Share

บทที่ 68

Author: ฉินอันอัน
หลังจากที่ได้คิดทบทวนแล้ว นางก็รู้ว่าตัวเองแค่คนเดียว คงทำให้องค์หญิงใหญ่เชื่อใจได้ยาก

เพราะเหตุนี้นางจึงตัดสินใจเลือกที่จะให้เซียวอวิ๋นถิงช่วย

ยังไงเสีย นี่ก็ไม่นับว่านางเอาเปรียบเขา เพราะนางก็มีสิ่งตอบแทนให้แก่เซียวอวิ๋นถิงเช่นกัน

เมื่อได้ยินชีหยวนเอ่ยถึงองค์หญิงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวอวิ๋นถิงก็นิ่งขรึมขึ้นมาทันที “นี่เจ้ากล้าคิดร้ายกับองค์หญิงใหญ่หรือ? ช่างกล้าหาญจริง ๆ !”

พูดจบ เขาก็เกิดความสงสัยอีกครั้ง “ชีหยวน ข้าสืบเรื่องของเจ้า สิบกว่าปีก่อนเจ้าเคยอยู่ที่หมู่บ้านสวีเจียมาตลอด ไม่เคยออกไปไหนเลย เจ้าไม่เคยเข้าเมืองด้วยซ้ำ…”

เขามองชีหยวนด้วยสายตาเย็นชาในระยะที่มีเพียงโต๊ะคั่นตรงกลาง “เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าองค์หญิงใหญ่พักผ่อนอยู่บนภูเขา แล้วทำไมเจ้าถึงรู้จักข้า ที่สำคัญ เจ้าได้รู้ได้อย่างไรว่าข้าเคยอยู่ที่เจียงซี อีกทั้งยังรู้รหัสลับของพวกมือสังหารกำลังตามล่าข้า?”

คำถามเหล่านี้ยิ่งถามก็ยิ่งเร่งเร้า และน้ำเสียงของเขาก็ยิ่งเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อพูดจบ สายตาของเขาได้จ้องเขม็งไปที่ชีหยวนอย่างอาฆาต “ถ้าเจ้าอธิบายไม่ได้ ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้! คิดว่าข้ายังจะต้องพูดเงื่อนไขอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Benchawan
ทุกเรื่องอ่านแล้วอยากอ่านต่อทันทีสนุกมาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 69

    ชีหยวนอุทานออกมาด้วยความตกใจ “ท่านพ่อ ข้าจะกล้าแทนที่น้องสาวได้อย่างไร! การที่ได้กลับมานั้น ข้าก็ดีใจมากแล้ว…”นางดูเหมือนกระต่ายตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัว สามารถควบคุมและจัดการได้ง่ายดายเมื่อเห็นนางมีท่าทีเช่นนี้ ความเสียใจที่ต้องสูญเสียบุตรีที่เลี้ยงดูมานานกว่าสิบปีของชีเจิ้นก็พลันมลายหายไปไม่น้อย เขาผายมือให้ชีหยวนไปนั่งจากนั้นเขาจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า แต่เพราะนางเย่อหยิ่งอวดดี ไม่ควรที่จะอยู่ในจวนนี้อีกต่อไป”ชีเจิ้นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตบโต๊ะดังลั่น เมื่อเห็นชีหยวนเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตากลมโต เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตั้งแต่นี้ต่อไป เจ้าคือบุตรีที่สูงศักดิ์ของตระกูลชี เจ้าคือหน้าตาแห่งตระกูล เข้าใจหรือไม่!”ชีหยวนเข้าใจความรู้สึกของชีเจิ้นในตอนนี้ดีเขาเลี้ยงดูชีจิ่นมาสิบกว่าปี หากชีจิ่นเป็นเพียงเด็กหญิงธรรมดา ก็คงไม่รู้สึกเสียดายหากสูญเสียไปแต่ชีจิ่นเป็นถึงหญิงสาวผู้เพียบพร้อมที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ชีเจิ้นจึงฝากความหวังไว้กับนางมากมายอย่างน้อย ชีเจิ้นก็ตั้งใจจะให้นางแต่งงานกับเหล่าขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์ชีจิ่นเป็นดั่งสิ่งของม

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 70

    ชีเจิ้นขมวดคิ้วเล็กน้อยชีหยวนก้มหน้าลงอย่างเศร้าใจ “ข้าเคยได้ยินพี่ใหญ่เล่าให้ฟังว่า ตอนเด็ก ๆ อาจิ่นป่วยบ่อย  ท่านแม่ต้องตระเวนไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุกสารทิศ เพื่อขอพรให้ท่านช่วยปกปักรักษาและเลี้ยงดูอาจิ่นจนเติบใหญ่ ท่านแม่ย่อมรักและอาลัยอาวรณ์นาง”ชีเจิ้นนึกถึงท่าทีของนางหวังก่อนจะจากไปแม้นางหวังจะรับปากอย่างหนักแน่นว่าจะจัดการขั้นเด็ดขาด แต่นางก็รักและหวงแหนชีจิ่นยิ่งกว่าสิ่งใด!ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางหวังทำได้ทุกอย่างเพื่อชีจิ่นช่างน่าหนักใจนัก บางทีนางหวังอาจไม่กล้าลงมือจริง ๆ ก็เป็นได้ชีเจิ้นรู้สึกปวดหัวขึ้นมา ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียดายอยู่ลึก ๆ ที่ตนเองปล่อยให้นางหวังจัดการเรื่องนี้แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกให้ชีหยวนเห็น เขาเพียงแต่ยิ้มพลางตบไหล่ชีหยวน “ไม่ต้องกังวลไป นางทำผิดมหันต์ ท่านแม่ของเจ้าเป็นคนที่รู้ผิดชอบชั่วดี นางจะไม่ลำเอียงหรอก เจ้ากลับไปก่อนเถิด ไม่ต้องส่งข้าหรอก”ชีหยวนยิ้มตอบ แต่ทันทีที่หันหลังไป รอยยิ้มบนใบหน้าก็พลันหายไปจนหมดสิ้นนางหวังไม่ได้กลับมาพร้อมกัน นางพอจะเดาได้ว่าชีเจิ้นคงจะมอบหมายให้นางหวังไปจัดการเรื่องของชีจิ่นนางรู้จักนางหวัง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 71

    เมื่อเซียวอวิ๋นถิงกลับมาถึงห้องของตัวเองก็เป็นเวลากลางดึกแล้ว เขาเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บ่าวรับใช้ล้วนชินชาไปกันหมดแล้ว แต่ในวันนี้ตอนที่เขากลับมา เขาได้ถือกล่องอาหา ติดมือมาด้วย ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจไม่น้อยปาเป่าหันหน้าไปถามเซียวอวิ๋นถิง “ท่านอ๋อง วันนี้ท่าน ทานข้าวไม่อิ่มหรือ?”เขารีบวิ่งตามเซียวอวิ๋นถิงไป แววตาสองข้างเป็นประกาย “ท่านอ๋อง ท่านไปที่หอจุ้ยอวิ๋นมาหรือ?”ลิ่วจินกระแอมออกมา และถลึงตาใส่ปาเป่าไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะเดินไปคำนับเซียวอวิ๋นถิง“ท่านอ๋อง คนผู้นั้นถูกสอบสวนแล้ว แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่ยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารท่าน...”เซียวอวิ๋นถิงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะถามเสียงนิ่ง“มันถูกขังอยู่ที่ไหน?”“อยู่ในคุกของวัดต้าหลี่ขอรับ” ลิ่วจินทำงานด้วยความใจเย็น เขาเงียบที่สุดในบรรดาทหารองครักษ์เซียวอวิ๋นถิงออกคำสั่งโดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา“อย่าให้มันกินข้าว อย่าให้มันดื่มน้ำ และอย่าให้มันนอน! ในห้องขังของมัน ยามดึก ให้ส่องคบเพลิงสิบดวงส่องไปที่มันจนกว่ามันจะพูดออกมา!”ปาเป่ารีบตอบรับทันทีเซียวอวิ๋นถิงเรียกทหารองครักษ์สองนายที่นิ่งเงียบมาตลอด“จ้าวชิง! อิ่นคว่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 72

    เซียวอวิ๋นถิงควบม้าพุ่งทะยานไปตามทางบนภูเขา เพื่อมุ่งหน้าขึ้นไปยังยอดเขา ระหว่างทางเจอกับองครักษ์ลับที่ออกมาขัดขวางอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อเห็นตราประจำตัวของเขา ทุกคนต่างรีบถอยหลีกทางให้เมื่อมาถึงวัด ขอบฟ้าก็เริ่มมีแสงสว่างส่องออกมาจางๆ เหล่าแม่ชีที่ตื่นเช้ากำลังเริ่มสวดมนต์ และเลือกผักเพื่อเตรียมทำอาหารม้าของเซียวอวิ๋นถิงหยุดอยู่หน้าประตูวัด เขาเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในระยะไกลเหล่าแม่ชีเมื่อได้ยินเสียงจึงออกมาดู ก่อนจะพบว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามที่กำลังควบม้าสูงสง่า พวกนางต่างรีบทำความเคารพอย่างลนลาน “โยม วัดของเรามิได้รับการบริจาคจากสาธุชน หากโยมต้องการจุดธูปไหว้พระ โปรดไปยังวัดอื่นเถิด”วัดแห่งนี้เป็นที่ประทับขององค์หญิงใหญ่ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ราชสำนักล้วนเป็นผู้ออกให้ และไม่ได้เปิดรับคนนอกเซียวอวิ๋นถิงไม่สนใจพวกนาง เขาเพียงตะโกนเสียงดังลั่น “ท่านย่าทวด! ท่านย่าทวด!”ไม่นานนัก หญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปีที่เกล้าผมอย่างเป็นระเบียบ ก็วิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเซียวอวิ๋นถิง นางก็แปลกใจไม่น้อย ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความยินดีอย่างห้ามไม่ได้ “อ้าว! ท่านอ๋องนี่เอง! ท่านอ๋องม

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 73

    หลังจากที่กลับมาจากเรือนพักนอกเมืองแล้ว จวนหย่งผิงโหวก็ราวกับถูกปกคลุมด้วยหมอกมืดครึ้ม บรรดาบ่าวไพร่ที่คอยอยู่ปรนนิบัติต่างทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบมากขึ้น เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรที่ผิดพลาดขึ้นแต่ทว่าบรรยากาศในหอหมิงเยว่กลับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไป๋จื่อและไป๋อินขยันขันแข็งจนเกินพอดี พวกนางดูแลวิถีชีวิตของคุณหนูใหญ่อย่างเป็นสัดเป็นส่วน อีกทั้งบรรดาบ่าวไพร่ที่อยู่ใต้อาณัติของพวกนางก็ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดหลังจากที่แม่นมจางเกิดเรื่องขึ้น นางหวังจึงได้ให้แม่นมเฉินมาทำหน้าเป็นผู้ดูแลภายในเรือนของชีหยวนแม่นมเฉินเป็นคนซื่อสัตย์และเชื่อใจได้ ไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ ยิ่งไปกว่านั้น แม่นมจางถูกชีหยวนทำให้ถึงแก่ชีวิต — ความจริงแล้ว ภายในจวน มีการถกเถียงเรื่องนี้กันไม่น้อยทุกคนต่างเห็นว่าแม่นมจางถูกใส่ความว่าทำร้ายชีหยวน ทำให้นางหวังและชีเจิ้นฆ่านางจนตายแต่บ่าวบางคนที่เฉลียวฉลาดจะรู้ดีว่าในจวนแห่งนี้ หากไร้ความสามารถ ย่อมถูกกลั่นแกล้งได้โดยง่าย บางคนถึงกับไม่มีโอกาสได้โต้ตอบเมื่อคุณหนูใหญ่กลับมา ไม่เพียงแต่จะสามารถยืนหยัดได้อย่างเต็มภาคภูมิ อีกทั้งยังจัดการแม่นมจางจนถึงแก่ชีวิตได้อีกด้ว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 74

    หลังจากนี้ ชีหยวนจะต้องทำอะไรอีกมากมาย จึงจำต้องมีผู้ที่ไว้ใจได้อยู่ข้างกายและแน่นอนว่า บ่าวรับใช้ที่อยู่ดูแลปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด จึงต้องเป็นบ่าวที่จงรักภักดีโดยปราศจากความน่าสงสัยนางไม่อยากที่จะเลือกคนบ่าวคนใหม่อีก เพราะสำหรับนางแล้ว หากจะเลือกคนใหม่ ก็ต้องสร้างความไว้ใจขึ้นมาใหม่อย่างช้า ๆ ด้วยเช่นกันถ้าอย่างนั้น ก็ปบ่อยให้เป็นไปตามนี้ก่อนก็แล้วกันแม่นมเฉินเข้าใจดีว่า คำพูดที่ทั้งอ่อนโยนและเด็ดเดี่ยวนี้ เป็นการเตือนพวกนาง โดยเฉพาะตนที่เป็นแม่นมผู้ดูแลนางจึงคุกเข่าลงอย่างแน่วแน่ “คุณหนูสบายใจเถิด ต่อไปนี้บ่าวเฒ่าผู้นี้จะมีเพียงคุณหนูเป็นเจ้านายเพียงผู้เดียว คุณหนูสั่งอะไร บ่าวจะทำตามทุกอย่าง”“อืม” ชีหยวนตอบกลับ ขณะนั้นเอง ก็มีคนจากเรือนหน้ามาขอพบพวกเขาเป็นคนของตระกูลเกาเมื่อคนของตระกูลเกาเดินเข้ามา ก็พบว่าหอหมิงเยว่เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงในเรือนกำลังติดตั้งชิงช้า ภายในห้องสะอาดเอี่ยมจนแทบจะสะท้อนแสงออกมานางหวังไม่มีเวลามาสนใจเรือนของชีหยวน บ่าวรับใช้ที่มอบให้ชีหยวน นางก็เลือกให้แบบส่ง ๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อบ่าวรับใช้เหล่านี้มาอยู่กับชีหยวน กลับว่าง่ายและเชื่อ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 75

    ไม่ว่านางหวังจะมองยังไง ก็ไม่ชอบชีหยวนเลยสักนิดเดียวทำไมก่อนที่ชีหยวนจะกลับมา ทุกอย่างภายในจวนราบรื่นดี ลูกชายของนางก็ว่านอนสอนง่าย ลูกสาวก็แสนจะน่ารักอ่อนหวาน ไม่เคยมีเรื่องให้ต้องปวดหัวแต่พอชีหยวนกลับมา ในจวนก็วุ่นวายไม่จบไม่สิ้น!นางถึงขั้นคิดอยากจะเอาวันเดือนปีเกิดของชีหยวนไปดูดวง เพื่อดูว่านางเป็นตัวกาลกิณีหรือเปล่าแม่นมเกาอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจเงียบ ๆถ้าชีหยวนเป็นคนโง่เง่าก็ว่าไปอย่าง อย่างน้อยคนโง่ก็ไร้พิษสง ไม่มีปัญญาคิดอะไรได้ และคงจะพึ่งพาแค่แม่บังเกิดเกล้าของตัวเองเท่านั้น ต่อให้แม่จะไม่รักก็เถอะ แต่นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วแต่ชีหยวนกลับฉลาดล้ำเกินคาด!หากฮูหยินยังกดดันและทำตัวเย็นชาต่อนางเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าคุณหนูใหญ่จะไม่มีวันยอมญาติดีกับฮูหยินอีกแม่นมเกาอยากจะพูดอะไรออกมาหลายครั้ง แต่ก็ส่ายหน้าอย่างจนปัญญาในใจส่วนชีหยวนก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งใดนางหวังไม่ชอบชีหยวน ในชาติที่แล้ว คำพูดเย็นชาเช่นนี้ นางได้ฟังมามากพอแล้ว คำพูดที่รุนแรงและบาดหัวใจยิ่งกว่านี้ นางก็เคยได้ยินมาแล้วเพราะเหตุนี้ คำพูดของนางหวังในตอนนี้จึงไม่ได้มีผลใด ๆ ต่อนางอีกชีหยวนก้มมองช

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 76

    ชีหยวนก้าวไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟัง และฮูหยินผู้เฒ่าชีก็ยื่นมือออกไปจับมือของนาง เหลือบมองตั้งแต่บนลงล่าง เอ่ยพลางยิ้มเล็กน้อย “ช่างหน้าตาเหมือนกับบิดาของเจ้ายิ่งนัก”ทั้งยังถามเรื่องที่ชีหยวนอาศัยอยู่บ้านนอกอีกหลังจากหยุดไปครู่หนึ่งก็ถามเสียงเบา “พ่อแม่บุณธรรมปฏิบัติต่อเจ้าดีหรือไม่?”นางหวังก้มหน้าลงชีเจิ้นก็กระแอมไอเบา ๆ ชีหยวนกลับมาจนถึงตอนนี้ พวกเขายังไม่มีใครถามชีหยวนเรื่องที่บ้านนอกเลยสักคนไม่รู้เพราะเหตุใด จึงมักจะหลีกเลี่ยงเรื่องที่นางเคยถูกเลี้ยงดูอยู่ในบ้านคนขายเนื้อที่บ้านนอกนานกว่าสิบปีโดยไม่รู้ตัวเมื่อเอ่ยขึ้นมาก็รู้สึกขายขี้หน้าชีหยวนคิดสักพัก ก็ถามฮูหยินผู้เฒ่าว่า “ท่านอยากฟังความจริง หรือว่าเรื่องโกหกเจ้าคะ?”การกระทำของฮูหยินผู้เฒ่าชีหยุดชะงัก และมองนางอย่างครุ่นคิด หลังจากนั้นครู่หนึ่งจึงจะเอ่ย “ความจริง”“เช่นนั้นก็ไม่ค่อยดีเท่าใดเจ้าค่ะ” ชีหยวนหลุบตาลงต่ำ “ก่อนรุ่งสางข้าต้องเก็บหญ้าเพื่อให้อาหารปลา พอรุ่งสางแล้วต้องให้อาหารหมู ตอนกลางวันต้องตัดฟืน ทำอาหาร ตอนเย็นต้องซักเสื้อผ้า ทำงานบ้าน ไม่มีเวลาพักเลย และเวลาที่เจ็บป่วย พ่อกับแม่บุญธรรมยังเอาชามที่เ

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 494  

    “ไม่!” ชีหยวนส่ายหน้า มองเซียวอวิ๋นถิงตรง ๆ พลางถามว่า “ท่านอ๋อง หากต้องให้คนอื่นมาพูดแทนท่านปู่และท่านพ่อของข้าน้อย ตรงกันข้าม ขอให้คนของท่านยื่นฎีกาไม่ไว้วางใจท่านพ่อและท่านปู่ของข้าน้อยด้วยดีกว่า!” เหล่าจ้าวคิดในใจ นี่เขาไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง? คุณหนูใหญ่สกุลชีเสียสติไปแล้วหรือ?! ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับเข้าใจความหมายของชีหยวนได้ในทันที การลักลอบค้าขายสิ่งของผิดกฎหมายและการสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกขายชาติให้อริศัตรูถือเป็นแผนการอันชั่วช้าเลวร้ายมากเกินไปจริง ๆ เหตุผลที่ผู่อู๋ย่งทำเช่นนี้ ก็เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็สามารถทำให้สกุลชีสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายพระเนตรของฮ่องเต้หย่งชางนับจากนี้ไปตลอดกาล แม้ภายหลังจะหาตัวคนร้ายที่แท้จริงเจอแล้วก็ตาม ทว่าหากว่า หากว่าชีหยวนถูกลอบสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า และคนในราชสำนักล้วนพากันรุมโจมตีสกุลชี หวังทำลายสกุลชีให้สิ้นซากไป ทว่าต่อมากลับได้ค้นพบความลับในภายหลังว่าเงินตำลึงจำนวนมหาศาลถูกซุกซ่อนไว้ในเรือนเช่าของสกุลสวี ไหนจะคนเหล่านั้นที่เซียวอวิ๋นถิงได้ส่งไปที่จี้โจวแล้วด้วย… เช่นนั้นในตอนนี้ยิ่งทำให้เรื่องราวใหญ่โตอื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 493  

    ตอนที่นางกลับมาถึงหอหมิงเยว่ เซียวอวิ๋นถิงคอยอยู่บนชั้นสองแล้ว เขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ราวกับเดินกลับเรือนของตนเอง ชีหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อคิดได้ว่ามีเรื่องสำคัญ ก็มิได้พูดอะไรมาก เพียงแต่นั่งลง และเอ่ยขึ้นอย่างตรงประเด็น “ข้าน้อยจัดการสังหารสวีซินเฉียวแล้ว เขามิได้เปิดเผยข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์” หนนี้เหล่าจ้าวแอบติดตามมาด้วย วิชายุทธ์ของเหล่าจ้าวนับว่าเลิศล้ำ ดังนั้นต่อให้จะอยู่ห่างไกล เขาก็สามารถได้ยินบทสนทนาของคุณหนูใหญ่สกุลชี มิหนำซ้ำ… ยังพูดอย่างฉะฉานมั่นใจในเหตุผลมากเสียด้วย ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับไม่รู้สึกถึงความผิดปกติแม้แต่น้อย เขามุ่นหัวคิ้วขึ้น พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มีคนแอบติดตามเจ้า” อำนาจของขันทีผู้ใหญ่ประจำกรมขันทีราชพิธีมิใช่เล่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นองครักษ์เสื้อแพรยังแทรกซึมเข้าไปได้ทุกที่ กล่าวได้ว่า นับแต่เสี้ยวขณะที่ชีหยวนถูกลอบสังหาร ทุกการเคลื่อนไหวของนางอยู่ในกำมือของพวกเขาหมดแล้ว ชีหยวนเปล่งเสียงรับคำเบา ๆ สีหน้าท่าทางสงบสุขุมยิ่งนัก “ข้าน้อยทราบแล้ว ดังนั้นหลังจากข้าน้อยสังหารสวีซินเฉียว พวกเขาจะคิดว่าอย่างไร?” จะคิดว่าอย่างไรหร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 492  

    คนเรายามที่ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ก็มักจะเผลอใช้ความคิดฟุ้งซ่านมากลบเกลื่อนความหวาดกลัวและความตกใจของตนเองเสมอ ชีหยวนเผากริชด้วยไฟจนร้อนจัด ก่อนจะดึงหน้านิ่งและเสียบมันเข้าไปที่กระดูกสะบักซ้ายของสวีซินเฉียว จนแทงทะลุไปอีกด้านหนึ่งของเขา ทว่าหนนี้สวีซินเฉียวแม้แต่เสียงร้องก็ยังเปล่งออกมาไม่ได้ ทรุดลงกับพื้นทั้งร่างสั่นเทาและชักกระตุก ดวงตาฉายประกายหวาดกลัว ชีหยวนหยัดกายขึ้นยืน ก่อนจะหมุนตัวกลับไปอย่างเรียบเฉยและส่งยิ้มให้สวีซินเฉียวพลางเอ่ยว่า “ใต้เท้าสวี ท่านจะไม่พูดก็ย่อมได้ ข้าเข้าใจ ว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของคนในสกุล ท่านจะไม่พูดก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่นนั้นพวกเราค่อยพบกันอีกครั้งในยุทธจักรเถิด” นางเอ่ยพลาง ก็ส่ายเทียนไขในมือของตนเองไปมา “ข้าจะส่งท่านเดินทางครั้งสุดท้าย เผาท่านไม่ให้เหลือซาก จะได้ประหยัดแม้กระทั่งโลงศพด้วย ถือเป็นการทำประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อชาวบ้านจี้โจวไปด้วย” ชาวหว่าล่ารุกรานเข้ามาทุกปี ชาวบ้านในที่แห่งนั้นเผชิญหายนะทุกข์ทรมานกันไปแล้วตั้งเท่าใด?! พวกเขาโหดร้ายป่าเถื่อน บุรุษถูกสังหารทันที ส่วนสตรีและเด็กก็กวาดต้อนกลับไปยังทุ่งหญ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 491  

    และทันทีที่ผ้าขี้ริ้วถูกดึงออกมาจากในปาก สวีซินเฉียวไม่แม้แต่จะหยุดชะงักก็อ้าปากหมายจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทันที แต่ชัดเจนว่าความรวดเร็วของชีหยวนยังเร็วกว่าเขามาก เขายังไม่ทันได้อ้าปากส่งเสียง ชีหยวนก็จัดการยัดผ้าขี้ริ้วกลับเข้าไปในปากของเขาอีกครั้งด้วยความรวดเร็วแล้ว และที่ยัดเข้าไปคราวนี้ก็ลึกยิ่งกว่าคราวก่อน แทบจะจุกเข้าไปถึงด้านในลำคอของสวีซินเฉียว ทำให้สวีซินเฉียวถึงขั้นพะอืดพะอมพยายามสำรอกออกมาหลายครั้ง ระดับความตื่นรู้ของคนหนึ่งคน เทียบเท่ากับระดับความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขาได้รับ สำหรับสวีซินเฉียวในยามนี้ก็นับเป็นเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่า เมื่อใดที่สตรีตรงหน้าเอื้อนเอ่ยวาจาน้ำลายหนึ่งหยดของนางคือตะปูหนึ่งดอก หากไม่เชื่อฟังคำพูดของนางแล้ว นางจะแสดงความน่ากลัวอย่างถึงที่สุดออกมา ชีหยวนผุดยิ้มเล็กน้อยพลางหยิบปิ่นปักผมขึ้นมาและปักกลับไปที่มวยผมดังเดิม จากนั้นค่อยแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางขยับข้อมือไปมา “ใต้เท้าสวี ดูท่านสิ เหตุใดท่านจึงไม่เชื่อฟังกันบ้างเจ้าคะ? คนที่ไม่เชื่อฟัง จะต้องถูกลงโทษนะเจ้าคะ” เอ่ยพลาง นางก็เลื่อนมือข้างหนึ่งไปปิดปากสวีซินเฉียวไว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 490

    แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น สวีฮว่านก็ยิ่งระมัดระวังในการกระทำมากขึ้นไปอีกที่จวนไม่เคยจัดงานเลี้ยงหรืองานมหรสพใด ๆ เลยแม้แต่ในงานเลี้ยงวันเกิดของหญิงชรา ก็แค่ให้คนในครอบครัวทานข้าวด้วยกันมื้อเดียวแล้วก็จบกันไปเงินทองในบ้านกองเป็นภูเขา ผ้าไหมผ้าแพรก็มีมากมาย แต่ก็ไม่เคยเอาออกมาใช้แค่เห็นแต่ใช้ไม่ได้ นี่แหละถึงเป็นเรื่องที่อึดอัดใจและกลัดกลุ้มใจที่สุด!นางยังคิดว่าสวีฮว่านคงจะเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิตแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาเหมือนจะคิดตกได้ในทันทีสวีฮว่านยิ้มบาง ๆ พูดอย่างมีนัยยะว่า “เมื่อก่อนใช้ไม่ได้ แต่หลังจากนี้จะใช้ได้แล้ว”ฮูหยินสวีฟังไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร แต่ก็ดีใจยิ่งนัก รีบเปิดคลังเอาหนังสัตว์ออกมา ตัดเสื้อผ้าใหม่ให้เด็ก ๆ ในบ้านกันคนละชุดที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความชื่นมื่นสวีซินเฉียวออกจากบ้านสวีก็ยิ้มแย้มมีความสุขเช่นกันแน่นอนว่ามีความสุขอยู่แล้ว!สิ่งที่เขาทำ เขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นความผิดมหันต์ถึงขั้นถูกตัดหัวและฆ่าล้างเก้าชั่วโคตร แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะมีตระกูลชีเป็นแพะรับบาปไปแล้ววันขึ้นปีใหม่ บังเอิญมีเรื่องมงคล เขาดีใจจนเดินตรงไปที่หอหงเฟิ่นจินที่ค้าขายดีท

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 489

    กลางดึก ของขวัญหลากสีสันที่ได้รับในคืนวันปีใหม่กองเต็มโถงบุปผา ทั้งห้องสวีฮว่านมองแวบเดียวก็ขมวดคิ้ว “ใครเป็นคนส่งของโจ่งแจ้งขนาดนี้?”สวีซินเฉียวเดินออกมาจากหลังฉากกั้นด้วยรอยยิ้มกว้าง พลางหัวเราะ “อารอง เป็นข้าเอง! หลานมิใช่เพิ่งกลับมาจากจี้โจวหรือ? ก็เลยตั้งใจเอาของมาคำนับท่านอารองโดยเฉพาะขอรับ”สีหน้าของสวีฮว่านไม่ได้ดูดีขึ้นเลย พอเห็นเขาก็ตวาดเสียงดังทันที “เจ้าคนสารเลว! เจ้าคิดว่านี่เป็นที่ไหนกัน? คิดว่าเจ้าตัวเองเป็นใคร? ตำแหน่งผู้ตรวจการเมือง มันเด่นขนาดนั้น ยังไม่รู้เหรอว่ามีคนจับตาดูอยู่เท่าไหร่? เจ้ากลัวคนอื่นไม่รู้รึไงว่าเจ้ารับสินบนไปมากแค่ไหน?!” สวีซินเฉียวทำปากเบะทันที สีหน้าดูเหมือนน้อยใจ “ท่านอารอง อย่างน้อยก็ท่านช่วยดูของที่หลานเอามาก่อนเถอะ! เมืองจี้โจวน่ะ อะไรที่ไม่ค่อยมี แต่หนังสัตว์นั้นหลากหลายเยอะสุด หลานกลับมาทั้งที จะเอาของฝากมาฝากท่านอาสะใภ้ กับพวกน้อง ๆ สักหน่อย มันก็เป็นเรื่องที่สมควรไม่ใช่หรือไร? ใครจะมาตำหนิได้ล่ะ?”ว่าแล้ว เขาก็หัวเราะระรื่น พลางขยับยื่นหน้ามาใกล้ “ว่าไปแล้ว ท่านอา เราต่างก็รู้อยู่แก่ใจดี นี่ไม่ใช่เพราะท่านอาช่วยเชื่อมโยงให้หลานได้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 488

    เมื่อเห็นว่าชีหยวนยังเงียบอยู่ เซียวอวิ๋นถิงก็เอ่ยขึ้นก่อน “พวกเขาเป็นครอบครัวทหารตระกูลชีแน่นอน และตลอดหลายปีมานี้ก็มีการติดต่อกับเผ่าหว่าล่าจริง ลักลอบค้าขายเหล็กเถื่อนกับเผ่าหว่าล่า พวกท่านแน่ใจหรือว่าไม่รู้เรื่องนี้เลย?!”ชีเจิ้นไม่สนแล้วว่าคนตรงหน้าคือพระราชนัดดา “พวกเราจะไปทำเรื่องโง่ๆ ทำลายตนเองแบบนั้นได้ยังไง?! ตั้งแต่ไหนแต่ไร แคว้นเรากับเผ่าหว่าล่าก็เป็นศัตรูกันมานาน ญาติพี่น้องของเรากี่คนแล้วที่ต้องตายในมือของเผ่าหว่าล่า เราจะไปสมคบคิดกับพวกมันได้ยังไง?!”สีหน้าของท่านโหวผู้เฒ่าชีซีดขาวราวกับเถ้าถ่านเรื่องคราวนี้เล่นงานเขาจนตั้งตัวไม่ทันจริง ๆจะจัดการยังไงดี? จะทำอย่างไรดีกันแน่?จะติดสินบนเจ้าเมืองทงโจว หม่าเซวียนไหม?ไม่ได้ เรื่องนี้ทำแบบนั้นไม่ได้เบื้องหลังคนพวกนั้นวางแผนมาอย่างดี แสดงว่าจ้องเล่นงานพวกเขาเต็มที่แล้วถ้าให้หม่าเซวียนช่วยกลบเรื่อง จะยิ่งกลายเป็นหลักฐานมัดตัวว่าตระกูลเราสมคบขายชาติครั้งนี้ ดูยังไง ก็เป็นกับดักตายชัด ๆ!เซียวอวิ๋นถิงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะหินเบา ๆ “คดีนี้ อย่างช้าบ่ายนี้ถูกส่งไปถึงมือกรมยุทธนาการ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรมยุทธนาการ ยังไง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 487

    เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือท่านโหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้นแน่นอนคนเหล่านี้น่าจะเป็นครอบครัวทหารจี้โจวจริง ที่มาของพวกเขาคงไม่ปลอมแปลง มิฉะนั้นจะเอาอะไรมาปรักปรำตระกูลชีได้ล่ะ?”ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาถึงได้วางแผนกันใหญ่โตถึงขนาดบุกมาลอบสังหารนางในวันขึ้นปีใหม่ ยังบุกเข้าบ้านพักตระกูลชีเพื่อสังหารหมู่ นี่เป็นการจงใจทำให้เรื่องใหญ่โต“พวกมันไม่กลัวตระกูลชีแจ้งทางการ กลัวแค่ตระกูลชีไม่แจ้งเท่านั้น!”พอแจ้งทางการไปแล้ว เรื่องถึงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องที่ตระกูลชีแอบลักลอบขนอาวุธเหล็กไปขายให้เผ่าหว่าล่าถึงจะถูกเปิดโปงวันขึ้นปีใหม่ทั้งที ให้ตระกูลชีไปตายเสียก็ดูสมเหตุสมผลใช่ไหมล่ะ?ผู่อู๋ย่งแค่นหัวเราะเบา ๆ “แจ้งทางการแล้วหรือ?”เสี่ยวสวีจื่อมือไม้กะล่อยกะหลิบ รีบยื่นมือไปรับถ้วยในมือเขา แล้วเปลี่ยนมานวดไหล่ทุบหลังอย่างเป็นธรรมชาติ พลางกระซิบว่า “คนของเราตามติดอยู่ตลอดขอรับ ตั้งแต่ต้นก็แจ้งทางการแล้ว เพียงแต่ว่า......”ผู่อู๋ย่งเลิกคิ้วขึ้น “เพียงแต่ว่าอะไร?”“เพียงแต่ว่าไม่คิดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลชีจะเก่งขนาดนี้ ระหว่างทางนางคนเดียวฆ่าคนของเราไปแปดคนแล้วขอรับ แม้แต่ลิ่วจื่อที่ฝีมือดีที่สุดก็

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 486

    ให้ตายเถอะ ไปมีเรื่องกับนางไม่ได้จริง ๆระหว่างทางที่มาในเมื่อครู่นี้ เขาได้เจอกับพ่อบ้านของตระกูลชีแล้ว พ่อบ้านของตระกูลชีถึงกับตกตะลึงไปแล้ว แต่ก็ยังยืนยันว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเขาตกใจกลัวอย่างมาก เหล่านักฆ่าพวกนั้นล้วนเป็นองครักษ์ของตระกูลชีที่สังหารไปเองคำพูดพรรค์นี้ ก็คงมีแค่เจ้าเมืองทงโจวเท่านั้นที่เชื่อหลอกผีอยู่รึไงชีหยวนน่ะหรือจะตกใจกลัว?!นางอาจจะทำให้พญายมตกใจกลางดึกได้ แต่ไม่มีทางที่จะถูกนักฆ่าแค่ไม่กี่คนทำให้ตกใจกลัว!ดูจากตอนนี้แล้ว ก็จริงอย่างที่คิดเลยเซียวอวิ๋นถิงจนกระทั่งเห็นนางนั่งอยู่บนขั้นบันไดอย่างปลอดภัย เท้าของนางเหยียบอยู่บนอกของชายคน ถึงได้ถอนหายใจออกมาช้า ๆ เดินเข้าไปใกล้อีกนิด มองชายคนนั้นแวบหนึ่งแล้วถามชีหยวนว่า “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไร อยู่ดีมาก” ชีหยวนไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ยังคงจ้องชายคนนั้นต่อไป “ข้าแนะนำให้เจ้าพูดให้เร็วหน่อย ข้าเป็นคนไม่มีความอดทนมากนัก ถ้าคำตอบของเจ้าไม่ถูกใจข้า หรือบิดเบือนความจริง ข้าก็รีบจะถลกหนังเจ้าไปทำกลองหนังมนุษย์เสีย ส่วนพวกพ้องของเจ้าข้าง ๆ ข้าก็จะเอาพวกเขาทำเป็นโคมไฟหนังมนุษย์ ส่งไปให้เจ้านายของเจ้าด้วย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status