แชร์

บทที่ 1529

ผู้เขียน: กานเฟย
ใจของหลิงอวี๋เย็นเยียบราวกับตกลงในถังน้ำแข็ง

หากแม้แต่คนที่เห็นใจท่านแม่ยังมิสามารถเชื่อใจได้ เช่นนั้นยังจะสามารถเชื่อผู้ใดได้อีกกัน?

“อาอวี๋...”

เดินไปถึงริมสระน้ำ เซียวหลินเทียนเห็นว่าสายตาของหลิงอวี๋ว่างเปล่าก็ทนมิไหวแล้วจริง ๆ จึงดึงนางให้หยุด

มือทั้งสองของเขาประคองที่ใบหน้าของนางให้นางมองตนเอาไว้

“นางซุนมิคู่ควรให้เจ้าต้องเศร้าหมองเพราะนางเช่นนี้!”

“เจ้าอย่าได้กลัว! แม้ว่าทุกคนในใต้หล้าจะหันหลังให้เจ้า ข้าก็จะยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าอย่างแน่วแน่ ข้าจะคอยป้องกันลมป้องกันฝนให้เจ้าเอง!”

เซียวหลินเทียนออกแรงเขย่าหลิงอวี๋ ดวงตาคู่สวยของหลิงอวี๋สะท้อนใบหน้ารูปงามของเซียวหลินเทียนออกมา

นางก็มองเซียวหลินเทียนอยู่นิ่ง ๆ เช่นกัน นี่คือประโยคที่เซียวหลินเทียนพูดได้น่าฟังที่สุดนับตั้งแต่รู้จักกันมา!

นางสามารถเชื่อได้หรือไม่?

หลิงอวี๋เอ่ยพึมพำ “หม่อมฉันยังมีท่าน?”

“ใช่ เจ้ายังมีข้า!”

เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “ข้าไม่มีทางยอมให้ผู้ใดรังแกเจ้า แม้แต่นางซุนก็มิได้!”

“ข้าเป็นจักรพรรดิ หากแม้แต่การปกป้องเจ้ายังทำมิได้ เช่นนั้นการนั่งในตำแหน่งนี้จะมีความหมายอะไร!”

“อาอวี๋ เรื่องนี้เจ้ามิต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1530

    ทรยศก็คือทรยศ! ความลำบากอะไรก็มิใช่เหตุผล!หลังจากพิจารณาคำพูดของหลิงอวี๋อย่างละเอียดแล้ว พวกหลิงซวนล้วนชอบนางซุนเข้าวังมาก็มาที่พระตำหนักคุนหนิงก่อน จากนั้นก็ไปที่ตำหนักกระดิ่งทองกับหลิงอวี๋ระหว่างเส้นทางนี้ นางมีโอกาสตั้งมากมายที่สามารถบอกความลำบากใจของตนกับหลิงอวี๋ได้ แต่นางซุนมิได้พูดสิ่งใดแล้วไปโจมตีหลิงอวี๋ในตำหนักกระดิ่งทอง!นี่หมายความว่าอย่างไรเล่า?หมายความว่านางซุนตั้งใจที่จะทรยศหลิงอวี๋!หมายความว่าในใจของนางซุนมิได้มองหลิงอวี๋เป็นคนในครอบครัว!สิ่งที่ทำให้ฮองเฮาปวดใจมิเพียงแต่การทรยศของนางซุน แต่ยังมีความมิเชื่อใจของนางซุนด้วย!ดังนั้น แม้ว่านางจะมีความลำบากก็มิคู่ควรกับการให้อภัย!สิ่งที่ทำให้หลิงซวนมิกล้าคิดลึกลงไปก็คือ หลิงหว่าน...การที่นางซุนทำเรื่องเหล่านี้ คุณหนูหลิงหว่านรู้หรือไม่?เพื่อนาง ฮองเฮาไปหานางที่เจิ้งโจวโดยมิกลัวอันตรายและปฏิบัติต่อหลิงหว่านอย่างดีมาตลอดเช่นกันโรงงานเวชสำอางที่หลิงหว่านเปิดก็ล้วนเป็นสูตรที่ฮองเฮาให้โดยมิเห็นแก่ตัวหากหลิงหว่านรู้เรื่องที่นางซุนจะทำแต่กลับมิบอกฮองเฮา เช่นนั้นก็จะเป็นการทรยศหลิงอวี๋เหมือนกับนางซุน!มิน่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1531

    นางซุนเดินกลับจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนราวกับเดินละเมอท่านอดีตเสนาบดียังมิรู้ว่าในวังเกิดเรื่องราวเช่นนี้จึงมิได้เอ่ยถามสิ่งใดมากนางซุนเดินกลับไปในห้อง หลังจากปิดประตูแล้วก็คว้าแม่นมที่ติดตามนางเข้าวังพลางเอ่ย “ข้าพูดตามที่พวกเจ้าบอกแล้ว เมื่อใดพวกเจ้าจะปล่อยสามีข้ากับหลิงหว่าน?”แม่นมผลักนางออกแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย “รีบร้อนอะไรเล่า? ขอเพียงเจ้าทำตามที่พวกเราต้องการ หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านก็จะกลับมาได้อย่างปลอดภัย!”ทันทีที่แม่นมเอ่ยปาก มิได้มีคนนอกอยู่ก็มิได้ปิดบังตน ก็เป็นเสียงของสาวน้อยผู้หนึ่งนางซุนถูกผลักจนโซเซไปล้มลงที่พื้น นางจ้องแม่นมอย่างโกรธเกรี้ยวพลางแผดเสียงใส่ “คำพูดของพวกเจ้าเชื่อถือมิได้ จะให้ข้าเชื่อพวกเจ้าอีกได้อย่างไร!”“เจ้าไม่มีทางเลือก!”แม่นมยิ้มอย่างดูถูก พลางเอ่ยเตือน “นางซุน หากต้องการให้หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านกลับมา เจ้าก็เชื่อฟังเสียดี ๆ!”“อย่าได้เล่นลูกไม้ใด ๆ เป็นเด็ดขาด มิเช่นนั้นคนของข้าจะสังหารหลิงหว่านก่อน แล้วค่อยสังหารหลิงเสียงกังเป็นรายต่อไป แล้วเจ้าจะมิได้สิ่งใดทั้งนั้น!”หลังจากพูดจบ แม่นมก็เดินออกไปนางซุนทรุดนั่งลงที่พื้นอย่างหดหู่ แล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1532

    เผยอวี้ฟังแล้วชะงักนิ่งไป แม่ของหลิงหว่านร้องเรียนหลิงอวี๋หรือ?“ท่านพ่อ นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ขอรับ?”เผยอวี้เอ่ยอย่างร้อนใจ “หากมิพูดให้ชัดเจน ข้าก็ขอยืนกรานว่าจะมิถอนหมั้น!”วันนี้ใต้เท้าเผยก็ไปราชสำนักในช่วงเช้ามาเช่นกัน จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตำหนักกระดิ่งทองให้เผยอวี้ฟังเผยอวี้ได้ยินว่าความตั้งใจเดิมของเซียวหลินเทียนคือจะให้นางซุนมาเป็นพยานให้หลิงอวี๋ ผลก็คือนางซุนกลับซ้ำเติมผู้อื่นในยามอันตราย ผลักหลิงอวี๋ลงไปสู่เหวลึกเผยอวี้มิอาจเชื่อหูตน นี่คือเรื่องที่นางซุนทำจริง ๆ หรือ?“ข้ามิเชื่อ บางทีนางซุนอาจจะมีความยากลำบากใด ข้าจะไปถามหลิงหว่าน!”เผยอวี้รีบร้อนตรงไปที่บ้านตระกูลหลิงโดยมิสนใจแม้แต่จะเปลี่ยนชุดแต่ในยามนี้ ท่านอดีตเสนาบดีได้รู้เรื่องที่นางซุนใส่ร้ายหลิงอวี๋ต่อหน้าเหล่าขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ที่ตำหนักกระดิ่งทองจากปากของคนรับใช้แล้ว เขาโกรธจนตัวสั่น หยิบไม้เท้าตรงไปที่เรือนของนางซุนแต่ประตูเรือนของนางซุนปิดสนิท ท่านอดีตเสนาบดีใช้ไม้เท้าเคาะประตูจนเสียงดังลั่น นางซุนก็มิเปิดประตู“นางซุน ฮองเฮามิได้ปฏิบัติต่อเจ้ามิดี สินสอดที่แม่ของนางทิ้งไว้ก็แบ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1533

    ระหว่างทางที่มาเผยอวี้ได้ยินการพูดคุยกันเหล่านั้น เขาก็ยังรู้สึกว่ายากที่จะเชื่อ“โชคร้ายเสียจริง!”ท่านอดีตเสนาบดีส่ายหน้าทอดถอนใจ “ข้ามิรู้เลยว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับนางซุน เหตุใดนางจึงทำเรื่องเช่นนี้ลงได้!”“เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ขอรับ?”เผยอวี้เอ่ยถามอย่างร้อนใจ “ข้าอยากพบหลิงหว่าน อยากฟังว่านางจะว่าอย่างไร!”“หลิงหว่านมิได้อยู่ที่จวน ฮูหยินใหญ่บอกว่านางไปดูการเพาะปลูกวสันตฤดูที่ไร่นาแล้ว!” กู่ซุ่ยเอ่ย“ไร่นาที่ใดขอรับ?” เผยอวี้ซักไซ้ไล่เลียงกู่ซุ่ยก็มิแน่ชัด ก่อนหน้านี้นางซุนดูแลจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน ส่วนกู่ซุ่ยเป็นเพียงอนุ จะมีอำนาจใดไปถามเรื่องของพวกนางเผยอวี้อยากไปพบนางซุน แต่ก่อนไปก็ซักถามเรื่องราวทั้งหมดเสียก่อนท่านอดีตเสนาบดีเล่าเรื่องที่ตนรู้ให้เขาฟัง สุดท้ายก็เอ่ยออกไป “ฮองเฮาหวังดีต่อนางซุน จึงบีบให้หลิงเสียงกังจ่ายเงินชดเชยให้นางหกแสน!”“เรื่องนี้มิใช่อย่างที่ภายนอกบอกต่อกันออกไป ฮองเฮาจะให้หลิงเสียงกังทำการผ่าตัด แต่มิได้ต้องการเงินของหลิงเสียงกังสักตำลึง!”เผยอวี้เองก็มิเชื่อว่าหลิงอวี๋จะเก็บค่ารักษากับหลิงเสียงกัง เมื่อรู้เรื่องพอประมาณแล้วก็ให้นางรับ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1534

    เผยอวี้รีบร้อนออกจากเรือนของนางซุนและออกไปโดยมิได้กล่าวลาท่านอดีตเสนาบดี จากนั้นก็ตรงเข้าวังไปหาเซียวหลินเทียนเพื่ออธิบายแทนนางซุนแต่เผยอวี้ยังมิทันได้เข้าวัง แม่ทัพเฉินกับฉินซานก็รีบร้อนเข้าวังไปแล้วสาเหตุนั้นคือ ชาวบ้านหลายหมู่บ้านที่ฉินซานรับผิดชอบเรื่องการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงพากันไปที่ว่าการอำเภอท้องถิ่น และทำการประท้วงที่เอาที่ดินหมู่บ้านของตนไปสร้างโรงเลี้ยงวัวนมทันทีที่ฉินซานทำความเข้าใจสาเหตุ ก็มิรู้ว่าผู้ใดแพร่ข่าวออกไปว่าที่ราชสำนักจะสร้างโรงเลี้ยงวัวนั้นมิได้นึกถึงราษฎรแต่ที่คิดจะสร้างโรงเลี้ยงวัวแล้วรีดนมวัวเอาไปให้ฮองเฮาผู้เลวร้ายใช้อาบน้ำแม้ว่านมวัวจะมีกลิ่นคาว แต่เมื่อเทียบกับการไม่มีอะไรกินในยามอดอยากแล้ว นมวัวก็สามารถทำให้ลูกของคนจนส่วนหนึ่งอิ่มท้องได้เมื่อได้ยินว่าการเลี้ยงวัวนมที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้เพื่อให้ฮองเฮาใช้อาบน้ำ ชาวบ้านที่โง่เขลาเหล่านี้ก็โกรธขึ้นมาทันทีพวกเขาจำนวนมากยังมิอาจอิ่มท้องได้ แต่ฮองเฮากลับมิสนใจยังจะให้ทาสเช่นพวกนางเลี้ยงวัวนมเพื่อจะรีดนมวัวไปให้นางอาบน้ำอีกเช่นนี้จะทนได้อย่างไรเล่า!“พวกเรามิต้องการฮองเฮาที่เลวร้ายและทุจริตเช่นนี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1535

    ฉินซานร้อนใจขึ้นมา “ฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินเรื่องข่าวลือในสองวันมานี้แล้ว ฮองเฮามิได้เลวร้ายรังแกราษฎรและใช้อำนาจบาตรใหญ่กับคนในชนบทดังที่พวกเขาพูดกัน!”“ฝ่าบาท หากท่านทำเช่นนี้ เช่นนั้นฮองเฮา...”“รองเจ้ากรมฉิน!”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วตัดบทของเขาอย่ามิพอใจ “ข้ามิได้เข้าใจฮองเฮามากไปกว่าเจ้าหรือ? ฮองเฮาเป็นคนเช่นไร ข้ารู้ดี!”“ข่าวลือตามตรอกซอกซอยในสองวันนี้ หากสงบก็อยู่เพียงในตรอกซอกซอยนั้น ยังมีสิ่งใดที่ทำให้ข่าวแพร่กระจายไปเร็วยิ่งกว่างานเลี้ยงท้องถนนเล่า!”ฉินซานหน้าแดงขึ้นมาทันที เขาเร่งรีบเกินไปจนลืมในจุดนี้“จริงสิ เนื่องจากที่แคว้นเล็กมาประชุม ข้าอยากใช้เป็นข้ออ้างในการจัดงานเลี้ยงท้องถนนเพื่อให้พวกเขาเห็นถึงความรุ่งเรืองของฉินตะวันตก!”ฉินซานเคารพแผนการของเซียวหลินเทียนมาก แล้วสบตากับแม่ทัพเฉินที่มองอยู่ข้าง ๆ มาโดยตลอด พลางเอ่ยพร้อมกัน “ฝ่าบาทโปรดวางพระทัยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมจะให้ความร่วมมือกับฝ่าบาทจัดงานเลี้ยงท้องถนนนี้ให้ดีอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”“นี่เวลาอะไร พวกเจ้ายังมีกะจิตกะใจจัดงานเลี้ยงท้องถนนอีก!”เผยอวี้รีบร้อนมา เมื่อเข้าประตูมาได้ยินสองประโยคท้ายก็เอ่ยอย่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1536

    “ขอฝ่าบาทโปรดอย่าได้พิโรธพ่ะย่ะค่ะ!”เผยอวี้คุกเข่าลง ตอนนั้นเขามิได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้นแล้วเขาก็เข้าใจถึงความโกรธของเซียวหลินเทียนนางซุนช่างเลอะเทอะเสียจริง!“ฝ่าบาท เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ เรื่องการลงโทษนางซุนเอาไว้ค่อยพูดเถิดพ่ะย่ะค่ะ เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือพวกเราต้องคิดหาทางชะล้างความอยุติธรรมให้ฮองเฮา!”เผยอวี้เอ่ยอย่างขมขื่น “เรื่องเกิดจากนางซุน ตามเหตุผลแล้วกระหม่อมก็ควรจะชดใช้แทนนาง!”“ฝ่าบาทประสงค์ให้กระหม่อมทำสิ่งใดก็รับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้กระหม่อมต้องตาย ขอเพียงสามารถช่วยฮองเฮาได้ กระหม่อมก็มิปฏิเสธแม้ต้องตายนับหมื่นครั้ง!”“ลุกขึ้น!”เซียวหลินเทียนโกรธนางซุน แต่กับพี่น้องที่ช่วยเหลือกันและร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมา ก็ยังมิถึงกับจะไประบายความโกรธใส่เขาได้เมื่อครู่ที่เขาฉุนเฉียวถึงเพียงนั้นก็เพราะโกรธแทนหลิงอวี๋!เซียวหลินเทียนเชื่อมโยงเรื่องนี้เข้าด้วยกัน สิ่งเดียวที่เขาเป็นห่วงในตอนนี้คือ มิรู้ว่ามือที่มองมิเห็นนั้นจะเตรียมวิธีการที่เลวร้ายยิ่งกว่าแบบใดมาโจมตีหลิงอวี๋อีก...เขาจำเป็นต้องฉวยโอกาสก่อนที่อีกฝ่ายจะลงมือ พยายาม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1537

    ราชกิจช่วงเช้ายังมิทันจบลง ข่าวเร่งด่วนก็รายงานมาที่ราชสำนักอีกแล้วอาคารของหออักษรสตรีที่หลิงอวี๋สนับสนุนก่อนหน้านี้ถล่มลงมาเมื่อเช้า ทำให้เด็ก ๆ ที่เข้าเรียนอยู่เสียชีวิตสามคนและได้รับบาดเจ็บอีกสิบกว่าคน!“ฝ่าบาท อาคารศึกษานั้นหลี่ต้าหนิวบิดาของหลี่ชุงผู้เป็นลูกศิษย์ของฮองเฮาเป็นผู้สร้าง เขาทุจริตเงินค่าก่อสร้างและใช้วัสดุด้อยคุณภาพทำให้อาคารศึกษาถล่มเช่นนี้!”“ฝ่าบาท หลี่ต้าหนิวอาศัยอำนาจของฮองเฮาจึงได้กล้าหาญเช่นนี้ จะต้องลงโทษอย่างหนักพ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาท แรกเริ่มฮองเฮาบีบให้ลุงของตนออกจากตระกูล ทั้งยังใจดำเรียกค่ารักษาแพงเกินควร ยิ่งกว่านั้นคือหลอกให้ฝ่าบาทเพาะเลี้ยงวัวนมเพื่อความปรารถนาเห็นแก่ตัวของพระนาง!”“ตอนนี้ยังจะยอมให้หลี่ต้าหนิวทุจริตเงินก่อสร้างอาคารศึกษาอีก วิธีการหาเงินนี้เลวร้ายขึ้นในทุก ๆ เรื่องเลยพ่ะย่ะค่ะ!”“หากฝ่าบาทยังยอมให้พระนางอีก แคว้นจะพังพินาศนะพ่ะย่ะค่ะ...”เหล่าผู้ตรวจการเอ่ยอย่างเต็มไปด้วยความแค้นเคืองกันมิหยุด และมีผู้ตรวจการคนเก่าคนแก่ที่อายุใกล้ห้าสิบ เมื่อพูดถึงจุดที่กระทบความรู้สึกก็น้ำตารื้น“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ… นับตั้งแต่โบราณมาวังหลังมิได้มี

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1938

    เช่นนี้ก็แสดงว่า เฉียวไป๋เองก็รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าคนที่ช่วยเขาไว้คือศัตรูของเขา?หลิงอวี๋แอบดีใจที่ตนเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง หลังจากที่หนีออกมาจากเงื้อมมือของเก๋อฮุ่ยหนิง มิเช่นนั้นหากใช้ใบหน้าก่อนหน้านี้ ก็คงจะถูกเก๋อฮุ่ยหนิงสังหารไปแล้วใช่หรือไม่?ดูท่าทางต่อไปตนจะมิสามารถใช้มีดผ่าตัดรักษาคนได้อีกต่อไปแล้ว!หลิงอวี๋ค้นพบแล้วว่า ที่เมืองหลวงแดนเทพนั้นล้วนเป็นหมอโอสถที่รักษาโรค มิว่าจะเป็นโรคอะไร หมอโอสถก็ล้วนใช้เพียงโอสถในการรักษาโรคเท่านั้นส่วนการผ่าตัดนั้น ในตอนนี้กลายเป็นวิธีการรักษาเฉพาะตัวของนางไปแล้วประเดี๋ยวก่อน จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋ตนเป็นคนที่รักษาดวงตาของฮูหยินเว่ยจนหาย ตอนนั้นมีหมอจำนวนมากบอกว่าดวงตาของฮูหยินเว่ยมิสามารถรักษาได้แล้ว หากพวกนางเองก็ได้เห็นหมายจับค่าหัวด้วย พวกนางจะไปเปิดโปงตนให้กับตระกูลเฉียวหรือไม่?ตั้งแต่ที่ตนลงมาจากเรือของตระกูลเว่ย ก็ทำเพียงเปลี่ยนกลับเป็นชุดสตรี แต่มิได้เปลี่ยนการแปลงโฉม!ยิ่งไปกว่านั้น ผู้รอบรู้ก็มิได้แปลงโฉมด้วย เช่นนั้นขอเพียงติดตามเบาะแสเหล่านี้มา การจะตามหาตนก็มิใช่เรื่องยากแล้ว!หากต้องการให้ตนป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1937

    ขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ ทีละก้าว หลิงอวี๋ก็มองพิจารณาฮูหยินทั้งสองของตระกูลเฉียวไปอย่างเงียบ ๆฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเฉียวเป็นเสาหลักของตระกูลเฉียว เฉียวต้าลูกชายของนางซึ่งเป็นผู้นำตระกูลเฉียวตายไปแล้ว และเฉียวเค่อหลานชายที่เป็นที่รักมาโดยตลอดก็ตายไปแล้วเช่นกันฮูหยินผู้เฒ่าที่อายุหกสิบกว่าผู้นี้แก่ตัวลงมากภายในชั่วข้ามคืน และในช่วงนี้ก็นอนซมอยู่บนเตียงอยู่ตลอด นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่นางออกจากบ้านตั้งแต่ที่ลูกชายตายไปนางแต่งตัวเรียบหรูสุภาพเช่นเดียวกับฮูหยินเฉียว และเนื่องจากนางกินโอสถชะลอวัยมาหลายปี ดังนั้นแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวจะอายุหกสิบแล้ว แต่บนใบหน้าของนางก็ไม่มีริ้วรอยแม้แต่น้อย ดูแล้วคล้ายกับเป็นพี่น้องกับฮูหยินเฉียวเลยทีเดียวผมของนางก็เป็นสีดำสนิททั้งหมดเช่นกัน เพียงแต่เป็นเพราะอาการป่วย จึงทำให้สีผิวดูขาวซีดไปเล็กน้อยรูปร่างของฮูหยินเฉียวสูงใหญ่กว่าสตรีทั่วไป นางสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร กระดูกก็ใหญ่เช่นกัน ดูมีความสามารถมาก และระหว่างคิ้วกับตาของนางนั้นก็ล้วนเป็นความมุ่งมั่นตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ฮูหยินผู้เฒ่าเฉียว ฮูหยินเฉียว...”จงเจิ้งเฟยพาเหลยเหวินกั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1936

    น่าสนใจ!เซียวหลินเทียนเห็นกระบวนการทั้งหมดนั้น แล้วก็รู้สึกว่าการมาเข้าร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาที่น่าเบื่อในวันนี้ ก็มิได้น่าเบื่อถึงเพียงนั้นแล้วเขาหันไปหาเถาจื่อแล้วเอ่ยออกไป “ศิษย์พี่หญิงของเจ้าผู้นี้น่าสนใจมาก เจ้าจงเข้าใกล้นางเข้าไว้!”เถาจื่อดูท่าทีสับสน “นายท่านอู่ ท่านแน่ใจว่านางมิใช่คุณหนูมิใช่หรือเจ้าคะ? เหตุใดจึงต้องเสียเวลาไปกับนางด้วยเจ้าคะ?”เซียวหลินเทียนส่ายหัว “ไม่ ข้ามิอาจแน่ใจได้หรอก! คุณหนูของพวกเจ้าฉลาดถึงเพียงนั้น หากนางตั้งใจจะซ่อนตัวขึ้นมาจริง ๆ ก็มีวิธีมากมายนัก!”“ข่าวล่าสุดที่สือหรงส่งมาก็คือ คุณหนูของพวกเจ้าติดตามฮูหยินเว่ยมาที่เมืองหลวงแดนเทพ ขอเพียงนางอยู่ในสังคมเมืองหลวงแดนเทพนี้ นางจะต้องมาศึกษาที่สำนักศึกษาชิงหลงอย่างแน่นอน!”“สิ่งที่พวกเราต้องให้ความสำคัญก็คือสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้ เราจะต้องตรวจสอบพวกนางทีละคน จนกว่าจะพบคุณหนูของเจ้า!”เซียวหลินเทียนเชื่อว่า ด้วยความฉลาดของหลิงอวี๋แล้ว นางไม่มีทางเป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอน ขอเพียงคอยจับตามองสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้เข้าไว้ เขาจะต้องหาหลิงอวี๋พบได้อย่างแน่นอน“ฉินซาน เจ้ากลับไปบอกให้สือหรงสืบประวัติของส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1935

    หลิวซานและเหล่าบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าเห็นสถานการณ์เช่นนั้น ก็พากันตำหนิหลิงอวี๋หลิวซานเป็นผู้นำดุด่าขึ้นมา “ใช่แล้ว ตนเองสร้างปัญหาไปทั่ว เมื่อถูกคนมาทำลายบ้านยังจะมาใส่ร้ายศิษย์พี่ของพวกเราอีก คงมิใช่ว่าเจ้ายากจนไม่มีเงิน จึงคิดจะขู่กรรโชกเงินจำนวนหนึ่งไปสร้างบ้านใหม่ใช่หรือไม่!”บัณฑิตคนหนึ่งก็เอ่ยออกมาอย่างดูถูกเช่นกัน “ดูจากอาภรณ์ที่นางใส่แล้ว ก็คงมิได้อยู่อาศัยในที่ที่ดีนักหรอก คงจะไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้าจึงถูกทุบน่ะสิ!”“ใช่แล้ว ที่อยู่ของพวกเรามีความปลอดภัยดี ไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแน่!”“สิงอวี๋ เจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง! เมื่อครู่ศิษย์พี่ของเราล้อเล่นจึงพูดเช่นนั้นออกไป คาดมิถึงเลยว่าจะถูกเจ้าใส่ร้าย! เช่นนั้นหากเป็นข้าที่พูดเช่นนั้นออกไป เจ้าก็จะบอกว่าข้าทำลายบ้านเจ้าใช่หรือไม่?”จงเจิ้งเฟยกับเหลยเหวินจึงดึงหลิงอวี๋ไปถามด้วยความเป็นห่วง “บ้านของเจ้าถูกทุบจริงหรือ?”หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องวุ่นวายในบ้านที่เห็นท่ามกลางสายฝนเมื่อวานนี้ แล้วพยักหน้าอย่างแน่วแน่นางมองเหมียวหยางอย่างเย็นชา เขายังคงหัวเราะอย่างมิกลัวเกรง พร้อมกับทำท่าทางท้าทายราวกับว่า ‘เจ้าทำอะไรข้ามิไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1934

    เสียงของหลิงอวี๋มิได้ดัง แต่ก็แน่วแน่มีพลังพอ ทำให้คุณหนูคุณชายที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ยินกันหมดเซียวหลินเทียนเพิ่งลงจากรถม้ามาพร้อมกับพวกเถาจื่อ เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวหลินเทียนก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปมองน้ำเสียงนี้ พลังเช่นนี้ เหตุใดจึงคล้ายกับหลิงอวี๋มากถึงเพียงนั้นอย่ารังแกคนหนุ่มสาวที่ยากจน!ตอนนั้นที่หลิงอวี๋ถูกพวกเสิ่นจวนกลั่นแกล้งที่ภัตตาคาร หลิงอวี๋ก็เคยพูดในทำนองเดียวกันนี้“ใต้หล้านี้หากมีคนใส่ร้ายข้า หลอกลวงข้า ดูหมิ่นข้า เย้ยหยันข้า ดูถูกข้า เหยียดหยามข้า รังเกียจข้า หลอกลวงข้า ข้าควรจะลงโทษอย่างไร?”“ขอเพียงอดทนกับเขา ยอมเขา ตามใจเขา หลีกเลี่ยงเขา อดกลั้นกับเขา เคารพเขา เมินเฉยเขา และรอไปสักสองสามปีแล้วค่อยดูเขา!”พวกของเสิ่นจวนที่เคยรังแกหลิงอวี๋ในอดีตนั้น ในตอนนี้ต่างก็มีจุดจบที่น่าสังเวชทั้งสิ้น มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้น ที่ก้าวหน้า กลายเป็นหมอที่มีชื่อเสียง เป็นฮองเฮาที่ผู้คนนับล้านในฉินตะวันตกเคารพ!สตรีหน้าตาธรรมดาและแต่งตัวซอมซ่อตรงหน้าเขาผู้นี้ ก็มีพลังของหลิงอวี๋อยู่เช่นกันใครจะรู้ว่านางจะเป็นดังเช่นหลิงอวี๋หรือไม่ หนึ่งปีหลังจากนี้นางอาจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1933

    ใต้หล้านี้มีสตรีที่งดงามอยู่มากมาย!บางคนก็พึ่งการแต่งตัวให้ตนดูงดงาม!และบางคนก็พึ่งความเข้มแข็งภายในจิตใจทำให้งดงาม!และในชั่วขณะนี้ เหลยเหวินรู้สึกว่าสหายของตนผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะดูธรรมดาทั่วไป แต่ก็มิได้ด้อยไปกว่าสตรีที่แต่งหน้าแต่งตัวจัดเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย“เสี่ยวอวี๋ เจ้าจะต้องได้สิ่งที่เจ้าต้องการอย่างแน่นอน!”เหลยเหวินเอ่ยออกมาอย่างจริงใจหลิงอวี๋มีจิตใจที่แน่วแน่เช่นนี้ ทั้งยังมีพรสวรรค์ด้านการกลั่นโอสถอีก ในอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด นางจะต้องไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดอย่างแน่นอนทั้งสองยิ้มให้กันแล้วออกไปรอจงเจิ้งเฟยและเมื่อมาถึงที่หน้าประตู รถม้าของตระกูลจงเจิ้งก็มาถึงเนื่องจากเป็นตระกูลใหญ่ จึงเป็นรถม้าที่มีม้าลากสี่ตัวที่ดูหรูหรามาก พวกนางทั้งสามคนยิ้มแย้มพูดคุยกันไปขณะที่มุ่งหน้าไปที่บ้านของหลงอิง“เสี่ยวอวี๋ ตระกูลของหลงอิงเป็นสายข้างเคียงของตระกูลหลง ดังนั้นที่ที่พวกเราจะไปกันจึงมิใช่คฤหาสน์ต้นตระกูล แต่เป็นคฤหาสน์ของครอบครัวนางเอง”เหลยเหวินแนะนำหลิงอวี๋อย่างกระตือรือร้น “แม้ว่าจะเป็นเพียงสายข้างเคียง แต่ครอบครัวหลงอิงก็ใหญ่โตมากเช่นกัน ต้องจัดงานยิ่งใหญ่เช่นนี้ประจำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1932

    “เสี่ยวชี เจ้าอาศัยอยู่ที่ใด ข้าจะไปส่งเจ้า!”เย่หรงรู้สึกว่าคุยกับหลิงอวี๋ถูกคอมาก จึงรู้สึกว่ายังมิพอ“โรงเตี๊ยมเจ้าค่ะ!”ในเมื่อหลิงอวี๋ตัดสินใจที่จะสร้างพันธมิตรกับเย่หรงแล้ว นางจึงมิลังเลที่จะบอกเรื่องของตนให้เขารู้เย่หรงจึงเอ่ยออกมาอย่างประหลาดใจ “เจ้าสอบเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงได้แล้วนี่ เหตุใดยังพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมอีกเล่า? โรงเตี๊ยมในเมืองหลวงแดนเทพราคามิใช่ถูก ๆ เจ้าทำเช่นนี้มิสู้ซื้อเรือนสักหลังน่าจะคุ้มค่ากว่าหรือ!”หลิงอวี๋จึงยิ้มอย่างเย็นชา “เดิมทีข้ามีบ้านอยู่ แต่ถูกคนทำลายไปเสียแล้ว!”“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? เจ้าเป็นศิษย์น้อยของอาสาม ใครกันที่ตาไร้แววกล้ามาทำลายเรือนของเจ้า?”เย่หรงยิ่งก็ยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีกหลิงอวี๋จึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้เขาฟัง และสุดท้ายก็เอ่ยออกไป “เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของเหมียวหยางเป็นแน่ ข้าไม่มีศัตรูอยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ และนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครที่จะทำเรื่องเช่นนี้กับข้าด้วย!”เย่หรงได้ยินเช่นนั้นก็โกรธมาก “ไป่หลี่ไห่กับหอโอสถไป๋เป่าอาศัยว่ามีการสนับสนุนของเจ้าแห่งทะเล จึงได้กล้าทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้!”“เสี่ยวช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1931

    แหกคุกหรือ?เหมือนว่าจะไม่มีใครเคยพูดเช่นนี้กับเย่หรงมาก่อนเลย เย่หรงเองก็ถูกการศึกษาที่แสนยาวนานยับยั้งเอาไว้ คิดมิถึงเลยว่าจะมีวิธีเช่นนี้ที่สามารถใช้ได้ด้วย!เขาประหลาดใจขึ้นมาในทันที แล้วก็มองหลิงอวี๋อย่างเหลือเชื่อเช่นนี้ก็ได้เช่นกันนี่?เพราะว่าเย่หรงเองก็เป็นคนที่มิทำตามกฎอยู่แล้ว หลังจากที่ตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง เขาก็คิดออกแล้วคำโน้มนำที่หลิงอวี๋ขว้างมาตรงหน้าตนนั้นเป็นราวกับต้นกล้าเล็ก ๆ ที่ทะลุผ่านดินขึ้นมาในชั่วพริบตา และเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ!ใครบอกว่ามิได้เล่า?ความผิดที่มารดาของเขาทำนั้นมิใช่ความผิดร้ายแรง ตระกูลหลงและตระกูลเย่ก็มิแม้แต่จะผ่านการพิจารณาคดีด้วยซ้ำ พวกเขาแค่ขังนางไว้ในคุกน้ำอันมืดมิดมาเป็นเวลานานสิบกว่าปีแล้วพวกเขาสามารถเพิกเฉยกฎเกณฑ์ได้ และทำตามอำเภอใจกันได้ เช่นนั้นเหตุใดตนจึงต้องปฏิบัติตามกฎของพวกเขาด้วยเล่า?มิรู้ว่าท่านแม่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนั้นจะถูกทรมานอย่างไรบ้าง เขาในฐานะลูกชายจะสามารถมองดูมารดาต้องทนทุกข์ต่อไปได้อย่างไรกัน?หากเขามิช่วยท่านแม่ออกมาจากสถานที่เลวร้ายนั้น เขาจะต้องสูญเสียท่านแม่ไปแน่“เสี่ยวชี ข้าจะหาช่องโหว่ได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1930

    ก็มิรู้ว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน!เป็นเพราะได้ยินหยางหงหนิงบอกว่าเย่หรงชอบหลิงอวี๋หรือ?หรือเป็นเพราะเมื่อครู่ได้ยินเย่หรงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตัวเขาไร้ประโยชน์ และไม่มีอะไรดี?หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเคยได้ยินผู้รอบรู้เล่าเรื่องภูมิหลังของเย่หรง เมื่อหลิงอวี๋เห็นเย่หรงจึงไม่มีความระแวดระวังดังเช่นก่อนหน้านี้นี่คือคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง!หลิงอวี๋มองใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างประหม่า “คุณชายเย่ ข้ามิได้ตั้งใจจะแอบฟัง ข้าแค่ผ่านมา… แค่ผ่านมาเท่านั้นเอง!”เย่หรงจ้องมองนางอย่างดุร้าย และเมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของศิษย์น้อยของเย่ซื่อฝาน ดูมิคล้ายกับพูดโกหกอยู่ เขาก็เอ่ยถามอย่างมิคาดคิด “เจ้าดื่มสุราเป็นหรือไม่?”เอ๊ะ นี่คือคำถามอะไรกัน?“มินับว่าดื่มเป็นเจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยความเขินอายนางมิรู้ด้วยซ้ำว่าตนสามารถดื่มได้มากแค่ไหน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าดื่มเป็นหรือไม่“ไป ข้าจะเลี้ยงสุราเจ้าเอง!”เย่หรงมิพูดพร่ำทำเพลง แล้วเดินเข้ามาคว้าแขนของหลิงอวี๋เดินไป“คุณชายเย่ ข้าไปดื่มกับท่านมิได้เจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ตกใจ แล้วก็ดิ้นรนพลางเอ่ยออกมาแม้แต่คนตาบอดก็ยังมองเห็นชัดเจนว่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status