ในเมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องอยู่ในความสงบ ขณะที่ยังไม่ได้รู้แน่ถึงเจตนาของจ้าวซวน หลิงอวี๋ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องตำราไปก่อนห้องตำรามีขนาดใหญ่มาก มีตู้หนังสือเรียงเป็นแถวชิดกับกำแพง และมีโต๊ะหนังสือขนาดใหญ่อยู่ที่ริมหน้าต่างข้าง ๆ โต๊ะหนังสือเป็นอ่างเซรามิกโบราณที่บรรจุภาพวาดไว้ห้องตำราเก็บกวาดสะอาดสะอ้าน มีการจัดวางอย่างเป็นระเบียบ มีเพียงบนโต๊ะหนังสือที่มีหนังสือวางกองเต็มไปหมด“พระชายา ดูเถิดขอรับ ท่านอ๋องให้ข้าตรวจสอบสมุดบัญชีของพ่อบ้านฟั่น! แต่ข้าเป็นคนค่อนข้างจะสะเพร่า ไม่สามารถทำงานเช่นนี้ได้ขอรับ!”จ้าวซวนถือสมุดบัญชีหลายเล่มเข้ามา พลางเอ่ยด้วยสีหน้าขมขื่น“นี่คือสมุดบัญชีในช่วงสองสามปีมานี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ของเรือนชั้นในเท่านั้น แต่มีความสำคัญยิ่ง ไม่สามารถขอให้คนนอกมาช่วยตรวจสอบได้ขอรับ!”“พระชายา โปรดช่วยดูหน่อยเถิดขอรับ ข้าจะจัดการกับสมุดบัญชีเหล่านี้เยี่ยงไรดีหรือขอรับ?”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินว่าเป็นเรื่องเล็กเช่นนี้ ก็คลายความระมัดระวังที่มีต่อจ้าวซวนลง แล้วรับมาดูทันทีที่เห็นก็อธิบายได้คำเดียวเลยว่า… เละเทะ!นางเรียนแพทย์ แต่หลักการบัญชีง
วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋เปลี่ยนชุดตามความเหมาะสม แล้วออกไปพร้อมกับยาบำรุงร่างกายที่เตรียมไปให้ไทเฮาครั้งนี้เซียวหลินเทียนไม่ได้ออกไปคนเดียวเหมือนกับงานเลี้ยงในวังครั้งที่แล้ว เขากับลู่หนานมารออยู่ที่หน้าประตูตำหนักหลิงอวี๋พาหลิงซินออกมา โค้งคำนับให้เขาแล้วขึ้นรถไป“ประเดี๋ยวเข้าวังไปแล้ว เจ้าไปเข้าเฝ้าไทเฮาที่ตำหนักเหยียนฝูนะ ข้าจะไปหาท่านพ่อ จะไปรับเจ้าที่ตำหนักเหยียนฝูช้าสักหน่อย!” เซียวหลินเทียนเอ่ย“เพคพ!” หลิงอวี๋พยักหน้าครั้งที่แล้วเข้าวังไปมีปัญหาเข้ามาไม่ขาดสาย ใจจริงหลิงอวี๋ไม่ชอบเข้าไปในวังเลย ดังนั้นจึงทำตามแผนการของเซียวหลินเทียน!กระทั่งเข้าไปในวัง ไป่ซุ่ยจากตำหนักไทเฮาก็รออยู่ที่ประตูแล้ว แล้วพาหลิงอวี๋และบ่าวไปเมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเป็นไป่ซุ่ย ก็ยัดขวดเล็ก ๆ ไปให้นางอย่างเงียบ ๆ พลางกระซิบ“คราวที่แล้วข้าเห็นเจ้าเป็นสิว ยาทานี้เอาไว้ทาเมื่อเป็นสิวนะ ไม่มีทางทิ้งรอยสิวไว้ให้เห็นแน่นอน!”“ขอบคุณพระชายาเจ้าค่ะ!” ไป่ซุ่ยรับขวดเล็ก ๆ นั้นมาอย่างมีความสุข“พระชายา ไทเฮาเชิญพระชายามาวันนี้ เพราะว่าเมื่องานฉลองครั้งก่อนได้ละเลยพระชายาไป จึงจะชดเชยให้เจ้าค่ะ!”ไป่ซุ่ยเอ่
ที่ด้านหน้าตำหนักเหยียนฝู มีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ อยู่ใกล้กับริมทะเลสาบสวนดอกไม้ได้รับการดูแลอย่างดี ดอกไม้ที่งามสะพรั่งเต็มสวนทำให้ทั้งสวนดูมีชีวิตชีวาหลิงอวี๋สูดอากาศบริสุทธิ์ มองดอกไม้ที่เห็นแล้วชื่นตาชื่นใจเหล่านี้ ยืนรอเซียวหลินเทียนอยู่กับหลิงซินที่ริมทางของสวนดอกไม้ไป่ซุ่ยไปส่งพวกนาง แต่พวกนางยังไม่ออกไปจึงทำได้เพียงอยู่กับพวกนางไปด้วย และพูดคุยถึงวิธีการดูแลผิวพรรณกับหลิงอวี๋ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าใด จู่ ๆ ก็มีเสียงโวยวายดังมาจากที่ไกล ๆ เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เป็นการยากที่พวกนางจะไม่สนใจเสียงนั้น“นังสารเลว ท่านหญิงให้เจ้าเก็บดอกไม้เพราะว่าท่านเห็นความสำคัญของเจ้า! เจ้ายังกล้าตำหนิท่านหญิงอีกหรือ!”“ทำให้ท่านหญิงน้อยตกใจ เจ้ามีกี่ชีวิตก็ไม่พอหรอกนะ! เหตุใดยังไม่รีบไปเก็บดอกไม้ให้ท่านหญิงอีกเล่า!”จากนั้นเสียงเล็ก ๆ เสียงหนึ่งก็เอ่ยขึ้นมา "ข้าอยากได้ดอกที่ใหญ่ที่สุดตรงกิ่งนั้น! ข้าอยากจะเอาไปถวายท่านย่าทวดไทเฮา!"“ท่านหญิง มันสูงเกินไปเพคะ! บ่าวปีนขึ้นไปมิได้เพคะ!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น ก็หันไปมองอย่างสงสัยด้านหน้าไม่ไกลนัก มีคนหลายคนรวมตัวกันอยู่ที่ใต้ต้นด
"ลุกขึ้น!"หลิงอวี๋พุ่งเข้าไป เอื้อมมือไปดึงชุ่ยเอ๋อร์ขึ้นมาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงตอนนั้นเองกลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่ใต้ต้นไม้ถึงได้สังเกตเห็นว่าหลิงอวี๋มา“พระชายาอ๋องอี้ หมายความว่าเยี่ยงไรเจ้าคะ?”ทันใดนั้นสีหน้าของเซี่ยเฉียวก็เปลี่ยนไป นางขมวดคิ้วพลางเอ่ยถาม“ข้าก็อยากถามเจ้าอยู่เช่นกัน! เซี่ยเฉียว นางกำนัลผู้นี้ไปกระทำให้พวกเจ้าขุ่นเคืองด้วยเหตุอัรใด? นางเป็นห่วงพี่น้องของตนเจึงบอกให้ระวัง มันไม่ถูกหรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ "เจ้าง้างมือออกไปตบนาง! หรือว่าฮองเฮาสอนเจ้าเช่นนี้หรือ?"หน้าของชุ่ยเอ๋อร์บวมขึ้นแล้ว เซี่ยเฉียวตบนางแรงมากเซี่ยเฉียวเหลือบมองชุ่ยเอ๋อร์อย่างดูถูก พลางเอ่ยอย่างเย็นชา "นางทำผิด ก็สมควรถูกตบ!"“พระชายาอ๋องอี้ ที่นี่ไม่ใช่ตำหนักอ๋องอี้ ข้าขอแนะนำว่าพระชายาอย่าเข้ามายุ่งเลยจะดีกว่า!”ท่านหญิงจ่างหนิงมองหลิงอวี๋อย่างสงสัย แล้วดึงอาภรณ์ของเซี่ยเฉียวพลางเอ่ยถาม "พี่เซี่ยเฉียว ผู้หญิงจอมยุ่งผู้นี้คือผู้ใดกัน?"“นางหรือเจ้าคะ… นางก็คือพระชายาของลุงสี่ของท่านหญิงเจ้าค่ะ!”เซี่ยเฉียวก้มลงกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของจ่างหนิงหลังจากฟังเสร็จท่านหญิงจ่างหนิงก็จ้องหลิ
“หญิงสารเลว! เจ้ากล้ามายุ่งเรื่องของข้า!”จ่างหนิงรู้สึกหงุดหงิดทันที นางฉลาดมาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเป็นที่รักของพระชายาเว่ยเพราะว่านางเหมือนฮองเฮาเว่ยทุกประการ นางจึงได้รับความโปรดปรานอย่างมากจากฮองเฮาเว่ยอยู่ในวัง พวกนางกำนัล ขันทีและแม่นมที่ไม่กล้าทำให้ฮองเฮาเว่ยขุ่นเคืองเหล่านั้น ใครเห็นนาง ต่างก็ปฏิบัติต่อนางอย่างเคารพกันหมดไม่ใช่หรือ?สถานะของจ่างหนิง อาจกล่าวได้ว่าไม่ใช่องค์หญิง แต่ก็ชนะเหนือกว่าองค์หญิงแล้ว!นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นคนกล้าเข้ามายุ่งเรื่องของตน ศักดิ์ศรีของนางถูกท้าทาย นางจึงโกรธขึ้นมา“พวกเจ้าลากนางออกไป ดึงนางลงแล้วทุบตีนางให้แรง ๆ ซะ!”ในเรือนพระชายาเว่ยลงโทษบ่าวที่ทำผิดเช่นนี้ ตอนนี้จ่างหนิงก็กำลังทำตามแบบเดียวกัน!นางไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าตัวตนของพระชายาอ๋องอี้คืออะไร มีหรือที่นางอยากจะทุบตีก็ทำได้ทุกเมื่อ!แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้ว่านางกำนัลในวังไม่กล้าลงมือทำอะไรกับหลิงอวี๋ แต่เขาก็ยังตกใจกับภาพนี้อยู่ดีขาทั้งสองของเขาพิการ หรือว่าพระชายาของเขาเองจะถูกทำให้อับอายเช่นนี้ในวังอย่างนั้นหรือ?เขาจำได้ว่าตอนนั้น หลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิต องค์ชาย
“ใครก็ได้มานี่ที!”หลิงอวี๋เห็นหลิงซวนหมดสติไปแล้ว จึงตะโกนอย่างร้อนใจนางคนเดียวไม่มีทางอุ้มหลิงซวนไปรักษาได้!เซียวหลินเทียนเห็นท่าทางกังวลทำอะไรถูกของหลิงอวี๋ ก็ไม่สามารถมองเฉยอยู่ได้อีกต่อไป จึงแสดงท่าทีให้ลู่หนานไป"ไปช่วยนาง!"“พระชายา! ข้ามาแล้ว!”ลู่หนานดูอยู่อย่างกังวลมานานแล้ว เมื่อได้รับคำสั่งจากเซียวหลินเทียน เขาก็รีบวิ่งเข้าไปทันที"ลู่หนาน เจ้ามาแล้ว ดีจริง ๆ!"ทันทีที่หลิงอวี๋เห็นลู่หนานมา ก็รู้สึกราวกับเห็นผู้ช่วยชีวิต จึงเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว "อุ้มนางขึ้นช้า ๆ แล้วรีบตามข้ามา!"ลู่หนานอุ้มหลิงซวนขึ้นมาอย่างระมัดระวังตามคำสั่งของนางเลือดของหลิงซวนทำให้เสื้อคลุมของเขาเป็นสีแดงฉานในทันที เขาขมวดคิ้วอย่างกังวล เช่นนี้ยังจะช่วยได้หรือ?"ไป!"หลิงอวี๋หันกลับมาเห็นว่าไป่ซุ่ยตามมาด้วย เซียวหลินเทียนก็เข็นรถล้อของเขาตามมาด้วยเช่นกัน“ไป่ซุ่ย เจ้าช่วยหาห้องที่สะอาดให้ข้าหน่อยได้หรือไม่? ข้าจะช่วยหลิงซวน!”ไป่ซุ่ยหวาดกลัวจนหน้าซีด แต่นางยังคงเอ่ยอย่างสงบ"มีห้องที่สะอาดในตำหนักเหยียนฝู พวกท่านตามข้ามา!"หลิงอวี๋ไม่มีเวลาคิดว่าเหตุใดเซียวหลินเทียนถึงอยู่ที่นี่ นางโ
“มา ๆ เซียวหลินเทียน ท่านมาทำความรู้จักกับเครื่องมือเหล่านี้สักหน่อย อีกประเดี๋ยวหม่อมฉันจะให้ท่านช่วยส่งอะไรท่านจะได้ส่งให้ได้ทันที!”หลิงอวี๋เข็นเซียวหลินเทียนไปที่หน้าโต๊ะ ชี้เครื่องมือผ่าตัดของนางให้เขารู้จักทีละอันเซียวหลินเทียนขมวดคิ้วจ้องเครื่องมือที่ดูแปลกตาเหล่านี้ เขาไม่เข้าใจว่าหลิงอวี๋พยายามจะทำอะไรแต่ความทรงจำของเขานั้นน่าทึ่งมาก หลิงอวี๋พูดไปครั้งเดียวก็จำทุกอย่างได้เลยเดิมทีเรื่องพวกนี้ให้หลิงซินทำก็ได้ แต่หลิงซินยังเด็กนัก หลิงอวี๋กลัวว่านางเห็นเลือดออกแล้วจะสติแตก จึงให้นางออกไปเฝ้าประตูไว้หลิงอวี๋หยิบแอลกอฮอล์ออกมา ฆ่าเชื้อที่มือของเซียวหลินเทียน แล้วสวมถุงมือปลอดเชื้อให้เขา พลางเอ่ยอย่างอดทน“เมื่อสวมถุงมือแล้ว อย่าสัมผัสสิ่งอื่นใดเป็นอันขาด เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของเชื้อโรค มันจะทำให้แผลของหลิงซวนติดเชื้อได้!”ลู่หนานเห็นเซียวหลินเทียนถูกหลิงอวี๋ควบคุมไว้เช่นนั้น ก็ทั้งอยากรู้ทั้งอยากหัวเราะเขาเคยเห็นเซียวหลินเทียนมีท่าทีซื่อ ๆ เช่นนี้เมื่อใดกัน!"ข้าสามารถทำสิ่งใดได้บ้างขอรับ?"ลู่หนานถามอย่างกระตือรือร้น“ข้าต้องเจาะเลือดจากเจ้าเพิ่มอีก! ประเดี
หลายปีก่อน ที่บ้านเกิดของหลิงซวนเกิดน้ำท่วมหนัก พ่อแม่ของหลิงซวนเสียชีวิตทั้งคู่จากน้ำท่วมครั้งนั้นหลิงซวนโดดเดี่ยวและทำอะไรไม่ถูก ถูกลักพาตัวมาขายจึงได้เข้ามาในวังครอบครัวของขันทีเซี่ยทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว เหลือเพียงหลานสาวคนนี้เท่านั้น!ก่อนหน้านี้ขันทีเซี่ยวางแผนจะรอจนกว่าหลิงซวนอายุครบสิบแปดปี แล้วจะขอให้นางออกจากวังไปแต่งงาน เพื่อที่เขาจะได้สืบทอดสายเลือดของตระกูลเซี่ยต่อไป!ขันทีเซี่ยจัดให้หลิงซวนทำงานทั่วไป เพราะเขาไม่อยากให้นางต้องถูกนางสนมทำให้ลำบาก!ใครจะคิดว่าเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งปีเท่านั้น หลิงซวนก็จะได้ออกจากวังแล้ว แต่กลับกลายเป็นเช่นนี้!ขันทีเซี่ยกำมือแน่น หายใจเข้าลึก ๆหลิงซวนกำลังจะตาย ตระกูลเซี่ยจะไม่มีความหวังแล้ว!เขาเป็นคนโปรดต่อหน้าจักรพรรดิอู่อัน แต่เขาไม่มีแม้แต่ความสามารถในการปกป้องหลานสาวของตนด้วยซ้ำ!หากเขาตายไป เขาจะมีหน้าอะไรไปพบพ่อแม่พี่น้องของเขาในโลกหลังความตายเล่า!ความโกรธของขันทีเซี่ยปะทุขึ้น!แม้ว่าเขาจะเป็นทาสที่ต่ำต้อยที่สุด แต่เขาไม่ใช่ทาสที่ใคร ๆ ก็มารังแกได้!หากทำให้เขากระวนกระวายใจ เขาจะทำให้คนเหล่านั้นรู้ว่าคนเราเกิดมาต่างก็มี
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงไปกับการโกนหัวของนางซุนแล้ว!นางซุนใช้วิธีเด็ดขาดนี้มาตัดการแต่งงานครึ่งชีวิตของตนกับหลิงเสียงกังแล้วทิ้งหลิงหว่านกับหลิงเสียงกังไว้และสุดท้ายนางก็มิอาจต้านทานการเกลี้ยกล่อมของหลิงหว่านได้ จึงเลือกที่จะเป็นแม่ชีอยู่ที่อารามเล็ก ๆ ซึ่งห่างจากเมืองหลวงไปห้าสิบลี้‘พิธีศพ’ ของนางซุน หลิงอวี๋ก็ออกจากวังมาร่วมงานด้วยในฐานะหลานสาวสำหรับการช่วยครั้งสุดท้ายของนางซุนที่มีต่อหลิงเสียงกังกับหลิงหว่าน ทำให้ความโกรธที่หลิงอวี๋มีต่อนางหายไปสำหรับนางซุน บทสรุปเช่นนี้ก็นับว่าสบายใจเช่นกันแต่สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านล้วนมีเส้นทางยาวไกลที่ตนต้องเดินไป...หลิงเสียงกังสามารถลงมาเดินได้แล้ว จึงมาร่วมงานศพนางซุนโดยมีหลิงหว่านประคองมาหลังจากงานศพเสร็จสิ้น เขาก็คุกเข่าให้หลิงอวี๋“ฮองเฮา เรื่องต่าง ๆ ก่อนหน้านี้เป็นหลิงเสียงกังเองที่ผิด กระหม่อมเป็นหนี้นางซุนและทุกคน!”“กระหม่อมสมควรตาย แต่กระหม่อมตายมิได้ กระหม่อมต้องแสวงหาความยุติธรรมเพื่อชื่อเสียงของตนและแสวงหาความยุติธรรมให้แก่เหล่าทหารที่ติดตามกระหม่อมและต้องตายไปอย่างอยุติธรรม!”หล
มิเพียงแต่หลิงอวี๋ที่กลุ้ม ท่านอดีตเสนาบดีเองก็โกรธมาก หลิงเสียงกังยังมิทันจะเดินลงพื้นได้ ท่านอดีตเสนาบดีก็ได้ยินเขาบอกว่าจะตามนางซุนไปที่บ้านเกิด จึงพุ่งเข้าไปด่าหลิงเสียงกังที่เตียงผู้ป่วย“หลิงเสียงกัง นางซุนทำเรื่องเลวร้ายเอง นางรนหาที่ตายข้าก็ปล่อยนางไปแล้ว แต่เหตุใดเจ้าต้องตามนางไปด้วย?”“ข้าดูแลเจ้ามา ลำบากลำบนสอนสั่งเจ้ามา มิใช่เพื่อให้เจ้าทำให้เสียเปล่าเองเช่นนี้!”หลิงเสียงกังมองท่านอดีตเสนาบดีที่แก่ลงไปมากอย่างขมขื่น พลางเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษขอรับท่านพ่อ ลูกทำให้ท่านผิดหวัง!”“อย่ามาพูดไร้สาระกับข้า เจ้ามันอกตัญญูมิรู้คุณ...”ท่านอดีตเสนาบดีเอ่ยอย่างปวดใจ “เจ้าอายุยังน้อย วรยุทธ์ในกายยังสามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ เจ้าไปเช่นนี้จะมิใช่การชดใช้ แต่เป็นการหลบหนี!”“ตอนนั้นเหตุใดเจ้าถึงถูกถอดออกจากตำแหน่ง? ก่อนหน้ามิสามารถพูดให้ชัดเจนได้ ตอนนี้หลิงอวี๋ก็เป็นฮองเฮาแล้ว ขอเพียงเจ้าอยากพลิกคดี นางจะมิช่วยเหลือเจ้าหรือ?”“ตระกูลหลิงของเรามิเคยเกิดเรื่องเช่นนี้ เจ้ามิคิดเพื่อตัวเจ้าเอง เจ้าก็ต้องนึกถึงฮองเฮากับหลิงเสี่ยงบ้าง!”หลิงหว่านยืนอยู่ข้างเตียงเงียบ ๆ นางมิ
นางซุนแขวนคอตาย!วันรุ่งขึ้นข่าวนี้ก็ไปถึงหูของหลิงอวี๋ หลิงซวนยิ้มขมขื่นพลางเอ่ยกับหลิงอวี๋ “ข้างนอกพูดกันว่านางซุนทำเรื่องแย่ ๆ ไว้ มิสามารถสู้หน้าครอบครัวและฮองเฮาได้จึงยอมตายชดใช้ความผิดเพคะ!”“แต่ความจริงคือหลิงหว่านไปพบทันเวลาจึงช่วยนางซุนลงมาแล้ว!”“ท่านอดีตเสนาบดีให้คนมาส่งข่าวบอกให้ฮองเฮาถือเสียว่านางตายไปแล้วเถิด! หลิงเสียงกังก็ฟื้นแล้วบอกว่าตนทำให้นางเดือดร้อนจึงขอร้องแทนนาง บอกว่าครอบครัวของพวกเขาจะไปจากเมืองหลวง นับแต่นี้ไปจะมิปรากฏตัวที่เมืองหลวงอีกเพคะ”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ทอดถอนใจ เพราะว่านางซุนมีบุญคุณต่อตน นางเองก็มิได้มีความคิดว่าจะต้องสังหารเสียให้หมดนางซุนจะฆ่าตัวตายเพราะอยากจะหลีกหนีการใส่โซ่ตรวนเดินตามถนน หลิงอวี๋เองก็มิอยากเห็นนางซุนทำให้กระทบต่อชื่อเสียงของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน เช่นนั้นก็เอาตามนี้เถิด!“ความทรงจำของหลิงเสียงกังกลับมาแล้วหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แม้ว่าจะเอาก้อนเลือดออกมาสำเร็จแล้ว นางก็มิอาจรับประกันว่าประสาทของหลิงเสียงกังจะมิได้รับความเสียหาย“เห็นว่าจำได้มากแล้วเพคะ แต่ลืมรายละเอียดต่าง ๆ ไปแล้ว! อย่างน้อยเขาก็จำหลิงหว่านกั
หลิงหว่านกลั้นน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่นลงมาแล้วรีบเอ่ย “ขอบคุณท่านพี่เผยที่ช่วยข้ากับท่านพ่อ! แล้วก็ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าเผยที่ให้เกียรติข้าก่อนหน้านี้...”“เป็นข้าเองที่มิคู่ควรกับท่านพี่เผย ขอให้ในภายภาคหน้าท่านพี่เผยได้พบกับภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมยิ่งกว่าข้า ข้าขอให้พวกท่านมีความสุข!”หลังจากพูดจบ หลิงหว่านก็หันหลังวิ่งเข้าบ้านไปเผยอวี้ตามนางไปแล้วรั้งนางไว้ จากนั้นก็กอดนางไว้ในอ้อมแขน“หว่านเอ๋อร์ นี่มิใช่ความผิดของเจ้า ข้าจะมิยอมถอนหมั้น!”“ข้าคิดแล้ว… การแต่งงานของเราเป็นการประทานจากองค์จักรพรรดิ มีพระราชโองการลงมาแล้ว ขอเพียงองค์จักรพรรดิมิเห็นด้วย ท่านพ่อกับท่านย่าของข้าก็มิอาจคัดค้านได้!”เผยอวี้ยิ่งพูดก็ยิ่งลนลาน “เจ้าเป็นภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมที่สุด ข้ามิต้องการผู้อื่น หากต้องแต่งงานข้าก็จะแต่งกับเจ้าเท่านั้น!”“ท่านพี่เผย!”หลิงหว่านมิอาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกแล้ว จึงปล่อยให้น้ำใสไหลรินลงมาเป็นไปได้หรือ?นางยังแต่งงานกับเผยอวี้ได้หรือ?ท่านแม่ของนางทำเรื่องแย่กับพี่หญิงหลิงหลิงมากถึงเพียงนั้น องค์จักรพรรดิจะยังอนุญาตให้เผยอวี้แต่งงานกับตนหรือ?“เจ้าดูแลท่านพ่อของเจ้าอ