ฮองเฮาเว่ยตกใจ แล้วมองเซียวหลินเทียนอย่างประหลาดใจเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเซียวหลินมู่มีโสมโลหิต แต่ลังเลที่จะเอามันออกมาช่วยหลิงอวี๋ ทั้งสองจึงมีความแค้นต่อกัน!แต่ตอนนี้ เซียวหลินเทียนกลับใจกว้างช่วยเซียวหลินมู่ปกปิดนี่เป็นความรักของพี่น้องจริง ๆ หรือ? หรือมีการสมรู้ร่วมคิดอะไรกันอีก?“อ๋องอี้ เจ้าคิดจะช่วยองค์ชายเย่กับพระสนมฮุ่ยปกปิดรึ? เจ้าก็รู้ว่านี่เป็นความผิดร้ายแรงฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิ!”ฮองเฮาเว่ยไหนเลยจะยอมให้องค์ชายเย่กับอ๋องอี้มีมิตรภาพลึกซึ้ง และมีความเกลียดชังร่วมกัน นางจึงเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์“อ๋องอี้ เจ้าต้องรู้ พระสนมฮุ่ยลักลอบมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นจนตั้งครรภ์ แล้วแอบใช้ยาทำแท้งจนทำให้เลือดออกมาก!”“โสมโลหิตนี้องค์ชายเย่ให้พระสนมฮุ่ยบำรุงเลือด! เช่นนี้แล้ว... เจ้ายังคิดจะปกปิดให้องค์ชายเย่หรือไม่?”เซียวหลินมู่ได้ยินสิ่งนี้ก็ก้มหน้าลงแล้วกำหมัดแน่นเขานึกถึงสิ่งที่จ้าวซวนมาบอกแทนเซียวหลินเทียน ในเมื่อพี่สี่ให้ตนปิดปากเงียบไว้มิให้ยอมรับว่ามีโสมโลหิต พี่สี่จะต้องมีวิธีจัดการอย่างแน่นอนเขามิสามารถขัดจังหวะได้ มิเช่นนั้นหากพูดอะไรผิดพลาดไปจะทำลายแผนของพี่สี่เป็น
หมอจางโกรธเกลียดหลิงอวี๋มาก ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่นางเปิดโรงเหยียนหลิง ตนทำอะไรก็มิราบรื่นเลยตอนนี้เมื่อมีโอกาสที่จะปรามหลิงอวี๋ได้ มีหรือเขาจะปล่อยไป!“พระชายาอ๋องอี้ นี่ท่านมิมั่นใจหรือ? หากมิให้ข้าดูข้าจะตรวจสอบได้เยี่ยงไรเล่า?”หลิงอวี๋ยิ้มให้เขาอย่างเหยียดหยาม “ข้าบอกหรือว่ามิให้ท่านดู? หากอยากดูก็ถือผ้าเหลืองแล้วตรวจเอาเถิด!”นางวางผ้าสีเหลืองกับโสมโลหิตไว้ในมือของหมอจางอย่างระมัดระวัง พลางเอ่ยด้วยท่าทางที่มิวางใจเป็นอย่างมาก “ดูดี ๆ เถิด! อย่าได้ซุ่มซ่ามทำเสียหายเข้า!”หมอจางกลั้นลมหายใจเอาไว้ในลำคอ ไม่มีการขยับจนรู้สึกมิสบายตัวเขามิสนใจที่จะโต้เถียงกับหลิงอวี๋แล้วรีบตรวจสอบโสมโลหิต ขอเพียงพิสูจน์แล้วว่าโสมโลหิตเป็นของปลอม หลิงอวี๋ก็จะมีความผิดฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิ!ถึงเวลานั้นค่อยคิดบัญชีทั้งเก่าและใหม่กับนางรวมกันไปเลย!แต่เขามองไปมองมาก็มิพบเบาะแสอะไรเลยโสมโลหิตนี้มีกลิ่นโสมฉุน มีคุณภาพที่ดีเยี่ยมยิ่ง แม้ว่าเขาจะใช้สมองอย่างหนักแต่ก็ยังมิพบตำหนิใด ๆ เลย“หมอจาง ท่านดูมากพอแล้วกระมัง หากท่านมิสามารถแยกแยะได้ก็ให้โอกาสถังถีเตี่ยนเถิด!”เมื่อหลิงอวี๋เห็นเขาพลิกไปพ
ความเย่อหยิ่งของถังถีเตี่ยนถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาก้าวไปข้างหน้า พลางเอ่ยเรียบ ๆ“กระหม่อมแก่แล้วจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ ก่อนหน้านี้ก็กำลังคิดที่จะลาออกกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้าน! ในเมื่อฮองเฮาบอกว่ากระหม่อมไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ องค์จักรพรรดิได้โปรดอนุญาตให้กระหม่อมลาออกด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินสิ่งนี้ก็รู้เลยว่าถังถีเตี่ยนรู้สึกท้อแท้แล้วเขาเป็นลูกศิษย์ของท่านฮั๋ว ท่านฮั๋วเป็นลูกศิษย์ที่สมัครไว้ของตน นับดูแล้วถังถีเตี่ยนก็เป็นลูกศิษย์ของตนเช่นกันหลิงอวี๋จะปล่อยให้ลูกศิษย์ของตนจากไปพร้อมกับได้ชื่อว่าเป็นคนแก่สายตาฝ้าฟางได้เยี่ยงไร!แม้ว่าจะต้องไปก็ต้องไปอย่างสง่าผ่าเผย!“ถังถีเตี่ยน ท่านรีบอะไรกัน? ยังมิชัดเจนเลยว่าใครที่เป็นคนแก่สายตาฝ้าฟาง!”“หมอจางบอกว่าโสมโลหิตข้าเป็นของปลอม ก็แสดงว่าเป็นของปลอมเลยหรือ? ไร้สาระ ใครถือว่าสิ่งที่หมอไร้ฝีมือเช่นนี้พูดเป็นความจริงก็โง่แล้ว!”หลิงอวี๋หมดความอดทนกับฮองเฮาเว่ยไปนานแล้วจึงมิไว้หน้าต่อหน้าองค์จักรพรรดิ เมื่อพูดคำหยาบคายออกไปจึงมิได้รู้สึกว่าเป็นการเสียมารยาทเซียวหลินเทียนได้ยินแล้วก็เกือบจะหัวเราะออกม
เมื่อขันทีฉางเห็นสิ่งนี้ก็มาขวางหน้าจักรพรรดิอู่อันพลางตะโกน “หยุดนะ… ยังมิได้ตรวจสอบเลยว่าโสมโลหิตนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม ท่านก็กล้ามอบให้องค์จักรพรรดิเสวยเช่นนี้ ท่านมีเจตนาอะไร?”หลิงอวี๋หน้ามืดมนลงทันที พลางดุด่า “เจ้าทาสสุนัขมีตาหามีแววไม่ เจ้ามิเห็นหรือว่าข้ากับท่านอ๋องกินไปแล้ว?”“หากมันมีพิษ พวกเราจะโง่กลืนเข้าไปรึ?”“เสด็จพ่อ วันนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ? ความกตัญญูของหลิงอวี๋คราแรกก็ถูกหมอจางสงสัย ตอนนี้แม้แต่ทาสผู้นี้ก็สงสัยหลิงอวี๋เช่นกัน!”“หากเสด็จพ่อมิกล้าเสวยก็ช่างเถิดเพคะ ถือเสียว่าหลิงอวี๋ผิดเอง ต่อไปมิว่าจะมีของดีอะไร ก็มิกล้าส่งเข้าวังแล้ว จะได้มิถูกใครสงสัยเข้า!”หลิงอวี๋หันหลัง หยิบโสมโลหิตหนึ่งชิ้นแล้วมอบให้ถังถีเตี่ยนถังถีเตี่ยนรับมากินทันทีโดยมิพูดอะไรเมื่อจักรพรรดิอู่อันเห็นว่ายังเหลือสองชิ้น ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “ใครบอกว่าข้ามิกล้ากิน เอามาสิ!”หลิงอวี๋หยิบขึ้นมาด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นให้จักรพรรดิอู่อันพลางเอ่ยยิ้ม ๆ“เสด็จพ่อเพคะ หากเสด็จพ่อนำเข้าพระโอษฐ์ เสด็จพ่อก็จะรู้สึกชุ่มคอและสดชื่นไปสักพักหนึ่งเลยเพคะ…”จักรพรรดิอู่อันหยิบโสมเข
ฮองเฮาเว่ยมองโสมโลหิตชิ้นนั้นตาปริบ ๆ ไหนเลยจะรู้ว่าหลิงอวี๋จะทำเหมือนมิเห็นสายตาของนางแล้วถือโสมโลหิตลงไปเลยแล้วนางก็ยื่นโสมโลหิตชิ้นสุดท้ายให้เซียวหลินมู่ “โสมโลหิตชิ้นสุดท้ายนี้มอบให้พระสนมฮุ่ยเถิด พระนางเสียเลือดไปมาก ต้องการโสมโลหิตไปบำรุง!”เซียวหลินมู่รับโสมโลหิตมาโดยสัญชาตญาณ เขาจ้องมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาที่ซับซ้อน คาดเดามิออกว่าหลิงอวี๋ช่วยตน หรือว่าอยากใช้โสมโลหิตมาเอาใจจักรพรรดิอู่อันกันแน่เมื่อฮองเฮาเว่ยเห็นว่าหลิงอวี๋มิได้เห็นตนอยู่ในสายตา ก็โกรธจนฟันแทบจะแตกออกมานางจ้องมองหลิงอวี๋อย่างดุร้าย เรื่องโสมโลหิตนี้นางเอาความมิได้แล้ว แต่นางยังคงมีหลักฐานที่ประจักษ์ชัด มิว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องฆ่าพระสนมฮุ่ยและทำให้องค์ชายเย่ต้องโดนไปด้วยให้ได้“ฝ่าบาท แม้ว่าเรื่องโสมโลหิตจะเป็นข่าวลือ แต่ลูกในท้องของพระสนมฮุ่ยจะมีขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุมิได้กระมังเพคะ!”“หมอจางไม่มีทางตัดสินพลาด หลักฐานที่พระสนมฮุ่ยตั้งครรภ์ก็ชัดเจนมาก! ต่อให้นางจะกลัวความผิดจนฆ่าตัวตายก็หนีการทำโทษมิพ้นหรอกเพคะ!”“หากนางสนมในวังทุกคนเลียนแบบนาง เช่นนั้นใครจะเห็นกฎวังหลวงอยู่ในสายตาเล่าเพคะ ต้องถูกลงโทษขั้นเ
เมื่อจักรพรรดิอู่อันได้ฟังเรื่องนี้ ก็เอ่ยยิ้ม ๆ “ได้สิ เรื่องนี้พ่อจะเป็นคนตัดสินใจให้เจ้าเอง! หากเขาแพ้แล้วกล้าโกง พ่อจะให้คนลากเขาไปคำนับขอโทษเจ้าที่ตลาดอย่างแน่นอน!”หมอจางได้ยินคำพูดของจักรพรรดิอู่อันก็ตะลึงแต่เขามั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีทางพลาดอีก ในเมื่อหลิงอวี๋เอ่ยสิ่งนี้ต่อหน้าจักรพรรดิอู่อัน เช่นนั้นนางก็มิสามารถกลับคำได้เช่นกัน!ครั้งนี้เขาสามารถทำให้หลิงอวี๋เสียเกียรติและชื่อเสียง ต้องออกจากเมืองหลวงไปด้วยความอับอายได้อย่างแน่นอน!“ได้ เดิมพันก็เดิมพัน! ข้าเชื่อว่าองค์จักรพรรดิจะทรงจัดการอย่างเป็นกลางแน่นอน!”หมอจางพูดขัดจักรพรรดิอู่อันขึ้นมาก่อน เพื่อป้องกันมิให้จักรพรรดิอู่อันเข้าข้างหลิงอวี๋ในภายหลังเมื่อฮองเฮาเว่ยเห็นท่าทางมั่นใจของหมอจาง ก็กลอกตาแล้วยิ้มพลางเอ่ย “หลิงอวี๋ เจ้าต้องคิดให้ดีเถอะ หากเจ้ายืนกรานเหมือนถังถีเตี่ยนว่าพระสนมฮุ่ยมิได้ตั้งครรภ์!”“หากเจ้าแพ้ เพื่อความเป็นธรรม เจ้ากับถังถีเตี่ยนจะต้องไปคำนับขอโทษหมอจางที่ตลาด!”ในเมื่อถังถีเตี่ยนเป็นลูกศิษย์ของหลิงอวี๋ ย่อมมิสามารถเป็นตัวถ่วงของอาจารย์ได้ จึงก้าวไปข้างหน้าพลางเอ่ย“หากกระหม่อมกับอาจารย์แพ้
แม้ว่าพระสนมฮุ่ยจะอ่อนแรง แต่ก็คว้ามือของหลิงอวี๋ไว้ราวกับคนจมน้ำที่คว้าเชือกช่วยชีวิตนางเอ่ยอย่างหนักแน่น “ข้าตายไปแล้วครั้งหนึ่ง แม้ว่าจะเอาเนื้อร้ายออกแล้วจะทำให้ข้ามีชีวิตอยู่ได้อีกหนึ่งชั่วยาม ข้าก็อยากจะตายอย่างไร้มลทิน!”ดวงตาของเซียวหลินมู่รื้นน้ำตาอีกครั้งเพราะคำพูดของพระสนมฮุ่ย เขาจึงมิเอ่ยถามแล้วเอ่ยไปตรง ๆ“เสด็จแม่พูดเช่นนั้นแล้ว เช่นนั้นพี่สะใภ้สี่ก็ทำในสิ่งที่ควรทำเถิด! ข้าจะเชื่อฟังท่าน!”หลิงอวี๋เอ่ยทันที “เช่นนั้นหม่อมฉันจะเตรียมการผ่าตัด หานเหมย ไปที่ห้องโถงด้านข้างแล้วจัดโต๊ะให้ที! เถาจื่อ เตรียมเครื่องมือผ่าตัด!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้เซียวหลินเทียนก็ก้าวไปประคองหลิงอวี๋ พลางเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล “เจ้าจะยืนหยัดทำการผ่าตัดจนเสร็จสิ้นได้หรือ?”เซียวหลินเทียนเคยเห็นหลิงอวี๋ทำการผ่าตัด ครั้งล่าสุดก็ที่หลิงซวนได้รับบาดเจ็บสาหัส นางต้องทำการผ่าตัดถึงสองชั่วยามตอนนี้นางอ่อนแอมากเช่นนี้แล้ว นางจะสามารถยืนสองชั่วยามได้หรือ?“มิเป็นไร หม่อมฉันยังทนได้เพคะ!”หลิงอวี๋ยิ้มให้เขาอย่างปลอบโยน กำลังเตรียมจะออกไปห้องโถงด้านข้างฮองเฮาเว่ยก็เอ่ยอย่างยิ้มภายนอกแต่ภายในมิได้ยิ
คำพูดเยินยอจนเกินจริงของเซียวหลินเทียนล้วนเลียนแบบหลิงอวี๋มาทั้งสิ้นหลิงอวี๋บอกว่าเสด็จพ่อก็เป็นคนเช่นกัน ซึ่งคนก็ชอบที่จะได้ยินสิ่งดี ๆเรื่องอื่น ๆ มองได้ขาดแต่ยกเว้นคำประจบสอพลอ เขาก็แค่พูดคำพูดดี ๆ ให้จักรพรรดิอู่อันมีความสุข ทั้งยังช่วยให้ความสัมพันธ์ของเซียวหลินมู่กับจักรพรรดิอู่อันผ่อนคลายลงด้วย เรื่องดี ๆ เหตุใดจะทำมิได้เล่า!จักรพรรดิอู่อันได้รับคำชมก็ยินดีอย่างยิ่งฮองเฮาฟังอยู่ข้าง ๆ ก็ทั้งโกรธทั้งโมโห เกลียดชังจนกัดฟันกรอด แต่มิสามารถพูดได้ว่าเซียวหลินเทียนทำมิถูกเซียวหลินมู่มีความรู้สึกที่ซับซ้อน ในด้านหนึ่งก็ดูถูกเซียวหลินเทียนที่เยินยอจักรพรรดิอู่อันเช่นนี้ และอีกด้านหนึ่งก็อิจฉาเซียวหลินเทียนหากตนได้รับมอบหมายให้สร้างร้านค้าขึ้นใหม่ เขาก็ไม่มีทางด้อยไปกว่าเซียวหลินเทียนเช่นกันขณะที่คุยกันเช่นนี้ เวลาก็ผ่านไปโดยมิรู้ตัวในขณะที่ฮองเฮากำลังรออย่างใจจดใจจ่อนั้น เซี่ยเฉียวก็ถือถาดหนึ่งเข้ามาถาดนั้นถูกคลุมด้วยผ้าขาวและมีคราบเลือดติดอยู่“ฮองเฮา…องค์จักรพรรดิ... นี่… นี่คือเนื้องอกที่เอาออกมาจากร่างของพระสนมฮุ่ยเพคะ…”เซี่ยเฉียวยังคงมีสีหน้าตื่นตระหนกอยู่เลย ว