เมื่อขันทีฉางเห็นสิ่งนี้ก็มาขวางหน้าจักรพรรดิอู่อันพลางตะโกน “หยุดนะ… ยังมิได้ตรวจสอบเลยว่าโสมโลหิตนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม ท่านก็กล้ามอบให้องค์จักรพรรดิเสวยเช่นนี้ ท่านมีเจตนาอะไร?”หลิงอวี๋หน้ามืดมนลงทันที พลางดุด่า “เจ้าทาสสุนัขมีตาหามีแววไม่ เจ้ามิเห็นหรือว่าข้ากับท่านอ๋องกินไปแล้ว?”“หากมันมีพิษ พวกเราจะโง่กลืนเข้าไปรึ?”“เสด็จพ่อ วันนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ? ความกตัญญูของหลิงอวี๋คราแรกก็ถูกหมอจางสงสัย ตอนนี้แม้แต่ทาสผู้นี้ก็สงสัยหลิงอวี๋เช่นกัน!”“หากเสด็จพ่อมิกล้าเสวยก็ช่างเถิดเพคะ ถือเสียว่าหลิงอวี๋ผิดเอง ต่อไปมิว่าจะมีของดีอะไร ก็มิกล้าส่งเข้าวังแล้ว จะได้มิถูกใครสงสัยเข้า!”หลิงอวี๋หันหลัง หยิบโสมโลหิตหนึ่งชิ้นแล้วมอบให้ถังถีเตี่ยนถังถีเตี่ยนรับมากินทันทีโดยมิพูดอะไรเมื่อจักรพรรดิอู่อันเห็นว่ายังเหลือสองชิ้น ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “ใครบอกว่าข้ามิกล้ากิน เอามาสิ!”หลิงอวี๋หยิบขึ้นมาด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นให้จักรพรรดิอู่อันพลางเอ่ยยิ้ม ๆ“เสด็จพ่อเพคะ หากเสด็จพ่อนำเข้าพระโอษฐ์ เสด็จพ่อก็จะรู้สึกชุ่มคอและสดชื่นไปสักพักหนึ่งเลยเพคะ…”จักรพรรดิอู่อันหยิบโสมเข
ฮองเฮาเว่ยมองโสมโลหิตชิ้นนั้นตาปริบ ๆ ไหนเลยจะรู้ว่าหลิงอวี๋จะทำเหมือนมิเห็นสายตาของนางแล้วถือโสมโลหิตลงไปเลยแล้วนางก็ยื่นโสมโลหิตชิ้นสุดท้ายให้เซียวหลินมู่ “โสมโลหิตชิ้นสุดท้ายนี้มอบให้พระสนมฮุ่ยเถิด พระนางเสียเลือดไปมาก ต้องการโสมโลหิตไปบำรุง!”เซียวหลินมู่รับโสมโลหิตมาโดยสัญชาตญาณ เขาจ้องมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาที่ซับซ้อน คาดเดามิออกว่าหลิงอวี๋ช่วยตน หรือว่าอยากใช้โสมโลหิตมาเอาใจจักรพรรดิอู่อันกันแน่เมื่อฮองเฮาเว่ยเห็นว่าหลิงอวี๋มิได้เห็นตนอยู่ในสายตา ก็โกรธจนฟันแทบจะแตกออกมานางจ้องมองหลิงอวี๋อย่างดุร้าย เรื่องโสมโลหิตนี้นางเอาความมิได้แล้ว แต่นางยังคงมีหลักฐานที่ประจักษ์ชัด มิว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องฆ่าพระสนมฮุ่ยและทำให้องค์ชายเย่ต้องโดนไปด้วยให้ได้“ฝ่าบาท แม้ว่าเรื่องโสมโลหิตจะเป็นข่าวลือ แต่ลูกในท้องของพระสนมฮุ่ยจะมีขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุมิได้กระมังเพคะ!”“หมอจางไม่มีทางตัดสินพลาด หลักฐานที่พระสนมฮุ่ยตั้งครรภ์ก็ชัดเจนมาก! ต่อให้นางจะกลัวความผิดจนฆ่าตัวตายก็หนีการทำโทษมิพ้นหรอกเพคะ!”“หากนางสนมในวังทุกคนเลียนแบบนาง เช่นนั้นใครจะเห็นกฎวังหลวงอยู่ในสายตาเล่าเพคะ ต้องถูกลงโทษขั้นเ
เมื่อจักรพรรดิอู่อันได้ฟังเรื่องนี้ ก็เอ่ยยิ้ม ๆ “ได้สิ เรื่องนี้พ่อจะเป็นคนตัดสินใจให้เจ้าเอง! หากเขาแพ้แล้วกล้าโกง พ่อจะให้คนลากเขาไปคำนับขอโทษเจ้าที่ตลาดอย่างแน่นอน!”หมอจางได้ยินคำพูดของจักรพรรดิอู่อันก็ตะลึงแต่เขามั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีทางพลาดอีก ในเมื่อหลิงอวี๋เอ่ยสิ่งนี้ต่อหน้าจักรพรรดิอู่อัน เช่นนั้นนางก็มิสามารถกลับคำได้เช่นกัน!ครั้งนี้เขาสามารถทำให้หลิงอวี๋เสียเกียรติและชื่อเสียง ต้องออกจากเมืองหลวงไปด้วยความอับอายได้อย่างแน่นอน!“ได้ เดิมพันก็เดิมพัน! ข้าเชื่อว่าองค์จักรพรรดิจะทรงจัดการอย่างเป็นกลางแน่นอน!”หมอจางพูดขัดจักรพรรดิอู่อันขึ้นมาก่อน เพื่อป้องกันมิให้จักรพรรดิอู่อันเข้าข้างหลิงอวี๋ในภายหลังเมื่อฮองเฮาเว่ยเห็นท่าทางมั่นใจของหมอจาง ก็กลอกตาแล้วยิ้มพลางเอ่ย “หลิงอวี๋ เจ้าต้องคิดให้ดีเถอะ หากเจ้ายืนกรานเหมือนถังถีเตี่ยนว่าพระสนมฮุ่ยมิได้ตั้งครรภ์!”“หากเจ้าแพ้ เพื่อความเป็นธรรม เจ้ากับถังถีเตี่ยนจะต้องไปคำนับขอโทษหมอจางที่ตลาด!”ในเมื่อถังถีเตี่ยนเป็นลูกศิษย์ของหลิงอวี๋ ย่อมมิสามารถเป็นตัวถ่วงของอาจารย์ได้ จึงก้าวไปข้างหน้าพลางเอ่ย“หากกระหม่อมกับอาจารย์แพ้
แม้ว่าพระสนมฮุ่ยจะอ่อนแรง แต่ก็คว้ามือของหลิงอวี๋ไว้ราวกับคนจมน้ำที่คว้าเชือกช่วยชีวิตนางเอ่ยอย่างหนักแน่น “ข้าตายไปแล้วครั้งหนึ่ง แม้ว่าจะเอาเนื้อร้ายออกแล้วจะทำให้ข้ามีชีวิตอยู่ได้อีกหนึ่งชั่วยาม ข้าก็อยากจะตายอย่างไร้มลทิน!”ดวงตาของเซียวหลินมู่รื้นน้ำตาอีกครั้งเพราะคำพูดของพระสนมฮุ่ย เขาจึงมิเอ่ยถามแล้วเอ่ยไปตรง ๆ“เสด็จแม่พูดเช่นนั้นแล้ว เช่นนั้นพี่สะใภ้สี่ก็ทำในสิ่งที่ควรทำเถิด! ข้าจะเชื่อฟังท่าน!”หลิงอวี๋เอ่ยทันที “เช่นนั้นหม่อมฉันจะเตรียมการผ่าตัด หานเหมย ไปที่ห้องโถงด้านข้างแล้วจัดโต๊ะให้ที! เถาจื่อ เตรียมเครื่องมือผ่าตัด!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้เซียวหลินเทียนก็ก้าวไปประคองหลิงอวี๋ พลางเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล “เจ้าจะยืนหยัดทำการผ่าตัดจนเสร็จสิ้นได้หรือ?”เซียวหลินเทียนเคยเห็นหลิงอวี๋ทำการผ่าตัด ครั้งล่าสุดก็ที่หลิงซวนได้รับบาดเจ็บสาหัส นางต้องทำการผ่าตัดถึงสองชั่วยามตอนนี้นางอ่อนแอมากเช่นนี้แล้ว นางจะสามารถยืนสองชั่วยามได้หรือ?“มิเป็นไร หม่อมฉันยังทนได้เพคะ!”หลิงอวี๋ยิ้มให้เขาอย่างปลอบโยน กำลังเตรียมจะออกไปห้องโถงด้านข้างฮองเฮาเว่ยก็เอ่ยอย่างยิ้มภายนอกแต่ภายในมิได้ยิ
คำพูดเยินยอจนเกินจริงของเซียวหลินเทียนล้วนเลียนแบบหลิงอวี๋มาทั้งสิ้นหลิงอวี๋บอกว่าเสด็จพ่อก็เป็นคนเช่นกัน ซึ่งคนก็ชอบที่จะได้ยินสิ่งดี ๆเรื่องอื่น ๆ มองได้ขาดแต่ยกเว้นคำประจบสอพลอ เขาก็แค่พูดคำพูดดี ๆ ให้จักรพรรดิอู่อันมีความสุข ทั้งยังช่วยให้ความสัมพันธ์ของเซียวหลินมู่กับจักรพรรดิอู่อันผ่อนคลายลงด้วย เรื่องดี ๆ เหตุใดจะทำมิได้เล่า!จักรพรรดิอู่อันได้รับคำชมก็ยินดีอย่างยิ่งฮองเฮาฟังอยู่ข้าง ๆ ก็ทั้งโกรธทั้งโมโห เกลียดชังจนกัดฟันกรอด แต่มิสามารถพูดได้ว่าเซียวหลินเทียนทำมิถูกเซียวหลินมู่มีความรู้สึกที่ซับซ้อน ในด้านหนึ่งก็ดูถูกเซียวหลินเทียนที่เยินยอจักรพรรดิอู่อันเช่นนี้ และอีกด้านหนึ่งก็อิจฉาเซียวหลินเทียนหากตนได้รับมอบหมายให้สร้างร้านค้าขึ้นใหม่ เขาก็ไม่มีทางด้อยไปกว่าเซียวหลินเทียนเช่นกันขณะที่คุยกันเช่นนี้ เวลาก็ผ่านไปโดยมิรู้ตัวในขณะที่ฮองเฮากำลังรออย่างใจจดใจจ่อนั้น เซี่ยเฉียวก็ถือถาดหนึ่งเข้ามาถาดนั้นถูกคลุมด้วยผ้าขาวและมีคราบเลือดติดอยู่“ฮองเฮา…องค์จักรพรรดิ... นี่… นี่คือเนื้องอกที่เอาออกมาจากร่างของพระสนมฮุ่ยเพคะ…”เซี่ยเฉียวยังคงมีสีหน้าตื่นตระหนกอยู่เลย ว
เถาจื่อเดินไปจับคอเสื้อของหมอจางอย่างมิเกรงใจแล้วยัดมีดผ่าตัดเข้าไปในมือของเขาพลางตะโกนอย่างดุร้าย “ตัดสิ!”หมอจางเห็นก้อนเนื้อเปื้อนเลือดนั้นก็มือสั่น เขามองแล้วรู้สึกคลื่นไส้ มีหรือจะกล้าตัด!“ตัดสิ!”เซียวหลินมู่ก็ตะคอกใส่เขาเช่นกัน“พวกมีปากก็พูดไปมิสนถูกผิด เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอย่างมิรับผิดชอบได้ แต่สิ่งที่เจ้าพูดมามันส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเสด็จแม่ข้า!”“เสด็จแม่ของข้าถูกปากอันชั่วร้ายของเจ้าบีบบังคับให้ต้องกระแทกเสาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์! ตอนนี้เจ้ายังจะใส่ร้ายพระนางอยู่อีกรึ?”“เจ้าบอกว่าเสด็จแม่ข้าแท้งแล้วมิใช่รึ? เหตุใดตอนนี้เจ้าถึงบอกว่านี่คือทารกในครรภ์อีกเล่า?”“พี่สะใภ้สี่ก็บอกแล้วว่ามันเป็นเนื้องอก แต่เจ้ากลับยืนกรานจะบอกว่ามันคือทารกในครรภ์ เจ้าอยากจะฆ่าเสด็จแม่ของข้าจริง ๆ สินะ!”เสียงของเซียวหลินมู่เริ่มโหดร้ายขึ้นเรื่อย ๆ เขาเกลียดหมอไร้ฝีมือผู้นี้มาก วันนี้หากมิได้จัดการเขาก็จะมิยอมรามือเด็ดขาด!“ตัดสิ… หากเจ้ามิตัดวันนี้ ข้าจะตัดมันให้เจ้ากิน!”ประโยคนี้ เซียวหลินมู่แทบจะพูดลอดไรฟันออกมา!เอ่อ...หมอจางตัวสั่นไปทั้งร่าง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถ
“หมอหลี่ ทักษะการแพทย์มิดี ใส่ร้ายพระสนมฮุ่ย ลากไปประหารที่ประตูอู่เหมินต่อหน้าทุกคน!”“หมอจาง ทักษะการแพทย์มิดี มิรู้จักแยกแยะถูกผิด ช่วยคนชั่วทำชั่ว เกือบจะบีบพระสนมฮุ่ยให้ต้องตาย ปลดออกจากตำแหน่งราชการและเนรเทศไปให้ไกลสามพันลี้!”“อีกอย่าง ก่อนออกเดินทางให้ทหารพาเขาไปคำนับขอโทษพระชายาอ๋องอี้ที่ตลาดด้วย!”จักรพรรดิอู่อันประกาศคำตัดสิน เมื่อพูดจบก็จ้องมองฮองเฮาเว่ยอย่างเย็นชา“เว่ยเสียน เจ้าดูแลวังหลัง ยังมิทันเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดก็สร้างปัญหาให้ใหญ่โต เกือบบีบพระสนมฮุ่ยให้ต้องตาย ทำให้ข้าเข้าใจราชองครักษ์ผางผิดไป!”“ความผิดของเจ้าเท่ากับการฆ่าคนอย่างน่าสะเทือนใจ เจ้าถูกลงโทษกักบริเวณหนึ่งเดือน ไปไตร่ตรองความผิดของเจ้าให้ดี ๆ! เมื่อพระสนมฮุ่ยพ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าจะถูกลงโทษให้ขอโทษนางกับราชองครักษ์ผางต่อหน้าธารกำนัล!”ฮองเฮาเว่ยคุกเข่าลงเบา ๆโดนกักบริเวณมิเป็นอะไร!แต่การขอโทษพระสนมฮุ่ยกับราชองครักษ์ผางในที่สาธารณะ ทำให้นางรู้สึกอับอายยิ่งกว่าการฆ่านางเสียอีก...หัวใจของฮองเฮาเว่ยเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อจักรพรรดิอู่อันทันที!ตนเป็นภรรยาของเขาที่แต่งงานด้วย รับใช้เขามาตั้
ฮองเฮาเว่ยก้มหน้าลงอย่างมิเต็มใจ แล้วบีบต้นขาของตนอย่างแรง มีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้นที่สามารถทำให้ตนมิลืมความเกลียดชังนี้ไปได้‘พระชายาเส้า… เจ้ารอข้าก่อนเถิด หากข้ามิฆ่าเจ้า ข้าก็มิใช่คนแล้ว!’“อาอวี๋...”จู่ ๆ เซียวหลินเทียนก็ร้องเรียก เสียงนั้นก็ทำให้สายตาของทุกคนมองไปทางนั้นหลิงอวี๋หลับตาแน่นแล้วหมดสติไปในอ้อมแขนของเซียวหลินเทียนเมื่อถังถีเตี่ยนเห็นสิ่งนี้ก็รีบเข้าไปตรวจชีพจรของหลิงอวี๋ พลางเอ่ยอย่างร้อนใจ “อาจารย์ทำงานหนักเกินไป! นางได้รับบาดเจ็บมา เดิมทีร่างกายของนางก็อ่อนแออยู่แล้วแต่ยังฝืนทำการผ่าตัดให้พระสนมฮุ่ยอีก...”“รีบพานางกลับไปพักผ่อนแล้วป้อนน้ำหวานให้นางก่อนเถิด โสมโลหิตนั่น… สามารถหั่นเป็นชิ้น ๆ ป้อนนางก็ได้! ชีวิตสำคัญกว่า หากหมดก็หาซื้อใหม่ได้!”เมื่อจักรพรรดิอู่อันเห็นดังนั้น จึงเอ่ย “หากพากลับตำหนักต้องใช้เวลาอีกสักพัก ขันทีฉาง เจ้าไปที่ครัวหลวงแล้วนำต้มโสมที่พวกเขาทำไว้ให้ข้ามาให้พระชายาอ๋องอี้!”“แล้วไปที่ร้านโอสถ เลือกเครื่องยาสมุนไพรดี ๆ กลับมาเสริมให้พระชายาอ๋องอี้!”พระสนมฮุ่ยยังมิตื่น เซียวหลินมู่ยังต้องการหลิงอวี๋ จึงรีบเอ่ย “พี่สี่ อุ้มพี่สะใภ