“หญิงสารเลว! เจ้ากล้ามายุ่งเรื่องของข้า!”จ่างหนิงรู้สึกหงุดหงิดทันที นางฉลาดมาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเป็นที่รักของพระชายาเว่ยเพราะว่านางเหมือนฮองเฮาเว่ยทุกประการ นางจึงได้รับความโปรดปรานอย่างมากจากฮองเฮาเว่ยอยู่ในวัง พวกนางกำนัล ขันทีและแม่นมที่ไม่กล้าทำให้ฮองเฮาเว่ยขุ่นเคืองเหล่านั้น ใครเห็นนาง ต่างก็ปฏิบัติต่อนางอย่างเคารพกันหมดไม่ใช่หรือ?สถานะของจ่างหนิง อาจกล่าวได้ว่าไม่ใช่องค์หญิง แต่ก็ชนะเหนือกว่าองค์หญิงแล้ว!นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นคนกล้าเข้ามายุ่งเรื่องของตน ศักดิ์ศรีของนางถูกท้าทาย นางจึงโกรธขึ้นมา“พวกเจ้าลากนางออกไป ดึงนางลงแล้วทุบตีนางให้แรง ๆ ซะ!”ในเรือนพระชายาเว่ยลงโทษบ่าวที่ทำผิดเช่นนี้ ตอนนี้จ่างหนิงก็กำลังทำตามแบบเดียวกัน!นางไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าตัวตนของพระชายาอ๋องอี้คืออะไร มีหรือที่นางอยากจะทุบตีก็ทำได้ทุกเมื่อ!แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้ว่านางกำนัลในวังไม่กล้าลงมือทำอะไรกับหลิงอวี๋ แต่เขาก็ยังตกใจกับภาพนี้อยู่ดีขาทั้งสองของเขาพิการ หรือว่าพระชายาของเขาเองจะถูกทำให้อับอายเช่นนี้ในวังอย่างนั้นหรือ?เขาจำได้ว่าตอนนั้น หลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิต องค์ชาย
“ใครก็ได้มานี่ที!”หลิงอวี๋เห็นหลิงซวนหมดสติไปแล้ว จึงตะโกนอย่างร้อนใจนางคนเดียวไม่มีทางอุ้มหลิงซวนไปรักษาได้!เซียวหลินเทียนเห็นท่าทางกังวลทำอะไรถูกของหลิงอวี๋ ก็ไม่สามารถมองเฉยอยู่ได้อีกต่อไป จึงแสดงท่าทีให้ลู่หนานไป"ไปช่วยนาง!"“พระชายา! ข้ามาแล้ว!”ลู่หนานดูอยู่อย่างกังวลมานานแล้ว เมื่อได้รับคำสั่งจากเซียวหลินเทียน เขาก็รีบวิ่งเข้าไปทันที"ลู่หนาน เจ้ามาแล้ว ดีจริง ๆ!"ทันทีที่หลิงอวี๋เห็นลู่หนานมา ก็รู้สึกราวกับเห็นผู้ช่วยชีวิต จึงเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว "อุ้มนางขึ้นช้า ๆ แล้วรีบตามข้ามา!"ลู่หนานอุ้มหลิงซวนขึ้นมาอย่างระมัดระวังตามคำสั่งของนางเลือดของหลิงซวนทำให้เสื้อคลุมของเขาเป็นสีแดงฉานในทันที เขาขมวดคิ้วอย่างกังวล เช่นนี้ยังจะช่วยได้หรือ?"ไป!"หลิงอวี๋หันกลับมาเห็นว่าไป่ซุ่ยตามมาด้วย เซียวหลินเทียนก็เข็นรถล้อของเขาตามมาด้วยเช่นกัน“ไป่ซุ่ย เจ้าช่วยหาห้องที่สะอาดให้ข้าหน่อยได้หรือไม่? ข้าจะช่วยหลิงซวน!”ไป่ซุ่ยหวาดกลัวจนหน้าซีด แต่นางยังคงเอ่ยอย่างสงบ"มีห้องที่สะอาดในตำหนักเหยียนฝู พวกท่านตามข้ามา!"หลิงอวี๋ไม่มีเวลาคิดว่าเหตุใดเซียวหลินเทียนถึงอยู่ที่นี่ นางโ
“มา ๆ เซียวหลินเทียน ท่านมาทำความรู้จักกับเครื่องมือเหล่านี้สักหน่อย อีกประเดี๋ยวหม่อมฉันจะให้ท่านช่วยส่งอะไรท่านจะได้ส่งให้ได้ทันที!”หลิงอวี๋เข็นเซียวหลินเทียนไปที่หน้าโต๊ะ ชี้เครื่องมือผ่าตัดของนางให้เขารู้จักทีละอันเซียวหลินเทียนขมวดคิ้วจ้องเครื่องมือที่ดูแปลกตาเหล่านี้ เขาไม่เข้าใจว่าหลิงอวี๋พยายามจะทำอะไรแต่ความทรงจำของเขานั้นน่าทึ่งมาก หลิงอวี๋พูดไปครั้งเดียวก็จำทุกอย่างได้เลยเดิมทีเรื่องพวกนี้ให้หลิงซินทำก็ได้ แต่หลิงซินยังเด็กนัก หลิงอวี๋กลัวว่านางเห็นเลือดออกแล้วจะสติแตก จึงให้นางออกไปเฝ้าประตูไว้หลิงอวี๋หยิบแอลกอฮอล์ออกมา ฆ่าเชื้อที่มือของเซียวหลินเทียน แล้วสวมถุงมือปลอดเชื้อให้เขา พลางเอ่ยอย่างอดทน“เมื่อสวมถุงมือแล้ว อย่าสัมผัสสิ่งอื่นใดเป็นอันขาด เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของเชื้อโรค มันจะทำให้แผลของหลิงซวนติดเชื้อได้!”ลู่หนานเห็นเซียวหลินเทียนถูกหลิงอวี๋ควบคุมไว้เช่นนั้น ก็ทั้งอยากรู้ทั้งอยากหัวเราะเขาเคยเห็นเซียวหลินเทียนมีท่าทีซื่อ ๆ เช่นนี้เมื่อใดกัน!"ข้าสามารถทำสิ่งใดได้บ้างขอรับ?"ลู่หนานถามอย่างกระตือรือร้น“ข้าต้องเจาะเลือดจากเจ้าเพิ่มอีก! ประเดี
หลายปีก่อน ที่บ้านเกิดของหลิงซวนเกิดน้ำท่วมหนัก พ่อแม่ของหลิงซวนเสียชีวิตทั้งคู่จากน้ำท่วมครั้งนั้นหลิงซวนโดดเดี่ยวและทำอะไรไม่ถูก ถูกลักพาตัวมาขายจึงได้เข้ามาในวังครอบครัวของขันทีเซี่ยทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว เหลือเพียงหลานสาวคนนี้เท่านั้น!ก่อนหน้านี้ขันทีเซี่ยวางแผนจะรอจนกว่าหลิงซวนอายุครบสิบแปดปี แล้วจะขอให้นางออกจากวังไปแต่งงาน เพื่อที่เขาจะได้สืบทอดสายเลือดของตระกูลเซี่ยต่อไป!ขันทีเซี่ยจัดให้หลิงซวนทำงานทั่วไป เพราะเขาไม่อยากให้นางต้องถูกนางสนมทำให้ลำบาก!ใครจะคิดว่าเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งปีเท่านั้น หลิงซวนก็จะได้ออกจากวังแล้ว แต่กลับกลายเป็นเช่นนี้!ขันทีเซี่ยกำมือแน่น หายใจเข้าลึก ๆหลิงซวนกำลังจะตาย ตระกูลเซี่ยจะไม่มีความหวังแล้ว!เขาเป็นคนโปรดต่อหน้าจักรพรรดิอู่อัน แต่เขาไม่มีแม้แต่ความสามารถในการปกป้องหลานสาวของตนด้วยซ้ำ!หากเขาตายไป เขาจะมีหน้าอะไรไปพบพ่อแม่พี่น้องของเขาในโลกหลังความตายเล่า!ความโกรธของขันทีเซี่ยปะทุขึ้น!แม้ว่าเขาจะเป็นทาสที่ต่ำต้อยที่สุด แต่เขาไม่ใช่ทาสที่ใคร ๆ ก็มารังแกได้!หากทำให้เขากระวนกระวายใจ เขาจะทำให้คนเหล่านั้นรู้ว่าคนเราเกิดมาต่างก็มี
ลู่หนานมองที่ถุงเลือด เลือดของเขาไหลลงมาตามท่อเข้าสู่ร่างกายของหลิงซวนทีละหยด!สิ่งนี่้ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ!เขาช่วยชีวิตหลิงซวน เลือดของเขาไหลเวียนอยู่ในร่างกายของนาง...นี่มันก็หมายความว่านอกจากญาติสนิทของเขาแล้ว นางก็ยังถือเป็นญาติของเขาด้วยเช่นกันไม่ใช่หรือ!"พระชายา..."“หลิงอวี๋!”ลู่หนานกับเซียวหลินเทียนเอ่ยปากพูดพร้อมกันลู่หนานเห็นว่าเซียวหลินเทียนมีเรื่องจะพูด จึงทำได้เพียงอดทนไว้ก่อน“พวกเจ้าจะพูดสิ่งใด?” หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างแปลกใจเซียวหลินเทียนไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่น แต่เมื่อเห็นหลิงอวี๋ช่วยรักษานางกำนัลในวังอย่างใส่ใจในวันนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากเตือนนาง“เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า หลิงซวนไปทำให้จ่างหนิงขุ่นเคือง!”“แม้ว่านางจะรอดพ้นจากความตายมาได้! แต่ขอเพียงนางอยู่ในวังเพียงหนึ่งวัน สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็จะเกิดขึ้นอีก!”หลิงอวี๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อครู่นางยุ่งอยู่กับการช่วยชีวิตไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย!ตอนนี้ได้รับการเตือนจากเซียวหลินเทียนจึงนึกเรื่องนี้ขึ้นมาสิ่งนี้มันเป็นปัญหาจริง ๆ!หลิงอวี๋มองหลิงซวนที่ยังคงหลับอยู่ แล้วเริ่มครุ
จู่ ๆ เรือนบุหงาก็มีหลิงซวนเพิ่มเข้ามา เรื่องการขยายเรือนจึงถูกบีบว่าต้องทำทันทีเมื่อหลี่ต้าหนิวพาคนมาในวันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ก็คิดแล้วตรงไปหาเซียวหลินเทียน คิดว่าจะย้ายคนในเรือนบุหงาไปเรือนที่ว่างอยู่ก่อน รอให้การก่อสร้างเสร็จแล้วแล้วค่อยย้ายพวกเขากลับมาทันทีที่จ้าวซวนเห็นหลิงอวี๋มา เขาก็พาเข้าไปในห้องตำราด้วยรอยยิ้ม พลางเอ่ยอย่างกระตือรือร้น "ท่านอ๋องอยู่ขอรับ เชิญพระชายาขอรับ!"หลิงอวี๋ก็ไม่เกรงใจ พอเดินเข้าไปเห็นเซียวหลินเทียนนั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ นางก็บอกความตั้งใจของนางไปตรง ๆทันทีที่เซียวหลินเทียนได้ยินก็เอ่ยออกมา "เรือนบุหงาไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยจริง ๆ! ตำหนักนี้มีเรือนว่างอยู่มากมาย เจ้าชอบเรือนไหนก็ย้ายไปอยู่ได้เลย! ไม่ต้องย้ายกลับมาอีกหรอก!"หลิงอวี๋ส่ายหน้าพลางเอ่ย "หม่อมฉันชอบเรือนบุหงามาก ปรับปรุงใหม่เสียหน่อยก็จะเป็นเรือนใหม่แล้ว! หม่อมฉันเป็นคนที่เชิญทุกคนมาอยู่ หากท่านไม่ว่าอะไรหม่อมฉันจะเลือกเรือนหอมหมื่นลี้อยู่ใกล้กับเรือนบุหงามากที่สุดแล้วกัน!"“ข้าไม่ว่าอะไรหรอก!” เซียวหลินเทียนพยักหน้าหลิงอวี๋หันหลังจากไปอย่างมีความสุข“หลิงอวี๋… ข้ายังมีเรื่องจะพูด
หลังจากนวดไปสักพัก หลิงอวี๋ก็แทงเข็มเงินที่ตัวเซียวหลินเทียน เข็มเงินหลายเล่มถูกแทงเข้าไปในจุดฝังเข็มบนน่องของเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนรู้สึกเพียงว่า ขาของเขาร้อนผ่าว เขาเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ "ข้ารู้สึกได้! มันร้อนผ่าว!"หลิงอวี๋พยักหน้า แทงเข็มไปที่ขาทั้งสองข้างของเขาอีกรอบ จากนั้นก็เก็บเข็มเงินออกไปพลางเอ่ย“หม่อมฉันจะเปลี่ยนตำรับโอสถให้ท่านใหม่! ท่านกินยาไปสามวัน แล้วหม่อมฉันจะฝังเข็มให้ท่านอีก!”"หม่อมฉันไม่อาจสัญญากับท่านได้ว่าจะใช้เวลารักษาท่านนานแค่ไหนถึงจะหายดี!"“หม่อมฉันคิดว่า จากสถานการณ์ในวันนี้ ใช้เวลาหนึ่งเดือนกว่าน่าจะลุกขึ้นเดินได้แล้วกระมัง! หากฟื้นตัวดีก็จะใช้เวลาไม่ถึงเดือน!”หนึ่งเดือนกว่า?ในตอนแรกเซียวหลินเทียนคิดว่า มันจะใช้เวลานานมาก แต่เมื่อเขาได้ยินว่าใช้เวลาหนึ่งเดือนกว่า ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจหนึ่งเดือนกว่า? เขาจะสามารถกลับมาเป็นปกติเหมือนก่อนหน้านี้ได้หรือ?“ขหม่อมฉันขออภัย เส้นประสาทที่ขาของท่านต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะฟื้นตัว หากท่านรอไม่ไหว หม่อมฉันจะพยายามคิดหาวิธีที่จะย่นระยะเวลาให้สั้นลง!”หลิงอวี๋เห็นสีหน้าของเซียวหลินเทียน
บางทีอาจจะเป็นเพราะหลิงอวี๋ช่วยเซียวหลินเทียนไว้อย่างใหญ่หลวงนัก พอเซียวหลินเทียนเห็นว่ามีการก่อสร้างเรือนบุหงา เขาจึงให้จ้าวซวนส่งทหารองครักษ์และบ่าวรับใช้ชายในตำหนักไปช่วยที่เรือนบุหงามีคนช่วยเหลือมากมายถึงเพียงนี้ ภายในวันเดียว หลี่ต้าหนิวจึงได้ประกอบโครงห้องที่สร้างขึ้นใหม่หลายห้องได้เสร็จสิ้นเลยวันรุ่งขึ้นจ้าวซวนก็จ้างช่างมามากหลาย ช่วยกันคนละไม้คนละมือก็วางอิฐเรือนเสร็จเมื่อหลิงอวี๋กลับมาจากโรงเหยียนหลิง นางตกใจก็กับความเร็วของการก่อสร้างเรือนบุหงา เรือนบุหงากว้างขวางขึ้นและเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เหลือเพียงรายละเอียดบางส่วนเท่านั้นนางพาหลิงเยวี่ยเดินไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น ดูว่ายังมีรายละเอียดใดที่จำเป็นต้องเพิ่มอีกหรือไม่สวนดอกไม้ด้านหลังมีขนาดใหญ่มาก เรือนที่สร้างขึ้นใหม่ก็มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของเรือนบุหงาดั้งเดิมตอนที่หลิงอวี๋ออกแบบก่อนหน้านี้ก็ทำห้องน้ำส่วนรวม และห้องนอนหลายห้องก็มีห้องน้ำส่วนตัวด้วยบริเวณตรงกลางสวน นางเหลือพื้นที่ให้หลิงเยวี่ยได้เล่นและออกกำลังกาย ทั้งยังได้ทำชิงช้าให้หลิงเยวี่ยด้วยทางเรือนบุหงามีการทาสีใหม่ หน้าต่างทั้งหมดล้วนเปลี่ยนเป็นกระ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต