หลายปีก่อน ที่บ้านเกิดของหลิงซวนเกิดน้ำท่วมหนัก พ่อแม่ของหลิงซวนเสียชีวิตทั้งคู่จากน้ำท่วมครั้งนั้นหลิงซวนโดดเดี่ยวและทำอะไรไม่ถูก ถูกลักพาตัวมาขายจึงได้เข้ามาในวังครอบครัวของขันทีเซี่ยทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว เหลือเพียงหลานสาวคนนี้เท่านั้น!ก่อนหน้านี้ขันทีเซี่ยวางแผนจะรอจนกว่าหลิงซวนอายุครบสิบแปดปี แล้วจะขอให้นางออกจากวังไปแต่งงาน เพื่อที่เขาจะได้สืบทอดสายเลือดของตระกูลเซี่ยต่อไป!ขันทีเซี่ยจัดให้หลิงซวนทำงานทั่วไป เพราะเขาไม่อยากให้นางต้องถูกนางสนมทำให้ลำบาก!ใครจะคิดว่าเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งปีเท่านั้น หลิงซวนก็จะได้ออกจากวังแล้ว แต่กลับกลายเป็นเช่นนี้!ขันทีเซี่ยกำมือแน่น หายใจเข้าลึก ๆหลิงซวนกำลังจะตาย ตระกูลเซี่ยจะไม่มีความหวังแล้ว!เขาเป็นคนโปรดต่อหน้าจักรพรรดิอู่อัน แต่เขาไม่มีแม้แต่ความสามารถในการปกป้องหลานสาวของตนด้วยซ้ำ!หากเขาตายไป เขาจะมีหน้าอะไรไปพบพ่อแม่พี่น้องของเขาในโลกหลังความตายเล่า!ความโกรธของขันทีเซี่ยปะทุขึ้น!แม้ว่าเขาจะเป็นทาสที่ต่ำต้อยที่สุด แต่เขาไม่ใช่ทาสที่ใคร ๆ ก็มารังแกได้!หากทำให้เขากระวนกระวายใจ เขาจะทำให้คนเหล่านั้นรู้ว่าคนเราเกิดมาต่างก็มี
ลู่หนานมองที่ถุงเลือด เลือดของเขาไหลลงมาตามท่อเข้าสู่ร่างกายของหลิงซวนทีละหยด!สิ่งนี่้ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ!เขาช่วยชีวิตหลิงซวน เลือดของเขาไหลเวียนอยู่ในร่างกายของนาง...นี่มันก็หมายความว่านอกจากญาติสนิทของเขาแล้ว นางก็ยังถือเป็นญาติของเขาด้วยเช่นกันไม่ใช่หรือ!"พระชายา..."“หลิงอวี๋!”ลู่หนานกับเซียวหลินเทียนเอ่ยปากพูดพร้อมกันลู่หนานเห็นว่าเซียวหลินเทียนมีเรื่องจะพูด จึงทำได้เพียงอดทนไว้ก่อน“พวกเจ้าจะพูดสิ่งใด?” หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างแปลกใจเซียวหลินเทียนไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่น แต่เมื่อเห็นหลิงอวี๋ช่วยรักษานางกำนัลในวังอย่างใส่ใจในวันนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากเตือนนาง“เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า หลิงซวนไปทำให้จ่างหนิงขุ่นเคือง!”“แม้ว่านางจะรอดพ้นจากความตายมาได้! แต่ขอเพียงนางอยู่ในวังเพียงหนึ่งวัน สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็จะเกิดขึ้นอีก!”หลิงอวี๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อครู่นางยุ่งอยู่กับการช่วยชีวิตไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย!ตอนนี้ได้รับการเตือนจากเซียวหลินเทียนจึงนึกเรื่องนี้ขึ้นมาสิ่งนี้มันเป็นปัญหาจริง ๆ!หลิงอวี๋มองหลิงซวนที่ยังคงหลับอยู่ แล้วเริ่มครุ
จู่ ๆ เรือนบุหงาก็มีหลิงซวนเพิ่มเข้ามา เรื่องการขยายเรือนจึงถูกบีบว่าต้องทำทันทีเมื่อหลี่ต้าหนิวพาคนมาในวันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ก็คิดแล้วตรงไปหาเซียวหลินเทียน คิดว่าจะย้ายคนในเรือนบุหงาไปเรือนที่ว่างอยู่ก่อน รอให้การก่อสร้างเสร็จแล้วแล้วค่อยย้ายพวกเขากลับมาทันทีที่จ้าวซวนเห็นหลิงอวี๋มา เขาก็พาเข้าไปในห้องตำราด้วยรอยยิ้ม พลางเอ่ยอย่างกระตือรือร้น "ท่านอ๋องอยู่ขอรับ เชิญพระชายาขอรับ!"หลิงอวี๋ก็ไม่เกรงใจ พอเดินเข้าไปเห็นเซียวหลินเทียนนั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ นางก็บอกความตั้งใจของนางไปตรง ๆทันทีที่เซียวหลินเทียนได้ยินก็เอ่ยออกมา "เรือนบุหงาไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยจริง ๆ! ตำหนักนี้มีเรือนว่างอยู่มากมาย เจ้าชอบเรือนไหนก็ย้ายไปอยู่ได้เลย! ไม่ต้องย้ายกลับมาอีกหรอก!"หลิงอวี๋ส่ายหน้าพลางเอ่ย "หม่อมฉันชอบเรือนบุหงามาก ปรับปรุงใหม่เสียหน่อยก็จะเป็นเรือนใหม่แล้ว! หม่อมฉันเป็นคนที่เชิญทุกคนมาอยู่ หากท่านไม่ว่าอะไรหม่อมฉันจะเลือกเรือนหอมหมื่นลี้อยู่ใกล้กับเรือนบุหงามากที่สุดแล้วกัน!"“ข้าไม่ว่าอะไรหรอก!” เซียวหลินเทียนพยักหน้าหลิงอวี๋หันหลังจากไปอย่างมีความสุข“หลิงอวี๋… ข้ายังมีเรื่องจะพูด
หลังจากนวดไปสักพัก หลิงอวี๋ก็แทงเข็มเงินที่ตัวเซียวหลินเทียน เข็มเงินหลายเล่มถูกแทงเข้าไปในจุดฝังเข็มบนน่องของเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนรู้สึกเพียงว่า ขาของเขาร้อนผ่าว เขาเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ "ข้ารู้สึกได้! มันร้อนผ่าว!"หลิงอวี๋พยักหน้า แทงเข็มไปที่ขาทั้งสองข้างของเขาอีกรอบ จากนั้นก็เก็บเข็มเงินออกไปพลางเอ่ย“หม่อมฉันจะเปลี่ยนตำรับโอสถให้ท่านใหม่! ท่านกินยาไปสามวัน แล้วหม่อมฉันจะฝังเข็มให้ท่านอีก!”"หม่อมฉันไม่อาจสัญญากับท่านได้ว่าจะใช้เวลารักษาท่านนานแค่ไหนถึงจะหายดี!"“หม่อมฉันคิดว่า จากสถานการณ์ในวันนี้ ใช้เวลาหนึ่งเดือนกว่าน่าจะลุกขึ้นเดินได้แล้วกระมัง! หากฟื้นตัวดีก็จะใช้เวลาไม่ถึงเดือน!”หนึ่งเดือนกว่า?ในตอนแรกเซียวหลินเทียนคิดว่า มันจะใช้เวลานานมาก แต่เมื่อเขาได้ยินว่าใช้เวลาหนึ่งเดือนกว่า ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจหนึ่งเดือนกว่า? เขาจะสามารถกลับมาเป็นปกติเหมือนก่อนหน้านี้ได้หรือ?“ขหม่อมฉันขออภัย เส้นประสาทที่ขาของท่านต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะฟื้นตัว หากท่านรอไม่ไหว หม่อมฉันจะพยายามคิดหาวิธีที่จะย่นระยะเวลาให้สั้นลง!”หลิงอวี๋เห็นสีหน้าของเซียวหลินเทียน
บางทีอาจจะเป็นเพราะหลิงอวี๋ช่วยเซียวหลินเทียนไว้อย่างใหญ่หลวงนัก พอเซียวหลินเทียนเห็นว่ามีการก่อสร้างเรือนบุหงา เขาจึงให้จ้าวซวนส่งทหารองครักษ์และบ่าวรับใช้ชายในตำหนักไปช่วยที่เรือนบุหงามีคนช่วยเหลือมากมายถึงเพียงนี้ ภายในวันเดียว หลี่ต้าหนิวจึงได้ประกอบโครงห้องที่สร้างขึ้นใหม่หลายห้องได้เสร็จสิ้นเลยวันรุ่งขึ้นจ้าวซวนก็จ้างช่างมามากหลาย ช่วยกันคนละไม้คนละมือก็วางอิฐเรือนเสร็จเมื่อหลิงอวี๋กลับมาจากโรงเหยียนหลิง นางตกใจก็กับความเร็วของการก่อสร้างเรือนบุหงา เรือนบุหงากว้างขวางขึ้นและเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เหลือเพียงรายละเอียดบางส่วนเท่านั้นนางพาหลิงเยวี่ยเดินไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น ดูว่ายังมีรายละเอียดใดที่จำเป็นต้องเพิ่มอีกหรือไม่สวนดอกไม้ด้านหลังมีขนาดใหญ่มาก เรือนที่สร้างขึ้นใหม่ก็มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของเรือนบุหงาดั้งเดิมตอนที่หลิงอวี๋ออกแบบก่อนหน้านี้ก็ทำห้องน้ำส่วนรวม และห้องนอนหลายห้องก็มีห้องน้ำส่วนตัวด้วยบริเวณตรงกลางสวน นางเหลือพื้นที่ให้หลิงเยวี่ยได้เล่นและออกกำลังกาย ทั้งยังได้ทำชิงช้าให้หลิงเยวี่ยด้วยทางเรือนบุหงามีการทาสีใหม่ หน้าต่างทั้งหมดล้วนเปลี่ยนเป็นกระ
หลิงอวี๋เบียดเข้าไปพลันเห็นมุมปากท่านอ๋องเฉิงเปื้อนโลหิตดำสายหนึ่ง สีหน้าขาวซีด นอนบนพื้นลมหายใจร่อแร่เต็มทีเด็กรับใช้สองคนกับหมอหลี่ของโรงหุยชุนคุกเข่าลงข้างหนึ่งสิ้นปัญญารักษาหลิงอวี๋หมายก้าวไปช่วยข้างหน้าพลันได้ยินเสียงอ่อนเยาว์หนึ่งพูดขึ้น“หมอหลี่ ข้าได้ยินว่าเฉิงทรงโรคกำเริบหรือขอรับ? ข้าขอตรวจสักหน่อย!”หลิงอวี๋ปรายตามองก็พบดรุณแรกรุ่นผู้หนึ่งก้าวเข้ามา ใบหน้าเขาดุจหยกประดับกวาน ร่างผอมสูง สวมเสื้อคลุมผ้าไหมสีจันทร์เสี้ยวราคาแพงหมอหลี่เห็นพลันเอ่ยดีอกดีใจ“น้องเล็กเฉิง เขาคือลูกเถ้าแก่ของโรงหุยชุนเรา จางเจ๋อ เขาเพิ่งกลับจากเที่ยวร่อนเร่แสวงความรู้เมื่อสองวันก่อน!”“ลูกเถ้าแก่ของเราประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยเยาว์ ทักษะการแพทย์ก็ยอดเยี่ยมแม้จะอายุยังน้อย!”“ท่านอ๋องเฉิงมีทางรอดแล้ว… เขาช่วยท่านอ๋องเฉิงได้แน่!”เฉิงตงเห็นก็พลันรีบพูดว่า “คุณชายจาง ท่านรีบช่วยท่านอ๋อง ของเราด้วยขอรับ!”จางเจ๋อแย้มยิ้มมั่นใจพลางเอ่ย “ดูสถานการณ์แล้วข้าช่วยได้!”หลิงอวี๋พบว่าจางเจ๋อมิได้อยู่คนเดียว ยังมีตู้ตงหง เสิ่นจวนกับเจิงจื่ออวี้ติดตามเขามาด้วยบนหน้าตู้ตงหงพกความเหนียมอายประปรายขณะ
เข็มเงินจางเจ๋อใกล้แตะร่องเหนือริมฝีปากท่านอ๋องเฉิงแล้ว แต่ถูกเสียงร้องตกใจทำให้ชักกลับโดยสัญชาตญาณ“ใคร? ใครพูดสอดข้าช่วยคน”จางเจ๋อรั้งหน้ามองมาอย่างขุ่นเคือง ตะโกนลั่น“ร่องเหนือริมฝีปากคือตำแหน่งสำคัญของร่างกาย ผู้ใดโหวกเหวก ถ้าข้าตกใจพลั้งมือแทงท่านอ๋องเฉิงตายขึ้นมาเจ้าจะรับผิดชอบได้หรือไม่?”ตอนหลิงอวี๋ออกจวนคลุมผ้าคลุมหน้าไว้ เวลานี้ก็ไม่อยากเปิดเผยตัวตนแท้จริงของตัวเองจึงไปข้างหน้าสองสามก้าวพลางเอ่ย“หมอจาง อาการท่านอ๋องเฉิงมิใช่ภาวะลิ่มเลือดอุดตันและก็มิใช่โรคหลอดเลือดสมอง! ท่านมิอาจใช้วิธีรักษาหลอดเลือดสมองกับเขาได้!”“การฝังเข็มเงินร่องเหนือปากนี้ของท่านมิได้ส่งผลดีอะไรต่ออาการป่วย!”“กลับกัน ยังสามารถทำให้ท่านอ๋องเฉิงเป็นอัมพาตครึ่งซีกด้วย!”จางเจ๋อหน้ามืดครึ้มฉับพลัน ถลึงมองหลิงอวี๋อย่างโกรธเกรี้ยวพลางตะคอกลั้น “เจ้าคือใคร! เจ้าเป็นสตรีเข้าใจวิชาหมอรึ?”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าอาจารย์ข้าคือผู้ใด? เขาคือเซียนหมอโบราณเลื่องชื่อระบือนามแห่งฉินตะวันตก! ข้าเรียนหมอกับเขาสิบกว่าปี สืบทอดวิชาสายตรงจากเขาลึกซึ้ง! แม้แต่อาจารย์ข้าก็เยินยอข้าว่าเก่งกว่าอาจารย์เสียอีก”“ถ้าข้าไม่
“ฟื้นแล้ว! ท่านอ๋องเฉินไม่เป็นไรแล้ว! ข้าก็บอกแล้วว่าวิชาแพทย์ลูกเถ้าแก่ของเราเหนือชั้น ไม่มีคนเทียบได้...”เมื่อหมอหลี่เห็นก็ร้องขึ้นอย่างลิงโลดทว่าหมอหลี่ยังไม่ทันเอ่ยจบ ท่านอ๋องเฉินก็พ่นโลหิตดำออกจากปากคำโต ร่างกายสั่นเทิ้ม สองขาชักกระตุกผ่านไปไม่นาน สองขาท่านอ๋องเฉินถีบเหยียดตึง ขาดใจเสียแล้ว…หมอหลี่เห็นก็ตะลึงตาค้างฉับพลัน นะ… นี่…เฉิงตงตกใจจนอ้าปากตาค้างเหมือนกันเขาก้าวไปข้างหน้าตรวจลมหายใจของท่านอ๋องเฉิน จากนั้นค้นพบว่าหยุดหายใจแล้วพลันคุกเข่าลงพื้นดัง ‘ตุ้บ’ เอ่ยอย่างแตกสลายว่า“เกิดอะไรขึ้น… มิใช่เอ่ยว่าสามารถช่วยท่านอ๋องของเราได้หรือ… เหตุใดเป็นเช่นนี้...”เมื่อจางเจ๋อเห็นแล้วจิตใจก็ลุกลนเช่นกัน หลังจากเขาทำเป็นนิ่งสงบชักเข็มออกพลางถอนหายใจต่อเฉิงตง“สายเกินไป เมื่อครู่หากข้าฝังเข็มเร็วกว่าหน่อยยังมีทางรอดได้ แต่ถูกสตรีผู้นั้นทำเสียเวลาจึงพลาดโอกาสรักษาที่ดีที่สุด!”“ท่านอ๋องเฉิน… สิ้นพระชนม์แล้ว! ส่งกลับเรือนเตรียมงานพระราชพิธีพระเพลิงพระบรมศพเถิด!”“ตู้ตงหงตะลึงชั่วขณะ พลันแสดงท่าทีชี้หลิงอวี๋ร้องเรียก”“ทั้งหมดคือความผิดนางผู้นั้น รายงานราชการจับกุมนางเสีย
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงไปกับการโกนหัวของนางซุนแล้ว!นางซุนใช้วิธีเด็ดขาดนี้มาตัดการแต่งงานครึ่งชีวิตของตนกับหลิงเสียงกังแล้วทิ้งหลิงหว่านกับหลิงเสียงกังไว้และสุดท้ายนางก็มิอาจต้านทานการเกลี้ยกล่อมของหลิงหว่านได้ จึงเลือกที่จะเป็นแม่ชีอยู่ที่อารามเล็ก ๆ ซึ่งห่างจากเมืองหลวงไปห้าสิบลี้‘พิธีศพ’ ของนางซุน หลิงอวี๋ก็ออกจากวังมาร่วมงานด้วยในฐานะหลานสาวสำหรับการช่วยครั้งสุดท้ายของนางซุนที่มีต่อหลิงเสียงกังกับหลิงหว่าน ทำให้ความโกรธที่หลิงอวี๋มีต่อนางหายไปสำหรับนางซุน บทสรุปเช่นนี้ก็นับว่าสบายใจเช่นกันแต่สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านล้วนมีเส้นทางยาวไกลที่ตนต้องเดินไป...หลิงเสียงกังสามารถลงมาเดินได้แล้ว จึงมาร่วมงานศพนางซุนโดยมีหลิงหว่านประคองมาหลังจากงานศพเสร็จสิ้น เขาก็คุกเข่าให้หลิงอวี๋“ฮองเฮา เรื่องต่าง ๆ ก่อนหน้านี้เป็นหลิงเสียงกังเองที่ผิด กระหม่อมเป็นหนี้นางซุนและทุกคน!”“กระหม่อมสมควรตาย แต่กระหม่อมตายมิได้ กระหม่อมต้องแสวงหาความยุติธรรมเพื่อชื่อเสียงของตนและแสวงหาความยุติธรรมให้แก่เหล่าทหารที่ติดตามกระหม่อมและต้องตายไปอย่างอยุติธรรม!”หล
มิเพียงแต่หลิงอวี๋ที่กลุ้ม ท่านอดีตเสนาบดีเองก็โกรธมาก หลิงเสียงกังยังมิทันจะเดินลงพื้นได้ ท่านอดีตเสนาบดีก็ได้ยินเขาบอกว่าจะตามนางซุนไปที่บ้านเกิด จึงพุ่งเข้าไปด่าหลิงเสียงกังที่เตียงผู้ป่วย“หลิงเสียงกัง นางซุนทำเรื่องเลวร้ายเอง นางรนหาที่ตายข้าก็ปล่อยนางไปแล้ว แต่เหตุใดเจ้าต้องตามนางไปด้วย?”“ข้าดูแลเจ้ามา ลำบากลำบนสอนสั่งเจ้ามา มิใช่เพื่อให้เจ้าทำให้เสียเปล่าเองเช่นนี้!”หลิงเสียงกังมองท่านอดีตเสนาบดีที่แก่ลงไปมากอย่างขมขื่น พลางเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษขอรับท่านพ่อ ลูกทำให้ท่านผิดหวัง!”“อย่ามาพูดไร้สาระกับข้า เจ้ามันอกตัญญูมิรู้คุณ...”ท่านอดีตเสนาบดีเอ่ยอย่างปวดใจ “เจ้าอายุยังน้อย วรยุทธ์ในกายยังสามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ เจ้าไปเช่นนี้จะมิใช่การชดใช้ แต่เป็นการหลบหนี!”“ตอนนั้นเหตุใดเจ้าถึงถูกถอดออกจากตำแหน่ง? ก่อนหน้ามิสามารถพูดให้ชัดเจนได้ ตอนนี้หลิงอวี๋ก็เป็นฮองเฮาแล้ว ขอเพียงเจ้าอยากพลิกคดี นางจะมิช่วยเหลือเจ้าหรือ?”“ตระกูลหลิงของเรามิเคยเกิดเรื่องเช่นนี้ เจ้ามิคิดเพื่อตัวเจ้าเอง เจ้าก็ต้องนึกถึงฮองเฮากับหลิงเสี่ยงบ้าง!”หลิงหว่านยืนอยู่ข้างเตียงเงียบ ๆ นางมิ
นางซุนแขวนคอตาย!วันรุ่งขึ้นข่าวนี้ก็ไปถึงหูของหลิงอวี๋ หลิงซวนยิ้มขมขื่นพลางเอ่ยกับหลิงอวี๋ “ข้างนอกพูดกันว่านางซุนทำเรื่องแย่ ๆ ไว้ มิสามารถสู้หน้าครอบครัวและฮองเฮาได้จึงยอมตายชดใช้ความผิดเพคะ!”“แต่ความจริงคือหลิงหว่านไปพบทันเวลาจึงช่วยนางซุนลงมาแล้ว!”“ท่านอดีตเสนาบดีให้คนมาส่งข่าวบอกให้ฮองเฮาถือเสียว่านางตายไปแล้วเถิด! หลิงเสียงกังก็ฟื้นแล้วบอกว่าตนทำให้นางเดือดร้อนจึงขอร้องแทนนาง บอกว่าครอบครัวของพวกเขาจะไปจากเมืองหลวง นับแต่นี้ไปจะมิปรากฏตัวที่เมืองหลวงอีกเพคะ”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ทอดถอนใจ เพราะว่านางซุนมีบุญคุณต่อตน นางเองก็มิได้มีความคิดว่าจะต้องสังหารเสียให้หมดนางซุนจะฆ่าตัวตายเพราะอยากจะหลีกหนีการใส่โซ่ตรวนเดินตามถนน หลิงอวี๋เองก็มิอยากเห็นนางซุนทำให้กระทบต่อชื่อเสียงของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน เช่นนั้นก็เอาตามนี้เถิด!“ความทรงจำของหลิงเสียงกังกลับมาแล้วหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แม้ว่าจะเอาก้อนเลือดออกมาสำเร็จแล้ว นางก็มิอาจรับประกันว่าประสาทของหลิงเสียงกังจะมิได้รับความเสียหาย“เห็นว่าจำได้มากแล้วเพคะ แต่ลืมรายละเอียดต่าง ๆ ไปแล้ว! อย่างน้อยเขาก็จำหลิงหว่านกั
หลิงหว่านกลั้นน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่นลงมาแล้วรีบเอ่ย “ขอบคุณท่านพี่เผยที่ช่วยข้ากับท่านพ่อ! แล้วก็ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าเผยที่ให้เกียรติข้าก่อนหน้านี้...”“เป็นข้าเองที่มิคู่ควรกับท่านพี่เผย ขอให้ในภายภาคหน้าท่านพี่เผยได้พบกับภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมยิ่งกว่าข้า ข้าขอให้พวกท่านมีความสุข!”หลังจากพูดจบ หลิงหว่านก็หันหลังวิ่งเข้าบ้านไปเผยอวี้ตามนางไปแล้วรั้งนางไว้ จากนั้นก็กอดนางไว้ในอ้อมแขน“หว่านเอ๋อร์ นี่มิใช่ความผิดของเจ้า ข้าจะมิยอมถอนหมั้น!”“ข้าคิดแล้ว… การแต่งงานของเราเป็นการประทานจากองค์จักรพรรดิ มีพระราชโองการลงมาแล้ว ขอเพียงองค์จักรพรรดิมิเห็นด้วย ท่านพ่อกับท่านย่าของข้าก็มิอาจคัดค้านได้!”เผยอวี้ยิ่งพูดก็ยิ่งลนลาน “เจ้าเป็นภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมที่สุด ข้ามิต้องการผู้อื่น หากต้องแต่งงานข้าก็จะแต่งกับเจ้าเท่านั้น!”“ท่านพี่เผย!”หลิงหว่านมิอาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกแล้ว จึงปล่อยให้น้ำใสไหลรินลงมาเป็นไปได้หรือ?นางยังแต่งงานกับเผยอวี้ได้หรือ?ท่านแม่ของนางทำเรื่องแย่กับพี่หญิงหลิงหลิงมากถึงเพียงนั้น องค์จักรพรรดิจะยังอนุญาตให้เผยอวี้แต่งงานกับตนหรือ?“เจ้าดูแลท่านพ่อของเจ้าอ