เดิมทีท่านอดีตเสนาบดีโกรธเคืองเซียวหลินเทียนอยู่บ้าง ดั้นด้นไปล่าสัตว์แล้วไยต้องพาหลิงอวี๋ไปด้วยทว่าเมื่อเห็นเซียวหลินเทียนตาแดงก่ำ ความโกรธของท่านอดีตเสนาบดีก็หายไปสิ้น เขาฟังออกว่าในน้ำเสียงของเซียวหลินเทียนแฝงไว้ด้วยความกังวลและสิ้นหวัง…“เป็นไปมิได้! อวี๋เอ๋อร์เป็นเด็กดื้อรั้น ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ นางจะต้องทนอยู่ได้!”“อย่าเพิ่งร้อนใจไป เราจะคิดหาวิธีด้วยกัน!”แม้ท่านอดีตเสนาบดีจะเต็มไปด้วยความกังวล แต่เขาก็มิแสดงออก เขาเป็นผู้อาวุโส ต้องเป็นเสาหลักให้พวกเขา!หลิงหว่านโผล่หน้ามาเห็นหลิงอวี๋ที่หมดแรง ทันใดนั้นดวงตาก็แดงก่ำ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดรินไหลอาบแก้มนางรีบหันหน้าหนีไปเช็ดน้ำตา พยายามฝืนใจพูดว่า “ท่านพี่หลิงหลิงเป็นคนจิตใจดี ช่วยชีวิตคนไว้มากมาย สวรรค์คงมิใจร้ายพรากนางไปแน่!”“ท่านปู่พูดถูก เราจะคิดหาวิธีด้วยกัน เราจะต้องช่วยชีวิตท่านพี่หลิงหลิงให้ได้!”“ท่านอ๋อง หม่อมฉันมีหมู่เลือดเดียวกับท่านพี่หลิงหลิง หม่อมฉันจะถ่ายเลือดให้ท่านพี่หลิงหลิงเองเพคะ!”หลิงหว่านเห็นสีหน้าของเซียวหลินเทียนเริ่มซีดเซียวลงเพราะเสียเลือดมาก จึงรีบสั่งหลี่ชุง “เปลี่ยนมาให้ข้า!”หลี่ช
โสมโลหิต?ดวงตาของเซียวหลินเทียนเป็นประกายขึ้นมา สมุนไพรชนิดนี้สามารถช่วยหลิงอวี๋ได้จริงหรือ?โดยสัญชาตญาณ เขาหันไปมองหมอเลี่ยวหมอเลี่ยวก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันใด “ท่านอ๋อง โสมโลหิตนี้ ลือกันว่าเป็นยาบำรุงเลือดชั้นเลิศ เกิดจากเกาะน้ำแข็งซวนปิงในทะเลเหนือ ลำต้นมีสามใบ สีแดงดุจเลือด นี่คือยาบำรุงเลือดที่สามารถช่วยชีวิตคนได้จริง ๆ!”"หากองค์ชายเย่มีโสมโลหิตนี้ พระชายาก็จะรอดแล้ว!"เซียวหลินเทียนยินดีมาก รีบพูดว่า “จ้าวซวน รีบไปที่วังองค์ชายเย่เดี๋ยวนี้ มิว่าองค์ชายเย่จะต้องการเงินจำนวนเท่าใดก็ตาม ขอให้เขามอบโสมโลหิตนี้ให้ข้า!""พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้!"เซียวหลินเทียนกลัวว่าจ้าวซวนไปแล้วองค์ชายเย่จะมิยินยอม เสียเวลาเปล่า จึงเปลี่ยนใจมู่หรงเหยียนซงได้ยินแล้วใจก็กระตุก รีบร้องว่า “อ๋องอี้…”“องค์ชายจิ้น ข้าไม่มีเวลาอยู่หารือกับท่าน เรื่องอื่นค่อยคุยกันทีหลัง!"เซียวหลินเทียนรีบฝากหลิงอวี๋ไว้กับหมอเลี่ยวและหลิงหว่าน แล้วรีบเตรียมม้าไปยังตำหนักองค์ชายเย่“ท่านอ๋อง เปลี่ยนอาภรณ์ก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!"ลู่หนานเห็นเซียวหลินเทียนยังสวมอาภรณ์เปื้อนเลือดอยู่ จึงรีบหยิบอาภรณ์มาแล้ววิ่งไ
กล้าดีอย่างไรใช้คำว่าเสนอหน้า?นาง… จูหลาน ทำอะไรที่ทำให้เซียวหลินมู่ดูหมิ่นตนเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นหรือ?น้ำตาแห่งความน้อยใจของจูหลานไหลลงจากเบ้าตา ยังมิทันได้พูดอะไร เซียวหลินมู่ก็พุ่งเข้ามาหาแล้วจูหลานฝืนกลั้นความน้อยใจเอาไว้แล้วพูดผ่านฉากกั้น “ท่านอ๋องอี้ พระสวามีของหม่อมฉันกลับมาแล้ว หากท่านมีธุระอะไรก็ปรึกษากับเขาโดยตรงเถิด จูหลานขอตัวก่อนเพคะ!”แม้จูหลานจะพูดเช่นนี้ แต่มิได้จากไปเสียทีเดียว ฟังอยู่หลังฉากกั้นหากเป็นวันปกติ เซียวหลินมู่พูดกับตนเช่นนี้ เซียวหลินเทียนคงโกรธไปนานแล้ว แต่ตอนนี้เป็นการขอความช่วยเหลือ เขาจึงระงับความโกรธไว้“น้องห้า พระชายาของข้าถูกทำร้าย จวนสิ้นใจแล้ว ได้ยินมาว่าเจ้ามีโสมโลหิต ข้าสามารถซื้อเพิ่มได้ในราคาอีกเท่าตัว ขอเจ้าเมตตาด้วย!”เซียวหลินเทียนวิงวอน“พูดจาไร้สาระอะไรกัน! ข้าไม่มีของพรรค์นั้นเสียหน่อย ท่านไปได้ยินมาจากที่ใด?”องค์ชายเย่เห็นจูหลานพบกับเซียวหลินเทียนผ่านฉากกั้น ความโกรธก็เบาบางลงไปบ้างแต่ในวันนี้การที่เขาได้อันดับโหล่ในการแข่งขันล่าสัตว์ ถูกองค์ชายคังและองค์ชายเว่ยเยาะเย้ย ความโกรธนี้ยังไม่มีที่ระบาย!“น้องห้า มีควันย่อมมี
“หากข้าผิดคำสาบาน ขอให้สายฟ้าฟาดผ่าลงมาทำลายสิ้น!”เซียวหลินเทียนกล่าวคำสาบานอย่างหนักแน่นและมั่นคงเมื่อเทียบกับชีวิตของหลิงอวี๋ ตำแหน่งนั้นช่างไร้ค่าเหลือเกิน!เซียวหลินมู่และจูหลานที่อยู่หลังฉากต่างก็ตะลึงเซียวหลินมู่มองไปที่เซียวหลินเทียนด้วยความตกใจ ตำแหน่งรัชทายาทเป็นสิ่งที่เซียวหลินเทียนมีโอกาสได้ครองมากที่สุดแต่ตอนนี้เขากลับยอมสละมันเพื่อโสมโลหิตเพียงต้นเดียวสำหรับเขาหลิงอวี๋สำคัญเพียงนั้นเลยหรือ?แน่นอนว่าเซียวหลินมู่มิเชื่อ เขาคิดสงสัยในใจเรื่องที่พระมารดาต้องการโสมโลหิต เขาปิดบังไว้เป็นความลับอย่างดี แม้แต่จูหลานเขาก็มิได้บอกแต่เซียวหลินเทียนรู้ได้อย่างไรว่าตนมีโสมโลหิตอยู่ในมือ?หรือว่าเซียวหลินเทียนให้คนคอยจับตามองเขาอยู่?เซียวหลินมู่ทั้งตกใจและโกรธ หากเรื่องของพระมารดาถูกเปิดเผย ทั้งตระกูลของเขาอาจต้องตาย...เขามิยอมรับเด็ดขาดว่าโสมโลหิตอยู่ในมือของเขา!“พี่สี่ ข้าต้องบอกอีกกี่ครั้งว่าข้าไม่มีโสมโลหิต! ท่านไปหาที่อื่นเสียเถอะ!”ยิ่งคิดเซียวหลินมู่ก็ยิ่งหงุดหงิด พูดจบก็ตะโกนว่า “พ่อบ้าน ส่งแขก!”เซียวหลินเทียนจ้องมองเซียวหลินมู่ด้วยสายตาเย็นชา อารมณ์ปะ
“จูหลาน เจ้าควรเข้าใจให้ชัดเจน ข้าเป็นสามีของเจ้า มิใช่ศัตรูของเจ้า!"“เจ้าถือดีอย่างไรมาจ้องมองข้าด้วยสายตาเช่นนี้?”เซียวหลินมู่ทั้งน้อยใจและโกรธ พวกเขามิใช่ครอบครัวเดียวกันหรอกหรือ?ความสัมพันธ์ตั้งแต่วัยเยาว์ทำให้ความสัมพันธ์ของเซียวหลินมู่และจูหลานดีกว่าสามีภรรยาทั่วไป เขามิสามารถทนสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังของจูหลานได้“ข้ารู้สึกขอบคุณพี่สะใภ้สี่ที่ช่วยเจ้า แต่ข้าไม่มีสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ ต่อให้อ๋องอี้จะฆ่าข้า เขาก็มิสามารถทำให้ข้าเสกมันออกมาได้หรอก!”จูหลานยิ้มหยัน “เซียวหลินมู่ หม่อมฉันรู้จักท่านมานานเท่าไรแล้ว? หม่อมฉันมักจะพูดว่าข้าเข้าใจท่านมากกว่าสตรีอื่น!”“แต่หม่อมฉันมิอยากเข้าใจท่าน! เช่นนั้นหม่อมฉันจะเชื่อคำพูดของท่านในตอนนี้!”“โสมโลหิตอยู่ในมือท่าน!”จูหลานพูดอย่างมั่นใจ “ยิ่งตะโกนเสียงดังเท่าไร ก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าท่านรู้สึกผิดมากเท่านั้น!”“นอกจากนี้ อย่าลืมเสียว่าหม่อมฉันเป็นผู้ดูแลเงินของท่าน เมื่อมิกี่วันก่อนท่านใช้เงินไปหมื่นตำลึง ในเมื่อท่านมิได้เล่นการพนันหรือเที่ยวหอนางโลม เช่นนั้นเงินดังกล่าวถูกใช้ไปกับสิ่งใดเล่า?”“ข้า…”เซียวหลินมู่พูดมิออก
“เสด็จพ่อ…”น้ำตาของเซียวหลินเทียนไหลพราก เขาสะอื้นไห้ มิรู้ควรจะกล่าวอะไรเพื่อแสดงความขอบคุณต่อจักรพรรดิอู่อันจักรพรรดิอู่อันมองดูเซียวหลินเทียนหลั่งน้ำตา หัวใจของเขารู้สึกมิยินดีนักเขาคิดอยู่นานทีเดียวกว่าจะตัดสินใจนำยานี้มาเมื่อเห็นหลิงหว่านป้อนยาให้หลิงอวี๋ มีช่วงเวลาหนึ่งที่จักรพรรดิอู่อันอยากจะคืนคำแต่เมื่อนึกถึงไทเฮาที่ยังคงสลบไสลอยู่ในวัง และนึกถึงการลอบสังหารเซียวหลินเทียนในวันนี้ จักรพรรดิอู่อันก็กดความคิดที่จะคืนคำของตนลงไปมือสังหารของฉีตะวันออกกล้าลอบสังหารเซียวหลินเทียนในดินแดนของฉินตะวันตกเช่นนี้!เพราะเหตุใด?มิใช่เพราะว่าเซียวหลินเทียนเป็นบุคคลที่พวกเขาหวาดกลัวหรอกหรือ?สอดแนมศัตรูที่แข็งแกร่ง!ยังมีอสรพิษที่มิรู้จักมากมายซ่อนตัวอยู่ในวังจักรพรรดิอู่อันมิใช่คนเขลา เขาสามารถรับรู้ถึงลางสังหรณ์อันตรายจากเรื่องราวต่อเนื่องเหล่านี้ได้หากจะพลิกหาทั้งเมืองหลวงแล้ว ฝีมือการแพทย์ของหลิงอวี๋ไม่มีใครสามารถเทียบได้หากหลิงอวี๋ตายในวันนี้ แล้ววันหนึ่งเขาประสบภัย ผู้ใดกันจะช่วยเหลือเขา?แผ่นดินฉินตะวันตกแห่งนี้ยังต้องการให้เซียวหลินเทียนคอยปกป้อง หากวันนี้มีบางส
ฉินรั่วซือมีหรือจะยอมปล่อยโอกาสที่จะได้แสดงตัวต่อหน้าเซียวหลินเทียนไป นางสะบัดมือฉินซาน พลางเอ่ยอย่างงอแง“ท่านพี่ ท่านอ๋องอี้มิได้ไล่ข้า เหตุใดท่านพี่ถึงต้องไล่ข้าออกไปเล่า!”“แม้ว่าท่านพี่จะมิช่วยข้า ก็อย่าได้ขวางมิให้ข้าใช้วิธีของตัวเองแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องอี้เลย!”ตอนนี้หลิงอวี๋หมดสติอยู่ นี่ก็เป็นโอกาสที่ตนจะได้ใกล้ชิดเซียวหลินเทียนมิใช่หรือ?ฉินรั่วซือต้องใช้โอกาสนี้ทำให้เซียวหลินเทียนเห็นความดีของตน และมิปฏิเสธการประทานงานแต่งงานของฮองเฮาเว่ยอีกฉินซานโกรธคำพูดของฉินรั่วซือจนตัวสั่น เขาดุนางด้วยเสียงต่ำ “เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่? ตอนนี้พระชายาหมดสติอยู่ เจ้าก็จะมาฉวยโอกาสตอนที่นางลำบากอยู่อีก!”“คราแรกหากมิใช่เพราะพระชายาปล่อยเจ้าไป และหากเรื่องนั้นที่เจ้าทำกับนางได้แพร่กระจายไปในเมืองหลวง มันก็จะเพียงพอแล้วที่จะทำให้เจ้าสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียง!”ฉินรั่วซือถูกพูดใส่เช่นนี้ก็รู้สึกอับอายจนพาลโกรธ นางกระทืบเท้าพลางตะโกนออกมา “ท่านพี่ นั่นมันเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว ท่านพี่ยังจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกเพื่อสิ่งใดกัน?”“ตอนนี้ข้าก็มิได้ทำร้ายนางอีกแล้ว… นอกจากนี้ ท่าน
เซียวหลินเทียนจำได้ว่าหลังจากเรื่องหมูป่าสิ้นสุดลง องค์ชายหนิงให้ฉาเค่อฉีส่งเซี่ยโฮ่วตานรั่วลงจากภูเขาไปแล้วเหตุใดนางถึงยังอยู่บนภูเขาเล่า?“ตอนนั้นนางแสดงท่าทีเยี่ยงไรบ้าง?”เซียวหลินเทียนเริ่มสงสัยเซี่ยโฮ่วตานรั่วมือสังหารกับคนที่ยิงธนูใส่หลิงอวี๋นั้นเป็นสองกลุ่มอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นตอนที่ตนต่อสู้กับมือสังหารอยู่ พวกคนที่ยิงธนูเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะลอบโจมตีตนได้!“องค์หญิงตานรั่วบอกว่า นางมาหาองค์ชายหนิง พอได้ยินว่าทางนี้มีเสียงต่อสู้กันจึงวิ่งเข้ามาดูแล้วจึงพบพวกเรา!”เผยอวี้เห็นว่าสีหน้าของเซียวหลินเทียนดูผิดปกติ จึงเอ่ยถาม “เจ้าสงสัยว่าคนของนางยิงธนูใส่พวกเจ้าหรือ? แต่เหตุใดนางถึงต้องทำเช่นนั้นเล่า?”“เพราะนี่ยังอยู่ในอาณาเขตของฉินตะวันตกของเรา นางเป็นแขก หากกล้าลอบสังหารเจ้า จะมิกลัวหรือว่าเราจะมิให้กลุ่มของพวกเขาออกจากฉินตะวันตก?”เซียวหลินเทียนกัดฟันแล้วเล่าเรื่องที่เซี่ยโฮ่วตานรั่วใส่ความหลิงอวี๋ให้ทั้งสองคนฟังสุดท้ายเซียวหลินเทียนก็ยิ้มเยาะพลางเอ่ยออกไป “อาอวี๋ทำให้พวกเขาเสียหน้ามากถึงเพียงนั้น ดูจากนิสัยวางอำนาจของเซี่ยโฮ่วตานรั่วแล้ว เมื่อสบโอกาสเช่นนี้จะมิแก้แ