Share

ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง
ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง
Penulis: ซูเหยียน

บทที่ 1

Penulis: ซูเหยียน
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-05 14:57:54
ณ แคว้นเทียนจี เมืองเยาฮู่ เทือกเขาหลิงอิ่น

เด็กน้อยที่สวมชุดผ้าต่วนสีฟ้าอ่อนคนหนึ่ง กำลังนั่งยอง ๆ อยู่ในป่าไผ่

หอบหายใจฮืดฮาด ขณะที่ขุดหน่อไม้

เขาดูเหมือนอายุประมาณสามขวบ ถือพลั่วเล็ก ๆ ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษไว้ในมือ

ศีรษะเล็ก ๆ กลม ๆ ก้มมองหน่อไม้ที่ขุดขึ้นมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว

ดวงตาใสแจ๋ว แววตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม

ขณะที่เขาทำท่าทางกวัดแกว่งพลั่วเล็ก ๆ นั้น ร่างกายเล็ก ๆ ก็ขยับไปมาไม่หยุด

“หน่อไม้ใหญ่มากเลย!”

เด็กน้อยยิ้มแก้มปริ นึกถึงไก่ป่าตัวนั้นที่ตนเองล่ามาได้ คืนนี้คงได้ซดน้ำแกงไก่ป่าต้มหน่อไม้แล้ว

ทันใดนั้น อากาศเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ

จากนั้นก็มีเงาร่างใหญ่โต ร่วงหล่นลงมาจากกลางอากาศ

หลังจากนั้น เด็กน้อยก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดเข้มข้น

เด็กน้อยวางพลั่วเล็ก ๆ ในมือลง ก่อนจะเอามือเล็ก ๆ เช็ดเสื้อผ้าอย่างลวก ๆ แล้วเข้าไปใกล้ชายคนนั้นด้วยความระมัดระวัง

ดูท่าทาง ชายคนนั้นจะหมดสติไปแล้ว

เพื่อตรวจสอบว่าเขาหมดสติไปแล้วจริง ๆ หรือไม่ เด็กน้อยจึงใช้ปลายเท้าเล็ก ๆ เหยียบนิ้วของชายคนนั้นอย่างแรง

ชายคนนั้น ไม่ขมวดคิ้วเลยแม้แต่น้อยจริง ๆ

ดูเหมือนจะหมดสติไปแล้วจริง ๆ

เด็กน้อยนั่งยอง ๆ แล้วปัดผมที่ยุ่งเหยิงของชายคนนั้นออก

ใบหน้าหล่อเหลาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเด็กน้อย

เด็กน้อยมองใบหน้านั้น คิ้วเล็ก ๆ ของเขาก็ขมวดเข้าหากัน

ท่านแม่เคยบอกไว้ว่าห้ามยุ่งเรื่องของผู้อื่น

แต่ชายคนนี้ หน้าตาดูคล้ายกับเขามากเลยนะ!

เมื่อมองใบหน้าหล่อเหลานั้น เด็กน้อยก็เกิดความรู้สึกเมตตาขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก ก่อนจะจับขาข้างหนึ่งของชายคนนั้นแล้วลากไป

ออกแรงเดินอย่างทุลักทุเล เสียเวลาไปพักใหญ่ ถึงจะลากคนมาถึงถ้ำลับตาแห่งหนึ่งได้

เขายื่นนิ้วมือสั้น ๆ ไปแตะที่ข้อมือของชายคนนั้นเบา ๆ

ชายคนนี้โดนพิษ นอกจากนี้ยังมีบาดแผลสาหัสที่เกิดจากดาบอยู่บนร่างกาย

ดูท่าทาง คงต้องกลับไปเอายาแก้พิษก่อน

เด็กน้อยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ดวงตาเมื่อมองไปยังใบหน้าคมคายนั้น เขาก็ตัดสินใจวิ่งไปที่บ้าน

บนกลางเขาหลิงอิ่น มีบ้านที่เรียบง่ายและสะอาดตาอยู่แห่งหนึ่ง

ในลานบ้าน มีต้นกุ้ยฮวาอยู่ต้นหนึ่ง

ใต้ต้นไม้ มีชิงช้าเล็ก ๆ ที่ทำขึ้นง่าย ๆ อยู่ตัวหนึ่ง

นี่คือสิ่งที่ท่านแม่ทำให้เขา!

เพียงแต่ปกติแล้ว ท่านแม่กลับเป็นฝ่ายที่มานั่งเยอะกว่าเขาเสียอีก

ไป๋ซวงพิงชิงช้าอย่างสบายอารมณ์ สายลมอ่อน ๆ พัดชิงช้าแกว่งไกว นางหลับตาพักผ่อนอย่างสงบ

เด็กน้อยเห็นดังนั้น จึงค่อย ๆ ย่องเข้าไปในห้อง

หยิบยาแก้พิษ ยาห้ามเลือดและยาแก้อักเสบออกมาจากตู้ แล้วยัดใส่อกอย่างระมัดระวัง

จากนั้น เขาก็แอบชะโงกศีรษะเล็ก ๆ ออกไป เห็นว่าท่านแม่ยังคงพักผ่อนอยู่

ดังนั้น จึงย่องเท้าเตรียมวิ่งออกจากบ้านอีกครั้ง

ในขณะที่เท้าของเขากำลังจะก้าวพ้นประตูบ้าน

เสียงเกียจคร้านของไป๋ซวงก็ค่อย ๆ ดังขึ้น

“ซวี่เป่า แอบไปทำสิ่งใดอยู่?”

ไป๋เซียวได้ยินดังนั้น ก็ชะงักฝีเท้า

เขาหันกลับไปมองท่านแม่ที่กำลังบิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้านด้วยสีหน้าจนปัญญา

“ท่านแม่ วันนี้ไก่ป่าจับยาก ซวี่เป่าจะเอาสมุนไพรไปล่อมันสักหน่อย”

“จับไก่หรือ?”

ไป๋ซวงมองบุตรชายของตนเองอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ดวงตาใสแจ๋วคู่นั้น แฝงไปด้วยความฉุนเฉียวเล็กน้อย

“อืม ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ซวี่เป่าจับไก่ได้แล้วจะกลับมาทำน้ำแกงไก่ป่าต้มหน่อไม้ให้ท่านแม่”

“ถ้าจับไม่ได้ก็ช่างเถิด น้ำแกงไก่ของเมื่อวานยังเหลืออยู่นิดหน่อย เจ้ากลับมาทำก๋วยเตี๋ยวไก่ก็ได้”

“เข้าใจแล้วท่านแม่ วางใจเถอะ ซวี่เป่าจะรีบกลับมา”

เมื่อเห็นว่าท่านแม่ไม่ได้สงสัยอะไร ไป๋เซียวจึงวิ่งเตาะแตะออกไปไกลด้วยขาสั้น ๆ เล็ก ๆ

เวลานี้ จวินจิ๋วอิ่นที่อยู่ในถ้ำ เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้ว

เขาจำได้ว่าตนเองถูกไล่ล่า และบังเอิญหลุดเข้าไปในเขตอาคมหนึ่ง

จากนั้นก็หมดสติไป

เพียงแต่เขาจำได้ว่านอกจากที่ตัวเองโดนพิษแล้ว ก็โดนแทงที่หน้าอกด้วย

เหตุใดตอนนี้นิ้วมือกับหลังถึงได้ปวดแสบปวดร้อน

ขณะที่กำลังสงสัย ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังตึกตักเข้ามา

เขามองไปที่ปากถ้ำอย่างระแวดระวัง ไม่นานก็เห็นเด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งเข้ามา

“ท่านอารูปหล่อ ท่านฟื้นแล้วหรือ?”

เด็กน้อยมองเขาด้วยความดีใจ แต่ชั่วพริบตาที่เขาเห็นเด็กน้อย ดวงตาของเขากลับตะลึงงัน

เด็กคนนี้ เหตุใดจึงหน้าตาเหมือนเขามากถึงเพียงนี้?

“เจ้าคือ?”

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เมื่อเผชิญหน้ากับเด็กน้อยตรงหน้า ความระแวดระวังในใจเขากลับสลายหายไปในพริบตา

“ข้าชื่อไป๋เซียว เซียวที่มาจากคำว่าสง่างามเป็นธรรมชาติ ชื่อเล่นว่าซวี่เป่า เป็นนายน้อยของเขาหลิงอิ่นแห่งนี้ ท่านบังเอิญหลุดเข้ามาในเขตอาคม ข้าเป็นคนช่วยท่านไว้เอง”

ไป๋เซียวตบหน้าอกเล็ก ๆ ของตัวเอง พลางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“ซวี่เป่าหรือ?”

“อืม ท่านแม่บอกว่าตอนที่ข้าเกิด บังเอิญเป็นเวลาที่แสงอาทิตย์แรกแย้มสาดส่องเข้ามาในป่าเขา ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก เปล่งประกายแสงเจิดจ้า จึงตั้งชื่อให้ว่าซวี่เป่า”

จวินจิ๋วอิ่นเห็นท่าทางค่อนข้างภาคภูมิใจของเขา ก็ยกยิ้มมุมปากโดยไม่รู้ตัว แววตาอ่อนโยนลง

“ขอบคุณซวี่เป่าที่ช่วยข้าไว้”

ไป๋เซียวโบกแขนเล็ก ๆ มองใบหน้าของเขาด้วยรอยยิ้ม

“ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่ที่เรามีหน้าตาคล้ายกัน ข้าก็คงไม่ยุ่งหรอก หากจะขอบคุณ ก็ขอบคุณใบหน้าของท่านเถิด”

ไป๋เซียวพูดพลางยื่นยาแก้พิษ ยาห้ามเลือดและยาแก้อักเสบที่อยู่ในอกให้เขา

“ยาเม็ดนี้สามารถแก้พิษในร่างกายของท่านได้ ส่วนที่เหลือก็เป็นยาแก้อักเสบและยาห้ามเลือด ซวี่เป่ายังต้องกลับไปทำอาหารให้ท่านแม่ คงอยู่เป็นเพื่อนท่านไม่ได้แล้ว”

จวินจิ๋วอิ่นขมวดคิ้ว ยังนึกว่าเขาพูดผิดไป

“เจ้าทำอาหารให้ท่านแม่หรือ?”

“แน่นอน ท่านแม่ของข้างดงามมากเกินไป ต้องดูแลให้ดี งานหยาบ ๆ อย่างการก่อไฟทำอาหารนั้น จะให้นางลงมือทำได้อย่างไรเล่า?”

ไป๋เซียวให้เกียรติท่านแม่มาก จึงไม่ได้พูดว่าอาหารที่นางทำนั้นคือหายนะจริง ๆ

พูดจบ เขาก็กลัวว่าจะทำอาหารช้า ทำให้ท่านแม่ต้องหิว

เขากวัดแกว่งพลั่วเล็ก ๆ อย่างรวดเร็ว ขุดหน่อไม้ขึ้นมาหนึ่งต้น หิ้วไก่ป่าที่ซ่อนเอาไว้ขึ้นมา จากนั้นก็กลับไปตุ๋นไก่

ไม่นานนัก น้ำแกงไก่ป่าต้มหน่อไม้ร้อน ๆ หอมกรุ่นก็ตุ๋นเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ไป๋ซวงนั่งอยู่ตรงนั้น รับประทานอาหารเย็นที่บุตรชายเตรียมให้อย่างมีความสุข

แต่ไป๋เซียวกลับดูใจลอยเล็กน้อย

“ซวี่เป่า เป็นอะไรหรือ?”

ไป๋ซวงเห็นเขาใจลอย ก็คีบน่องไก่ชิ้นหนึ่งให้เขา พลางมองเขาด้วยรอยยิ้ม

“ท่านแม่ ข้า...ข้าเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า บ่ายวันนี้ข้าวางตาข่ายไว้ผิดที่ กลัวว่าพรุ่งนี้คงจับไก่ป่าไม่ได้แล้ว”

ไป๋เซียวพูดไปอย่างนั้น แต่ในใจกลับคิดว่าท่านอารูปหล่อผู้นั้นจะรับประทานอาหารเย็นอย่างไร?

ที่นั่นไม่มีอะไรเลย และเขายังบาดเจ็บอยู่ด้วย

ไป๋ซวงยิ้มพลางเอื้อมมือไปลูบหัวเขา

“ไม่เป็นไร อย่างมากพรุ่งนี้ไม่กินไก่ป่าก็แค่นั้นเอง”

ไป๋เซียวกลับลุกขึ้นยืนฉับพลันด้วยท่าทางแน่วแน่

“ไม่ได้ ท่านแม่จะไม่กินไก่ป่าได้อย่างไรเล่า? ข้าจะไปเปลี่ยนตำแหน่งตาข่ายใหม่ ท่านแม่กินไปก่อนเลย”

ไป๋เซียวพูดจบ ก็ลุกขึ้นเดินไปยังห้องครัว

เตาไฟของที่นั่นได้รับการดัดแปลงเป็นพิเศษ

เตี้ยกว่าของคนทั่วไปมาก แต่สำหรับเด็กอายุสามขวบแล้ว กลับสูงกำลังพอดี

ไม่นาน เขาก็เดินออกมาพร้อมกับตะกร้าเล็ก ๆ ที่สะพายอยู่บนแขน

ข้างบนเป็นพวกอุปกรณ์จับไก่ทั้งหมด

แต่ข้างล่างกลับเป็นเนื้อไก่และขนมที่เขาตั้งใจเก็บไว้

“ท่านแม่ อีกเดี๋ยวข้าก็กลับมาแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงข้า”

ไป๋เซียวกล่าวจบก็กลัวว่าท่านแม่จะไม่เห็นด้วย จึงรีบขยับขาวิ่งออกไปทันที

ไป๋ซวงย่อมไม่ใส่ใจอะไร นางถอนหายใจแล้วทานอาหารเย็นที่บุตรชายตั้งใจทำให้ต่อ

การฝึกปรือของบุตรชาย นางย่อมรู้ดีที่สุด

สัตว์ทั่วทั้งเขาหลิงอิ่นไม่สามารถทำร้ายบุตรชายของนางได้

ดังนั้น นางย่อมไม่รู้สึกกังวล

ฉวยโอกาสตอนที่บุตรชายยังเล็ก เขาอยากจะทำอะไรก็ปล่อยให้เขาทำไป

ขอแค่บุตรชายมีความสุขก็พอ

ตอนที่ไป๋เซียวสะพายตะกร้าเล็ก ๆ มาถึง จวินจิ๋วอิ่นก็หิวจนท้องร้องโครกครากพอดี

เมื่อเห็นไป๋เซียวยกเนื้อไก่กับขนมออกมา เขาก็รู้สึกอบอุ่นใจและซาบซึ้งใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“เจ้าแอบมาหรือ?”

จวินจิ๋วอิ่นก็ไม่เกรงใจเช่นกัน เขาหยิบเนื้อไก่ชิ้นหนึ่งขึ้นมากิน

“อืม”

ไป๋เซียวพยักหน้าอย่างว่าง่าย ท่านแม่ไม่มีทางรับคนแปลกหน้าไว้แน่นอน

ท่านแม่เคยบอกว่า หากมีคนอื่นรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ พวกเขาก็จะไม่มีชีวิตที่สงบสุขอีกต่อไป

“ซวี่เป่าช่วยชีวิตข้าไว้อีกครั้ง ข้าควรตอบแทนเจ้าอย่างไรดีเล่า?”

Bab terkait

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 2

    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความหิว หรือเพราะน้ำแกงไก่ป่าต้มหน่อไม้นี้รสชาติอร่อยสดใหม่มากเกินไปจริง ๆจวินจิ๋วอิ่นรู้สึกว่าน้ำแกงไก่ชามนี้ในตอนนี้ อร่อยยิ่งกว่าอาหารเลิศรสทั้งหมดที่เขาเคยกินมาเสียอีกไป๋เซียวนั่งยอง ๆ อยู่ด้านข้าง มือทั้งสองก็เท้าคาง พยายามครุ่นคิดดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีอะไรที่อยากได้เลย“ช่างเถอะ พอท่านหายดีแล้ว ท่านก็รีบออกไปจากที่นี่เสีย มิเช่นนั้นถ้าท่านแม่ของข้าพบเข้า ท่านจะต้องตายอยู่ที่นี่แน่”เพราะเห็นแก่ใบหน้าที่คล้ายกันนี้ เขาจึงไม่อยากให้อีกฝ่ายตายอยู่ที่นี่จริง ๆ “เพราะเหตุใด?”“ท่านช่างโง่งมเสียจริง! ข้าเคยบอกแล้วว่า ท่านแม่ไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้ามาในเขาหลิงอิ่น เพราะฉะนั้นท่านห้ามให้ท่านแม่พบเห็นเด็ดขาด มิฉะนั้นแม้แต่ซวี่เป่าก็ช่วยท่านไม่ได้แล้ว”ไป๋เซียวทำท่าทางเหมือนกับรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากเร่งเร้า“ท่านกินเร็ว ๆ เข้า ท่านแม่ยังรอข้าอยู่ที่บ้าน”“น้ำแกงนี่เจ้าทำเองหรือ?”จวินจิ๋วอิ่นซดน้ำแกงคำสุดท้ายหมดแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามเขายังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า นี่เป็นอาหารที่เด็กน้อยทำขึ้นมา“แน่นอนสิ อร่อยใช่หรือไม่? ท่าน

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 3

    เขตอาคมถูกคนพบแล้ว ถึงขนาดยังพยายามฝ่าเข้ามาอีกไป๋ซวงเก็บนิยายในมือกลับเข้าไปในมิติใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็หายตัวไปจากลานบ้านในพริบตาและนอกเขตอาคม มีคนชุดดำปิดหน้าสิบกว่าคนกำลังโจมตีเขตอาคมอย่างต่อเนื่อง“หัวหน้า เขตอาคมนี่แปลกมาก ท่านอ๋องเก้าจะอยู่ข้างในจริง ๆ หรือ?”หลังจากที่คนชุดดำผู้หนึ่งพยายามทำลายเขตอาคมนับครั้งไม่ถ้วน ในใจก็อดสงสัยไม่ได้เขตอาคมนี้แข็งแกร่งเกินไป ถึงพวกเขาจะลองมาหลายครั้งแล้ว ก็ยังไม่สามารถบุกเข้าไปได้เช่นนั้น คนที่สร้างเขตอาคมนี้ขึ้นมาจะแข็งแกร่งมากเพียงใด?พวกเขาคงมิได้ล่วงเกินยอดคนท่านใดเข้าโดยที่ไม่รู้ตัวหรอกนะ?แววตาของหัวหน้าคนนั้นก็ดูลึกล้ำเช่นกันแฝงไปด้วยความกังวลที่ซ่อนเร้นไว้ในใจของเขาจะไม่มีความกังวลได้อย่างไร เพียงแต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น“เขาโดนพิษ แถมยังได้รับบาดเจ็บอีก คงหนีไปได้ไม่ไกลแน่ และเมื่อวานพวกเราค้นหาแถวนี้หมดแล้วแต่ก็ไม่พบเขาเลย แสดงว่าเขาต้องหลบเข้าไปข้างในแล้ว”“แต่เขตอาคมนี้ พวกเราก็เปิดไม่ได้ แล้วเขาบาดเจ็บสาหัส จะปลดได้อย่างไร?”“หากเขาเป็นคนธรรมดา ก็คงไม่ใช่จวินจิ๋วอิ่นแล้ว”หัวหน้าคนนั้นมองเขตอาคมอย่างเงียบ ๆ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 4

    เดิมทีไป๋เซียวและจวินจิ๋วอิ่นที่อยู่ในถ้ำกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานแต่เมื่อคลื่นพลังวิญญาณโถมเข้ามาเป็นระลอก ๆ สีหน้าของทั้งสองก็เปลี่ยนไปพร้อมกัน“พวกเขาตามมาแล้ว!”ดวงตาของจวินจิ๋วอิ่นพลันมืดมัวลง สายตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร“เป็นศัตรูของท่านพ่อหรือ?”ไป๋เซียวเห็นจิตสังหารแผ่ออกมาจากตัวท่านพ่อ ใบหน้าเล็ก ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที“แค่พวกสุนัขรับใช้เท่านั้น”จวินจิ๋วอิ่นพูดพลางพยายามลุกขึ้นอย่างยากลำบากไป๋เซียวรีบวิ่งเข้าไปจับเขาเอาไว้“ท่านพ่อ บนตัวท่านยังมีบาดแผลอยู่นะ?”“ไม่เป็นไร แผลแค่นี้ไม่ต้องใส่ใจหรอก”จวินจิ๋วอิ่นรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ยิ้มพลางยื่นมือออกไปลูบผมของบุตรชายเบา ๆ ไป๋เซียวยังคงดึงดันจับเขาไว้ ดวงตาฉายแววดูแคลนและเหยียดหยามเล็กน้อย“ท่านพ่อวางใจเถอะ ท่านแม่จะไปจัดการพวกเขาเอง”ไป๋ซวง?จวินจิ๋วอิ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยุดเคลื่อนไหวสี่ปีที่แล้ว หลังจากที่เขาถูกข่มเหงก็เคยสืบเรื่องของไป๋ซวงบนทวีปอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ แบ่งออกเป็นรากวิญญาณทั้งห้าสาย ได้แก่ ทอง ไม้ น้ำ ไฟ และดินและระดับของพลังวิญญาณ ยังแบ่งออกเป็น เก้าขั้น เก้าระดับนักสู้ จอมยุทธ์

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 5

    ลูกนกพิราบขาวตามหาบิดา!ไป๋ซวงพลันโกรธสุดขีด เหตุใดตอนนั้นถึงหยิบหนังสือนิทานเล่มนั้นมาให้เขาอ่านนะที่แย่ไปกว่านั้นคือ เหตุใดชายคนนี้ถึงบังเอิญเข้ามาในเขตอาคมของนางได้ไป๋ซวงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ในหัวสมองยังคงคิดอยู่ว่าจะอธิบายเรื่องนี้กับบุตรชายอย่างไรดีการมาของเขาเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายแต่นางกลับไม่เคยรู้สึกเสียใจเลยสามปีมานี้ เขาได้นำความสุขมามอบให้นางมากมายเหลือเกินไป๋เซียวเห็นว่าท่านแม่ไม่ตอบคำถาม น้ำตาที่ยากจะพบเห็นได้นั้นก็หยดแหมะ ๆ ลงมาอย่างไม่ขาดสาย“ท่านแม่ ท่านพ่อได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น ข้างนอกยังมีศัตรูรออยู่ หากเขาออกไป ก็จะต้องตายแน่ ซวี่เป่าอยากมีพ่อ ซวี่เป่าไม่อยากให้ท่านพ่อตาย”พูดจบ ซวี่เป่าก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อไป๋เซียวร้องไห้ ไป๋ซวงก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีนางถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วค่อย ๆ เช็ดน้ำตาที่หางตาของบุตรชายเบา ๆ “เอาละ ก่อนที่อาการบาดเจ็บของเขาจะหายดี แม่จะไม่ไล่เขาออกไปหรอก”ไป๋ซวงพูดจบก็วางบุตรชายลงบนพื้น แล้วเดินจากไปด้วยความโกรธเมื่อเห็นว่าท่านแม่เดินจากไปไกลแล้ว ไป๋เซียวก็รีบเช็ดน้ำตาที่หางตา ไฉนเลยยังมีท่าทางเสียใจอยู

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 6

    จวินจิ๋วอิ่นใช้ชีวิตสามวันในเขาหลิงอิ่นอย่างมีความสุขที่สุดในชีวิตเขาและบุตรชายช่วยกันวางกับดักไก่ ขึ้นเขาขุดหน่อไม้ จับปลาในแม่น้ำด้านหลังของเขาหลิงอิ่น ยังมีลูกหม่อนป่าอยู่เต็มไปหมดลูกสีแดงสดใส สวยงามมากจวินจิ๋วอิ่นจะไปเก็บมาให้ไป๋ซวงแม่ลูกคู่นี้ทุกวัน เขาจะเก็บมาเต็มตะกร้าใบใหญ่ แล้วนำมาล้างให้สะอาดก่อนจะยกไปให้พวกนางลูกหม่อนป่านี้มีรสชาติหวานที่เขาไม่เคยลิ้มลองมาก่อนราวกับว่าหวานไปถึงหัวใจ ทำให้เขารู้สึกว่ากำลังจมอยู่ในความสุขวันเวลาเหล่านี้ผ่านไปราวกับความฝัน เหมือนกับแดนสวรรค์ในชั่วพริบตาเดียว กำหนดเวลาสามวันที่ไป๋ซวงให้ก็มาถึงยังไม่ทันที่ไป๋ซวงจะเอ่ยปากไล่เขา ด้านนอกเขตอาคมก็เกิดความเคลื่อนไหวผิดปกติอีกครั้งไป๋ซวงมองจวินจิ๋วอิ่นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วมองไปยังซวี่เป่าที่กำลังกำหมัดแน่นอยู่ข้าง ๆ อยากจะออกไปต่อสู้นางถอนหายใจอย่างจนปัญญา!ชายแขนเสื้อสีขาวสะบัดขึ้นเล็กน้อย นิ้วมือเรียวบางวาดยันต์สี่ภาพขึ้นกลางอากาศสีแดงฉาน เต็มไปด้วยไอสังหารจากนั้น นางก็หมุนข้อมือเล็กน้อยยันต์สีแดงนั้นก็หายวับไปต่อหน้าต่อตานางในขณะเดียวกัน เย่หลิ่นที่อยู่นอกเขตอาคมก็ก

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 7

    กรงแห่งสวรรค์และปฐพี เป็นท่าไม้ตายที่รุนแรงที่สุดของพลังวิญญาณธาตุทองใช้สวรรค์และปฐพีเป็นจุดค้ำยัน คนที่อยู่ภายในกรงเหล็กล้วนไม่ต่างอะไรกับปลาบนเขียงไม่มีใครสามารถรอดชีวิตไปจากกรงแห่งสวรรค์และปฐพีได้!ดังนั้น เย่หลิ่นถึงได้ใช้ท่าไม้ตายนี้เพื่อที่จะสังหารในคราเดียวกำจัดภัยอันตรายอย่างไป๋ซวงให้สิ้นซาก!แต่น่าเสียดาย ไป๋ซวงไม่ได้เป็นไปตามที่เขาต้องการขณะที่กรงแห่งสวรรค์และปฐพีกำลังจะปิดลงก็เห็นว่าไป๋ซวงกำลังจะถูกกรงแห่งสวรรค์และปฐพีบดขยี้จนกลายเป็นกองเลือดทันใดนั้น กรงแห่งสวรรค์และปฐพีที่กำลังจะปิดลง จู่ ๆ ก็สั่นไหวสองสามครั้งโดยที่ไม่อาจควบคุมได้จากนั้น กรงแห่งสวรรค์และปฐพีก็เปลี่ยนทิศทางราวกับคนที่มีจิตวิญญาณ ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าวใหญ่ครอบคลุมเย่หลิ่นที่ยังคงตกตะลึงไว้ภายในนั้นและสตรีที่เกือบจะถูกกลืนกินเมื่อครู่นี้ ก็กำลังขยับนิ้วกลางอากาศอย่างรวดเร็วเข็มทิศที่ไร้ลักษณ์นั้น สามารถควบคุมกรงแห่งสวรรค์และปฐพีได้สำเร็จ!เป็นไปได้อย่างไร!เย่หลิ่นไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเห็นกรงแห่งสวรรค์และปฐพีกำลังหดตัวลงเรื่อย ๆ เขาก็ไม่มีเวลาคิด รีบหมุนเข็มทิศอย่างรวดเร็วโดยส

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 8

    จวินจิ๋วอิ่นสะบัดมือ พัดคลี่อันงดงามที่เปล่งประกายความเย็นเยียบก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาพัดคลี่หมุนอยู่ในมือของเขาอย่างรวดเร็ว ลำแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากพัดคลี่ของเขาลำแสงหนาแน่น พุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องไม่มีช่องว่างคนชุดดำที่พุ่งตัวขึ้นฟ้า จำต้องหลบหลีกอย่างรวดเร็วลำแสงที่ดูธรรมดา ๆ นั้น กลับมีความคมกริบมากจนสามารถตัดเหล็กราวกับตัดโคลนแม้แต่ต้นไม้ใหญ่รอบข้าง หลังจากที่ถูกความเย็นเยียบกวาดผ่าน ก็หักโค่นลงราวกับถูกดาบฟันมือสังหารชุดดำคนหนึ่งย่องเข้ามาทางด้านหลังของจวินจิ๋วอิ่นอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับง้างธนูในมือเล็งไปที่เป้าหมายในชั่วพริบตา ลูกธนูอาบยาพิษนับสิบดอกก็พุ่งทะลุอากาศเข้าโจมตีจวินจิ๋วอิ่นรู้สึกถึงคลื่นพลังวิญญาณที่ส่งมาจากด้านหลัง จึงพลิกตัวกลับหลังอย่างรวดเร็วจากนั้น ก็สะบัดพัดคลี่โบกจากบนลงล่างแสงสีทองอันเย็นเยียบพลันแปรเปลี่ยนเป็นโล่สีทอง!เสียงเปรี๊ยะ ๆ ดังขึ้น ลูกธนูอาบยาพิษนับสิบดอกพุ่งเข้าปะทะกับโล่สีทองพร้อมกันมือสังหารชุดดำเห็นดังนั้น ก็เปลี่ยนตำแหน่งอย่างต่อเนื่องลูกธนูอันแหลมคมก็พุ่งเข้าโจมตีจวินจิ๋วอิ่นจากทุกทิศทางมือสังหารคนอื่น ๆ ต่างใช้อาวุธล

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-05
  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 9

    เมื่อซวี่เป่าได้ยินดังนั้น ดวงตาก็พลันฉายแววไม่สบายใจขึ้นมาตึก ๆ ๆ รีบลงมาจากตัวท่านพ่อ จากนั้นทำท่าทางว่านอนสอนง่ายเหมือนกับเด็กที่ทำผิด“ท่านแม่...”น้ำเสียงอ่อนโยนดังขึ้น ซวี่เป่ามองสตรีที่อยู่ไม่ไกลนัก ค่อย ๆ เดินเข้ามาด้วยความตื่นตระหนกและรู้สึกผิดสตรีในชุดขาวเดินมาจากป่าลึก!บนร่างกายของนางเปล่งประกายแสงสว่างจาง ๆ ใบหน้างดงาม ปรากฏให้เห็นอยู่รำไรก้าวเดินราวกับมีลมพัดใต้เท้า เสื้อผ้าปลิวไสวราวกับเทพธิดาจากป่าลึก ที่หลงเข้ามาในโลกมนุษย์สมองของมู่ซือและเหลิ่งเย่ไม่พอใช้แล้วเพียงจ้องมองสตรีผู้ราวกับเทพเซียนลงมาจุติบนโลกอย่างเหม่อลอย ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจนี่คือสตรีที่ท่านอ๋องแอบซ่อนเอาไว้หรือ?ไป๋ซวงเหลือบมองมู่ซือและเหลิ่งเย่ด้วยสายตาเย็นชาเมื่อหันไปมองจวินจิ๋วอิ่น สายตาของนางก็ยิ่งเย็นชาขึ้น“ในเมื่อคนที่มารับพ่อของเจ้ามาแล้ว ซวี่เป่ากลับภูเขากับแม่ได้แล้วสินะ!”“ท่านแม่...”ซวี่เป่าก้าวขาเล็ก ๆ อย่างยากลำบาก แล้วค่อย ๆ เข้าไปใกล้ไป๋ซวง“ท่านแม่ ท่านดูองครักษ์สองคนของท่านพ่อสิ อ่อนแอเหมือนกับไก่ป่าบนภูเขาเลย ซวี่เป่าไม่วางใจที่จะให้ท่านพ่อไปกับพวกเข

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-05

Bab terbaru

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 80

    รถม้าหลายคันนั้นที่อยู่ด้านหลัง มีพลังวิญญาณเต็มเปี่ยมปกคลุมอยู่ผ้าม่านของรถม้าจงใจพับขึ้นไว้ ทำให้มองเห็นขวดและโถเหล่านั้นได้อย่างเหมาะเจาะมันเหมือนกับโถที่ใช้เป็นของขวัญตอบแทนให้กับองค์ชายเก้าในวันนั้น เกรงว่าด้านในจะเป็นของเพิ่มพลังวิญญาณเช่นกันกระมังถ้าอย่างนั้นรถม้าเหล่านั้นที่บรรทุกของมาเต็มคันรถ ทั้งหมดคือของที่พระชายาองค์ชายเก้ามอบให้ฮ่องเต้ใช่หรือไม่?ทั้งเมืองหลวงโจษจันกันเซ็งแซ่อีกครั้ง!ฮ่องเต้ทรงลากจูงรถม้าสองสามคันที่บรรทุกของเพิ่มพลังวิญญาณมาจากจวนขององค์ชายเก้าของเพิ่มพลังวิญญาณนั้น ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานอย่างมาก ในช่วงเวลานั้น ผู้คนในเมืองหลวงยิ่งตั้งหน้าตั้งตารอร้านค้าของพระชายาโจวหวันฉี่บังเอิญมองเห็นรถม้าของจวินฉงจากหน้าต่างของสถานที่พักแรมเพลิงแห่งความริษยาในดวงตาแทบจะมอดไหม้ตนเองโจวหลิงซางแตะไหล่ของน้องสาวเบา ๆ พร้อมกับถอนหายใจอย่างแผ่วเบา“หวันฉี่ ไป๋ซวงผู้นั้นดูท่าจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว”นางนำสิ่งของที่เพิ่มพลังวิญญาณออกมาได้ อีกทั้งยังมีของวิเศษและสมุนไพรวิเศษเหล่านั้นอีกจะเป็นหญิงสาวชาวชนบทได้หรือ?แม้แต่พวกเขา เกรงว่าก็ยังหาสิ่งของที่ล้ำค่าเช่

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 79

    ไป๋ซวงกับจวินจิ๋วอิ่นกำลังจัดระเบียบของขวัญที่ส่งมาในช่วงหลายวันนี้ในคลังสมบัติคลังขนาดใหญ่ในตอนนี้เริ่มจะเต็มแล้วหากไม่ใช่ก่อนหน้านี้ จวินจิ๋วอิ่นส่งสินสอดจำนวนไม่น้อยไปให้ตระกูลไป๋ เกรงว่าคลังแห่งนี้คงเก็บของไม่พอเป็นแน่ทันใดนั้นหงเยว่ก็เร่งรีบเข้ามา“ทูลองค์ชาย พระชายา ฮ่องเต้กับพระสนมเอกเสด็จมาเพคะ”“มาก็มาสิ เหตุใดต้องลนลาน?”จวินจิ๋วอิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมจูงมือไป๋ซวงเดินออกไปด้านนอกอย่างไม่รีบร้อนทั้งสองคนยังเดินไม่ถึงหน้าประตู พวกเขาก็เห็นจวินฉงกำลังอุ้มซวี่เป่า พร้อมกับจูงมือจีหรงเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นจวินจิ๋วอิ่นกับไป๋ซวง จวินฉงก็มองพวกเขาอย่างไม่พอใจ “ซวี่เป่ายังรู้จักมารยาทดีเสียกว่า พอรู้ก็มารออยู่ที่ประตูทางเข้าล่วงหน้าแล้ว” ไป๋ซวงก้มหน้าผงกศีรษะ พร้อมกับมีรอยยิ้มบนมุมปาก“เสด็จพ่อทรงเอ่ยถูกต้อง ไป๋ซวงออกมาช้าไปเพคะ”นับตั้งแต่ไป๋ซวงตัดสินใจแต่งงานกับจวินจิ๋วอิ่น นางก็เปลี่ยนคำเรียกขานจวินฉงกับพระสนมเอก“หากเสด็จพ่อไม่พอพระทัย คราวหน้าลูกก็จะไม่ออกมา”จวินจิ๋วอิ่นมองจวินฉงด้วยความไม่พอใจ พร้อมดึงไป๋ซวงเข้ามาข้าง ๆ ตนจวินฉงแ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 78

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝูงชนที่อยู่หน้าประตูพากันตาลุกวาวพระชายาจะเปิดร้านเพื่อขายของเพิ่มพลังวิญญาณโดยเฉพาะ?พระชายาทรงรู้จักวิญญาจารย์ด้วยหรือ?เหตุใดพระชายาทรงยอดเยี่ยมเพียงนี้?ทั้งยังขายสมุนไพรวิเศษด้วย!ของวิเศษและสมุนไพรวิเศษเหล่านั้น พวกเขาก็เพิ่งจะเคยพบเห็นนั่นเป็นสิ่งของล้ำค่าที่มีเงินก็ซื้อไม่ได้“พระชายา ของเพิ่มพลังวิญญาณเหล่านั้น พวกเราสามารถซื้อไหวหรือพ่ะย่ะค่ะ?”บางคนอดถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้ว่า ของเพิ่มพลังวิญญาณล้ำค่าเช่นนั้น สามัญชนคนธรรมดาอย่างพวกเขาจะซื้อไหวหรือ?“สิ่งของแต่ละชิ้นล้วนมีมูลค่าของมัน สิ่งของล้ำค่าของวิญญาจารย์ และสิ่งของที่ผ่านการเพิ่มพลังวิญญาณเหล่านี้ แน่นอนว่าราคาก็ย่อมสูงกว่าของธรรมดาทั่วไป ทว่าขอให้ทุกคนวางใจ ร้านนี้เปิดทำการค้าก็ย่อมต้องให้ทุกคนจับจ่ายซื้อหาได้ เราถึงจะทำเงินได้มิใช่หรือ?”ทุกคนเมื่อได้ยินเช่นนั้น ในใจรู้สึกยินดีขึ้นมาทันทีพวกเขารู้ดีว่าของเพิ่มพลังวิญญาณเหล่านี้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีราคาสูงกว่าของธรรมดาทั่วไปทว่าได้ยินคำพูดของพระชายา ต่อให้พวกเขามีเงินใช้สอยอย่างจำกัดก็สามารถซื้อหาได้“ขอถามพระชายา ร้านนี้จะเปิดทำ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 77

    “พระชายาของเราทรงบอกว่าวันนี้เป็นวันมงคล เพื่อขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมยินดี จึงเตรียมขนมเพิ่มพลังวิญญาณมามอบให้โดยเฉพาะ”หงเยว่เอ่ยจบ นางกับสาวใช้ที่อยู่ด้านหลังก็ยืนเรียงกันเป็นแถวยาวพร้อมกับยกจานขนมไว้ในมือและยิ้มอย่างอ่อนโยนทุกคนนึกไม่ถึงว่าพระชายาองค์ชายเก้าจะเตรียมขนมไว้ให้พวกเขาด้วย ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังนึกไม่ถึงว่า ขนมนี้ยังผ่านการเพิ่มพลังวิญญาณด้วย ในชั้วขณะนั้น ทุกคนต่างกรูกันเข้าไปห้อมล้อมกลุ่มสาวใช้เหล่านั้น กลัวว่าช้าไปจะไม่มีเหลืออีกแล้วขนมในมือของหงเยว่กับเหล่าสาวใช้มีไม่เพียงพอแน่นอนไม่นานในจานของพวกนางก็ถูกแย่งไปจนหมด คนที่ได้ขนมเหล่านั้น แต่ละคนสีหน้ายิ้มแย้ม ปากก็เอ่ยขอบคุณไม่หยุดส่วนคนที่แย่งขนมไม่ทัน สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง ทั้งมองไปยังกลุ่มคนที่แย่งขนมมาได้ด้วยแววตาร้อนผ่าวเพราะความอิจฉา“พี่ชาย ขนมนี้มีพลังวิญญาณจริงหรือ?” ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านข้าง แววตาของเขาร้อนผ่าว และมองดูคนข้าง ๆ ราวกับถือของล้ำค่า ชายผู้นั้นเห็นขนมชิ้นนั้นที่ดูเหมือนขนมธรรมดาก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้“น่าจะมีนะ เจ้าดูสิขนมนี้กำลังเรืองแสงนิดหน่อย?”หลังผ่านการต่อสู

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 76

    ไป๋ซวงยิ้มพร้อมแตะไหล่พ่อลูกทั้งสองคน และเอ่ยอย่างสบายใจ“พวกท่านลืมไปแล้วหรือว่าข้ามีสถานะใด? จะไม่มีแม้แต่ของขวัญตอบแทนได้อย่างไร?”ไป๋ซวงเอ่ยจบก็โยนใบรายการของขวัญฉบับหนึ่งให้กับจวินจิ๋วอิ่น“ลองดูว่าพอใจกับของขวัญตอบแทนหรือไม่?”จวินจิ๋วอิ่นยิ้มพร้อมกับรับใบรายการของขวัญนั้นมา และมองไป๋ซวงด้วยแววตารักใคร่“ขอเพียงฮูหยินเต็มใจที่จะแต่งงาน ข้าอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น”ทว่าขณะที่เขาเห็นรายการของขวัญชัดเจนแล้ว นัยน์ตากลับเผยให้เห็นความประหลาดใจที่ระงับไว้ไม่อยู่“ฮูหยิน เกรงว่าคนเหล่านั้นที่อยู่ด้านนอกประตู จะต้องอิจฉาตาร้อนข้าเป็นแน่”เดิมทียังคิดว่าสินสอดที่ตนเตรียมไว้ถือว่าเหมาะสมแล้ว ทว่าตอนนี้เห็นของขวัญตอบแทนของไป๋ซวงแล้วเขารู้สึกขึ้นมาทันทีว่า ตนเองได้รับมากเกินไปแล้วจวินจิ๋วอิ่นยิ้มพร้อมกับส่งใบรายการของขวัญให้มู่ซือ มู่ซือรีบนำใบรายการของขวัญไปหาหลิ่วกงกงหลิ่วกงกงดูจนแน่ใจอยู่หลายรอบ และมั่นใจว่าไม่มีการเข้าใจผิด เขาจึงประกาศออกมาด้วยความตื่นเต้น“รายการของขวัญตอบแทนของพระชายาองค์ชายเก้ามีดังนี้: โสมราชันมังกรวิเศษหนึ่งต้น ปาล์มหงอนไก่วิเศษหนึ่งต้น เถาวัลย์เขียววิ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 75

    “รายการสินสอดของท่านอ๋องเก้ามีดังต่อไปนี้ ผ้าไหมก่วงหันสิบพับ ผ้าสุ่ยอวิ๋นต้วนสิบพับ ผ้าหร่วนเยียนหลัวสิบพับ ผ้าเหลียงเหรินจิ่นสิบพับ”หลิ่วกงกงประกาศเสียงดัง ผู้คนที่ตามมาดูความครึกครื้นที่หน้าประตูจวน ต่างส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาทันทีเพราะผ้าไหมผ้าต่วนทั้งสี่ชนิดนี้ ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าระดับชาติปกติแล้ว แม้แต่ขุนนางชั้นสูงในวัง หากได้รับผ้าเหล่านี้ปีละหนึ่งพับ ก็ดีใจจนแทบจะเสียสติแล้วฮองเฮาเคยได้รับพระราชทานผ้าเหลียงเหรินจิ่นสองพับ ถึงกับจัดงานเลี้ยงในวังเพื่ออวดผ้าเหลียงเหรินจิ่นของตัวเองโดยเฉพาะแม้แต่จีหรง ก็ยังหาผ้าไหมผ้าต่วนดี ๆ แบบนี้ในวังได้ไม่กี่พับดังนั้น เมื่อได้ยินว่าจวินจิ๋วอิ่นมอบให้ไป๋ซวงมากมายเช่นนี้พวกเขาถึงกับสงสัยว่าตัวเองหูฝาดไปหรือไม่โดยเฉพาะเหล่าฮูหยิน คุณหนู ต่างพากันอิจฉาตาร้อนแต่ทว่า นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้นหลิ่วกงกงกระแอม จากนั้นประกาศต่อ“หยกแกะสลักผักกาดขาวหนึ่งชิ้น แจกันหยกขาวมันแพะล้ำค่าหนึ่งคู่ ถ้วยหยกเก้าพญามังกรหนึ่งคู่ ฉากกั้นแร่มรกตลายภูเขาลำน้ำหนึ่งอัน...”“หญ้าพันวิญญาณระดับสูงสามต้น หญ้าดารามารระดับสูงสองต้น บุปผาศักดิ์สิท

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 74

    “เรื่องขององค์ชายใหญ่ ผลเป็นอย่างไรบ้าง?”ในเมื่อไป๋ซวงตัดสินใจที่จะลองคบหากับจวินจิ๋วอิ่น เช่นนั้นนางก็ต้องรู้สถานการณ์ของศัตรูให้ชัดเจนจวินจิ๋วอิ่นเห็นว่านางเอาใจใส่เรื่องของเขาขนาดนี้ ก็รู้สึกดีใจอย่างมาก“จวินเทียนเจ๋อสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูนั้น หลักฐานมัดตัวแน่นหนา ไม่มีทางรอดพ้นได้แล้ว ส่วนหลิวซื่อข่าย ถึงแม้จะปฏิเสธหัวชนฝา และไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่พิสูจน์ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับจวินเทียนเจ๋อ แต่มีคำให้การของหลิวหย่ง ประกอบกับคำสารภาพของคนสนิทของจวินเทียนเจ๋อ เขาก็ยากที่จะรอดพ้นความผิด”จวินจิ๋วอิ่นจูงมือไป๋ซวง เดินไปนั่งด้านข้าง“หลังจากที่หลิวซื่อข่ายถูกปลดออกจากตำแหน่ง ตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหมก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นคนของเราได้แล้ว”“คนของเรามีกี่คน?”ไป๋ซวงคิดว่า นางจำเป็นต้องรู้ว่าใครคือพวกเดียวกันกับนางไม่เช่นนั้น หากต้องมาเผชิญหน้ากับพวกเดียวกันเอง นั่นคงเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก‘คนของเรา’ ทำให้จวินจิ๋วอิ่นรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเขาเก็บซ่อนรอยยิ้มที่หางตาไว้ไม่อยู่ จึงเอื้อมมือออกไปจับมือของไป๋ซวง“นอกจากมหาเสนาบดีเจียงเจิง หวังหยวนจากกรมอาญา หลิวซื่อข่ายจากกรม

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 73

    จวินจิ๋วอิ่นเห็นท่าทางเขินอายเล็กน้อยของไป๋ซวง รอยยิ้มที่มุมปากของเขาก็ยิ่งเด่นชัดขึ้นโดยไม่รู้ตัวเขาค่อย ๆ ก้มลงเก็บโฉนดที่ดินเหล่านั้นทีละใบจากนั้นก็วางลงในกล่องไม้จันทน์อย่างเรียบร้อยแล้วค่อยส่งมอบให้กับไป๋ซวง“ของเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสินสอดเท่านั้น เดิมทีคิดว่าซวงเอ๋อร์ไม่มีครอบครัว จึงตั้งใจว่าจะมอบสินสอดให้ซวงเอ๋อร์โดยตรงในวันแต่งงาน แต่ในเมื่อตอนนี้ซวงเอ๋อร์หาครอบครัวเจอแล้ว เช่นนั้นข้าก็ต้องเตรียมสินสอดใหม่ตามธรรมเนียม”จวินจิ๋วอิ่นกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นก็หันไปหยิบกระดาษหนา ๆ ปึกหนึ่งออกมาจากลิ้นชักใต้โต๊ะเขียนหนังสือ“สิ่งเหล่านี้คือสินสอดทั้งหมดที่ข้าเตรียมไว้ ซวงเอ๋อร์ลองดูว่ายังมีสิ่งใดที่ต้องการเพิ่มอีกหรือไม่ หากไม่มีแล้ว ข้าจะเลือกวันเพื่อส่งสินสอดไปยังจวนตระกูลไป๋”ไป๋ซวงมองดูรายการสินสอดหนา ๆ เหลือบมองเพียงด้านบนสุดก็เห็นว่าล้วนแต่เป็นของล้ำค่าหายากทั้งสิ้น“ดูเหมือนข้ายังไม่ได้ตอบตกลงแต่งงานกับท่านเลยนะ!”ไป๋ซวงไม่ได้รับรายการสินสอดมา แต่มองเขาด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ“ไม่มีทางเลือก ตอนนี้ทุกอย่างเป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านพ่อตากับน้อ

  • ยอดหนูน้อยซวี่เป่า : มารดานางมารสะท้านเมือง   บทที่ 72

    พวกเขารู้สึกจริง ๆ ว่าเสด็จพ่อต้องคิดจำนวนเงินค่าเสียหายนี้เอาไว้นานแล้ว มิเช่นนั้นจะบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร จำนวนเงินค่าเสียหายที่องค์ชายแต่ละคนต้องจ่ายนั้นไม่เท่ากันแต่พอดีกับที่สามารถรีดไถทรัพย์สินขององค์ชายแต่ละคนไปจนหมดเกลี้ยงทว่าพวกเขาก็ได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา แล้วจดจำเรื่องทั้งหมดนี้เอาไว้งานเลี้ยงในวังที่ควรจะเต็มไปด้วยความรื่นเริง กลับกลายเป็นเช่นนี้ไหนเลยจะยังมีความปิติยินดีหลงเหลืออยู่?นอกจากจีหรงเองที่มีความสุขจนหุบยิ้มไม่ได้ เพราะลูกชายของนางได้รับทรัพย์สมบัติเกือบครึ่งหนึ่งของท้องพระคลังภายในชั่วข้ามคืน!ลูกคนอื่นล้วนถูกลงโทษ มีเพียงจวินจิ๋วอิ่นคนเดียวที่ได้รับคำชมจากจวินฉงนางช่างยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้อย่างไรกัน เหมือนได้ให้กำเนิดอัจฉริยะอย่างจวินจิ๋วอิ่น ทำให้นางสามารถวางอำนาจในวังหลังได้จากนั้น ลูกชายก็ให้กำเนิดหลานชายที่เป็นอัจฉริยะอีกคนคิด ๆ ดูแล้ว ชีวิตช่างดีงามอะไรเช่นนี้ส่วนจวินจิ๋วอิ่นกับไป๋ซวงนั่งอยู่ในรถม้า โดยมีซวี่เป่าที่ง่วงนอนอยู่ในอ้อมแขนไป๋ซวงเห็นว่าเขาง่วงแล้ว จึงค่อย ๆ โอบกอดเขาไว้ในอ้อมแขนซวี่เป่าพยายามลุ

DMCA.com Protection Status