Share

บทที่ 154

Author: กานเฟย
เฮยจื่อผวาจนหน้าซีดไร้เลือด เหงื่อกาฬเต็มดวงหน้า

เขาอ้าปากพลางหลับตาฉับไว

ราวกับคิดว่าตราบใดที่ไม่กล่าว โอสถสัจธรรมไม่อาจตัดสินชี้ขาดตนพูดจริงหรือเท็จได้

หลิงอวี๋ดูความจริงเล็ก ๆ นี้ของเฮยจื่อออกพลางหัวเราะนิดหน่อย

“เจ้าไม่ตอบก็ไร้ประโยชน์ ยาสัจธรรมนี้มหัศจรรย์ยิ่ง ถ้าเจ้าเงียบเรื่อย ๆ มันจะตัดสินเองคิดว่าเจ้าโกหก!”

“เจ้าลองตรวจดูสิว่า ท้องน้อย ๆ เริ่มเจ็บแล้วหรือยัง?”

“พระชายา ท่านขู่ขวัญเด็กเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?”

พ่อบ้านฟั่นทนไม่ไหวพลางด่าว่า “เดิมทีไม่มีโอสถสัจธรรมอะไรนั่นในใต้หล้านี้ เจ้าอย่าพรางเป็นเทพแสร้งเป็นผีขู่ขวัญคน!”

หลิงอวี๋เหลืบมองพ่อบ้านฟั่น ยิ้มตอบ “ไยจะไม่มี! ผู้อื่นทำมิได้ แต่ตัวข้าผู้เป็นพระชายาทำได้!”

“พ่อบ้านฟั่นคงลืมสิ้นแล้ว คราก่อนก็เป็นโอสถลับของข้าช่วยชีวิตเฮยจื่อไว้มิใช่รึ?”

ทุกคนต่างลอบมองหน้ากัน คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อก็เริ่มสั่นคลอน นึกถึงหมอที่พูดว่าไม่อาจช่วยเฮยจื่อไว้ได้แล้วเมื่อคราก่อน!

แต่หลิงอวี๋หยิบยาลับออกมา ช่วยชีวิตเฮยจื่อที่แขวนบนเส้นด้ายได้อย่างเฉียบขาด!

บางทีอาจมียาสัจธรรมอยู่จริง!

“เฮยจื่อ อย่าโทษว่าข้ามิให้โอกาสเจ้า! เจ้าตอบตอนนี้ อ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Metta Meepaitoon
แสนจะยืดยาด
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 155

    “เฉี่ยวเหลียน เฮยจื่อยอมรับเรื่องใส่ร้ายตัวข้าผู้เป็นพระชายาแล้ว! เจ้าว่าอย่างไรเล่า? เจ้ายังยืนหยัดจะแก้ต่างหรือไม่?”หลิงอวี๋มองทางเฉี่ยวเหลียนถากถางหลังของเฉี่ยวเหยียนเปี่ยมเหงื่อกาฬ นางอ้าปากลิ้นเป็นปม(1) ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงโขกหัวคำนับกล่าวคำ“พระชายา บ่าวรู้ความผิดแล้วเจ้าค่ะ! มิควรเล่นละครกับคุณชายเฮยใส่ร้ายพระชายา!”“บ่าวสับสนไปชั่วขณะ! บ่าวมีความผิด! แต่ได้โปรดท่านอ๋องเห็นแก่ที่บ่าวอุทิศหัวใจและวิญญาณเถิดเพคะ อภัยโทษบ่าวครั้งนี้ครั้งเดียวเถิด! ภายหน้าบ่าวจะมิขวัญกล้าทำอีกแล้วเพคะ!”“แค่เรื่องใส่ร้ายน่ะหรือ?”หลิงอวี๋ไม่รอให้เซียวหลินเทียนเอื้อนเอ่ยก็กล่าวยกตนข่มท่านเร็วพลัน“ตัวข้าผู้เป็นพระชายามิได้โง่งม ถ้าเจ้าพูดไม่สมเหตุสมผล ข้าจะยอมให้พวกเจ้าใส่ร้ายตัวเองหาปะไร?”“กล้าล่อตัวข้าผู้เป็นพระชายาไปเรือนพวกเจ้า ทำให้คนสงสัยว่าข้าเฉดหัวเฮยจื่อไป!”“แถมระยะห่างจากเรือนของเฮยจื่อถึงคอกม้ามีความเหมาะเจาะนัก เฮยจื่อหนีไปไม่มีคนพบเห็นอย่างเหนือคาด!”“เจ้าเป็นแค่นางใช้ตัวเล็ก ๆ คนเดียวจะมีความสามารถปิดฟ้าป้องตะวันเลยรึ? เจ้ามีสมองวางอุบายนี้ทั้งหมดเชียวหรือ?”“พูดสิ ผู้ใดบงกา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 156

    หลิงอวี๋พูดเหยียดเสร็จก็หันไปทางชิวเหวินซวง ยิ้มหยันกล่าวว่า“ชิวเหวินซวง เจ้าดูสิ ท่านอ๋องของพวกเจ้าซักถามข้าในฐานะพระชายาได้! ข้าพระชายาอ๋องอี้ผู้สง่าถามเจ้าสองประโยค เจ้าก็พูดว่าข้าทำให้เจ้าลำบากใจ!”“เจ้ามีหนึ่งก็บอกมีหนึ่ง(1)ก็พอแล้ว! แสร้งทำเป็นน้อยใจให้ใครมองรึ?”“ตำหนักอ๋องอี้ของพวกเจ้าคนมากถึงเพียงนี้ ไม่ทำให้ตัวข้าต้องยุ่งยากก็อมิตาพุทธแล้ว ไฉนข้าจะยังกล้าทำเรื่องยากให้พวกเจ้า!”“ตัวข้าได้รับความไม่เป็นธรรม เจ้ามีค่ากว่าข้าหรือไร? ทนความน้อยเนื้อต่ำใจนิดเดียวก็มิได้รึ? ไม่ทันไรก็พูดเรื่องมอบอำนาจดูแลเรือนชั้นใน นี่คือขู่ผู้ใดงั้นรึ?”“คนของตัวข้าข้าเลี้ยงเอง ไม่เคยใช้เงินตำหนักอ๋องอี้พวกเจ้าสักเฟินดียว! ฉะนั้นอำนาจดูแลเรือนชั้นในอะไรนั่นข้าไม่สนใจเช่นกัน เจ้าเก็บไว้เองเถอะ!”“ชิวเหวินซวง ทีหลังอย่าพูดว่าจะไปบ่อย ๆ! การยอมถอยเพื่อชนะใช้ได้หนเดียว! ใช้ถี่ก็ไม่ได้ผลแล้ว!”เหล่าคนรับใช้ได้ฟังคำพูดของหลิงอวี๋พลันมองชิวเหว่นซวงแปลกไปทันที พระชายาอ๋องอี้ยังไม่เคยสอดมือเรื่องดูแลจัดการเรือนชั้นในเลย!การพูดว่าพระชายาอ๋องอี้ต้องการดูแลเรือนชั้นในจึงสร้างความลำบากใจให้นาง นี่มิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 157

    เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ลึกซึ้ง พลางจ้องเฉี่ยวเหลียนใบหน้าเคร่งขรึม“พระชายาพูดถูกต้อง เฉี่ยวเหลียน เจ้าเป็นแค่นางรับใช้ตัวเล็ก ๆ คนเดียว ไม่อาจคิดวิธีใส่ร้ายคนละเอียดรอบคอบเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”“ตัวข้าผู้เป็นอ๋องให้โอกาสเจ้าหนเดียว! จงพูดคนที่บงการเจ้าเสีย… ข้าคิดว่าเจ้ายังเด็กไม่รู้ความ โทษอาจผ่อนปรนได้!”“ไม่เช่นนั้น… เหอะ...”เซียวหลินเทียนส่งเสียง ‘เหอะ’ เย็นชาลู่หนานกำลังวางมือบนด้ามดาบพลางลงมือร่วมข่มขู่กับเซียวหลินเทียน ตะคอกว่า “พูด...”เฉี่ยวเหลียนกลัวจนทั่วร่างสั่นเทิ้ม นางมิกล้ามองคนอีกเลย คลานกับพื้นพลางกล่าวทั้งน้ำตา“ท่านอ๋องได้โปรดไว้ชีวิต! ไม่… ไม่มีคนบงการบ่าวเพคะ ล้วนเป็นผีหลงสติปัญญา(1)ของบ่าวทั้งสิ้นที่คิดถึงความโหดร้ายของพระชายาที่ทำร้ายทุบตีเฉี่ยวชุนเพคะ!”“บ่าวเป็นห่วงคุณชายเฮยจื่อจะถูกพระชายารังแกภายภาคหน้า บ่าวทนมิได้จึงยุยงเฮยจื่อหนีไปเพคะ!”“บ่าวคิดไม่ถึงว่าคุณชายเฮยจื่อจะถูกคนลักพาตัวไปจริง ๆ! หากบ่าวรู้ บ่าวจะไม่ปล่อยเฮยจื่อจากไปเป็นแน่เพคะ!”จนถึงตอนนี้เซียวหลินเทียนพบว่า เฉี่ยวเหลียนยังไม่ยอมจำนน พลางขมวดคิ้วอย่างเดียดฉันท์เขาเอ่ยเสียงเย้ยหยั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 158

    ครั้นเฉี่ยวเหลียนเอ่ยจบ พลางมองเซียวหลินเทียนทั้งน้ำตาอย่างคาดหวังเซียวหลินเทียนพยักหน้าเล็กน้อย พ่อบ้านฟั่นแอบถอนหายใจ ท่านอ๋องเชื่อคำแก้ตัวนี้ของเฉี่ยวเหลียนหรือไม่?นิ้วชี้เซียวหลินเทียนกำลังเคาะเบา ๆ ที่แขนเก้าอี้ล้อ พลางเกิดเสียง ‘ก๊อกก๊อก’ แผ่วเบาเสียงเคาะคลื่นนี้ไม่ได้ดัง แต่กลับทำให้ทุกคนต่างไม่กล้าส่งเสียงหลิงอวี๋กำลังมองดูด้วยนัยน์ตาเยือกเย็น พลันเห็นเซียวหลินเทียนเลิกปกป้องพ่อบ้านฟั่นกับชิวเหวินซวงทันใดยังคงไต่สวนต่อ!คำแก้ตัวรอบนี้ของเฉี่ยวเหลียนมีช่องโหว่เต็มไปหมด นางไม่เชื่อว่าเซียวหลินเทียนจะดูไม่ออก“เฉี่ยวเหลียน เจ้ายังมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่?”ในที่สุดเซียวหลินเทียนก็เปิดปากกล่าวเฉี่ยวเหลียนปาดน้ำตาพลางส่ายศีรษะตะลีตะลาน “บ่าวไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้ว! บ่าวพูดความจริงทั้งหมดแล้วเพคะ!”“ความจริง?”เซียวหลินเทียนเผยริมฝีปากหัวเราะเย้ยหยัน เสียงไม่ดังไม่เบา“เฉี่ยวเหลียน ตัวข้าผู้เป็นอ๋องพูดไปเมื่อครู่ ขอแค่เจ้าสารภาพตามตรง ข้าอาจผ่อนปรนโทษให้เจ้าได้!”“แต่เหมือนว่า… เจ้าไม่ได้ใส่ใจคำพูดของตัวข้า!”เซียวหลินเทียนน้ำเสียงผกผันพลางกล่าวเฉียบขาดว่า“ทุกคนคิด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 159

    “หลิงซิน เจ้ามือเท้าง่อย เจ้าอย่าชั่วช้าโจมตีใส่ร้ายคน! ข้ามิเคยทำเรื่องประเภทนั้นกับเจ้า!”พ่อบ้านฟั่นตะโกนลนลานว่า “เจ้าแค้นข้าที่ไม่ย้ายเจ้าออกเรือนพระชายาเป็นแน่จึงใส่ไคล้ข้า!”“ท่านอ๋อง เมื่อก่อนหลิงซินเคยมาหาข้า พูดว่าไม่อยากทุกข์ยากติดตามพระชายา ขอให้กระหม่อมผลัดนางไปที่อื่น กระหม่อมไม่รับปาก! เพราะเรื่องนี้นางจึงใส่ไคล้กระหม่อมแน่เลยพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงซินส่งเสียง ‘ถุย’ พลางด่า “ถ่างตาพูดส่งเดช(1)คือเจ้าเถอะ! คุณหนูข้าดีต่อข้าขนาดนี้! ไยข้าต้องผลัดไปที่อื่น!”พ่อบ้านฟั่นชี้หลิงหลานพลางเรียก “พระชายามิจ่ายเงินเดือนให้พวกเจ้าหลายเดือนแล้ว หลิงหลานยืนยันได้! พระชายาปล่อยให้พวกเจ้ากินไม่อิ่มจะดีต่อพวกเจ้าได้เช่นไร?”หลิงซินมองหลิงหลานเยาะเย้ยพลางยิ้มตอบ “หลิงหลานพูดคือเรื่องเมื่อก่อน คุณหนูของเราเคยเป็นหนี้เงินเดือนเราจริง!”“แต่ไม่กี่วันก่อนคุณหนูชดเชยเงินเดือนให้พวกเราครบแล้ว! ทั้งหมดห้าร้อยตำลึงเงิน!”ห้าร้อยตำลึง? ข้ารับใช้เหล่านั้นเบิกตากว้างตกตะลึง จะเป็นไปได้อย่างไร!เพื่อจะให้เกียรติหลิงอวี๋ หลิงซินก็พิสูจน์คำพูดของตนพลางกล่าวภาคภูมิใจ“จะเชื่อหรือไม่ นี่ไงเล่า ตั๋วเงิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 160

    “เงียบ!”เมื่อดูนางรับใช้เหล่านั้นพูดเหมือน ๆ กันแล้ว จ้าวซวนยกมือกล่าวคำ “ขอให้ท่านอ๋องโปรดไต่สวนต่อพ่ะย่ะค่ะ!”คนรับใช้เหล่านั้นต่างเงียบ มองเซียวหลินเทียนอย่างคาดหวังสีหน้าเซียวหลินเทียนดำทะมึน เมื่อครู่เขากำลังพิจารณาตัวเอง ตำหนักแห่งนี้เกิดเรื่องขึ้นมากเพียงนี้ คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย!นี่ท่านอ๋องอี้ผู้นี้หัวทึบแค่ไหนกันแน่?เขาไม่มีหน้าโยนความผิดให้พ่อบ้านฟั่น การถูกหลอกคือความอัปยศของเขา! และเป็นความโง่เขลาของเขาเช่นกัน!เซียวหลินเทียนหลับตาลง พลางลืมตาอีกครั้งก็ตัดสินใจแล้วความผิดเกิดขึ้นแล้ว ภายหน้าเขาจะใช้เรื่องนี้เตือนสติตัวเองเสมอแล้วกัน ความผิดแบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต!“พ่อบ้านฟั่น เจ้ามีอะไรจะพูดอีกหรือไม่?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามเสียงเย็นชา“กระ… กระหม่อม...”พ่อบ้านฟั่นพูดอึกอัก ในที่สุดก็หักใจคุกเข่ากับพื้นอย่างแน่วแน่“เป็นกระหม่อมโง่เขลาแล้ว! ละทิ้งความไว้วางใจของท่านอ๋อง! สมควรประหารกระหม่อมหมื่นครั้ง!”“เจ้ายอมรับความของนางรับใช้เหล่านี้หรือไม่?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามพ่อบ้านฟั่นก้มหน้าพลางกล่าวสำนึกเสียใจ “กระหม่อมมิใช่คน เป็นเดรั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 161

    “ไป่สือ ไปปลุกเขาเสีย!”เซียวหลินเทียนยังมีคำถามอีก ครั้นเห็นพ่อบ้านฟั่นเป็นลมก็พลันสั่งไป่สือไปข้างหน้าทันทีไป่สือวิ่งรุดไปถึงพบว่าพ่อบ้านฟั่นหน้าดำหน้าแดง โลหิตไหลออกจมูก มุมปากเปี่ยมฟองขาวเขาตระหนกรีบตรวจชีพจรพ่อบ้านฟั่น ชีพจรพ่อบ้านฟั่นสับสน บ้างเร็วบ้างช้า…“ท่านอ๋อง… พ่อบ้านเป็นโรคหลอดเลือดสมองแล้วพ่ะย่ะค่ะ! คาดว่าตกใจมากเกินไป… แม้จะช่วยให้ฟื้นก็อยู่ได้ไม่นานแล้ว!”หลิงอวี๋ฟังแล้วใจสั่นสะท้าน มันบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร?ขณะกำลังไต่สวนพ่อบ้านฟั่นอาการป่วยเขาพลันกำเริบทันที เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีคนวางหมากไว้?นางมองทางชิวเหวินซวงทันควัน พบว่าชิวเหวินซวงห่างกับพ่อบ้านฟั่นไกลห้าหกเมตร แถมมีคนรับใช้กั้นกลางระยะห่างเช่นนี้เรื่องคิดวางอุบายแทบเป็นไปไม่ได้เลย!หลิงอวี๋ครุ่นคิดไม่วางใจลง เดินไปพลางกล่าว “ข้าลองดูหน่อย!”นางนั่งยองข้างพ่อบ้านฟั่น ใช้การสัมผัสของตนตรวจอาการป่วยพ่อบ้านฟั่นจากนั้นหลิงอวี๋ตรวจชีพจรพ่อบ้านฟั่น หัวคิ้วพลันขมวดทันใดลักษณะนี้ของพ่อบ้านฟั่นไม่เหมือนถูกคนวางอุบาย!แต่ก็มิใช่โรคหลอดเลือดสมองทั่วไป นี่ยิ่งเหมือนลักษณะของโรคเลือดออกในสมอง!นางสัมผัส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 162

    พ่อบ้านฟั่นอยู่ได้ไม่เกินสองชั่วยามก็พลันสิ้นใจแม่นมลี่ได้ยินข่าวก็วิ่งมาเรียนหลิงอวี๋ให้ทราบทันควันนางถ่มน้ำลายพลางด่าทอ “ตาเฒ่าเดรัจฉานผู้นี้ เขาตายแบบนี้สบายเกินไปแล้ว!”แม่นมลี่ถอนหายใจ เอ่ยอีกว่า “เฒ่าเดรัจฉานถึงตายก็ไม่สาสมต่อความผิด! อย่างไรเสียภรรยากับลูกสะใภ้ของเขาต้องรับโทษตาม! ท่านอ๋องไม่อภัยพวกนางแน่!”หลิงอวี๋นึกถึงสีหน้าเปี่ยมความผันผวนของแม่นางฟั่นก็เอ่ยถามทันใด “ภรรยากับลูกสะใภ้ของเขาเป็นคนเช่นไร?”แม่นมลี่ตอบ “แม่นางฟั่นคือคนซื่อสัตย์ทำตามกฎ เทียบไม่ได้กับความคิดโสมมพวกนั้นของพ่อบ้านฟั่น! พ่อบ้านฟั่นช่วยท่านอ๋องดูแลตำหนักอ๋องอี้ แม่นางฟั่นไม่ได้ทำอะไรเลยไม่มีคนกล้าต่อว่านาง!”“แต่แม่นางฟั่นซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไหนมาไม่เคยอวดอำนาจของพ่อบ้านฟั่น หากในตำหนักมีเรื่องอะไรนางล้วนรีบไปทำ!”“นางช่วยปะซ่อมเสื้อผ้าขององครักษ์พวกนั้นด้วย มีคนเจ็บป่วยนางก็จะช่วยต้มยา! พูดได้ว่าหลายคนในตำหนักเคยได้กรุณาคุณจากนางทั้งนั้นเจ้าค่ะ!”หลิงซินพยักหน้าอยู่ข้าง ๆ “แม่นางฟั่นเป็นคนดีนัก! เมื่อก่อนเราไม่มีข้าวกิน แม่นางฟั่นเห็นบ่าวเดินเตร่ที่ห้องครัวยังแอบเคยยัดหมั่นโถวให้บ่าวด้วยเจ้า

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2014

    หลิงอวี๋ยิ้มออกมา ต่อให้นางใจดีแค่ไหนก็มีขอบเขตของตน ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นกับดักแล้วตนจะพาตัวเองเข้าไปได้อย่างไรกัน!หากตนรู้จักฮูหยินเฉิง บางทีอาจจะเสี่ยงไปช่วยชีวิตนาง!แต่ตนกับฮูหยินเฉิงมิได้รู้จักกัน มิรู้ด้วยซ้ำว่านางเป็นคนดีหรือคนเลวแม้ว่าจะเห็นใจฮูหยินเฉิงที่ต้องประสบความทรมานของการเจ็บป่วย แต่นางก็มิใช่แม่พระ มิสามารถไปช่วยชีวิตทุกคนที่เจ็บป่วยได้หรอก!หลิงอวี๋ครุ่นคิดแล้วเอ่ยกับเย่หรง “ในช่วงสองวันนี้ท่านคอยติดตามอาการป่วยของฮูหยินเฉิงไว้ และไปตรวจสอบตัวตนของแม่ทัพเฉิงให้ละเอียดอีกสักหน่อย!”“หากเขาสามารถเป็นสายลับให้ท่านไปช่วยมารดาของท่านออกมาได้จริง ๆ ข้าจะหาวิธีตามหาหลิงอวี๋มาช่วยชีวิตนาง!”สำหรับเย่หรงแล้ว คนที่สำคัญที่สุดนั้นคือมารดาของเขาหากมั่นใจได้ว่าแม่ทัพเฉิงยินดีจะช่วยเป็นสายลับให้เย่หรง ต่อให้หลิงอวี๋ต้องเสี่ยงอันตรายก็จะช่วยเย่หรงทำสิ่งนี้“เจ้ามีวิธีตามหานางหรือ?”เย่หรงเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ“พี่ชายข้าเก่งเรื่องการสืบหาข่าวมาก บางทีคนที่ผู้อื่นหามิเจอ เขาอาจจะตามหาเจอก็ได้!”หลิงอวี๋ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “เอาตามนี้ก่อนแล้วกัน หากแม่ทัพเฉิงมิควรเชื่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2013

    วันรุ่งขึ้นเมื่อหลิงอวี๋ไปที่บ้านตระกูลเย่ นางก็บอกเรื่องหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่ซื่อฝานในบ้านตระกูลเย่นั้นเย่ซื่อฝานจัดการเพียงแค่การปรุงโอสถเท่านั้น มิได้จัดการเรื่องการบริหาร เนื่องจากการบริหารเป็นเรื่องของผู้นำตระกูลแต่ในฐานะที่เย่ซื่อฝานเป็นสมาชิกตระกูลเย่ เขาก็รู้เรื่องภายในบางส่วนเช่นกันเขาจึงเอ่ยขึ้นมาอย่างจริงจัง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดเจ้าแห่งทิศใต้จึงให้หลงเพ่ยเพ่ยมาแสดงความปรารถนาดีต่อเจ้าในเวลานี้?”“ก่อนหน้านี้เขามิได้สนใจการต่อสู้ระหว่างหอโอสถไป๋เป่าและหอโอสถซ่างกู่ เขาแค่หวังว่าหอโอสถไป๋เป่าจะกดหอโอสถซ่างกู่ลงไปให้ถึงจุดต่ำสุดเสียก่อน จากนั้นก็ค่อยยื่นไมตรี เช่นนี้ก็จะเป็นการช่วยเหลือในยามลำบาก แล้วกูลเย่ของข้าก็จะจงรักภักดีต่อเขาอย่างสุดหัวใจ!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินเช่นนั้น จึงเอ่ยขึ้นมา “หากท่านอาจารย์รู้สึกว่ามิเหมาะสม เช่นนั้นข้าก็จะรักษาระยะห่างกับหลงเพ่ยเพ่ยเจ้าค่ะ!”ถึงอย่างไรตอนนี้หลิงอวี๋ก็เป็นศิษย์ของเย่ซื่อฝาน นางจะมิละทิ้งสำนักไปทำดีกับศัตรูของอาจารย์เพื่อความปลอดภัยของตน“ไม่! มิต้อง!”เย่ซื่อฝานส่ายหัวแล้วเอ่ย “เมื่อเทียบกับเจ้าแห่งทะเละชายาเจ้าแห่งทะเล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2012

    จงเจิ้งเฟยได้ยินเช่นนั้น ก็เอ่ยขึ้นมา “ใช่แล้ว เมื่อขัดแย้งกันก็ควรจะแก้ปัญหามิใช่สร้างความบาดหมาง ท่านพ่อท่านแม่หลายตระกูลล้วนเป็นมิตรสนิทกัน ไม่มีใครอยากให้คนรุ่นหลังทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายหรอก!”“ศิษย์พี่หญิง เย่หรงกับเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เจ้าก็ไปโน้มน้าวเขาด้วยเถิด แม้ว่าจะมิยอมแต่งงานกับหยางหงหนิง ก็อย่าได้ทะเลาะกันจนตึงเครียดเกินไปนัก!”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าทั้งสองคนล้วนเอ่ยเช่นนี้ นางก็คิดแล้วเอ่ยออกมา “ข้าจะไปคุยกับเย่หรงดู ขอเพียงมิบังคับให้เขาแต่งงานกับหยางหงหนิง ข้าคิดว่าเขาก็น่าจะยอมคืนดี!”“ใช่ แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมมิหวาน พวกเราล้วนรู้เหตุผลข้อนี้ดี เราไม่มีทางไปบังคับให้เย่หรงทำเรื่องเช่นนั้นแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยพยักหน้าแล้วเอ่ย “เจ้ากลับไปโน้มน้าวเย่หรงดูก่อน ประเดี๋ยววันหลังข้าจะจัดงานเลี้ยง เมื่อทุกคนมารวมตัวกัน เช่นนี้พวกเขาก็จะมิอึดอัด แล้วก็ปรับความเข้าใจกันได้!”“อืม!”หลิงอวี๋พยักหน้า และกำลังจะเดินไป หลงเพ่ยเพ่ยก็เรียกนางไว้อีก “สิงอวี๋ ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากับเหมียวหยางผู้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์ไป่หลี่ก็ทะเลาะกันหรือ?”“เรื่องนี้ข้าจะยืนอยู่ข้างเจ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2011

    กระทั่งเดินตามจงเจิ้งเฟยมาถึงในศาลาแห่งหนึ่งของสำนักศึกษาชิงหลง หลงเพ่ยเพ่ยก็รออยู่ที่นั่นแล้วเมื่อเห็นหลิงอวี๋ นางก็มองพิจารณาหลิงอวี๋อย่างสงสัยใคร่รู้อยู่หลายครั้ง ก่อนจะยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “ข้าได้ยินมาว่า หงหนิงแพ้การประลองปรุงยากับเจ้า ฮ่า ๆ นางหยิ่งทะนงมาโดยตลอด ควรจะมีคนมาทำให้นางรับรู้ได้แล้วว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคนอีก!”“สิงอวี๋ เรื่องสาเหตุและขั้นตอนในการประลองของเจ้ากับหงหนิงนั้นข้ารู้ทั้งหมดแล้ว ข้ามิได้เข้าข้างผู้ใด ข้าคิดว่าเจ้าทำถูกต้องแล้ว หากใครมาใส่ร้ายข้าเช่นนี้ ข้าก็จะสู้กับนางจนถึงที่สุดเช่นกัน!”หลิงอวี๋ย่อมมิเชื่อหลงเพ่ยเพ่ยเสียทั้งหมดเพราะคำพูดมิกี่คำอยู่แล้ว“คุณหนูหลงมาหาข้ามีธุระอันใดหรือไม่?” หลิงอวี๋เอ่ยถามไปตามตรงหลงเพ่ยเพ่ยยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “ข้าชอบผูกมิตร และนิสัยของเจ้าก็ถูกใจข้ายิ่งนัก!”“แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ข้ายังอยากให้เจ้ากับหงหนิงปรับความเข้าใจกันอยู่ หงหนิงมิใช่คนเลว เพียงแต่นางหลงเย่หรงจนหน้ามืดตามัว จึงได้ทำเรื่องโง่ ๆ เหล่านั้นไป!”“ควรจะหาทางแก้ไขมิใช่สร้างความบาดหมางต่อกัน เจ้าเห็นแก่ข้าเถิด อย่าได้ถือสาหาความกับนางเล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2010

    เมื่อหลิงอวี๋เห็นหยางหงหนิงก็ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วก็นึกถึงคำขู่ที่หยางหงหนิงบอกว่าจะทำให้เย่หรงแต่งงานกับนางให้ได้ภายในหนึ่งเดือนหรือว่าหยางหงหนิงทำมิได้ ในตอนนี้จึงคิดจะมาทำให้ตนลำบาก?“สิงอวี๋ เจ้าจะเป็นศัตรูกับข้าจริง ๆ หรือ?”เป็นดังที่คาด ทันทีที่เอ่ยปากหยางหงหนิงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างก้าวร้าว “เจ้าก็รู้อยู่ว่าข้าชอบเย่หรง เจ้ายังกล้าชวนเขาไปที่ภูเขาหมางหลิ่งด้วยกันอีก เจ้ายังจะเถียงว่าเจ้ามิชอบเขาอีกหรือ!”“ข้าขอเตือนเจ้า อยู่ให้ห่างจากเย่หรง มิฉะนั้นข้าจะมิเกรงใจเจ้าแน่!”หลิงอวี๋หมดคำพูดไปทันที ตนมาที่สำนักศึกษาชิงหลงเพื่อศึกษาเล่าเรียน มิใช่มาแย่งชิงบุรุษกับผู้ใด!ในหัวของหยางหงหนิงนั้นนอกจากเรื่องระหว่างบุรุษกับสตรีแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอื่นเลยหรือ?“คุณหนูหยาง ข้าได้แสดงทัศนคติของจ้าไปอย่างชัดเจนแล้ว เย่หรงเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจะชอบใครก็เป็นอิสระของเขา!”“ข้ามิได้ตั้งใจจะแย่งเขากับเจ้า เจ้าก็อย่ามายุ่งกับข้าเช่นกัน!”หลิงอวี๋เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ก่อนหน้านี้ข้าก็เคยบอกไปแล้วว่า เจ้าอย่าได้ผลักเขาให้ไกลออกไปเรื่อย ๆ แล้วเจ้าดูพฤติกรรมของเจ้าในตอนนี้สิ แพ้แล้วก็มิรักษาคำพูด แล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2009

    “ฮูหยินเฉียว นอกจากนี้แล้ว พวกเราต้องตามหาป้าวซวนให้เจอโดยเร็วที่สุดด้วย!”นี่คือสิ่งที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยนึกขึ้นได้ตอนที่ถูกเซียวหลินเทียนซักถาม แม้ว่าตอนนั้นจะเป็นการรับมือกับเซียวหลินเทียน แต่หลังจากนั้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็รู้สึกว่าคำโกหกที่ตนพูดไปนั้นสามารถนำมาใช้ได้เช่นกันหลิงอวี๋เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพและศีลธรรม นางกับป้าวซวนร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน หากจับตัวป้าวซวนไว้ จะต้องล่อให้หลิงอวี๋มาติดกับได้อย่างแน่นอนเป็นดังที่นางบอกกับเซียวหลินเทียนไว้ว่า ป้าวซวนมิได้ฉลาดเท่าหลิงอวี๋ นางไม่มีทางหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้อย่างแน่นอน“ฮูหยินเฉียว ข้าเคยบอกเซียวหลินเทียนไว้ว่า หลิงอวี๋จะไปช่วยป้าวซวน เซียวหลินเทียนจะต้องมิอยากให้หลิงอวี๋ตกอยู่ในอันตรายแน่นอน ขอเพียงพวกเราปล่อยข่าวออกไปว่าป้าวซวนอยู่ในมือพวกเรา เซียวหลินเทียนจะต้องชิงมาช่วยป้าวซวนก่อนหลิงอวี๋เป็นแน่!”“เมื่อเป็นเช่นนี้ มิว่าใครจะมาช่วย พวกเราก็จะสามารถหนึ่งในนั้นได้แล้ว!”กลยุทธ์ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้รับการชื่นชมจากฮูหยินเฉียว ฮูหยินเฉียวจึงให้คนออกไปแพร่ข่าวลือในทันทีในขณะเดียวกันก็วางกับดักไว้อย่างรัดกุม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2008

    หลิงอวี๋คิดตามความคิดนี้ต่อไป ก่อนหน้านี้เถาจื่อขอให้ตนช่วย และบอกไว้ว่าหากตัวตนของเซียวหลินเทียนถูกเปิดเผยออกไป ชีวิตของคนนับร้อยในคฤหาสน์อู่อาจตกอยู่ในอันตรายนั่นก็คือปัจจัยที่เซียวหลินเทียนกังวลเซียวหลินเทียนมิได้เปิดเผยตัวตนของตน ก็แค่มิอยากเปิดโปงตนให้ผู้อื่นรู้เขาต้องการเก็บหยกหล้าสุขาวดีไว้ผู้เดียว!นี่ก็หมายความว่า ในตอนที่เซียวหลินเทียนยังคลี่คลายวิกฤตมิได้นั้น นางจะปลอดภัยอยู่ก่อนชั่วคราวหลิงอวี๋บอกสิ่งที่ตนนึกได้กับผู้รอบรู้ แล้วสุดท้ายก็เอ่ยออกมา “พวกเรายังมีเวลา กระทั่งงานประมูลตอนปลายเดือนจัดขึ้น แล้วจะได้รับเงินจากการประมูลโสมเก้าคด จากนั้นพวกเราก็จะหาวิธีออกไปจากเมืองหลวงแดนเทพกัน!”“ตอนนี้เซียวหลินเทียนไม่มีทางทำให้พวกเราลำบากแน่ หากเขากล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่น พวกเราก็จะกระจายข่าวเรื่องเสือปีกกาฬออกไปเพื่อดึงดูดความสนใจของตระกูลเหล่านั้น!”หลิงอวี๋นึกถึงคำพูดของเย่หรงเมื่อครู่ ในเมื่อนางกับเย่หรงมีโชคชะตาของเมื่อชาติที่แล้ว เช่นนั้นก่อนจากไปนางจะต้องช่วยให้เขาช่วยมารดาของเขาออกมาให้ได้“พี่ใหญ่ ท่านช่วยข้าสืบอีกสักหน่อยเถิดว่า ในเกวียนทาสหญิงที่เซียวหลินเที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2007

    “เย่หรง!”หลิงอวี๋เรียกงึมงำ และกำลังคิดว่าจะบอกเรื่องภาพที่ตนเห็นกับเย่หรงเพื่อยืนยันสักหน่อย แล้วก็ได้ยินเสียงประตูใหญ่ดังมาแย่แล้ว!หรือว่ามีคนแอบฟัง?หลิงอวี๋ตกใจจนเด้งตัวลุกขึ้นทันที เย่หรงเองก็ชักกระบี่ออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน“น้องหญิง ข้ากลับมาแล้ว!”เสียงของผู้รอบรู้ดังขึ้นมา เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินว่าเป็นผู้รอบรู้จึงได้ถอนหายใจโล่งอก แล้วเก็บแผนที่ไปอย่างรวดเร็ว“พี่ชายข้ามิรู้ว่าท่านกำลังวางแผนเรื่องพวกนี้ อย่าได้หลุดปากไปนะ ข้ามิอยากลากเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย!”เย่หรงพยักหน้าแล้วซ่อนแผนที่ไว้ในมิติ“น้องหญิง…”ผู้รอบรู้พุ่งเข้ามา เมื่อเขาเห็นเย่หรงก็ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วกวาดสายตามองทั้งสองคนอย่างสงสัย“เสี่ยวชี ข้ามีธุระอื่นอีก ข้าไปก่อนนะ ไว้วันหลังข้าค่อยมาพาเจ้าไปงานประมูล!”เย่หรงรีบบอกกับหลิงอวี๋แล้วเดินจากไป“เขามาทำอะไร?”ผู้รอบรู้เอ่ยถามออกมา“มาหารือกับข้าเรื่องขายเครื่องยาสมุนไพร!”หลิงอวี๋ตอบออกไปแล้วเปลี่ยนหัวข้อ "ท่านสืบได้ข่าวอะไรมาหรือไม่?”ผู้รอบรู้เห็นว่ามีชาอยู่บนโต๊ะ จึงดื่มไปรวดเดียว ก่อนจะเอ่ยออก “น้องหญิง พวกเราต้องออกจากเมืองหลวงแดนเทพโดยเร็ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2006

    “เย่หรง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอ้างว่าเคยจับตัวหลิงอวี๋ได้มิใช่หรือ? เหตุใดนางมิสังหารหลิงอวี๋แล้วชิงหยกหล้าสุขาวดีไปเล่า?”หลิงอวี๋ถามคำถามที่ตนคิดมิตกออกไปเย่หรงจึงหัวเราะเยาะออกมา “ข้ารู้เหตุผลในเรื่องนี้!”“ข้าได้ยินมาว่า หยกหล้าสุขาวดีเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีวิญญาณ ต้องใช้ยาสลายเลือดเนื้อของผู้ครอบครองในขณะที่คนผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่จึงจะนำมันไปได้ มิเช่นนั้นหยกหล้าสุขาวดีจะตายไปพร้อมกับความตายของผู้ครอบครอง!”“เครื่องยาสมุนไพรที่พิเศษนี้ก็มีเพียงที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น และเมื่อขุดเครื่องยาสมุนไพรนี้ออกมาแล้วจะต้องใช้ภายในครึ่งชั่วยาม มิเช่นนั้นก็จะเฉาตายไป!”“ดังนั้น จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงทำได้เพียงต้องพาหลิงอวี๋กลับมาที่เมืองหลวงแดนเทพ และเข้าสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อหาเครื่องยาสมุนไพรนั้น จึงจะสามารถนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาจากตัวหลิงอวี๋ได้!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ขนลุกซู่ เข้าใจเหตุผลแล้วว่าเหตุใดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงมิสังหารตน!จริงสิ หรือว่านี่จะเป็นสาเหตุที่เซียวหลินเทียนมิสังหารนางเช่นกัน?เขาเองก็อยากได้หยกหล้าสุขาวดีที่ตัวนางด้วยใช่หรือไม่?แต่เมื่อคิดอีกแง่หนึ่ง หลิงอวี๋ก็รู้ส

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status