Share

บทที่ 1048

Penulis: กานเฟย
“หากข้าผิดคำสาบาน ขอให้สายฟ้าฟาดผ่าลงมาทำลายสิ้น!”

เซียวหลินเทียนกล่าวคำสาบานอย่างหนักแน่นและมั่นคง

เมื่อเทียบกับชีวิตของหลิงอวี๋ ตำแหน่งนั้นช่างไร้ค่าเหลือเกิน!

เซียวหลินมู่และจูหลานที่อยู่หลังฉากต่างก็ตะลึง

เซียวหลินมู่มองไปที่เซียวหลินเทียนด้วยความตกใจ ตำแหน่งรัชทายาทเป็นสิ่งที่เซียวหลินเทียนมีโอกาสได้ครองมากที่สุด

แต่ตอนนี้เขากลับยอมสละมันเพื่อโสมโลหิตเพียงต้นเดียว

สำหรับเขาหลิงอวี๋สำคัญเพียงนั้นเลยหรือ?

แน่นอนว่าเซียวหลินมู่มิเชื่อ เขาคิดสงสัยในใจ

เรื่องที่พระมารดาต้องการโสมโลหิต เขาปิดบังไว้เป็นความลับอย่างดี แม้แต่จูหลานเขาก็มิได้บอก

แต่เซียวหลินเทียนรู้ได้อย่างไรว่าตนมีโสมโลหิตอยู่ในมือ?

หรือว่าเซียวหลินเทียนให้คนคอยจับตามองเขาอยู่?

เซียวหลินมู่ทั้งตกใจและโกรธ หากเรื่องของพระมารดาถูกเปิดเผย ทั้งตระกูลของเขาอาจต้องตาย...

เขามิยอมรับเด็ดขาดว่าโสมโลหิตอยู่ในมือของเขา!

“พี่สี่ ข้าต้องบอกอีกกี่ครั้งว่าข้าไม่มีโสมโลหิต! ท่านไปหาที่อื่นเสียเถอะ!”

ยิ่งคิดเซียวหลินมู่ก็ยิ่งหงุดหงิด พูดจบก็ตะโกนว่า “พ่อบ้าน ส่งแขก!”

เซียวหลินเทียนจ้องมองเซียวหลินมู่ด้วยสายตาเย็นชา อารมณ์ปะ
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (2)
goodnovel comment avatar
กัญญารัตน์ โพธิ์ใหญ่
ไม่กลัวเสียลูกค้าเหรอคะ ช้า มากๆ วันละตอน ปรับปรุงด่วนคะ
goodnovel comment avatar
กัญญารัตน์ โพธิ์ใหญ่
อัปเดปโคตช้ามากๆๆๆๆๆๆ เสียตังนะคะ ไม่ได้อ่านฟรีๆ ปรับปรุงด้วย
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1049

    “จูหลาน เจ้าควรเข้าใจให้ชัดเจน ข้าเป็นสามีของเจ้า มิใช่ศัตรูของเจ้า!"“เจ้าถือดีอย่างไรมาจ้องมองข้าด้วยสายตาเช่นนี้?”เซียวหลินมู่ทั้งน้อยใจและโกรธ พวกเขามิใช่ครอบครัวเดียวกันหรอกหรือ?ความสัมพันธ์ตั้งแต่วัยเยาว์ทำให้ความสัมพันธ์ของเซียวหลินมู่และจูหลานดีกว่าสามีภรรยาทั่วไป เขามิสามารถทนสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังของจูหลานได้“ข้ารู้สึกขอบคุณพี่สะใภ้สี่ที่ช่วยเจ้า แต่ข้าไม่มีสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ ต่อให้อ๋องอี้จะฆ่าข้า เขาก็มิสามารถทำให้ข้าเสกมันออกมาได้หรอก!”จูหลานยิ้มหยัน “เซียวหลินมู่ หม่อมฉันรู้จักท่านมานานเท่าไรแล้ว? หม่อมฉันมักจะพูดว่าข้าเข้าใจท่านมากกว่าสตรีอื่น!”“แต่หม่อมฉันมิอยากเข้าใจท่าน! เช่นนั้นหม่อมฉันจะเชื่อคำพูดของท่านในตอนนี้!”“โสมโลหิตอยู่ในมือท่าน!”จูหลานพูดอย่างมั่นใจ “ยิ่งตะโกนเสียงดังเท่าไร ก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าท่านรู้สึกผิดมากเท่านั้น!”“นอกจากนี้ อย่าลืมเสียว่าหม่อมฉันเป็นผู้ดูแลเงินของท่าน เมื่อมิกี่วันก่อนท่านใช้เงินไปหมื่นตำลึง ในเมื่อท่านมิได้เล่นการพนันหรือเที่ยวหอนางโลม เช่นนั้นเงินดังกล่าวถูกใช้ไปกับสิ่งใดเล่า?”“ข้า…”เซียวหลินมู่พูดมิออก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1050

    “เสด็จพ่อ…”น้ำตาของเซียวหลินเทียนไหลพราก เขาสะอื้นไห้ มิรู้ควรจะกล่าวอะไรเพื่อแสดงความขอบคุณต่อจักรพรรดิอู่อันจักรพรรดิอู่อันมองดูเซียวหลินเทียนหลั่งน้ำตา หัวใจของเขารู้สึกมิยินดีนักเขาคิดอยู่นานทีเดียวกว่าจะตัดสินใจนำยานี้มาเมื่อเห็นหลิงหว่านป้อนยาให้หลิงอวี๋ มีช่วงเวลาหนึ่งที่จักรพรรดิอู่อันอยากจะคืนคำแต่เมื่อนึกถึงไทเฮาที่ยังคงสลบไสลอยู่ในวัง และนึกถึงการลอบสังหารเซียวหลินเทียนในวันนี้ จักรพรรดิอู่อันก็กดความคิดที่จะคืนคำของตนลงไปมือสังหารของฉีตะวันออกกล้าลอบสังหารเซียวหลินเทียนในดินแดนของฉินตะวันตกเช่นนี้!เพราะเหตุใด?มิใช่เพราะว่าเซียวหลินเทียนเป็นบุคคลที่พวกเขาหวาดกลัวหรอกหรือ?สอดแนมศัตรูที่แข็งแกร่ง!ยังมีอสรพิษที่มิรู้จักมากมายซ่อนตัวอยู่ในวังจักรพรรดิอู่อันมิใช่คนเขลา เขาสามารถรับรู้ถึงลางสังหรณ์อันตรายจากเรื่องราวต่อเนื่องเหล่านี้ได้หากจะพลิกหาทั้งเมืองหลวงแล้ว ฝีมือการแพทย์ของหลิงอวี๋ไม่มีใครสามารถเทียบได้หากหลิงอวี๋ตายในวันนี้ แล้ววันหนึ่งเขาประสบภัย ผู้ใดกันจะช่วยเหลือเขา?แผ่นดินฉินตะวันตกแห่งนี้ยังต้องการให้เซียวหลินเทียนคอยปกป้อง หากวันนี้มีบางส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1051

    ฉินรั่วซือมีหรือจะยอมปล่อยโอกาสที่จะได้แสดงตัวต่อหน้าเซียวหลินเทียนไป นางสะบัดมือฉินซาน พลางเอ่ยอย่างงอแง“ท่านพี่ ท่านอ๋องอี้มิได้ไล่ข้า เหตุใดท่านพี่ถึงต้องไล่ข้าออกไปเล่า!”“แม้ว่าท่านพี่จะมิช่วยข้า ก็อย่าได้ขวางมิให้ข้าใช้วิธีของตัวเองแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องอี้เลย!”ตอนนี้หลิงอวี๋หมดสติอยู่ นี่ก็เป็นโอกาสที่ตนจะได้ใกล้ชิดเซียวหลินเทียนมิใช่หรือ?ฉินรั่วซือต้องใช้โอกาสนี้ทำให้เซียวหลินเทียนเห็นความดีของตน และมิปฏิเสธการประทานงานแต่งงานของฮองเฮาเว่ยอีกฉินซานโกรธคำพูดของฉินรั่วซือจนตัวสั่น เขาดุนางด้วยเสียงต่ำ “เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่? ตอนนี้พระชายาหมดสติอยู่ เจ้าก็จะมาฉวยโอกาสตอนที่นางลำบากอยู่อีก!”“คราแรกหากมิใช่เพราะพระชายาปล่อยเจ้าไป และหากเรื่องนั้นที่เจ้าทำกับนางได้แพร่กระจายไปในเมืองหลวง มันก็จะเพียงพอแล้วที่จะทำให้เจ้าสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียง!”ฉินรั่วซือถูกพูดใส่เช่นนี้ก็รู้สึกอับอายจนพาลโกรธ นางกระทืบเท้าพลางตะโกนออกมา “ท่านพี่ นั่นมันเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว ท่านพี่ยังจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกเพื่อสิ่งใดกัน?”“ตอนนี้ข้าก็มิได้ทำร้ายนางอีกแล้ว… นอกจากนี้ ท่าน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1052

    เซียวหลินเทียนจำได้ว่าหลังจากเรื่องหมูป่าสิ้นสุดลง องค์ชายหนิงให้ฉาเค่อฉีส่งเซี่ยโฮ่วตานรั่วลงจากภูเขาไปแล้วเหตุใดนางถึงยังอยู่บนภูเขาเล่า?“ตอนนั้นนางแสดงท่าทีเยี่ยงไรบ้าง?”เซียวหลินเทียนเริ่มสงสัยเซี่ยโฮ่วตานรั่วมือสังหารกับคนที่ยิงธนูใส่หลิงอวี๋นั้นเป็นสองกลุ่มอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นตอนที่ตนต่อสู้กับมือสังหารอยู่ พวกคนที่ยิงธนูเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะลอบโจมตีตนได้!“องค์หญิงตานรั่วบอกว่า นางมาหาองค์ชายหนิง พอได้ยินว่าทางนี้มีเสียงต่อสู้กันจึงวิ่งเข้ามาดูแล้วจึงพบพวกเรา!”เผยอวี้เห็นว่าสีหน้าของเซียวหลินเทียนดูผิดปกติ จึงเอ่ยถาม “เจ้าสงสัยว่าคนของนางยิงธนูใส่พวกเจ้าหรือ? แต่เหตุใดนางถึงต้องทำเช่นนั้นเล่า?”“เพราะนี่ยังอยู่ในอาณาเขตของฉินตะวันตกของเรา นางเป็นแขก หากกล้าลอบสังหารเจ้า จะมิกลัวหรือว่าเราจะมิให้กลุ่มของพวกเขาออกจากฉินตะวันตก?”เซียวหลินเทียนกัดฟันแล้วเล่าเรื่องที่เซี่ยโฮ่วตานรั่วใส่ความหลิงอวี๋ให้ทั้งสองคนฟังสุดท้ายเซียวหลินเทียนก็ยิ้มเยาะพลางเอ่ยออกไป “อาอวี๋ทำให้พวกเขาเสียหน้ามากถึงเพียงนั้น ดูจากนิสัยวางอำนาจของเซี่ยโฮ่วตานรั่วแล้ว เมื่อสบโอกาสเช่นนี้จะมิแก้แ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1053

    หลิงหว่านเปลี่ยนอาภรณ์ให้หลิงอวี๋และจัดทรงผมให้เรียบร้อยแล้วเมื่อดูเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็มิได้ดูโทรมมากนัก“ท่านอ๋อง ท่านพี่หลิงหลิงดีขึ้นมากแล้วเพคะ เมื่อครู่ถังถีเตี่ยนตรวจชีพจรของนางอีกครั้ง ก็บอกว่าอีกประเดี๋ยวท่านพี่หลิงหลิงคงจะฟื้นแล้ว!”“ถังถีเตี่ยนบอกว่า ที่พระตำหนักไทเฮายังต้องการเขา จึงกลับไปก่อน! และให้หม่อมฉันบอกท่านว่าหากมีอะไรก็ให้ไปหาเขาได้เลยเพคะ!”“อืม!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าแล้วนั่งลงข้างเตียงมือของเขาสัมผัสที่ใบหน้าของหลิงอวี๋อย่างแผ่วเบา ใบหน้าของนางมิได้เย็นเยียบดังเช่นเมื่อครู่ และอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว“ท่านอ๋อง องค์หญิงชิ่งกับองค์ชายจิ้นฝากโอสถไว้ให้พระชายาเพคะ เป็นโอสถบำรุงโลหิตเพคะ!”หลิงหว่านชี้ไปที่โต๊ะข้าง ๆ “หม่อมฉันปฏิเสธไปแล้ว แต่องค์หญิงชิ่งยืนกรานให้หม่อมฉันรับไว้จึงยากที่จะปฏิเสธ หม่อมฉันจึงรับไว้แทนท่านเพคะ!”“ท่านทรงลองดูหากมีสิ่งใดผิดปกติก็สามารถส่งกลับไปได้เพคะ!”เซียวหลินเทียนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าพี่น้องมู่หลงมาเยี่ยมหลิงอวี๋ เขาลืมเรื่องนี้ไปเลย“ได้ ลู่หนาน เจ้าให้หมิ่นกูเอาของกำนัลเหล่านี้ออกไป แล้วให้นางเตรียมของกำนัลที่มีมูลค่าเท่าก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1054

    เมื่อเผยอวี้เอ่ยเช่นนี้ หัวใจของหลิงหว่านก็ดูเหมือนมีบางสิ่งมาตรึงเอาไว้ ความโกรธของนางหายไปแล้ว“หว่านเอ๋อร์ เจ้ามิได้เห็นว่าตอนนั้นอาเทียนคล้ายคนบ้าเลือดไปแล้ว! ชีวิตของพี่หลิงหลิงแขวนอยู่บนเส้นด้าย กลิ่นอายสังหารที่เขาปล่อยออกมานั้นแทนที่จะมุ่งไปหามือสังหารมันดูจะมุ่งหาตัวเขาเองมากกว่า...”เผยอวี้นึกถึงท่าทางบ้าคลั่งของเซียวหลินเทียนในเวลานั้นแล้วก็ทอดถอนใจพลางเอ่ย“ยามมีชีวิตอยู่ควรทะนุถนอมชีวิตไว้ดี ๆ อย่ารอให้ถึงการที่จะต้องจากลากันชั่วนิรันดร์แล้วจึงมาเสียใจ!”“ข้าคิดเช่นนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว... ข้าหวังว่าจะแต่งเจ้าเข้าบ้านในวันพรุ่งนี้แล้ว! หากเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะมิต้องเสียใจที่มิสามารถกอดเจ้าได้ก่อนที่ข้าจะตาย…”หลิงหว่านฟังแล้วก็รู้สึกหนักใจ นางยกมือขึ้นปิดปากเขาโดยมิรู้ตัว“เอ่ยวาจาไร้สาระอะไรกัน! เรื่องเป็นเรื่องตายอะไร… ข้ามิอยากได้ยินเรื่องเช่นนี้!”“มิว่าจะอยู่ที่ใด ท่านจะต้องสัญญาว่าจะมีชีวิตที่ดี! ข้า… ข้ายังอยากให้เราอยู่กันไปจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน มีลูกมีหลานเต็มเรือน!”แม้ว่าพูดเช่นนี้แล้วใบหน้าของหลิงหว่านจะแดงก่ำด้วยความเขินอาย แต่ก็ยังคงเอ่ยอย่างเปิดเผยตรงไปตร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1055

    แต่เซียวหลินเทียนมิกล้า!ความอ่อนแอของหลิงอวี๋ในเวลานี้ทำให้เขารู้สึกว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้อาการบาดเจ็บของนางรุนแรงขึ้นอีก...“หิวน้ำหรือ? ข้าจะรินน้ำให้ เจ้าหิวหรือไม่? ข้าจะให้คนเอาโจ๊กมาให้เจ้า!”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามอย่างสะเปะสะปะเขาที่ดูสงบมาโดยตลอด ดูเหมือนจะกลายเป็นเด็กที่ทำอะไรมิถูกไปในทันใดมิรู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะดูแลหลิงอวี๋ให้ดียิ่งขึ้นได้“หม่อมฉันจะไปรินน้ำเองเพคะ!”หานเหมยปาดน้ำตาจากหางตาอย่างเงียบ ๆ แล้ววิ่งไปรินน้ำ“เจ็บหรือไม่? มันคงจะเจ็บมากสินะ!”เซียวหลินเทียนพูดเองเออเองดวงตาของหลิงอวี๋ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น นางเห็นท่าทางทำตัวมิถูกของเซียวหลินเทียนแล้วก็แย้มยิ้มขึ้นมาโดยมิรู้ตัวนางนึกถึงบาดแผลแส้ห้าสิบครั้งที่ได้รับตอนข้ามเวลามา บาดแผลทั่วทั้งร่างกายนั้นเจ็บปวดกว่าตอนนี้หลายเท่าตัวนัก!ในเวลานั้น เซียวหลินเทียนมิเคยคิดที่จะถามนางเลยว่าเจ็บหรือไม่!เมื่อเห็นนาง เขาก็ดูรำคาญและเกลียดชัง!แต่ในเวลานี้ ใบหน้าและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและทุกข์ใจ...“เจ็บ!”หลิงอวี๋พึมพำออกมาโดยมิรู้ตัวเมื่อโตขึ้น คนอื่นจะสนใจเพียงแค่ว่าเจ้าบินได้สูงหรือไม่ ไม่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1056

    เผยอวี้จะกลับแล้ว หลิงหว่านจึงส่งเขากลับแต่เมื่อหลิงหว่านนึกถึงเรื่องฉินรั่วซือ ก็ดึงเผยอวี้ให้หยุดก่อน“ท่านพี่เผย มีบางเรื่องที่ข้ารู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อย มิรู้ว่าควรจะบอกท่านอ๋องอี้ดีหรือไม่ ท่านแนะนำข้าที!”“เรื่องอะไรหรือ?”เผยอวี้เอ่ยถามไปอย่างสบาย ๆ“ตอนที่พวกท่านยังมิมา ฉินรั่วซือมาเยี่ยมท่านพี่หลิงหลิง นางบอกว่าองค์ชายเย่มีโสมโลหิตที่เป็นยาศักดิ์สิทธิ์ช่วยบำรุงโลหิต ท่านอ๋องอี้จึงไปขอยา!”แล้วหลิงหว่านก็เอ่ยด้วยความโกรธ “แต่ท่านอ๋องอี้ไปเสียเที่ยว มิได้ยามาเจ้าค่ะ!”เผยอวี้เลิกคิ้วอย่างสงสัย “เรื่องนี้มีอะไรแปลกหรือ? บางทีนางอาจจะได้ยินมาผิดก็เป็นได้!”“หว่านเอ๋อร์ เจ้าโกรธนางเพราะฮองเฮาเว่ยต้องการจะประทานงานแต่งงานให้ฉินรั่วซือกับท่านอ๋องอี้หรือ?”หลิงหว่านเบิกตากลมโตจ้องมองเผยอวี้อย่างโกรธเคืองทันที “ท่านหมายความว่าเยี่ยงไร? ท่านจะบอกว่าข้าใจแคบหรือ? หากฉินรั่วซือมีจิตใจดีจริง ๆ ข้าก็มีแต่จะขอบคุณนางก็เท่านั้น!”“แต่ท่านมิรู้เรื่องราวภายในเลย ท่านมีสิทธิ์อะไรถึงกล้าว่าข้าโกรธนาง! ข้าเป็นคนใจแคบเช่นนี้หรือ?”“หึ หากรู้ว่าท่านจะคิดเช่นนี้ ข้าก็มิพูดแล้ว!”เมื่อเผยอว

Bab terbaru

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1893

    เมื่อครอบครัวของเจี่ยงหัวกลับมาที่เรือ พวกเขาก็พบศพไร้หัวในห้องของเขา มีคราบเลือดยาวบนผนังไม้ของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกสลักด้วยกระบี่อาบเลือด“จุดจบของคนทรยศ!”ครอบครัวของเจี่ยงหัวตกใจกลัวมากจนสละเรือและหนีไปในคืนนั้นพวกเขามิรู้ว่าที่จริงแล้วเซียวหลินเทียนมิคิดจะเอาผิดพวกเขา ทุกคนควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และการสังหารเจี่ยงหัวนั้นก็เพียงพอแล้วเซียวหลินเทียนส่งศีรษะของเจี่ยงหัวให้สือหรง ทันใดนั้นสือหรงก็ร้องไห้เศร้าโศกและนำศีรษะของเจี่ยงหัวไปเซ่นให้กับครอบครัวของตนหลังจากนั้น สือหรงก็กระทำการบางอย่าง เขาเขียนจดหมายเลือดเรื่องที่เจี่ยงหัวสมคบคิดกับมหาปราชญ์สังหารเหล่าศิษย์ของตำหนักปีกเงิน และคัดลอกสำเนาไปหลายสิบฉบับภายในคืนเดียววันรุ่งขึ้น ที่ประตูเมืองในพื้นที่นั้นมีพ่อค้าจำนวนมากกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง แล้วก็มีคนพบศีรษะของเจี่ยงหัวที่แขวนอยู่บนกำแพงเมือง และยังมีจดหมายเลือดที่สือหรงเป็นคนเขียน ซึ่งเขียนประณามความผิดของเจี่ยงหัวขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็มีจดหมายเลือดมากมายปลิวลงมาจากกำแพงเมืองทันใดนั้นความผิดฐานทรยศอาจารย์และสมคบคิดกับมหาปราชญ์ของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1892

    หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น หลิงอวี๋ก็คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วสารพัดและสังหารผู้คนเป็นผักปลาแต่หลิงอวี๋กลับมิรู้เลยว่ามหาปราชญ์เป็นผู้สั่งให้คนบิดเบือนและแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปหลังจากที่เขากลับไปถึงเมืองหลวงแดนเทพเซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินนั้นคนหนึ่งทำให้มหาปราชญ์ตาบอด และอีกคนก็ตัดแขนข้างหนึ่งของมหาปราชญ์ มหาปราชญ์จะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรหากเขามิแก้แค้น!เขาทำให้เซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินเสียชื่อเสียงและทำให้ผู้คนทั่วหล้าลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา ส่วนมหาปราชญ์ใช้โอกาสนี้พักฟื้นและหาโอกาสเหมาะเพื่อช่วงชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคือ กระบี่คุณอู่ของเซียวหลินเทียนอีกครั้งมหาปราชญ์มิได้บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบกระบี่อายุนับพันปีเล่มนี้ ด้วยคิดว่ากระบี่เล่มนี้เป็นของตน จึงมิอยากให้ใครมาแย่งชิงมันไปการแพร่กระจายข่าวลือเป็นหนึ่งในอุบายของมหาปราชญ์ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและป้องกันมิให้เขาพบกับเหล่าศิษย์จากตำหนักปีกเงินซึ่งเป็นไปตามคาดว่าข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปยังวงกว้างด้วยความรวดเร็วบรรดาศิษย์ตำหนักปีกเงินบางส่วนที่กระจายอยู่ตามสถาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1891

    ผู้รอบรู้ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เมื่อไรกันที่เขาได้รับความเชื่อใจจากใครบางคนมากมายถึงเพียงนี้!หลิงอวี๋พูดไปตามตรง “พี่ใหญ่ มีเรื่องบางอย่างที่ตอนนี้ข้ายังบอกท่านมิได้ มิใช่ว่าข้ามิไว้ใจท่าน แต่หากพูดไปแล้วมันอาจสร้างปัญหามากมายให้ท่านได้!”“เชื่อใจข้าเถิด สักวันข้าจะเล่าให้ท่านฟังทุกอย่าง!”ผู้รอบรู้มองตั๋วเงินในมือของตนพลางพูดอย่างใจกว้างว่า “ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง หากเจ้ามิอยากพูดก็มิต้องพูดหรอก พี่ใหญ่เชื่อใจเจ้า!”หลิงอวี๋ถึงกับยอมมอบของมีค่าทั้งหมดให้กับตนเช่นนี้ แม้จะมีความลับปิดบังต่อตนผู้รอบรู้ก็ย่อมยอมรับได้ขอแค่เขาเชื่อใจว่าหลิงอวี๋ไม่มีเจตนาร้ายก็พอแล้วสองพี่น้องพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน ต่อมาในวันรุ่งขึ้นที่ฟ้ายังมิสว่าง ผู้รอบรู้ก็รีบรุดไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคันโชคดีที่รถม้าเพิ่งส่งผู้โดยสารเพื่อขึ้นเรือไป ผู้รอบรู้จึงได้เช่ารถม้ามาในราคาสิบตำลึงส่วนหลิงอวี๋นั้นเพิ่งตื่น และผู้รอบรู้ก็วิ่งเข้ามาเคาะประตูด้วยความลิงโลด “น้องชาย รีบลุกเถิด พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว! รถม้ากำลังรออยู่ข้างนอก”หลิงอวี๋รีบอาบน้ำแต่งตัวและแบกห่อผ้าของตนออกมา ผู้รอบรู้ยัดถุงกระดาษไขใบห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1890

    ผู้รอบรู้พูดมิออกแล้ว หลิงอวี๋มิรู้อะไรเลย แล้วจะจ่ายยาที่ถูกต้องได้อย่างไร!“พี่สิง ข้าอยากรู้มากว่าท่านรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าผู้รอบรู้ลำบากใจ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”ใบหน้าของผู้รอบรู้กระตุก เขาหันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง เมื่อก่อนข้าเป็นคนของตำหนักปีกเงิน ข้าเป็นคนของเจี่ยงฮั๋วผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา เมื่อสองปีก่อนข้าทำงานพลาดไป ทำให้เจี่ยงฮั๋วโกรธ เขาจึงไล่ข้าออกจากตำหนักปีกเงิน!”“ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังคิดจะหาโอกาสขอพบท่านเจ้าตำหนักเก่า แล้วกลับไปที่ตำหนักปีกเงินอีกครั้ง แต่ตอนนี้ตำหนักปีกเงินเสื่อมโทรมลงไปแล้ว ได้ยินว่าเจ้าตำหนักเก่าป่วยหนักและมิรับงานแล้ว ข้าจึงได้เร่ร่อนอยู่ข้างนอกตลอดเช่นนี้!”“คนที่ออกมาจากตำหนักปีกเงินล้วนเก่งในการสืบหาข้อมูล แม้ว่าข้าจะออกจากตำหนักปีกเงินไปแล้ว แต่ข้าก็เคยชินกับสัญชาตญาณนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่ใจกับข้อมูลแต่ละประเภทมาก อยากจะรู้มากแค่ไหนก็มิยาก!”หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าผู้รอบรู้ก็เป็นคนที่มีภูมิหลังเช่นก

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status