แชร์

บทที่ 152

ผู้เขียน: กานเฟย
หลิงอวี๋และกลุ่มคนมาถึงเรือนริมวารี ลานเรือนเซียวหลินเทียนเปี่ยมด้วยคนแล้ว

หลิงอวี๋กวาดตามองพบชิวเหวินซวง พ่อบ้านฟั่นและคนรับใช้ยืนอยู่ใต้ขั้นบันได เฮยจื่อยืนข้างหน้าคนรับใช้

นางไม่อยากยอมรับการมองลงมาของเซียวหลินเทียนเหมือนคนรับใช้พวกนั้น เลยดึงหลิงเยวี่ยขึ้นบันไดยืนอีกด้านของเซียวหลินเทียน

“ดี คนมาครบแล้ว! ตัวข้าจะเริ่มการไต่ถามประเดี๋ยวนี้!”

เซียวหลินเทียนมองเฮยจื่อสีหน้าไร้คลื่นอารมณ์พลางกล่าวเสียงทุ้ม

“เฮยจื่อ เจ้าก่อน ลองเล่าให้ทุกคนสิว่า เจ้าหนีออกตำหนักอ๋องอี้ได้เช่นไร ทั้งยังไปตกอยู่ในน้ำมือผู้ลักพาได้อย่างไร!”

เฮยจื่อลอบมองเซียวหลินเทียนอย่างขลาดกลัวพลางคุกเข่าลงเสียงดังตุ้บ

“ท่านพ่อทูนหัว กระหม่อมรู้ความผิดแล้วว่าไม่ควรคิดไปจากตำหนักอ๋องอี้เพราะความโกรธชั่ววูบ ต่อไปกระหม่อมมิกล้าอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

เซียวหลินเทียนเอ่ยถามเสียงเด็ดขาด “ไยต้องโกรธ? เจ้าเห็นพระชายากับหลิงเยวี่ยที่เรือนวันนั้นหรือ?”

เฮยจื่อตัวสั่นเทิ้ม แอบมองหลิงอวี๋บนบันไดพลางกล่าวใจไม้ไส้ระกํา

“กราบทูลท่านพ่อทูนหัว วันนั้นพระชายาและหลิงเยวี่ยเคยมาเรือนจริง! เป็นกระหม่อมที่ให้เฉี่ยวเหลียนไปเชิญพ่ะย่ะค่ะ!
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 153

    เฉี่ยวเหลียนสมรู้ร่วมคิดกับเฮยจื่อแล้วยืนยันว่าตนด่าเฮยจื่อและมีหลายคนพบเห็นตนเคยไปเรือนของเฮยจื่อจริง ๆตราบใดที่ทั้งสองยืนกรานกล่าวว่าตนข่มเหงเฮยจื่อ นั่นแม้ว่าตนจะไม่ได้ลักพาตัวเขา ชื่อเสียงโหดเหี้ยมนี้นางก็ต้องแบกรับงั้นหรือ?ความคิดของหลิงอวี๋ปั่นป่วนเร็วจี๋ นางควรพิสูจน์ว่าตนมิได้ด่าเฮยจื่อเช่นไรดี?กลอุบายคราก่อนที่ทำให้หลิงหลานกับแม่ครัวพิสูจน์ว่าตัวเองกล่าวเท็จเคยใช้แล้วครั้งหนึ่ง ไม่อาจใช้ได้ผลอีกนางมองเฮยจื่อกับเฉี่ยวเหลียน มุมปากเผยยกยิ้มเร็วพลัน“ท่านอ๋อง พวกเขามั่นใจว่าหม่อมฉันด่าคนเยี่ยงนี้! หากหม่อมฉันพูดว่าไม่เคยด่าเฮยจื่อและไม่มีพยานในเหตุการณ์ เดาว่าจะไม่มีคนเชื่อหม่อมฉันว่าพูดความจริงเพคะ!”“แต่หลิงอวี๋มีวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตน โปรดขออนุญาตท่านอ๋อง หลิงอวี๋ขอถามเฮยจื่อสักสองสามคำถามเพคะ”เซียวหลินเทียนมองนางพลางผงกศีรษะ “ได้ เจ้าถามเถอะ!”หลิงอวี๋หยิบเมล็ดช็อกโกแลตหนึ่งเม็ดออกจากถุงเหรียญที่หลิงซินเย็บให้ตน พลางเดินลงบันไดเฮยจื่อไม่ทันโต้ตอบ หลิงอวี๋พลันบีบกรามล่างเขาพลางยัดเมล็ดช็อกโกแลตเข้าปากเขาเมล็ดช็อกโกแลตละลายในปากรวดเร็ว เฮยจื่อรู้สึกขมและห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 154

    เฮยจื่อผวาจนหน้าซีดไร้เลือด เหงื่อกาฬเต็มดวงหน้าเขาอ้าปากพลางหลับตาฉับไวราวกับคิดว่าตราบใดที่ไม่กล่าว โอสถสัจธรรมไม่อาจตัดสินชี้ขาดตนพูดจริงหรือเท็จได้หลิงอวี๋ดูความจริงเล็ก ๆ นี้ของเฮยจื่อออกพลางหัวเราะนิดหน่อย“เจ้าไม่ตอบก็ไร้ประโยชน์ ยาสัจธรรมนี้มหัศจรรย์ยิ่ง ถ้าเจ้าเงียบเรื่อย ๆ มันจะตัดสินเองคิดว่าเจ้าโกหก!”“เจ้าลองตรวจดูสิว่า ท้องน้อย ๆ เริ่มเจ็บแล้วหรือยัง?”“พระชายา ท่านขู่ขวัญเด็กเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?”พ่อบ้านฟั่นทนไม่ไหวพลางด่าว่า “เดิมทีไม่มีโอสถสัจธรรมอะไรนั่นในใต้หล้านี้ เจ้าอย่าพรางเป็นเทพแสร้งเป็นผีขู่ขวัญคน!”หลิงอวี๋เหลืบมองพ่อบ้านฟั่น ยิ้มตอบ “ไยจะไม่มี! ผู้อื่นทำมิได้ แต่ตัวข้าผู้เป็นพระชายาทำได้!”“พ่อบ้านฟั่นคงลืมสิ้นแล้ว คราก่อนก็เป็นโอสถลับของข้าช่วยชีวิตเฮยจื่อไว้มิใช่รึ?”ทุกคนต่างลอบมองหน้ากัน คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อก็เริ่มสั่นคลอน นึกถึงหมอที่พูดว่าไม่อาจช่วยเฮยจื่อไว้ได้แล้วเมื่อคราก่อน!แต่หลิงอวี๋หยิบยาลับออกมา ช่วยชีวิตเฮยจื่อที่แขวนบนเส้นด้ายได้อย่างเฉียบขาด!บางทีอาจมียาสัจธรรมอยู่จริง!“เฮยจื่อ อย่าโทษว่าข้ามิให้โอกาสเจ้า! เจ้าตอบตอนนี้ อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 155

    “เฉี่ยวเหลียน เฮยจื่อยอมรับเรื่องใส่ร้ายตัวข้าผู้เป็นพระชายาแล้ว! เจ้าว่าอย่างไรเล่า? เจ้ายังยืนหยัดจะแก้ต่างหรือไม่?”หลิงอวี๋มองทางเฉี่ยวเหลียนถากถางหลังของเฉี่ยวเหยียนเปี่ยมเหงื่อกาฬ นางอ้าปากลิ้นเป็นปม(1) ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงโขกหัวคำนับกล่าวคำ“พระชายา บ่าวรู้ความผิดแล้วเจ้าค่ะ! มิควรเล่นละครกับคุณชายเฮยใส่ร้ายพระชายา!”“บ่าวสับสนไปชั่วขณะ! บ่าวมีความผิด! แต่ได้โปรดท่านอ๋องเห็นแก่ที่บ่าวอุทิศหัวใจและวิญญาณเถิดเพคะ อภัยโทษบ่าวครั้งนี้ครั้งเดียวเถิด! ภายหน้าบ่าวจะมิขวัญกล้าทำอีกแล้วเพคะ!”“แค่เรื่องใส่ร้ายน่ะหรือ?”หลิงอวี๋ไม่รอให้เซียวหลินเทียนเอื้อนเอ่ยก็กล่าวยกตนข่มท่านเร็วพลัน“ตัวข้าผู้เป็นพระชายามิได้โง่งม ถ้าเจ้าพูดไม่สมเหตุสมผล ข้าจะยอมให้พวกเจ้าใส่ร้ายตัวเองหาปะไร?”“กล้าล่อตัวข้าผู้เป็นพระชายาไปเรือนพวกเจ้า ทำให้คนสงสัยว่าข้าเฉดหัวเฮยจื่อไป!”“แถมระยะห่างจากเรือนของเฮยจื่อถึงคอกม้ามีความเหมาะเจาะนัก เฮยจื่อหนีไปไม่มีคนพบเห็นอย่างเหนือคาด!”“เจ้าเป็นแค่นางใช้ตัวเล็ก ๆ คนเดียวจะมีความสามารถปิดฟ้าป้องตะวันเลยรึ? เจ้ามีสมองวางอุบายนี้ทั้งหมดเชียวหรือ?”“พูดสิ ผู้ใดบงกา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 156

    หลิงอวี๋พูดเหยียดเสร็จก็หันไปทางชิวเหวินซวง ยิ้มหยันกล่าวว่า“ชิวเหวินซวง เจ้าดูสิ ท่านอ๋องของพวกเจ้าซักถามข้าในฐานะพระชายาได้! ข้าพระชายาอ๋องอี้ผู้สง่าถามเจ้าสองประโยค เจ้าก็พูดว่าข้าทำให้เจ้าลำบากใจ!”“เจ้ามีหนึ่งก็บอกมีหนึ่ง(1)ก็พอแล้ว! แสร้งทำเป็นน้อยใจให้ใครมองรึ?”“ตำหนักอ๋องอี้ของพวกเจ้าคนมากถึงเพียงนี้ ไม่ทำให้ตัวข้าต้องยุ่งยากก็อมิตาพุทธแล้ว ไฉนข้าจะยังกล้าทำเรื่องยากให้พวกเจ้า!”“ตัวข้าได้รับความไม่เป็นธรรม เจ้ามีค่ากว่าข้าหรือไร? ทนความน้อยเนื้อต่ำใจนิดเดียวก็มิได้รึ? ไม่ทันไรก็พูดเรื่องมอบอำนาจดูแลเรือนชั้นใน นี่คือขู่ผู้ใดงั้นรึ?”“คนของตัวข้าข้าเลี้ยงเอง ไม่เคยใช้เงินตำหนักอ๋องอี้พวกเจ้าสักเฟินดียว! ฉะนั้นอำนาจดูแลเรือนชั้นในอะไรนั่นข้าไม่สนใจเช่นกัน เจ้าเก็บไว้เองเถอะ!”“ชิวเหวินซวง ทีหลังอย่าพูดว่าจะไปบ่อย ๆ! การยอมถอยเพื่อชนะใช้ได้หนเดียว! ใช้ถี่ก็ไม่ได้ผลแล้ว!”เหล่าคนรับใช้ได้ฟังคำพูดของหลิงอวี๋พลันมองชิวเหว่นซวงแปลกไปทันที พระชายาอ๋องอี้ยังไม่เคยสอดมือเรื่องดูแลจัดการเรือนชั้นในเลย!การพูดว่าพระชายาอ๋องอี้ต้องการดูแลเรือนชั้นในจึงสร้างความลำบากใจให้นาง นี่มิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 157

    เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ลึกซึ้ง พลางจ้องเฉี่ยวเหลียนใบหน้าเคร่งขรึม“พระชายาพูดถูกต้อง เฉี่ยวเหลียน เจ้าเป็นแค่นางรับใช้ตัวเล็ก ๆ คนเดียว ไม่อาจคิดวิธีใส่ร้ายคนละเอียดรอบคอบเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”“ตัวข้าผู้เป็นอ๋องให้โอกาสเจ้าหนเดียว! จงพูดคนที่บงการเจ้าเสีย… ข้าคิดว่าเจ้ายังเด็กไม่รู้ความ โทษอาจผ่อนปรนได้!”“ไม่เช่นนั้น… เหอะ...”เซียวหลินเทียนส่งเสียง ‘เหอะ’ เย็นชาลู่หนานกำลังวางมือบนด้ามดาบพลางลงมือร่วมข่มขู่กับเซียวหลินเทียน ตะคอกว่า “พูด...”เฉี่ยวเหลียนกลัวจนทั่วร่างสั่นเทิ้ม นางมิกล้ามองคนอีกเลย คลานกับพื้นพลางกล่าวทั้งน้ำตา“ท่านอ๋องได้โปรดไว้ชีวิต! ไม่… ไม่มีคนบงการบ่าวเพคะ ล้วนเป็นผีหลงสติปัญญา(1)ของบ่าวทั้งสิ้นที่คิดถึงความโหดร้ายของพระชายาที่ทำร้ายทุบตีเฉี่ยวชุนเพคะ!”“บ่าวเป็นห่วงคุณชายเฮยจื่อจะถูกพระชายารังแกภายภาคหน้า บ่าวทนมิได้จึงยุยงเฮยจื่อหนีไปเพคะ!”“บ่าวคิดไม่ถึงว่าคุณชายเฮยจื่อจะถูกคนลักพาตัวไปจริง ๆ! หากบ่าวรู้ บ่าวจะไม่ปล่อยเฮยจื่อจากไปเป็นแน่เพคะ!”จนถึงตอนนี้เซียวหลินเทียนพบว่า เฉี่ยวเหลียนยังไม่ยอมจำนน พลางขมวดคิ้วอย่างเดียดฉันท์เขาเอ่ยเสียงเย้ยหยั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 158

    ครั้นเฉี่ยวเหลียนเอ่ยจบ พลางมองเซียวหลินเทียนทั้งน้ำตาอย่างคาดหวังเซียวหลินเทียนพยักหน้าเล็กน้อย พ่อบ้านฟั่นแอบถอนหายใจ ท่านอ๋องเชื่อคำแก้ตัวนี้ของเฉี่ยวเหลียนหรือไม่?นิ้วชี้เซียวหลินเทียนกำลังเคาะเบา ๆ ที่แขนเก้าอี้ล้อ พลางเกิดเสียง ‘ก๊อกก๊อก’ แผ่วเบาเสียงเคาะคลื่นนี้ไม่ได้ดัง แต่กลับทำให้ทุกคนต่างไม่กล้าส่งเสียงหลิงอวี๋กำลังมองดูด้วยนัยน์ตาเยือกเย็น พลันเห็นเซียวหลินเทียนเลิกปกป้องพ่อบ้านฟั่นกับชิวเหวินซวงทันใดยังคงไต่สวนต่อ!คำแก้ตัวรอบนี้ของเฉี่ยวเหลียนมีช่องโหว่เต็มไปหมด นางไม่เชื่อว่าเซียวหลินเทียนจะดูไม่ออก“เฉี่ยวเหลียน เจ้ายังมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่?”ในที่สุดเซียวหลินเทียนก็เปิดปากกล่าวเฉี่ยวเหลียนปาดน้ำตาพลางส่ายศีรษะตะลีตะลาน “บ่าวไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้ว! บ่าวพูดความจริงทั้งหมดแล้วเพคะ!”“ความจริง?”เซียวหลินเทียนเผยริมฝีปากหัวเราะเย้ยหยัน เสียงไม่ดังไม่เบา“เฉี่ยวเหลียน ตัวข้าผู้เป็นอ๋องพูดไปเมื่อครู่ ขอแค่เจ้าสารภาพตามตรง ข้าอาจผ่อนปรนโทษให้เจ้าได้!”“แต่เหมือนว่า… เจ้าไม่ได้ใส่ใจคำพูดของตัวข้า!”เซียวหลินเทียนน้ำเสียงผกผันพลางกล่าวเฉียบขาดว่า“ทุกคนคิด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 159

    “หลิงซิน เจ้ามือเท้าง่อย เจ้าอย่าชั่วช้าโจมตีใส่ร้ายคน! ข้ามิเคยทำเรื่องประเภทนั้นกับเจ้า!”พ่อบ้านฟั่นตะโกนลนลานว่า “เจ้าแค้นข้าที่ไม่ย้ายเจ้าออกเรือนพระชายาเป็นแน่จึงใส่ไคล้ข้า!”“ท่านอ๋อง เมื่อก่อนหลิงซินเคยมาหาข้า พูดว่าไม่อยากทุกข์ยากติดตามพระชายา ขอให้กระหม่อมผลัดนางไปที่อื่น กระหม่อมไม่รับปาก! เพราะเรื่องนี้นางจึงใส่ไคล้กระหม่อมแน่เลยพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงซินส่งเสียง ‘ถุย’ พลางด่า “ถ่างตาพูดส่งเดช(1)คือเจ้าเถอะ! คุณหนูข้าดีต่อข้าขนาดนี้! ไยข้าต้องผลัดไปที่อื่น!”พ่อบ้านฟั่นชี้หลิงหลานพลางเรียก “พระชายามิจ่ายเงินเดือนให้พวกเจ้าหลายเดือนแล้ว หลิงหลานยืนยันได้! พระชายาปล่อยให้พวกเจ้ากินไม่อิ่มจะดีต่อพวกเจ้าได้เช่นไร?”หลิงซินมองหลิงหลานเยาะเย้ยพลางยิ้มตอบ “หลิงหลานพูดคือเรื่องเมื่อก่อน คุณหนูของเราเคยเป็นหนี้เงินเดือนเราจริง!”“แต่ไม่กี่วันก่อนคุณหนูชดเชยเงินเดือนให้พวกเราครบแล้ว! ทั้งหมดห้าร้อยตำลึงเงิน!”ห้าร้อยตำลึง? ข้ารับใช้เหล่านั้นเบิกตากว้างตกตะลึง จะเป็นไปได้อย่างไร!เพื่อจะให้เกียรติหลิงอวี๋ หลิงซินก็พิสูจน์คำพูดของตนพลางกล่าวภาคภูมิใจ“จะเชื่อหรือไม่ นี่ไงเล่า ตั๋วเงิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 160

    “เงียบ!”เมื่อดูนางรับใช้เหล่านั้นพูดเหมือน ๆ กันแล้ว จ้าวซวนยกมือกล่าวคำ “ขอให้ท่านอ๋องโปรดไต่สวนต่อพ่ะย่ะค่ะ!”คนรับใช้เหล่านั้นต่างเงียบ มองเซียวหลินเทียนอย่างคาดหวังสีหน้าเซียวหลินเทียนดำทะมึน เมื่อครู่เขากำลังพิจารณาตัวเอง ตำหนักแห่งนี้เกิดเรื่องขึ้นมากเพียงนี้ คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย!นี่ท่านอ๋องอี้ผู้นี้หัวทึบแค่ไหนกันแน่?เขาไม่มีหน้าโยนความผิดให้พ่อบ้านฟั่น การถูกหลอกคือความอัปยศของเขา! และเป็นความโง่เขลาของเขาเช่นกัน!เซียวหลินเทียนหลับตาลง พลางลืมตาอีกครั้งก็ตัดสินใจแล้วความผิดเกิดขึ้นแล้ว ภายหน้าเขาจะใช้เรื่องนี้เตือนสติตัวเองเสมอแล้วกัน ความผิดแบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต!“พ่อบ้านฟั่น เจ้ามีอะไรจะพูดอีกหรือไม่?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามเสียงเย็นชา“กระ… กระหม่อม...”พ่อบ้านฟั่นพูดอึกอัก ในที่สุดก็หักใจคุกเข่ากับพื้นอย่างแน่วแน่“เป็นกระหม่อมโง่เขลาแล้ว! ละทิ้งความไว้วางใจของท่านอ๋อง! สมควรประหารกระหม่อมหมื่นครั้ง!”“เจ้ายอมรับความของนางรับใช้เหล่านี้หรือไม่?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามพ่อบ้านฟั่นก้มหน้าพลางกล่าวสำนึกเสียใจ “กระหม่อมมิใช่คน เป็นเดรั

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1886

    “ฮูหยินเว่ย ข้าเป็นหมอ ข้ารู้ว่าการตั้งใจทำร้ายผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่มิควรมี แต่ข้าก็ยิ่งรู้เช่นกันว่าการระวังผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่มิควรขาด!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “ข้าเองก็ได้ยินเรื่องของฮูหยินเว่ยกับแม่ทัพเว่ยมาบ้าง ข้ากังวลว่าเว่ยเผิงและท่านจะใจดีมากเกินไป จนมิรู้ว่าจิตใจคนนั้นอันตราย หากไปที่จวนแม่ทัพแล้วพวกท่านอาจจะถูกวางแผนทำร้าย ข้าจึงสอนให้เว่ยเผิงรู้เรื่องยาพิษไว้ล่วงหน้า เป็นการป้องกันไว้!”ฮูหยินเว่ยหน้าซีดเผือด นางมองหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คนภายนอกเอ่ยถึงพวกเราว่าอย่างไรบ้าง?”หลิงอวี๋มิรู้ว่าฮูหยินเว่ยมิรู้จริง ๆ ว่าแม่ทัพเว่ยแต่งงานใหม่แล้ว หรือว่านางแกล้งทำเป็นมิรู้แต่สิ่งนี้คือเนื้อร้าย หากมิตัดเรื่องการหลอกตัวเองและผู้อื่นออกไป ก็รังแต่จะทำให้เรื่องราวยิ่งแย่หลิงอวี๋จึงบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้รอบรู้เล่าให้ตนฟังออกไปอย่างมิลังเลฮูหยินเว่ยตัวสั่นไปหมด สีหน้าของนางดูแย่ยิ่ง นางก็กลั้นน้ำตาไว้มิอยู่แล้ว จึงปล่อยให้ไหลลงมาบนใบหน้าอย่างเงียบ ๆ“ข้าคาดเดาไว้แล้ว… ข้าเดาไว้แล้วว่าเขาคงแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว!”“แต่ข้า… ข้าคิดว่าถึงเขาจะไร้คว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1885

    เว่ยเผิงเป็นคนฉลาดมาก เขาวางหมากไปพลางคุยกับหลิงอวี๋ไปด้วยคงจะไม่มีใครคุยเป็นเพื่อนเขาจริง ๆ จัง ๆ มานานแล้ว ภายใต้ท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่นั้น เว่ยเผิงเผยให้เห็นความไร้เดียงสาของเด็กออกมาด้วย แล้วเขาก็เผลอเล่าเรื่องครอบครัวของตนให้หลิงอวี๋ฟังโดยมิตั้งใจหลิงอวี๋จึงได้รู้ว่า เมื่อตอนที่เว่ยเผิงอายุเพียงสองขวบ แม่ทัพเว่ยก็ทิ้งพวกเขาแม่ลูกไปรับการเลื่อนตำแหน่งที่เมืองหลวงแดนเทพแล้วหลังจากที่แม่ทัพเว่ยไปแล้ว ก็มิรู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือไม่ แต่ข้าหลวงในท้องถิ่นได้ขับไล่ฮูหยินเว่ยและลูกชายของนางออกจากจวนแม่ทัพ โดยที่อ้างว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ฮูหยินเว่ยจึงใช้สินสอดซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ และหาเงินเลี้ยงดูเว่ยเผิงมาด้วยตนเองหลายปีมานี้ แม่ทัพเว่ยทำราวกับว่าฮูหยินเว่ยตายไปแล้ว เขามิเคยส่งจดหมายกลับมา และมิได้ให้ค่าสนับสนุนเลี้ยงดูด้วยบิดาของฮูหยินเว่ยตายไปนานแล้ว มารดาของนางก็ตายไปเมื่อสองปีก่อน และพวกเขาก็ทิ้งเสิ่นผิงผิงน้องสาวที่อายุน้อยกว่านางมิกี่ปีไว้ให้ฮูหยินเว่ยดูแลหลายปีมานี้เสิ่นผิงผิงอาศัยอยู่กับฮูหยินเว่ยและลูกชาย แม้ว่านางจะเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กสาวผู้นี้ก็อาศั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1884

    หลิงอวี๋ชื่นชมในความเด็ดขาดของฮูหยินเว่ยมาก คนที่มีความเด็ดขาดเช่นนี้ จะคิดสั้นปลิดชีพตนเพียงเพราะตาบอดได้อย่างไร หรือว่าลูกหาบผู้นั้นตีความหมายผิด แล้วจึงเข้าใจฮูหยินเว่ยผิดไป?เรือเทียบท่าได้ครึ่งวันก็ต้องออกเดินทาง หลิงอวี๋จึงรีบเขียนเครื่องยาสมุนไพรที่จำเป็นแล้วให้เฉี่ยวอวี้ส่งคนไปซื้อมาเฉี่ยวอวี้จัดให้หลิงอวี๋และผู้รอบรู้อยู่ที่ท้ายเรือตามคำสั่งของฮูหยินเว่ย เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่ามีห้องเหลืออยู่สองห้อง นางจึงรีบบอกว่าตนกลัวว่าเวลานอนแล้วจะเสียงดัง จึงขอแยกห้องนอนกันเฉี่ยวอวี้คิดว่าห้องนั้นว่างอยู่แล้ว นางจึงยอมกระทั่งเฉี่ยวอวี้ออกไป ผู้รอบรู้ก็ขยับไปตรงหน้าหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามออกไป “น้องอวี๋ เจ้าแน่ใจจริง ๆ หรือว่าสามารถรักษาโรคตาของฮูหยินเว่ยได้ เจ้าอย่าได้โกหกเชียว มิเช่นนั้นพวกเราได้ถูกโยนลงแม่น้ำไปเป็นอาหารปลากลางทางแน่!”“จริงสิ!”หลิงอวี๋เอ่ยปลอบใจเขา “ท่านวางใจเถิด ข้าไม่มีวรยุทธ์ แต่ข้ามีทักษะการแพทย์!”“อ้าว เหตุใดเจ้ามิรีบบอกเล่า หากเจ้าบอกข้าเร็วกว่านี้ ข้าคงพาเจ้าไปรักษาดวงตาของผู้ดูแลหลัวแล้ว หากเจ้ารักษาเขาได้ พวกเราต้องได้รับรางวัลก้อนใหญ่เป็นแน่!”ผู้ดูแลหล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1883

    ทันทีที่หลิงอวี๋เห็นก็เกิดความเห็นอกเห็นใจฮูหยินเว่ยขึ้นมา มีลูกที่โตถึงเพียงนี้ หากมิใช่เพราะสถานการณ์บีบบังคับ เหตุใดนางต้องยอมส่งลูกชายไปเล่า!“หมออวี๋ ข้ารู้สึกเป็นเกียรตินัก!”ฮูหยินเว่ยยังมองเห็นอยู่ เพียงแต่ภาพตรงหน้าพร่ามัวมาก นางจะเห็นเป็นร่างคนเพียงราง ๆ เท่านั้นเว่ยเผิงลูกชายของนางประคองนางให้หยุด นางก็รู้ทันทีว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือหมอที่มารักษาโรคตาให้ตน นางจึงทักทายออกไปอย่างสุภาพเมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเฉี่ยวอวี้เดินตามมาเช่นกัน จึงเอ่ยออกไป “นำอ่างน้ำมาให้ข้าล้างมือก่อน!”แม้ว่าฮูหยินเว่ยจะมองเห็นใบหน้าของหลิงอวี๋มิชัดเจน แต่เมื่อได้ยินเสียงอ่อนเยาว์ สดใสและไพเราะเช่นนั้น นางก็รู้สึกมีความหวังเล็กน้อยกับหมอที่อ่อนเยาว์ผู้นี้เฉี่ยวอวี้รีบให้นางรับใช้ไปนำอ่างน้ำมาอย่างรวดเร็ว แล้วหลิงอวี๋ก็ให้นางรับใช้ย้ายเก้าอี้หนึ่งตัวมาให้ฮูหยินเว่ยนั่งลงหลิงอวี๋ทำการตรวจดวงตาให้ฮูหยินเว่ยก่อน และพบว่าแก้วตาของฮูหยินเว่ยบวมเล็กน้อย บางส่วนมีความขุ่น บางส่วนมีความใส ซึ่งเป็นอาการระยะแรกของต้อกระจกหลิงอวี๋จึงจับชีพจรของฮูหยินเว่ยอีกครั้ง แล้วสุดท้ายก็เข้าใจ“ฮูหยินเว่ย โรคตาของท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1882

    ในขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดเช่นนี้ ในหัวก็ปรากฏวิธีการรักษาเกี่ยวกับโรคตาหลากหลายวิธีขึ้นมานางมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นทันที จึงก้าวไปเรียกเขา “พี่ชาย ข้ามีทักษะการแพทย์อยู่บ้าง มิทราบว่าโรคตาของฮูหยินเว่ยที่เจ้าพูดถึงมีอาการอย่างไรหรือ บางทีข้าอาจจะช่วยรักษาโรคนี้ให้นางได้!”ลูกหาบผู้นั้นมองหลิงอวี๋ และเห็นว่านางสวมอาภรณ์ธรรมดา ๆ เขาจึงส่ายหัวแล้วเอ่ยออกมา “หากเจ้ามีทักษะการแพทย์เพียงเล็กน้อยก็ช่างเถิด โรคตาของฮูหยินเว่ยนั้นมิได้รักษาง่ายถึงเพียงนั้น นางหาหมอมาหลายคนแต่ก็ล้วนจนปัญญาที่จะรักษาทั้งสิ้น เจ้าอย่าไปให้เสียเวลาเลย!”หลิงอวี๋จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างดื้อรั้น “หากมิลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าทำมิได้! พี่ชาย เจ้าพาข้าไปเถิด หากข้ารักษาฮูหยินเว่ยได้ เจ้าเองก็จะได้รางวัลเช่นกัน!”ลูกหาบนึกถึงเงินสิบตำลึงที่ฮูหยินเว่ยมอบให้ตน แล้วก็คิดว่าคนจิตใจดีถึงเพียงนั้นมิควรตาบอดไปเช่นนี้เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วเอ่ยออกไป “ได้ ข้าจะพาเจ้าไป!”ผู้รอบรู้รีบตามไปอย่างรวดเร็ว เขาเองก็ได้ยินบทสนทนาของพวกลูกหาบเช่นกันหากน้องชายที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ผู้นี้สามารถรักษาโรคตาของฮูหยินเว่ยได้จริง ๆ เช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1881

    หลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นขึ้นมา ผู้รอบรู้ผู้นี้เป็นคนมีความสามารถในการสืบข่าว บางทีตลอดการเดินทางร่วมกันนี้อาจจะช่วยดูแลกันและกันได้“พี่ชาย ท่านก็จะไปเมืองหลวงแดนเทพเช่นกันหรือ!”หลิงอวี๋เป็นฝ่ายก้าวเข้าไปทักทายเขาก่อน “เมื่อคืนข้าได้ยินท่านเล่าเรื่องที่โรงเตี๊ยม ข้าชื่นชมในการเรียนรู้ของพี่ชายยิ่งนัก!”หลิงอวี๋มิกล้าใช้ชื่อเจียงอวี๋อีกต่อไปแล้ว เฉียวไป๋รู้จักชื่อนี้ และนางต้องป้องกันเบาะแสต่าง ๆ ที่จะเปิดเผยตัวตนเอาไว้ก่อนเมื่อคืนผู้รอบรู้ดื่มหนักมาก จนมิรู้ว่ามีใครบ้างที่อยู่ในโรงเตี๊ยม เมื่อเห็นว่าคุณชายผู้นี้รู้จักตน ก็คิดว่าเขารู้จักตนที่โรงเตี๊ยมจริง ๆ จึงยิ้มและพยักหน้าให้ผู้รอบรู้อายุราว ๆ ยี่สิบปี หน้าตาหล่อเหลา แต่สวมอาภรณ์ค่อนข้างเรียบง่าย เห็นได้ว่าเขาขัดสนเงิน“เรือใหญ่ที่จะไปเมืองหลวงแดนเทพเหล่านั้น โดยปกติแล้วล้วนเป็นเรือที่ตระกูลร่ำรวยเช่าเอาไว้ มิอนุญาตให้พวกเราโดยสารไปด้วย!”ผู้รอบรู้เอ่ยออกมาอย่างท้อแท้ “เรือขนส่งสินค้าก็มีการป้องกันเข้มงวดมาก หากไม่มีคนคุ้นเคยที่แนะนำให้ก็มิอนุญาตให้พวกเราโดยสารเช่นกัน!”หลิงอวี๋หามานานแล้วก็เป็นอย่างที่ผู้รอบรู้พูดจริ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1880

    หลิงอวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดหากตนสังหารเฉียวเค่อไปจริง ๆ เช่นนั้นตนก็คือศัตรูของตระกูลเฉียวส่วนเฉียวไป๋นั้น ตนจับพลัดจับผลูช่วยเหลือเอาไว้ และตอนนั้นตนก็แปลงโฉมไปแล้ว ดังนั้นเฉียวไป๋จึงมิรู้ว่าตนก็คือหลิงอวี๋!หากเขารู้ เฉียวไป๋จะปล่อยตนไปหรือ?ตนไปสร้างเรื่องกับตระกูลที่มีอำนาจเช่นนี้ จนทำให้เกิดเงินรางวัลจำนวนมหาศาล และคนจากทุกเส้นทางต่างก็กำลังตามหาตนเพื่อเงินรางวัลเช่นนั้นการไปเมืองหลวงแดนเทพครั้งนี้จะต้องระวังให้มากขึ้นแล้ว!หลิงอวี๋คิดฟุ้งซ่านอยู่นานเท่าใดก็มิรู้ กระทั่งนางเรียกสติกลับคืนมา นางก็พบว่าคนในโถงรับแขกออกไปกันจำนวนมากแล้วส่วนผู้รอบรู้ผู้นั้นยังคงดื่มสุราอยู่ผู้เดียว ดูท่าทางเศร้าหมองยิ่งนักหลิงอวี๋ครุ่นคิด แล้วเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเขา“พี่ชาย ข้ากำลังวางแผนไปตามหาญาติที่เมืองหลวงแดนเทพ เห็นว่าท่านรู้เรื่องเมืองหลวงแดนเทพอยู่มาก ข้าขอถามอะไรท่านสักหน่อยได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ให้เสี่ยวเอ้อร์นำสุราดีและอาหารเนื้อ ๆ มาให้อีกสองสามอย่าง ผู้รอบรู้ดื่มจนมึนเล็กน้อยแล้ว เมื่อเขาได้ยินว่ามีสุราและอาหารดี ๆ มาอีก เขาก็เหลือบมองหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามออกไป “เจ้าอยากรู้เร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1879

    หลิงอวี๋กลับมาถึงที่โรงเตี๊ยมก็เห็นว่าวันนี้โรงเตี๊ยมคลาคล่ำไปด้วยผู้คน คนทุกประเภทล้วนอยู่ที่นี่หลิงอวี๋สั่งอาหารสองสามอย่างกับเสี่ยวเอ้อร์ และให้เขานำอาหารไปส่งที่ห้องของตน และขณะที่นางกำลังจะกลับห้อง ในตอนที่เดินผ่านโถงรับแขกนั้น นางก็ได้ยินชื่อที่คุ้นเคย… หลิงอวี๋!หลิงอวี๋ตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่มิได้รีบหันกลับไป คราวที่แล้วเป็นเพราะนางได้ยินชื่อนี้แล้วหันกลับไป นางจึงถูกแม่ทัพผู้นั้นเผยเพ่งเล็ง ทั้งยังทำให้ป้าวเฉิงเกิดความสงสัยอีกด้วยหลิงอวี๋ หรือว่านี่คือชื่อจริงของตน?ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ก็สงสัยอยู่ และในใจของนางก็คิดว่าตนคือหลิงอวี๋ไปแล้วเช่นกันดังนั้นเมื่อได้ยินชื่อนี้ นางจึงเดินไปสองสามก้าวก่อนจะหยุดจากนั้นก็ได้ยินว่ามีคนเอ่ยขึ้นมา “ตอนนี้ตระกูลเฉียวเสนอรางวัลก้อนโตเป็นการนำจับสตรีชื่อหลิงอวี๋ รางวัลนั้นเป็นเงินจำนวนห้าล้าน! หากสามารถจับหลิงอวี๋ได้ พวกเราก็จะมีเงินกันเป็นกอบเป็นกำแล้ว!”ที่แท้ก็มิได้เรียกตน แค่เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาในการสนทนาก็เท่านั้นหลิงอวี๋ใจเต้นรัว แล้วหันกลับไปเอ่ยกับเสี่ยวเอ้อร์ “หากอาหารของข้าเสร็จแล้วก็ยกมาที่นี่แล้วกัน ข้าจะกินที่โถงรับแขก!”“ขอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1878

    หลิงอวี๋ยังคงซ่อนตัวอยู่ในน้ำลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงคงถูกพิษของหลิงอวี๋จนตาบอดไปแล้ว ดังนั้นเก๋อฮุ่ยหนิงจะยิ่งไม่มีทางปล่อยตนไปแต่เก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานนัก ข้าหลวงเก๋อต้องรีบกลับไปรับตำแหน่งที่เมืองหลวงแดนเทพ จะเดินทางล่าช้าไปเพราะมาตามหาตนมิได้ขอเพียงตนซ่อนตัวอยู่จนถึงตอนค่ำ ก็จะขึ้นฝั่งโดยที่รอดพ้นจากสายตาของทุกคนได้ แล้ววันพรุ่งค่อยไปตามหาป้าวซวนเก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานดังเช่นที่หลิงอวี๋บอกไว้จริง ๆ นางพาลุงของนางไปหาหมอ แต่หมอทั่วไปที่ท่าเรือเหล่านี้ก็ไม่มีใครสามารถรักษาดวงตาของท่านลุงให้หายดีได้ลูกพี่ลูกน้องคนโตได้ยินข่าวก็รีบมาทันที เขาทั้งโกรธทั้งเคืองเก๋อฮุ่ยหนิง แต่ติดที่อำนาจของตระกูลเก๋อ ทำให้เขามิกล้าบ่นมากเกินไป“พี่ใหญ่ เป็นข้าเองที่ทำให้ท่านลุงลำบาก แต่ผู้ร้ายคือหมอเจียง ข้าจะให้ภาพเหมือนของนางกับพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ต้องสังหารนางล้างแค้นให้ท่านลุงให้จงได้นะ!”เก๋อฮุ่ยหนิงรีบวาดรูปหลิงอวี๋มอบให้ลูกพี่ลูกน้องคนโตของนาง และสุดท้ายนางก็มอบเงินส่วนตัวทั้งหมดให้กับลูกพี่ลูกน้องคนโตไป เพื่อให้เขาไปหาหมอที่มีชื่อเสียงมารักษาดวงตาของท่านลุงหล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status