“ท่านพี่ อย่าได้กังวล! เราจะต้องตามหาเยวี่ยเยวี่ยเจอแน่!”เกิ่งเสี่ยวหาวเห็นสีหน้าหลิงอวี๋ดูเศร้าหมอง จึงรีบปลอบใจ“วันนี้ก็ใช่ว่าเราไม่ได้อะไรเลย! การช่วยเด็กที่ถูกลักพาตัวไปหลายคน นี่ก็เป็นบุญอย่างหนึ่งแล้ว!”“เยวี่ยเยวี่ยเป็นคนดีย่อมไม่มีภัยใดมาถึงตัว เราต้องตามหาเขาเจอแน่!”ฉินซานก็มองนางอย่างกังวลเช่นกัน“อาอวี๋ เจ้าก็ตามหามาทั้งวันแล้ว ข้าจะให้คนส่งเจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนดีหรือไม่ ข้ากับเสี่ยวหาวจะจัดหาคนมาตามหาเพิ่ม…”“ไม่! ข้าจะหาเยวี่ยเยวี่ยให้เจอ! ข้าอยากหาเขาให้เจอด้วยตัวข้าเอง!”หลิงอวี๋ยกมือทั้งสองขึ้นเช็ดหน้า พบว่าน้ำตาเต็มใบหน้าของนางไปหมดไม่แปลกใจเลยที่เกิ่งเสี่ยวหาวกับฉินซานจะเป็นห่วงนางถึงเพียงนั้น...หลิงอวี๋ลูบหน้าแรง ๆ สองสามครั้ง ให้ตนเองฮึดสู้ขึ้นมานางจะท้อถอยไม่ได้!หากนางท้อถอย พวกเกิ่งเสี่ยวหาวก็จะได้รับผลกระทบทางอารมณ์จากนางเช่นกัน!“ข้าเชื่อว่าคนดีจะได้รับแต่สิ่งที่ดี! พวกเราช่วยเด็ก ๆ เหล่านี้แล้ว เมื่อพระเจ้าเห็นบุญนี้ จะต้องให้เยวี่ยเยวี่ยกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน!”หลิงอวี๋มองพวกคนที่ถูกมัดไว้ คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างโหดร้าย“เจ้ากับฉิ
“เซียวหลินเทียน! เจ้าคืนลูกชายของข้ามานะ!”หลิงอวี๋เห็นความมืดมิดกลืนร่างผอมบางของหลิงเยวี่ยเข้าไป ก็ร้องออกมาด้วยใจที่แตกสลาย“ข้าเกลียดเจ้า… ชีวิตนี้อย่าคิดว่าข้าจะให้อภัยเจ้า…”นางยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นเงาดำ ๆ กระโดดลงหน้าผาไปแล้วตามมาด้วยเสียงคำรามอย่างร้อนใจของลู่หนานกับจ้าวซวน "ท่านอ๋อง... ไม่!"สมองของหลิงอวี๋ว่างเปล่า มองไปที่หน้าผามืดมิดด้วยความตะลึงงัน เซียวหลินเทียนกระโดดลงไปหรือ?จ้าวซวนไม่พูดพร่ำทำเพลง โบกดาบในมือแล้วพุ่งเข้าไปหาหลิงอวี๋หลิงอวี๋ตกใจมากจนลืมหลบ"หลบเร็วเข้า!"ตอนที่ฉินซานเห็นหลิงเยวี่ยถูกโยนลงไปก็รีบวิ่งเข้ามาทันที แต่ช้าไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น เซียวหลินเทียนกระโดดลงไปแล้วเขาเห็นจ้าวซวนโกรธมากจนอยากจะฆ่าหลิงอวี๋ ก็รีบพุ่งเข้าไปกอดหลิงอวี๋หลบทันทีลู่หนานก็คิดว่าจ้าวซวนจะฆ่าหลิงอวี๋เช่นกัน จึงรีบตะโกน "พี่จ้าว อย่าใจร้อนสิ..."ไหนเลยจะรู้ว่าจ้าวซวนผ่านหลิงอวี๋ไป แล้วตัดขาของเฉินฉางซิ่งที่คิดจะใช้โอกาสนี้หลบหนีด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียว“เอาคบไฟมา!”จ้าวซวนใบหน้าบูดบึ้ง แล้วตะคอกใส่หลู่ชิ่งที่ตัวแข็งเป็นหินอยู่ข้าง ๆ หลู่ชิงรีบหยิบคบไฟ ใช้
ตอนที่หลิงอวี๋เอื้อมมือออกไปจะอุ้มหลิงเยวี่ย เซียวหลินเทียนก็ฟื้นขึ้นมา แล้วกระชับแขนของเขาโดยไม่รู้ตัวหลิงเยวี่ยถูกรัดแน่นจนเจ็บและร้องออกมาเซียวหลินเทียนฟื้นขึ้นมาอย่างเต็มที่ ถึงได้เห็นแสงไฟและหลิงอวี๋“เซียวหลินเทียน เจ้าปล่อยก่อนเถิด ข้าจะให้พวกเขาดึงเยวี่ยเยวี่ยขึ้นไปก่อน!”หลิงอวี๋เห็นดวงตาที่สับสนของเซียวหลินเทียนจึงพูดเซียวหลินเทียนถึงได้ปล่อยมือ จากนั้นหลิงอวี๋ก็ผูกเชือกรอบตัวหลิงเยวี่ย พลางเอ่ยปลอบโยนเขา“เยวี่ยเยวี่ย ไม่ต้องกลัวนะ ลู่หนานกับลุงจ้าวซวนจะดึงเจ้าขึ้นไปอย่างปลอดภัย!”หลิงเยวี่ยพยักหน้าอย่างรู้ความหลิงอวี๋กระตุกเชือก ลู่หนานได้รับสัญญาณก็ดึงหลิงเยวี่ยขึ้นไปอย่างช้า ๆเมื่อครู่หลิงอวี๋เพิ่งสังเกตเห็นว่าสิ่งที่รองรับเซียวหลินเทียนกับหลิงเยวี่ยไว้นั้นเป็นต้นไม้ใหญ่รูปร่างคดเคี้ยวและลำต้นหนามาก เซียวหลินเทียนจึงไม่ตกอยู่ในอันตรายแต่นางไม่กล้าเข้าไป กลัวว่าลำต้นของต้นไม้จะไม่สามารถรับน้ำหนักของผู้ใหญ่ที่เพิ่มขึ้นอีกคนได้ นางยืนอยู่บนหินที่ยื่นออกมาติดกับกำแพงหิน“เซียวหลินเทียน บาดแผลของเจ้าข้าไม่สามารถช่วยรักษาให้ได้ในตอนนี้! แต่เจ้าไม่ต้องกังวล รอ
หลิงอวี๋ถูกดึงขึ้นมาอย่างราบรื่น นางไม่สนใจที่จะพัก แล้วเอ่ยเรียก "เซียวหลินเทียน ข้าจะรักษาบาดแผลให้เจ้า!"นางให้ลู่หนานถือคบไฟ จากนั้นหยิบยารักษาบาดแผล ยาฆ่าเชื้อ และผ้าก๊อซออกมาจากในมิติ แล้ววิ่งไปคุกเข่าตรงหน้าเซียวหลินเทียนนางใช้มีดผ่าตัดกรีดขากางเกงของเซียวหลินเทียน เห็นบาดแผลยาวเท่าฝ่ามือ มีเลือดและเนื้อเหวอะออกมานางก้มหัวใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดแผล แผลยาวขนาดนี้ จำเป็นต้องเย็บแผลหลิงอวี๋หยิบเข็มออกมาแล้วเย็บแผลโดยไม่มีการคิดอะไรเลยนางคิดแค่อยากจะรีบจัดการกับบาดแผล แล้วไปดูแลหลิงเยวี่ย เยวี่ยเยวี่ยตกลงไปสูงถึงเพียงนั้น จะต้องตกใจมากเป็นแน่หลิงอวี๋รีบเย็บอย่างรวดเร็ว ทายารักษาบาดแผล แล้วพันผ้าพันแผลให้เซียวหลินเทียนจากนั้นนางก็สั่งให้ลู่หนานกับจ้าวซวนอุ้มเซียวหลินเทียนกลับไปที่รถม้าแล้วหลิงอวี๋ถึงไปอุ้มหลิวเยวี่ย หลู่ชิ่งเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ "พระชายาทำงานหนักมานานมากแล้ว จะต้องเหนื่อยมากแน่! ให้ข้าแบกเยวี่ยเยวี่ยขึ้นไปเถิดขอรับ!"หลิงอวี๋เห็นเฮยจื่อมองตาปริบ ๆ จึงเอ่ย "เจ้าแบกเฮยจื่อไปเถิด! เยวี่ยเยวี่ยนี้ข้าดูแลก็พอแล้ว!!"หลู่ชิ่งเหลือบมองเฮยจื่อ ทำได้เพียงอดกลั้น
หลิงเยวี่ยเป็นเด็กเขารู้จักพอเพียงได้ง่าย ๆ ในสายตาของเขาแล้วการได้อยู่ในอ้อมแขนของหลิงอวี๋เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดประกอบกับตลอดทั้งวันนี้ล้วนมีแต่ความวิตกกังวล พอรถม้าโยกไปมา ไม่นานเขาก็หลับไปแต่เฮยจื่อกลับไม่กล้านอน เขาคุกเข่าแทบเท้าของเซียวหลินเทียน อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่กล้าพูดหลิงอวี๋เห็นเซียวหลินเทียนหลับตา นางก็หันหน้าหนีไปเช่นกันแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะกระโดดลงไปช่วยหลิงเยวี่ยได้ทันเวลา แต่พอนึกถึงว่าตอนอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ตอนที่เฉินฉางซิ่งให้เซียวหลินเทียนเลือก คนที่เซียวหลินเทียนเลือกก็คือเฮยจื่อหลิงอวี๋ไม่สามารถทนรับสิ่งนี้ได้ ถ้าเซียวหลินเทียนเลือกหลิงเยวี่ย เยวี่ยเยวี่ยก็ไม่มีทางถูกเฉินฉางซิ่งผลักลงหน้าผาไปดังนั้น นางไม่สนใจทั้งนั้นว่า "พ่อบุญธรรมกับลูกบุญธรรม" อย่างพวกเขาจะปฏิบัติต่อกันเยี่ยงไรหลิงอวี๋กอดเยวี่ยเยวี่ยแน่น คิดแค่กลับตำหนักไปจะพาหลิงเยวี่ยกับพวกแม่นมลี่ออกไปจากตำหนักอ๋องอี้เซียวหลินเทียนต้องการหย่าร้างกับนางอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?ได้ นางจะพาเยวี่ยเยวี่ยไป ให้เซียวหลินเทียนเสียใจไปตลอดชีวิตหลังจากที่ได้รู้ความจริง!แต่เมื่อเห็นหลิงเ
ครั้นกลุ่มคนเดินทางกลับถึงเมืองหลวงฟ้าก็สว่างแล้วหลิงอวี๋หลับกลางทาง นางตื่นตอนรถม้าควบมาถึงตำหนักอ๋องอี้ พลันรุดลงรถม้าพร้อมอุ้มหลิงเยวี่ยที่หลับสนิทเพราะเกินทนรอนางมิต้องการอยู่ร่วมกับเซียวหลินเทียนดั่งความสัมพันธ์ฉัน “พ่อลูก” อีกต่อไป“เซียวหลินเทียน เจ้าถามเฮยจื่อเมื่อไรแจ้งข้าด้วย! ข้ามีสิทธิ์รู้ว่าใครลักพาตัวลูกข้าไป!”หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนเย็นชาพลางยิ้มหยันกล่าวคำ “เจ้าอย่าคิดปกป้องคนผิด! ถ้าข้าไม่พอใจคำตอบ งั้นข้าก็ไม่กลัวรบกวนถึงองค์จักรพรรดิ!”เอ่ยจบ หลิงอวี๋พลางอุ้มหลิงเยวี่ยเดินกะเผลกจากไปจ้าวซวนใช้สายตาส่งสัญญาณให้ลู่หนานลู่หนานเข้าใจพลางไล่ตามไปขวางหลิงอวี๋กล่าวคำ “พระชายา ข้าจะส่งพวกท่านกลับขอรับ!”หลิงอวี๋ทั้งหิวและเท้าเจ็บเลยไม่มากพิธีกับลู่หนาน พลางตามลู่หนานกลับเรือนบุหงาแม่นมลี่กับหลิงซินเป็นห่วงจนนอนไม่หลับทั้งคืนหลิงซินยิ่งทวีความตระหนกหวาดผวา นางเป็นคนดูแลแต่หลิงเยวี่ยหายตัวไป หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหลิงเยวี่ย นางขอไถ่โทษด้วยชีวิตนางยืนรออยู่นอกเรือนบุหงาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ครั้นเห็นลู่หนานอุ้มหลิงเยวี่ยกลับมาจากไกล ๆ หยาดน้ำตาหลิงซินพลันไ
หลิงอวี๋และกลุ่มคนมาถึงเรือนริมวารี ลานเรือนเซียวหลินเทียนเปี่ยมด้วยคนแล้วหลิงอวี๋กวาดตามองพบชิวเหวินซวง พ่อบ้านฟั่นและคนรับใช้ยืนอยู่ใต้ขั้นบันได เฮยจื่อยืนข้างหน้าคนรับใช้นางไม่อยากยอมรับการมองลงมาของเซียวหลินเทียนเหมือนคนรับใช้พวกนั้น เลยดึงหลิงเยวี่ยขึ้นบันไดยืนอีกด้านของเซียวหลินเทียน“ดี คนมาครบแล้ว! ตัวข้าจะเริ่มการไต่ถามประเดี๋ยวนี้!”เซียวหลินเทียนมองเฮยจื่อสีหน้าไร้คลื่นอารมณ์พลางกล่าวเสียงทุ้ม“เฮยจื่อ เจ้าก่อน ลองเล่าให้ทุกคนสิว่า เจ้าหนีออกตำหนักอ๋องอี้ได้เช่นไร ทั้งยังไปตกอยู่ในน้ำมือผู้ลักพาได้อย่างไร!”เฮยจื่อลอบมองเซียวหลินเทียนอย่างขลาดกลัวพลางคุกเข่าลงเสียงดังตุ้บ“ท่านพ่อทูนหัว กระหม่อมรู้ความผิดแล้วว่าไม่ควรคิดไปจากตำหนักอ๋องอี้เพราะความโกรธชั่ววูบ ต่อไปกระหม่อมมิกล้าอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามเสียงเด็ดขาด “ไยต้องโกรธ? เจ้าเห็นพระชายากับหลิงเยวี่ยที่เรือนวันนั้นหรือ?”เฮยจื่อตัวสั่นเทิ้ม แอบมองหลิงอวี๋บนบันไดพลางกล่าวใจไม้ไส้ระกํา“กราบทูลท่านพ่อทูนหัว วันนั้นพระชายาและหลิงเยวี่ยเคยมาเรือนจริง! เป็นกระหม่อมที่ให้เฉี่ยวเหลียนไปเชิญพ่ะย่ะค่ะ!
เฉี่ยวเหลียนสมรู้ร่วมคิดกับเฮยจื่อแล้วยืนยันว่าตนด่าเฮยจื่อและมีหลายคนพบเห็นตนเคยไปเรือนของเฮยจื่อจริง ๆตราบใดที่ทั้งสองยืนกรานกล่าวว่าตนข่มเหงเฮยจื่อ นั่นแม้ว่าตนจะไม่ได้ลักพาตัวเขา ชื่อเสียงโหดเหี้ยมนี้นางก็ต้องแบกรับงั้นหรือ?ความคิดของหลิงอวี๋ปั่นป่วนเร็วจี๋ นางควรพิสูจน์ว่าตนมิได้ด่าเฮยจื่อเช่นไรดี?กลอุบายคราก่อนที่ทำให้หลิงหลานกับแม่ครัวพิสูจน์ว่าตัวเองกล่าวเท็จเคยใช้แล้วครั้งหนึ่ง ไม่อาจใช้ได้ผลอีกนางมองเฮยจื่อกับเฉี่ยวเหลียน มุมปากเผยยกยิ้มเร็วพลัน“ท่านอ๋อง พวกเขามั่นใจว่าหม่อมฉันด่าคนเยี่ยงนี้! หากหม่อมฉันพูดว่าไม่เคยด่าเฮยจื่อและไม่มีพยานในเหตุการณ์ เดาว่าจะไม่มีคนเชื่อหม่อมฉันว่าพูดความจริงเพคะ!”“แต่หลิงอวี๋มีวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตน โปรดขออนุญาตท่านอ๋อง หลิงอวี๋ขอถามเฮยจื่อสักสองสามคำถามเพคะ”เซียวหลินเทียนมองนางพลางผงกศีรษะ “ได้ เจ้าถามเถอะ!”หลิงอวี๋หยิบเมล็ดช็อกโกแลตหนึ่งเม็ดออกจากถุงเหรียญที่หลิงซินเย็บให้ตน พลางเดินลงบันไดเฮยจื่อไม่ทันโต้ตอบ หลิงอวี๋พลันบีบกรามล่างเขาพลางยัดเมล็ดช็อกโกแลตเข้าปากเขาเมล็ดช็อกโกแลตละลายในปากรวดเร็ว เฮยจื่อรู้สึกขมและห