แชร์

บทที่ 65

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 10:58:20
ชีหยวนยิ้มโดยไม่พูดอันใด พลางถือกล่องอาหารกลับไปที่หอหมิงเยว่ด้วยตนเอง

แม่ครัวหลายคนที่ทำหน้าที่อยู่ในครัวรอจนนางออกไปแล้ว จึงสบตากัน พลางเบะปาก

หนึ่งในนั้นพลิกหม้อไปมาหลายครั้งด้วยท่าทีประชดประชัน “ที่เหนียวเหนียวนี่มันคืออันใดกัน? คุณหนูใหญ่ผู้นี้…ของดี ๆ มีให้กินไม่กินชอบเอานิสัยเดิมมาใช้เสียจริง!”

กลับมาที่จวนแล้ว อาหารที่กินล้วนเป็นอาหารหายาก ทว่าสุดท้ายก็ยังคิดถึงอาหารเลี้ยงหมูที่กินในชนบทพวกนั้นอยู่ตลอดเวลา

ไม่รู้สึกอับอายบ้างหรือไร?

สาวใช้ในห้องครัวอีกคนเปิดเข่งสำหรับนึ่งอาหาร พบว่ายังมีของที่คล้ายกับซาลาเปาสีน้ำตาลอมเทาชิ้นเล็ก ๆ อยู่หลายชิ้น จึงอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงจิ๊ออกมา

เดิมทีนางคิดจะพูดจาแดกดันสักสองสามประโยค ทว่าเมื่อมองเห็นของสิ่งนี้สว่างโปร่งใส ถึงแม้จะเป็นสีน้ำตาลอมเทา แต่ดูไปแล้วกลับเหมือนจะโปร่งใสจนมองเห็นเนื้อที่อยู่ข้างใน จึงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง

นางหยิบขึ้นมากัดหนึ่งคำโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทว่าหลังจากนั้นก็อดจะส่งเสียงออกมาอย่างประหลาดใจไม่ได้

“รสชาตินี้มัน…” นางพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ “ช่างมีเอกลักษณ์ยิ่งนัก!”

ชีหยวนกลับถึงหอหมิงเยว่เรียบร้อยแล้ว

ในเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 66

    นางชี้ไปที่โต๊ะเล็กข้างหน้าต่าง ก่อนจะถือกล่องอาหารเดินไปนั่งบนเบาะผ้า เซียวอวิ๋นถิงมองนางด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง ก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเขานิ่งสงบ ราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังอดทนรอเวลา เขาเกร็งไปทั้งตัวราวกับเสือร้ายที่พร้อมจะกระโจนใส่เหยื่อได้ทุกเมื่อคนอย่างเขา หากต้องการจะเอาชีวิตของชีหยวนแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ทันทีแต่เมื่อชีหยวนหยิบอาหารที่คล้ายกับซาลาเปาออกมาจากกล่องอาหาร และวางลงบนโต๊ะ สีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไปทันที เขาเอื้อมมือไปบีบคอชีหยวนอย่างแรงฝ่ามือขนาดใหญ่สามารถหักคอชีหยวนได้ด้วยมือเดียวแววตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น เขาถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “เจ้าสืบเรื่องของข้างั้นหรือ?!”เซียวอวิ๋นถิงถูกองค์รัชทายาทส่งไปเลี้ยงดูที่ภูเขาหมิงซานในเมืองจูหรง เพราะร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เยาว์วัย เขาเพิ่งจะกลับมาอยู่ที่เมืองหลวงได้ไม่ถึงสามปีแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ความจริงแล้วเขาอยู่ที่จูหรงได้ไม่กี่วัน ก็ต้องย้ายตามท่านอาจารย์ของเขาโไปยังเมืองเจียงซี และอยู่ที่นั่นจนเติบใหญ่ส่วนสิ่งที่ชีหยวนหยิบออกมานั้น คนทั่วไปอาจไม่รู้จัก แต่เซียวอวิ๋นถิงกลับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 67

    ชีหยวนตื่นตระหนกเพียงชั่วขณะเท่านั้นก่อนที่จะเข้ามาหาเซียวอวิ๋นถิง นางรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่สามารถมีความลับอะไรต่อเซียวอวิ๋นถิงได้ในชาติที่แล้ว นางเคยตามดูเซียวอวิ๋นถิง และได้เห็นฝีมือของเขามาแล้ว บุรุษผู้นี้ถูกขนานนามว่าเป็น “จอมพิพากษาหน้าหยก” สมญานามนี้ไม่ใช่ได้มาเล่น ๆ เพราะเหตุนี้ นางจึงตอบกลับด้วยการยกมือเท้าคาง พรางยิ้มหวานมองเซียวอวิ๋นถิง “แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับการที่เราร่วมมือกันเล่า? หรือเพราะว่าข้าน้อยฆ่าคน ท่านอ๋องจึงคิดที่จะผดุงความยุติธรรม ด้วยการส่งตัวข้าน้อยไปให้เหล่าขุนนางตัดสิน?”แม้นางจะรู้ว่า ตอนนี้อำนาจของนางกับเซียวอวิ๋นถิงยังห่างชั้นกันมาก นางควรจะถ่อมตัว และแสดงด้านดีของตนเองออกมาให้มากที่สุดเพื่อโน้มน้าวให้เซียวอวิ๋นถิงช่วยเหลือนางแต่ทว่าทุกครั้งที่นางนึกถึงเรื่องในชาติที่แล้ว นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บใจแม้กระทั่งตอนที่นั่งอยู่ เซียวอวิ๋นถิงก็ยังสูงกว่าชีหยวน เขามองนางจากมุมสูง ภายใต้แสงไฟส่องลงมา ใบหน้าของนางดูเด็กและอ่อนเยาว์เป็นอย่างมากแต่ใครจะไปคิดว่าเด็กสาวที่มีใบหน้าอ่อนแอและน่าสงสารเช่นนี้ จะฆ่าคนได้อย่างชำนาญและว่องไวยิ่งกว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 68

    หลังจากที่ได้คิดทบทวนแล้ว นางก็รู้ว่าตัวเองแค่คนเดียว คงทำให้องค์หญิงใหญ่เชื่อใจได้ยากเพราะเหตุนี้นางจึงตัดสินใจเลือกที่จะให้เซียวอวิ๋นถิงช่วยยังไงเสีย นี่ก็ไม่นับว่านางเอาเปรียบเขา เพราะนางก็มีสิ่งตอบแทนให้แก่เซียวอวิ๋นถิงเช่นกันเมื่อได้ยินชีหยวนเอ่ยถึงองค์หญิงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวอวิ๋นถิงก็นิ่งขรึมขึ้นมาทันที “นี่เจ้ากล้าคิดร้ายกับองค์หญิงใหญ่หรือ? ช่างกล้าหาญจริง ๆ !”พูดจบ เขาก็เกิดความสงสัยอีกครั้ง “ชีหยวน ข้าสืบเรื่องของเจ้า สิบกว่าปีก่อนเจ้าเคยอยู่ที่หมู่บ้านสวีเจียมาตลอด ไม่เคยออกไปไหนเลย เจ้าไม่เคยเข้าเมืองด้วยซ้ำ…”เขามองชีหยวนด้วยสายตาเย็นชาในระยะที่มีเพียงโต๊ะคั่นตรงกลาง “เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าองค์หญิงใหญ่พักผ่อนอยู่บนภูเขา แล้วทำไมเจ้าถึงรู้จักข้า ที่สำคัญ เจ้าได้รู้ได้อย่างไรว่าข้าเคยอยู่ที่เจียงซี อีกทั้งยังรู้รหัสลับของพวกมือสังหารกำลังตามล่าข้า?”คำถามเหล่านี้ยิ่งถามก็ยิ่งเร่งเร้า และน้ำเสียงของเขาก็ยิ่งเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆเมื่อพูดจบ สายตาของเขาได้จ้องเขม็งไปที่ชีหยวนอย่างอาฆาต “ถ้าเจ้าอธิบายไม่ได้ ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้! คิดว่าข้ายังจะต้องพูดเงื่อนไขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 69

    ชีหยวนอุทานออกมาด้วยความตกใจ “ท่านพ่อ ข้าจะกล้าแทนที่น้องสาวได้อย่างไร! การที่ได้กลับมานั้น ข้าก็ดีใจมากแล้ว…”นางดูเหมือนกระต่ายตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัว สามารถควบคุมและจัดการได้ง่ายดายเมื่อเห็นนางมีท่าทีเช่นนี้ ความเสียใจที่ต้องสูญเสียบุตรีที่เลี้ยงดูมานานกว่าสิบปีของชีเจิ้นก็พลันมลายหายไปไม่น้อย เขาผายมือให้ชีหยวนไปนั่งจากนั้นเขาจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า แต่เพราะนางเย่อหยิ่งอวดดี ไม่ควรที่จะอยู่ในจวนนี้อีกต่อไป”ชีเจิ้นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตบโต๊ะดังลั่น เมื่อเห็นชีหยวนเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตากลมโต เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตั้งแต่นี้ต่อไป เจ้าคือบุตรีที่สูงศักดิ์ของตระกูลชี เจ้าคือหน้าตาแห่งตระกูล เข้าใจหรือไม่!”ชีหยวนเข้าใจความรู้สึกของชีเจิ้นในตอนนี้ดีเขาเลี้ยงดูชีจิ่นมาสิบกว่าปี หากชีจิ่นเป็นเพียงเด็กหญิงธรรมดา ก็คงไม่รู้สึกเสียดายหากสูญเสียไปแต่ชีจิ่นเป็นถึงหญิงสาวผู้เพียบพร้อมที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ชีเจิ้นจึงฝากความหวังไว้กับนางมากมายอย่างน้อย ชีเจิ้นก็ตั้งใจจะให้นางแต่งงานกับเหล่าขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์ชีจิ่นเป็นดั่งสิ่งของม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 70

    ชีเจิ้นขมวดคิ้วเล็กน้อยชีหยวนก้มหน้าลงอย่างเศร้าใจ “ข้าเคยได้ยินพี่ใหญ่เล่าให้ฟังว่า ตอนเด็ก ๆ อาจิ่นป่วยบ่อย  ท่านแม่ต้องตระเวนไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุกสารทิศ เพื่อขอพรให้ท่านช่วยปกปักรักษาและเลี้ยงดูอาจิ่นจนเติบใหญ่ ท่านแม่ย่อมรักและอาลัยอาวรณ์นาง”ชีเจิ้นนึกถึงท่าทีของนางหวังก่อนจะจากไปแม้นางหวังจะรับปากอย่างหนักแน่นว่าจะจัดการขั้นเด็ดขาด แต่นางก็รักและหวงแหนชีจิ่นยิ่งกว่าสิ่งใด!ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางหวังทำได้ทุกอย่างเพื่อชีจิ่นช่างน่าหนักใจนัก บางทีนางหวังอาจไม่กล้าลงมือจริง ๆ ก็เป็นได้ชีเจิ้นรู้สึกปวดหัวขึ้นมา ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียดายอยู่ลึก ๆ ที่ตนเองปล่อยให้นางหวังจัดการเรื่องนี้แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกให้ชีหยวนเห็น เขาเพียงแต่ยิ้มพลางตบไหล่ชีหยวน “ไม่ต้องกังวลไป นางทำผิดมหันต์ ท่านแม่ของเจ้าเป็นคนที่รู้ผิดชอบชั่วดี นางจะไม่ลำเอียงหรอก เจ้ากลับไปก่อนเถิด ไม่ต้องส่งข้าหรอก”ชีหยวนยิ้มตอบ แต่ทันทีที่หันหลังไป รอยยิ้มบนใบหน้าก็พลันหายไปจนหมดสิ้นนางหวังไม่ได้กลับมาพร้อมกัน นางพอจะเดาได้ว่าชีเจิ้นคงจะมอบหมายให้นางหวังไปจัดการเรื่องของชีจิ่นนางรู้จักนางหวัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 71

    เมื่อเซียวอวิ๋นถิงกลับมาถึงห้องของตัวเองก็เป็นเวลากลางดึกแล้ว เขาเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บ่าวรับใช้ล้วนชินชาไปกันหมดแล้ว แต่ในวันนี้ตอนที่เขากลับมา เขาได้ถือกล่องอาหา ติดมือมาด้วย ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจไม่น้อยปาเป่าหันหน้าไปถามเซียวอวิ๋นถิง “ท่านอ๋อง วันนี้ท่าน ทานข้าวไม่อิ่มหรือ?”เขารีบวิ่งตามเซียวอวิ๋นถิงไป แววตาสองข้างเป็นประกาย “ท่านอ๋อง ท่านไปที่หอจุ้ยอวิ๋นมาหรือ?”ลิ่วจินกระแอมออกมา และถลึงตาใส่ปาเป่าไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะเดินไปคำนับเซียวอวิ๋นถิง“ท่านอ๋อง คนผู้นั้นถูกสอบสวนแล้ว แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่ยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารท่าน...”เซียวอวิ๋นถิงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะถามเสียงนิ่ง“มันถูกขังอยู่ที่ไหน?”“อยู่ในคุกของวัดต้าหลี่ขอรับ” ลิ่วจินทำงานด้วยความใจเย็น เขาเงียบที่สุดในบรรดาทหารองครักษ์เซียวอวิ๋นถิงออกคำสั่งโดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา“อย่าให้มันกินข้าว อย่าให้มันดื่มน้ำ และอย่าให้มันนอน! ในห้องขังของมัน ยามดึก ให้ส่องคบเพลิงสิบดวงส่องไปที่มันจนกว่ามันจะพูดออกมา!”ปาเป่ารีบตอบรับทันทีเซียวอวิ๋นถิงเรียกทหารองครักษ์สองนายที่นิ่งเงียบมาตลอด“จ้าวชิง! อิ่นคว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 72

    เซียวอวิ๋นถิงควบม้าพุ่งทะยานไปตามทางบนภูเขา เพื่อมุ่งหน้าขึ้นไปยังยอดเขา ระหว่างทางเจอกับองครักษ์ลับที่ออกมาขัดขวางอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อเห็นตราประจำตัวของเขา ทุกคนต่างรีบถอยหลีกทางให้เมื่อมาถึงวัด ขอบฟ้าก็เริ่มมีแสงสว่างส่องออกมาจางๆ เหล่าแม่ชีที่ตื่นเช้ากำลังเริ่มสวดมนต์ และเลือกผักเพื่อเตรียมทำอาหารม้าของเซียวอวิ๋นถิงหยุดอยู่หน้าประตูวัด เขาเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในระยะไกลเหล่าแม่ชีเมื่อได้ยินเสียงจึงออกมาดู ก่อนจะพบว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามที่กำลังควบม้าสูงสง่า พวกนางต่างรีบทำความเคารพอย่างลนลาน “โยม วัดของเรามิได้รับการบริจาคจากสาธุชน หากโยมต้องการจุดธูปไหว้พระ โปรดไปยังวัดอื่นเถิด”วัดแห่งนี้เป็นที่ประทับขององค์หญิงใหญ่ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ราชสำนักล้วนเป็นผู้ออกให้ และไม่ได้เปิดรับคนนอกเซียวอวิ๋นถิงไม่สนใจพวกนาง เขาเพียงตะโกนเสียงดังลั่น “ท่านย่าทวด! ท่านย่าทวด!”ไม่นานนัก หญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปีที่เกล้าผมอย่างเป็นระเบียบ ก็วิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเซียวอวิ๋นถิง นางก็แปลกใจไม่น้อย ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความยินดีอย่างห้ามไม่ได้ “อ้าว! ท่านอ๋องนี่เอง! ท่านอ๋องม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 73

    หลังจากที่กลับมาจากเรือนพักนอกเมืองแล้ว จวนหย่งผิงโหวก็ราวกับถูกปกคลุมด้วยหมอกมืดครึ้ม บรรดาบ่าวไพร่ที่คอยอยู่ปรนนิบัติต่างทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบมากขึ้น เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรที่ผิดพลาดขึ้นแต่ทว่าบรรยากาศในหอหมิงเยว่กลับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไป๋จื่อและไป๋อินขยันขันแข็งจนเกินพอดี พวกนางดูแลวิถีชีวิตของคุณหนูใหญ่อย่างเป็นสัดเป็นส่วน อีกทั้งบรรดาบ่าวไพร่ที่อยู่ใต้อาณัติของพวกนางก็ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดหลังจากที่แม่นมจางเกิดเรื่องขึ้น นางหวังจึงได้ให้แม่นมเฉินมาทำหน้าเป็นผู้ดูแลภายในเรือนของชีหยวนแม่นมเฉินเป็นคนซื่อสัตย์และเชื่อใจได้ ไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ ยิ่งไปกว่านั้น แม่นมจางถูกชีหยวนทำให้ถึงแก่ชีวิต — ความจริงแล้ว ภายในจวน มีการถกเถียงเรื่องนี้กันไม่น้อยทุกคนต่างเห็นว่าแม่นมจางถูกใส่ความว่าทำร้ายชีหยวน ทำให้นางหวังและชีเจิ้นฆ่านางจนตายแต่บ่าวบางคนที่เฉลียวฉลาดจะรู้ดีว่าในจวนแห่งนี้ หากไร้ความสามารถ ย่อมถูกกลั่นแกล้งได้โดยง่าย บางคนถึงกับไม่มีโอกาสได้โต้ตอบเมื่อคุณหนูใหญ่กลับมา ไม่เพียงแต่จะสามารถยืนหยัดได้อย่างเต็มภาคภูมิ อีกทั้งยังจัดการแม่นมจางจนถึงแก่ชีวิตได้อีกด้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 100

    ขณะที่นางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เกาเจียก็รีบเร่งฝีเท้าเข้ามาปลอบประโลมนางหวัง “ฮูหยิน ไฟด้านหน้าถูกดับลงหมดแล้วเจ้าค่ะ ยามนี้ไม่มีปัญหาใดแล้วเจ้าค่ะ!”ขอบคุณฟ้าดิน!นางหวังพนมมือขึ้นท่องชื่อองค์พระอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็เชิญองค์หญิงใหญ่ให้ไปชมการแสดงงิ้วที่เรือนด้านหน้าองค์หญิงใหญ่มองชีหยวนอย่างอบอุ่น พลางตบหัวของชีหยวนเบาๆ “ช่างเถอะ ข้ามิได้ฟังงิ้วมานานหลายสิบปีแล้ว ยามนี้ ไม่มีความสนใจต่อสิ่งเหล่านั้นอีกแล้ว เมื่อมาเยือนและได้พบกับสาวน้อยผู้นี้แล้ว ก็ให้จบเพียงเท่านี้เถิดนี่หมายความว่าจะจากไปแล้วลู่ฮูหยินเม้มปาก รู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ช่างให้เกียรติยัยเด็กนี่เหลือเกิน ก็ไม่รู้ว่าที่แท้เด็กผู้นี้มีสิ่งใดพิเศษกันแน่หานเยว่เอ๋อร์กลับขมวดคิ้วเบาๆเพลิงไหม้ในครั้งนี้รุนแรงถึงเพียงนี้ องค์หญิงใหญ่กลับไม่ทรงรู้สึกว่า นี่เป็นความอัปมงคลที่ชีหยวนนำพามาเลยหรือ?ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ภรรยาของหลิวจงก็กลับมาจากด้านนอกอีกครั้ง นางกล่าวกับนางหวังเบาๆ ว่า “ฮูหยิน ท่านโหวให้เชิญคุณหนูใหญ่และคุณหนูหานไปทางนั้นสักรอบเจ้าค่ะ”อะไรนะ?นางหวังตกตะลึง มองไปที่หานเยว่เอ๋อร์อย่างไม่คาดคิดอยู่บ้าง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 99

    ไฟที่ไหม้อยู่ในศาลบรรพบุรุษ ทำให้แขกในเรือนส่วนหน้ากว่าครึ่งแสดงความเจตจำนงที่จะไปช่วยไปดับไฟเพราะไม่ว่าอย่างไร เมื่อมาเป็นแขกที่จวนของผู้อื่นแล้วพบเรื่องแบบนี้เข้า จะเอาแต่นั่งเป็นห่วงโดยไม่ทำสิ่งใด ก็ออกจะไม่เหมาะนักทว่า ท่านโหวผู้เฒ่ากับชีเจิ้น จะให้แขกเหรื่อทั้งหลายไปได้อย่างไร?ต่างพากันรีบหยุดพวกเขาไว้ บอกว่าคนจากกองบัญชาการปัญจทิศรักษานครและหน่วยลาดตระเวนล้วนมากันแล้ว อีกไม่นานก็จะสามารถดับไฟได้แล้วและในความเป็นจริง สิ่งที่ท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นพูดก็ถูกต้องอย่างมาก เพราะหลังจากนั้นไม่นาน กองบัญชาการปัญจทิศรักษานครและหน่วยลาดตระเวน ก็ร่วมมือกันดับไฟลงได้จริงๆทั้งท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้น ล้วนพากันถอนใจอย่างโล่งอกโดยเฉพาะท่านผู้เฒ่าที่ถามออกมาทันทีว่า สถานการณ์เป็นเช่นใดแล้ว? ป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษไม่เป็นไรกระมัง?”หากเกิดสิ่งใดขึ้นมา นั่นก็จะเป็นเรื่องชวนให้หดหู่อย่างแท้จริงชีเจิ้นรีบเชิญผู้บัญชาการของกองบัญชาการปัญจทิศรักษานครเข้ามา ผลคือ ทันทีที่ใต้เท้าหยวนเข้ามาก็กล่าวว่า “ท่านโหวเพลิงไหม้ของพวกในครั้งนี้ มิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ”......หมายความว่าอย่างใดก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 98

    แขกคนอื่นๆ ก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันไปมา คนละคำสองคำเช่นกัน“นั่นสิ กลับมาหาครอบครัว พิธีรับญาติยังไม่ทันเสร็จ ศาลบรรพบุรุษก็ไหม้ขึ้นมาแล้ว คุณหนูใหญ่ผู้นี้ คงมิใช่สิ่งอัปมงคลอะไรหรอกนะ?”“หรืออาจไปโดนของสกปรกอะไรเข้าก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้น จะบังเอิญถึงขนาดนี้ได้อย่างไร”เสียงวิพากษ์วิจารณ์พวกนี้ล้วนเข้าไปถึงหูของนางหวังนางหวังโมโหจนปวดท้อง จึงหันไปถลึงตาใส่ชีหยวนอย่างไม่ปรานีผู้คนต่างกังวลใจ และมีความคิดเห็นมากมาย เวลานี้ สายตาที่สตรีบางคนในกลุ่มนี้มองชีหยวน เริ่มไม่ปกติขึ้นมาแล้วสายตาขององค์หญิงใหญ่ทอดลงบนตัวชีหยวน เมื่อเห็นนางสงบมั่นคง มิได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ก็อดชื่นชมอยู่ในใจก่อนมิได้เรื่องอื่นยังไม่พูดถึง การที่อายุเท่านี้ก็มีความสุขุมใจเย็นเช่นนี้ได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งนางมองไปยังสาวน้อยที่อยู่เบื้องหน้า ถามนางเบาๆ ว่า “เจ้าไม่กลัวหรือ?”ชีหยวนเงยหน้าขึ้นมามองนางแล้วยิ้มออกมา ในตอนที่นางยิ้มออกมานั้น ดวงตาของนางสุกสกาวราวกับดวงดาว จากนั้น นางก็กะพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์ “เมื่อไม่ได้ทำผิดอันใด ย่อมมิกลัวผีร้ายมาเคาะประตู หม่อมฉันไม่กลัวดอกเพคะ”แม่นมเจียงและอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 97

    เหลียนเอ๋อร์ที่เห็นว่าเปลือกหอยมุกที่ประดับอยู่บนหน้าผากของนางเบี้ยว ก็รีบยื่นมือไปจัดให้นาง และเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก็หัวเราะตามไปด้วยว่า “คุณหนูท่านก็ช่างจริงๆ เลย คนเขาน่าเวทนาถึงเพียงนั้นแล้ว ท่านยังชมเรื่องสนุกอยู่อีก”หานเยว่เอ๋อร์เลิกคิ้ว “ข้าย่อมได้แต่ชมดูเรื่องสนุกอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นยังจะทำสิ่งใดได้? ในศาลบรรพบุรุษของตระกูลชี ยังมีเหล่าวีรชนที่ร่วมปราบพวกชาวหว่าล่า [1] กับองค์ฮ่องเต้เกาจู่อยู่ด้วย เหอะๆ ไฟกองนี้เมื่อไหม้ขึ้นมา…”ตัวชีอวิ๋นถิงในยามนี้กำลังเหงื่อออกเต็มศีรษะ เขาเพียงขยับบั้นท้ายของตนเล็กน้อย ก็อดไม่ได้ที่จะแยกเขี้ยวยิงฟันด้วยความเจ็บปวดสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติยกน้ำมาเพื่อใส่ยาให้เขาอย่างระมัดระวัง แต่กลับถูกเขายื่นมือไปปัดอ่างจนพลิกคว่ำ แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไสหัวออกไป!”ตอนนี้อารมณ์ของเขาแปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ดังนั้น ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้ายั่วยุเขา สาวใช้จึงรีบเก็บอ่างน้ำแล้วถอยออกไปทันทีชีอวิ๋นถิงสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง ยืนกรานที่จะลงจากเตียงและเขยื้อนกายไปริมหน้าต่าง เมื่อเห็นทางทิศของศาลบรรพบุรุษมีกลุ่มควันหนาทึบลอยขึ้นมา เวียนวนดำมืดอยู่กลางอากาศ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 96

    เดิมคิดว่านางได้ตัดขาดจากเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา [1] ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกียวิสัยแล้วแต่นี่มิใช่ ยังเลี้ยงบุตรสาวไว้อีกคนหนึ่งหรือ?!ชีหยวนไม่รู้ถึงอารมณ์ในตอนนี้ของลู่ฮูหยิน แต่ต่อให้รู้ นางก็ไม่มีทางสนใจนักเมื่อเห็นแม่นมเจียงที่อยู่ข้างกายองค์หญิงใหญ่ ก็บังเกิดความรู้สึกแสบจมูกอยากร้องไห้ขึ้นมา ทำให้นางเกือบอดกลั้นไว้ไม่อยู่แล้วนางคุกเข่าลงเบื้องหน้าองค์หญิงใหญ่ ทำการคารวะอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมสีหน้าขององค์หญิงใหญ่อ่อนโยนลง พยักหน้าพลางประคองนางขึ้นมา “เดิมยังคิดว่าเจ้าเป็นเพียงเด็กสาวชาวชนบทในหมู่บ้านคนหนึ่งจริงๆ คิดไม่ถึงว่า เจ้าจะยังมีโชคชะตาเช่นนี้”แม่นมเจียงที่ยืนอยู่ด้านข้าง กล่าวด้วยรอยยิ้มเอ็นดูและเมตตาว่า “แค่ดูก็รู้ว่าเป็นเด็กสาวที่มีวาสนาเพคะ”นางหวังเกร็งเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรพูดสิ่งใดอยู่บ้างยังคงเป็นฮูหยินรองแห่งตระกูลผู้ที่อยู่ด้านข้าง ที่รีบรับคำว่า “แม้นางจะเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ทว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุคลิกหรือระเบียบมารยาทก็ล้วนไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย พวกเราก็มารู้ในภายหลังเช่นกันว่า นางถึงกับได้รับการแนะนำสั่งสอนจากท่านแม่นมเจียง”แม่นมเจียงอมยิ้ม “ไม่นั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 95

    ตอนนี้ สายตาที่เกาเจียมองชีหยวนล้วนแฝงไปด้วยความนับถือหลายส่วนนี่เป็นเรื่องที่ใครก็คาดไม่ถึงจริงๆ!เป็นความจริงที่ชีหยวนพูดมาตลอดว่า ตนได้รับการอบรมสั่งสอนเรื่องมารยาทจากแม่นมเจียง และยังรู้จักกับองค์หญิงใหญ่ด้วยทว่าในความเป็นจริงนั้น ก็ไม่มีผู้ใดถือเป็นจริงนักก่อนหน้านี้ ที่ลู่ฮูหยินประชดประชันถากถางอยู่ที่เรือนหน้า ก็เพราะคิดว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้และต่อให้สอนสิ่งใดให้ชีหยวนจริง นั่นก็คงเป็นเพราะอยู่ว่างจนเบื่อ ดังนั้นจึงให้คำแนะนำอย่างผิวเผินสองสามประโยค จะไปสั่งสอนชีหยวนจริงๆ ได้อย่างไรแล้วจะใส่ใจต่อชีหยวนจริงๆ ได้อย่างไร?ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการลงจากเขา เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงรับญาติที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรด้วยซ้ำด้วย!ในตอนที่เทียบเชิญฉบับนั้นถูกส่งออกไป แม้แต่ชีเจิ้นก็มิได้จริงจังกับมัน!ผู้ใดจะรู้ว่า คนเขาจะมาแล้วจริงๆ!ไม่เพียงสายตาที่เกาเจียมองชีหยวนเปลี่ยนไปในความเป็นจริง ในตอนที่ได้ยินว่าองค์หญิงใหญ่เสด็จมาถึง แม้แต่ท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นที่กำลังต้อนรับแขกอยู่เรือนฝ่ายหน้าก็สบตากัน ต่างไม่อาจปิดบังความตื่นเต้นที่อยู่ภายในใจสีหน้าของบรรดาแขกเหรื่อ ก็เต็มไปด้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 94

    แต่เมื่อได้ยินว่า แม้แต่การนอนก็ไม่อาจนอนดีๆ ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกตี นางก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ใต้หล้าถึงกับมีพ่อแม่ที่ไม่เห็นลูกเป็นมนุษย์เช่นนี้! พวกเขาไม่คู่ควรจะเป็นคนจริงๆ!”ชีหยวนทำเพียงยิ้มเท่านั้น เพราะนางเห็นเหลียนเฉียวที่มีสีหน้าร้อนใจ กำลังชะโงกหัวผลุบโผล่เข้ามาจากนอกศาลาพอดีหัวใจของนางกระตุก เพราะเหลียนเฉียวไปสืบข่าวมา จึงหาข้ออ้างว่าจะไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า รีบออกจากศาลา แล้วถามเหลียนเฉียวว่า “เกิดสิ่งใดขึ้นกัน?”กล่าวจบก็เดินไปที่ทางเดินเส้นเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง เช่นนี้คนในศาลาก็จะไม่ได้ยินสิ่งที่พวกนางพูด และสามารถมองเห็นได้เมื่อมีคนมาด้วยเหลียนเฉียวตื่นตระหนกจนน้ำเสียงสั่นสะท้านเล็กน้อย “คุณหนู คุณชายใหญ่ คุณชายใหญ่เขาส่งชิงซงไป…”เมื่อเห็นเหลียนเฉียวตกใจจนใบหน้าซีดขาว สีหน้าของชีหยวนก็เคร่งขรึมลงเช่นกันนางยื่นมือไปกดหัวไหล่ของเหลียนเฉียวเบาๆ “เจ้าค่อยๆ พูด ไม่ต้องรีบร้อน”ไม่ง่ายเลย กว่าเหลียนเฉียวจะควบคุมอาการสั่นสะท้านของตนได้ นางเม้มริมฝีปากกระซิบว่า “คุณหนู คุณชายใหญ่เขาให้ชิงซงไปวางเพลิงศาลบรรพบุรุษเจ้าค่ะ!”เผาศาลบรรพบุรุษ?ในใจของชีหยวนเกิดความตกใจขึ้นมา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 93

    องค์หญิงใหญ่มีสถานะสูงส่ง เป็นพระเชษฐภคินีแท้ๆ ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันทุกคนต่างรู้ดีว่า ทุกปีฮ่องเต้จะต้องเสด็จไปที่วัด มีอยู่ปีหนึ่งก่อนวันส่งท้ายปีเก่า ยิ่งเสด็จขึ้นเขาไปเชิญองค์หญิงใหญ่กลับวังเพื่อไปอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าด้วยพระองค์เองแต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น องค์หญิงใหญ่ก็มิได้ทรงรับปากบุคคลที่ขนาดฮ่องเต้ก็เชิญไม่ได้ แต่บุตรสาวที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ภายนอกของตระกูลชีนับสิบปีกลับเชิญมาได้ แล้วผู้ใดจะเชื่อกัน?ดังนั้น นางย่อมต้องมาชมดูความครึกครื้นอย่างแน่นอนบัดนี้เมื่อได้พบชีหยวน นางยิ่งเลิกคิ้วถามชีหยวนอย่างไม่เกรงใจว่า “ก็อยากถามคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลชีว่า เจ้าขึ้นเขาไปอย่างไร และได้พบองค์หญิงได้อย่างไรกัน? เหตุใดพวกเราจึงไม่มีชะตาวาสนาเช่นนี้บ้าง”สตรีในครอบครัวของขุนนางราชสำนักที่คิดจะไปเสี่ยงโชคดูมีน้อยหรือ?แม้นยอดเขาป๋ายอวิ๋นซานจะไม่อนุญาตให้ขึ้น และอารามที่องค์หญิงใหญ่ทรงประทับอยู่ก็เข้าไปไม่ได้ ทว่าวัดวาอารามที่อยู่รายรอบนั้น ก็แทบจะฮูหยินผู้สูงศักดิ์เหล่านี้เหยียบย่ำจนทุกหนแห่งแล้วนั่นก็เพราะพวกนางอยากลองดูว่า จะหาทางเข้าหาองค์หญิงใหญ่ได้หรือไม่ความเป็นศัตรูของลู่ฮูหยินเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 92

    เหลียนเฉียวรีบรับคำทันทีชีหยวนปฏิบัติต่อข้ารับใช้แตกต่างจากผู้อื่น ดังนั้นตั้งแต่บนลงล่างล้วนเชื่อฟังนางโดยเฉพาะเหลียนเฉียวที่ถือกำเนิดจากบ่าวรับใช้ในตระกูล ยามสืบข่าวในจวน ก็ไม่มีผู้ใดหัวไวกว่านางแล้วแม่นมเสิ่นปรนนิบัติรับใช้ชีหยวนด้วยรอยยิ้ม ขณะเดินทางไปที่เรือนของนางหวังขณะนี้ นางหวังเริ่มรู้สึกประหม่ากังวลขึ้นมาบ้างแล้ว ดังนั้นหนนี้ นางจึงมีความอดทนเพิ่มเป็นพิเศษหลายส่วน นางมองชีหยวนพลางกำชับว่า “อีกครู่เมื่อแขกเหรื่อมาถึงแล้ว ข้าจะต้อนรับแขกสตรีพวกนั้น ส่วนบรรดาพี่น้องสตรีที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้า ก็ต้องให้เจ้าเป็นผู้พาไปเที่ยวเล่นในสวนดอกไม้แล้ว เข้าใจหรือไม่?”ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงรับญาติ ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายที่มีไมตรีต่อกันดังนั้น ย่อมไม่อาจนั่งเฉย ชมพิธีรับญาติอย่างไร้รสชาติแน่นอนว่าต้องมีการดูงิ้ว รับประทานอาหาร จึงจะถือเป็นท่าทางของการเชิญแขกมางานรับญาติแม้นางหวังจะมิพึงใจในตัวชีหยวน แต่ก็เกรงว่าเรื่องนี้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันใดขึ้นมาอีก ถึงเวลานั้น ก็ยากจะอธิบายต่อทางชีเจิ้น ท่านโหวผู้เฒ่า และฮูหยินผู้เฒ่าแล้วชีหยวนก็มิได้ขัดนางหวัง ครั้งนี้ นางรับปาก

DMCA.com Protection Status