แชร์

บทที่ 1043

ผู้เขียน: กานเฟย
“อย่าตกใจ... อย่าตกใจ!”

หมอเลี่ยวพลอยตกใจกับสีหน้าของเซียวหลินเทียน แต่ก็ยังคงปลอบโยนอย่างใจเย็น กดสำลีห้ามเลือดลงไปอย่างรวดเร็ว

หลี่ชุงก็ช่วยกันหยดน้ำยาห้ามเลือดลงบนบาดแผลของหลิงอวี๋

เซียวหลินเทียนเฝ้ามองการกระทำของทั้งสองด้วยใจระทึก

จนกระทั่งรู้สึกว่าหัวใจของหลิงอวี๋กลับมาเต้นอีกครั้ง เซียวหลินเทียนจึงถอนหายใจออก รู้สึกราวกับว่าตนก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งเช่นเดียวกัน!

แต่สถานการณ์ก็ยังมิน่าไว้วางใจนัก ลมหายใจของหลิงอวี๋แผ่วระโหย หัวใจเต้นช้าเป็นช่วง ๆ ราวกับนางสามารถสิ้นลมหายใจภายในอีกมิกี่อึดใจ!

เซียวหลินเทียนภาวนาอยู่ในใจ จ้องมองใบหน้าซีดเซียวของหลิงอวี๋มิวางตา

แม้ว่าจะเป็นใบหน้าที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาบ่อยครั้ง แต่ดูเหมือนว่านี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนได้พินิจมองนางอย่างใกล้ชิด

ขนตาของนางยาวมาก สั่นไหวเล็กน้อยตามจังหวะการหายใจ

เหมือนปีกเล็ก ๆ สองปีกที่เปราะบาง หากหายใจแรงเกินไปก็อาจหักได้!

สันจมูกของนางโด่ง บอบบางและงดงามในเวลาเดียวกัน

ริมฝีปากแดงเรื่อที่เคยชุ่มชื้น เวลานี้กลับซีดขาวเช่นเดียวกับสีหน้าของนาง

เซียวหลินเทียนจ้องมองริมฝีปากของนาง หวนนึกถึงเรื่องราวมากมาย.
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1044

    คืนนั้น กลายเป็นฝันร้ายของหลิงอวี๋ไปอีกนานนางหวาดกลัวการที่ต้องอยู่คนเดียว กลัวความมืดยิ่งกว่าสิ่งใด!แม้ว่าเมื่ออายุมากขึ้น นางเพียรกดเก็บจุดอ่อนนี้ของตนไว้ในใจส่วนลึกแล้วก็ตาม พยายามแสดงด้านที่สดใสออกมากระนั้นฝันร้ายนี้ก็ยังโผล่มาทิ่มแทงนางเป็นครั้งคราวหลิงอวี๋ติดอยู่ในภวังค์ความมืดเช่นนี้ ความรู้สึกสิ้นหวังดังเดิมหวนกลับมาอีกครั้งนางอยากหลบหนี แต่หมอกควันสีดำนั้นเหมือนกับกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ มิว่านางจะวิ่งหนีอย่างไรก็หนีมิพ้น“อาอวี๋…”มีเสียงเรียกนาง...นางปีติอย่างยิ่ง!นางมิได้อยู่คนเดียว ยังมีคนเรียกหานาง!ดูเหมือนจะเป็นเสียงของเซียวหลินเทียน แต่ฟังอีกครั้งก็ดูเหมือนมิใช่!เสียงนั้นเต็มไปด้วยความขมขื่น ความร้อนรน และความประหม่า...“เจ้าต้องอดทนนะ เยวี่ยเยวี่ยต้องการเจ้า แม่นมลี่และคนอื่น ๆ ก็ต้องการเจ้าเช่นกัน!”“หากเจ้าจากไปเช่นนี้ ท่านอดีตเสนาบดี หลิงหว่าน และคนอื่น ๆ จะต้องเสียใจเป็นแน่!”เสียงนั้นสั่นเครือเล็กน้อยเซียวหลินเทียนจริง ๆ ด้วย!หลิงอวี๋รู้สึกราวกับความมืดมีรอยแยก แสงสว่างส่องผ่านเข้ามา นางคิดจะเดินเข้าไปหาแสงสว่างนั้น...แต่เมื่อขยับตัว ความเจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1045

    เดิมทีท่านอดีตเสนาบดีโกรธเคืองเซียวหลินเทียนอยู่บ้าง ดั้นด้นไปล่าสัตว์แล้วไยต้องพาหลิงอวี๋ไปด้วยทว่าเมื่อเห็นเซียวหลินเทียนตาแดงก่ำ ความโกรธของท่านอดีตเสนาบดีก็หายไปสิ้น เขาฟังออกว่าในน้ำเสียงของเซียวหลินเทียนแฝงไว้ด้วยความกังวลและสิ้นหวัง…“เป็นไปมิได้! อวี๋เอ๋อร์เป็นเด็กดื้อรั้น ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ นางจะต้องทนอยู่ได้!”“อย่าเพิ่งร้อนใจไป เราจะคิดหาวิธีด้วยกัน!”แม้ท่านอดีตเสนาบดีจะเต็มไปด้วยความกังวล แต่เขาก็มิแสดงออก เขาเป็นผู้อาวุโส ต้องเป็นเสาหลักให้พวกเขา!หลิงหว่านโผล่หน้ามาเห็นหลิงอวี๋ที่หมดแรง ทันใดนั้นดวงตาก็แดงก่ำ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดรินไหลอาบแก้มนางรีบหันหน้าหนีไปเช็ดน้ำตา พยายามฝืนใจพูดว่า “ท่านพี่หลิงหลิงเป็นคนจิตใจดี ช่วยชีวิตคนไว้มากมาย สวรรค์คงมิใจร้ายพรากนางไปแน่!”“ท่านปู่พูดถูก เราจะคิดหาวิธีด้วยกัน เราจะต้องช่วยชีวิตท่านพี่หลิงหลิงให้ได้!”“ท่านอ๋อง หม่อมฉันมีหมู่เลือดเดียวกับท่านพี่หลิงหลิง หม่อมฉันจะถ่ายเลือดให้ท่านพี่หลิงหลิงเองเพคะ!”หลิงหว่านเห็นสีหน้าของเซียวหลินเทียนเริ่มซีดเซียวลงเพราะเสียเลือดมาก จึงรีบสั่งหลี่ชุง “เปลี่ยนมาให้ข้า!”หลี่ช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1046

    โสมโลหิต?ดวงตาของเซียวหลินเทียนเป็นประกายขึ้นมา สมุนไพรชนิดนี้สามารถช่วยหลิงอวี๋ได้จริงหรือ?โดยสัญชาตญาณ เขาหันไปมองหมอเลี่ยวหมอเลี่ยวก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันใด “ท่านอ๋อง โสมโลหิตนี้ ลือกันว่าเป็นยาบำรุงเลือดชั้นเลิศ เกิดจากเกาะน้ำแข็งซวนปิงในทะเลเหนือ ลำต้นมีสามใบ สีแดงดุจเลือด นี่คือยาบำรุงเลือดที่สามารถช่วยชีวิตคนได้จริง ๆ!”"หากองค์ชายเย่มีโสมโลหิตนี้ พระชายาก็จะรอดแล้ว!"เซียวหลินเทียนยินดีมาก รีบพูดว่า “จ้าวซวน รีบไปที่วังองค์ชายเย่เดี๋ยวนี้ มิว่าองค์ชายเย่จะต้องการเงินจำนวนเท่าใดก็ตาม ขอให้เขามอบโสมโลหิตนี้ให้ข้า!""พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้!"เซียวหลินเทียนกลัวว่าจ้าวซวนไปแล้วองค์ชายเย่จะมิยินยอม เสียเวลาเปล่า จึงเปลี่ยนใจมู่หรงเหยียนซงได้ยินแล้วใจก็กระตุก รีบร้องว่า “อ๋องอี้…”“องค์ชายจิ้น ข้าไม่มีเวลาอยู่หารือกับท่าน เรื่องอื่นค่อยคุยกันทีหลัง!"เซียวหลินเทียนรีบฝากหลิงอวี๋ไว้กับหมอเลี่ยวและหลิงหว่าน แล้วรีบเตรียมม้าไปยังตำหนักองค์ชายเย่“ท่านอ๋อง เปลี่ยนอาภรณ์ก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!"ลู่หนานเห็นเซียวหลินเทียนยังสวมอาภรณ์เปื้อนเลือดอยู่ จึงรีบหยิบอาภรณ์มาแล้ววิ่งไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1047

    กล้าดีอย่างไรใช้คำว่าเสนอหน้า?นาง… จูหลาน ทำอะไรที่ทำให้เซียวหลินมู่ดูหมิ่นตนเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นหรือ?น้ำตาแห่งความน้อยใจของจูหลานไหลลงจากเบ้าตา ยังมิทันได้พูดอะไร เซียวหลินมู่ก็พุ่งเข้ามาหาแล้วจูหลานฝืนกลั้นความน้อยใจเอาไว้แล้วพูดผ่านฉากกั้น “ท่านอ๋องอี้ พระสวามีของหม่อมฉันกลับมาแล้ว หากท่านมีธุระอะไรก็ปรึกษากับเขาโดยตรงเถิด จูหลานขอตัวก่อนเพคะ!”แม้จูหลานจะพูดเช่นนี้ แต่มิได้จากไปเสียทีเดียว ฟังอยู่หลังฉากกั้นหากเป็นวันปกติ เซียวหลินมู่พูดกับตนเช่นนี้ เซียวหลินเทียนคงโกรธไปนานแล้ว แต่ตอนนี้เป็นการขอความช่วยเหลือ เขาจึงระงับความโกรธไว้“น้องห้า พระชายาของข้าถูกทำร้าย จวนสิ้นใจแล้ว ได้ยินมาว่าเจ้ามีโสมโลหิต ข้าสามารถซื้อเพิ่มได้ในราคาอีกเท่าตัว ขอเจ้าเมตตาด้วย!”เซียวหลินเทียนวิงวอน“พูดจาไร้สาระอะไรกัน! ข้าไม่มีของพรรค์นั้นเสียหน่อย ท่านไปได้ยินมาจากที่ใด?”องค์ชายเย่เห็นจูหลานพบกับเซียวหลินเทียนผ่านฉากกั้น ความโกรธก็เบาบางลงไปบ้างแต่ในวันนี้การที่เขาได้อันดับโหล่ในการแข่งขันล่าสัตว์ ถูกองค์ชายคังและองค์ชายเว่ยเยาะเย้ย ความโกรธนี้ยังไม่มีที่ระบาย!“น้องห้า มีควันย่อมมี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1048

    “หากข้าผิดคำสาบาน ขอให้สายฟ้าฟาดผ่าลงมาทำลายสิ้น!”เซียวหลินเทียนกล่าวคำสาบานอย่างหนักแน่นและมั่นคงเมื่อเทียบกับชีวิตของหลิงอวี๋ ตำแหน่งนั้นช่างไร้ค่าเหลือเกิน!เซียวหลินมู่และจูหลานที่อยู่หลังฉากต่างก็ตะลึงเซียวหลินมู่มองไปที่เซียวหลินเทียนด้วยความตกใจ ตำแหน่งรัชทายาทเป็นสิ่งที่เซียวหลินเทียนมีโอกาสได้ครองมากที่สุดแต่ตอนนี้เขากลับยอมสละมันเพื่อโสมโลหิตเพียงต้นเดียวสำหรับเขาหลิงอวี๋สำคัญเพียงนั้นเลยหรือ?แน่นอนว่าเซียวหลินมู่มิเชื่อ เขาคิดสงสัยในใจเรื่องที่พระมารดาต้องการโสมโลหิต เขาปิดบังไว้เป็นความลับอย่างดี แม้แต่จูหลานเขาก็มิได้บอกแต่เซียวหลินเทียนรู้ได้อย่างไรว่าตนมีโสมโลหิตอยู่ในมือ?หรือว่าเซียวหลินเทียนให้คนคอยจับตามองเขาอยู่?เซียวหลินมู่ทั้งตกใจและโกรธ หากเรื่องของพระมารดาถูกเปิดเผย ทั้งตระกูลของเขาอาจต้องตาย...เขามิยอมรับเด็ดขาดว่าโสมโลหิตอยู่ในมือของเขา!“พี่สี่ ข้าต้องบอกอีกกี่ครั้งว่าข้าไม่มีโสมโลหิต! ท่านไปหาที่อื่นเสียเถอะ!”ยิ่งคิดเซียวหลินมู่ก็ยิ่งหงุดหงิด พูดจบก็ตะโกนว่า “พ่อบ้าน ส่งแขก!”เซียวหลินเทียนจ้องมองเซียวหลินมู่ด้วยสายตาเย็นชา อารมณ์ปะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1049

    “จูหลาน เจ้าควรเข้าใจให้ชัดเจน ข้าเป็นสามีของเจ้า มิใช่ศัตรูของเจ้า!"“เจ้าถือดีอย่างไรมาจ้องมองข้าด้วยสายตาเช่นนี้?”เซียวหลินมู่ทั้งน้อยใจและโกรธ พวกเขามิใช่ครอบครัวเดียวกันหรอกหรือ?ความสัมพันธ์ตั้งแต่วัยเยาว์ทำให้ความสัมพันธ์ของเซียวหลินมู่และจูหลานดีกว่าสามีภรรยาทั่วไป เขามิสามารถทนสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังของจูหลานได้“ข้ารู้สึกขอบคุณพี่สะใภ้สี่ที่ช่วยเจ้า แต่ข้าไม่มีสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ ต่อให้อ๋องอี้จะฆ่าข้า เขาก็มิสามารถทำให้ข้าเสกมันออกมาได้หรอก!”จูหลานยิ้มหยัน “เซียวหลินมู่ หม่อมฉันรู้จักท่านมานานเท่าไรแล้ว? หม่อมฉันมักจะพูดว่าข้าเข้าใจท่านมากกว่าสตรีอื่น!”“แต่หม่อมฉันมิอยากเข้าใจท่าน! เช่นนั้นหม่อมฉันจะเชื่อคำพูดของท่านในตอนนี้!”“โสมโลหิตอยู่ในมือท่าน!”จูหลานพูดอย่างมั่นใจ “ยิ่งตะโกนเสียงดังเท่าไร ก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าท่านรู้สึกผิดมากเท่านั้น!”“นอกจากนี้ อย่าลืมเสียว่าหม่อมฉันเป็นผู้ดูแลเงินของท่าน เมื่อมิกี่วันก่อนท่านใช้เงินไปหมื่นตำลึง ในเมื่อท่านมิได้เล่นการพนันหรือเที่ยวหอนางโลม เช่นนั้นเงินดังกล่าวถูกใช้ไปกับสิ่งใดเล่า?”“ข้า…”เซียวหลินมู่พูดมิออก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1050

    “เสด็จพ่อ…”น้ำตาของเซียวหลินเทียนไหลพราก เขาสะอื้นไห้ มิรู้ควรจะกล่าวอะไรเพื่อแสดงความขอบคุณต่อจักรพรรดิอู่อันจักรพรรดิอู่อันมองดูเซียวหลินเทียนหลั่งน้ำตา หัวใจของเขารู้สึกมิยินดีนักเขาคิดอยู่นานทีเดียวกว่าจะตัดสินใจนำยานี้มาเมื่อเห็นหลิงหว่านป้อนยาให้หลิงอวี๋ มีช่วงเวลาหนึ่งที่จักรพรรดิอู่อันอยากจะคืนคำแต่เมื่อนึกถึงไทเฮาที่ยังคงสลบไสลอยู่ในวัง และนึกถึงการลอบสังหารเซียวหลินเทียนในวันนี้ จักรพรรดิอู่อันก็กดความคิดที่จะคืนคำของตนลงไปมือสังหารของฉีตะวันออกกล้าลอบสังหารเซียวหลินเทียนในดินแดนของฉินตะวันตกเช่นนี้!เพราะเหตุใด?มิใช่เพราะว่าเซียวหลินเทียนเป็นบุคคลที่พวกเขาหวาดกลัวหรอกหรือ?สอดแนมศัตรูที่แข็งแกร่ง!ยังมีอสรพิษที่มิรู้จักมากมายซ่อนตัวอยู่ในวังจักรพรรดิอู่อันมิใช่คนเขลา เขาสามารถรับรู้ถึงลางสังหรณ์อันตรายจากเรื่องราวต่อเนื่องเหล่านี้ได้หากจะพลิกหาทั้งเมืองหลวงแล้ว ฝีมือการแพทย์ของหลิงอวี๋ไม่มีใครสามารถเทียบได้หากหลิงอวี๋ตายในวันนี้ แล้ววันหนึ่งเขาประสบภัย ผู้ใดกันจะช่วยเหลือเขา?แผ่นดินฉินตะวันตกแห่งนี้ยังต้องการให้เซียวหลินเทียนคอยปกป้อง หากวันนี้มีบางส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1051

    ฉินรั่วซือมีหรือจะยอมปล่อยโอกาสที่จะได้แสดงตัวต่อหน้าเซียวหลินเทียนไป นางสะบัดมือฉินซาน พลางเอ่ยอย่างงอแง“ท่านพี่ ท่านอ๋องอี้มิได้ไล่ข้า เหตุใดท่านพี่ถึงต้องไล่ข้าออกไปเล่า!”“แม้ว่าท่านพี่จะมิช่วยข้า ก็อย่าได้ขวางมิให้ข้าใช้วิธีของตัวเองแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องอี้เลย!”ตอนนี้หลิงอวี๋หมดสติอยู่ นี่ก็เป็นโอกาสที่ตนจะได้ใกล้ชิดเซียวหลินเทียนมิใช่หรือ?ฉินรั่วซือต้องใช้โอกาสนี้ทำให้เซียวหลินเทียนเห็นความดีของตน และมิปฏิเสธการประทานงานแต่งงานของฮองเฮาเว่ยอีกฉินซานโกรธคำพูดของฉินรั่วซือจนตัวสั่น เขาดุนางด้วยเสียงต่ำ “เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่? ตอนนี้พระชายาหมดสติอยู่ เจ้าก็จะมาฉวยโอกาสตอนที่นางลำบากอยู่อีก!”“คราแรกหากมิใช่เพราะพระชายาปล่อยเจ้าไป และหากเรื่องนั้นที่เจ้าทำกับนางได้แพร่กระจายไปในเมืองหลวง มันก็จะเพียงพอแล้วที่จะทำให้เจ้าสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียง!”ฉินรั่วซือถูกพูดใส่เช่นนี้ก็รู้สึกอับอายจนพาลโกรธ นางกระทืบเท้าพลางตะโกนออกมา “ท่านพี่ นั่นมันเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว ท่านพี่ยังจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกเพื่อสิ่งใดกัน?”“ตอนนี้ข้าก็มิได้ทำร้ายนางอีกแล้ว… นอกจากนี้ ท่าน

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1910

    อาศัยอยู่ที่ตระกูลเฉียวรึ?เซียวหลินเทียนครุ่นคิด หากนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลเฉียวก็คงเข้าไปจับตัวได้ยากว่ากันว่านายน้อยตระกูลเฉียวเสียชีวิตด้วยน้ำมือของหลิงอวี๋ ตระกูลเฉียวจึงเกลียดหลิงอวี๋มากถึงขนาดเสนอรางวัลค่าหัวของนางเป็นจำนวนเงินสูงถึงห้าล้านตระกูลเฉียวรับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาอาศัยด้วยเช่นนี้ หรือว่าพวกเขาคิดจะตามหาหลิงอวี๋ผ่านทางจ้าวหรุ่ยหรุ่ย?“คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของตระกูลเฉียวและจ้าวหรุ่ยหรุ่ยไว้ให้ดี!”เซียวหลินเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจว่าจะมิทำอะไรจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นการชั่วคราว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าหลิงอวี๋หนีไปจากนางได้อย่างไร และนางจะมิยอมแพ้ในการตามหาหลิงอวี๋อย่างแน่นอนหากใช้นาง เซียวหลินเทียนก็จะสามารถหาตัวหลิงอวี๋เจอได้เร็วขึ้น“ยังไม่มีข่าวคราวอะไรจากทางหวงฝู่หมิงจูอีกรึ?”เซียวหลินเทียนนึกถึงเรื่องที่เขาเคยสัญญากับหวงฝู่หลินเอาไว้ว่าจะตามหาลูกสาวให้ จึงได้ถามขึ้นมา“ตอนนี้ยังขอรับ ข้าน้อยสั่งให้คนเร่งค้นหาแล้ว อีกทั้งยังได้ส่งคนไปจับตาดูตระกูลจงเจิ้งด้วย แต่จงเจิ้งหลินและเสวี่ยเหมยยังมิกลับไปยังตระกูลจงเจิ้ง ตอนนี้มิทราบว่าทั้งสามค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1909

    มิพูดมิได้ว่า คำพูดสั้น ๆ มิกี่คำของเย่ซื่อฝานนี้ทำให้หลิงอวี๋ซาบซึ้งใจพลันนั้นนางก็นึกถึงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและเก๋อฮุ่ยหนิงขึ้นมา ที่พวกนางบังอาจกล้าลงมือซ้อมนางและสังหารลูกของนาง นั่นก็เป็นเพราะนางอ่อนแอมิใช่รึ?หากตนเข้มแข็งพอที่จะทำให้พวกนางกลัว พวกนางยังจะกล้าปฏิบัติกับตนเช่นนี้หรือ?จุดประสงค์ที่นางเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น!แล้วจะสนใจว่าสำนักศึกษาชิงหลงเป็นอย่างไรไปเพื่ออะไร?หากวันหนึ่งนางแข็งแกร่งพออย่างที่เย่ซื่อฝานพูด นางก็สามารถสร้างสำนักศึกษาชิงหลงขึ้นมาใหม่ได้ และจะกำหนดกฎเกณฑ์อย่างไรก็ได้!“สิงอวี๋น้อมรับคำสอนไว้แล้ว! ขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง!”หลิงอวี๋โค้งคำนับเย่ซื่อฝานอย่างจริงใจเย่ซื่อฝานมองหลิงอวี๋ด้วยความชื่นชม แม้สตรีนางนี้จะหน้าตาธรรมดา แต่นางก็ฉลาดหลักแหลมมากเอาการเขาชี้แนะไปมิกี่คำนางก็เข้าใจแล้ว ดูมีอนาคตไกลจริง ๆ!“แล้วพบกันวันพรุ่ง!”เย่ซื่อฝานหมุนตัวพาต่งเฉิงออกไปจางอิ๋งยิ้มให้หลิงอวี๋และกระซิบว่า “ท่านรองเจ้าสำนักศึกษามิได้ลำเอียงเข้าข้างเหมียวหยางหรอก เขาแค่เป็นห่วงว่า แม้พวกเราจะร้องเรียนจนชนะแต่ก็จะมิเกิดประ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1908

    สีหน้าของเหมียวหยางเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาคุกเข่าลงพร้อมกับพูดเสียงขรึม“ท่านรองเจ้าสำนักศึกษา เรื่องนี้เป็นฝีมือของเหมียวหยางแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น อาจารย์ของข้าน้อยมิรู้เห็นเรื่องนี้!”“เหมียวหยางเพียงแค่มีความแค้นส่วนตัวกับหอโอสถซ่างกู่ มิอยากเห็นพวกเขาได้ผู้มีความสามารถที่โดดเด่นไป จึงตัดสินใจมาดึงสิงอวี๋เป็นพรรคพวกโดยพลการ!”“เมื่อครู่ที่ข้าน้อยพูดว่าจะสังหารสิงอวี๋ ก็แค่อยากทำให้นางกลัว หาได้คิดจะทำจริง ๆ ไม่ขอรับ!”ผู้รอบรู้ทนมิไหว พลันก่นด่าออกมา “ทำให้นางกลัวรึ? เจ้าถึงกับชักกระบี่ออกมาด้วยซ้ำ หากกลุ่มของท่านรองเจ้าสำนักศึกษามิมา เจ้าจะปล่อยน้องหญิงของข้าไปหรือ?”“เจ้าคิดว่าพวกเราเป็นเด็กน้อยที่จะดูมิออกว่าเจ้าพูดจริงหรือเท็จหรืออย่างไร?”เหมียวหยางทำท่าทางจริงใจและยกนิ้วสองนิ้วขึ้นราวกับจะสาบาน“พี่ใหญ่ท่านนี้ ข้าเหมียวหยางขอสาบานต่อสวรรค์ สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง ข้าเพียงอยากทำให้นางกลัวเท่านั้น!”เมื่อเห็นท่าทางเจ้าเล่ห์ของเหมียวหยาง ก็ทำเอาหลิงอวี๋ถึงกับพูดมิออกจางอิ๋งโกรธจนตัวสั่น ส่วนเย่ซื่อฝานมองเหมียวหยางอย่างเย็นชา สุดท้ายก็หันไปมองต่งเฉิงต่งเฉ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1907

    “พี่ใหญ่ ข้ากลับมาแล้ว! จะบอกให้ วันนี้ข้าผ่านการประเมินได้ตั้งสองรอบ ขอเพียงวันพรุ่งข้าผ่านเข้าไปเป็นห้าอันดับแรกได้ ข้าก็จะได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงแล้ว!”หลิงอวี๋วิ่งเข้ามาในเรือนหลังเล็กของตัวเองอย่างลิงโลด ยังมิทันเห็นผู้รอบรู้นางก็เอ่ยตะโกนด้วยความตื่นเต้นดีใจ“จริงหรือ? เจ้ายอดเยี่ยมมากน้องหญิง!”เมื่อได้ยินเสียงของหลิงอวี๋ ผู้รอบรู้ก็วิ่งออกมา“จริงสิ!”ขณะที่หลิงอวี๋พูดอยู่และกำลังจะปิดประตู ก็มีมือข้างหนึ่งยื่นมาผลักหลิงอวี๋แล้วตามเข้ามา“เจ้าเป็นใคร?”เมื่อผู้รอบรู้เห็นหลิงอวี๋ถูกผลักจนเซ เขาก็รีบเข้าไปช่วยนาง จากนั้นก็บังตัวนางเอาไว้และมองผู้มาเยือนด้วยความระแวดระวังคนที่เข้ามาเป็นบุรุษวัยยี่สิบกว่า รูปร่างสูงโปร่ง มีสีหน้าและแววตาที่เหี้ยมโหด“ข้าเป็นใครมิสำคัญ สิงอวี๋ เจ้าอยากเข้าไปเรียนปรุงโอสถที่สำนักศึกษาชิงหลงหรือไม่?”บุรุษผู้นั้นถาม“เหลวไหล หากมิอยากเข้า แล้วน้องหญิงข้าจะไปลงทะเบียนหาปะไร?”ผู้รอบรู้ตวาดอย่างมิไว้หน้า “เจ้าเป็นใครกันแน่ มาทำอะไรที่บ้านของพวกข้า?”บุรุษผู้นั้นเหลือบมองผู้รอบรู้อย่างเฉยเมยและพูดกับหลิงอวี๋ว่า “ขอเพียงเจ้าตอบตกลงเข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1906

    จางอิ๋งได้พูดคุยเรื่องการแต่งงานกับลูกชายของเย่ซื่อฝานแล้ว และต่อไปหอโอสถซ่างกู่ก็จะเป็นครอบครัวสามีของนาง นางมิอาจทนเห็นหอโอสถซ่างกู่ถูกแทนที่ได้ ดังนั้นนางจึงแสวงหาผู้มีความสามารถให้กับหอโอสถซ่างกู่อย่างกระตือรือร้นทันทีที่เสียงกลองหยุดลง จางอิ๋งก็อดใจรอมิไหวที่จะเก็บตำรับยาของผู้เข้าสอบจางอิ๋งรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋จำแนกส่วนผสมโอสถได้เพียงสิบห้าชนิดเท่านั้นจากผลงานของหลิงอวี๋ในรอบแรก อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะจำแนกได้สักสิบแปดชนิด เหตุใดถึงได้แค่สิบห้าชนิดกันทางด้านหลงอิงที่ลงทะเบียนเรียนกับหอโอสถไป๋เป่าเขียนตำรับยายี่สิบชนิดได้ถูกต้องทั้งหมด และอยู่ในอันดับที่หนึ่งของกลุ่มนี้ส่วนจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเขียนตำรับยาได้สิบห้าชนิด แต่มีตำรับยาสองแผ่นที่มีข้อผิดพลาด ตำรับยาแผ่นหนึ่งระบุเครื่องยาสมุนไพรมิครบถ้วน และอีกแผ่นหนึ่งเขียนชื่อสมุนไพรผิดโดยรวมแล้ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยู่ในอันดับที่สาม และหลิงอวี๋อยู่ในอันดับที่สอง“อาจารย์ พวกเราต้องการผู้มีความสามารถที่โดดเด่นยอดเยี่ยมที่สุด ถึงจะเหนือกว่าหอโอสถไป๋เป่าได้ สิงอวี๋ผู้นี้มิเก่งกาจเท่าหลงอิง จะให้ข้าไปหาหลงอิงเป็นการส่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1905

    ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะก้าวขึ้นไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ ก็ได้ยินจงเจิ้งเฟยพูดขึ้นเสียงเรียบ “เสี่ยวอวี๋ เป้าหมายของเจ้าคือการได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาปรุงโอสถ เท่านั้นก็พอแล้ว อย่าได้ทำตัวโดดเด่นจนเกินไปล่ะ!”“ในสำนักศึกษาชิงหลง หากทำตัวโดดเด่นเกินหน้าเกินตาแต่ไม่มีคนหนุนหลังจะทำให้สร้างศัตรูได้ง่าย!”จงเจิ้งเฟยพูดเช่นนี้ด้วยความหวังดีการที่หลิงอวี๋ได้อันดับหนึ่งในรอบแรกก่อให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่ผู้คนมากมาย จงเจิ้งเฟยกังวลว่าสหายใหม่คนนี้จะมิเข้าใจวิถีของสังคม นางจึงให้คำชี้แนะอีกฝ่ายคำพูดเหล่านี้เปรียบเสมือนอ่างน้ำเย็นที่ทำให้หลิงอวี๋ได้สติขึ้นมาทันทีนางมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลงอิง และเหล่าคุณหนูที่แต่งกายหรูหรา แต่ละคนล้วนร่ำรวยและมีฐานะสูงส่งเหมือนที่จงเจิ้งเฟยพูด ในเมื่อไม่มีพลังอำนาจ แล้วจะเอาอะไรไปต่อกรกับพวกนางได้?ความรู้ความสามารถที่แท้จริงหรืออย่างไร?ในสายตาของเหล่าคุณหนูจากตระกูลขุนนางเหล่านี้ นั่นไม่มีความหมายอะไร เพราะยังมีคนในสำนักศึกษาชิงหลงอีกมากที่มีความสามารถมากกว่าตนการที่นางชนะจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้มิใช่เรื่องอะไรหรอก แต่การปลุกเร้าความอิจฉาริษยาของเหล่าคุณหน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1904

    “หากมิทำให้ยากขึ้นมาหน่อยแล้วจะคัดคนมากมายออกได้อย่างไร!”จงเจิ้งเฟยกลอกตาไปที่เหลยเหวินอีกครั้งพลางยิ้มเยาะ “บางคนมาที่สำนักศึกษาชิงหลงเพียงเพื่อแสวงหาชื่อเสียง และบางคนก็มาเพื่อหาสามีที่ร่ำรวย ไม่มีใจที่จะศึกษาหาความรู้ด้วยซ้ำ!”“หากมิคัดคนเช่นนี้ออกไป ก็รังแต่จะทำให้ชื่อเสียงของเหล่าปรมาจารย์ต้องเสื่อมเสีย!”"เจ้าก็มั่นใจในตัวเองหน่อย เจ้ามิได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลย!"หลิงอวี๋รับคำพูดของจงเจิ้งเฟยมาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง นางมิด้อยกว่าใครแน่นอน นางจะต้องเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงและพยายามพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นให้ได้ เพื่อที่นางจะได้แก้แค้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสุดท้ายทั้งสามคนก็ไปกินอาหารเย็นด้วยกัน หลังจากที่พักผ่อนกันครู่หนึ่งก็กลับมาที่สำนักย่อยเพื่อเข้าร่วมการประเมินรอบต่อไปเนื่องจากในรอบแรกมีคนถูกคัดออกไปเป็นกลุ่มใหญ่ ผู้เข้าสอบที่สำนักย่อยจึงน้อยลงไปมาก ดังนั้นผู้เข้าสอบทุกคนจึงสามารถเข้าไปสังเกตการณ์ในรอบที่สองได้การสอบแข่งขันยังคงจัดขึ้นแบบกลุ่ม และผู้ที่อยู่ห้าอันดับแรกจะได้ผ่านไปยังการประเมินรอบสุดท้ายสิ่งที่ทำให้ผู้เข้าสอบทุกคนตื่นเต้นก็คือ ครั้งนี้นอกเหนือจากรองเจ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1903

    ศิษย์น้องหญิงนางนี้พูดจาอวดดีราวกับสำนักศึกษาชิงหลงเป็นของตระกูลนาง!หลิงอวี๋อดมิได้ที่จะรู้สึกสนใจศิษย์น้องหญิงนางนี้มากขึ้นกว่าเดิมมิรู้ว่าใครเป็นคนกล่าวคำนี้ไว้ ศัตรูของศัตรูคือมิตร!ตอนนี้หลิงอวี๋มิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอีกต่อไปแล้ว แต่นั่นก็มิอาจหยุดยั้งนางจากการใช้ศัตรูของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเพื่อแก้แค้นอีกฝ่ายได้ดูเหมือนว่าศิษย์น้องหญิงจะเกลียดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก บางทีนางอาจจะร่วมมือกับตนเพื่อจัดการจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้“เหวินเหวิน ศิษย์น้องหญิงนางนั้นเป็นใครกัน? ข้าว่านางดูบ้าบิ่นมากเลย!”หลิงอวี๋ถามด้วยความสงสัย“แน่นอนว่านางทำตัวบ้าบิ่นได้อยู่แล้ว เพราะนางสกุลหลงอย่างไรเล่า!”เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิรู้ตัวตนของศิษย์น้องหญิงจริง ๆ เหลยเหวินจึงเลิกเคืองหลิงอวี๋แล้วกระซิบบอกนาง“นางชื่อหลงอิง แม้นางจะมิได้มาจากตระกูลจักรพรรดิมังกร แต่ก็ยังถือว่าเป็นคนของตระกูลหลงอยู่ดี และยังมีชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่คนภายนอกอีกด้วย!”หลิงอวี๋ตระหนักได้ทันทีว่าใต้หล้าในแดนเทพนี้เป็นของตระกูลหลง คนเดียวที่ประสบความสำเร็จในตระกูลนี้ทำให้ทุกคนรอบข้างได้รับประโยชน์ แม้แต่พวกไร้สถานะอำนาจยังดูสู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status