แชร์

บทที่ 153

ผู้เขียน: กานเฟย
เฉี่ยวเหลียนสมรู้ร่วมคิดกับเฮยจื่อแล้วยืนยันว่าตนด่าเฮยจื่อ

และมีหลายคนพบเห็นตนเคยไปเรือนของเฮยจื่อจริง ๆ

ตราบใดที่ทั้งสองยืนกรานกล่าวว่าตนข่มเหงเฮยจื่อ นั่นแม้ว่าตนจะไม่ได้ลักพาตัวเขา ชื่อเสียงโหดเหี้ยมนี้นางก็ต้องแบกรับงั้นหรือ?

ความคิดของหลิงอวี๋ปั่นป่วนเร็วจี๋ นางควรพิสูจน์ว่าตนมิได้ด่าเฮยจื่อเช่นไรดี?

กลอุบายคราก่อนที่ทำให้หลิงหลานกับแม่ครัวพิสูจน์ว่าตัวเองกล่าวเท็จเคยใช้แล้วครั้งหนึ่ง ไม่อาจใช้ได้ผลอีก

นางมองเฮยจื่อกับเฉี่ยวเหลียน มุมปากเผยยกยิ้มเร็วพลัน

“ท่านอ๋อง พวกเขามั่นใจว่าหม่อมฉันด่าคนเยี่ยงนี้! หากหม่อมฉันพูดว่าไม่เคยด่าเฮยจื่อและไม่มีพยานในเหตุการณ์ เดาว่าจะไม่มีคนเชื่อหม่อมฉันว่าพูดความจริงเพคะ!”

“แต่หลิงอวี๋มีวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตน โปรดขออนุญาตท่านอ๋อง หลิงอวี๋ขอถามเฮยจื่อสักสองสามคำถามเพคะ”

เซียวหลินเทียนมองนางพลางผงกศีรษะ “ได้ เจ้าถามเถอะ!”

หลิงอวี๋หยิบเมล็ดช็อกโกแลตหนึ่งเม็ดออกจากถุงเหรียญที่หลิงซินเย็บให้ตน พลางเดินลงบันได

เฮยจื่อไม่ทันโต้ตอบ หลิงอวี๋พลันบีบกรามล่างเขาพลางยัดเมล็ดช็อกโกแลตเข้าปากเขา

เมล็ดช็อกโกแลตละลายในปากรวดเร็ว เฮยจื่อรู้สึกขมและห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 154

    เฮยจื่อผวาจนหน้าซีดไร้เลือด เหงื่อกาฬเต็มดวงหน้าเขาอ้าปากพลางหลับตาฉับไวราวกับคิดว่าตราบใดที่ไม่กล่าว โอสถสัจธรรมไม่อาจตัดสินชี้ขาดตนพูดจริงหรือเท็จได้หลิงอวี๋ดูความจริงเล็ก ๆ นี้ของเฮยจื่อออกพลางหัวเราะนิดหน่อย“เจ้าไม่ตอบก็ไร้ประโยชน์ ยาสัจธรรมนี้มหัศจรรย์ยิ่ง ถ้าเจ้าเงียบเรื่อย ๆ มันจะตัดสินเองคิดว่าเจ้าโกหก!”“เจ้าลองตรวจดูสิว่า ท้องน้อย ๆ เริ่มเจ็บแล้วหรือยัง?”“พระชายา ท่านขู่ขวัญเด็กเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?”พ่อบ้านฟั่นทนไม่ไหวพลางด่าว่า “เดิมทีไม่มีโอสถสัจธรรมอะไรนั่นในใต้หล้านี้ เจ้าอย่าพรางเป็นเทพแสร้งเป็นผีขู่ขวัญคน!”หลิงอวี๋เหลืบมองพ่อบ้านฟั่น ยิ้มตอบ “ไยจะไม่มี! ผู้อื่นทำมิได้ แต่ตัวข้าผู้เป็นพระชายาทำได้!”“พ่อบ้านฟั่นคงลืมสิ้นแล้ว คราก่อนก็เป็นโอสถลับของข้าช่วยชีวิตเฮยจื่อไว้มิใช่รึ?”ทุกคนต่างลอบมองหน้ากัน คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อก็เริ่มสั่นคลอน นึกถึงหมอที่พูดว่าไม่อาจช่วยเฮยจื่อไว้ได้แล้วเมื่อคราก่อน!แต่หลิงอวี๋หยิบยาลับออกมา ช่วยชีวิตเฮยจื่อที่แขวนบนเส้นด้ายได้อย่างเฉียบขาด!บางทีอาจมียาสัจธรรมอยู่จริง!“เฮยจื่อ อย่าโทษว่าข้ามิให้โอกาสเจ้า! เจ้าตอบตอนนี้ อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 155

    “เฉี่ยวเหลียน เฮยจื่อยอมรับเรื่องใส่ร้ายตัวข้าผู้เป็นพระชายาแล้ว! เจ้าว่าอย่างไรเล่า? เจ้ายังยืนหยัดจะแก้ต่างหรือไม่?”หลิงอวี๋มองทางเฉี่ยวเหลียนถากถางหลังของเฉี่ยวเหยียนเปี่ยมเหงื่อกาฬ นางอ้าปากลิ้นเป็นปม(1) ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงโขกหัวคำนับกล่าวคำ“พระชายา บ่าวรู้ความผิดแล้วเจ้าค่ะ! มิควรเล่นละครกับคุณชายเฮยใส่ร้ายพระชายา!”“บ่าวสับสนไปชั่วขณะ! บ่าวมีความผิด! แต่ได้โปรดท่านอ๋องเห็นแก่ที่บ่าวอุทิศหัวใจและวิญญาณเถิดเพคะ อภัยโทษบ่าวครั้งนี้ครั้งเดียวเถิด! ภายหน้าบ่าวจะมิขวัญกล้าทำอีกแล้วเพคะ!”“แค่เรื่องใส่ร้ายน่ะหรือ?”หลิงอวี๋ไม่รอให้เซียวหลินเทียนเอื้อนเอ่ยก็กล่าวยกตนข่มท่านเร็วพลัน“ตัวข้าผู้เป็นพระชายามิได้โง่งม ถ้าเจ้าพูดไม่สมเหตุสมผล ข้าจะยอมให้พวกเจ้าใส่ร้ายตัวเองหาปะไร?”“กล้าล่อตัวข้าผู้เป็นพระชายาไปเรือนพวกเจ้า ทำให้คนสงสัยว่าข้าเฉดหัวเฮยจื่อไป!”“แถมระยะห่างจากเรือนของเฮยจื่อถึงคอกม้ามีความเหมาะเจาะนัก เฮยจื่อหนีไปไม่มีคนพบเห็นอย่างเหนือคาด!”“เจ้าเป็นแค่นางใช้ตัวเล็ก ๆ คนเดียวจะมีความสามารถปิดฟ้าป้องตะวันเลยรึ? เจ้ามีสมองวางอุบายนี้ทั้งหมดเชียวหรือ?”“พูดสิ ผู้ใดบงกา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 156

    หลิงอวี๋พูดเหยียดเสร็จก็หันไปทางชิวเหวินซวง ยิ้มหยันกล่าวว่า“ชิวเหวินซวง เจ้าดูสิ ท่านอ๋องของพวกเจ้าซักถามข้าในฐานะพระชายาได้! ข้าพระชายาอ๋องอี้ผู้สง่าถามเจ้าสองประโยค เจ้าก็พูดว่าข้าทำให้เจ้าลำบากใจ!”“เจ้ามีหนึ่งก็บอกมีหนึ่ง(1)ก็พอแล้ว! แสร้งทำเป็นน้อยใจให้ใครมองรึ?”“ตำหนักอ๋องอี้ของพวกเจ้าคนมากถึงเพียงนี้ ไม่ทำให้ตัวข้าต้องยุ่งยากก็อมิตาพุทธแล้ว ไฉนข้าจะยังกล้าทำเรื่องยากให้พวกเจ้า!”“ตัวข้าได้รับความไม่เป็นธรรม เจ้ามีค่ากว่าข้าหรือไร? ทนความน้อยเนื้อต่ำใจนิดเดียวก็มิได้รึ? ไม่ทันไรก็พูดเรื่องมอบอำนาจดูแลเรือนชั้นใน นี่คือขู่ผู้ใดงั้นรึ?”“คนของตัวข้าข้าเลี้ยงเอง ไม่เคยใช้เงินตำหนักอ๋องอี้พวกเจ้าสักเฟินดียว! ฉะนั้นอำนาจดูแลเรือนชั้นในอะไรนั่นข้าไม่สนใจเช่นกัน เจ้าเก็บไว้เองเถอะ!”“ชิวเหวินซวง ทีหลังอย่าพูดว่าจะไปบ่อย ๆ! การยอมถอยเพื่อชนะใช้ได้หนเดียว! ใช้ถี่ก็ไม่ได้ผลแล้ว!”เหล่าคนรับใช้ได้ฟังคำพูดของหลิงอวี๋พลันมองชิวเหว่นซวงแปลกไปทันที พระชายาอ๋องอี้ยังไม่เคยสอดมือเรื่องดูแลจัดการเรือนชั้นในเลย!การพูดว่าพระชายาอ๋องอี้ต้องการดูแลเรือนชั้นในจึงสร้างความลำบากใจให้นาง นี่มิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 157

    เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ลึกซึ้ง พลางจ้องเฉี่ยวเหลียนใบหน้าเคร่งขรึม“พระชายาพูดถูกต้อง เฉี่ยวเหลียน เจ้าเป็นแค่นางรับใช้ตัวเล็ก ๆ คนเดียว ไม่อาจคิดวิธีใส่ร้ายคนละเอียดรอบคอบเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”“ตัวข้าผู้เป็นอ๋องให้โอกาสเจ้าหนเดียว! จงพูดคนที่บงการเจ้าเสีย… ข้าคิดว่าเจ้ายังเด็กไม่รู้ความ โทษอาจผ่อนปรนได้!”“ไม่เช่นนั้น… เหอะ...”เซียวหลินเทียนส่งเสียง ‘เหอะ’ เย็นชาลู่หนานกำลังวางมือบนด้ามดาบพลางลงมือร่วมข่มขู่กับเซียวหลินเทียน ตะคอกว่า “พูด...”เฉี่ยวเหลียนกลัวจนทั่วร่างสั่นเทิ้ม นางมิกล้ามองคนอีกเลย คลานกับพื้นพลางกล่าวทั้งน้ำตา“ท่านอ๋องได้โปรดไว้ชีวิต! ไม่… ไม่มีคนบงการบ่าวเพคะ ล้วนเป็นผีหลงสติปัญญา(1)ของบ่าวทั้งสิ้นที่คิดถึงความโหดร้ายของพระชายาที่ทำร้ายทุบตีเฉี่ยวชุนเพคะ!”“บ่าวเป็นห่วงคุณชายเฮยจื่อจะถูกพระชายารังแกภายภาคหน้า บ่าวทนมิได้จึงยุยงเฮยจื่อหนีไปเพคะ!”“บ่าวคิดไม่ถึงว่าคุณชายเฮยจื่อจะถูกคนลักพาตัวไปจริง ๆ! หากบ่าวรู้ บ่าวจะไม่ปล่อยเฮยจื่อจากไปเป็นแน่เพคะ!”จนถึงตอนนี้เซียวหลินเทียนพบว่า เฉี่ยวเหลียนยังไม่ยอมจำนน พลางขมวดคิ้วอย่างเดียดฉันท์เขาเอ่ยเสียงเย้ยหยั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 158

    ครั้นเฉี่ยวเหลียนเอ่ยจบ พลางมองเซียวหลินเทียนทั้งน้ำตาอย่างคาดหวังเซียวหลินเทียนพยักหน้าเล็กน้อย พ่อบ้านฟั่นแอบถอนหายใจ ท่านอ๋องเชื่อคำแก้ตัวนี้ของเฉี่ยวเหลียนหรือไม่?นิ้วชี้เซียวหลินเทียนกำลังเคาะเบา ๆ ที่แขนเก้าอี้ล้อ พลางเกิดเสียง ‘ก๊อกก๊อก’ แผ่วเบาเสียงเคาะคลื่นนี้ไม่ได้ดัง แต่กลับทำให้ทุกคนต่างไม่กล้าส่งเสียงหลิงอวี๋กำลังมองดูด้วยนัยน์ตาเยือกเย็น พลันเห็นเซียวหลินเทียนเลิกปกป้องพ่อบ้านฟั่นกับชิวเหวินซวงทันใดยังคงไต่สวนต่อ!คำแก้ตัวรอบนี้ของเฉี่ยวเหลียนมีช่องโหว่เต็มไปหมด นางไม่เชื่อว่าเซียวหลินเทียนจะดูไม่ออก“เฉี่ยวเหลียน เจ้ายังมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่?”ในที่สุดเซียวหลินเทียนก็เปิดปากกล่าวเฉี่ยวเหลียนปาดน้ำตาพลางส่ายศีรษะตะลีตะลาน “บ่าวไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้ว! บ่าวพูดความจริงทั้งหมดแล้วเพคะ!”“ความจริง?”เซียวหลินเทียนเผยริมฝีปากหัวเราะเย้ยหยัน เสียงไม่ดังไม่เบา“เฉี่ยวเหลียน ตัวข้าผู้เป็นอ๋องพูดไปเมื่อครู่ ขอแค่เจ้าสารภาพตามตรง ข้าอาจผ่อนปรนโทษให้เจ้าได้!”“แต่เหมือนว่า… เจ้าไม่ได้ใส่ใจคำพูดของตัวข้า!”เซียวหลินเทียนน้ำเสียงผกผันพลางกล่าวเฉียบขาดว่า“ทุกคนคิด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 159

    “หลิงซิน เจ้ามือเท้าง่อย เจ้าอย่าชั่วช้าโจมตีใส่ร้ายคน! ข้ามิเคยทำเรื่องประเภทนั้นกับเจ้า!”พ่อบ้านฟั่นตะโกนลนลานว่า “เจ้าแค้นข้าที่ไม่ย้ายเจ้าออกเรือนพระชายาเป็นแน่จึงใส่ไคล้ข้า!”“ท่านอ๋อง เมื่อก่อนหลิงซินเคยมาหาข้า พูดว่าไม่อยากทุกข์ยากติดตามพระชายา ขอให้กระหม่อมผลัดนางไปที่อื่น กระหม่อมไม่รับปาก! เพราะเรื่องนี้นางจึงใส่ไคล้กระหม่อมแน่เลยพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงซินส่งเสียง ‘ถุย’ พลางด่า “ถ่างตาพูดส่งเดช(1)คือเจ้าเถอะ! คุณหนูข้าดีต่อข้าขนาดนี้! ไยข้าต้องผลัดไปที่อื่น!”พ่อบ้านฟั่นชี้หลิงหลานพลางเรียก “พระชายามิจ่ายเงินเดือนให้พวกเจ้าหลายเดือนแล้ว หลิงหลานยืนยันได้! พระชายาปล่อยให้พวกเจ้ากินไม่อิ่มจะดีต่อพวกเจ้าได้เช่นไร?”หลิงซินมองหลิงหลานเยาะเย้ยพลางยิ้มตอบ “หลิงหลานพูดคือเรื่องเมื่อก่อน คุณหนูของเราเคยเป็นหนี้เงินเดือนเราจริง!”“แต่ไม่กี่วันก่อนคุณหนูชดเชยเงินเดือนให้พวกเราครบแล้ว! ทั้งหมดห้าร้อยตำลึงเงิน!”ห้าร้อยตำลึง? ข้ารับใช้เหล่านั้นเบิกตากว้างตกตะลึง จะเป็นไปได้อย่างไร!เพื่อจะให้เกียรติหลิงอวี๋ หลิงซินก็พิสูจน์คำพูดของตนพลางกล่าวภาคภูมิใจ“จะเชื่อหรือไม่ นี่ไงเล่า ตั๋วเงิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 160

    “เงียบ!”เมื่อดูนางรับใช้เหล่านั้นพูดเหมือน ๆ กันแล้ว จ้าวซวนยกมือกล่าวคำ “ขอให้ท่านอ๋องโปรดไต่สวนต่อพ่ะย่ะค่ะ!”คนรับใช้เหล่านั้นต่างเงียบ มองเซียวหลินเทียนอย่างคาดหวังสีหน้าเซียวหลินเทียนดำทะมึน เมื่อครู่เขากำลังพิจารณาตัวเอง ตำหนักแห่งนี้เกิดเรื่องขึ้นมากเพียงนี้ คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย!นี่ท่านอ๋องอี้ผู้นี้หัวทึบแค่ไหนกันแน่?เขาไม่มีหน้าโยนความผิดให้พ่อบ้านฟั่น การถูกหลอกคือความอัปยศของเขา! และเป็นความโง่เขลาของเขาเช่นกัน!เซียวหลินเทียนหลับตาลง พลางลืมตาอีกครั้งก็ตัดสินใจแล้วความผิดเกิดขึ้นแล้ว ภายหน้าเขาจะใช้เรื่องนี้เตือนสติตัวเองเสมอแล้วกัน ความผิดแบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต!“พ่อบ้านฟั่น เจ้ามีอะไรจะพูดอีกหรือไม่?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามเสียงเย็นชา“กระ… กระหม่อม...”พ่อบ้านฟั่นพูดอึกอัก ในที่สุดก็หักใจคุกเข่ากับพื้นอย่างแน่วแน่“เป็นกระหม่อมโง่เขลาแล้ว! ละทิ้งความไว้วางใจของท่านอ๋อง! สมควรประหารกระหม่อมหมื่นครั้ง!”“เจ้ายอมรับความของนางรับใช้เหล่านี้หรือไม่?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามพ่อบ้านฟั่นก้มหน้าพลางกล่าวสำนึกเสียใจ “กระหม่อมมิใช่คน เป็นเดรั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 161

    “ไป่สือ ไปปลุกเขาเสีย!”เซียวหลินเทียนยังมีคำถามอีก ครั้นเห็นพ่อบ้านฟั่นเป็นลมก็พลันสั่งไป่สือไปข้างหน้าทันทีไป่สือวิ่งรุดไปถึงพบว่าพ่อบ้านฟั่นหน้าดำหน้าแดง โลหิตไหลออกจมูก มุมปากเปี่ยมฟองขาวเขาตระหนกรีบตรวจชีพจรพ่อบ้านฟั่น ชีพจรพ่อบ้านฟั่นสับสน บ้างเร็วบ้างช้า…“ท่านอ๋อง… พ่อบ้านเป็นโรคหลอดเลือดสมองแล้วพ่ะย่ะค่ะ! คาดว่าตกใจมากเกินไป… แม้จะช่วยให้ฟื้นก็อยู่ได้ไม่นานแล้ว!”หลิงอวี๋ฟังแล้วใจสั่นสะท้าน มันบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร?ขณะกำลังไต่สวนพ่อบ้านฟั่นอาการป่วยเขาพลันกำเริบทันที เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีคนวางหมากไว้?นางมองทางชิวเหวินซวงทันควัน พบว่าชิวเหวินซวงห่างกับพ่อบ้านฟั่นไกลห้าหกเมตร แถมมีคนรับใช้กั้นกลางระยะห่างเช่นนี้เรื่องคิดวางอุบายแทบเป็นไปไม่ได้เลย!หลิงอวี๋ครุ่นคิดไม่วางใจลง เดินไปพลางกล่าว “ข้าลองดูหน่อย!”นางนั่งยองข้างพ่อบ้านฟั่น ใช้การสัมผัสของตนตรวจอาการป่วยพ่อบ้านฟั่นจากนั้นหลิงอวี๋ตรวจชีพจรพ่อบ้านฟั่น หัวคิ้วพลันขมวดทันใดลักษณะนี้ของพ่อบ้านฟั่นไม่เหมือนถูกคนวางอุบาย!แต่ก็มิใช่โรคหลอดเลือดสมองทั่วไป นี่ยิ่งเหมือนลักษณะของโรคเลือดออกในสมอง!นางสัมผัส

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1858

    สองพี่น้องเจียงคือผู้ช่วยชีวิตที่สำคัญที่สุดของเฉียวไป๋ เมื่อเฉียวไป๋รู้ว่าพวกนางเองก็จะติดตามตระกูลเก๋อไปเมืองหลวงแดนเทพด้วย ก็แสดงว่าเมื่อถึงเมืองหลวงแดนเทพ เขาก็สามารถมอบเรือนสี่ประสานให้กับทั้งสองคนได้หลิงอวี๋ได้ยินคำพูดนี้ก็มิได้รู้สึกอะไร ทั้งยังเอ่ยเยาะเย้ยออกไป “รอให้ไปถึงเมืองหลวงแดนเทพก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด! ตอนนี้แม้แต่เงินค่าอาหารกับอาภรณ์ของเจ้าก็ยังได้รับจากตระกูลเก๋อเปล่า ๆ เลย!”“แล้วเจ้ามาบอกว่าจะมอบเรือนสี่ประสานให้พวกเรา ข้าจะเชื่อได้อย่างไรเล่า!”จากนั้นหลิงอวี๋ก็นำกริชของเฉียวไป๋ออกมาโบกไปที่เฉียวไป๋ พร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้ามีเงิน ก็มาแลกกริชนี้กลับไปก่อนเถิด!”เฉียวไป๋พูดมิออกไปในทันที แล้วจ้องมองหลิงอวี๋อย่างหดหู่ จากนั้นก็เอ่ยอย่างมิพอใจ“เจ้ามันมิรู้จักแยกแยะของดี เจ้ามิรู้หรอกว่ามูลค่าของกริชเล่มนี้นั้นสามารถซื้อเรือนสี่ประสานได้ถึงสิบหลังเชียว! หากเจ้ามิเชื่อก็รอไปถึงที่เมืองหลวงแดนเทพ จากนั้นเจ้าก็ไปหาคนที่รู้จักของดีมาดูสักหน่อยก็รู้แล้ว!”ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยยิ้มแย้มกันอยู่ เก๋อฮุ่ยหนิงก็เดินเข้ามา หลิงอวี๋จึงเก็บกริชเล่มนั้นกลับไปท

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1857

    สองวันต่อมา ฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อก็สามารถลุกจากเตียงได้แล้ว และนอกจากสีหน้าที่ยังซีดเซียวอยู่เล็กน้อยกับร่างกายที่ยังคงอ่อนแออยู่นิดหน่อย โดยรวมแล้วนางก็สามารถเดินไปเดินมาในห้องได้แล้วข้าหลวงเก๋อจึงยิ่งให้ความสำคัญกับทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋มากขึ้นไปอีก และให้ฮูหยินเก๋อจัดเตรียมเรือนให้สองพี่น้องตระกูลเจียงอาศัยอยู่โดยเฉพาะเลยข้าหลวงเก๋อเคยถามหลิงอวี๋แล้วว่า ดูจากอาการของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อแล้วพวกเขาจะออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพกันได้เมื่อใดหลิงอวี๋ให้คำตอบมาว่า คงจะครึ่งเดือน เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้น เขาก็เริ่มให้คนเตรียมตัวเรื่องการเดินทางทางด้านฮูหยินเก๋อ นางก็วางแผนไว้ว่าจะจัดงานแต่งงานให้เก๋อฮุยซินกับคุณชายจ้าวก่อนแล้วค่อยออกเดินทางก่อนหน้านี้ตระกูลจ้าวก็กังวลว่า หากฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อตาย เก๋อฮุ่ยซินก็จะต้องไว้ทุกข์ ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมจัดงานแต่งงานไว้ล่วงหน้าแล้วของกำนัลในงานแต่งงานทั้งหมดก็เตรียมเสร็จแล้ว และตระกูลเก๋อก็ตกลงกันได้ทันที ดังนั้นจึงกำหนดวันแต่งงานไว้ในอีกสิบวันต่อมาแต่เก๋อฮุ่ยซินกลับมิได้ยินดีแล้ว มิรู้ว่านางไปได้ยินมาจากใครว่าเก๋อฮุ่ยหนิงช่วยชีวิตค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1856

    หลิงอวี๋กำลังอยู่ดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อ และคิดเรื่องที่จะไปเมืองหลวงแดนเทพ แล้วนางก็เห็นนางรับใช้คนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา“หมอเจียง น้องสาวของท่านกับคุณชายเฉียวเผชิญหน้ากับมือสังหาร คุณชายเฉียวได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณหนูสามให้เชิญท่านไปดูเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จึงรีบให้แม่นมหลี่คอยดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อ แล้วนางก็รีบตามนางรับใช้ไปยังเรือนที่เก๋อฮุ่ยหนิงอาศัยอยู่ที่แขนของป้าวซวนเปื้อนไปด้วยเลือด และถูกพันแผลเอาไว้ลวก ๆ เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ ดวงตาของนางก็แดงก่ำแล้วน้ำตาไหลออกมาทันทีก่อนหน้านี้มัวแต่ยุ่งอยู่กับการหลบหนี จนมิรู้จักกลัวอันตรายใด ๆแต่ยามนี้เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ผู้เป็นดั่งพี่สาวของตน ป้าวซวนก็รู้สึกกลัวขึ้นมา“น้องหญิง เจ้ามิเป็นไรใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋ประคองป้าวซวนแล้วตรวจดูอาการของนางอย่างกระวนกระวาย ป้าวซวนส่ายหัวพลางสะอื้นเอ่ย “ข้ามิเป็นไร คุณชายเฉียวได้รับบาดเจ็บหนักกว่าข้า เจ้าไปดูอาการเขาก่อนเถิด!”เก๋อฮุ่ยหนิงก็ลุกขึ้นมาจากข้างเตียง แล้วตะโกนออกมา “หมอเจียง เจ้ารีบมาดูคุณชายเฉียวเร็วเข้า เขาได้รับบาดเจ็บหลายจุด มิรู้ว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1855

    เฉียวไป๋ยกมือขึ้นแล้วฟาดฝ่ามือออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี จากนั้นโต๊ะภายในห้องที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วนก็ลอยขึ้นไป แล้วโจมตีใส่มือสังหารตามแรงลมจากฝ่ามือของเฉียวไป๋...ทว่ามือสังหารที่ข้าหลวงเก๋อส่งมาล้วนมีวรยุทธ์แก่กล้าทั้งสิ้น มิได้ด้อยไปกว่าเฉียวไป๋เลยมือสังหารคนหนึ่งฟันโต๊ะที่ปลิวมาหาตน แล้วพุ่งไปหาเฉียวไป๋อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้กระบี่ในมือแทงเข้าไปที่ไหล่ของเขา“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ มานี่เร็วเข้า...”ป้าวซวนตะโกนขึ้นมา นางหวังให้แขกคนอื่นในโรงเตี๊ยมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแต่แขกที่ขี้ขลาดกลัวปัญหาเหล่านั้นหนีกันไปตั้งนานแล้วเมื่อเห็นว่ามีมือสังหารแทงที่ต้นขาของเฉียวไป๋อีกครั้ง ป้าวซวนก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าตอนที่หลิงอวี๋เตรียมยาแก้พิษให้ตนเมื่อคืน นางได้ให้ผงยาหนึ่งห่อไว้กับตนด้วยหลิงอวี๋บอกว่าเป็นของดีที่ให้นางใช้หลบหนีเมื่อพบเจอพวกคนเลวป้าวซวนจึงมิคิดอะไรแล้ว นางหยิบมันออกมาแล้วพุ่งเข้าไป จากนั้นก็ยกมือขึ้นโปรยผงยาให้ลอยไปทางพวกมือสังหาร“มีพิษ!”มือสังหารที่พุ่งมาข้างหน้าชะงักไปทันที แล้วก้าวถอยหลังโดยมิรู้ตัว ป้าวซวนจึงรีบคว้าเฉียวไป๋แล้ววิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วมือส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1854

    เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินดังนั้นก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที แล้วรีบเอ่ยถามรัว ๆ อย่างร้อนใจ “เหตุใดคุณชายตระกูลเฉียวจึงอยู่ที่เมืองจงกวน? คนที่มาคือผู้ใด? หนิงเอ๋อร์ เจ้ารู้จักเขาได้อย่างไร? เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาคือคุณชายตระกูลเฉียวจริง ๆ?”เก๋อฮุ่ยหนิงจึงเล่าเรื่องที่จื่ออวิ๋นจำเฉียวไป๋ได้ให้เขาฟัง แล้วบอกแผนการของตนให้ข้าหลวงเก๋อรู้โดยมิปิดบังด้วยสุดท้าย เก๋อฮุ่ยหนิงก็เอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ “ขอเพียงท่านพ่อส่งยอดมือสักสองสามคนมาแสดงร่วมกับข้า ให้ข้าได้เป็นวีรสตรีช่วยเหลือบุรุษรูปงาม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเฉียวไป๋จะต้องรู้สึกขอบคุณข้าอย่างแน่นอน!”“เมื่อกอปรกับความสามารถและความงามของข้าแล้ว ในท้ายที่สุดคุณชายเฉียวจะต้องแต่งงานกับข้าอย่างแน่นอน!”เมื่อข้าหลวงเก๋อได้ยินว่าเก๋อฮุ่ยหนิงได้คิดแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ในที่สุดเขาก็มองลูกสาวที่มิเป็นที่สนใจมาโดยตลอดผู้นี้ในมุมมองที่ต่างออกไป นางเป็นคนที่มีกล้าหาญ มีความฉลาด มีกลยุทธ์และมีความเด็ดขาด หากสตรีเช่นนี้มุ่งเป้ามาที่ตน ตนไม่มีทางหนีพ้นจากเงื้อมมือของนางได้แน่คุณชายตระกูลเฉียวเองก็เป็นบุรุษเช่นกัน เขาเชื่อว่าคุณชายตระกูลเฉี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1853

    ฮูหยินเก๋อมิได้เข้าใจความพยายามของข้าหลวงเก๋อในทันที และยังคงรู้สึกเสียใจกับเงินห้าพันตำลึงนี้อยู่ ข้าหลวงเก๋อเห็นว่านางมิเข้าใจ จึงลากนางเดินออกไปจากนั้นข้าหลวงเก๋อจึงบอกความตั้งใจของตนให้ฮูหยินเก๋อฟังอย่างง่าย ๆ ฮูหยินเก๋อจึงได้สติคืนมาการที่สามีได้เลื่อนขั้นไปในตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้นย่อมเป็นสิ่งฮูหยินเก๋ออยากเห็นอยู่แล้ว แม้ว่านางจะทำใจมิได้แต่ก็ทำได้เพียงนำตั๋วเงินห้าพันตำลึงมามอบให้หลิงอวี๋และเพื่อเป็นการดึงตัวหลิงอวี๋ให้มาทำงานกับสามี ฮูหยินเก๋อจึงพยายามพูดความดีของข้าหลวงเก๋ออย่างเต็มที่ ทั้งยังพูดออกไปอย่างมิปิดบังอีกว่า ขอเพียงหลิงอวี๋ติดตามพวกเขาไปเป็นหมอประจำตระกูลเก๋อที่เมืองหลวงแดนเทพ นางจะมิทำให้หลิงอวี๋ต้องลำบากอย่างแน่นอนเมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น จึงได้รู้ว่าที่ข้าหลวงเก๋อให้เงินเป็นจำนวนมากนั้นเพราะมีเจตนาแอบแฝง นางจึงลังเลขึ้นมาทันทีหากพูดด้วยใจที่เป็นกลางแล้วละก็ นางมิยินยอมที่จะเป็นทาสของตระกูลเก๋อ เพราะหากเป็นเช่นนั้นนางจะสูญเสียอิสรภาพไปแต่เมื่อหลิงอวี๋คิดว่า นางเองก็ต้องไปที่เมืองหลวงแดนเทพเช่นกัน และบางทีก็อาจจะพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ด้วย การที่มีตระกูล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1852

    เก๋อฮุ่ยหนิงมองไปแล้วก็เกือบจะอาเจียนออกมา“คุณหนูสาม หมอเจียงได้นำถุงน้ำออกมาแล้วเจ้าค่ะ นางให้บ่าวยกออกมาให้พวกท่านดู! ตอนนี้หมอเจียงกำลังเย็บแผลของฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ คงจะต้องใช้เวลาสักพักเจ้าค่ะ!”นางรับใช้ใช้ตัวน้อยยกสิ่งที่อยู่ในจานให้ทุกคนดู เมื่อฮูหยินเก๋อและคุณหนูคนอื่น ๆ เห็นก็ตกใจจนรีบเบือนสายตาไปทางอื่นในทันทีเก๋อฮุ่ยหนิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจอยู่ภายในใจ หมอที่ตนเชิญมารักษาฮูหยินผู้เฒ่าเก่งกาจถึงเพียงนี้ ตนช่างมีสายตาที่หลักแหลมเสียจริง!“ยกถุงน้ำไปให้ท่านพ่อดูสิ ท่านพ่อจะต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ในที่สุดโรคของท่านย่าก็รักษาหายแล้ว!”เก๋อฮุ่ยหนิงจงใจเอ่ยขึ้นมานางรับใช้ตัวน้อยจึงทำตามคำสั่งแล้วยกไปให้ข้าหลวงเก๋อดูเก๋อฮุ่ยซินและฮูหยินเก๋อต่างก็มองหน้ากัน ทั้งสองคนต่างก็โกรธมาก ๆหากฮูหยินผู้เฒ่าหายดีแล้ว เช่นนั้นก็แสดงว่าฮูหยินเก๋อยังต้องถูกฮูหยินผู้เฒ่ากดขี่ต่อไปอีก และจะมิได้สิทธิ์ดูแลตระกูลเก๋อด้วยทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะเก๋อฮุ่ยหนิง!ในชั่วขณะหนึ่งฮูหยินเก๋ออยากจะตีนางสารเลวผู้นี้ให้ตายไปเสีย นางถึงกับแอบสาบานว่า นางจะต้องหาคู่แต่งงานที่น่ารังเกียจที่สุดให้ก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1851

    เมื่อหลิงอวี๋ไปถึงบ้านตระกูลเก๋อ ตอนนี้เก๋อฮุ่ยหนิงมองหลิงอวี๋แตกต่างออกไปแล้ว ที่แท้หมอเจียงก็มีตระกูลเฉียวสนับสนุนอยู่ นางจึงได้กล้าหาญมิเกรงกลัวอำนาจของตระกูลเก๋อเช่นนี้!กระต่ายน้อยที่หลิงอวี๋ผ่าท้องไปนั้นยังมีชีวิตอยู่ดี ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจึงยิ่งรู้สึกสนใจที่จะให้หลิงอวี๋ทำการรักษานางแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจะรู้สึกสนใจขึ้นมาแล้ว แต่หากยังมิผ่านการยินยอมจากลูกชายเสียก่อน นางก็มิอาจตัดสินใจเองโดยพลการได้ ข้าหลวงเก๋อจึงถูกเชิญมา นับเป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้พบกับใต้เท้าข้าหลวงเมืองจงกวนผู้นี้เขาอายุสี่สิบกว่า ดูมีชีวิตชีวา เขามีใบหน้ารูปเหลี่ยม จมูกงุ้มเล็กน้อยและมีดวงตาลึกเขามองประเมินหลิงอวี๋ แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “หมอเจียง ท่านแม่ของข้าเทียบกับกระต่ายมิได้หรอกนะ ชีวิตของนางมีค่ามากกว่ากระต่ายตัวนั้นร้อยเท่า เจ้าแน่ใจหรือว่าการผ่าตัดให้นางจะมิเป็นอันตราย?”หลิงอวี๋เผชิญหน้ากับข้าหลวงเก๋อผู้มีอำนาจ โดยมิได้แสดงความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอจนเกินไป “ท่านใต้เท้าเก๋อ แม้ว่าชีวิตของฮูหยินผู้เฒ่าจะล้ำค่ากว่ากระต่ายตัวนั้นแต่ก็เป็นชีวิตเจ้าค่ะ ข้าได้พ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1850

    เก๋อฮุ่ยหนิงครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง จากที่จื่ออวิ๋นเล่ามา เนื้อตัวของเฉียวไป๋เต็มไปด้วยบาดแผล และหมอเจียงก็เป็นหมอ ดังนั้นบางทีนางอาจจะช่วยชีวิตเฉียวไป๋เอาไว้ก็ได้เฉียวไป๋อยู่ที่นี่ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงแดนเทพเกือบพันลี้ ดังนั้นขอเพียงตนยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เฉียวไป๋จดจำความดีของตนเอาไว้ แล้วค่อยยุให้ท่านย่าออกหน้า การแต่งงานครั้งนี้ก็จะมีแนวโน้มประสบความสำเร็จถึงแปดหรือเก้าในสิบแล้วแต่จะเข้าใกล้เฉียวไป๋ได้อย่างไรกัน?เก๋อฮุ่ยหนิงมิคิดว่า หากตนเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับเฉียวไป๋ก่อน เขาก็คงจะสนใจนางปกติแล้วคุณชายตระกูลขุนนางเหล่านี้มักจะมิเห็นใครอยู่ในสายตาทั้งนั้น หากมิใช่คนพิเศษสักหน่อย เฉียวไป๋ไม่มีทางยอมให้ตนเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด!“จื่ออวิ๋น เจ้าไปสืบมาทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตระกูลเฉียว เหตุใดคุณชายเฉียวจึงมาลำบากอยู่ที่นี่ได้!”“และหากสืบมาได้ว่าคุณชายเฉียวชอบอะไรก็จะยิ่งดี!”เก๋อฮุ่ยหนิงรู้สึกว่า เมื่อก่อนนั้นตนยอมรับความลำบากมาโดยตลอด จึงได้ถูกเก๋อฮุ่ยซินแย่งชิงเรื่องการแต่งงานไป แต่ครั้งนี้มิว่าอย่างไรนางก็จะต่อสู้เพื่อตนเองให้ได้หากว่ามิสำเร็จ นางค่อยยอมรับชะตากรรมก็ได้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status