Share

บทที่ 1527

Author: กานเฟย
เมื่อครู่ชั่วพริบตาหลิงอวี๋เห็นสายตาโกรธแค้นของนางซุนที่มีต่อตน นางจึงรู้สึกมิค่อยสบายใจ

แต่เมื่อคิดว่าเมื่อก่อนป้าสะใภ้ใหญ่ดีต่อตน หลิงอวี๋ก็มิได้คิดเล็กคิดน้อยกับนาง

“ป้าสะใภ้ใหญ่ หากท่านรู้สึกว่าการที่ข้าไล่ท่านลุงออกไปมันมิดีต่อเขา ท่านก็เรียกเขากลับมาเถิด!”

หลิงอวี๋ตัดสินใจว่าต่อไปจะมิยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องสามีภรรยาของลุงกับป้าแล้ว จึงเอ่ยออกไป

“เรื่องนี้เอาไว้ค่อยคุยทีหลังเถิด!”

นางซุนเอ่ยพอเป็นพิธี

ทั้งสองคนเดินไปคุยไปจนไปถึงหน้าประตูตำหนักกระดิ่งทอง

ขันทีเหอเห็นก็รีบเข้าไปรายงานเซียวหลินเทียน

เซียวหลินเทียนจัดการเรื่องบ้านเมืองไปพอประมาณแล้ว จึงชี้ที่สาส์นกราบทูลบนโต๊ะแล้วเอ่ยกับขุนนางทั้งหมด

“สาส์นกราบทูลที่ขุนนางทั้งหลายฟ้องร้องฮองเฮามาข้าได้อ่านหมดแล้ว เช้านี้จะตอบในคราวเดียว”

“สิ่งที่เหล่าขุนนางเป็นห่วงที่สุดก็คือ เรื่องที่ฮองเฮาแย่งชิงทรัพย์สินจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนเพื่อพ่อและเรื่องที่รังแกหลิงเสียงกังกับภรรยา วันนี้ข้าตั้งใจเชิญนางซุนฮูหยินหลิงผู้อยู่ในเหตุการณ์มาเล่าสถานการณ์ให้ชัดเจน!”

“ฮองเฮาและนางซุนเข้าตำหนัก!”

หลิงอวี๋กับนางซุนได้ยินเสียงเรียกก็เข้าไปตำหน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1528

    คำพูดของนางซุนทำให้เกิดความโกลาหลในราชสำนักทันทีมีคนตะโกนขึ้นมาอย่างมิอยากจะเชื่อ “หกแสน? รักษาอาการปวดหัวต้องให้เงินมากเกินความเป็นจริงเช่นนี้เชียวหรือ! เช่นนั้นในเมืองหลวงนี้ใครจะมีปัญญาไปหาหมอ!”“ฮองเฮาช่างมีวิธีการในการหาเงินเพิ่มโดยแท้!” มีคนเหยียดหยามออกมาอย่างมิหวังดี“หลิงเสียงกังเป็นท่านลุงของพระนาง ยังใจดำเรียกเงินถึงเพียงนี้ เช่นนั้นคนอื่นก็มิอยากจะคิดเลย!”“ข้าว่าพวกเรามิต้องเป็นขุนนางแล้ว ไปเรียนแพทย์กันดีกว่า ที่แท้การตรวจผู้ป่วยคนหนึ่งก็ได้เงินมากกว่าว่าพวกเราทำงานตลอดชีวิตเสียอีก!”สีหน้าของเซียวหลินเทียนเรียบเฉยไปทันที นางมิอาจเชื่อได้ว่านางซุนจะเป็นคนเช่นนี้ ที่กล้าพูดจาเหลวไหลใส่ร้ายหลิงอวี๋ตนคิดว่านางซุนเป็นป้าสะใภ้ใหญ่ของหลิงอวี๋ ดีกับหลิงอวี๋มาโดยตลอด จึงตั้งใจเชิญนางมาที่ราชสำนักเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหลิงอวี๋ไหนเลยจะคิดว่าจะเชิญคนที่กดหลิงอวี๋อย่างหนักที่สุดมา!“ปัง!”เซียวหลินเทียนตบโต๊ะอย่างทนมิไหวพลางตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว “นางซุน เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดสิ่งใด?”“นี่เจ้ากำลังใส่ร้ายฮองเฮาอยู่นะ!”นางซุนหมอบลงกับพื้นพลางเอ่ยเสียงสั่น “ฝ่าบา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1529

    ใจของหลิงอวี๋เย็นเยียบราวกับตกลงในถังน้ำแข็งหากแม้แต่คนที่เห็นใจท่านแม่ยังมิสามารถเชื่อใจได้ เช่นนั้นยังจะสามารถเชื่อผู้ใดได้อีกกัน?“อาอวี๋...”เดินไปถึงริมสระน้ำ เซียวหลินเทียนเห็นว่าสายตาของหลิงอวี๋ว่างเปล่าก็ทนมิไหวแล้วจริง ๆ จึงดึงนางให้หยุดมือทั้งสองของเขาประคองที่ใบหน้าของนางให้นางมองตนเอาไว้“นางซุนมิคู่ควรให้เจ้าต้องเศร้าหมองเพราะนางเช่นนี้!”“เจ้าอย่าได้กลัว! แม้ว่าทุกคนในใต้หล้าจะหันหลังให้เจ้า ข้าก็จะยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าอย่างแน่วแน่ ข้าจะคอยป้องกันลมป้องกันฝนให้เจ้าเอง!”เซียวหลินเทียนออกแรงเขย่าหลิงอวี๋ ดวงตาคู่สวยของหลิงอวี๋สะท้อนใบหน้ารูปงามของเซียวหลินเทียนออกมานางก็มองเซียวหลินเทียนอยู่นิ่ง ๆ เช่นกัน นี่คือประโยคที่เซียวหลินเทียนพูดได้น่าฟังที่สุดนับตั้งแต่รู้จักกันมา!นางสามารถเชื่อได้หรือไม่?หลิงอวี๋เอ่ยพึมพำ “หม่อมฉันยังมีท่าน?”“ใช่ เจ้ายังมีข้า!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “ข้าไม่มีทางยอมให้ผู้ใดรังแกเจ้า แม้แต่นางซุนก็มิได้!”“ข้าเป็นจักรพรรดิ หากแม้แต่การปกป้องเจ้ายังทำมิได้ เช่นนั้นการนั่งในตำแหน่งนี้จะมีความหมายอะไร!”“อาอวี๋ เรื่องนี้เจ้ามิต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1530

    ทรยศก็คือทรยศ! ความลำบากอะไรก็มิใช่เหตุผล!หลังจากพิจารณาคำพูดของหลิงอวี๋อย่างละเอียดแล้ว พวกหลิงซวนล้วนชอบนางซุนเข้าวังมาก็มาที่พระตำหนักคุนหนิงก่อน จากนั้นก็ไปที่ตำหนักกระดิ่งทองกับหลิงอวี๋ระหว่างเส้นทางนี้ นางมีโอกาสตั้งมากมายที่สามารถบอกความลำบากใจของตนกับหลิงอวี๋ได้ แต่นางซุนมิได้พูดสิ่งใดแล้วไปโจมตีหลิงอวี๋ในตำหนักกระดิ่งทอง!นี่หมายความว่าอย่างไรเล่า?หมายความว่านางซุนตั้งใจที่จะทรยศหลิงอวี๋!หมายความว่าในใจของนางซุนมิได้มองหลิงอวี๋เป็นคนในครอบครัว!สิ่งที่ทำให้ฮองเฮาปวดใจมิเพียงแต่การทรยศของนางซุน แต่ยังมีความมิเชื่อใจของนางซุนด้วย!ดังนั้น แม้ว่านางจะมีความลำบากก็มิคู่ควรกับการให้อภัย!สิ่งที่ทำให้หลิงซวนมิกล้าคิดลึกลงไปก็คือ หลิงหว่าน...การที่นางซุนทำเรื่องเหล่านี้ คุณหนูหลิงหว่านรู้หรือไม่?เพื่อนาง ฮองเฮาไปหานางที่เจิ้งโจวโดยมิกลัวอันตรายและปฏิบัติต่อหลิงหว่านอย่างดีมาตลอดเช่นกันโรงงานเวชสำอางที่หลิงหว่านเปิดก็ล้วนเป็นสูตรที่ฮองเฮาให้โดยมิเห็นแก่ตัวหากหลิงหว่านรู้เรื่องที่นางซุนจะทำแต่กลับมิบอกฮองเฮา เช่นนั้นก็จะเป็นการทรยศหลิงอวี๋เหมือนกับนางซุน!มิน่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1531

    นางซุนเดินกลับจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนราวกับเดินละเมอท่านอดีตเสนาบดียังมิรู้ว่าในวังเกิดเรื่องราวเช่นนี้จึงมิได้เอ่ยถามสิ่งใดมากนางซุนเดินกลับไปในห้อง หลังจากปิดประตูแล้วก็คว้าแม่นมที่ติดตามนางเข้าวังพลางเอ่ย “ข้าพูดตามที่พวกเจ้าบอกแล้ว เมื่อใดพวกเจ้าจะปล่อยสามีข้ากับหลิงหว่าน?”แม่นมผลักนางออกแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย “รีบร้อนอะไรเล่า? ขอเพียงเจ้าทำตามที่พวกเราต้องการ หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านก็จะกลับมาได้อย่างปลอดภัย!”ทันทีที่แม่นมเอ่ยปาก มิได้มีคนนอกอยู่ก็มิได้ปิดบังตน ก็เป็นเสียงของสาวน้อยผู้หนึ่งนางซุนถูกผลักจนโซเซไปล้มลงที่พื้น นางจ้องแม่นมอย่างโกรธเกรี้ยวพลางแผดเสียงใส่ “คำพูดของพวกเจ้าเชื่อถือมิได้ จะให้ข้าเชื่อพวกเจ้าอีกได้อย่างไร!”“เจ้าไม่มีทางเลือก!”แม่นมยิ้มอย่างดูถูก พลางเอ่ยเตือน “นางซุน หากต้องการให้หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านกลับมา เจ้าก็เชื่อฟังเสียดี ๆ!”“อย่าได้เล่นลูกไม้ใด ๆ เป็นเด็ดขาด มิเช่นนั้นคนของข้าจะสังหารหลิงหว่านก่อน แล้วค่อยสังหารหลิงเสียงกังเป็นรายต่อไป แล้วเจ้าจะมิได้สิ่งใดทั้งนั้น!”หลังจากพูดจบ แม่นมก็เดินออกไปนางซุนทรุดนั่งลงที่พื้นอย่างหดหู่ แล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1532

    เผยอวี้ฟังแล้วชะงักนิ่งไป แม่ของหลิงหว่านร้องเรียนหลิงอวี๋หรือ?“ท่านพ่อ นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ขอรับ?”เผยอวี้เอ่ยอย่างร้อนใจ “หากมิพูดให้ชัดเจน ข้าก็ขอยืนกรานว่าจะมิถอนหมั้น!”วันนี้ใต้เท้าเผยก็ไปราชสำนักในช่วงเช้ามาเช่นกัน จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตำหนักกระดิ่งทองให้เผยอวี้ฟังเผยอวี้ได้ยินว่าความตั้งใจเดิมของเซียวหลินเทียนคือจะให้นางซุนมาเป็นพยานให้หลิงอวี๋ ผลก็คือนางซุนกลับซ้ำเติมผู้อื่นในยามอันตราย ผลักหลิงอวี๋ลงไปสู่เหวลึกเผยอวี้มิอาจเชื่อหูตน นี่คือเรื่องที่นางซุนทำจริง ๆ หรือ?“ข้ามิเชื่อ บางทีนางซุนอาจจะมีความยากลำบากใด ข้าจะไปถามหลิงหว่าน!”เผยอวี้รีบร้อนตรงไปที่บ้านตระกูลหลิงโดยมิสนใจแม้แต่จะเปลี่ยนชุดแต่ในยามนี้ ท่านอดีตเสนาบดีได้รู้เรื่องที่นางซุนใส่ร้ายหลิงอวี๋ต่อหน้าเหล่าขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ที่ตำหนักกระดิ่งทองจากปากของคนรับใช้แล้ว เขาโกรธจนตัวสั่น หยิบไม้เท้าตรงไปที่เรือนของนางซุนแต่ประตูเรือนของนางซุนปิดสนิท ท่านอดีตเสนาบดีใช้ไม้เท้าเคาะประตูจนเสียงดังลั่น นางซุนก็มิเปิดประตู“นางซุน ฮองเฮามิได้ปฏิบัติต่อเจ้ามิดี สินสอดที่แม่ของนางทิ้งไว้ก็แบ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1533

    ระหว่างทางที่มาเผยอวี้ได้ยินการพูดคุยกันเหล่านั้น เขาก็ยังรู้สึกว่ายากที่จะเชื่อ“โชคร้ายเสียจริง!”ท่านอดีตเสนาบดีส่ายหน้าทอดถอนใจ “ข้ามิรู้เลยว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับนางซุน เหตุใดนางจึงทำเรื่องเช่นนี้ลงได้!”“เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ขอรับ?”เผยอวี้เอ่ยถามอย่างร้อนใจ “ข้าอยากพบหลิงหว่าน อยากฟังว่านางจะว่าอย่างไร!”“หลิงหว่านมิได้อยู่ที่จวน ฮูหยินใหญ่บอกว่านางไปดูการเพาะปลูกวสันตฤดูที่ไร่นาแล้ว!” กู่ซุ่ยเอ่ย“ไร่นาที่ใดขอรับ?” เผยอวี้ซักไซ้ไล่เลียงกู่ซุ่ยก็มิแน่ชัด ก่อนหน้านี้นางซุนดูแลจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน ส่วนกู่ซุ่ยเป็นเพียงอนุ จะมีอำนาจใดไปถามเรื่องของพวกนางเผยอวี้อยากไปพบนางซุน แต่ก่อนไปก็ซักถามเรื่องราวทั้งหมดเสียก่อนท่านอดีตเสนาบดีเล่าเรื่องที่ตนรู้ให้เขาฟัง สุดท้ายก็เอ่ยออกไป “ฮองเฮาหวังดีต่อนางซุน จึงบีบให้หลิงเสียงกังจ่ายเงินชดเชยให้นางหกแสน!”“เรื่องนี้มิใช่อย่างที่ภายนอกบอกต่อกันออกไป ฮองเฮาจะให้หลิงเสียงกังทำการผ่าตัด แต่มิได้ต้องการเงินของหลิงเสียงกังสักตำลึง!”เผยอวี้เองก็มิเชื่อว่าหลิงอวี๋จะเก็บค่ารักษากับหลิงเสียงกัง เมื่อรู้เรื่องพอประมาณแล้วก็ให้นางรับ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1534

    เผยอวี้รีบร้อนออกจากเรือนของนางซุนและออกไปโดยมิได้กล่าวลาท่านอดีตเสนาบดี จากนั้นก็ตรงเข้าวังไปหาเซียวหลินเทียนเพื่ออธิบายแทนนางซุนแต่เผยอวี้ยังมิทันได้เข้าวัง แม่ทัพเฉินกับฉินซานก็รีบร้อนเข้าวังไปแล้วสาเหตุนั้นคือ ชาวบ้านหลายหมู่บ้านที่ฉินซานรับผิดชอบเรื่องการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงพากันไปที่ว่าการอำเภอท้องถิ่น และทำการประท้วงที่เอาที่ดินหมู่บ้านของตนไปสร้างโรงเลี้ยงวัวนมทันทีที่ฉินซานทำความเข้าใจสาเหตุ ก็มิรู้ว่าผู้ใดแพร่ข่าวออกไปว่าที่ราชสำนักจะสร้างโรงเลี้ยงวัวนั้นมิได้นึกถึงราษฎรแต่ที่คิดจะสร้างโรงเลี้ยงวัวแล้วรีดนมวัวเอาไปให้ฮองเฮาผู้เลวร้ายใช้อาบน้ำแม้ว่านมวัวจะมีกลิ่นคาว แต่เมื่อเทียบกับการไม่มีอะไรกินในยามอดอยากแล้ว นมวัวก็สามารถทำให้ลูกของคนจนส่วนหนึ่งอิ่มท้องได้เมื่อได้ยินว่าการเลี้ยงวัวนมที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้เพื่อให้ฮองเฮาใช้อาบน้ำ ชาวบ้านที่โง่เขลาเหล่านี้ก็โกรธขึ้นมาทันทีพวกเขาจำนวนมากยังมิอาจอิ่มท้องได้ แต่ฮองเฮากลับมิสนใจยังจะให้ทาสเช่นพวกนางเลี้ยงวัวนมเพื่อจะรีดนมวัวไปให้นางอาบน้ำอีกเช่นนี้จะทนได้อย่างไรเล่า!“พวกเรามิต้องการฮองเฮาที่เลวร้ายและทุจริตเช่นนี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1535

    ฉินซานร้อนใจขึ้นมา “ฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินเรื่องข่าวลือในสองวันมานี้แล้ว ฮองเฮามิได้เลวร้ายรังแกราษฎรและใช้อำนาจบาตรใหญ่กับคนในชนบทดังที่พวกเขาพูดกัน!”“ฝ่าบาท หากท่านทำเช่นนี้ เช่นนั้นฮองเฮา...”“รองเจ้ากรมฉิน!”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วตัดบทของเขาอย่ามิพอใจ “ข้ามิได้เข้าใจฮองเฮามากไปกว่าเจ้าหรือ? ฮองเฮาเป็นคนเช่นไร ข้ารู้ดี!”“ข่าวลือตามตรอกซอกซอยในสองวันนี้ หากสงบก็อยู่เพียงในตรอกซอกซอยนั้น ยังมีสิ่งใดที่ทำให้ข่าวแพร่กระจายไปเร็วยิ่งกว่างานเลี้ยงท้องถนนเล่า!”ฉินซานหน้าแดงขึ้นมาทันที เขาเร่งรีบเกินไปจนลืมในจุดนี้“จริงสิ เนื่องจากที่แคว้นเล็กมาประชุม ข้าอยากใช้เป็นข้ออ้างในการจัดงานเลี้ยงท้องถนนเพื่อให้พวกเขาเห็นถึงความรุ่งเรืองของฉินตะวันตก!”ฉินซานเคารพแผนการของเซียวหลินเทียนมาก แล้วสบตากับแม่ทัพเฉินที่มองอยู่ข้าง ๆ มาโดยตลอด พลางเอ่ยพร้อมกัน “ฝ่าบาทโปรดวางพระทัยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมจะให้ความร่วมมือกับฝ่าบาทจัดงานเลี้ยงท้องถนนนี้ให้ดีอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”“นี่เวลาอะไร พวกเจ้ายังมีกะจิตกะใจจัดงานเลี้ยงท้องถนนอีก!”เผยอวี้รีบร้อนมา เมื่อเข้าประตูมาได้ยินสองประโยคท้ายก็เอ่ยอย่า

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1930

    ก็มิรู้ว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน!เป็นเพราะได้ยินหยางหงหนิงบอกว่าเย่หรงชอบหลิงอวี๋หรือ?หรือเป็นเพราะเมื่อครู่ได้ยินเย่หรงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตัวเขาไร้ประโยชน์ และไม่มีอะไรดี?หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเคยได้ยินผู้รอบรู้เล่าเรื่องภูมิหลังของเย่หรง เมื่อหลิงอวี๋เห็นเย่หรงจึงไม่มีความระแวดระวังดังเช่นก่อนหน้านี้นี่คือคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง!หลิงอวี๋มองใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างประหม่า “คุณชายเย่ ข้ามิได้ตั้งใจจะแอบฟัง ข้าแค่ผ่านมา… แค่ผ่านมาเท่านั้นเอง!”เย่หรงจ้องมองนางอย่างดุร้าย และเมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของศิษย์น้อยของเย่ซื่อฝาน ดูมิคล้ายกับพูดโกหกอยู่ เขาก็เอ่ยถามอย่างมิคาดคิด “เจ้าดื่มสุราเป็นหรือไม่?”เอ๊ะ นี่คือคำถามอะไรกัน?“มินับว่าดื่มเป็นเจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยความเขินอายนางมิรู้ด้วยซ้ำว่าตนสามารถดื่มได้มากแค่ไหน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าดื่มเป็นหรือไม่“ไป ข้าจะเลี้ยงสุราเจ้าเอง!”เย่หรงมิพูดพร่ำทำเพลง แล้วเดินเข้ามาคว้าแขนของหลิงอวี๋เดินไป“คุณชายเย่ ข้าไปดื่มกับท่านมิได้เจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ตกใจ แล้วก็ดิ้นรนพลางเอ่ยออกมาแม้แต่คนตาบอดก็ยังมองเห็นชัดเจนว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1929

    เย่ซื่อฝานทำการสอนหลิงอวี๋เป็นเวลาครึ่งวันแล้วก็กังวลว่า นางจะมิสามารถดูดซับความรู้ไปได้ทั้งหมด ในเวลาที่เหลือจึงปล่อยให้หลิงอวี๋ทำความคุ้นเคยกับเครื่องยาสมุนไพรด้วยตนเองหลิงอวี๋จึงขออนุญาตจากเย่ซื่อฝาน เรียนรู้อยู่ในห้องปรุงโอสถของเย่ซื่อฝานไปในตอนอาหารเที่ยง เย่ซื่อฝานก็ชวนหลิงอวี๋ไปกินข้าวด้วยกัน แต่หลิงอวี๋ปฏิเสธ บอกว่าตนมีอาหารแห้งมาแล้วเย่ซื่อฝานหมดคำพูดไปเลย เขาคำนึงถึงหลิงอวี๋ว่าเป็นเพราะความภาคภูมิใจในตนเองอาจทำให้เกิดปัญหา จึงมิอยากกินอาหารร่วมกับคนตระกูลเย่ เขาจึงให้คนรับใช้นำอาหารกลางวันไปให้หลิงอวี๋เพียงลำพังหลิงอวี๋ยืมใช้เตากลั่นโอสถของเย่ซื่อฝาน แล้วทำการกลั่นโอสถเสริมพลังวิญญาณไปสองเตา แต่มีอัตราความสำเร็จเพียงสี่ส่วนเท่านั้นนี่เป็นเพราะว่าพลังของหลิงอวี๋ในตอนนี้มิเพียงพอ จึงทำให้หลิงอวี๋ยิ่งมุ่งมั่นที่จะดึงเข็มเงินออกมากขึ้นหลิงอวี๋นำโอสถไปเพียงขวดเดียว ส่วนที่เหลือก็ถือเป็นการชดเชยการใช้เครื่องยาสมุนไพรของเย่ซื่อฝานไปเสียนอกจากนี้ หลิงอวี๋ยังใช้เครื่องยาสมุนไพรของเย่ซื่อฝานทำสองสิ่งด้วย นั่นก็คือจัดเตรียมเป็นยาพิษหนึ่ง และยาแก้พิษอีกหนึ่งนางพูดไปแล้วว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1928

    กระทั่งผู้รอบรู้ฝ่าฝนกลับเข้ามา เขาก็เห็นหลิงอวี๋กำลังนั่งอยู่บนธรณีประตูที่ถูกทำลาย พร้อมทั้งมีห่อสัมภาระเล็ก ๆ สองห่อวางอยู่ข้างกาย“น้องหญิง… มันเกิดอะไรขึ้น? ใครเป็นคนทำ?”เมื่อผู้รอบรู้เห็นประตูใหญ่ถูกทำลายไป เขาก็เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ“ท่านพี่ เราอยู่ที่นี่มิได้แล้ว! คืนนี้พวกเราไปอยู่ที่โรงเตี๊ยมกันก่อน แล้ววันพรุ่งค่อยคิดหาทางกันเถิด!”หลิงอวี๋ยืนขึ้นอย่างสงบ แล้วยื่นสัมภาระห่อหนึ่งให้กับผู้รอบรู้เมื่อผู้รอบรู้เห็นความยุ่งเหยิงและเรือนที่ถูกฝนซัดสาด อีกทั้งหลังคาที่พังทลาย เขาก็เข้าใจทุกอย่างในทันที“เหมียวหยางทำหรือ?”“อืม! ไม่มีทางเป็นผู้อื่นนอกจากเขา!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกไป “ท่านพี่ พวกเราไปกันเถิด! ภายในสิบวัน ข้าจะทำให้เหมียวหยางควักเงินออกมาสร้างบ้านของเราใหม่ให้จงได้!”ผู้รอบรู้ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปทางหลิงอวี๋แล้วเขาก็เห็นใบหน้าของนางที่ถูกชะล้างด้วยฝนนั้น เต็มไปด้วยความเย็นชาและความมุ่งมั่น“เจ้าจะทำกระไร?”ผู้รอบรู้มิได้คลางแคลงใจว่าหลิงอวี๋กำลังโอ้อวดหรือไม่ เขามองออกอยู่แล้วว่าที่หลิงอวี๋มั่นใจเช่นนี้นางจะต้องคิดวิธีดี ๆ ออกแล้วแน่นอน“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1927

    ผลลัพธ์ก็คือ หลังจากทดลองไปหนึ่งคืนหลิงอวี๋ได้กลั่นไปแล้วสามเตา และอัตราความสำเร็จสูงที่สุดในการกลั่นโอสถคือเจ็ดส่วนแต่นางก็พอใจแล้ว เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกในการกลั่นโอสถของตน มีอัตราความสำเร็จสูงถึงเพียงนี้ก็นับว่าดีแล้วเมื่อเห็นว่าฟ้าสางแล้ว หลิงอวี๋ก็รีบอาบน้ำและทำอาหารเช้า กระทั่งผู้รอบรู้ตื่นขึ้นมา นางก็นำโอสถที่กลั่นออกมาได้ให้เขาไปขาย และซื้อเครื่องยาสมุนไพรบางส่วนกลับมาอีกหลิงอวี๋วางแผนจะกลั่นโอสถเสริมพลังวิญญาณในคืนนี้แต่สิ่งที่ทำให้หลิงอวี๋และผู้รอบรู้คาดมิถึงก็คือ หลังจากที่ทั้งสองคนออกจากบ้านไป ก็มีกลุ่มคนเข้ามา และเตะประตูเปิดออกอย่างโหดร้าย จากนั้นก็ทุบทำลายเรือนที่พวกเขาสองคนซ่อมแซมกันมาอย่างยากลำบากจนพังยับเยินเตากลั่นโอสถก็ถูกทำลายไปเช่นกัน และเครื่องยาสมุนไพรที่เหลือก็ถูกทำลายไปด้วยวันนี้หลิงอวี๋เรียนครึ่งวัน นางพะวงเรื่องการกลั่นโอสถจึงกลับมาก่อน แต่เดินไปได้ครึ่งทางฝนก็โปรยปรายลงมาแล้วหลิงอวี๋จึงรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว แต่ไปถึงแค่ปากตรอก ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ หลิงอวี๋จึงเปียกโชกเป็นลูกหมาตกน้ำไปในชั่วพริบตาจากนั้นนางก็เร่งฝีเท้าไป และขณะที่กำลังวิ่งอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1926

    เรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์ในเมืองหลวงแดนเทพและตระกูลใหญ่ทั้งหลายนั้น ผู้รอบรู้บอกหลิงอวี๋ไว้หมดแล้วนับตั้งแต่มหาเทพหลงอี้ก่อตั้งแดนเทพขึ้นมา ตระกูลหลงก็ปกครองมาเป็นเวลาแปดร้อยปีแล้วก่อนหน้านี้มีหลงอี้คอยสนับสนุนตระกูลหลงอยู่ ดังนั้นแม้ว่าจะมีคนมิพอใจ แต่พวกเขาก็ล้วนถูกอำนาจเทพของหลงอี้กดขี่ไว้ ทำให้มิสามารถต่อต้านได้แต่ตอนนี้หลงอี้อาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว บรรดาตระกูลใหญ่ที่ถูกกดขี่ไว้เหล่านี้ ผู้ใดจะยอมทนให้ตระกูลหลงกดหัวทุกคนไว้กันเล่า?จากการพัฒนามาหลายร้อยปี ตระกูลใหญ่เหล่านี้ล้วนร่ำรวยพอที่จะเป็นศัตรูกับแผ่นดินได้แล้ว มีลูกหลานอยู่ตั้งมากมาย หากตระกูลใดได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนั้น ก็หมายถึงการเปลี่ยนอำนาจ มีเกียรติยศรุ่งเรืองไร้ขีดจำกัด และสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ได้เองยามนี้ที่ยังอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข นั่นก็เป็นเพราะตระกูลใหญ่เหล่านี้กำลังรอโอกาสอยู่ก่อนที่พายุจะมาถึง สำนักต่าง ๆ ล้วนรับสมัครคนที่มีความสามารถกันอย่างกระตือรือร้น และการกระทำเช่นนี้ของตระกูลหลงนั้น ก็เพียงเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับอำนาจปกครองของตนเองเท่านั้นหลิงอวี๋มิได้สนใจการต่อสู้ภายในเหล่านี้นัก แต่นางกลับถูกดึงเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1925

    ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะออกไป จู่ ๆ นางก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมา จึงเอ่ยถามออกไป “คุณหนูหลง เจ้าประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นแล้วหรือไม่?”เมื่อหลงอิงได้ยินเช่นนั้น นางก็รู้ทันทีว่าหลิงอวี๋ถามนางว่าฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวชอบนางแล้วหรือไม่ การที่นางเอาชนะจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ในครั้งนี้ ทั้งยังกลายเป็นคนที่ได้รับความนิยมในสำนักด้วย ซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากความเสียสละของหลิงอวี๋หลงอิงยังมีจุดที่ต้องใช้หลิงอวี๋อยู่ จึงขยับตัวไปกระซิบที่ข้างหูนาง “สำเร็จไปกึ่งหนึ่งแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวชอบข้ามาก แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเจ้าเล่ห์นั่น มิรู้ว่าใช้กลอุบายอะไรเข้าไปอยู่ในตระกูลเฉียว!”“ผู้ที่อยู่ใกล้ก็ย่อมได้ประโยชน์ก่อนผู้อื่น ข้ากังวลว่านางจะใช้คำพูดสวยหรูมาหลอกลวงฮูหยินผู้เฒ่า ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าไปเข้าข้างนางอีก!”“เฮ้อ มิรู้ว่าเฉียวไป๋รู้สึกอย่างไรกับข้าด้วย ช่างเฉยเมยนัก!”“จริงสิ มีคุณหนูตระกูลเก๋อคนหนึ่ง นางก็ไปตระกูลเฉียวทุกวันเช่นกัน ว่ากันว่านางเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเฉียวไป๋ไว้!”“เฮ้อ ชีวิตข้าช่างขมขื่นเหลือเกิน เหตุใดจึงมีศัตรูหัวใจมากมายถึงเพียงนี้!”ตระกูลเก๋อหรือ? คุณหนูที่หลงอิงพูดถึงผู้นี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1924

    หลิงอวี๋อยู่ในห้อง นางกินโอสถเสริมพลังวิญญาณไปห้าเม็ดในคราวเดียว หลังจากที่นางประสบกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสไป เข็มเงินในท้องน้อยส่วนล่างสุดก็ถูกบีบออกจากในร่างกายของนางหลิงอวี๋รู้สึกเพียงว่า ทันทีที่เข็มเงินออกจากร่างกายไป ภายในตันเถียนก็มีกระแสลมก็พุ่งขึ้นมา ราวกับเขื่อนที่ระบายน้ำออกมา แล้วแรงดันที่มีพลังมหาศาลก็ไหลเข้าสู่ตันเถียนของนางความเจ็บปวดที่ตามมานั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก แรงจนไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ หลิงอวี๋ที่ถูกโจมตีกะทันหันเช่นนั้นจึงมิสามารถทนรับไหว และหมดสติไป“น้องหญิง… น้องหญิง เจ้าตื่นได้แล้ว!”หลิงอวี๋เองก็มิรู้ว่าตนหมดสติไปนานแค่ไหน เมื่อนางตื่นขึ้นมาก็เห็นแววตาที่ทั้งกังวลและทุกข์ใจของผู้รอบรู้แล้ว“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”ผู้รอบรู้เห็นว่าหลิงอวี๋มองตนอย่างสับสน เขาจึงเอ่ยอย่างปวดใจ “รู้สึกแย่มากใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋มองผ่านเขาไปเห็นหน้าต่าง และด้านนอกหน้าต่างนั้นดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว“ท่านพี่ ข้าสลบไปทั้งคืนเลยหรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างมิอยากจะเชื่อ“อืม ข้าตกใจแทบแย่ นึกว่าเจ้าจะตายไปเช่นนี้เสียแล้ว! หากมิใช่ว่าข้าเห็นว่าเจ้ามิได้รับบาดเจ็บอะไร ข้าก็คงจะแบกเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1923

    หลิงอวี๋กอดโอสถสร้างรากฐานปราณและตำราบำเพ็ญตนออกจากบ้านตระกูลเย่ไปตลอดทางนั้นนางก็ได้แต่กังวล เพราะว่าตนถูกผนึกไว้จึงได้สูญเสียพลังไปเช่นนั้นหากฝึกฝนตามวิธีที่เย่ซื่อฝานสอนไว้ แล้วจะเกิดประโยชน์หรือ?หากนางมิสามารถเรียนการบำเพ็ญพลังวิญญาณได้ เย่ซื่อฝานจะผิดหวังในตัวนาง และยอมแพ้กับศิษย์เช่นนางหรือไม่?นางเดินกลับไปที่เรือนเล็กของตนอย่างมิรู้จะทำอย่างไร ผู้รอบรู้กลับมาถึงเรือนก่อนแล้ว เมื่อเขาเห็นหลิงอวี๋เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จึงเอ่ยถามด้วยความกังวล“น้องหญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้น? เย่ซื่อฝานเปลี่ยนใจ มิยอมรับเจ้าเป็นศิษย์แล้วหรืออย่างไร?”“มิใช่!”หลิงอวี๋ส่ายหัว แล้วบอกผู้รอบรู้เรื่องที่เย่ซื่อฝานให้ตนเรียนการบำเพ็ญตนเมื่อผู้รอบรู้ได้ยินเช่นนั้น เขาก็เอ่ยออกมาอย่างมิเห็นด้วยนัก “เจ้าก็บอกเขาไปเถิดว่ามีคนปิดผนึกเจ้าไว้ พลังของเขาก็มิได้ต่ำ เขาน่าจะมีวิธีช่วยปลดผนึกให้เจ้าได้นะ!”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่น “พี่ใหญ่ ข้ามิกล้าบอกเขาหรอก! หากเขาถามข้าว่าใครเป็นคนปิดผนึกข้า ข้าจะอธิบายอย่างไรเล่า?”“นอกจากนี้ ข้าก็กังวลด้วยว่าหากมีคนรู้เรื่องนี้มากเกินไป มันจะดึงดูดศัตรูของข้าเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1922

    “ท่านอาจารย์ ไป๋จื่อมิใช่กุญแจสำคัญของการทำยาหรอกเจ้าค่ะ แต่เป็นน้ำต่างหาก!”หลิงอวี๋ตอบออกไปอย่างอดทน “ในตอนที่ข้าระบุส่วนผสมยา ข้าพบว่าในโอสถชะลอวัยนั้นมีน้ำตะกั่วอยู่เจ้าค่ะ!”“ที่จริงแล้วสารตะกั่วนี้มิสามารถนำไปใช้ในเครื่องสำอางได้ แม้ว่ามันจะมีผลในการส่งเสริมการดูดซึมของเครื่องยาสมุนไพรตัวอื่น ๆ เข้าสู่ผิวหนังได้ แต่ตัวมันเองก็เป็นพิษเช่นกันเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋บอกสิ่งที่ตนรู้เกี่ยวกับสารตะกั่วให้เย่ซื่อฝานฟัง เมื่อเย่ซื่อฝานฟังแล้วก็พยักหน้าซ้ำ ๆแวดวงปรุงโอสถรู้เพียงแค่ผลการส่งเสริมการดูดซึมของสารตะกั่วมาโดยตลอด แต่กลับรู้อันตรายของสารตะกั่วเพียงผิวเผินเท่านั้นเมื่อเครื่องยาสมุนไพรที่เลือกใช้กับสารตะกั่วขัดขวางกันและกัน อัตราความสำเร็จในการทำยานั้นก็ย่อมต่ำลงเป็นธรรมดาหลิงอวี๋เลือกใช้เพียงแค่น้ำเปล่า และทิ้งสารตะกั่วไป เมื่อเป็นเช่นนี้น้ำเปล่าก็จะมิสามารถขัดขวางสรรพคุณของเครื่องยาสมุนไพรได้ และอัตราความสำเร็จในการทำยาก็จะสูงขึ้น“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงเติมน้ำปูนใสลงไปในโอสถสมานแผลเล่า?”เย่ซื่อฝานลืมตัวไปเสียสิ้นว่าตัวตนของเขากับหลิงอวี๋ในตอนนี้สลับกันอยู่ น้ำเสียงของเขาคล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status