‘ฮุ่ยเอ๋อร์ เจ้าไปอย่างสบายใจเถิด เรื่องที่ข้ารับปากเจ้าไว้ ข้าจะทำให้ได้!’ผางเซิงกล่าวลาพระสนมฮุ่ยอย่างเงียบ ๆ ในใจ...“จับนางไว้...”ฮองเฮาเว่ยไหนเลยจะยอมให้พระสนมฮุ่ยตายไปเช่นนี้ นางต้องให้ผางเซิงตายไปพร้อมกันด้วย นางจึงตะโกนขึ้นมา“เสด็จแม่...”ในเวลาเดียวกัน เซียวหลินมู่ที่กองทัพหลวงกันไว้ก็เดินเข้ามาเขาเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี ก็ตกใจจนสิ้นสติทันทีพลันพุ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง...เพียงแต่เซียวหลินมู่ช้าไปเล็กน้อย พระสนมฮุ่ยชนเสาไปแล้ว หัวของนางเลือดออกมาทันทีเลือดกระเซ็นไปบนใบหน้าของเซียวหลินมู่ แม้ว่าเขาจะคว้าอาภรณ์ของพระสนมฮุ่ยเอาไว้ แต่ก็ได้แต่มองพระสนมฮุ่ยทรุดลงกับพื้น“เสด็จแม่...”เซียวหลินมู่กรีดร้องออกมาอย่างใจสลาย กอดพระสนมฮุ่ยที่ทรุดลงมาได้ทันเวลา พร้อมกับน้ำตาไหลอาบหน้า...“เสด็จแม่… เสด็จแม่… ถังถีเตี่ยน รีบมาช่วยพระนางที…”เซียวหลินมู่มองไปรอบ ๆ อย่างตื่นตระหนก เมื่อเห็นถังถีเตี่ยนเขาก็ตะโกนออกมาอย่างไร้สติถังถีเตี่ยนมองไปทางจักรพรรดิอู่อันจักรพรรดิอู่อันเองก็มิคาดคิดมาก่อนว่าพระสนมฮุ่ยที่อ่อนแอมาโดยตลอดจู่ ๆ จะแกร่งกร้าวเพียงนี้ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“เสด็จพ่อ ไม่มีเรื่องเช่นนี้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ! เสด็จแม่ป่วย มิได้ตั้งครรภ์แน่นอน!”เซียวหลินมู่ตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนใจ “เสด็จพ่อ มีคำกล่าวในหมู่ราษฎรว่า เป็นสามีภรรยาหนึ่งคืนเป็นบุญคุณกันไปร้อยวัน เสด็จแม่อยู่กับเสด็จพ่อมาหลายปีแล้ว เสด็จพ่อยังมิเชื่อในนิสัยของพระนางอีกหรือ?”“พระนางกำลังจะตาย… เสด็จพ่อจะใจร้ายดูพระนางตายเช่นนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“บังอาจ!”ขันทีฉางมิเคยมีโอกาสได้แสดงออกเลย เมื่อเห็นเซียวหลินมู่กล่าวหาองค์จักรพรรดิเช่นนี้ จึงตะโกนเสียงแหลมขึ้นมา“องค์ชายเย่ ผู้ใดอนุญาตให้ท่านตะโกนใส่ฝ่าบาท ความกตัญญูของท่านอยู่ที่ใดกัน?”จักรพรรดิอู่อันมองเซียวหลินมู่อย่างเย็นชา เขามิชอบวิธีที่เซียวหลินมู่ตะโกนใส่ตนเช่นนี้เลยคำพูดเหล่านั้นเขากล่าวหาตนว่าโหดเหี้ยมไร้ความเมตตาหรือ?“ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นว่าพระสนมฮุ่ยกำลังจะตายจริง ๆ หากยังพูดมากความกันเช่นนี้ จะให้พระสนมฮุ่ยตายไปเช่นนี้หรือจะรักษานางต่อพ่ะย่ะค่ะ?”ถังถีเตี่ยนปฏิบัติตามคำสอนของท่านฮั๋ว คือมิเข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างนางสนมในวังแต่มิรู้ว่าเมื่อครู่ตกใจกับการตรวจร่างกายของผางเซิงหรือไม่ หรือว่าเห็นว่าชีวิตหนึ่งกำลังจะห
ราชองครักษ์ผางลังเลไปเพียงชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจพระสนมฮุ่ยกำลังจะตาย แต่ทรราชผู้นี้ยังจะบังคับเซียวหลินมู่เช่นนี้อีก ทรราชเช่นนี้ มิต้องรับใช้ก็ได้!เขากำหมัดแน่น หางตากวาดมององครักษ์กองทัพหลวงเหล่านั้นอย่างรวดเร็วองครักษ์เหล่านั้นไปขวางเซียวหลินมู่ไว้ ตรงหน้าของจักรพรรดิอู่อันมีเพียงขันทีฉางเพียงคนเดียวเท่านั้นขอเพียงตนจับจักรพรรดิอู่อันไว้เป็นตัวประกันได้ วันนี้เขากับเซียวหลินมู่ก็จะสามารถพาพระสนมฮุ่ยออกไปได้อย่างปลอดภัย และแม้กระทั่งพาครอบครัวของตนไปด้วยกระทั่งออกจากเมืองหลวง ไปอยู่ในที่ที่ท้องฟ้าสูงทะเลกว้างใหญ่ นับแต่นี้พวกเขาก็จะหนีไปไกลโดยไม่มีจุดหมายได้ ดีกว่าการติดตามทรราชเช่นจักรพรรดิอู่อันเป็นร้อยเท่า!“เสด็จพ่อ เสด็จพ่อจะไร้หัวใจเช่นนี้จริง ๆ หรือ?”เซียวหลินมู่หันหน้ากับตะโกนใส่จักรพรรดิอู่อันอย่างเคียดแค้นชิงชังจักรพรรดิอู่อันอยากจะดูว่า เมื่อเซียวหลินมู่ถูกบีบจนอับจนหนทางแล้วเขาจะต่อต้านหรือไม่ ดวงตาสีดำใต้คิ้วหนาของเขาจ้องมองเซียวหลินมู่ด้วยท่าทางน่าเกรงขาม เป็นการบีบอย่างเย็นชาไร้ความปรานี“ลูกเนรคุณ นี่คือท่าทีของเจ้าที่คุยกับข้ารึ?”“หากวันนี้ข้ามิปล่อ
“พี่...”เซียวหลินมู่อุ้มพระสนมฮุ่ยแล้วคุกเข่าให้เซียวหลินเทียน น้ำเสียงของเขามีทั้งความคับข้องใจ ซาบซึ้งใจและความรู้สึกผิดแต่จะมีความคับข้องใจมากหน่อย จนยังมิทันได้เอ่ยวิงวอนอะไรเซียวหลินมู่ก็น้ำตาไหลออกมาอย่างรู้สึกว่าใจสู้มิไหวเสียก่อน เขาสะอื้นพลางเอ่ย “พี่สี่ รีบให้พี่สะใภ้มาช่วยเสด็จแม่ของข้าที… จากนี้ไปหากพวกท่านต้องการให้ข้าทำสิ่งใดข้าก็จะตอบแทนพวกท่านทุกอย่าง!”เซียวหลินมู่เป็นราวกับเด็กที่ได้รับความอยุติธรรม ครั้นเห็นญาติที่สามารถปกป้องตนได้ความโศกเศร้าและสิ้นหวังในใจมิอาจแสดงออกมาได้จึงกลายมาเป็นน้ำตาการเรียก “พี่” นี้ทำให้หัวใจของเซียวหลินเทียนสั่นไหวในราชวงศ์เรียกว่าเสด็จพี่ตลอด!คนทั่วไปต่างหากถึงจะเรียกพี่!แม้ว่าการเรียกว่าพี่มันจะเรียบง่าย แต่ในชั่วพริบตาก็ทำให้เซียวหลินเทียนรู้สึกถึงความเป็นพี่น้องที่แท้จริงได้เขามามิทันได้วิเคราะห์ว่าเกิดอะไรขึ้นในพระตำหนักฮุ่ยจู๋ จึงเอ่ยกับเซียวหลินมู่อย่างปลอบใจ “พี่สะใภ้ของเจ้าจะเข้ามาบัดเดี๋ยวนี้!”ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น หลิงอวี๋ก็ถูกเถาจื่อประคองเข้ามา“พี่สะใภ้ โปรดช่วยเสด็จแม่ของข้าด้วย!”เซียวหลินมู่ยังมิลุกข
เซียวหลินมู่เอ่ยอย่างจริงใจ “เสด็จพ่อ หรือว่าหากเป็นไทเฮาได้รับบาดเจ็บ เสด็จพ่อจะมิช่วยได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“เมื่อครู่ลูกถึงได้หุนหันพลันแล่นไปหน่อย ใช้น้ำเสียงรุนแรงกับเสด็จพ่อ ลูกประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินมู่คว่ำหน้าลงกับพื้นแล้วคำนับจักรพรรดิอู่อันเอาหัวกระแทกไปหลายครั้งคำพูดเช่นนี้ทำให้ความโกรธที่ระงับไว้ของจักรพรรดิอู่อันคลายไปมากเมื่อลองคิดดู หากวันนี้ใครกล้าขัดขวางตนมิให้ช่วยไทเฮา เขาจะทนดูไทเฮาตายไปได้หรือ?แม่ลูกมีสายใยเชื่อมกัน ลูกชายรีบร้อนที่จะช่วยแม่คือความกตัญญู เขาจะยังลงโทษเซียวหลินมู่ได้หรือ?‘หากเป็นเสด็จพ่อได้รับบาดเจ็บ ลูกก็จะเสี่ยงชีวิตฝ่าออกไปแล้วพาเสด็จพ่อไปหาหมอเช่นกัน…’คำพูดของเซียวหลินมู่ทำให้จักรพรรดิอู่อันรู้สึกสบายใจขึ้นมาก หากลูกชายของตนมิสนใจตนเพราะอำนาจ มันจะมิเจ็บปวดยิ่งกว่าการกบฏหรือ?แม้ว่าจะคิดเช่นนี้ แต่จักรพรรดิอู่อันยังคงมิสามารถกล้ำกลืนความโกรธไปเช่นนี้ได้ เขามองเซียวหลินมู่ แล้วมองเซียวหลินเทียน จากนั้นก็เอ่ยอย่างเคร่งขรึม“เจ้าสองคนพี่น้องรักกันมากนะ เมื่อวานยังทะเลาะตัดขาดกันอยู่เลย แค่พริบตาเดียวก็รักใคร่ปรองดองกันแล้ว!”“องค์
ฮองเฮาเว่ยตกใจ แล้วมองเซียวหลินเทียนอย่างประหลาดใจเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเซียวหลินมู่มีโสมโลหิต แต่ลังเลที่จะเอามันออกมาช่วยหลิงอวี๋ ทั้งสองจึงมีความแค้นต่อกัน!แต่ตอนนี้ เซียวหลินเทียนกลับใจกว้างช่วยเซียวหลินมู่ปกปิดนี่เป็นความรักของพี่น้องจริง ๆ หรือ? หรือมีการสมรู้ร่วมคิดอะไรกันอีก?“อ๋องอี้ เจ้าคิดจะช่วยองค์ชายเย่กับพระสนมฮุ่ยปกปิดรึ? เจ้าก็รู้ว่านี่เป็นความผิดร้ายแรงฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิ!”ฮองเฮาเว่ยไหนเลยจะยอมให้องค์ชายเย่กับอ๋องอี้มีมิตรภาพลึกซึ้ง และมีความเกลียดชังร่วมกัน นางจึงเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์“อ๋องอี้ เจ้าต้องรู้ พระสนมฮุ่ยลักลอบมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นจนตั้งครรภ์ แล้วแอบใช้ยาทำแท้งจนทำให้เลือดออกมาก!”“โสมโลหิตนี้องค์ชายเย่ให้พระสนมฮุ่ยบำรุงเลือด! เช่นนี้แล้ว... เจ้ายังคิดจะปกปิดให้องค์ชายเย่หรือไม่?”เซียวหลินมู่ได้ยินสิ่งนี้ก็ก้มหน้าลงแล้วกำหมัดแน่นเขานึกถึงสิ่งที่จ้าวซวนมาบอกแทนเซียวหลินเทียน ในเมื่อพี่สี่ให้ตนปิดปากเงียบไว้มิให้ยอมรับว่ามีโสมโลหิต พี่สี่จะต้องมีวิธีจัดการอย่างแน่นอนเขามิสามารถขัดจังหวะได้ มิเช่นนั้นหากพูดอะไรผิดพลาดไปจะทำลายแผนของพี่สี่เป็น
หมอจางโกรธเกลียดหลิงอวี๋มาก ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่นางเปิดโรงเหยียนหลิง ตนทำอะไรก็มิราบรื่นเลยตอนนี้เมื่อมีโอกาสที่จะปรามหลิงอวี๋ได้ มีหรือเขาจะปล่อยไป!“พระชายาอ๋องอี้ นี่ท่านมิมั่นใจหรือ? หากมิให้ข้าดูข้าจะตรวจสอบได้เยี่ยงไรเล่า?”หลิงอวี๋ยิ้มให้เขาอย่างเหยียดหยาม “ข้าบอกหรือว่ามิให้ท่านดู? หากอยากดูก็ถือผ้าเหลืองแล้วตรวจเอาเถิด!”นางวางผ้าสีเหลืองกับโสมโลหิตไว้ในมือของหมอจางอย่างระมัดระวัง พลางเอ่ยด้วยท่าทางที่มิวางใจเป็นอย่างมาก “ดูดี ๆ เถิด! อย่าได้ซุ่มซ่ามทำเสียหายเข้า!”หมอจางกลั้นลมหายใจเอาไว้ในลำคอ ไม่มีการขยับจนรู้สึกมิสบายตัวเขามิสนใจที่จะโต้เถียงกับหลิงอวี๋แล้วรีบตรวจสอบโสมโลหิต ขอเพียงพิสูจน์แล้วว่าโสมโลหิตเป็นของปลอม หลิงอวี๋ก็จะมีความผิดฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิ!ถึงเวลานั้นค่อยคิดบัญชีทั้งเก่าและใหม่กับนางรวมกันไปเลย!แต่เขามองไปมองมาก็มิพบเบาะแสอะไรเลยโสมโลหิตนี้มีกลิ่นโสมฉุน มีคุณภาพที่ดีเยี่ยมยิ่ง แม้ว่าเขาจะใช้สมองอย่างหนักแต่ก็ยังมิพบตำหนิใด ๆ เลย“หมอจาง ท่านดูมากพอแล้วกระมัง หากท่านมิสามารถแยกแยะได้ก็ให้โอกาสถังถีเตี่ยนเถิด!”เมื่อหลิงอวี๋เห็นเขาพลิกไปพ
ความเย่อหยิ่งของถังถีเตี่ยนถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาก้าวไปข้างหน้า พลางเอ่ยเรียบ ๆ“กระหม่อมแก่แล้วจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ ก่อนหน้านี้ก็กำลังคิดที่จะลาออกกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้าน! ในเมื่อฮองเฮาบอกว่ากระหม่อมไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ องค์จักรพรรดิได้โปรดอนุญาตให้กระหม่อมลาออกด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินสิ่งนี้ก็รู้เลยว่าถังถีเตี่ยนรู้สึกท้อแท้แล้วเขาเป็นลูกศิษย์ของท่านฮั๋ว ท่านฮั๋วเป็นลูกศิษย์ที่สมัครไว้ของตน นับดูแล้วถังถีเตี่ยนก็เป็นลูกศิษย์ของตนเช่นกันหลิงอวี๋จะปล่อยให้ลูกศิษย์ของตนจากไปพร้อมกับได้ชื่อว่าเป็นคนแก่สายตาฝ้าฟางได้เยี่ยงไร!แม้ว่าจะต้องไปก็ต้องไปอย่างสง่าผ่าเผย!“ถังถีเตี่ยน ท่านรีบอะไรกัน? ยังมิชัดเจนเลยว่าใครที่เป็นคนแก่สายตาฝ้าฟาง!”“หมอจางบอกว่าโสมโลหิตข้าเป็นของปลอม ก็แสดงว่าเป็นของปลอมเลยหรือ? ไร้สาระ ใครถือว่าสิ่งที่หมอไร้ฝีมือเช่นนี้พูดเป็นความจริงก็โง่แล้ว!”หลิงอวี๋หมดความอดทนกับฮองเฮาเว่ยไปนานแล้วจึงมิไว้หน้าต่อหน้าองค์จักรพรรดิ เมื่อพูดคำหยาบคายออกไปจึงมิได้รู้สึกว่าเป็นการเสียมารยาทเซียวหลินเทียนได้ยินแล้วก็เกือบจะหัวเราะออกม