำแพง พวกเขาลอยขึ้นหายไปในความมืดทันใด“ท่านอ๋อง นั่งเร็วเข้าพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเอาเก้าอี้ล้อของเซียวหลินเทียนมาแล้ว ขาของเซียวหลินเทียนยืนนานมิได้เลยกลับไปนั่งบนเก้าอี้ล้อหลิงอวี๋เห็นคนของตนทั้งหมดในลาน เวลานี้ก็ถอนหายใจโล่งอกไม่สนใจถามเซียวหลินเทียนว่าหาที่นี่พบได้อย่างไรก็พลันเอ่ยเรียก“จ้าวซวน รีบไปช่วยทหารจู เป็นพวกเขาช่วยชีวิตข้าไว้!”จ้าวซวนยิ้มต