Share

บทที่ 66

Author: ฉินอันอัน
นางชี้ไปที่โต๊ะเล็กข้างหน้าต่าง ก่อนจะถือกล่องอาหารเดินไปนั่งบนเบาะผ้า

เซียวอวิ๋นถิงมองนางด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง ก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม

เขานิ่งสงบ ราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังอดทนรอเวลา เขาเกร็งไปทั้งตัวราวกับเสือร้ายที่พร้อมจะกระโจนใส่เหยื่อได้ทุกเมื่อ

คนอย่างเขา หากต้องการจะเอาชีวิตของชีหยวนแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ทันที

แต่เมื่อชีหยวนหยิบอาหารที่คล้ายกับซาลาเปาออกมาจากกล่องอาหาร และวางลงบนโต๊ะ สีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไปทันที เขาเอื้อมมือไปบีบคอชีหยวนอย่างแรง

ฝ่ามือขนาดใหญ่สามารถหักคอชีหยวนได้ด้วยมือเดียว

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น เขาถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “เจ้าสืบเรื่องของข้างั้นหรือ?!”

เซียวอวิ๋นถิงถูกองค์รัชทายาทส่งไปเลี้ยงดูที่ภูเขาหมิงซานในเมืองจูหรง เพราะร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เยาว์วัย เขาเพิ่งจะกลับมาอยู่ที่เมืองหลวงได้ไม่ถึงสามปี

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ความจริงแล้วเขาอยู่ที่จูหรงได้ไม่กี่วัน ก็ต้องย้ายตามท่านอาจารย์ของเขาโไปยังเมืองเจียงซี และอยู่ที่นั่นจนเติบใหญ่

ส่วนสิ่งที่ชีหยวนหยิบออกมานั้น คนทั่วไปอาจไม่รู้จัก

แต่เซียวอวิ๋นถิงกลับ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 67

    ชีหยวนตื่นตระหนกเพียงชั่วขณะเท่านั้นก่อนที่จะเข้ามาหาเซียวอวิ๋นถิง นางรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่สามารถมีความลับอะไรต่อเซียวอวิ๋นถิงได้ในชาติที่แล้ว นางเคยตามดูเซียวอวิ๋นถิง และได้เห็นฝีมือของเขามาแล้ว บุรุษผู้นี้ถูกขนานนามว่าเป็น “จอมพิพากษาหน้าหยก” สมญานามนี้ไม่ใช่ได้มาเล่น ๆ เพราะเหตุนี้ นางจึงตอบกลับด้วยการยกมือเท้าคาง พรางยิ้มหวานมองเซียวอวิ๋นถิง “แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับการที่เราร่วมมือกันเล่า? หรือเพราะว่าข้าน้อยฆ่าคน ท่านอ๋องจึงคิดที่จะผดุงความยุติธรรม ด้วยการส่งตัวข้าน้อยไปให้เหล่าขุนนางตัดสิน?”แม้นางจะรู้ว่า ตอนนี้อำนาจของนางกับเซียวอวิ๋นถิงยังห่างชั้นกันมาก นางควรจะถ่อมตัว และแสดงด้านดีของตนเองออกมาให้มากที่สุดเพื่อโน้มน้าวให้เซียวอวิ๋นถิงช่วยเหลือนางแต่ทว่าทุกครั้งที่นางนึกถึงเรื่องในชาติที่แล้ว นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บใจแม้กระทั่งตอนที่นั่งอยู่ เซียวอวิ๋นถิงก็ยังสูงกว่าชีหยวน เขามองนางจากมุมสูง ภายใต้แสงไฟส่องลงมา ใบหน้าของนางดูเด็กและอ่อนเยาว์เป็นอย่างมากแต่ใครจะไปคิดว่าเด็กสาวที่มีใบหน้าอ่อนแอและน่าสงสารเช่นนี้ จะฆ่าคนได้อย่างชำนาญและว่องไวยิ่งกว่า

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 68

    หลังจากที่ได้คิดทบทวนแล้ว นางก็รู้ว่าตัวเองแค่คนเดียว คงทำให้องค์หญิงใหญ่เชื่อใจได้ยากเพราะเหตุนี้นางจึงตัดสินใจเลือกที่จะให้เซียวอวิ๋นถิงช่วยยังไงเสีย นี่ก็ไม่นับว่านางเอาเปรียบเขา เพราะนางก็มีสิ่งตอบแทนให้แก่เซียวอวิ๋นถิงเช่นกันเมื่อได้ยินชีหยวนเอ่ยถึงองค์หญิงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวอวิ๋นถิงก็นิ่งขรึมขึ้นมาทันที “นี่เจ้ากล้าคิดร้ายกับองค์หญิงใหญ่หรือ? ช่างกล้าหาญจริง ๆ !”พูดจบ เขาก็เกิดความสงสัยอีกครั้ง “ชีหยวน ข้าสืบเรื่องของเจ้า สิบกว่าปีก่อนเจ้าเคยอยู่ที่หมู่บ้านสวีเจียมาตลอด ไม่เคยออกไปไหนเลย เจ้าไม่เคยเข้าเมืองด้วยซ้ำ…”เขามองชีหยวนด้วยสายตาเย็นชาในระยะที่มีเพียงโต๊ะคั่นตรงกลาง “เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าองค์หญิงใหญ่พักผ่อนอยู่บนภูเขา แล้วทำไมเจ้าถึงรู้จักข้า ที่สำคัญ เจ้าได้รู้ได้อย่างไรว่าข้าเคยอยู่ที่เจียงซี อีกทั้งยังรู้รหัสลับของพวกมือสังหารกำลังตามล่าข้า?”คำถามเหล่านี้ยิ่งถามก็ยิ่งเร่งเร้า และน้ำเสียงของเขาก็ยิ่งเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆเมื่อพูดจบ สายตาของเขาได้จ้องเขม็งไปที่ชีหยวนอย่างอาฆาต “ถ้าเจ้าอธิบายไม่ได้ ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้! คิดว่าข้ายังจะต้องพูดเงื่อนไขอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 69

    ชีหยวนอุทานออกมาด้วยความตกใจ “ท่านพ่อ ข้าจะกล้าแทนที่น้องสาวได้อย่างไร! การที่ได้กลับมานั้น ข้าก็ดีใจมากแล้ว…”นางดูเหมือนกระต่ายตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัว สามารถควบคุมและจัดการได้ง่ายดายเมื่อเห็นนางมีท่าทีเช่นนี้ ความเสียใจที่ต้องสูญเสียบุตรีที่เลี้ยงดูมานานกว่าสิบปีของชีเจิ้นก็พลันมลายหายไปไม่น้อย เขาผายมือให้ชีหยวนไปนั่งจากนั้นเขาจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า แต่เพราะนางเย่อหยิ่งอวดดี ไม่ควรที่จะอยู่ในจวนนี้อีกต่อไป”ชีเจิ้นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตบโต๊ะดังลั่น เมื่อเห็นชีหยวนเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตากลมโต เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตั้งแต่นี้ต่อไป เจ้าคือบุตรีที่สูงศักดิ์ของตระกูลชี เจ้าคือหน้าตาแห่งตระกูล เข้าใจหรือไม่!”ชีหยวนเข้าใจความรู้สึกของชีเจิ้นในตอนนี้ดีเขาเลี้ยงดูชีจิ่นมาสิบกว่าปี หากชีจิ่นเป็นเพียงเด็กหญิงธรรมดา ก็คงไม่รู้สึกเสียดายหากสูญเสียไปแต่ชีจิ่นเป็นถึงหญิงสาวผู้เพียบพร้อมที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ชีเจิ้นจึงฝากความหวังไว้กับนางมากมายอย่างน้อย ชีเจิ้นก็ตั้งใจจะให้นางแต่งงานกับเหล่าขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์ชีจิ่นเป็นดั่งสิ่งของม

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 70

    ชีเจิ้นขมวดคิ้วเล็กน้อยชีหยวนก้มหน้าลงอย่างเศร้าใจ “ข้าเคยได้ยินพี่ใหญ่เล่าให้ฟังว่า ตอนเด็ก ๆ อาจิ่นป่วยบ่อย  ท่านแม่ต้องตระเวนไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุกสารทิศ เพื่อขอพรให้ท่านช่วยปกปักรักษาและเลี้ยงดูอาจิ่นจนเติบใหญ่ ท่านแม่ย่อมรักและอาลัยอาวรณ์นาง”ชีเจิ้นนึกถึงท่าทีของนางหวังก่อนจะจากไปแม้นางหวังจะรับปากอย่างหนักแน่นว่าจะจัดการขั้นเด็ดขาด แต่นางก็รักและหวงแหนชีจิ่นยิ่งกว่าสิ่งใด!ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางหวังทำได้ทุกอย่างเพื่อชีจิ่นช่างน่าหนักใจนัก บางทีนางหวังอาจไม่กล้าลงมือจริง ๆ ก็เป็นได้ชีเจิ้นรู้สึกปวดหัวขึ้นมา ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียดายอยู่ลึก ๆ ที่ตนเองปล่อยให้นางหวังจัดการเรื่องนี้แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกให้ชีหยวนเห็น เขาเพียงแต่ยิ้มพลางตบไหล่ชีหยวน “ไม่ต้องกังวลไป นางทำผิดมหันต์ ท่านแม่ของเจ้าเป็นคนที่รู้ผิดชอบชั่วดี นางจะไม่ลำเอียงหรอก เจ้ากลับไปก่อนเถิด ไม่ต้องส่งข้าหรอก”ชีหยวนยิ้มตอบ แต่ทันทีที่หันหลังไป รอยยิ้มบนใบหน้าก็พลันหายไปจนหมดสิ้นนางหวังไม่ได้กลับมาพร้อมกัน นางพอจะเดาได้ว่าชีเจิ้นคงจะมอบหมายให้นางหวังไปจัดการเรื่องของชีจิ่นนางรู้จักนางหวัง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 71

    เมื่อเซียวอวิ๋นถิงกลับมาถึงห้องของตัวเองก็เป็นเวลากลางดึกแล้ว เขาเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บ่าวรับใช้ล้วนชินชาไปกันหมดแล้ว แต่ในวันนี้ตอนที่เขากลับมา เขาได้ถือกล่องอาหา ติดมือมาด้วย ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจไม่น้อยปาเป่าหันหน้าไปถามเซียวอวิ๋นถิง “ท่านอ๋อง วันนี้ท่าน ทานข้าวไม่อิ่มหรือ?”เขารีบวิ่งตามเซียวอวิ๋นถิงไป แววตาสองข้างเป็นประกาย “ท่านอ๋อง ท่านไปที่หอจุ้ยอวิ๋นมาหรือ?”ลิ่วจินกระแอมออกมา และถลึงตาใส่ปาเป่าไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะเดินไปคำนับเซียวอวิ๋นถิง“ท่านอ๋อง คนผู้นั้นถูกสอบสวนแล้ว แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่ยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารท่าน...”เซียวอวิ๋นถิงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะถามเสียงนิ่ง“มันถูกขังอยู่ที่ไหน?”“อยู่ในคุกของวัดต้าหลี่ขอรับ” ลิ่วจินทำงานด้วยความใจเย็น เขาเงียบที่สุดในบรรดาทหารองครักษ์เซียวอวิ๋นถิงออกคำสั่งโดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา“อย่าให้มันกินข้าว อย่าให้มันดื่มน้ำ และอย่าให้มันนอน! ในห้องขังของมัน ยามดึก ให้ส่องคบเพลิงสิบดวงส่องไปที่มันจนกว่ามันจะพูดออกมา!”ปาเป่ารีบตอบรับทันทีเซียวอวิ๋นถิงเรียกทหารองครักษ์สองนายที่นิ่งเงียบมาตลอด“จ้าวชิง! อิ่นคว่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 72

    เซียวอวิ๋นถิงควบม้าพุ่งทะยานไปตามทางบนภูเขา เพื่อมุ่งหน้าขึ้นไปยังยอดเขา ระหว่างทางเจอกับองครักษ์ลับที่ออกมาขัดขวางอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อเห็นตราประจำตัวของเขา ทุกคนต่างรีบถอยหลีกทางให้เมื่อมาถึงวัด ขอบฟ้าก็เริ่มมีแสงสว่างส่องออกมาจางๆ เหล่าแม่ชีที่ตื่นเช้ากำลังเริ่มสวดมนต์ และเลือกผักเพื่อเตรียมทำอาหารม้าของเซียวอวิ๋นถิงหยุดอยู่หน้าประตูวัด เขาเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในระยะไกลเหล่าแม่ชีเมื่อได้ยินเสียงจึงออกมาดู ก่อนจะพบว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามที่กำลังควบม้าสูงสง่า พวกนางต่างรีบทำความเคารพอย่างลนลาน “โยม วัดของเรามิได้รับการบริจาคจากสาธุชน หากโยมต้องการจุดธูปไหว้พระ โปรดไปยังวัดอื่นเถิด”วัดแห่งนี้เป็นที่ประทับขององค์หญิงใหญ่ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ราชสำนักล้วนเป็นผู้ออกให้ และไม่ได้เปิดรับคนนอกเซียวอวิ๋นถิงไม่สนใจพวกนาง เขาเพียงตะโกนเสียงดังลั่น “ท่านย่าทวด! ท่านย่าทวด!”ไม่นานนัก หญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปีที่เกล้าผมอย่างเป็นระเบียบ ก็วิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเซียวอวิ๋นถิง นางก็แปลกใจไม่น้อย ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความยินดีอย่างห้ามไม่ได้ “อ้าว! ท่านอ๋องนี่เอง! ท่านอ๋องม

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 73

    หลังจากที่กลับมาจากเรือนพักนอกเมืองแล้ว จวนหย่งผิงโหวก็ราวกับถูกปกคลุมด้วยหมอกมืดครึ้ม บรรดาบ่าวไพร่ที่คอยอยู่ปรนนิบัติต่างทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบมากขึ้น เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรที่ผิดพลาดขึ้นแต่ทว่าบรรยากาศในหอหมิงเยว่กลับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไป๋จื่อและไป๋อินขยันขันแข็งจนเกินพอดี พวกนางดูแลวิถีชีวิตของคุณหนูใหญ่อย่างเป็นสัดเป็นส่วน อีกทั้งบรรดาบ่าวไพร่ที่อยู่ใต้อาณัติของพวกนางก็ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดหลังจากที่แม่นมจางเกิดเรื่องขึ้น นางหวังจึงได้ให้แม่นมเฉินมาทำหน้าเป็นผู้ดูแลภายในเรือนของชีหยวนแม่นมเฉินเป็นคนซื่อสัตย์และเชื่อใจได้ ไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ ยิ่งไปกว่านั้น แม่นมจางถูกชีหยวนทำให้ถึงแก่ชีวิต — ความจริงแล้ว ภายในจวน มีการถกเถียงเรื่องนี้กันไม่น้อยทุกคนต่างเห็นว่าแม่นมจางถูกใส่ความว่าทำร้ายชีหยวน ทำให้นางหวังและชีเจิ้นฆ่านางจนตายแต่บ่าวบางคนที่เฉลียวฉลาดจะรู้ดีว่าในจวนแห่งนี้ หากไร้ความสามารถ ย่อมถูกกลั่นแกล้งได้โดยง่าย บางคนถึงกับไม่มีโอกาสได้โต้ตอบเมื่อคุณหนูใหญ่กลับมา ไม่เพียงแต่จะสามารถยืนหยัดได้อย่างเต็มภาคภูมิ อีกทั้งยังจัดการแม่นมจางจนถึงแก่ชีวิตได้อีกด้ว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 74

    หลังจากนี้ ชีหยวนจะต้องทำอะไรอีกมากมาย จึงจำต้องมีผู้ที่ไว้ใจได้อยู่ข้างกายและแน่นอนว่า บ่าวรับใช้ที่อยู่ดูแลปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด จึงต้องเป็นบ่าวที่จงรักภักดีโดยปราศจากความน่าสงสัยนางไม่อยากที่จะเลือกคนบ่าวคนใหม่อีก เพราะสำหรับนางแล้ว หากจะเลือกคนใหม่ ก็ต้องสร้างความไว้ใจขึ้นมาใหม่อย่างช้า ๆ ด้วยเช่นกันถ้าอย่างนั้น ก็ปบ่อยให้เป็นไปตามนี้ก่อนก็แล้วกันแม่นมเฉินเข้าใจดีว่า คำพูดที่ทั้งอ่อนโยนและเด็ดเดี่ยวนี้ เป็นการเตือนพวกนาง โดยเฉพาะตนที่เป็นแม่นมผู้ดูแลนางจึงคุกเข่าลงอย่างแน่วแน่ “คุณหนูสบายใจเถิด ต่อไปนี้บ่าวเฒ่าผู้นี้จะมีเพียงคุณหนูเป็นเจ้านายเพียงผู้เดียว คุณหนูสั่งอะไร บ่าวจะทำตามทุกอย่าง”“อืม” ชีหยวนตอบกลับ ขณะนั้นเอง ก็มีคนจากเรือนหน้ามาขอพบพวกเขาเป็นคนของตระกูลเกาเมื่อคนของตระกูลเกาเดินเข้ามา ก็พบว่าหอหมิงเยว่เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงในเรือนกำลังติดตั้งชิงช้า ภายในห้องสะอาดเอี่ยมจนแทบจะสะท้อนแสงออกมานางหวังไม่มีเวลามาสนใจเรือนของชีหยวน บ่าวรับใช้ที่มอบให้ชีหยวน นางก็เลือกให้แบบส่ง ๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อบ่าวรับใช้เหล่านี้มาอยู่กับชีหยวน กลับว่าง่ายและเชื่อ

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 492  

    คนเรายามที่ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ก็มักจะเผลอใช้ความคิดฟุ้งซ่านมากลบเกลื่อนความหวาดกลัวและความตกใจของตนเองเสมอ ชีหยวนเผากริชด้วยไฟจนร้อนจัด ก่อนจะดึงหน้านิ่งและเสียบมันเข้าไปที่กระดูกสะบักซ้ายของสวีซินเฉียว จนแทงทะลุไปอีกด้านหนึ่งของเขา ทว่าหนนี้สวีซินเฉียวแม้แต่เสียงร้องก็ยังเปล่งออกมาไม่ได้ ทรุดลงกับพื้นทั้งร่างสั่นเทาและชักกระตุก ดวงตาฉายประกายหวาดกลัว ชีหยวนหยัดกายขึ้นยืน ก่อนจะหมุนตัวกลับไปอย่างเรียบเฉยและส่งยิ้มให้สวีซินเฉียวพลางเอ่ยว่า “ใต้เท้าสวี ท่านจะไม่พูดก็ย่อมได้ ข้าเข้าใจ ว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของคนในสกุล ท่านจะไม่พูดก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่นนั้นพวกเราค่อยพบกันอีกครั้งในยุทธจักรเถิด” นางเอ่ยพลาง ก็ส่ายเทียนไขในมือของตนเองไปมา “ข้าจะส่งท่านเดินทางครั้งสุดท้าย เผาท่านไม่ให้เหลือซาก จะได้ประหยัดแม้กระทั่งโลงศพด้วย ถือเป็นการทำประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อชาวบ้านจี้โจวไปด้วย” ชาวหว่าล่ารุกรานเข้ามาทุกปี ชาวบ้านในที่แห่งนั้นเผชิญหายนะทุกข์ทรมานกันไปแล้วตั้งเท่าใด?! พวกเขาโหดร้ายป่าเถื่อน บุรุษถูกสังหารทันที ส่วนสตรีและเด็กก็กวาดต้อนกลับไปยังทุ่งหญ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 491  

    และทันทีที่ผ้าขี้ริ้วถูกดึงออกมาจากในปาก สวีซินเฉียวไม่แม้แต่จะหยุดชะงักก็อ้าปากหมายจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทันที แต่ชัดเจนว่าความรวดเร็วของชีหยวนยังเร็วกว่าเขามาก เขายังไม่ทันได้อ้าปากส่งเสียง ชีหยวนก็จัดการยัดผ้าขี้ริ้วกลับเข้าไปในปากของเขาอีกครั้งด้วยความรวดเร็วแล้ว และที่ยัดเข้าไปคราวนี้ก็ลึกยิ่งกว่าคราวก่อน แทบจะจุกเข้าไปถึงด้านในลำคอของสวีซินเฉียว ทำให้สวีซินเฉียวถึงขั้นพะอืดพะอมพยายามสำรอกออกมาหลายครั้ง ระดับความตื่นรู้ของคนหนึ่งคน เทียบเท่ากับระดับความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขาได้รับ สำหรับสวีซินเฉียวในยามนี้ก็นับเป็นเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่า เมื่อใดที่สตรีตรงหน้าเอื้อนเอ่ยวาจาน้ำลายหนึ่งหยดของนางคือตะปูหนึ่งดอก หากไม่เชื่อฟังคำพูดของนางแล้ว นางจะแสดงความน่ากลัวอย่างถึงที่สุดออกมา ชีหยวนผุดยิ้มเล็กน้อยพลางหยิบปิ่นปักผมขึ้นมาและปักกลับไปที่มวยผมดังเดิม จากนั้นค่อยแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางขยับข้อมือไปมา “ใต้เท้าสวี ดูท่านสิ เหตุใดท่านจึงไม่เชื่อฟังกันบ้างเจ้าคะ? คนที่ไม่เชื่อฟัง จะต้องถูกลงโทษนะเจ้าคะ” เอ่ยพลาง นางก็เลื่อนมือข้างหนึ่งไปปิดปากสวีซินเฉียวไว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 490

    แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น สวีฮว่านก็ยิ่งระมัดระวังในการกระทำมากขึ้นไปอีกที่จวนไม่เคยจัดงานเลี้ยงหรืองานมหรสพใด ๆ เลยแม้แต่ในงานเลี้ยงวันเกิดของหญิงชรา ก็แค่ให้คนในครอบครัวทานข้าวด้วยกันมื้อเดียวแล้วก็จบกันไปเงินทองในบ้านกองเป็นภูเขา ผ้าไหมผ้าแพรก็มีมากมาย แต่ก็ไม่เคยเอาออกมาใช้แค่เห็นแต่ใช้ไม่ได้ นี่แหละถึงเป็นเรื่องที่อึดอัดใจและกลัดกลุ้มใจที่สุด!นางยังคิดว่าสวีฮว่านคงจะเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิตแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาเหมือนจะคิดตกได้ในทันทีสวีฮว่านยิ้มบาง ๆ พูดอย่างมีนัยยะว่า “เมื่อก่อนใช้ไม่ได้ แต่หลังจากนี้จะใช้ได้แล้ว”ฮูหยินสวีฟังไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร แต่ก็ดีใจยิ่งนัก รีบเปิดคลังเอาหนังสัตว์ออกมา ตัดเสื้อผ้าใหม่ให้เด็ก ๆ ในบ้านกันคนละชุดที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความชื่นมื่นสวีซินเฉียวออกจากบ้านสวีก็ยิ้มแย้มมีความสุขเช่นกันแน่นอนว่ามีความสุขอยู่แล้ว!สิ่งที่เขาทำ เขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นความผิดมหันต์ถึงขั้นถูกตัดหัวและฆ่าล้างเก้าชั่วโคตร แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะมีตระกูลชีเป็นแพะรับบาปไปแล้ววันขึ้นปีใหม่ บังเอิญมีเรื่องมงคล เขาดีใจจนเดินตรงไปที่หอหงเฟิ่นจินที่ค้าขายดีท

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 489

    กลางดึก ของขวัญหลากสีสันที่ได้รับในคืนวันปีใหม่กองเต็มโถงบุปผา ทั้งห้องสวีฮว่านมองแวบเดียวก็ขมวดคิ้ว “ใครเป็นคนส่งของโจ่งแจ้งขนาดนี้?”สวีซินเฉียวเดินออกมาจากหลังฉากกั้นด้วยรอยยิ้มกว้าง พลางหัวเราะ “อารอง เป็นข้าเอง! หลานมิใช่เพิ่งกลับมาจากจี้โจวหรือ? ก็เลยตั้งใจเอาของมาคำนับท่านอารองโดยเฉพาะขอรับ”สีหน้าของสวีฮว่านไม่ได้ดูดีขึ้นเลย พอเห็นเขาก็ตวาดเสียงดังทันที “เจ้าคนสารเลว! เจ้าคิดว่านี่เป็นที่ไหนกัน? คิดว่าเจ้าตัวเองเป็นใคร? ตำแหน่งผู้ตรวจการเมือง มันเด่นขนาดนั้น ยังไม่รู้เหรอว่ามีคนจับตาดูอยู่เท่าไหร่? เจ้ากลัวคนอื่นไม่รู้รึไงว่าเจ้ารับสินบนไปมากแค่ไหน?!” สวีซินเฉียวทำปากเบะทันที สีหน้าดูเหมือนน้อยใจ “ท่านอารอง อย่างน้อยก็ท่านช่วยดูของที่หลานเอามาก่อนเถอะ! เมืองจี้โจวน่ะ อะไรที่ไม่ค่อยมี แต่หนังสัตว์นั้นหลากหลายเยอะสุด หลานกลับมาทั้งที จะเอาของฝากมาฝากท่านอาสะใภ้ กับพวกน้อง ๆ สักหน่อย มันก็เป็นเรื่องที่สมควรไม่ใช่หรือไร? ใครจะมาตำหนิได้ล่ะ?”ว่าแล้ว เขาก็หัวเราะระรื่น พลางขยับยื่นหน้ามาใกล้ “ว่าไปแล้ว ท่านอา เราต่างก็รู้อยู่แก่ใจดี นี่ไม่ใช่เพราะท่านอาช่วยเชื่อมโยงให้หลานได้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 488

    เมื่อเห็นว่าชีหยวนยังเงียบอยู่ เซียวอวิ๋นถิงก็เอ่ยขึ้นก่อน “พวกเขาเป็นครอบครัวทหารตระกูลชีแน่นอน และตลอดหลายปีมานี้ก็มีการติดต่อกับเผ่าหว่าล่าจริง ลักลอบค้าขายเหล็กเถื่อนกับเผ่าหว่าล่า พวกท่านแน่ใจหรือว่าไม่รู้เรื่องนี้เลย?!”ชีเจิ้นไม่สนแล้วว่าคนตรงหน้าคือพระราชนัดดา “พวกเราจะไปทำเรื่องโง่ๆ ทำลายตนเองแบบนั้นได้ยังไง?! ตั้งแต่ไหนแต่ไร แคว้นเรากับเผ่าหว่าล่าก็เป็นศัตรูกันมานาน ญาติพี่น้องของเรากี่คนแล้วที่ต้องตายในมือของเผ่าหว่าล่า เราจะไปสมคบคิดกับพวกมันได้ยังไง?!”สีหน้าของท่านโหวผู้เฒ่าชีซีดขาวราวกับเถ้าถ่านเรื่องคราวนี้เล่นงานเขาจนตั้งตัวไม่ทันจริง ๆจะจัดการยังไงดี? จะทำอย่างไรดีกันแน่?จะติดสินบนเจ้าเมืองทงโจว หม่าเซวียนไหม?ไม่ได้ เรื่องนี้ทำแบบนั้นไม่ได้เบื้องหลังคนพวกนั้นวางแผนมาอย่างดี แสดงว่าจ้องเล่นงานพวกเขาเต็มที่แล้วถ้าให้หม่าเซวียนช่วยกลบเรื่อง จะยิ่งกลายเป็นหลักฐานมัดตัวว่าตระกูลเราสมคบขายชาติครั้งนี้ ดูยังไง ก็เป็นกับดักตายชัด ๆ!เซียวอวิ๋นถิงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะหินเบา ๆ “คดีนี้ อย่างช้าบ่ายนี้ถูกส่งไปถึงมือกรมยุทธนาการ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรมยุทธนาการ ยังไง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 487

    เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือท่านโหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้นแน่นอนคนเหล่านี้น่าจะเป็นครอบครัวทหารจี้โจวจริง ที่มาของพวกเขาคงไม่ปลอมแปลง มิฉะนั้นจะเอาอะไรมาปรักปรำตระกูลชีได้ล่ะ?”ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาถึงได้วางแผนกันใหญ่โตถึงขนาดบุกมาลอบสังหารนางในวันขึ้นปีใหม่ ยังบุกเข้าบ้านพักตระกูลชีเพื่อสังหารหมู่ นี่เป็นการจงใจทำให้เรื่องใหญ่โต“พวกมันไม่กลัวตระกูลชีแจ้งทางการ กลัวแค่ตระกูลชีไม่แจ้งเท่านั้น!”พอแจ้งทางการไปแล้ว เรื่องถึงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องที่ตระกูลชีแอบลักลอบขนอาวุธเหล็กไปขายให้เผ่าหว่าล่าถึงจะถูกเปิดโปงวันขึ้นปีใหม่ทั้งที ให้ตระกูลชีไปตายเสียก็ดูสมเหตุสมผลใช่ไหมล่ะ?ผู่อู๋ย่งแค่นหัวเราะเบา ๆ “แจ้งทางการแล้วหรือ?”เสี่ยวสวีจื่อมือไม้กะล่อยกะหลิบ รีบยื่นมือไปรับถ้วยในมือเขา แล้วเปลี่ยนมานวดไหล่ทุบหลังอย่างเป็นธรรมชาติ พลางกระซิบว่า “คนของเราตามติดอยู่ตลอดขอรับ ตั้งแต่ต้นก็แจ้งทางการแล้ว เพียงแต่ว่า......”ผู่อู๋ย่งเลิกคิ้วขึ้น “เพียงแต่ว่าอะไร?”“เพียงแต่ว่าไม่คิดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลชีจะเก่งขนาดนี้ ระหว่างทางนางคนเดียวฆ่าคนของเราไปแปดคนแล้วขอรับ แม้แต่ลิ่วจื่อที่ฝีมือดีที่สุดก็

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 486

    ให้ตายเถอะ ไปมีเรื่องกับนางไม่ได้จริง ๆระหว่างทางที่มาในเมื่อครู่นี้ เขาได้เจอกับพ่อบ้านของตระกูลชีแล้ว พ่อบ้านของตระกูลชีถึงกับตกตะลึงไปแล้ว แต่ก็ยังยืนยันว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเขาตกใจกลัวอย่างมาก เหล่านักฆ่าพวกนั้นล้วนเป็นองครักษ์ของตระกูลชีที่สังหารไปเองคำพูดพรรค์นี้ ก็คงมีแค่เจ้าเมืองทงโจวเท่านั้นที่เชื่อหลอกผีอยู่รึไงชีหยวนน่ะหรือจะตกใจกลัว?!นางอาจจะทำให้พญายมตกใจกลางดึกได้ แต่ไม่มีทางที่จะถูกนักฆ่าแค่ไม่กี่คนทำให้ตกใจกลัว!ดูจากตอนนี้แล้ว ก็จริงอย่างที่คิดเลยเซียวอวิ๋นถิงจนกระทั่งเห็นนางนั่งอยู่บนขั้นบันไดอย่างปลอดภัย เท้าของนางเหยียบอยู่บนอกของชายคน ถึงได้ถอนหายใจออกมาช้า ๆ เดินเข้าไปใกล้อีกนิด มองชายคนนั้นแวบหนึ่งแล้วถามชีหยวนว่า “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไร อยู่ดีมาก” ชีหยวนไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ยังคงจ้องชายคนนั้นต่อไป “ข้าแนะนำให้เจ้าพูดให้เร็วหน่อย ข้าเป็นคนไม่มีความอดทนมากนัก ถ้าคำตอบของเจ้าไม่ถูกใจข้า หรือบิดเบือนความจริง ข้าก็รีบจะถลกหนังเจ้าไปทำกลองหนังมนุษย์เสีย ส่วนพวกพ้องของเจ้าข้าง ๆ ข้าก็จะเอาพวกเขาทำเป็นโคมไฟหนังมนุษย์ ส่งไปให้เจ้านายของเจ้าด้วย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 485

    ครอบครัวทหารของตระกูลชี?ชีหยวนเพียงแค่เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มพลางยกดาบขึ้นฟันลง ฟันนิ้วของชายคนนั้นขาดไปหนึ่งนิ้วชายคนนั้นส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นทันที“คิดว่าข้าเป็นเด็กสามขวบหรือไง?” ชีหยวนหัวเราะเยาะเสียงเย็นชา “จี้โจวอยู่ไกลจากที่นี่แค่ไหน? ข้าไม่สนหรอกว่าพวกเจ้าจะเป็นครอบครัวทหารของตระกูลชีจริงหรือไม่ ข้าถามแค่ว่า ในเมื่อเป็นคนของตระกูลชี ไฉนถึงรู้ความเคลื่อนไหวของข้าล่วงหน้า มาดักฆ่าข้ากลางทาง แล้วยังจงใจบุกมาฆ่าคนในบ้านพักชนบทนี้อีกด้วย?”อย่าบอกว่าท่านโหวผู้เฒ่าชีกับชีเจิ้นบ้าคลั่งจนเสียสติไปแล้วหากพวกเขาคลุ้มคลั่งขนาดนั้น ตระกูลชีก็คงล่มสลายไปนานแล้วส่วนคนที่เหลือ สมาชิกบ้านรองและบ้านสามของจระกูลชีต่างประพฤติตัวดี เพราะท่านโหวผู้เฒ่าชีเป็นผู้ชัดเจนมาโดยตลอด บรรดาศักดิ์เป็นของบ้านหลัก ทรัพย์สมบัติเมื่อถึงเวลาก็แบ่งกันอย่างยุติธรรมมีแต่คนเสียสติถึงสร้างปัญหากับบ้านหลักอีกอย่างถ้าต่อกรกับบ้านหลักจริง เช่นนั้นก็น่าจะไปฆ่าชีเจิ้นหรือชีอวิ๋นจื่อสิ ฆ่านางไปจะมีประโยชน์อะไร?ชีหยวนพลิกกริชในมือเล่น กริชหมุนลื่นในมือนางไหลราวกับมันมีชีวิต หมุนพลิกตามการควบคุมข

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 484  

    นางคิดไว้แล้วว่าจะให้พวกเขาตายอย่างไร แต่นางไม่คิดว่า พวกเขาจะใจร้อนเยี่ยงนี้! อีกทั้ง ดักซุ่มโจมตีนางกลางทางก่อน ขณะเดียวกันก็บุกเข้ามาฆ่าคนในบ้านพักชนบท ขณะที่นางฆ่าฟันศัตรู นางก็ยังมีเวลาคิดไปด้วยว่า เจ้าขันทีสุนัขนั่นคิดจะทำอะไรกันแน่?! ฆ่าเพื่อระบายความแค้นแค่นั้น? ไม่สิ พวกขันทีจิตวิปริตทั้งนั้น ยิ่งเป็นตัวประหลาดที่ควบคุมกององครักษ์เสื้อแพรได้แบบเขา จะต้องวิปริตยิ่งกว่าคนธรรมดา มันไม่มีทางแค่ต้องการทำลายบ้านพักชนบทของนางกับฆ่าคนของนาง เพื่อสั่งสอนนางเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นั้น บ้านพักชนบทผืนนี้……เป็นบ้านพักชนบทของตระกูลชี องครักษ์นายหนึ่งกระโดดลงมาจากหลังคา พุ่งกระโจนเข้าใส่ชีหยวน ชีหยวนยกมือขึ้นปล่อยเกาทัณฑ์แขนเสื้อโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย หลังจากยิงคนร่วงลงพื้นแล้ว นางก้าวเข้าไปเหยียบบนแผลเขา ย่อตัวนั่งลง ถามเสียงเย็นชา “พวกเจ้าเป็นใคร?” เจ้าขันทีสุนัขกล้าส่งคนมาฆ่าคนในขึ้นวันปีใหม่อย่างเปิดเผยแบบนี้ เช่นนั้นไม่มีทางทิ้งหลักฐานแน่นอน คนพวกนี้ไม่มีทางเกี่ยวข้องโยงใยถึงเจ้าขันทีสุนัขนั่นได้แน่ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ จวนโหวไม่มีทางไม่แจ้งทางการ เจ้าขันทีสุนัข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status