หลิงอวี๋ออกจากตำหนักอ๋องอี้ แล้วตรงไปหาเกิ่งเสี่ยวหาวนางนำยาทาหลายหลอดมาให้เปียวจื่อ ถือเป็นของขวัญขอบคุณเหล่าพี่น้องของเปียวจื่อที่ช่วยกันช่วยชีวิตหลิงเยวี่ยเอาไว้ทันทีที่เห็นเปียวจื่อก็มีความสุขมาก ๆ เมื่อขอบคุณหลิงอวี๋แล้วก็รีบไปหาเกิ่งเสี่ยวหาวทันทีหลิงอวี๋เองก็ไม่เกรงใจเกิ่งเสี่ยวหาว บอกไปตรง ๆ ว่าให้เกิ่งเสี่ยวหาวช่วยหาผู้ชายที่มีวรยุทธให้สักสองคนเกิ่งเสี่ยวหาวรับปากมันที ทั้งยังเอ่ยอย่างกระตือรือร้นด้วย“ท่านพี่ เช่นนั้นข้าให้นางรับใช้ที่รู้วรยุทธที่ข้าซื้อมาให้สองคนด้วยดีกว่า! เพื่อเลี่ยงไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก!”“เรื่องนี้ไม่ได้เร่งด่วนอันใด ไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถิด!”หลิงอวี๋คิดว่านางจะออกจากตำหนักอ๋องอี้ได้ทุกเมื่อ จึงเอ่ย“เจ้าช่วยข้าเสาะหาบ้านก่อนก็ได้ รอให้ข้ากับเซียวหลินเทียนแยกทางกัน ตอนที่ข้าย้ายข้าวของออกจะได้มีที่อยู่!”เกิ่งเสี่ยวหาวได้ยินเรื่องที่สองสามีภรรยาตำหนักอ๋องอี้ไม่ลงรอยกันมานานแล้ว เขาเองก็รู้สึกเช่นกันว่าเซียวหลินเทียนไม่คู่ควรกับหลิงอวี๋ จึงพยักหน้ารับปากช่วยทั้งสองหารือกันเกี่ยวกับแผนการผลิตยาทา หลิงอวี๋คิดเรื่องที่จะซ่อมแซมเรือนบุ
ในเมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องอยู่ในความสงบ ขณะที่ยังไม่ได้รู้แน่ถึงเจตนาของจ้าวซวน หลิงอวี๋ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องตำราไปก่อนห้องตำรามีขนาดใหญ่มาก มีตู้หนังสือเรียงเป็นแถวชิดกับกำแพง และมีโต๊ะหนังสือขนาดใหญ่อยู่ที่ริมหน้าต่างข้าง ๆ โต๊ะหนังสือเป็นอ่างเซรามิกโบราณที่บรรจุภาพวาดไว้ห้องตำราเก็บกวาดสะอาดสะอ้าน มีการจัดวางอย่างเป็นระเบียบ มีเพียงบนโต๊ะหนังสือที่มีหนังสือวางกองเต็มไปหมด“พระชายา ดูเถิดขอรับ ท่านอ๋องให้ข้าตรวจสอบสมุดบัญชีของพ่อบ้านฟั่น! แต่ข้าเป็นคนค่อนข้างจะสะเพร่า ไม่สามารถทำงานเช่นนี้ได้ขอรับ!”จ้าวซวนถือสมุดบัญชีหลายเล่มเข้ามา พลางเอ่ยด้วยสีหน้าขมขื่น“นี่คือสมุดบัญชีในช่วงสองสามปีมานี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ของเรือนชั้นในเท่านั้น แต่มีความสำคัญยิ่ง ไม่สามารถขอให้คนนอกมาช่วยตรวจสอบได้ขอรับ!”“พระชายา โปรดช่วยดูหน่อยเถิดขอรับ ข้าจะจัดการกับสมุดบัญชีเหล่านี้เยี่ยงไรดีหรือขอรับ?”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินว่าเป็นเรื่องเล็กเช่นนี้ ก็คลายความระมัดระวังที่มีต่อจ้าวซวนลง แล้วรับมาดูทันทีที่เห็นก็อธิบายได้คำเดียวเลยว่า… เละเทะ!นางเรียนแพทย์ แต่หลักการบัญชีง
วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋เปลี่ยนชุดตามความเหมาะสม แล้วออกไปพร้อมกับยาบำรุงร่างกายที่เตรียมไปให้ไทเฮาครั้งนี้เซียวหลินเทียนไม่ได้ออกไปคนเดียวเหมือนกับงานเลี้ยงในวังครั้งที่แล้ว เขากับลู่หนานมารออยู่ที่หน้าประตูตำหนักหลิงอวี๋พาหลิงซินออกมา โค้งคำนับให้เขาแล้วขึ้นรถไป“ประเดี๋ยวเข้าวังไปแล้ว เจ้าไปเข้าเฝ้าไทเฮาที่ตำหนักเหยียนฝูนะ ข้าจะไปหาท่านพ่อ จะไปรับเจ้าที่ตำหนักเหยียนฝูช้าสักหน่อย!” เซียวหลินเทียนเอ่ย“เพคพ!” หลิงอวี๋พยักหน้าครั้งที่แล้วเข้าวังไปมีปัญหาเข้ามาไม่ขาดสาย ใจจริงหลิงอวี๋ไม่ชอบเข้าไปในวังเลย ดังนั้นจึงทำตามแผนการของเซียวหลินเทียน!กระทั่งเข้าไปในวัง ไป่ซุ่ยจากตำหนักไทเฮาก็รออยู่ที่ประตูแล้ว แล้วพาหลิงอวี๋และบ่าวไปเมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเป็นไป่ซุ่ย ก็ยัดขวดเล็ก ๆ ไปให้นางอย่างเงียบ ๆ พลางกระซิบ“คราวที่แล้วข้าเห็นเจ้าเป็นสิว ยาทานี้เอาไว้ทาเมื่อเป็นสิวนะ ไม่มีทางทิ้งรอยสิวไว้ให้เห็นแน่นอน!”“ขอบคุณพระชายาเจ้าค่ะ!” ไป่ซุ่ยรับขวดเล็ก ๆ นั้นมาอย่างมีความสุข“พระชายา ไทเฮาเชิญพระชายามาวันนี้ เพราะว่าเมื่องานฉลองครั้งก่อนได้ละเลยพระชายาไป จึงจะชดเชยให้เจ้าค่ะ!”ไป่ซุ่ยเอ่
ที่ด้านหน้าตำหนักเหยียนฝู มีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ อยู่ใกล้กับริมทะเลสาบสวนดอกไม้ได้รับการดูแลอย่างดี ดอกไม้ที่งามสะพรั่งเต็มสวนทำให้ทั้งสวนดูมีชีวิตชีวาหลิงอวี๋สูดอากาศบริสุทธิ์ มองดอกไม้ที่เห็นแล้วชื่นตาชื่นใจเหล่านี้ ยืนรอเซียวหลินเทียนอยู่กับหลิงซินที่ริมทางของสวนดอกไม้ไป่ซุ่ยไปส่งพวกนาง แต่พวกนางยังไม่ออกไปจึงทำได้เพียงอยู่กับพวกนางไปด้วย และพูดคุยถึงวิธีการดูแลผิวพรรณกับหลิงอวี๋ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าใด จู่ ๆ ก็มีเสียงโวยวายดังมาจากที่ไกล ๆ เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เป็นการยากที่พวกนางจะไม่สนใจเสียงนั้น“นังสารเลว ท่านหญิงให้เจ้าเก็บดอกไม้เพราะว่าท่านเห็นความสำคัญของเจ้า! เจ้ายังกล้าตำหนิท่านหญิงอีกหรือ!”“ทำให้ท่านหญิงน้อยตกใจ เจ้ามีกี่ชีวิตก็ไม่พอหรอกนะ! เหตุใดยังไม่รีบไปเก็บดอกไม้ให้ท่านหญิงอีกเล่า!”จากนั้นเสียงเล็ก ๆ เสียงหนึ่งก็เอ่ยขึ้นมา "ข้าอยากได้ดอกที่ใหญ่ที่สุดตรงกิ่งนั้น! ข้าอยากจะเอาไปถวายท่านย่าทวดไทเฮา!"“ท่านหญิง มันสูงเกินไปเพคะ! บ่าวปีนขึ้นไปมิได้เพคะ!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น ก็หันไปมองอย่างสงสัยด้านหน้าไม่ไกลนัก มีคนหลายคนรวมตัวกันอยู่ที่ใต้ต้นด
"ลุกขึ้น!"หลิงอวี๋พุ่งเข้าไป เอื้อมมือไปดึงชุ่ยเอ๋อร์ขึ้นมาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงตอนนั้นเองกลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่ใต้ต้นไม้ถึงได้สังเกตเห็นว่าหลิงอวี๋มา“พระชายาอ๋องอี้ หมายความว่าเยี่ยงไรเจ้าคะ?”ทันใดนั้นสีหน้าของเซี่ยเฉียวก็เปลี่ยนไป นางขมวดคิ้วพลางเอ่ยถาม“ข้าก็อยากถามเจ้าอยู่เช่นกัน! เซี่ยเฉียว นางกำนัลผู้นี้ไปกระทำให้พวกเจ้าขุ่นเคืองด้วยเหตุอัรใด? นางเป็นห่วงพี่น้องของตนเจึงบอกให้ระวัง มันไม่ถูกหรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ "เจ้าง้างมือออกไปตบนาง! หรือว่าฮองเฮาสอนเจ้าเช่นนี้หรือ?"หน้าของชุ่ยเอ๋อร์บวมขึ้นแล้ว เซี่ยเฉียวตบนางแรงมากเซี่ยเฉียวเหลือบมองชุ่ยเอ๋อร์อย่างดูถูก พลางเอ่ยอย่างเย็นชา "นางทำผิด ก็สมควรถูกตบ!"“พระชายาอ๋องอี้ ที่นี่ไม่ใช่ตำหนักอ๋องอี้ ข้าขอแนะนำว่าพระชายาอย่าเข้ามายุ่งเลยจะดีกว่า!”ท่านหญิงจ่างหนิงมองหลิงอวี๋อย่างสงสัย แล้วดึงอาภรณ์ของเซี่ยเฉียวพลางเอ่ยถาม "พี่เซี่ยเฉียว ผู้หญิงจอมยุ่งผู้นี้คือผู้ใดกัน?"“นางหรือเจ้าคะ… นางก็คือพระชายาของลุงสี่ของท่านหญิงเจ้าค่ะ!”เซี่ยเฉียวก้มลงกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของจ่างหนิงหลังจากฟังเสร็จท่านหญิงจ่างหนิงก็จ้องหลิ
“หญิงสารเลว! เจ้ากล้ามายุ่งเรื่องของข้า!”จ่างหนิงรู้สึกหงุดหงิดทันที นางฉลาดมาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเป็นที่รักของพระชายาเว่ยเพราะว่านางเหมือนฮองเฮาเว่ยทุกประการ นางจึงได้รับความโปรดปรานอย่างมากจากฮองเฮาเว่ยอยู่ในวัง พวกนางกำนัล ขันทีและแม่นมที่ไม่กล้าทำให้ฮองเฮาเว่ยขุ่นเคืองเหล่านั้น ใครเห็นนาง ต่างก็ปฏิบัติต่อนางอย่างเคารพกันหมดไม่ใช่หรือ?สถานะของจ่างหนิง อาจกล่าวได้ว่าไม่ใช่องค์หญิง แต่ก็ชนะเหนือกว่าองค์หญิงแล้ว!นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นคนกล้าเข้ามายุ่งเรื่องของตน ศักดิ์ศรีของนางถูกท้าทาย นางจึงโกรธขึ้นมา“พวกเจ้าลากนางออกไป ดึงนางลงแล้วทุบตีนางให้แรง ๆ ซะ!”ในเรือนพระชายาเว่ยลงโทษบ่าวที่ทำผิดเช่นนี้ ตอนนี้จ่างหนิงก็กำลังทำตามแบบเดียวกัน!นางไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าตัวตนของพระชายาอ๋องอี้คืออะไร มีหรือที่นางอยากจะทุบตีก็ทำได้ทุกเมื่อ!แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้ว่านางกำนัลในวังไม่กล้าลงมือทำอะไรกับหลิงอวี๋ แต่เขาก็ยังตกใจกับภาพนี้อยู่ดีขาทั้งสองของเขาพิการ หรือว่าพระชายาของเขาเองจะถูกทำให้อับอายเช่นนี้ในวังอย่างนั้นหรือ?เขาจำได้ว่าตอนนั้น หลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิต องค์ชาย
“ใครก็ได้มานี่ที!”หลิงอวี๋เห็นหลิงซวนหมดสติไปแล้ว จึงตะโกนอย่างร้อนใจนางคนเดียวไม่มีทางอุ้มหลิงซวนไปรักษาได้!เซียวหลินเทียนเห็นท่าทางกังวลทำอะไรถูกของหลิงอวี๋ ก็ไม่สามารถมองเฉยอยู่ได้อีกต่อไป จึงแสดงท่าทีให้ลู่หนานไป"ไปช่วยนาง!"“พระชายา! ข้ามาแล้ว!”ลู่หนานดูอยู่อย่างกังวลมานานแล้ว เมื่อได้รับคำสั่งจากเซียวหลินเทียน เขาก็รีบวิ่งเข้าไปทันที"ลู่หนาน เจ้ามาแล้ว ดีจริง ๆ!"ทันทีที่หลิงอวี๋เห็นลู่หนานมา ก็รู้สึกราวกับเห็นผู้ช่วยชีวิต จึงเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว "อุ้มนางขึ้นช้า ๆ แล้วรีบตามข้ามา!"ลู่หนานอุ้มหลิงซวนขึ้นมาอย่างระมัดระวังตามคำสั่งของนางเลือดของหลิงซวนทำให้เสื้อคลุมของเขาเป็นสีแดงฉานในทันที เขาขมวดคิ้วอย่างกังวล เช่นนี้ยังจะช่วยได้หรือ?"ไป!"หลิงอวี๋หันกลับมาเห็นว่าไป่ซุ่ยตามมาด้วย เซียวหลินเทียนก็เข็นรถล้อของเขาตามมาด้วยเช่นกัน“ไป่ซุ่ย เจ้าช่วยหาห้องที่สะอาดให้ข้าหน่อยได้หรือไม่? ข้าจะช่วยหลิงซวน!”ไป่ซุ่ยหวาดกลัวจนหน้าซีด แต่นางยังคงเอ่ยอย่างสงบ"มีห้องที่สะอาดในตำหนักเหยียนฝู พวกท่านตามข้ามา!"หลิงอวี๋ไม่มีเวลาคิดว่าเหตุใดเซียวหลินเทียนถึงอยู่ที่นี่ นางโ
“มา ๆ เซียวหลินเทียน ท่านมาทำความรู้จักกับเครื่องมือเหล่านี้สักหน่อย อีกประเดี๋ยวหม่อมฉันจะให้ท่านช่วยส่งอะไรท่านจะได้ส่งให้ได้ทันที!”หลิงอวี๋เข็นเซียวหลินเทียนไปที่หน้าโต๊ะ ชี้เครื่องมือผ่าตัดของนางให้เขารู้จักทีละอันเซียวหลินเทียนขมวดคิ้วจ้องเครื่องมือที่ดูแปลกตาเหล่านี้ เขาไม่เข้าใจว่าหลิงอวี๋พยายามจะทำอะไรแต่ความทรงจำของเขานั้นน่าทึ่งมาก หลิงอวี๋พูดไปครั้งเดียวก็จำทุกอย่างได้เลยเดิมทีเรื่องพวกนี้ให้หลิงซินทำก็ได้ แต่หลิงซินยังเด็กนัก หลิงอวี๋กลัวว่านางเห็นเลือดออกแล้วจะสติแตก จึงให้นางออกไปเฝ้าประตูไว้หลิงอวี๋หยิบแอลกอฮอล์ออกมา ฆ่าเชื้อที่มือของเซียวหลินเทียน แล้วสวมถุงมือปลอดเชื้อให้เขา พลางเอ่ยอย่างอดทน“เมื่อสวมถุงมือแล้ว อย่าสัมผัสสิ่งอื่นใดเป็นอันขาด เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของเชื้อโรค มันจะทำให้แผลของหลิงซวนติดเชื้อได้!”ลู่หนานเห็นเซียวหลินเทียนถูกหลิงอวี๋ควบคุมไว้เช่นนั้น ก็ทั้งอยากรู้ทั้งอยากหัวเราะเขาเคยเห็นเซียวหลินเทียนมีท่าทีซื่อ ๆ เช่นนี้เมื่อใดกัน!"ข้าสามารถทำสิ่งใดได้บ้างขอรับ?"ลู่หนานถามอย่างกระตือรือร้น“ข้าต้องเจาะเลือดจากเจ้าเพิ่มอีก! ประเดี