“เพียะ!”หลิงอวี๋ตบนางอย่างแรงอีกครั้งแบบไม่เกรงใจ และเตะเพิ่มอีกครั้งด้วยการเตะครั้งนี้ทำให้นางรับใช้ตกบันไดไปอยู่ตรงหน้าเงินที่นางโยนลงไปพอดี“เจ้านับว่าเป็นสิ่งใดกัน กล้ามาพูดจาเอ็ดตะโรกับข้า! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”หลิงอวี๋มองต่ำลงไปอย่างเย่อหยิ่งพลางเอ่ย “เอาเงินไปเสีย ข้าให้รางวัลเจ้า! เอาไปซื้อยาเถิดไป!”“หลิงอวี๋ เจ้ากล้าตบนางรับใช้ของข้าหรือ!?”หลิงเยี่ยนเห็นเข้า ก็โวยวายขึ้นมาอย่างโมโห “ใครก็ได้ จับตัวนางไว้ที วันนี้ข้าจะสั่งสอนนังคนไม่รู้จักอับอายผู้นี้!”นางรับใช้หลายคนกับคนเฝ้าประตูเข้าไปล้อมหลิงอวี๋เอาไว้ หลิงอวี๋ไม่อยากให้ท่านอดีตเสนาบดีคิดว่าตนเองมาก่อเรื่องที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน จึงเจรจาด้วยเหตุผลก่อน“ข้ามีเรื่องด่วนมาหาท่านอดีตเสนาบดีหากพวกเจ้ายังกล้ามาขัดขวางข้าอีก ก็อย่ามาโทษว่าข้าลงไม้ลงมือ!”พวกนางรับใช้หลายคนไม่ฟังคำพูดนาง ต่างเข้ามาจับหลิงอวี๋ไว้คนละไม้คนละมือขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดจะลงมือ ก็มีมือหนึ่งยื่นเข้ามาแล้วดึงนางออกจากวงล้อมของพวกนางรับใช้“เมื่อวันก่อนท่านอดีตเสนาบดีออกจากเมืองหลวงไปฝึกทหารที่นอกเมือง!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น จิตใ
หลิงอวี๋คิดไปพลางเอ่ยอย่างทำเหมือนดีใจ "เช่นนั้นก็ดีเลย! เจ้ารีบส่งพวกแม่นมกับนางรับใช้ไปช่วยข้าตามหาสิ! หากเจอเยวี่ยเยวี่ย ข้าจะขอบคุณพวกเจ้ามาก ๆ เลย!"เมื่อได้ยินหลิงอวี๋ใช้งานตนเองอย่างไม่เกรงใจ มุมปากของชิวเหวินซวงก็ยกยิ้มดูถูก แสร้งทำเป็นเอ่ยอย่างลำบากใจ“พระชายา ข้าปากไวเอง! เรื่องที่เฮยจื่อหายตัวไปนั้น ท่านอ๋องโกรธมาก! เขาเพิ่งออกคำสั่งเมื่อเช้านี้ ว่าหากไม่ได้รับอนุญาตจากเขา คนรับใช้ในตำหนักจะไม่สามารถเข้าหรือออกจากตำหนักได้ตามอำเภอใจ!”“หากท่านอ๋องอยู่ที่นี่ ก็ต้องได้รับอนุญาตจากเขาก่อน ข้าจึงจะสามารถช่วยท่านได้!”"แต่ท่านอ๋องไม่อยู่ ข้าก็ไม่สามารถตัดสินใจส่งคนไปกับท่านโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ ข้าต้องขอโทษจริง ๆ!"ปากว่าตาขยิบ!ตอนนี้หลิงอวี๋มั่นใจมากกว่า ชิวเหวินซวงแม่ดอกบัวขาวผู้นี้กำลังหยอกล้อตนเองอยู่!หลิงอวี๋ยิ้มเรียบ ๆ จู่ ๆ ก็พุ่งเข้าไปหาชิวเหวินซวง และกัดฟันเอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง“ชิวเหวินซวง เจ้าเป็นคนส่งคนมาจับเยวี่ยเยวี่ยไปใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋พูดพลางมองตาของชิวเหวินซวงไปด้วย เมื่อเห็นแววตาของนางเคร่งเครียดขึ้นโดยไม่รู้ตัวตอนที่เอ่ยถึงการจับตัวไป หัวใจของหลิ
“ตำรับยา?”ตำรับยาอะไร?ดวงตาของชิวเหวินซวงเป็นประกาย นึกถึงที่สองวันมานี้ลู่หนานเทกากยาทิ้ง หรือว่ายานี้ลู่หนานไม่ได้กินเอง แต่เซียวหลินเทียนเป็นคนกิน?ตอนนี้เซียวหลินเทียนเชื่อใจหลิงอวี๋ กระทั่งกล้ากินตำรับยาที่นังคนชั้นต่ำนี่จัดให้แล้วหรือ?มิน่า เฮยจื่อหายตัวไป ท่านอ๋องไม่สงสัยหลิงอวี๋เลย!!ชิวเหวินซวงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย นางประมาทไป ทำให้เซียวหลินเทียนเชื่อใจหลิงอวี๋ไปแล้วโดยไม่รู้ตัว!“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องจะไม่ช่วยตามหาเยวี่ยเยวี่ยจริงหรือเพคะ?”ชิวเหวินซวงเอ่ยอย่างระมัดระวัง "สิ่งที่พระชายาพูดก็มีเหตุผลนะเพคะ ไม่แน่เด็กทั้งสองคนอาจถูกคนพวกเดียวกันลักพาตัวไปก็เป็นได้! ขอเพียงพบคนหนึ่ง ก็จะพบอีกคนเช่นกัน!"เซียวหลินเทียนยังคงอยู่ในอารมณ์โกรธไม่หาย จึงเอ่ยอย่างหงุดหงิด“เจ้าไม่ได้ยินที่นางพูดว่านางจะเสนอรางวัลใหญ่เพื่อตามหารึ? นางมีเงินและมีฉินซานคอยช่วยเหลือ เช่นนั้นก็ไปหาเอาเองแล้วกัน! เหตุใดข้าจะต้องเข้าไปยุ่งด้วย!”ชิวเหวินซวงไม่ยอมแพ้ เอ่ยแนะนำ"ท่านอ๋อง อย่าได้ตรัสอย่างโกรธเคืองเช่นนี้เลยเพคะ! เมื่อครู่หม่อมฉันเพิ่งพบพระชายาที่ประตู แล้วก็นึกขึ้นได้เรื่องหนึ่ง!"“วัน
“ท่านพี่ อย่าได้กังวล! เราจะต้องตามหาเยวี่ยเยวี่ยเจอแน่!”เกิ่งเสี่ยวหาวเห็นสีหน้าหลิงอวี๋ดูเศร้าหมอง จึงรีบปลอบใจ“วันนี้ก็ใช่ว่าเราไม่ได้อะไรเลย! การช่วยเด็กที่ถูกลักพาตัวไปหลายคน นี่ก็เป็นบุญอย่างหนึ่งแล้ว!”“เยวี่ยเยวี่ยเป็นคนดีย่อมไม่มีภัยใดมาถึงตัว เราต้องตามหาเขาเจอแน่!”ฉินซานก็มองนางอย่างกังวลเช่นกัน“อาอวี๋ เจ้าก็ตามหามาทั้งวันแล้ว ข้าจะให้คนส่งเจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนดีหรือไม่ ข้ากับเสี่ยวหาวจะจัดหาคนมาตามหาเพิ่ม…”“ไม่! ข้าจะหาเยวี่ยเยวี่ยให้เจอ! ข้าอยากหาเขาให้เจอด้วยตัวข้าเอง!”หลิงอวี๋ยกมือทั้งสองขึ้นเช็ดหน้า พบว่าน้ำตาเต็มใบหน้าของนางไปหมดไม่แปลกใจเลยที่เกิ่งเสี่ยวหาวกับฉินซานจะเป็นห่วงนางถึงเพียงนั้น...หลิงอวี๋ลูบหน้าแรง ๆ สองสามครั้ง ให้ตนเองฮึดสู้ขึ้นมานางจะท้อถอยไม่ได้!หากนางท้อถอย พวกเกิ่งเสี่ยวหาวก็จะได้รับผลกระทบทางอารมณ์จากนางเช่นกัน!“ข้าเชื่อว่าคนดีจะได้รับแต่สิ่งที่ดี! พวกเราช่วยเด็ก ๆ เหล่านี้แล้ว เมื่อพระเจ้าเห็นบุญนี้ จะต้องให้เยวี่ยเยวี่ยกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน!”หลิงอวี๋มองพวกคนที่ถูกมัดไว้ คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างโหดร้าย“เจ้ากับฉิ
“เซียวหลินเทียน! เจ้าคืนลูกชายของข้ามานะ!”หลิงอวี๋เห็นความมืดมิดกลืนร่างผอมบางของหลิงเยวี่ยเข้าไป ก็ร้องออกมาด้วยใจที่แตกสลาย“ข้าเกลียดเจ้า… ชีวิตนี้อย่าคิดว่าข้าจะให้อภัยเจ้า…”นางยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นเงาดำ ๆ กระโดดลงหน้าผาไปแล้วตามมาด้วยเสียงคำรามอย่างร้อนใจของลู่หนานกับจ้าวซวน "ท่านอ๋อง... ไม่!"สมองของหลิงอวี๋ว่างเปล่า มองไปที่หน้าผามืดมิดด้วยความตะลึงงัน เซียวหลินเทียนกระโดดลงไปหรือ?จ้าวซวนไม่พูดพร่ำทำเพลง โบกดาบในมือแล้วพุ่งเข้าไปหาหลิงอวี๋หลิงอวี๋ตกใจมากจนลืมหลบ"หลบเร็วเข้า!"ตอนที่ฉินซานเห็นหลิงเยวี่ยถูกโยนลงไปก็รีบวิ่งเข้ามาทันที แต่ช้าไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น เซียวหลินเทียนกระโดดลงไปแล้วเขาเห็นจ้าวซวนโกรธมากจนอยากจะฆ่าหลิงอวี๋ ก็รีบพุ่งเข้าไปกอดหลิงอวี๋หลบทันทีลู่หนานก็คิดว่าจ้าวซวนจะฆ่าหลิงอวี๋เช่นกัน จึงรีบตะโกน "พี่จ้าว อย่าใจร้อนสิ..."ไหนเลยจะรู้ว่าจ้าวซวนผ่านหลิงอวี๋ไป แล้วตัดขาของเฉินฉางซิ่งที่คิดจะใช้โอกาสนี้หลบหนีด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียว“เอาคบไฟมา!”จ้าวซวนใบหน้าบูดบึ้ง แล้วตะคอกใส่หลู่ชิ่งที่ตัวแข็งเป็นหินอยู่ข้าง ๆ หลู่ชิงรีบหยิบคบไฟ ใช้
ตอนที่หลิงอวี๋เอื้อมมือออกไปจะอุ้มหลิงเยวี่ย เซียวหลินเทียนก็ฟื้นขึ้นมา แล้วกระชับแขนของเขาโดยไม่รู้ตัวหลิงเยวี่ยถูกรัดแน่นจนเจ็บและร้องออกมาเซียวหลินเทียนฟื้นขึ้นมาอย่างเต็มที่ ถึงได้เห็นแสงไฟและหลิงอวี๋“เซียวหลินเทียน เจ้าปล่อยก่อนเถิด ข้าจะให้พวกเขาดึงเยวี่ยเยวี่ยขึ้นไปก่อน!”หลิงอวี๋เห็นดวงตาที่สับสนของเซียวหลินเทียนจึงพูดเซียวหลินเทียนถึงได้ปล่อยมือ จากนั้นหลิงอวี๋ก็ผูกเชือกรอบตัวหลิงเยวี่ย พลางเอ่ยปลอบโยนเขา“เยวี่ยเยวี่ย ไม่ต้องกลัวนะ ลู่หนานกับลุงจ้าวซวนจะดึงเจ้าขึ้นไปอย่างปลอดภัย!”หลิงเยวี่ยพยักหน้าอย่างรู้ความหลิงอวี๋กระตุกเชือก ลู่หนานได้รับสัญญาณก็ดึงหลิงเยวี่ยขึ้นไปอย่างช้า ๆเมื่อครู่หลิงอวี๋เพิ่งสังเกตเห็นว่าสิ่งที่รองรับเซียวหลินเทียนกับหลิงเยวี่ยไว้นั้นเป็นต้นไม้ใหญ่รูปร่างคดเคี้ยวและลำต้นหนามาก เซียวหลินเทียนจึงไม่ตกอยู่ในอันตรายแต่นางไม่กล้าเข้าไป กลัวว่าลำต้นของต้นไม้จะไม่สามารถรับน้ำหนักของผู้ใหญ่ที่เพิ่มขึ้นอีกคนได้ นางยืนอยู่บนหินที่ยื่นออกมาติดกับกำแพงหิน“เซียวหลินเทียน บาดแผลของเจ้าข้าไม่สามารถช่วยรักษาให้ได้ในตอนนี้! แต่เจ้าไม่ต้องกังวล รอ
หลิงอวี๋ถูกดึงขึ้นมาอย่างราบรื่น นางไม่สนใจที่จะพัก แล้วเอ่ยเรียก "เซียวหลินเทียน ข้าจะรักษาบาดแผลให้เจ้า!"นางให้ลู่หนานถือคบไฟ จากนั้นหยิบยารักษาบาดแผล ยาฆ่าเชื้อ และผ้าก๊อซออกมาจากในมิติ แล้ววิ่งไปคุกเข่าตรงหน้าเซียวหลินเทียนนางใช้มีดผ่าตัดกรีดขากางเกงของเซียวหลินเทียน เห็นบาดแผลยาวเท่าฝ่ามือ มีเลือดและเนื้อเหวอะออกมานางก้มหัวใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดแผล แผลยาวขนาดนี้ จำเป็นต้องเย็บแผลหลิงอวี๋หยิบเข็มออกมาแล้วเย็บแผลโดยไม่มีการคิดอะไรเลยนางคิดแค่อยากจะรีบจัดการกับบาดแผล แล้วไปดูแลหลิงเยวี่ย เยวี่ยเยวี่ยตกลงไปสูงถึงเพียงนั้น จะต้องตกใจมากเป็นแน่หลิงอวี๋รีบเย็บอย่างรวดเร็ว ทายารักษาบาดแผล แล้วพันผ้าพันแผลให้เซียวหลินเทียนจากนั้นนางก็สั่งให้ลู่หนานกับจ้าวซวนอุ้มเซียวหลินเทียนกลับไปที่รถม้าแล้วหลิงอวี๋ถึงไปอุ้มหลิวเยวี่ย หลู่ชิ่งเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ "พระชายาทำงานหนักมานานมากแล้ว จะต้องเหนื่อยมากแน่! ให้ข้าแบกเยวี่ยเยวี่ยขึ้นไปเถิดขอรับ!"หลิงอวี๋เห็นเฮยจื่อมองตาปริบ ๆ จึงเอ่ย "เจ้าแบกเฮยจื่อไปเถิด! เยวี่ยเยวี่ยนี้ข้าดูแลก็พอแล้ว!!"หลู่ชิ่งเหลือบมองเฮยจื่อ ทำได้เพียงอดกลั้น
หลิงเยวี่ยเป็นเด็กเขารู้จักพอเพียงได้ง่าย ๆ ในสายตาของเขาแล้วการได้อยู่ในอ้อมแขนของหลิงอวี๋เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดประกอบกับตลอดทั้งวันนี้ล้วนมีแต่ความวิตกกังวล พอรถม้าโยกไปมา ไม่นานเขาก็หลับไปแต่เฮยจื่อกลับไม่กล้านอน เขาคุกเข่าแทบเท้าของเซียวหลินเทียน อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่กล้าพูดหลิงอวี๋เห็นเซียวหลินเทียนหลับตา นางก็หันหน้าหนีไปเช่นกันแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะกระโดดลงไปช่วยหลิงเยวี่ยได้ทันเวลา แต่พอนึกถึงว่าตอนอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ตอนที่เฉินฉางซิ่งให้เซียวหลินเทียนเลือก คนที่เซียวหลินเทียนเลือกก็คือเฮยจื่อหลิงอวี๋ไม่สามารถทนรับสิ่งนี้ได้ ถ้าเซียวหลินเทียนเลือกหลิงเยวี่ย เยวี่ยเยวี่ยก็ไม่มีทางถูกเฉินฉางซิ่งผลักลงหน้าผาไปดังนั้น นางไม่สนใจทั้งนั้นว่า "พ่อบุญธรรมกับลูกบุญธรรม" อย่างพวกเขาจะปฏิบัติต่อกันเยี่ยงไรหลิงอวี๋กอดเยวี่ยเยวี่ยแน่น คิดแค่กลับตำหนักไปจะพาหลิงเยวี่ยกับพวกแม่นมลี่ออกไปจากตำหนักอ๋องอี้เซียวหลินเทียนต้องการหย่าร้างกับนางอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?ได้ นางจะพาเยวี่ยเยวี่ยไป ให้เซียวหลินเทียนเสียใจไปตลอดชีวิตหลังจากที่ได้รู้ความจริง!แต่เมื่อเห็นหลิงเ
หากหานเหมยเชื่อฟังและอยู่ต่อก็ช่างไป มิฉะนั้นนางจะฆ่าหานเหมยเสีย...หากหาอะไรกินมิได้เลยจริง ๆ หานเหมยก็พอที่จะให้ตนอดทนจนเฉียวเค่อมาตามหาได้!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยหิวมากจนหมดเรี่ยวแรง จนทนมิไหวแล้วจริง ๆ เนื้อมนุษย์นางก็กินได้ขณะที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกมีดเล็งไปที่คอหานเหมย ก็ได้ยินเสียงของหลิงอวี๋จากข้างนอก “เสี่ยวอวี้ เจ้าออกมาดูสิ พี่ตีกระต่ายมาให้เจ้าตัวหนึ่งนะ!”หานเหมยหลุดพ้นจากการควบคุมของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอย่างมีความสุขแล้วมุดออกไปจ้าวหรุ่ยหรุ่ยออกแรงมากเกินไปจึงล้มลงไปกับพื้น นางรีบซ่อนกริชไว้ก่อนที่จะเดินออกมาหลิงอวี๋มิได้ทิ้งพวกนาง!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยพูดมิออกว่าในใจรู้สึกอย่างไร ทั้งมีความสุขและมีความสับสนเล็กน้อยหากเปลี่ยนเป็นตนคงจะใช้โอกาสนี้หลบหนีไปตามลำพังอย่างแน่นอนภูเขาหิมะที่เหน็บหนาวและยาวไปสุดลูกหูลูกตานี้เมื่อไรจึงจะออกไปได้ หนีไปคนเดียวจะมิสะดวกกว่าหรือ?“พี่หญิง เป็นกระต่ายจริง ๆ ด้วย พี่หญิงสุดยอดมาก!”หานเหมยรับกระต่ายที่หลิงอวี๋ส่งมาแล้วกรีดร้องอย่างตื่นเต้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองไปที่กระต่าย แล้วคิดถึงสิ่งที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ หากหลิงอวี๋สามารถหาของกินมาได้ ต่อไปต
วัง?บนภูเขาหิมะจะมีวังได้อย่างไร?หลิงอวี๋มองดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนเมื่อครู่บนภูเขายังคงมีหมอกอยู่ จึงมองเห็นฝั่งตรงข้ามมิชัดเจนแต่เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นส่องแสงเหล่ากลุ่มหมอกก็สลายหายไป วังแห่งนั้นจึงปรากฏขึ้นมาหลังคาสูงและกำแพงที่ดูสง่างามนั้นสีขาวราวกับหิมะที่อยู่รอบ ๆ สะท้อนแสงอาทิตย์และส่องแสงระยิบระยับออกมา!มันคือวังจริง ๆ วังน้ำแข็ง!หลิงอวี๋รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เมื่อเห็นวังก็หมายความว่ามีคนอยู่ เช่นนั้นพวกนางก็ไม่มีทางหิวและแข็งตายอยู่บนภูเขาหิมะนี้แล้วหลิงอวี๋รีบสังเกตเส้นทางไปสู่วังน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ขอเพียงลงจากภูเขาหิมะนี้ แล้วหาเส้นทางภูเขาฝั่งตรงข้ามก็สามารถเข้าถึงวังน้ำแข็งได้แล้วหลิงอวี๋จดจำทิศทางของวังน้ำแข็งแล้วย้อนกลับไปตามทางที่มานางยังคงคิดถึงกระต่ายตัวนั้นอยู่นึกได้ว่าจะไปวังน้ำแข็งจะต้องใช้กำลัง หากมิได้กินอะไรสักหน่อย ก็คงเป็นเรื่องยากที่พวกนางจะไปถึงวังน้ำแข็งแห่งนั้น!หลิงอวี๋มีความหวังขึ้นมาแล้ว นางจึงมองหาร่องรอยของกระต่ายอย่างใจเย็น มิช้าหลิงอวี๋ก็พบมูลสัตว์เมื่อตามทิศทางของมูลไป ในที่สุดหลิงอวี๋ก็พบกระต่ายหิมะสองสามตัวกำลังกินอาหารอยู่ใน
เมื่อนึกถึงเฉียวเค่อ จู่ ๆ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งเป้าหมายของเฉียวเค่อในการมาที่ฉินตะวันตกครานี้คือการจับตัวหลิงอวี๋ ตราบใดที่หลิงอวี๋อยู่ในมือของตน เฉียวเค่อจะต้องหาวิธีตามหาพวกนางอย่างแน่นอนเมื่อถึงตอนนั้นก็จะสามารถหนีไปจากสถานที่แย่ ๆ นี้ได้แน่!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย มิรู้ว่าเผลอหลับไปเมื่อใดหลิงอวี๋และหานเหมยกอดกันเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นและค่อย ๆ หลับไปเช่นกันแต่เมื่อถึงกลางดึก ทั้งสามคนต่างก็ถูกความหนาวเย็นปลุกให้ตื่นขึ้นมาอุณหภูมิในภูเขาหิมะลดลงเร็วเกินไป และหิมะที่ลมหนาวพัดมาก็ตกลงมาบนตัวของทั้งสามคน ทำให้ทั้งสามหนาวเหน็บจนร่างจะแข็งจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิสนใจความแค้นของนางกับพวกหลิงอวี๋ เบียดเสียดเข้าไประหว่างทั้งสองนั้นแล้วพยายามให้ทั้งสองคนทำให้ตนอบอุ่นยาวนานกว่าจะถึงรุ่งสาง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็รู้สึกว่าตนหิวมากจนกินหมูทั้งตัวได้เลย“มิได้ พวกเราจะเดินทางเช่นนี้มิได้ ต้องหาอาหารให้อิ่มท้องแล้วค่อยลงจากภูเขา!”“มิเช่นนั้นพวกเราคงไม่มีแรงเดินลงภูเขาแน่!”อุณหภูมิร่างกายที่ลดลงทำให้พลังงานของทั้งสามคนหมดไป จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเองก็ไม่มีแรงแล้ว แต่ก
หลิงอวี๋เห็นท่าทีของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอ่อนลง อีกทั้งความตั้งใจเดิมก็เป็นความหวังดี จึงปล่อยไม้เท้าแล้วเอ่ยเสียงเรียบ“ขอเพียงเจ้ามิทำร้ายพวกเรา จะอะไรก็คุยง่ายทั้งนั้น ไปเถิด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยถูกเผยอวี้ยิงที่น่องจนบาดเจ็บ ทั้งยังถูกธนูยิงเข้าที่ท้องน้อยอีกด้วย จึงเดินมิเร็วนักหลิงอวี๋จึงให้หานเหมยประคองนาง ส่วนตนก็สำรวจเส้นทางอยู่ข้างหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคิดว่าภูเขาหิมะแห่งนี้ทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา หลิงอวี๋หนีไปมิพ้น จึงมิกังวลเมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด อุณหภูมิก็ลดลงอย่างรวดเร็วตามที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยบอกไว้ตอนที่ทั้งสามคนอยู่ที่ฉินตะวันตกเป็นวสันตฤดู จึงมิได้สวมเสื้อผ้ามากนัก ไหนเลยจะคิดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะพาพวกนางมาที่ภูเขาหิมะ พวกนางต่างก็หนาวจนตัวสั่นกันไปหมดหลิงอวี๋รู้สึกเพียงว่าร่างกายของตนเริ่มจะแข็ง และในที่สุดก่อนฟ้ามืดก็พบร่องเขาแห่งหนึ่งที่พอจะให้ทั้งสามคนเข้าไปซ่อนตัวได้ร่องเขาเป็นช่องตรงกลางของก้อนหินหลายก้อน ข้างหน้าไม่มีที่กำบัง ทั้งสามคนจึงเกาะกลุ่มเข้าด้วยกันแล้วพิงกันเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นลมหนาวพัดอย่างรุนแรงอยู่ข้างนอก ทั้งสามคนมิได้เอาของกินใด ๆ มา เดินกันมานานก็หิวโ
ตอนที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยถูกหลิงอวี๋ยิงได้รับบาดเจ็บและตกลงมาจากกิ่งไม้ นางนอนอยู่บนพื้นหญ้า รู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณกำลังสลายไปอย่างรวดเร็ว รู้ว่าหากตกอยู่ในมือหลิงอวี๋ นางต้องหนีมิรอดเป็นแน่ในยามคับขันระหว่างความเป็นความตาย นางหยิบลูกแก้ววิญญาณที่เฉียวเค่อให้มา มิสนใจคำเตือนของเฉียวเค่อที่ว่าห้ามใช้โดยพลการ เพื่อเอาชีวิตรอด เพราะนางยอมเสี่ยงหลิงอวี๋เดินเข้ามาพอดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงพาหลิงอวี๋ไปด้วยใครจะไปคิดว่าลูกแก้ววิญญาณจะพาพวกนางทั้งสามมาที่ยอดเขาหิมะ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นคนแรกที่ตื่นขึ้น เห็นเทือกเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ถึงกับเกือบจะสติแตกนี่มันที่ไหนกัน?นางมิรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เช่นนั้นจะหาทางกลับไปอย่างไร?แต่สิ่งที่ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยฮึดขึ้นมาใหม่คือการที่นางเห็นหลิงอวี๋และหานเหมยที่นอนอยู่ข้าง ๆนางมิได้อยู่คนเดียว!ศัตรูของนางก็มาด้วย!ฮ่า ฮ่า ฮ่า!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิสนใจที่จะยินดี ค่อย ๆ คลานไปหาหลิงอวี๋ แล้วหยิบเข็มเงินออกมาปิดกั้นจิตสำนึกของหลิงอวี๋ และยังแทงเข็มเงินที่บริเวณจุดตันเถียนของหลิงอวี๋อีกหลายเข็ม เพื่อให้แน่ใจว่าหลิงอวี๋จะมิสามารถใช้พลังได้แต่แค่
เผยอวี้และฉินซานรีบออกจากวังเพื่อเตรียมออกเดินทาง หลิงซวนให้เถาจื่อไปกับหานอวี้เพื่อช่วยเหลือหลิงอวี๋ ส่วนตนจะอยู่ดูแลเซียวเยวี่ยท่านอ๋องเฉิงรีบเขียนจดหมายแจ้งข่าวการหายตัวไปของหลิงอวี๋ให้เซียวหลินเทียนทราบข่าวสารถูกส่งไปด้วยความเร็วสูงสุด ใช้เวลาเพียงสองวันก็ถึงมือเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนมิเคยคาดคิดมาก่อนว่า แม้จะรีบกลับมายังเมืองหลวงด้วยความเร็วสูงสุดเขาก็ยังหวังว่าจะได้พบกับภรรยาและลูก แต่กลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นเซียวหลินเทียนโกรธจนมือสั่น คนอย่างจ้าวหรุ่ยหรุ่ย เขาเกลียดจนอยากจะลอกเนื้อเถือหนังนางทั้งเป็นเมื่อเซียวหลินเทียนสงบสติอารมณ์ลง เขาก็ตัดสินใจมิกลับเมืองหลวง ให้อันเจ๋อเป็นหัวหน้าคณะกลับไปเมืองหลวงก่อน ร่วมมือกับท่านอ๋องเฉิงปกป้องเมืองหลวงส่วนจ้าวฮุยและองค์ชายคัง เซียวหลินเทียนมอบอำนาจให้ท่านอ๋องเฉิงจัดการได้อย่างเต็มที่จ้าวฮุยมีความผิดฐานก่อกบฏต่อแคว้น มีองค์ชายอิงและเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปด้วยเป็นพยาน รวมกับความผิดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยที่ลักพาตัวฮองเฮา ความผิดทั้งสองข้อนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลจ้าวถูกทำลายล้างได้แล้วส่วนองค์ชายคัง เซียวหลินเทียนได้รับข่า
คำพูดของเย่หรงมิได้นำความหวังมาให้มากนัก เผยอวี้รีบพูดว่า “ถึงแม้ลูกแก้ววิญญาณของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเคลื่อนย้ายได้เพียงมิกี่ร้อยลี้ เราก็ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะไปถึง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะยอมให้ฮองเฮารอจนเราไปช่วยได้หรือ?”“ใช่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่มิกี่ร้อยลี้กว้างใหญ่ออกปานนั้น เราจะไปหาฮองเฮาได้ที่ไหน!”ฉินซานก็พูดอย่างร้อนรนเย่หรงพูดมิออก จะอธิบายพลังของพวกเขาในแดนเทพให้คนธรรมดาเหล่านี้ฟังอย่างไร!เขาไม่มีความอดทนเมื่อต้องอธิบายกับคนที่มิรู้จัก เห็นว่าคนเหล่านี้ช่วยอะไรมิได้ จึงหันหลังเดินจากไป“ข้าบอกทิศทางให้พวกเจ้าแล้ว หลิงหลิงมิอยู่ เช่นนั้นขอตัวก่อน! ข้าไปแล้ว!”เมื่อเผยอวี้รู้ตัวและต้องการจะเรียกเขาไว้ เย่หรงก็หายไปแล้ว“คุณชายเย่…”เผยอวี้ตะโกนอย่างร้อนรน“มิต้องเรียกแล้ว เขามิอยากช่วย เจ้าเรียกจนเสียงแหบก็มิกลับมาหรอก!”แม่นมอูหัวเราะเยาะ พูดอย่างเรียบ ๆ ว่า “พ่อหนุ่มตระกูลเย่คนนี้มิยอมแพ้ในการค้นหาหลิงอวี๋ง่าย ๆ เราตามเขาไป ก็จะหาที่อยู่ของหลิงอวี๋จนเจอ!”“จะตามอย่างไร? เขาวิ่งเร็วขนาดนั้น ข้าตามมิทันหรอก!”เผยอวี้เห็นแล้วว่าพลังของเย่หรงเหนือกว่าตน หากเย่หรงอยาก
เผยอวี้สั่งให้ทหารบางส่วนอยู่ค้นหาหลิงอวี๋ต่อไป อีกส่วนหนึ่งนำตัวมือสังหารที่จับตัวไท่เฟยเส้าและฮองเฮาไปส่งยังเมืองหลวงในบรรดาคนเหล่านั้นมีจ้าวเฉียงฮั่วลุงรองของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยู่ด้วย เขาเห็นว่าสถานการณ์มิดี จึงฉวยโอกาสหนีไปกับมือสังหารที่หลบหนีระหว่างการต่อสู้จ้าวเฉียงฮั่วรีบลงเขาอย่างรวดเร็วและรีบกลับจวนเก็บข้าวของและพาครอบครัวหนีไปองค์หญิงใหญ่และไท่เฟยเส้าพ่ายแพ้แล้ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็หายตัวไป ในเวลานี้หากมิรีบหนีแล้วจะรอให้เสียวหลินเทียนกลับมาสังหารหรือไร?ขบวนของเผยอวี้ได้พบกับเย่หรงและแม่นมอูที่กำลังรีบมาสมทบกับหลิงอวี๋ เย่หรงมิเห็นหลิงอวี๋ในขบวน จึงใจหาย หรือว่าตนมาช้าเกินไป หลิงอวี๋ถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารไปเสียแล้ว?“หลิงหลิงอยู่ที่ใด?”เย่หรงบุกเข้ามาขวางเผยอวี้อย่างดุเดือด หากเรื่องเป็นอย่างที่ตนคิด เขาจะต้องไปฆ่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยให้ได้“เรื่องนี้ยืดยาวนัก ไว้กลับไปคุยกันที่วังเถอะ!”เผยอวี้คว้าตัวเย่หรงไว้ ระหว่างทางก็เล่าเรื่องราวให้ฟังใจของเย่หรงจึงสงบลง แม้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นน้อย แต่ก็มิได้หมายความว่าหลิงอวี๋จะตายเสียเลยเมื่อรู้เรื่องแล้ว เขาจะต้องช่วยหลิง
“องค์หญิงใหญ่ ท่านกับไท่เฟยเส้ามิใช่พี่น้องร่วมสาบานกันหรอกหรือ?”หานอวี้พูดเสียงเย็นชาว่า “ไท่เฟยเส้าตายแล้ว หากท่านมิตามพระนางไปยมโลก พระนางคงจะเหงาแย่...”ก่อนที่องค์หญิงใหญ่จะรู้ว่าหานอวี้ทำอะไร หานอวี้ก็ดึงปกเสื้อของนางออก แล้วเอาผิวหนังที่เน่าเปื่อยของไท่เฟยเส้ายัดเข้าไปในปกเสื้อขององค์หญิงใหญ่หลิงซวนเห็นเหตุการณ์นี้ มิได้พูดอะไร และหันหลังเดินจากไปนางเข้าใจความรู้สึกของหานอวี้ หานเหมยเป็นญาติเพียงคนเดียวของนางในใต้หล้าแห่งนี้หานเหมยและฮองเฮาถูกวังวนลึกลับนั้นดูดหายไป มิรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร หานอวี้จึงใช้โอกาสนี้ระบายความกลัวและความกังวลใจองค์หญิงใหญ่รู้สึกว่า ผิวหนังของนางซึ่งสัมผัสกับผิวหนังที่เน่าเปื่อยของไท่เฟยเส้าเริ่มคันและเจ็บปวด นางร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวแต่เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างก็กำลังตามหาหลิงอวี๋และหานเหมย ใครกันจะสนใจนาง!องค์หญิงใหญ่ขอความช่วยเหลือมิได้ หัวเราะมิออกอีกต่อไปหลิงอวี๋ที่เป็นคนเดียวที่จะช่วยนางได้ ก็มาหายตัวไปแล้ว นางจะไปหาใครมาช่วยได้อีก!กรรมใดใครก่อ ผลนั้นย่อมตกแก่ผู้นั้น!องค์หญิงใหญ่นึกถึงคำพูดของหลิงอวี๋ที่เคยกล่าวกับไท่เฟย