แชร์

บทที่ 129

ผู้เขียน: กานเฟย
คำพูดของอันเจ๋อทำให้สีหน้าเซียวหลินเทียนผันแปร พลางก้มศีรษะมองสองขาไร้ความรู้สึกของตน นัยน์ตาพลันมืดครึ้มทันใด

“ในเมืองหลวงแห่งนี้มิได้มีเพียงข้าแซ่เซียว!”

อันเจ๋อกล่าวอย่างนิ่งสงบ “บางทีเราไม่อาจยุติสงครามให้ใต้หล้าสงบสุขได้!”

“แต่เราสามารถลดจำนวนประชาชนล้มตายบาดเจ็บได้ ปกป้องบ้านเมืองเราพ้นจากผลกระทบของเพลิงสงคราม ทำให้พวกเขามีชีวิตได้อย่างไม่หิวโหย...”

“เราอาจช่วยคนทั้งใต้หล้ามิได้ แต่เราจะช่วยมากเท่าที่ทำได้! นี่แหละคือความหมายของชีวิต!”

“คำพูดเหล่านี้ช่างคุ้นหูนัก?”

เซียวหลินเทียนหลับตาทุกข์ใจ คำพูดเหล่านี้ต้องคุ้นหูแน่นอน เพราะนี่คือคำพูดของเขากล่าวปลุกเร้าสามเหล่าทัพให้สู้สุดชีวิตขณะอยู่สนามรบ

อันเจ๋อลุกขึ้นเดินนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเก้าอี้ล้อ เขาเอื้อมมือไปกุมมือของเซียวหลินเทียน

เซียวหลินเทียนขัดขืนสักพัก ทว่าถูกอันเจ๋อจับไว้อย่างแน่น

“อาเทียน ข้าอยากพูดคำเหล่านี้ต่อเจ้ามานานแล้ว! แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าต้องพักผ่อนเสียบ้าง!”

“เพียงแค่ท่านยืนไม่ได้ มันไม่ได้หมายความว่าเจ้ากลายเป็นคนไร้ค่าตามขี้ปากสามัญชนพวกนั้น!”

“เจ้ายังมีสมองนะ! ตราบใดที่เจ้าปรารนา แม้จะนั่งเก้าอี้ล้อเจ้าก็
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 130

    แม่นมลี่หาช่างฝีมือได้แล้วก็เริ่มซื้อวัสดุตระเตรียมขยายเรือนหลิงอวี๋กำลังพะวงเรื่องการหาเครื่องยาสมุนไพรให้เซียวหลินเทียน วันรุ่งขึ้นครั้นทานมื้อเที่ยงเสร็จก็พาหลิงซินกับหลิงเยวี่ยไปโรงเหยียนหลิงเมื่อเข้าประตูก็พลันเห็นหลี่ฉินช่วยหมอเลี่ยวชะล้างลานร้านและทำความสะอาดอย่างมือไม้พัลวันหลิงอวี๋หัวเราะแผ่วเบา หลี่ต้าหนิวสั่งสอนเด็กสองคนนี้ไม่เลวจริง ๆ!“หลี่ฉิน พี่สาวเจ้ามาถึงรึยัง?” หลิงอวี๋ร้องเรียก“อาจารย์ ท่านมาแล้ว! ท่านพี่ข้ายังไม่มาเจ้าค่ะ!”หลี่ฉินรั้งศีรษะมองเขา ยิ้มตาหยีกล่าวคำ “วันนี้ท่านย่าข้าดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะมาก ตอนเช้ายังกินโจ๊กหมดชามหนึ่งด้วยเจ้าค่ะ!”“หมอเลี่ยวตรวจนางแล้ว บาดแผลของนางไม่มีอาการร้ายแรงอันใด!”“แม่นางหลิงมาแล้ว!”หมอเลี่ยวได้ยินความปั่นป่วนพลันรีบเดินมา เขาดูหมดอาลัยตายอยากพลางมองหลิงอวี๋กล่าวอึก ๆ อัก ๆ“เป็นอะไรไป? เลี่ยวเซียนแลกตัวเลี่ยวหมิงออกมามิได้หรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างห่วงใย“เข้าเรือนก่อนค่อยกล่าวเถิด!” หมอเลี่ยวทอดถอนใจพลางพาหลิงอวี๋เข้าเรือน“เมื่อวานเซียนเอ๋อร์นำตั๋วเงินไปแลกคนแล้ว แต่ไม่ได้ออกน่ะสิ ทั้งยังโดนคนในหน่วยงานรา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 131

    เมื่อหลิงอวี๋ได้ฟังก็พูดไม่ออก อย่างไรเสียสายสัมพันธ์ซับซ้อนนี่ก็มิใช่ว่านางจะลงมือได้ถ้ามีโอกาสในภายหน้านางจะทูลไทเฮาให้ใส่ใจสักหน่อย“เลี่ยวเซียน ที่พูดว่าแม่ทัพนครหลวงน่ะ! เขาเป็นคนเช่นไรรึ?”ในเมื่อเกาเฉิงมีความเกี่ยวข้องกับโรงหุยชุนจึงไม่อาจมุ่งหวังเกาเฉิงได้ หลิงอวี๋เพียงต้องขอพบเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดองพวกเขาเท่านั้น“แม่ทัพนครหลวงคือแม่ทัพเฉิน เขาค่อนข้างเที่ยงตรงไม่เสื่อมเสีย เขาคือหลานขององค์ชายเฉิงและได้รับสนับสนุนให้เลื่อนตำแหน่งจากองค์ชายเฉิงด้วย”“ทว่าช่วงระยะนี้ แม่ทัพเฉินลางานดูแลมารดาที่ป่วยอยู่เรือน มิได้บริหารกิจงานรัฐ!”เลี่ยวเซียนกล่าวท่าทางขุ่นเคืองว่า “ข้าก็อยากไปร้องเรียนกับเขาเหมือนกัน แต่ไปหลายครั้งแล้วล้วนไม่เห็นคน! เล่าลือว่าเขาพักอยู่ชนบทเป็นเพื่อนมารดา ข้าสอบถามหลายแห่งต่างก็ไม่รู้ว่าแม่ทัพเฉินพักอยู่ที่ใด!”หลิงอวี๋ได้ยินแล้วใจสั่นสะท้านพลางเอ่ยถาม “มารดาของเขาป่วยเป็นอันใด? โรงหุยชุนมิได้ส่งหมอไปรักษามารดาเขาหรือ?”เลี่ยวเซียนหัวเราะเยาะหยัน “มีเรื่องให้ประจบเจ้านายเช่นนี้ ไยเกาเฉิงจะไม่ทำ!”“แน่นนอนว่าเขาส่งไป หมอของโรงหุยชุนผลัดกันไปไม่หยุดหย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 132

    เกิ่งเสี่ยวหาวกลับมา หลิงอวี๋กำลังดื่มชาดีที่เปียวจื่อยกมาเปียวจื่อเอ่ยเอาใจว่า “พระชายาอ๋องอี้ ยาทาที่ท่านส่งมาให้ข้าคราก่อนได้ผลดีมากขอรับ ท่านดูเถิด บ่าวทาหลอดเดียวก็หายขาดดังคาดแล้ว!”เขาชี้ที่ลำคอตัวเองอวด พลางส่งยิ้มกล่าวคำ“ท่านลุงข้าก็ป่วยเป็นโรคเดียวกันกับข้า ข้าเหลือยาทาให้เขาแล้ว เขาทาก็ได้ผลดีเหมือนกันขอรับ!”“พระชายาอ๋องอี้ ท่านทำยาทาอีกสองหลอดให้บ่าวได้หรือไม่ขอรับ...”เกิ่งเสี่ยวหาวเพิ่งเข้ามาก็พลันได้ยินวาจานี้ โมโหจนตบกบาลเปียวจื่อหนึ่งฝ่ามือพลางตำหนิ“เจ้าเด็กนรก เจ้าคิดว่ายาของท่านพี่พัดมาตามลมเราะ! คราวก่อนส่งให้เจ้าสองหลอด เจ้ายังไม่รู้จักพออีก!”เปียวจื่อลูบศีรษะพลางเอ่ยน้อยใจ “ท่าน บ่าวยังพูดไม่จบขอรับ! บ่าวไม่ได้ขอเปล่า ท่านลุงข้าบอกว่าจ่ายเงินเท่าใดย่อมได้ทั้งนั้น!”“นั่นเพราะหาซื้อยาทาเช่นนี้มิได้ตามร้านโอสถทุกร้านในเมืองหลวง บ่าวขอร้องพระชายาไม่ได้หรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มกล่าวว่า “ท่านลุงเจ้าทายาหนึ่งหลอดก็หายขาดแล้ว เหตุใดยังต้องซื้อเพิ่ม!”เปียวจื่อตอบว่า “เขารู้จักพ่อค้าต่างถิ่นผู้หนึ่งก็ป่วยเป็นโรคเช่นนี้ ได้ยินเรื่องยาทามหัศจรรย์ที่ท่านลุงข้าพูดเลย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 133

    หลังหลิงอวี๋ทานข้าวเย็นอยู่ภัตตาคารจี๋เสียง เกิ่งเสี่ยวหาวห่อขนมอบของภัตตาคารจี๋เสียงให้หลิงเยวี่ยอีก ก่อนจะส่งหลิงอวี๋ลงชั้นล่างบัดนี้ ลิ่วล้อที่สืบถามข่าวคราวแม่ทัพเฉินกลับมาพอดี พลางให้ที่อยู่เกิ่งเสี่ยวหาวเกิ่งเสี่ยวหาวเห็นว่าหมู่บ้านเฉินเจียที่ห่างตัวเมืองยี่สิบกว่าลี้พลางกล่าวคำ“วันพรุ่งข้าไปรับซื้อเครื่องยาที่หมู่บ้านเฉินเจียพอดี ข้าจะไปส่งท่านพี่!”หลิงอวี๋ไม่ได้ปฏิเสธ ครั้นนัดเวลาเดินทางกับเกิ่งเสี่ยวหาวกันดีแล้วก็นำขนมอบกลับตำหนักอ๋องอี้ทันทีพอกลับถึงตำหนักอ๋องอี้ฟ้าล้วนมืดแล้ว หลิงอวี๋ถือขนมอบกลับเรือนบุหงา ครั้นเห็นเครื่องยาที่ตนให้หลิงซินนำกลับกำลังวางอยู่ ก็เอาเครื่องยาหมายส่งให้เซียวหลินเทียนนางเห็นขนมอบขอบภัตตาคารจี๋เสียง คิดแบ่งอีกห่อ ถือพร้อมกันเดินไปเรือนริมวารีของเซียวหลินเทียนเรือนยังมีแสงไฟตะเกียง ประตูเรือนเปิดอ้า องครักษ์สองนายเฝ้าอยู่ประตูหลิงอวี๋กำลังคิดส่งเขาไปแจ้งให้ตน พลันได้ยินเสียงหัวเราะอันไพเราะมากเสน่ห์ของชิวเหวินซวงลอยมาจากในเรือน“ท่านอ๋อง ท่านดื่มเก่งจริง ๆ ท่านพี่จ้าวกับลู่หนานร่วงหมดแล้วเพคะ!”“ท่านอ๋อง ข้าไม่ไหวแล้ว! ดื่มไม่ได้แ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 134

    แม่ทัพเฉินหยุดฝีเท้า หมายเอี้ยวตัวต่อว่าอย่างขุ่นเคือง“นักต้มตุ๋นร่อนเร่จากไหนอีก ไล่นางไปเสีย!”“หมอหลวงในวังต่างสิ้นวิธี นางสตรีอ่อนแอผู้เดียวขวัญกล้าอ้างว่ามีวิธีรักษาท่านแม่ข้า!”“ต้มสามัญชนพวกนั้นก็แล้วไป! คาดไม่ถึงว่าจะมาต้มถึงหน้าประตูตระกูลเฉิน!”คนเฝ้าประตูคลี่ยิ้มให้ “นายท่านขอรับ บ่าวก็ต่อว่านางเช่นนี้ แต่นางพูดว่าหมอหลวงในวังไม่มีวิธี ไม่ได้บ่งบอกว่านางไม่มีวิธี!”“นายท่าน แม่นางหลิงอาจจะเป็นคนมีฝีมือจริง ๆ ก็ได้นะขอรับ นางไม่ได้ตรวจชีพจรบ่าวก็เอ่ยขึ้นว่าบ่าวมีโรคข้อเสื่อม เป็นตอนวัยแรกรุ่นร่วงลงถ้ำน้ำแข็ง!”“นายท่าน อย่างไรให้นางเข้ามาลองตรวจสักหน่อยก็ไม่เสียหายอันใด หากนางรักษาฮูหยินใหญ่ได้ นั่นคือวาสนาของฮูหยินใหญ่ขอรับ!”“ถ้ารักษาไม่ได้ค่อยไล่ไปก็ได้แล้วขอรับ!”เฉินเจียวฟังแล้วใจสั่นไหวพลางกล่าวว่า “ท่านพ่อ มิใช่ว่าท่านย่าเอ่ยบ่อย ๆ หรือว่ามีคนเก่งมากนักในหมู่คนสามัญ? บางทีแม่นางหลิงอาจเร้นศักยภาพไว้ก็เป็นได้นะเจ้าคะ!”“หวังป๋อพูดถูก ให้นางเข้ามาลองตรวจก็ไม่ได้เสียหายอะไร บางทีอาจช่วยท่านย่าได้จริงก็ได้!”แม่ทัพเฉินนึกถึงอิริยาเจ็บปวดของมารดา ที่สุดแล้วใจทนไม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 135

    หลิงอวี๋ทำเป็นไม่เห็นท่าทีลนลานของแม่ทัพเฉิน พลางปั่นเข็มเงินแผ่วเบาอย่างจดจ่อ“ฮูหยินใหญ่ เจ็บหรือไม่?”ฮูหยินใหญ่รู้สึกถึงความอุ่นและสบายที่ลอยมาตามคลื่นจากจุดที่เข็มเงินวางอยู่นางรู้สึกกลับไปมีกำลังอีกครา และกลับพบว่าความเจ็บปวดจนปรารถนาสิ้นใจช่วงเวลานี้ล้วนหายไปอย่างประหลาด“ไม่เจ็บแล้ว!”พอฮูหยินใหญ่เอ่ยจบ หลิงอวี๋พลันดึงเข็มเงินสามเล่มออกพลางใช้แอลกอฮอล์เช็ดให้สะอาด เก็บในกล่องยาของตัวเอง“มาเถิด ข้าจักประคองท่านลุก!”หลิงอวี๋เก็บกล่องยาเรียบร้อยแล้ว ประคองฮูหยินใหญ่ลุกอย่างระวังแม่ทัพเฉินกับเฉินเจียวต่างตะลึงอ้าปากตาค้างอีกหนระยะนี้เพียงเห็นฮูหยินใหญ่แขนขาขดตัวไร้วิธียืดตรงมาตลอด ไม่คาดคิดว่าเหยียดขาลงล่างเตียงได้แล้วหลิงอวี๋ก้มกายนั่งยอง ๆ พลางสวมรองเท้าให้ฮูหยินใหญ่ฮูหยินใหญ่ย่างก้าวแรกด้วยตัวโงนเงน ก้าวสอง…หลิงอวี๋ปล่อยมือ ฮูหยินใหญ่ออกก้าวสาม ต่อก้าวสี่“อ๊ะ… ข้าเดินได้แล้ว!”ฮูหยินใหญ่ยืดเอวตรง เดินไปเดินมาในห้อง ร้องเรียกขึ้นราวกับเด็กน้อยดีอกใจดีใจ“ลูกแม่ ข้าเดินได้แล้ว! ไม่เจ็บเลยสักนิดเดียว!”“เจียวเจียว ข้าหิวนัก ข้าอยากกินข้าว!”ครั้นตาเห็นเป็น

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 136

    หลิงอวี๋ได้ฟังก็ขมวดคิ้ว หลิงเยวี่ยเป็นเด็กที่ทั้งรู้ความทั้งว่านอนสอนง่าย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!เหตุใดเซียวหลินเทียนถึงจะทำโทษให้เขาคุกเข่า?“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”หลิงอวี๋เอ่ยถาม“เฮยจื่อน่ะสิเจ้าคะยั่วให้เกิดเรื่อง!”หลิงซินบอกอย่างโมโห “ช่วงก่อนหน้านี้เขาซี่โครงหัก ต้องรักษาตัวอยู่ในเรือน! แต่สองวันมานี้ดีขึ้นแล้ว วิ่งได้กระโดดได้ ก็ออกมาเที่ยวเล่น!”“บ่าวกับแม่นมลี่กำลังทำความสะอาดเรือนอยู่ เยวี่ยเยวี่ยก็เอาขนมที่คุณหนูให้เขาเมื่อวานไปให้ลุงปี้กินเจ้าค่ะ”“ผลก็คือระหว่างทางถูกเฮยจื่อขวางไว้ เฮยจื่อจะเอาขนมของเยวี่ยเยวี่ยแล้วเยวี่ยเยวี่ยไม่ให้ เฮยจื่อเลยวิ่งตามเยวี่ยเยวี่ยเจ้าค่ะ”“ไม่รู้ว่ามันเป็นเยี่ยงไร ทั้งสองวิ่งไปจนถึงริมสระน้ำ จากนั้นเฮยจื่อก็ลื่นล้มตกน้ำไปเจ้าค่ะ!”หลิงซินเอ่ยอย่างคับข้องใจ “นางรับใช้ช่วยเหลือเฮยจื่อขึ้นมาไว้ได้ แล้วก็วิ่งไปกราบทูลท่านอ๋อง ท่านอ๋องจึงโกรธแล้วก็ให้เยวี่ยเยวี่ยขอโทษเฮยจื่อเจ้าค่ะ”“เยวี่ยเยวี่ยไม่ยอม ท่านอ๋องก็ให้คนพาตัวเขาไปคุกเข่าอยู่ด้านนอกเรือนริมวารี บอกว่าเยวี่ยเยวี่ยขอโทษเมื่อใดก็จะสามารถลุกขึ้นได้เมื่อนั้น!”หลิงอวี๋ได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 137

    หลิงเยวี่ยหันหนีไปอีกครั้ง เฮยจื่อก็คอยตามไม่ยอมปล่อย“เสี่ยวเมา เจ้าไม่เคยได้กินขนมที่อร่อยเช่นนี้มาก่อนเลยใช่หรือไม่! ข้าจะกินให้เจ้าดู มันหวานมากจริง ๆ!”ขณะที่เฮยจื่อกำลังจะยัดเข้าปากตนเอง กลับถือไม่ดีตกลงไปที่พื้นเขามองขนมที่พื้นแล้วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลอกตา แล้วเอ่ยกับหลิงเยวี่ย“ขนมนี่ข้าให้เจ้าแล้วกัน! เจ้าคลานไปกินที่พื้นเอาสิ!”หลิงอวี๋ที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ มาตลอด ตอนที่ช่วยเฮยจื่อวันนั้นเฮยจื่อกำลังสลบอยู่ จิตใจที่คิดแต่จะช่วยเหลือคนของนางก็ไม่ได้พิจารณาอะไรอย่างถี่ถ้วนวันนี้เฮยจื่อกระโดดโลดเต้นไปมาเช่นนี้ หลิงอวี๋จึงเห็นเขาได้ชัดเจนเฮยจื่อเพิ่งจะอายุประมาณหกขวบเท่านั้น มีคิ้วหนาและตาโต ไม่รู้ว่าเป็นเพราะในช่วงนี้เขารักษาตัวแล้วได้กินอะไรดี ๆ เกินไปหรือเปล่า เขาดูแข็งแรงมากโคมไฟที่หน้าประตูส่องไปที่เขา ใบหน้าของเขาแดงก่ำ การแต่งตัวก็เหมือนกับลูกของตระกูลร่ำรวยในเมืองหลิงอวี๋เห็นเฮยจื่อถือขนมยั่วให้หลิงเยวี่ยเห่าแบบสุนัขก็ขมวดคิ้วกระทั่งตอนที่เห็นว่าเฮยจื่อให้หลิงเยวี่ยเลียนแบบสุนัขแล้วคลานไปกินขนมที่ตกพื้นความโกรธของหลิงอวี๋ก็ปะทุขึ้นมาอย่างไม่สามารถ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1986

    กระทั่งเซียวหลินเทียนปีนขึ้นไป เขาคิดว่าหลิงอวี๋จะไปแล้ว ไหนเลยจะคิดว่านางจะยังอยู่“พี่ใหญ่ เถาจื่อไปตรวจสอบมาแล้ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยนำคนของตระกูลเฉียวมาเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีคนของมหาปราชญ์ด้วย และพวกเขาก็ปิดกั้นทางลงจากภูเขาไปหมดแล้ว!”ฉินซานเอ่ยรายงาน “ทุกคนที่ลงจากภูเขาไปจะต้องถูกตรวจสอบ คาดว่าหน้ากากผิวหนังมนุษย์คงมิสามารถปกปิดได้ขอรับ!”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว แล้วมองไปทางหลิงอวี๋โดยสัญชาตญาณหลิงอวี๋ขึ้นมาก่อน นางได้ฟังเถาจื่อบอกเรื่องนี้ไปแล้ว เมื่อนางเห็นว่าเซียวหลินเทียนมองมาทางตน จึงเอ่ยออกไปเรียบ ๆ “ข้าสามารถช่วยพวกเจ้าคิดวิธีปลอมตัวได้ ข้ามีความมั่นใจอยู่เจ็ดส่วนว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะตรวจมิพบใบหน้าที่แท้จริงของพวกเจ้า!”“สำหรับอีกสามส่วนที่เหลือนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับมือของพวกเจ้าเอง!”หลิงอวี๋มิอยากติดหนี้บุญคุณเซียวหลินเทียนที่แทงตัวเขาเองเพื่อมิให้เฮยอี้ทำร้ายตน หลิงอวี๋จึงอาศัยโอกาสนี้ตอบแทนบุญคุณของเซียวหลินเทียนไปเสีย“แม่นางสิง ขอบคุณมาก!”เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินว่าหลิงอวี๋ยินดีช่วยเหลือ เขาก็เดาเจตนาของนางออกทันทีเขายิ้มอย่างขมขื่นอยู่ในใจ นี่คือนิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1985

    หลิงอวี๋รักษาอาการบาดเจ็บให้เซียวหลินเทียนด้วยความรู้สึกสับสนในหัวของนางกำลังสับสนวุ่นวาย ภาพการเผชิญหน้าของเซียวหลินเทียนกับเสือปีกกาฬยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของนางตลอดเวลาเขาใช้กระบี่แทงตัวเขาเองเพื่อมิให้เสือปีกกาฬทำร้ายนาง!นี่คือสิ่งที่คนที่ต้องการสังหารนางจะทำหรือ?หลิงอวี๋นึกถึงสิ่งที่ป้าวซวนเคยพูดไว้ในตอนแรกว่า คำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยนั้นมิสามารถเชื่อได้!นางเองก็มิอยากจะเชื่อคำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่ภาพที่วนเวียนอยู่ในหัวของตนก็เป็นเรื่องจริง!เซียวหลินเทียนปล่อยให้คนรับใช้เหยียดหยามตนจริง ๆ ทั้งยังสั่งให้คนเฆี่ยนตีตนอีกด้วย!แล้วจะอธิบายภาพเหล่านี้ว่าอย่างไร?ดูเหมือนว่าจะต้องให้ผู้รอบรู้ไปสืบเรื่องอดีตของตนโดยเร็วที่สุดแล้ว นางต้องรู้ให้ชัดว่าความสัมพันธ์ของนางกับเซียวหลินเทียนคืออะไร!“พี่ใหญ่ ท่านยังเดินไหวหรือไม่? พวกเราควรจะหาทางกลับไปได้แล้ว มิฉะนั้นฉินซานกับเถาจื่อจะลงมาตามหาพวกเรากันหมด!”เผยอวี้มองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างกังวล“ข้าเดินได้!”เซียวหลินเทียนลุกขึ้นมา การบาดเจ็บจากกระบี่ทำให้เขาเดินกะโผลกกะเผลก เดินไปได้สองก้าวก็เห็นเสือปีกกาฬวิ่งมาข้างหน้าเขา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1984

    “หยุด!”เซียวหลินเทียนเห็นภาพนี้ก็ตกใจ แล้วรีบกระโดดขึ้นไปเหยียบบนหลังเสือปีกกาฬเขาออกแรงที่เท้า แล้วเสือปีกกาฬก็ถูกเขาเหยียบจนล้มไปกลางอากาศลงไปที่พื้น“โฮก… โฮก…”เสือปีกกาฬคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว และดิ้นรนอย่างมิยอม ทั้งยังบิดตัวอย่างบ้าคลั่งด้วย พยายามที่จะสลัดเซียวหลินเทียนออกไปแต่เซียวหลินเทียนก็โน้มตัวไปจับขนที่คอของมัน แล้วดึงอย่างแรงพร้อมทั้งตะคอกออกมา“เฮยอี้ เจ้าทำร้ายนางมิได้ หากเจ้ากล้าทำร้ายนาง ข้าก็จะฆ่าเจ้าเสีย!”“โฮก… โฮก…”เสือปีกกาฬดูเหมือนจะมิเห็นด้วยกับคำพูดของเซียวหลินเทียน จึงคำรามออกมาอย่างโกรธเคืองขาหน้าทั้งสองข้างของมันกระโจนขึ้นไปในอากาศ และพยายามจะพุ่งเข้าใส่หลิงอวี๋ผู้รอบรู้ดึงหลิงอวี๋ถอยหลังไปหลายก้าวแล้ว แต่เสือปีกกาฬยังคงพยายามดิ้นให้หลุดจากการควบคุมของเซียวหลินเทียนอย่างมิยอมแพ้ และจะพุ่งใส่หลิงอวี๋ดินโคลนที่พื้นถูกขาทั้งสี่ของมันตะกุยจนกระเด็นไปทั่ว แม้แต่เผยอวี้เห็นเช่นนั้นก็ตกใจและวิ่งไปตรงหน้าหลิงอวี๋พลันชักกระบี่ออกมาเตรียมตั้งรับตามสัญชาตญาณเมื่อเซียวหลินเทียนเห็นเช่นนั้นก็ชักกระบี่ออกมาเช่นกัน แล้วกระโดดลงมาจากหลังของเสือปีกก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1983

    หลิงอวี๋เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ทั้งยังเดินมาอีกครึ่งวัน นางทนมิไหวแล้วจริง ๆ จึงหลับตาลงแล้วผล็อยหลับไปรู้สึกว่าเพิ่งนอนหลับไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงของเผยอวี้ “ฟ้าสางแล้ว! รีบตื่นเร็วเข้า! พวกเราไปช่วยพี่ใหญ่ของข้ากัน!”หลิงอวี๋แอบกลอกตาใส่เขา นางรู้สึกว่าทั้งร่างกายนี้ราวกับถูกบดขยี้มา นางปวดเมื่อยและอ่อนแรงมากนางลืมตาขึ้นก็เห็นแสงลอดผ่านกิ่งไม้และส่องลงมาที่บนตัวพวกเขาเป็นลายไปหมด“แม่นางสิง ข้าไปดูบริเวณรอบ ๆ มาแล้ว หาได้มีเส้นทางอื่นไม่ ถ้ำงูนั้นเป็นทางเดียวที่สามารถผ่านไปที่ภูเขาด้านหลังได้!”เผยอวี้เอ่ยอย่างหงุดหงิด “ข้ายังแอบไปตรวจสอบดูที่ทางถ้ำงูมาด้วย งูพวกนั้นมีอยู่มากกว่าที่พวกเราเห็นเมื่อคืนนี้เสียอีก!”ผลลัพธ์อยู่ในการคาดเดาของหลิงอวี๋อยู่แล้ว นางจึงมิได้รู้สึกตกใจอะไร“ข้าจะไปดูเสียหน่อย!”หลิงอวี๋ลุกขึ้นไปตรวจสอบเมื่อคืนมืดมาก มองเห็นป่าลึกแห่งนี้ได้มิชัด วันนี้เมื่อหลิงอวี๋อาศัยแสงสว่างมองไป ก็เห็นว่าป่าไม้ไม่มีที่สิ้นสุดเหล่านั้นมองมิเห็นจุดสิ้นสุดจริง ๆหากคิดจะหาเส้นทางอ้อมไปใหม่ ก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้!“เจ้าคาดว่าถ้ำงูจะมีขนาดใหญ่แค่ไหน?”หลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1982

    เผยอวี้ตะลึงไปเล็กน้อย และกำลังจะเอ่ยถามออกไป แต่ก็ถูกหลิงอวี๋แย่งคบเพลิงไปเสียแล้วหลิงอวี๋ถือคบเพลิงส่องไปด้านข้าง แล้วเผยอวี้ก็เห็นว่าเถาวัลย์หนาเส้นหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่เล็กน้อยเขายังคิดว่าตนเองตาฝาด ที่นี่ก็ไม่มีลม แล้วเถาวัลย์จะเคลื่อนไหวได้อย่างไรกัน?หลิงอวี๋จึงหมุนคบเพลิงไปโดยรอบ และสิ่งที่สายตาของนางมองเห็นก็ทำให้นางรู้สึกหายใจติดขัดเถาวัลย์ที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ใหญ่เหล่านั้นมิใช่เถาวัลย์ แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นงูพิษฝูงงูที่อยู่กันอย่างหนาแน่นนั้น บางตัวก็มีขนาดเท่าปากชาม และลวดลายบนตัวก็มีสีคล้ายกับเถาวัลย์ หากมิสังเกตก็จะคิดว่าเป็นเถาวัลย์“นั่นงูหรือ?”เสียงของผู้รอบรู้ลดต่ำลงทันที และเริ่มสั่นเครือขึ้นมาโดยมิรู้ตัว “สวรรค์ งูมากถึงเพียงนั้น นี่… นี่… นี่ต้องเป็นหมื่นตัวกระมัง!”เผยอวี้ก็เห็นอย่างชัดเจนเช่นกัน เมื่อเขาได้ยินคำพูดของผู้รอบรู้ เขาก็รู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัวทันทีเขาเผชิญหน้ากับกองทัพศัตรูมากมายได้อย่างมิเกรงกลัว แต่งูมากถึงเพียงนี้… เขาจะสังหารได้หมดหรือ?“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”เสียงของเผยอวี้ก็สั่นขึ้นมาโดยมิรู้ตัวเช่นกัน“ค่อย ๆ ถอยออกไปก่อน! ห้ามส่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1981

    ที่จริงแล้วหลิงอวี๋มิได้หลับ แต่นางกำลังครุ่นคิดเรื่องราวหลังจากนี้อยู่เมื่อได้ยินคำตำหนิอย่างโกรธเคืองของเผยอวี้ เปลือกตาของหลิงอวี๋ก็กระตุก แต่ก็มิอยากตามเผยอวี้ไปตามหาเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนเป็นศัตรูของตน นางอยากจะให้เขาตาย แล้วความเป็นความตายของเขาเกี่ยวอะไรกับตนเล่า!แต่ภาพก่อนหน้านี้ก็แวบขึ้นมาตรงหน้า ภาพที่เซียวหลินเทียนโยนนางไปบนต้นไม้ฝั่งตรงข้าม เพื่อป้องกันมิให้นางตกเข้าไปในปากของสัตว์ประหลาด มิฉะนั้นหากนางตกลงไป หากมิถูกสัตว์ประหลาดกัดตายก็คงถูกสัตว์ประหลาดเหยียบจนตายไปแล้วเมื่อนับเรื่องนี้แล้ว ก็นับว่าเซียวหลินเทียนช่วยตนไว้เช่นกันหลิงอวี๋จึงลืมตาขึ้นมาอย่างหงุดหงิด แล้วเอ่ยออกไป “พี่ใหญ่ พวกเราก็ไปตามหาเขาด้วยเถิด!”เนื่องเซียวหลินเทียนเองก็ลงมาเพื่อตามหาผู้รอบรู้เช่นกัน ดังนั้นผู้รอบรู้จึงมิคัดค้านแล้วพยายามลุกขึ้นเผยอวี้เดินอยู่ข้างหน้า เมื่อเขาได้ยินว่ามีเสียงจากด้านหลัง ก็รู้ว่าพวกหลิงอวี๋เดินตามมาแล้วเช่นนี้แล้วเผยอวี้จึงรู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยแม้ฮองเฮาจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ก็ยังมีความจิตใจดีอยู่มิเปลี่ยนแปลงเผยอวี้ถือคบเพลิงแล้วเดินไปอย่างช้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1980

    เมื่อผู้รอบรู้ได้ฟังที่เผยอวี้พูดมาก็มิรู้ว่าควรจะเชื่อใครแล้ว“สิงจั๋ว ถึงอย่างไรตอนนี้เราก็ยังไปไหนมิได้อยู่แล้ว เจ้าลองไปถามพี่น้องในอดีตของเจ้าดูก็ได้ว่าความเป็นจริงเป็นเช่นนี้หรือไม่?”เผยอวี้เอ่ยอย่างอดทน “เจี่ยงหัวถูกจักรพรรดิของเราสังหารไปแล้ว เขาทรยศสือหรง และทำให้ครอบครัวของเขาต้องตายอย่างน่าอนาถด้วยน้ำมือของมหาปราชญ์ ครั้งนี้สือหรงก็ติดตามพวกเรามาที่เมืองหลวงแดนเทพเช่นกัน และต้องการจะสร้างตำหนักปีกเงินขึ้นใหม่ที่เมืองหลวงแดนเทพ!”“นอกจากนี้ ข้าก็มีวรยุทธ์สูงกว่าเจ้าด้วย หากข้าเป็นคนเลว เหตุใดข้าต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วย ข้าสังหารเจ้าไปเสียก็จบแล้ว!”ผู้รอบรู้คิดแล้วก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผล เขาจึงเอ่ยอย่างโกรธ ๆ “ข้าจะไปสืบดู หากพิสูจน์ได้ว่าเจ้าพูดโกหก ข้าจะไม่มีวันปล่อยพวกเจ้าไปแน่!”“แม้ว่าวรยุทธ์ของข้าจะมิสูงเท่าของเจ้า แต่ข้าจะใช้วิธีของข้าเองแก้แค้นให้อาจารย์ของข้าอย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋นั่งฟังอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยหากเป็นเช่นนี้ ก็แสดงว่าคนของตำหนักปีกเงินเหล่านั้นก็ล้วนกลายเป็นคนของเซียวหลินเทียนแล้ว เช่นนั้นเซียวหลินเทียนจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1979

    เผยอวี้ช่วยประคองผู้รอบรู้ที่เปียกโชกไปทั้งตัวเดินมา และด้วยความช่วยเหลือของทั้งสองคน หลิงอวี๋จึงลงมาจากต้นไม้ได้อย่างราบรื่นนางปวดร้าวไปทั้งตัว อาภรณ์ที่สวมอยู่บนตัวก็ฉีกขาดไปหมด และตามเนื้อตัวก็มีบาดแผลอยู่มิน้อย“พี่ใหญ่ของข้าเล่า?”เผยอวี้มิเห็นเซียวหลินเทียน จึงเอ่ยถามออกมา“เขาถูกสัตว์ประหลาดตัวนั้นพาตัวไปแล้ว!”หลิงอวี๋จึงเอ่ยปลอบใจ “ข้าว่าลูกพี่ลูกน้องของท่านมีวรยุทธ์สูงมากนะ เขาน่าจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย!”“ข้าจะไปดูสักหน่อย พวกเจ้ารออยู่ที่นี่เถิด!”เผยอวี้เป็นห่วงเซียวหลินเทียน ดังนั้นหลังจากที่ทำคบเพลิงให้พวกเขาหนึ่งอันแล้ว เขาก็จะไปตามหาเซียวหลินเทียนตามเส้นทางที่สัตว์ประหลาดทิ้งร่องรอยเอาไว้“ทางที่ดีเจ้าอย่าไปจะดีกว่า มิใช่ว่าข้าจะขู่ให้เจ้ากลัว แต่บริเวณนี้ล้วนเป็นหญ้าพิษและสมุนไพรพิษทั้งนั้น บางชนิดแม้แต่ข้าก็มิรู้ว่ามันคืออะไร!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างมีเจตนาดี “สัตว์ประหลาดตัวนี้เติบโตมาด้วยการกินหญ้าพิษและสมุนไพรพิษ เจ้าช่วยมิได้ก็อย่าไปเพิ่มภาระจะดีกว่า! เชื่อพี่ใหญ่ของเจ้าเถิด เขาจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน!”เผยอวี้ เซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ล้วนเดาออกว่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1978

    “บริเวณโดยรอบมีต้นไม้สูงใหญ่อยู่มาก ท่านขึ้นไปบนต้นไม้สักต้น พวกเราต้องดูก่อนว่านี่มันคือสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่”หลิงอวี๋ชี้แนะเซียวหลินเทียนก็มิพูดพร่ำทำเพลง เขาเชื่อมั่นหลิงอวี๋โดยไม่มีเงื่อนไข แล้วหยิบตะบันไฟออกมาส่งให้หลิงอวี๋ จากนั้นก็อุ้มหลิงอวี๋กระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้สูงหลิงอวี๋จึงรีบจุดไฟแล้วมองลงไป สัตว์ประหลาดตัวนั้นไล่ตามมาที่ใต้ต้นไม้แล้ว และมันก็กำลังเงยหน้ามองขึ้นมาด้วยมันเหลือตาเพียงข้างเดียว และกำลังจ้องมองขึ้นมาด้วยสายตาเย็นเยือกแสงสว่างจากตะบันไฟมีอยู่จำกัด หลิงอวี๋มองเห็นเพียงดวงตาที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ขนที่ยุ่งเหยิงของมันเท่านั้น“ฮึ่ม…”สัตว์ประหลาดส่งเสียงออกมา แล้วก็ถอยหลังไปหลิงอวี๋มองเจตนาของมันออกในทันทีที่สัตว์ประหลาดถอยหลังไปมิได้วางแผนที่จะยอมแพ้ แต่เพื่อรวบรวมพลังจะมาพุ่งชนต้นไม้ให้หักต่างหาก“ที่นี่มิปลอดภัย หนีเร็ว!”ทันทีที่หลิงอวี๋พูดจบ สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็พุ่งกลับมา มิรู้ว่ามันเกิดมาพร้อมพลังเหนือธรรมชาติหรืออย่างไร ได้ยินเพียงเสียงไม้หัก...ต้นไม้ต้นหนาถูกสัตว์ประหลาดโจมตีจนหักไปแล้วเมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินเสียงร้องของหลิงอวี๋

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status