ฮองเฮาเว่ยก้มหน้าลงอย่างมิเต็มใจ แล้วบีบต้นขาของตนอย่างแรง มีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้นที่สามารถทำให้ตนมิลืมความเกลียดชังนี้ไปได้‘พระชายาเส้า… เจ้ารอข้าก่อนเถิด หากข้ามิฆ่าเจ้า ข้าก็มิใช่คนแล้ว!’“อาอวี๋...”จู่ ๆ เซียวหลินเทียนก็ร้องเรียก เสียงนั้นก็ทำให้สายตาของทุกคนมองไปทางนั้นหลิงอวี๋หลับตาแน่นแล้วหมดสติไปในอ้อมแขนของเซียวหลินเทียนเมื่อถังถีเตี่ยนเห็นสิ่งนี้ก็รีบเข้าไปตรวจชีพจรของหลิงอวี๋ พลางเอ่ยอย่างร้อนใจ “อาจารย์ทำงานหนักเกินไป! นางได้รับบาดเจ็บมา เดิมทีร่างกายของนางก็อ่อนแออยู่แล้วแต่ยังฝืนทำการผ่าตัดให้พระสนมฮุ่ยอีก...”“รีบพานางกลับไปพักผ่อนแล้วป้อนน้ำหวานให้นางก่อนเถิด โสมโลหิตนั่น… สามารถหั่นเป็นชิ้น ๆ ป้อนนางก็ได้! ชีวิตสำคัญกว่า หากหมดก็หาซื้อใหม่ได้!”เมื่อจักรพรรดิอู่อันเห็นดังนั้น จึงเอ่ย “หากพากลับตำหนักต้องใช้เวลาอีกสักพัก ขันทีฉาง เจ้าไปที่ครัวหลวงแล้วนำต้มโสมที่พวกเขาทำไว้ให้ข้ามาให้พระชายาอ๋องอี้!”“แล้วไปที่ร้านโอสถ เลือกเครื่องยาสมุนไพรดี ๆ กลับมาเสริมให้พระชายาอ๋องอี้!”พระสนมฮุ่ยยังมิตื่น เซียวหลินมู่ยังต้องการหลิงอวี๋ จึงรีบเอ่ย “พี่สี่ อุ้มพี่สะใภ
เซียวหลินมู่ก้นกระแทกนั่งลงบนพื้นเขาคิดมิถึงเลยว่าจู่ ๆ เซียวหลินเทียนจะต่อต้านเขา จึงจ้องมองเซียวหลินเทียนอย่างมึนงงและมิพอใจ“เซียวหลินมู่… นี่เจ้ากำลังโทษข้ารึ?”เซียวหลินเทียนเห็นเถาจื่อกับหานเหมยตามมาแล้วจึงส่งหลิงอวี๋ไปให้พวกนาง “ประคองพระชายาไปนั่งด้านข้าง!”เถาจื่อกับหานเหมยรีบประคองหลิงอวี๋ไปนั่งที่นั่งด้านข้างอย่างรวดเร็วเซียวหลินเทียนเข้าไปใกล้เซียวหลินมู่ด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยวแล้วคว้าคอเสื้อของเขาพลางตะคอกด้วยความโกรธ“ข้าเห็นแก่หน้าของพระสนมฮุ่ยจึงมิอยากถือสาเอาความกับเจ้า แต่วันนี้หากมิพูดให้ชัดเจน เจ้าก็จะคิดไปว่าข้าเป็นหนี้เจ้าจริง ๆ!”“คนสารเลวเยี่ยงเจ้าเห็น ๆ อยู่ว่ามีโสมโลหิต แต่กลับมิบอกข้า! มาถ่วงเวลาข้าช่วยอาอวี๋ เจ้ายังคิดว่าเจ้ามีเหตุผลอยู่อีกรึ?”“อาอวี๋ช่วยพระชายากับลูกของเจ้า ถ้าเกิดเจ้ามีจิตสำนึกใด ๆ ก็ควรบอกข้าว่าเจ้าใช้โสมโลหิตไปแล้ว ให้ข้าคิดหาวิธีอื่น! แต่เจ้ามิบอก!”“ได้ ข้าเข้าใจได้ว่าเจ้ามีความยากลำบากเพื่อจะปกป้องเสด็จแม่ของเจ้า!”“แต่เหตุใดสมองโง่ ๆ ของเจ้ามิคิดบ้างเล่า? ข้าจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าเจ้ามีโสมโลหิต? คนที่เปิดเผยข้อมูลให้กับข้ากำล
หลิงอวี๋ทั้งหงุดหงิดทั้งโกรธเซียวหลินมู่ แต่เมื่อเห็นเขาขอร้องตนอย่างน่าสงสาร ก็นึกถึงว่าเขาเองก็กตัญญูต่อพระสนมฮุ่ย จึงระงับความโกรธไว้ได้“เนื้องอกของพระสนมฮุ่ยเป็นเนื้อร้ายหรือไม่นั้น ต้องรอการตรวจชิ้นเนื้อ วันนี้หม่อมฉันไม่มีแรงจะตรวจแล้ววันหลังหากรู้แน่ชัดแล้วจะบอกท่านอีกที!”“สำหรับการรักษาในภายหน้า หม่อมฉันจัดตำรับยาให้พระนางแล้ว วิธีการดูแลพระนางก็ได้ทำการสอนแม่นมกับนางกำนัลไว้แล้ว! กินยาตามตำรับยาไปก่อน รอหม่อมฉันตรวจเนื้องอกเสร็จแล้วค่อยปรับตำรับยากันอีกที!”“ได้ ๆ... พี่สะใภ้กลับไปพักผ่อนให้สบายเถิด วันหลังข้าจะไปขอบคุณที่ตำหนัก!”เซียวหลินมู่เห็นว่าหลิงอวี๋ยังคงช่วยเสด็จแม่ของตนโดยมิถือสาความบาดหมางครั้งก่อนเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกละอายใจ“มิต้องมาที่ตำหนัก ธรณีประตูตำหนักเราต่ำเกินไป มิสามารถทักทายคนสูงส่งเช่นเจ้าได้หรอก!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเย็นชา “อาอวี๋ทำการผ่าตัดให้เสด็จแม่ของเจ้าและจัดตำรับยาให้แล้ว ค่าตรวจรักษาหนึ่งแสน! คงมิแพงใช่หรือไม่!”“เจ้าจ่ายเงินหนึ่งแสนซื้อโสมโลหิต แต่ก็ยังมิสามารถช่วยเสด็จแม่ของเจ้าได้ อาอวี๋ของข้าตัดต้นเหตุให้พระนางไปแล้ว! เจ้ากลับไป
แม้ว่าจักรพรรดิอู่อันจะสั่งให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ปิดปากเงียบเรื่องของพระสนมฮุ่ยมิให้เอาไปพูดข้างนอก แต่ฮองเฮาเว่ยก็ถูกยึดตราหงส์ไปเพราะเหตุนี้ เช่นนี้ไหนเลยจะปิดข่าวได้วันรุ่งขึ้น ก็มีข่าวลือต่าง ๆ แพร่สะพัดออกไปแล้วบางคนบอกว่าเป็นเพราะเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋เข้าไปรายงานในวัง จึงทำให้ฮองเฮาเว่ยถูกองค์จักรพรรดิยึดตราหงส์ไปบางคนบอกว่าองค์ชายเย่มิได้มีโสมโลหิต พวกเรื่องความเนรคุณหรือเห็นคนใกล้ตายแล้วมิช่วยเหลือนั่นล้วนเป็นเรื่องที่ท่านอ๋องอี้จงใจแต่งเรื่องขึ้นเพื่อให้องค์ชายเย่เสื่อมเสียชื่อเสียงแม้แต่เรื่องราชองครักษ์ผางไร้ความสามารถทางเพศก็แพร่กระจายไปเช่นกันเรื่องราวต่าง ๆ เริ่มแปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆท้ายที่สุดระบุไปว่าเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ใช้ความโปรดปรานที่จักรพรรดิอู่อันมีต่อพวกเขามาจัดการฮองเฮาเว่ยกับองค์ชายเย่ในช่วงเวลาหนึ่ง ขุนนางกับราษฎรมากมายในเมืองหลวงที่มิรู้ความจริงก็แอบดูถูกเซียวหลินเทียนกันคิดว่าเซียวหลินเทียนใช้วิธีการใส่ร้ายน้องชายของตนกับฮองเฮาเว่ยเพื่อชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทศฤคาลเงินรวบรวมข่าวลือต่าง ๆ แล้วส่งมาให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเ
เซียวหลินเทียนถึงได้เข้าใจความหมายของหลิงอวี๋ ดวงตาของเขามืดมนลงเล็กน้อย นี่เป็นโอกาสที่จะตรวจสอบว่าเซียวหลินมู่ควรค่าที่จะผูกมิตรด้วยหรือไม่จริง ๆก่อนหน้านี้เซียวหลินมู่ให้พ่อบ้านส่งเงินค่าตรวจรักษาหนึ่งแสนมาให้ ทั้งยังบอกว่าจะตอบแทนหลิงอวี๋ด้วยตอนนี้ชื่อเสียงของตนกับหลิงอวี๋แพร่ออกไปว่าเป็นคนโหดร้าย ถ้าเกิดเซียวหลินมู่มีเจตนาที่จะกลับใจสักหน่อยก็จะรู้ว่าควรยืนหยัดล้างมลทินแทนตนเองกับหลิงอวี๋“ได้ เอาตามที่เจ้าว่า! ข้าจะไปจัดการทันที!”เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนไปทักทายที่กระทรวงยุติธรรม ให้ขุนนางกระทรวงยุติธรรมเอาตัวหมอจางไปที่ภัตตาคารจี๋เสียงในวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยงอีกด้านหนึ่ง เซียวหลินเทียนก็ให้หลู่ชิ่งหาคนสองสามคนไปกระจายข่าวว่าหมอจางจะคำนับขอโทษหลิงอวี๋ต่อหน้าธารกำนัลที่ภัตตาคารจี๋เสียงเขาแค่อยากสร้างแรงกระตุ้นให้คนมาดูเหตุการณ์นี้มากขึ้นแล้วพลิกสถานการณ์ข่าวที่หมอจางจะคำนับขอโทษหลิงอวี๋แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อจางเจ๋อลูกชายของหมอจางได้ยินข่าวลือ ก็โกรธมากจนทุบถ้วยชาในมือแตก“หลิงอวี๋ นางสารเลว กลั่นแกล้งกันเกินไปแล้วจริง ๆ!”“ท่านพ่อของข้าถูกนางบีบสูญเสียตำแห
วันรุ่งขึ้น เซียวหลินเทียนก็ไปภัตตาคารจี๋เสียงกับหลิงอวี๋ รอให้หมอจางมาคำนับขอโทษหลิงอวี๋วันนี้ภัตตาคารจี๋เสียงอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย คนมากหลายมาชมความตื่นเต้นนี้ ชั้นสองชั้นสามล้วนแน่นขนัดไปด้วยผู้คนเกิ่งเสี่ยวหาวเดินไปต้อนรับอย่างมีความสุขแล้วพาหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนขึ้นไปชั้นบนก่อนก่อนหน้านี้ธุรกิจของเกิ่งเสี่ยวหาวถูกลูกพี่ลูกน้องของจ้าวเจินเจินกดจนลูกค้าน้อย หลิงอวี๋จึงเสนอแนวคิดให้เกิ่งเสี่ยวหาวภัตตาคารลดค่าใช้จ่ายลง มีการปรับเปลี่ยนอาหารตามฤดูกาล และทุก ๆ สัปดาห์ก็จะมีแนะนำอาหารใหม่ ๆ ทั้งยังมีการเสนอเครื่องดื่มฟรีด้วย ส่วนหอริมธารามีการให้บริการแบบส่วนตัว อาหารก็ล้วนมีการพัฒนาใหม่หลิงอวี๋ยังได้เตรียมเครื่องปรุงรสสุดพิเศษหลายอย่างให้พ่อครัวของเกิ่งเสี่ยวหาวใช้ทำเป็ดย่างกับหมูย่างด้วยรสชาตินี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองหลวง พวกคนที่มีเงินมากินอาหารจะสนใจสิ่งแวดล้อมกับรสชาติสภาพแวดล้อมของหอริมธาราเป็นเอกลักษณ์ และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ช่วงนี้ภัตตาคารทั้งสองฝั่งของเกิ่งเสี่ยวหาวที่นั่งเต็มทุกวัน ยังมีหลายคนที่มาที่นี่แล้วเข้าแถวรอที่นั่งอยู่ข้างนอก นับดูแล้วก
หลิงอวี๋มีความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ เสด็จพ่อเกือบจะมอบความรักที่มีต่อตนให้กับนางหมดแล้ว!นี่มันเป็นไปได้เยี่ยงไร!นางก็แค่มีทักษะการแพทย์เล็กน้อยมิใช่หรือ? มีอะไรที่ดีกว่าตนกัน!เซียวทงยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ คำพูดคำจาก็แขวะขึ้นมาเช่นกัน “ท่านมิได้แกล้งทำใช่หรือไม่? มิเช่นนั้นจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วถึงปานนี้ได้เยี่ยงไร!”เซี่ยโฮ่วตานรั่วก็ยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย พลางเอ่ยเยาะเย้ย “ข้าคิดดูแล้วก็คงจริง! พระชายาอ๋องอี้เป็นหมอชั้นเซียนในเมืองหลวงของพวกเจ้า หากนางคิดจะแสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บ นางมีวิธีมากมายทีเดียว!”วันนั้นเซี่ยโฮ่วตานรั่วถูกซินจิ้งรีบพาตัวไป แต่ภาพที่หลิงอวี๋ขวางลูกธนูให้เซียวหลินเทียนตอนนั้น นางเห็นมันด้วยตาตัวเองการที่เซียวหลินเทียนมีท่าทีโกรธเพราะหลิงอวี๋เช่นนั้น มันทำให้นางหึงจนเป็นบ้าหลังจากที่นางกลับไปนางมิเสียใจที่ตนเองทำเช่นนั้นเลย นางแค่เกลียดตนที่เหตุใดถึงมิยิงธนูให้เร็วกว่านั้นแล้วฆ่าหลิงอวี๋ไปเสีย!เมื่อเป็นเช่นนี้ เซียวหลินเทียนก็จะเป็นของตนแล้ว!นางแค่ชอบบุรุษที่มีความก้าวร้าวเช่นเซียวหลินเทียน นางต้องการความรักที่แข็งแกร่งเช่นนี้!เซี่ยโฮ่วตานรั่วกวาดม
หลิงอวี๋มองฉินรั่วซือด้วยสายตาเหยียดหยาม ท่าทีเยาะเย้ยของนางชัดเจนมากจนทำให้ฉินรั่วซือมิกล้าปะทะสายตาของนางแล้วเลี่ยงไปโดยมิรู้ตัวหลิงอวี๋หมดคำจะพูด เมื่อกี้ก็พูดลื่นไหลดีมิใช่หรือ?แม้แต่สายตาของตนก็ทนรับมิได้ มีพลังต่อสู้เพียงเท่านี้ยังจะกล้าที่จะท้าทายตนอีก!นางมองไปทางเซียวทงแล้วยิ้มเย็นชา “องค์หญิงหก หม่อมฉันรู้ว่าองค์หญิงมีอคติกับหม่อมฉัน! แต่องค์หญิงจะเอ่ยวาจาไร้สาระมิได้กระมังเพคะ!”“มาบอกว่าหม่อมฉันแสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บหรือ? องค์หญิงกำลังจะบอกว่าเสด็จพ่อโง่เขลาเบาปัญญาหรือ?”“วันนั้นหม่อมฉันได้รับบาดเจ็บ เสด็จพ่อพาถังถีเตี่ยนมาตรวจด้วยตัวพระองค์เอง! หม่อมฉันจะแสร้งทำหรือไม่ เสด็จพ่อกับถังถีเตี่ยนย่อมรู้ดียิ่งกว่าองค์หญิงมิใช่หรือ?”“หรือองค์หญิงคิดว่า หม่อมฉันสามารถติดสินบนเสด็จพ่อกับถังถีเตี่ยนให้พวกเขาแสดงละครตามหม่อมฉันได้กระนั้นหรือ?”เซียวทงถูกหลิงอวี๋ขัดเอาไว้จนพูดมิออก หากนางยืนกรานว่าหลิงอวี๋แสร้งทำ นั่นก็เป็นการยอมรับว่าเสด็จพ่อโง่เขลาเบาปัญญามิใช่หรือ?เซี่ยโฮ่วตานรั่วเห็นว่าเซียวทงพูดมิออก จึงช่วย “แม้ว่าการบาดเจ็บของเจ้าจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็มิน่าจะร้าย