Share

บทที่ 135

Author: กานเฟย
หลิงอวี๋ทำเป็นไม่เห็นท่าทีลนลานของแม่ทัพเฉิน พลางปั่นเข็มเงินแผ่วเบาอย่างจดจ่อ

“ฮูหยินใหญ่ เจ็บหรือไม่?”

ฮูหยินใหญ่รู้สึกถึงความอุ่นและสบายที่ลอยมาตามคลื่นจากจุดที่เข็มเงินวางอยู่

นางรู้สึกกลับไปมีกำลังอีกครา และกลับพบว่าความเจ็บปวดจนปรารถนาสิ้นใจช่วงเวลานี้ล้วนหายไปอย่างประหลาด

“ไม่เจ็บแล้ว!”

พอฮูหยินใหญ่เอ่ยจบ หลิงอวี๋พลันดึงเข็มเงินสามเล่มออกพลางใช้แอลกอฮอล์เช็ดให้สะอาด เก็บในกล่องยาของตัวเอง

“มาเถิด ข้าจักประคองท่านลุก!”

หลิงอวี๋เก็บกล่องยาเรียบร้อยแล้ว ประคองฮูหยินใหญ่ลุกอย่างระวัง

แม่ทัพเฉินกับเฉินเจียวต่างตะลึงอ้าปากตาค้างอีกหน

ระยะนี้เพียงเห็นฮูหยินใหญ่แขนขาขดตัวไร้วิธียืดตรงมาตลอด ไม่คาดคิดว่าเหยียดขาลงล่างเตียงได้แล้ว

หลิงอวี๋ก้มกายนั่งยอง ๆ พลางสวมรองเท้าให้ฮูหยินใหญ่

ฮูหยินใหญ่ย่างก้าวแรกด้วยตัวโงนเงน ก้าวสอง…

หลิงอวี๋ปล่อยมือ ฮูหยินใหญ่ออกก้าวสาม ต่อก้าวสี่

“อ๊ะ… ข้าเดินได้แล้ว!”

ฮูหยินใหญ่ยืดเอวตรง เดินไปเดินมาในห้อง ร้องเรียกขึ้นราวกับเด็กน้อยดีอกใจดีใจ

“ลูกแม่ ข้าเดินได้แล้ว! ไม่เจ็บเลยสักนิดเดียว!”

“เจียวเจียว ข้าหิวนัก ข้าอยากกินข้าว!”

ครั้นตาเห็นเป็น
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 136

    หลิงอวี๋ได้ฟังก็ขมวดคิ้ว หลิงเยวี่ยเป็นเด็กที่ทั้งรู้ความทั้งว่านอนสอนง่าย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!เหตุใดเซียวหลินเทียนถึงจะทำโทษให้เขาคุกเข่า?“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”หลิงอวี๋เอ่ยถาม“เฮยจื่อน่ะสิเจ้าคะยั่วให้เกิดเรื่อง!”หลิงซินบอกอย่างโมโห “ช่วงก่อนหน้านี้เขาซี่โครงหัก ต้องรักษาตัวอยู่ในเรือน! แต่สองวันมานี้ดีขึ้นแล้ว วิ่งได้กระโดดได้ ก็ออกมาเที่ยวเล่น!”“บ่าวกับแม่นมลี่กำลังทำความสะอาดเรือนอยู่ เยวี่ยเยวี่ยก็เอาขนมที่คุณหนูให้เขาเมื่อวานไปให้ลุงปี้กินเจ้าค่ะ”“ผลก็คือระหว่างทางถูกเฮยจื่อขวางไว้ เฮยจื่อจะเอาขนมของเยวี่ยเยวี่ยแล้วเยวี่ยเยวี่ยไม่ให้ เฮยจื่อเลยวิ่งตามเยวี่ยเยวี่ยเจ้าค่ะ”“ไม่รู้ว่ามันเป็นเยี่ยงไร ทั้งสองวิ่งไปจนถึงริมสระน้ำ จากนั้นเฮยจื่อก็ลื่นล้มตกน้ำไปเจ้าค่ะ!”หลิงซินเอ่ยอย่างคับข้องใจ “นางรับใช้ช่วยเหลือเฮยจื่อขึ้นมาไว้ได้ แล้วก็วิ่งไปกราบทูลท่านอ๋อง ท่านอ๋องจึงโกรธแล้วก็ให้เยวี่ยเยวี่ยขอโทษเฮยจื่อเจ้าค่ะ”“เยวี่ยเยวี่ยไม่ยอม ท่านอ๋องก็ให้คนพาตัวเขาไปคุกเข่าอยู่ด้านนอกเรือนริมวารี บอกว่าเยวี่ยเยวี่ยขอโทษเมื่อใดก็จะสามารถลุกขึ้นได้เมื่อนั้น!”หลิงอวี๋ได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 137

    หลิงเยวี่ยหันหนีไปอีกครั้ง เฮยจื่อก็คอยตามไม่ยอมปล่อย“เสี่ยวเมา เจ้าไม่เคยได้กินขนมที่อร่อยเช่นนี้มาก่อนเลยใช่หรือไม่! ข้าจะกินให้เจ้าดู มันหวานมากจริง ๆ!”ขณะที่เฮยจื่อกำลังจะยัดเข้าปากตนเอง กลับถือไม่ดีตกลงไปที่พื้นเขามองขนมที่พื้นแล้วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลอกตา แล้วเอ่ยกับหลิงเยวี่ย“ขนมนี่ข้าให้เจ้าแล้วกัน! เจ้าคลานไปกินที่พื้นเอาสิ!”หลิงอวี๋ที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ มาตลอด ตอนที่ช่วยเฮยจื่อวันนั้นเฮยจื่อกำลังสลบอยู่ จิตใจที่คิดแต่จะช่วยเหลือคนของนางก็ไม่ได้พิจารณาอะไรอย่างถี่ถ้วนวันนี้เฮยจื่อกระโดดโลดเต้นไปมาเช่นนี้ หลิงอวี๋จึงเห็นเขาได้ชัดเจนเฮยจื่อเพิ่งจะอายุประมาณหกขวบเท่านั้น มีคิ้วหนาและตาโต ไม่รู้ว่าเป็นเพราะในช่วงนี้เขารักษาตัวแล้วได้กินอะไรดี ๆ เกินไปหรือเปล่า เขาดูแข็งแรงมากโคมไฟที่หน้าประตูส่องไปที่เขา ใบหน้าของเขาแดงก่ำ การแต่งตัวก็เหมือนกับลูกของตระกูลร่ำรวยในเมืองหลิงอวี๋เห็นเฮยจื่อถือขนมยั่วให้หลิงเยวี่ยเห่าแบบสุนัขก็ขมวดคิ้วกระทั่งตอนที่เห็นว่าเฮยจื่อให้หลิงเยวี่ยเลียนแบบสุนัขแล้วคลานไปกินขนมที่ตกพื้นความโกรธของหลิงอวี๋ก็ปะทุขึ้นมาอย่างไม่สามารถ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 138

    ลู่หนานไม่รู้ว่าหลิงอวี๋จะทำอะไร แต่ก็พาเฮยจื่อลงไปเฮยจื่อเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร จึงมองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างขอความช่วยเหลือเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่พาหลิงเยวี่ยไปตรงที่ที่นางยืนอยู่อย่างครุ่นคิด“เฮยจื่อ เจ้าถูกเยวี่ยเยวี่ยผลักตกลงไปจากตรงนี้ใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างเย็นชาเฮยจื่อมองไปทางเฉี่ยวชุนนางรับใช้ของตนเองอย่างขอความช่วยเหลือ เฉี่ยวชุนพยักหน้าเบา ๆ“ใช่! เสี่ยวเมาผลักข้าลงไปจากตรงนี้!”เฮยจื่อเอ่ยเสียงดังทันที“ยืนอยู่นิ่ง ๆ นะ!”หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชา พลางเอ่ย “เยวี่ยเยวี่ย เจ้าขึ้นไปผลักเขาลงนี้ มีแรงเท่าไหร่ก็ผลักให้เต็มแรง!”หลิงเยวี่ยขึ้นไปอย่างเชื่อฟัง แล้วผลักเฮยจื่ออย่างรุนแรง เฮยจื่อเซ แต่เท้ากลับไม่ขยับเลย“ทำต่อ! เยวี่ยเยวี่ย เจ้าไม่ได้กินข้าวก็ใช่ว่าจะไม่มีแรงนี่! ออกแรงผลักอีก!”หลิงเยวี่ยผลักไปอีกสองสามครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เฮยจื่อตกน้ำได้เขาเอ่ยอย่างท้อแท้ “ท่านแม่ ข้าผลักไม่ไป ข้าพยายามแล้วขอรับ!”หลิงเยวี่ยไม่ต้องพูด เซียวหลินเทียนกับทุกคนก็ต่างเห็นว่าหลิงเยวี่ยพยายามออกแรงเต็มที่แล้ว ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นแดงก่ำไปหมด แต่ก็ไม่สาม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 139

    หลังจากกลับมาที่เรือนบุหงาแม่นมลี่ก็ทำอาหารให้หลิงเยวี่ย หลิงเยวี่ยจึงเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ “แม่นมเหนื่อยแย่เลยนะขอรับ”“เด็กคนนี้ช่างรู้ความจริง ๆ! พูดจาอย่างกับผู้ใหญ่!”แม่นมลี่หันหลังกลับไปพลันน้ำตารื้นหลิงอวี๋เองก็น้ำตารื้นเช่นกัน นางรู้สึกขอบคุณแม่นมลี่กับปี้ไห่เฟิงเป็นที่สุดหากไม่มีการสั่งสอนของทั้งสองคนนี้ เด็กอย่างหลิงเยวี่ยจะมีนิสัยรู้ความเช่นนี้ได้เยี่ยงไร!นึกถึงคำพูดที่หลิงเยวี่ยพูดกับเซียวหลินเทียนต่อหน้าทุกคน ‘กระหม่อมรับคำขอโทษจากท่าน แต่กระหม่อมไม่อยากให้อภัยท่าน!’ในตอนนั้นนางกับพวกของเซียวหลินเทียนต่างเป็นเหมือนกัน ที่ตะลึงกับคำพูดของหลิงเยวี่ยใช่เลย ขอโทษหลังจากเรื่องราวทั้งหมดมันจะมีประโยชน์อันใดเล่า?หากฆ่าคนโดยไม่เจตนาไปแล้ว จะสามารถทำให้คนที่ถูกฆ่าไปมีชีวิตกลับมาได้อีกหรือ?เจ้าขอโทษ แล้วข้าจำเป็นต้องให้อภัยหรือ?ไม่ใช่ความผิดทุกอย่างจะสามารถใช้คำว่าขอโทษมาทำให้ยิ้มให้กันได้โดยหักล้างความโกรธแค้นกันไปได้!หลิงเยวี่ยอายุน้อย ทั้งยังมีจิตใจที่เคารพตนเองแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น แต่ถูกให้คุกเข่าอยู่ที่เรือนนั้นตั้งมากกว่าสองชั่วยาม!แค่คำว่าขอโทษจะสามารถ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 140

    หลิงอวี๋มองไปทางชิวเหวินซวงที่ยืนอยู่ด้านข้าง นางรับใช้และแม่นมในเรือนต่างเชื่อฟังนาง เฮยจื่อหายตัวไปครั้งนี้ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับชิวเหวินซวงด้วย“เซียวหลินเทียน ข้าบอกว่าข้าไม่รู้ว่าเฮยจื่ออยู่ที่ใด เจ้าเชื่อหรือไม่?” หลิงอวี๋เอ่ยถาม“พระชายา พระชายาบอกที่อยู่ของเฮยจื่อของพวกเรามาเถิด! เขายังเด็ก ทำผิดพลั้งไปเราก็ค่อย ๆ สอนเขาก็ได้! พระชายาให้โอกาสเขาสักครั้งเถิด!”ชิวเหวินซวงเอ่ยเตือน ‘ด้วยความหวังดี’หลิงอวี๋รำคาญแม่นางดอกบัวขาวที่ช่างยุแยงให้คนแตกคอกันนี่เหลือเกิน เสแสร้งทำเป็นคนดีนัก!“เซียวหลินเทียน ข้าไม่ได้เอาตัวเฮยจื่อไป ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาอยู่ที่ใด! ข้าคงปล่อยตัวเขามิได้หรอก!”หลิงอวี๋คร้านจะสนใจชิวเหวินซวง พลางเอ่ยไปตรง ๆ “หากเจ้าเชื่อก็เชื่อ หากไม่เชื่อก็ช่าง! ตีข้าให้ตาย ข้าก็พูดเช่นเดิม!”เซียวหลินเทียนจ้องมองหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เองก็จ้องเขาตอบอย่างไม่ยอมอ่อนข้อหลิงอวี๋ยิ้มเย็นชาพลางเอ่ย “เจ้าไปสืบหาดูก็ได้ หากยืนยันว่าข้าเป็นคนลักพาตัวเฮยจื่อไปจริง ๆ ข้าจะยอมทำตามที่เจ้าต้องการ!”เซียวหลินเทียนกับนางต่างไม่มีใครยอมใครอยู่เป็นเวลานาน เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋ยั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 141

    คนของจ้าวซวนเรียกนางรับใช้และแม่นมทั้งหมดในเรือนของเฮยจื่อไปสอบปากคำอีกครั้งนางรับใช้และแม่นมทุกคนยืนกรานในคำให้การก่อนหน้านี้ บอกว่านอกจากหลิงอวี๋กับหลิงเยวี่ยแล้ว ก็ไม่มีใครอื่นไปที่เรือนของเฮยจื่ออีก เฉี่ยวเหลียนถูกถามก็ร้อนใจพลางเอ่ยอย่างคับข้องใจ “พี่จ้าว พวกเราไม่รู้จริง ๆ ว่าเหตุใดเฮยจื่อจึงหายตัวไป!”“พระชายาอยู่ในห้องนั้นนานมาก แม้ว่านางจะไม่ได้เป็นคนพาเฮยจื่อไป นางก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นแน่!”“จะต้องเป็นนางที่ดุด่าเฮยจื่อ ทำให้เฮยจื่อทนไม่ไหวถึงได้แอบหนีไป! ขอเพียงหาตัวเฮยจื่อเจอ ก็จะสามารถยืนยันได้ว่าเป็นความผิดของพระชายาหรือไม่!”จ้าวซวนเห็นว่าถามแล้วไม่ได้ผลอะไร จึงทำได้เพียงให้พวกนางกลับกันไปก่อนคนในตำหนักอ๋องอี้ล้วนถูกซักถามกันหมดแล้ว เบาะแสเดียวที่ได้คือเบาะแสที่ปี้ไห่เฟิงเป็นคนบอกปี้ไห่เฟิงบอกว่า ตอนที่เขาให้อาหารม้าเขาเห็นเฮยจื่อมาที่คอกม้า แต่พอเขาหอบหญ้ากลับมาก็ไม่เจอเฮยจื่อแล้วตอนนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าเฮยจื่อแค่มาเดินเล่นรอบ ๆข้อมูลทั้งหมดรวบรวมไว้ที่ห้องตำราของเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนร้อนใจขึ้นมาทันทีคำบอกเล่าของปี้ไห่เฟิงเป็นการยืนยันไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 142

    หลิงซินถูกหลิงอวี๋ตะคอกจนไม่กล้าร้องไห้แล้ว นางเช็ดน้ำตาพลางเอ่ย“บ่าวกับแม่นมลี่พาเยวี่ยเยวี่ยออกไปจ่ายตลาด พอซื้อของครบแล้ว แม่นมลี่ก็ลื่นล้มไปเจ้าค่ะ!”“บ่าวก็เลยพยุงแม่นมลี่ขึ้น แต่พอหันกลับไป เยวี่ยเยวี่ยก็หายไปแล้ว!”หลิงซินพูดถึงตรงนี้ น้ำตาแห่งความหวาดกลัวก็ร่วงลงมาอย่างอดไม่ได้“บ่าวกับแม่นมลี่ต่างก็ตกใจ พากันตามหาทั่วทุกที่ แต่ก็ไม่พบเลยเจ้าค่ะ! แม่นมก็ยังตามหาอยู่ที่ตลาดอยู่เลย บ่าวนึกขึ้นได้ว่าเยวี่ยเยวี่ยอาจจะมาที่โรงเหยียนหลิง ก็เลยวิ่งมาหา...”หลิงอวี๋หลับตาลง หายใจเข้าลึก ๆ แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้งพร้อมกับสงบสติได้แล้ว“เสี่ยวหาว เจ้ารีบหาคนสักสองสามคน ไปช่วยข้าหาที่ตลาด แล้วก็หาคนไปถามที่ตำหนักอ๋องอี้ว่าเยวี่ยเยวี่งกลับตำหนักแล้วหรือยัง! หากยังไม่กลับให้หาตามเส้นทางไปตำหนักอ๋องอี้!”เกิ่งเสี่ยวหาวเคยเจอเยวี่ยเยวี่ยและชอบเด็กฉลาดคนนั้นมาก ทันทีที่ได้ยินจึงเอ่ยขึ้นมา“ท่านพี่ ท่านวางใจได้ ข้าจะส่งคนไปช่วยพี่หา!”“อืม ได้ข่าวแล้วก็บอกข้า!”หลิงอวี๋ดึงหลิงซินขึ้น ไปบอกลาหมอเลี่ยวแล้วจึงเดินออกไปหมอเลี่ยวได้ยินจากบทสนทนาของทั้งสามคนแล้วนึกขึ้นได้ว่าชื่อของหลิงอวี๋ค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 143

    “เพียะ!”หลิงอวี๋ตบนางอย่างแรงอีกครั้งแบบไม่เกรงใจ และเตะเพิ่มอีกครั้งด้วยการเตะครั้งนี้ทำให้นางรับใช้ตกบันไดไปอยู่ตรงหน้าเงินที่นางโยนลงไปพอดี“เจ้านับว่าเป็นสิ่งใดกัน กล้ามาพูดจาเอ็ดตะโรกับข้า! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”หลิงอวี๋มองต่ำลงไปอย่างเย่อหยิ่งพลางเอ่ย “เอาเงินไปเสีย ข้าให้รางวัลเจ้า! เอาไปซื้อยาเถิดไป!”“หลิงอวี๋ เจ้ากล้าตบนางรับใช้ของข้าหรือ!?”หลิงเยี่ยนเห็นเข้า ก็โวยวายขึ้นมาอย่างโมโห “ใครก็ได้ จับตัวนางไว้ที วันนี้ข้าจะสั่งสอนนังคนไม่รู้จักอับอายผู้นี้!”นางรับใช้หลายคนกับคนเฝ้าประตูเข้าไปล้อมหลิงอวี๋เอาไว้ หลิงอวี๋ไม่อยากให้ท่านอดีตเสนาบดีคิดว่าตนเองมาก่อเรื่องที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน จึงเจรจาด้วยเหตุผลก่อน“ข้ามีเรื่องด่วนมาหาท่านอดีตเสนาบดีหากพวกเจ้ายังกล้ามาขัดขวางข้าอีก ก็อย่ามาโทษว่าข้าลงไม้ลงมือ!”พวกนางรับใช้หลายคนไม่ฟังคำพูดนาง ต่างเข้ามาจับหลิงอวี๋ไว้คนละไม้คนละมือขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดจะลงมือ ก็มีมือหนึ่งยื่นเข้ามาแล้วดึงนางออกจากวงล้อมของพวกนางรับใช้“เมื่อวันก่อนท่านอดีตเสนาบดีออกจากเมืองหลวงไปฝึกทหารที่นอกเมือง!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น จิตใ

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1982

    เผยอวี้ตะลึงไปเล็กน้อย และกำลังจะเอ่ยถามออกไป แต่ก็ถูกหลิงอวี๋แย่งคบเพลิงไปเสียแล้วหลิงอวี๋ถือคบเพลิงส่องไปด้านข้าง แล้วเผยอวี้ก็เห็นว่าเถาวัลย์หนาเส้นหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่เล็กน้อยเขายังคิดว่าตนเองตาฝาด ที่นี่ก็ไม่มีลม แล้วเถาวัลย์จะเคลื่อนไหวได้อย่างไรกัน?หลิงอวี๋จึงหมุนคบเพลิงไปโดยรอบ และสิ่งที่สายตาของนางมองเห็นก็ทำให้นางรู้สึกหายใจติดขัดเถาวัลย์ที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ใหญ่เหล่านั้นมิใช่เถาวัลย์ แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นงูพิษฝูงงูที่อยู่กันอย่างหนาแน่นนั้น บางตัวก็มีขนาดเท่าปากชาม และลวดลายบนตัวก็มีสีคล้ายกับเถาวัลย์ หากมิสังเกตก็จะคิดว่าเป็นเถาวัลย์“นั่นงูหรือ?”เสียงของผู้รอบรู้ลดต่ำลงทันที และเริ่มสั่นเครือขึ้นมาโดยมิรู้ตัว “สวรรค์ งูมากถึงเพียงนั้น นี่… นี่… นี่ต้องเป็นหมื่นตัวกระมัง!”เผยอวี้ก็เห็นอย่างชัดเจนเช่นกัน เมื่อเขาได้ยินคำพูดของผู้รอบรู้ เขาก็รู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัวทันทีเขาเผชิญหน้ากับกองทัพศัตรูมากมายได้อย่างมิเกรงกลัว แต่งูมากถึงเพียงนี้… เขาจะสังหารได้หมดหรือ?“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”เสียงของเผยอวี้ก็สั่นขึ้นมาโดยมิรู้ตัวเช่นกัน“ค่อย ๆ ถอยออกไปก่อน! ห้ามส่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1981

    ที่จริงแล้วหลิงอวี๋มิได้หลับ แต่นางกำลังครุ่นคิดเรื่องราวหลังจากนี้อยู่เมื่อได้ยินคำตำหนิอย่างโกรธเคืองของเผยอวี้ เปลือกตาของหลิงอวี๋ก็กระตุก แต่ก็มิอยากตามเผยอวี้ไปตามหาเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนเป็นศัตรูของตน นางอยากจะให้เขาตาย แล้วความเป็นความตายของเขาเกี่ยวอะไรกับตนเล่า!แต่ภาพก่อนหน้านี้ก็แวบขึ้นมาตรงหน้า ภาพที่เซียวหลินเทียนโยนนางไปบนต้นไม้ฝั่งตรงข้าม เพื่อป้องกันมิให้นางตกเข้าไปในปากของสัตว์ประหลาด มิฉะนั้นหากนางตกลงไป หากมิถูกสัตว์ประหลาดกัดตายก็คงถูกสัตว์ประหลาดเหยียบจนตายไปแล้วเมื่อนับเรื่องนี้แล้ว ก็นับว่าเซียวหลินเทียนช่วยตนไว้เช่นกันหลิงอวี๋จึงลืมตาขึ้นมาอย่างหงุดหงิด แล้วเอ่ยออกไป “พี่ใหญ่ พวกเราก็ไปตามหาเขาด้วยเถิด!”เนื่องเซียวหลินเทียนเองก็ลงมาเพื่อตามหาผู้รอบรู้เช่นกัน ดังนั้นผู้รอบรู้จึงมิคัดค้านแล้วพยายามลุกขึ้นเผยอวี้เดินอยู่ข้างหน้า เมื่อเขาได้ยินว่ามีเสียงจากด้านหลัง ก็รู้ว่าพวกหลิงอวี๋เดินตามมาแล้วเช่นนี้แล้วเผยอวี้จึงรู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยแม้ฮองเฮาจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ก็ยังมีความจิตใจดีอยู่มิเปลี่ยนแปลงเผยอวี้ถือคบเพลิงแล้วเดินไปอย่างช้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1980

    เมื่อผู้รอบรู้ได้ฟังที่เผยอวี้พูดมาก็มิรู้ว่าควรจะเชื่อใครแล้ว“สิงจั๋ว ถึงอย่างไรตอนนี้เราก็ยังไปไหนมิได้อยู่แล้ว เจ้าลองไปถามพี่น้องในอดีตของเจ้าดูก็ได้ว่าความเป็นจริงเป็นเช่นนี้หรือไม่?”เผยอวี้เอ่ยอย่างอดทน “เจี่ยงหัวถูกจักรพรรดิของเราสังหารไปแล้ว เขาทรยศสือหรง และทำให้ครอบครัวของเขาต้องตายอย่างน่าอนาถด้วยน้ำมือของมหาปราชญ์ ครั้งนี้สือหรงก็ติดตามพวกเรามาที่เมืองหลวงแดนเทพเช่นกัน และต้องการจะสร้างตำหนักปีกเงินขึ้นใหม่ที่เมืองหลวงแดนเทพ!”“นอกจากนี้ ข้าก็มีวรยุทธ์สูงกว่าเจ้าด้วย หากข้าเป็นคนเลว เหตุใดข้าต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วย ข้าสังหารเจ้าไปเสียก็จบแล้ว!”ผู้รอบรู้คิดแล้วก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผล เขาจึงเอ่ยอย่างโกรธ ๆ “ข้าจะไปสืบดู หากพิสูจน์ได้ว่าเจ้าพูดโกหก ข้าจะไม่มีวันปล่อยพวกเจ้าไปแน่!”“แม้ว่าวรยุทธ์ของข้าจะมิสูงเท่าของเจ้า แต่ข้าจะใช้วิธีของข้าเองแก้แค้นให้อาจารย์ของข้าอย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋นั่งฟังอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยหากเป็นเช่นนี้ ก็แสดงว่าคนของตำหนักปีกเงินเหล่านั้นก็ล้วนกลายเป็นคนของเซียวหลินเทียนแล้ว เช่นนั้นเซียวหลินเทียนจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1979

    เผยอวี้ช่วยประคองผู้รอบรู้ที่เปียกโชกไปทั้งตัวเดินมา และด้วยความช่วยเหลือของทั้งสองคน หลิงอวี๋จึงลงมาจากต้นไม้ได้อย่างราบรื่นนางปวดร้าวไปทั้งตัว อาภรณ์ที่สวมอยู่บนตัวก็ฉีกขาดไปหมด และตามเนื้อตัวก็มีบาดแผลอยู่มิน้อย“พี่ใหญ่ของข้าเล่า?”เผยอวี้มิเห็นเซียวหลินเทียน จึงเอ่ยถามออกมา“เขาถูกสัตว์ประหลาดตัวนั้นพาตัวไปแล้ว!”หลิงอวี๋จึงเอ่ยปลอบใจ “ข้าว่าลูกพี่ลูกน้องของท่านมีวรยุทธ์สูงมากนะ เขาน่าจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย!”“ข้าจะไปดูสักหน่อย พวกเจ้ารออยู่ที่นี่เถิด!”เผยอวี้เป็นห่วงเซียวหลินเทียน ดังนั้นหลังจากที่ทำคบเพลิงให้พวกเขาหนึ่งอันแล้ว เขาก็จะไปตามหาเซียวหลินเทียนตามเส้นทางที่สัตว์ประหลาดทิ้งร่องรอยเอาไว้“ทางที่ดีเจ้าอย่าไปจะดีกว่า มิใช่ว่าข้าจะขู่ให้เจ้ากลัว แต่บริเวณนี้ล้วนเป็นหญ้าพิษและสมุนไพรพิษทั้งนั้น บางชนิดแม้แต่ข้าก็มิรู้ว่ามันคืออะไร!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างมีเจตนาดี “สัตว์ประหลาดตัวนี้เติบโตมาด้วยการกินหญ้าพิษและสมุนไพรพิษ เจ้าช่วยมิได้ก็อย่าไปเพิ่มภาระจะดีกว่า! เชื่อพี่ใหญ่ของเจ้าเถิด เขาจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน!”เผยอวี้ เซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ล้วนเดาออกว่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1978

    “บริเวณโดยรอบมีต้นไม้สูงใหญ่อยู่มาก ท่านขึ้นไปบนต้นไม้สักต้น พวกเราต้องดูก่อนว่านี่มันคือสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่”หลิงอวี๋ชี้แนะเซียวหลินเทียนก็มิพูดพร่ำทำเพลง เขาเชื่อมั่นหลิงอวี๋โดยไม่มีเงื่อนไข แล้วหยิบตะบันไฟออกมาส่งให้หลิงอวี๋ จากนั้นก็อุ้มหลิงอวี๋กระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้สูงหลิงอวี๋จึงรีบจุดไฟแล้วมองลงไป สัตว์ประหลาดตัวนั้นไล่ตามมาที่ใต้ต้นไม้แล้ว และมันก็กำลังเงยหน้ามองขึ้นมาด้วยมันเหลือตาเพียงข้างเดียว และกำลังจ้องมองขึ้นมาด้วยสายตาเย็นเยือกแสงสว่างจากตะบันไฟมีอยู่จำกัด หลิงอวี๋มองเห็นเพียงดวงตาที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ขนที่ยุ่งเหยิงของมันเท่านั้น“ฮึ่ม…”สัตว์ประหลาดส่งเสียงออกมา แล้วก็ถอยหลังไปหลิงอวี๋มองเจตนาของมันออกในทันทีที่สัตว์ประหลาดถอยหลังไปมิได้วางแผนที่จะยอมแพ้ แต่เพื่อรวบรวมพลังจะมาพุ่งชนต้นไม้ให้หักต่างหาก“ที่นี่มิปลอดภัย หนีเร็ว!”ทันทีที่หลิงอวี๋พูดจบ สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็พุ่งกลับมา มิรู้ว่ามันเกิดมาพร้อมพลังเหนือธรรมชาติหรืออย่างไร ได้ยินเพียงเสียงไม้หัก...ต้นไม้ต้นหนาถูกสัตว์ประหลาดโจมตีจนหักไปแล้วเมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินเสียงร้องของหลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1977

    หลิงอวี๋หลบมิทัน จึงถูกสัตว์ประหลาดกระโจนใส่จนหงายหลังไป แล้วสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็อ้าปากจะพุ่งไปกัดคอของหลิงอวี๋หลิงอวี๋มองมิชัดในความมืด จึงเห็นเพียงดวงตาสีเขียวที่มีขนาดใหญ่เท่ากับระฆังทองแดงของสัตว์ประหลาดอยู่ใกล้แค่เอื้อม ลมหายใจร้อน ๆ ที่มันพ่นออกมาทั้งคาวทั้งเหม็น จนทำให้หลิงอวี๋รู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาก่อนหน้านี้หลิงอวี๋คว้าหินก้อนหนึ่งไว้ในมือ เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจร้อนใกล้เข้ามา นางก็ยัดก้อนหินเข้าไปโดยมิคิดทันทีจากนั้นมืออีกข้างที่ถือกริชมาตลอดก็แทงไปที่ดวงตาสีเขียวนั้นอย่างโหดร้าย“โฮก…”สัตว์ประหลาดมีหรือจะคาดคิดว่าหลิงอวี๋จะกล้าต่อต้านมันในเวลานี้ ในระยะที่ใกล้เช่นนี้ ดวงตาของมันจึงถูกหลิงอวี๋แทงเข้าไปเต็ม ๆในปากของมันก็มีหินที่หลิงอวี๋ยัดเข้าไปอุดไว้ และดวงตาของมันก็ถูกแทงจนบาดเจ็บ ขาหน้าที่มันกระโจนเข้ามาจึงเด้งตัวลุกขึ้นยืนในทันทีสัตว์ประหลาดตัวนั้นส่ายหัว แล้วคายก้อนหินออกมา จากนั้นก็ไปไล่กัดหลิงอวี๋อย่างบ้าคลั่งหลิงอวี๋อาศัยตอนที่มันเด้งตัวลุกขึ้นแล้วกลิ้งหนีไปด้านข้าง หลบเลี่ยงมันออกไปนางสั่นไปทั้งตัว การโจมตีเมื่อครู่มิใช่ว่านางมิกลัว เพียงแต่มันเกี่ย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1976

    “จริงหรือ?”ผู้รอบรู้มีหรือจะคาดคิดว่าหญ้าที่มีดอกสีขาวธรรมดานี้จะมีมูลค่าถึงเพียงนี้ เขาจึงรีบพุ่งเข้าไปเก็บทันที“ยังมีอีกหรือไม่? หากหาเจอได้มาก ๆ ก็มิต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินซื้อยาให้เจ้าแล้ว!”ผู้รอบรู้มองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้นหลิงอวี๋มองผู้รอบรู้ แล้วจู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาพี่ชายบุญธรรมที่เพิ่งรู้จักกันมินานมานี้ ในตอนที่เสือกระโจนใส่ตนก็พุ่งเข้ามาช่วยตนไว้โดยมิหลีกเลี่ยงในตอนนี้เมื่อพบสมุนไพรที่มีมูลค่า สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือการซื้อยาให้ตน เขามิเคยคิดว่าเมื่อมีเงินแล้วจะนำไปใช้ชีวิตดี ๆ เลยการได้รู้จักพี่ชายผู้นี้ช่างคุ้มค่าจริง ๆ!หลิงอวี๋แอบสาบานว่า ในภายภาคหน้านางจะต้องใช้สิ่งที่ตนได้เรียนรู้มา ทำให้ผู้รอบรู้ได้ใช้ชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน“พี่ใหญ่ หากเครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าเช่นนี้มีอยู่เต็มภูเขา เช่นนั้นก็คงจะไร้ค่าไปแล้ว!”“สิ่งนี้สามารถเก็บได้! ถึงแม้มูลค่าจะมิได้เท่าช่อสัตตะดารา แต่ก็สามารถขายได้หลายหมื่นทีเดียว!”หลิงอวี๋ให้คำแนะนำ ทำให้ผู้รอบรู้มีความสุขขึ้นมาผู้รอบรู้ตามหลิงอวี๋ไปอย่างมีความสุข หลิงอวี๋ให้เก็บอะไรเขาก็เก็บสิ่งนั้นหลิงอวี๋ให้เข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1975

    “อย่างไร?”เผยอวี้และเถาจื่อต่างมองไปทางฉินซานฉินซานจึงเอ่ยออกมา “กระหม่อมสังเกตเห็นว่าพลังของฮองเฮานั้นต่ำมาก ทั้งยังลืมพวกเราไปแล้วด้วย นี่คือเหตุจากการถูกปิดผนึกพ่ะย่ะค่ะ! หากพวกเราสามารถหาคนมาช่วยพระนางปลดผนึกไปได้ ฮองเฮาก็จะจำพวกเราได้แล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ก็เหมือนกับเสวี่ยเหมยก่อนหน้านี้ ตอนนั้นนางก็จำพวกเรามิได้ แต่เพราะขันทีโม่ช่วยปลดผนึกให้นาง นางจึงจำอดีตขึ้นมาได้!”เซียวหลินเทียนยิ้มขมขื่น “หากพวกเราบอกนางไปตามตรงว่านางถูกปิดผนึก เจ้าคิดว่านางจะยอมให้เราปลดให้กับนางแต่โดยดีหรือ?”“มิแน่ว่า นางอาจจะคิดว่าพวกเราปิดผนึกนาง แล้วหนีไปเร็วยิ่งกว่าเดิมก็ได้!”เถาจื่อพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “นับตั้งแต่ที่ฮองเฮาถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยพาตัวไป ทุกคนที่พระนางพบล้วนเป็นคนที่ต้องการจะทำร้ายพระนาง”“เก๋อฮุ่ยหนิงตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น เหมียวหยางก็อาศัยอำนาจมารังแก ส่วนหยางหงหนิงก็มิได้มีเจตนาที่ดีต่อพระนางอีก เมื่อได้เผชิญหน้ากับคนเหล่านี้แล้ว พระนางไม่มีทางไว้ใจพวกเราง่าย ๆ แน่!”เซียวหลินเทียนสนใจกับคำพูดของเถาจื่อ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “มีหนึ่งคนที่เป็นข้อยกเว้น!”เขามองลงไปในเหว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1974

    พวกเซียวหลินเทียนรีบดึงเถาวัลย์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อพวกเขาเห็นข้อความของหลิงอวี๋ ก็รู้สึกโล่งใจแต่เซียวหลินเทียนสังเกตเห็นจากหางตาว่ามีคำสองคำเขียนด้วยอักษรแบบย่อนี่คือความเคยชินเล็ก ๆ ของหลิงอวี๋ ตอนนั้นเซียวหลินเทียนเคยล้อเลียนหลิงอวี๋ว่าขี้เกียจ มิเขียนตัวอักษรให้สมบูรณ์แต่หลิงอวี๋กลับเอ่ยออกมาอย่างมิเห็นด้วย ‘ท่านมิคิดหรือเพคะว่าการเขียนเช่นนี้สะดวกกว่า? ราษฎรจำนวนมากมิรู้หนังสือ ก็เพราะอักษรหลายตัวมีขีดเยอะและเรียนรู้ได้ยากเพคะ!’‘หากทำให้กระชับลงเช่นนี้ เด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้ได้ง่าย และราษฎรที่มิรู้หนังสือก็จะจำได้ง่ายด้วยเพคะ!’‘เซียวหลินเทียน เมื่อสถานการณ์ราชสำนักมั่นคงแล้ว ท่านควรส่งเสริมให้บรรดาครูปฏิวัติการเขียนตัวอักษรเพคะ เขียนตัวอักษรให้กระชับ ทำให้ราษฎรอ่านออกเขียนได้มากขึ้นด้วย!’เหอะ ๆ!เซียวหลินเทียนมองอักษรที่กระชับสองตัวนั้น พลางคิดถึงคำพูดของหลิงอวี๋ แล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา“นายท่านอู่ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?”เผยอวี้เอ่ยถามอย่างแปลกใจ“พวกเจ้าดูเถิด นี่คือหลักฐานที่ดีที่สุด! สิงอวี๋ก็คือหลิงอวี๋!”เซียวหลินเทียนยื่นข้อความให้กับเผยอวี้ พร้อมก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status