แชร์

บทที่ 23

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
จวนหย่งผิงโหวเริ่มเตรียมงานเลี้ยงอย่างครึกครื้น

โดยแขกที่ต้องเชิญมาร่วมงานคนแรกก็คือครอบครัวของท่านเสนาบดีหลู ผู้บังคับบัญชาของชีเจิ้น

เมื่อมีงานเลี้ยง ก็จำเป็นต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าอาภรณ์ชุดใหม่

คนจากตระกูลเกายกหีบผ้าไหมมายังห้องของนางหวัง พลางเปิดให้นางได้เชยชม “ฮูหยินเจ้าคะ ผ้าของปีนี้ช่างงดงามยิ่งนัก เนื้อผ้าละเอียดกว่าทุกปีที่ผ่านมาเลยนะเจ้าคะ”

นางหวังเหลือบมอง ก่อนจะพยักหน้า “ผ้าสีเหลืองทองผืนนั้นเก็บไว้ทำชุดใหม่ให้แม่สามีข้า ส่วนที่เหลือนำไปให้คุณหนูใหญ่เถิด นางเพิ่งกลับมา เสื้อผ้าที่ใส่อยู่คงใช้ไม่ได้แล้ว”

ที่จริงแล้ว ตอนแรกนางหวังไม่ได้คิดจะทำชุดใหม่ให้ชีหยวนเลย

เป็นฮูหยินรองและฮูหยินสามต่างหากที่แอบเปรยเรื่องนี้ขึ้น

แม้แต่ชีเจิ้นที่ปกติจะไม่ยุ่งเรื่องภายในจวน ยังเข้ามาพูดกับนางอย่างตรงไปตรงมา “หาเวลาทำชุดใหม่ให้อาหยวนสักสองสามชุดเถิด ชุดที่นางใส่ดูไม่งามเลย อย่าละเลยนางนักสิ”

เมื่อนึกถึงคำพูดเหล่านั้น นางหวังก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจนัก

ก่อนที่ชีหยวนจะกลับมา ชีเจิ้นเคยพูดแบบนี้กับนางที่ไหนกัน?

พูดราวกับว่านางใจร้ายกับลูกแท้ ๆ ของตัวเองอย่างนั้นแหละ

จริง ๆ เลย...

นา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ส.สุพัตรา ครอบครัวไก่ชน
สมัครสมาชิกคือสามารถอ่านทุกตอนได้จนครบเวลา1อาทิตย์ ใช่ไหม
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 24

    ชีหยวนยังคงก้มหน้าอย่างเจียมตัว ไม่แสดงอาการว่าได้ยินหรือไม่นางหวังส่งสายตาจิกกัดใส่ชีอวิ๋นถิงแต่ชีอวิ๋นถิงกลับลุกพรวดขึ้นมา และกระแทกตัวชีหยวนอย่างโกรธเกรี้ยว “ถอยไปไกล ๆ ข้าหงุดหวิดที่เห็นหน้าเจ้า!”ลูกไม่รักดี!นางหวังรู้สึกเลือดลมเดือดพล่านภายในร่างกายทุกสิ่งที่นางพร่ำสอนตั้งมากมายกลับไร้ความหมาย!ชีเจิ้นตีเขาแท้ ๆ แต่เขากลับไม่หลาบจำเลยสักนิด!ทว่าเพราะนางไม่อยากจะดุด่าลูกชายต่อหน้าชีหยวน นางจึงทำได้เพียงแสร้งไม่ได้ยินจนกระทั่งชีอวิ๋นถิงเดินออกไปอย่างหงุดหงิด นางถึงได้หันมามองชีหยวนด้วยสีหน้าบึ้งตึง “เขายังเด็ก มักจะพูดจาโดยไม่ทันคิด เจ้าอย่าไปถือสาเขาเลย”ชีหยวนรู้สึกขำอยู่ในใจ นางเอ่ยถามเบา ๆ “เขาไม่ใช่พี่คนโตของจวนหรือเจ้าคะ”นางหวังถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น ชีหยวนช่างดื้อรั้นเสียจริง!เป็นเด็กสาวต้องเรียนรู้ที่จะอ่อนน้อม ต้องรู้จักก้มหน้าโอนอ่อน จึงจะทำให้คนรู้สึกรักใคร่เอ็นดูแต่ชีหยวนน่ะหรือ? นางเป็นเหมือนก้อนหินในห้องส้วม ทั้งเหม็นและแข็งกระด้าง!นางหวังจึงจำเป็นต้องตำหนิชีหยวน “เจ้ารู้ว่าเขาเป็นพี่คนโตของจวน ก็ควรจะ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 25

    นางเกลียดชังชีหยวนมากกว่าสิ่งใดนางไม่เข้าใจว่าในหัวของเด็กคนนี้กำลังคิดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ ถึงได้มีความคิดที่น่ากลัวเช่นนี้!คนปกติจะคิดแบบนี้ได้อย่างไร!เด็กที่นางเลี้ยงมากับมือ นางจะไม่รู้หรือว่าลูก ๆ ของนางเป็นคนเช่นไร?แต่ชีเจิ้นกลับมองนางด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “พวกเขาไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ ใช่หรือไม่?”คำถามสั้น ๆ ทำให้นางหวังถึงกับนิ่งงัน นางอ้าปากราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง “แต่ว่า…..”“ไม่มีแต่!” ชีเจิ้นแสดงอำนาจของประมุขตระกูลออกมา “ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งต้องระมัดระวังเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง นี่เป็นเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องเสียหาย!”ตระกูลของพวกเขาจะต้องไม่มีเรื่องอื้อฉาวระหว่างพี่น้องเกิดขึ้นเด็ดขาดแม้ว่าชีจิ่นจะไม่ใช่บุตรีแท้ ๆแต่ที่ผ่านมานางถูกเลี้ยงดูอยู่ในจวนหย่งผิงโหว และเติบโตขึ้นมาพร้อมกับชีอวิ๋นถิง หากวันหนึ่งนางกลายมาเป็นสะใภ้ของจวนหย่งผิงโหวแม้คนนอกจะรู้ว่าชีจิ่นไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่ก็คงจะลือกันว่าจวนหย่งผิงโหวสกปรก และคงจะคิดว่าทั้งสองต้องสานสัมพันธ์กันมานานแล้วอย่างแน่นอนจวนหย่งผิงโหวรับเรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด!นางหวังรู้ดีว่านางไม่มีทางที่จะคัดค้านผู้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 26

    วิทยายุทธ์ก็สอนไปทั้งหมดแล้วสุขภาพของซีอวิ๋นถิงนั้นดียิ่งนัก มีอาการปวดหัวและเป็นไข้น้อยมากเหตุใดถึงได้หมดสติไปกะทันหัน นางหวังตกใจจนอกสั่นขวัญหายชีเจิ้นก็รู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน แต่ว่ายังคงพยายามปลอบใจนาง “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก เจ้าวางใจเถิด พวกเราลองไปดูกันก่อน จะต้องไม่เป็นไรแน่”นางหวังร้องไห้สะอึกสะอื้น ตามชีเจิ้นไปที่เรือนของชีอวิ๋นถิงเมื่อพวกเขาไปถึง ชีจิ่นก็รีบเร่งมาถึงแล้วเช่นกันใบหน้าของชีจิ่นเต็มไปด้วยน้ำตา เสื้อคลุมอันงดงามที่มาจากผ้าไหมสูจิ่นเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนเมื่อพบนางหวัง ชีจิ่นก็เรียกมารดาอย่างสะอึกสะอื้นในทันที พลางคว้าแขนเสื้อของนางไว้ “ท่านแม่ข้าได้ยินว่าท่านพี่เป็นลมไป ข้าตกใจเหลือเกินเจ้าค่ะ……”ถึงอย่างไรก็เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เยาว์วัย ย่อมมีความมีผูกพันที่แตกต่างกันนางหวังคิดในใจ พลางแสดงสีหน้าอบอุ่น ปลอบโยนนางด้วยเสียงแผ่วเบา “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร บิดาของเจ้าให้คนไปเชิญหมอหลวงมาแล้ว จะต้องไม่เป็นไรแน่”สาวใช้ที่อยู่ข้างกายชีจิ่นรีบพูดขึ้นว่า “ใช่เจ้าค่ะ ดูตัวท่านเองสิเจ้าคะ พอได้ยินข่าวก็วิ่งมาที่นี่โดยไม่คำนึงอันใดเลย ทั้งยังล้มลงอีกด้วย เน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 27

    สีหน้าของชีเจิ้นเขียวคล้ำลงแล้วเปลี่ยนเป็นซีดขาวจากนั้นก็เขียวคล้ำลงอีกครั้ง หงุดหงิดอย่างที่สุดในฉับพลันนั่นก็ไม่ใช่นี่ก็ไม่ใช่ ตกลงแล้วเกิดอันใดขึ้นกันแน่?ชีอวิ๋นถิงกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงไม่หยุด ราวกับกุ้งฝอยที่ถูกโยนลงไปในหม้อที่มีน้ำเดือดอย่างไรอย่างนั้นนางหวังน้ำตาไหลพรั่งพรู “ท่านหมอหลวง ท่านรีบคิดหาวิธีเข้าเถิด คงจะปล่อยให้เขาต้องเจ็บปวดเช่นนี้ต่อไปใช่หรือไม่?”แม่ลูกเชื่อมใจถึงกัน ตอนนี้ชีอวิ๋นถิงกำลังทุกข์ทรมาน ก็ราวกับว่ามีคนเอามีดมากรีดเนื้อของนาง หากสามารถเจ็บปวดแทนชีอวิ๋นถิงได้ นางจะไม่ลังเลแม้แต่น้อยหมอหลวงลูบเคราของตนอย่างรู้สึกลำบากใจ “ข้าจะจ่ายยาสงบจิตให้เขาก่อน ลองดูว่าเขาดื่มไปแล้วจะสามารถดีขึ้นได้บ้างหรือไม่”หากหาต้นตอของปัญหาไม่เจอ ก็ไม่สามารถจ่ายยาที่ถูกต้องได้ หมอหลวงก็ไม่แน่ใจอยู่บ้างเช่นกันทว่าตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ชีเจิ้นตัดสินใจ “เช่นนั้นก็ดื่มยาก่อนเถิด”ทุกคนกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการต้มยา เพื่อป้อนให้กับชีอวิ๋นถิงตอนนี้ดึกมากแล้ว ชีหยวนหาวขึ้นมาเบา ๆ เหลียนเฉียวรีบกระซิบเตือนนาง “คุณหนู ตอนนี้ดึกมากแล้ว ข้าจะคอยปรนนิบัติ ท่านไปพักผ่อนสัก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 28

    เขาตวาดอย่างรำคาญในทันที “ไม่พบ! มีเรื่องอันใดไว้ค่อยคุยกันในภายหลัง!”หลิวจงลำบากใจเล็กน้อย “ท่านโหว นางบอกว่า นางบอกว่ามาเพราะเรื่องคุณชายใหญ่ขอรับ”ชีเจิ้นขมวดคิ้ว ยังคงระงับความหงุดหงิดเอาไว้แล้วเรียกแม่นมจางเข้ามาพอแม่นมจางเข้ามาก็คุกเข่าอยู่ที่พื้น ชีเจิ้นไม่อยากพูดไร้สาระแม้แต่คำเดียว จึงกล่าวโดยไม่อ้อมค้อม “มีเรื่องอันใดถึงต้องมาดึกดื่นค่อนคืนขนาดนี้?”ชีอวิ๋นถิงดูเหมือนจะดีขึ้นแล้ว อยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงพลางหายใจหอบหนักนางหวังกำลังโอบกอดเขาไว้ ตบเบาๆ ที่หลังของเขาไม่หยุด อยากทำให้เขาสบายขึ้นมาบ้างอย่างสุดกำลังแม่นมจางไม่กล้ามองไปรอบ ๆ ก้มหน้ากำมือของตนไว้แน่นด้วยความประหม่า พลางกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ “ท่านโหว ฮูหยิน บ่าว บ่าวมีเรื่องจะรายงานเจ้าค่ะ!”นางหวังจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ชีเจิ้นจิตใจว้าวุ่น ตำหนิออกมาตรง ๆ “มีอันใดจะพูดก็พูดมา!”แม่นมจางโขกศีรษะกระแทกกับพื้นอย่างแรง พลางกล่าวอย่างเคร่งเครียดว่า “เรียนท่านโหว เรียนฮูหยิน บ่าวเห็น บ่าวเห็นคุณหนูใหญ่ใช้คาถาสาปแช่งคุณชายใหญ่อยู่ในจวนเจ้าค่ะ!”ทุกคนต่างก็ตะลึงงันเสียงต่าง ๆ ที่อยู่ภายในห้องเงียบสงั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 29

    ใบหน้าของเขาไร้ความรู้สึก แต่นางหวังกลับตะโกนด้วยเสียงอันดัง “ช้าก่อน!”นางวางชีอวิ๋นถิงลงที่พื้นอย่างแผ่วเบา ให้แม่นมอู๋มาดูแลเขาอย่างดี ส่วนตนเองจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เม้มริมฝีปากพลางกล่าวว่า “ข้าจะไปกับท่าน!”มีคนกล้าทำร้ายบุตรชายของนาง นั่นก็หมายความว่าเป็นศัตรูของนางด้วย!ต่อให้คนผู้นั้นคือชีหยวน เป็นบุตรสาวที่นางเพิ่งจะพาตัวกลับมาก็เช่นเดียวกันความอดทนของนางที่มีต่อชีหยวนได้ถึงขีดจำกัดแล้ว เดิมทีหากว่าชีหยวนตรงไปตรงมาไร้เล่ห์เหลี่ยม ต่อให้นางจะไม่ชอบบุตรที่นางไม่คุ้นเคยผู้นี้สักเท่าใดนัก แต่ก็จะเลี้ยงดูนางต่อไปเพลานี้ เป็นชีหยวนเองที่มองข้ามความดีของผู้อื่น!หรือนางคิดอย่างไร้เดียงสาว่า จะอาศัยวิธีการสกปรกชั้นต่ำพวกนี้มาทำร้ายชีอวิ๋นถิงจนตาย แล้วตนเองจะได้เอ็นดูนางขึ้นมาบ้างอย่างนั้นหรือ? ฝันไปเสียเถิด!ชีเจิ้นไม่มีความเห็นใด ๆ รอจนนางหวังจัดที่จัดทางให้ชีอวิ๋นถิงเสร็จแล้ว ก็รีบพาพวกนางมุ่งหน้าไปที่หอหมิงเยว่ชีจิ่นกัดริมฝีปาก ราวกับว่าเพิ่งจะตระหนักได้ในภายหลังทว่าในใจของนางรู้ดี ว่านี่เป็นแผนการร้ายที่ชีอวิ๋นถิงมุ่งเป้าไปที่ชีหยวนก็เท่านั้นเล่ห์กลเช่นนี้ พ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 30

    ชีหยวนขมวดคิ้ว และยื่นมือออกมาคว้ามือของนางหวังเอาไว้นึกไม่ถึงว่าการตบของนางหวังจะล้มเหลว และในทางกลับกันข้อมือของนางยังถูกชีหยวนจับเอาไว้แน่นเสียจนรู้สึกเจ็บนางเด็กสารเลวคนนี้!นางหวังรู้สึกเจ็บปวดและอับอายจนเกิดโทสะ ไม่รู้ว่าเหตุใด ทันใดนั้นนางก็นึกถึงเรื่องตอนนั้นที่ชีอวิ๋นถิงจะตีชีหยวน แต่กลับถูกชีหยวนหลบได้ และกลับเป็นตนเองที่ล้มลงและบาดเจ็บไปทั่วร่างตอนนั้นชีอวิ๋นถิงบอกว่านางมีวรยุทธ์ มีพลังมหาศาลนางเริ่มรู้สึกว่าชีหยวนแปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่านางเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ของตน ต่อให้เป็นบุตรสาวแท้ ๆ แล้วอย่างไรเล่า?ถูกเลี้ยงดูจากภายนอกมาสิบกว่าปี ไม่รู้ไส้รู้พุง ขนาดนิสัยของนางยังไม่รู้เลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อในของนางเป็นเช่นไรกันแน่ก็ยิ่งไม่รู้เมื่อคิดเช่นนี้ นางจึงไม่มีความเมตตาอ่อนโยนต่อชีหยวนอีกต่อไป มีแค่เพียงความเกลียดชังเท่านั้นนางจับจ้องไปที่ชีหยวนอย่างขุ่นเคือง “พวกไม่มีผู้ใดสั่งสอน! มารดาของเจ้าตีเจ้า เจ้าถึงกลับกล้ากันเอาไว้เชียวหรือ!”เหลียนเฉียวที่อยู่ด้านข้างร้อนรนจนแทบจะร้องไห้ ทว่านางรู้ตัวเองดีว่าเป็นคนต่ำต้อย คำพูดย่อมไม่มีน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 31

    มีชีเจิ้นคอยออกคำสั่ง แม่นมจางก็ยิ้มอย่างแสแสร้งให้กับชีหยวน พลางพูดจาเหน็บแนม “คุณหนูใหญ่ ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ท่านอย่าได้ดิ้นรนอีกเลยเจ้าค่ะ บ่าวเห็นมากับตา จะพลาดได้เช่นไรกันเจ้าคะ?”ดวงตาของนางเป็นประกายด้วยความพึงพอใจทำอันใดไม่ได้แล้ว นางยืนอยู่ฝั่งชีอวิ๋นถิงกับชีจิ่นในเมื่อเลือกข้างแล้ว ย่อมต้องหวังให้ชีหยวนไปให้พ้นยิ่งไกลเท่าใดยิ่งดีชีหยวนมองนางอย่างเย็นชา “ข้าไม่ได้พูดกับเจ้า! ไปให้พ้น!”แม่นมจางอับอายขายหน้าไปชั่วขณะ ยืดอกเข้าขวางด้วยความหุนหันพลันแล่น “คุณหนูใหญ่ บ่าวแค่ปฏิบัติตามคำสั่งเท่านั้น ท่านอย่ามัวโต้เถียงกับบ่าวอยู่ที่นี่อีกเลยเจ้าค่ะ… ”นางถึงขั้นเตรียมเอื้อมมือจะไปดึงชุดของชีหยวนเสียด้วยซ้ำชีเจิ้นกับนางหวังไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อยชีหยวนสีหน้าไร้ความรู้สึก ยกมือขึ้นทั้งซ้ายและขวา แล้วตบเข้าไปที่ใบหน้าของแม่นมจางทั้งสองข้างกลางดึกอันเงียบสงัด เสียงตบทั้งสองครั้งดังชัดเจนเป็นพิเศษแม่นมจางถูกตบจนมึนงง ไม่คิดไม่ฝันว่าชีหยวนจะหยาบคายได้ถึงเพียงนี้!นางเด็กบ้านนอกสมควรตายผู้นี้!มิน่าเล่าทั้งตระกูลถึงไม่มีใครชื่นชอบนางแม้แต่คนเดียว!ไม่มีความเป็นกุ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 176

    นางร้องไห้พลางพูดว่า “ไม่ได้ ข้าต้องกลับไป! หรูอี้สุขภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้ว หากข้าไม่อยู่ที่จวน ไม่รู้ว่าแม่สามีจะทำอย่างไรกับนางบ้าง!”ฮูหยินผู้เฒ่าชีโกรธจนมือสั่นเพิ่งจะกลับมาบ้านเดิมไม่ทันไร เด็กก็ป่วยเสียแล้ว ไหนเลยจะบังเอิญเช่นนี้?นี่มันชัดเจนว่ากำลังใช้ลูกมาเป็นเครื่องมือบีบคั้นตระกูลชี คิดว่าตนเองเหนือกว่าจึงไม่หวาดกลัว พวกเขามั่นใจว่าชีฟางอวิ๋นไม่อาจทิ้งลูกได้ฮูหยินผู้เฒ่าชีอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วมองไปที่ชีหยวน “อาหยวน เจ้ามีวิธีอะไรบ้างหรือไม่?”“วิธีมีมากมายเจ้าค่ะ” ชีหยวนยิ้มบาง ๆ ก่อนตอบ “เพียงแค่ต้องดูว่าท่านป้าจะยอมเสียสละอะไรหรือไม่เท่านั้น”ฮูหยินผู้เฒ่าชีตัดสินใจแทนบุตรสาวทันที “ยอม! หากพวกเขากล้าก่อเรื่อง เราก็จะตอบโต้ด้วยเรื่องที่ใหญ่กว่า! เจ้าลงมือจัดการไปได้เลย!”พอเห็นชีหยวนเดินออกไป ชีฟางอวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองคนทั้งสามในห้อง “ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ หมายความว่าอย่างไรกัน? ทำไมพวกท่านถึงให้ชีหยวนเป็นคนจัดการเรื่องนี้เล่าเจ้าคะ?”ชีเจิ้นมีสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อยแต่ฮูหยินผู้เฒ่าชีกลับยิ้มบาง ๆ “เพราะไม่มีใครเหมาะที่จะช่วยเจ้าแก้แค้นไ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 175

    นางฟังผิดไปหรือไม่?เรื่องแบบนี้ ไฉนจึงไปถามเด็กสาวผู้ยังมิได้ออกเรือน?จริงสิ ตั้งแต่นางมาถึงก็ไม่เห็นสะใภ้ใหญ่ หวังซื่อ เลยสักครั้ง!ตามปกติแล้ว หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ไม่ใช่ว่าควรที่จะเรียกสะใภ้ใหญ่มาคิดหาวิธี แล้วจึงเอ่ยปลอบหรอกหรือ?หรือว่าในจวนนี้มีเรื่องใดเกิดขึ้น?สุนัขที่ฮูหยินผู้เฒ่าชีเลี้ยงไว้เดินวนเวียนอยู่รอบปลายเท้าของชีหยวน นางจึงอุ้มมันขึ้นมาลูบเล่นเบา ๆ ครั้นได้ยินคำถามของฮูหยินผู้เฒ่าชี นางจึงหันไปมองชีฟางอวิ๋น และกล่าวด้วยเสียงทุ้มว่า “ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านป้าอยากให้เป็นเช่นไร?”......ชีฟางอวิ๋นกล่าวด้วยความขมขื่นเต็มอกว่า “ข้าจะทำอะไรได้เล่า? บ้านพวกเขาก็แสดงให้เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องการบีบคั้นข้า เห็นว่าตอนนี้ลูกของข้าก็โตจนถึงวัยที่จะแต่งงานแล้ว อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ จะทะเลาะกับพวกเขาก็ทำไม่ได้!”ฮูหยินผู้เฒ่าชีก็อดกลั้นความโกรธไว้อย่างสุดกำลัง “เรื่องภรรยาเท่าเทียมนี้มันไร้สาระสิ้นดี! ภรรยาเท่าเทียมอะไร ตระกูลที่มีกฎเกณฑ์ไม่เคยยอมรับเรื่องเหล่านี้ มีแต่พวกพ่อค้าต่ำศักดิ์เท่านั้นที่ทำกัน พูดว่าเท่าเทียมกัน แต่เอาเข้าจริง ๆ มันก็แค่ปัญหายุ่งเหย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 174

    แต่ก่อนไม่มีการเปรียบเทียบ ดังนั้นท่านโหวผู้เฒ่าจึงรู้สึกว่าแม้บุตรชายจะไม่มีความสามารถมากนัก แต่อย่างน้อยก็สามารถรักษาสิ่งที่มีไว้ได้แต่ตอนมีชีหยวน หลานสาวที่เด็ดขาดและเฉียบขาดเป็นตัวเปรียบเทียบ เขาจึงรู้สึกว่าบุตรชายช่างลังเลและไม่มีความกล้าหาญเช่นบุรุษเสียเลยเขาจึงไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป พูดตรงไปตรงมาว่า “บุตรสาวของเจ้าได้เลือกทางเดินให้เจ้าแล้ว เจ้าคิดว่าเจ้ายังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ เจ้ากำลังเพ้อฝันอยู่หรือไง?”ชีเจิ้นยิ้มขมขื่นใช่แล้ว เหตุผลที่ชีหยวนยอมลดตัวกลับมา ท้ายที่สุดก็คงเป็นเพราะข่าวของพระชายาหลิ่วที่เขามีอยู่ในมือเขาถอนหายใจช้า ๆ “เช่นนั้นลูกจะไปหานาง...”ก่อนที่คำพูดจะจบ หลิวจงเคาะประตูพลางหอบหายใจ “ท่านโหวผู้เฒ่า ท่านโหว! เกิดเรื่องแล้วขอรับ!”......ไยถึงมีเรื่องอีกแล้ว?ชีเจิ้นนวดหัวคิ้วตัวเอง มองไปทางผู้เป็นบิดาอย่างอ่อนใจ แล้วตะโกนเสียงต่ำ “เข้ามา!”เมื่อหลิวจงเข้ามา เขาก็รีบถามทันที “คุณหนูใหญ่ทำอะไรอีกหรือ?”หลิวจงอุทานอย่างสงสัยออกมาหนึ่งที ก่อนจะเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของตน “คุณหนูใหญ่? ท่านโหว ไม่ใช่คุณหนูใหญ่หรอกขอรับ!”โหวผู้เฒ่ากระแอมไอออกมาเบา ๆ หน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 173

    อ๋องฉีไม่รู้สึกว่านี่เป็นความโชคดี เมื่อเซี่ยกงกงยิ้มแย้มอีกครั้งและนำพระราชโองการมา เขาก็รู้สึกว่าโลหิตในร่างกายไม่ไหลเวียนตั้งแต่ยังเยาว์วัย อ๋องฉีได้รับความรักความเอ็นดูมากที่สุด ความยากลำบากที่สุดที่อ๋องฉีเคยได้ประสบคือสมรสพระราชทานที่ให้เขาแต่งหญิงกำพร้าเป็นพระชายาแต่เรื่องนั้นก็ถูกเขาจัดการได้ในทันที เขาก็เป็นคนแบบนี้ เห็นอะไรที่ไม่ถูกใจก็ไม่ทนแต่ครั้งนี้ เขาถึงกับถูกลดบรรดาศักดิ์เป็นจวิ้นอ๋อง!จวิ้นอ๋องกับชินอ๋อง ต่างกันเพียงตัวอักษรเดียว แต่สิ่งที่ได้รับห่างไกลกันมาก สิ่งที่เขาต้องเสียไปไม่ใช่เพียงแต่เงินทองปีละน้อยนิดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองครักษ์ด้วยตามปกติ ชินอ๋องที่ไปเขตปกครองมักจะมีกองทหารองครักษ์ตั้งแต่สามถึงห้าหมื่นนาย ซึ่งเป็นกองทหารองครักษ์ส่วนตัวและเป็นรากฐานความปลอดภัยในชีวิตของอ๋องผู้นั้นแต่หากเป็นจวิ้นอ๋อง ไม่เพียงจำนวนกองกำลังจะต้องลดลงกว่าครึ่งหนึ่งเท่านั้น ยังมีผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ได้รับน้อยลงทั้งหมดอีกด้วยเขากัดฟันขอบพระทัย พอกลับเข้ามาก็ทำลายทุกสิ่งที่สามารถทุบทำลายได้ในห้องหนังสือในราชวงศ์ต้าโจว อ๋องฉีผู้ซึ่งเคยได้รับเกียรติเหนือกว่ารัชทายาท พลั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 172

    จวนอ๋องนั้นถูกสร้างเสร็จสิ้นหลังจากผ่านไปสามปีพวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาที่ร่วมทุกข์สุขด้วยกันจริง ๆ ได้ไปยังจางโจวแดนดินที่แสนจะทุรกันดาร ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ปกครอง ร่วมกันสร้างจวนอ๋องจากที่ไม่มีอะไรเลย ให้ความรู้ชาวบ้านและสร้างท่าเรือรอคอยจนกระทั่งสถานการณ์พลิกผัน เขาได้เข้าเมืองหลวงขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่พระชายาหลิ่วกลับเป็นแค่พระชายาเอกในอ๋องตลอดไปถึงแม้ทุกวันนี้เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชางยังคงรู้สึกเจ็บปวดหลังจากที่อ๋องฉีประสูติ จำนวนครั้งที่เขาฝันถึงพระชายาหลิ่วก็ค่อย ๆ ลดลงด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงรู้สึกยิ่งว่าอ๋องฉีคือพระโอรสที่เขาและพระชายาหลิ่วสูญเสียไป และเด็กคนนั้นได้กลับมาเกิดใหม่เพื่อเป็นพระโอรสของเขาอ๋องฉีคือพระโอรสที่เขาได้อุ้มบ่อยมากที่สุดความรู้สึกผิดที่ยากจะบรรยายเหล่านั้นกลายเป็นความรักที่เขามีต่อพระโอรสผู้นี้หลิ่วกุ้ยเฟยทราบดีถึงพระทัยของฮ่องเต้หย่งชางในเวลานี้สิ่งที่นางเพียรพยายามทำมาโดยตลอด ในที่สุดบัดนี้ก็ได้ผลแล้วนี่ก็คือเหตุผลที่นางใช้วิธีต่าง ๆ ทุกวิถีทาง เพื่อให้ฮ่องเต้หย่งชางมีส่วนร่วมในการเติบโตของอ๋องฉีความรู้สึกนั้นเกิดขึ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 171

    เขากล่าวหนึ่งประโยค ดวงหน้าของหลิ่วกุ้ยเฟยก็ยิ่งซีดเซียวขึ้นอีก จนกระทั่งท้ายที่สุด สีหน้าก็ซีดเหมือนกระดาษนางเริ่มไอไม่หยุดและหอบหายใจถี่ “ทั้งหมดนี้ล้วนเพราะหม่อมฉัน หม่อมฉันผิดที่ตามใจเจ้าสามเกินไป! ทำให้เขาทำตัวไร้กฎเกณฑ์ คิดว่าตนเองสำคัญ...”น้ำตาของนางไหลพรูไม่หยุด สะอื้นอย่างห้ามไม่ได้ “หากพี่สาวบนสวรรค์รับรู้ว่าหม่อมฉันได้สั่งสอนเขาให้เป็นเช่นนี้ คงโกรธหม่อมฉันแน่ หม่อมฉันจะมีหน้าไปพบพี่สาวผู้ล่วงลับได้อย่างไร?”เมื่อกล่าวถึงพระชายาหลิ่ว นางก็ร้องไห้หนักยิ่งขึ้น ตอนแรกยังพยายามกลั้นเสียงร่ำไห้เบา ๆ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็คุมอารมณ์ไม่อยู่สีพระพักตร์ของฮ่องเต้หย่งชางก็ไม่สู้ดีนัก พระองค์หลับตาลง และตำหนิว่า “พูดเรื่องเหล่านี้ไปทำไม?! มันเกี่ยวข้องอะไรกับนาง?”แต่ในขณะทั้งสองคนกำลังพูดกัน ในที่สุดก็รบกวนองค์หญิงหมิงเฉิงที่อยู่ข้าง ๆเมื่อองค์หญิงหมิงเฉิงลืมตาขึ้น ทันทีที่ได้ยินเสด็จพ่อเสด็จแม่พูดคุยกัน โดยเสด็จพ่อมีน้ำเสียงไม่ดีนัก นางก็ตกใจจนร่ำไห้ว่า “เสด็จพ่อ เสด็จแม่อย่าทะเลาะกันเลยเพคะ อย่าทะเลาะกัน!”เด็กน้อยร่ำไห้มากจนดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำราวกระต่ายน้อยหลิ่วกุ้ยเฟ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 170  

    องค์หญิงน้อยตัวอ่อนยวบในอ้อมแขน น้ำเสียงยังฟังอ้อแอ้น่าเอ็นดู ฮ่องเต้หย่งชางแม้จะเดือดดาลเพียงใดในยามนี้ก็ต้องคลายโทสะลงในทันใด เขาผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก็มองอ๋องฉีพลางตำหนิอย่างเย็นชา “เจ้ายังรู้ประสาไม่เท่าเด็กสามขวบคนนี้เสียด้วยซ้ำ!” องค์หญิงเป่าหรงส่งสายตาให้อ๋องฉีทันที อ๋องฉีคลานเข่าไปด้านหน้ากอดขาฮ่องเต้หย่งชางไว้พลางร้องเรียกเสด็จพ่อ “เสด็จพ่อ ลูกสมควรตาย! ลูกสมควรตาย! เสด็จพ่อ ลูกสมควรตาย!” ทันทีที่เขาร่ำไห้ออกมา องค์หญิงหมิงเฉิงที่กำลังสะอื้นเบา ๆ อยู่ในตอนแรกก็ส่งเสียงร้องไห้โยเยดังสนั่นออกมาอีกครั้ง พลางดีดดิ้นจะลงไปด้านล่าง “พี่สาม! พี่สามอย่าร้องไห้ พี่สามอย่าร้องไห้!” องค์หญิงเป่าหรงรีบสาวเท้าเข้าไปพลางยื่นมือออกไปรับองค์หญิงหมิงเฉิงเข้ามาในอ้อมแขน ก่อนจะอุ้มขึ้นมาพลางกระซิบเอ่ยวาจาปลอบโยน กับสิ่งที่เรียกว่าน้ำตาต้องรู้จักเลือกจังหวะและโอกาสให้เหมาะสม ร้องไห้ครู่หนึ่งจะทำให้คนรู้สึกสงสารเห็นใจ หากว่าร้องไห้นานเกินไป กลับจะทำให้คนมีแต่รู้สึกรำคาญและโมโหง่ายขึ้น ฮ่องเต้หย่งชางเห็นองค์หญิงเป่าหรงเชื่อฟังรู้กาลเทศะ องค์หญิงหมิงเฉิงก็ไร้เดียงสาน่าเอ็นดู โทสะที

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 169  

    ภายในใจของขันทีสวีบัดนี้ทนไม่ไหวแล้ว ทว่าเขาต้องทำใจดีสู้เสือไว้ ถึงอย่างไรจินเป่าก็เป็นเด็กที่เขาเลี้ยงดูมากับมือ เขาไม่มีบุตร จินเป่าก็ไม่ต่างจากบุตรคนหนึ่งของเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงกัดฟันแน่น ก่อนจะตัดสินใจฝ่าอันตรายเข้าไปด้านหน้าและคุกเข่าร้องขอความเมตตาด้วยเช่นกัน “ท่านอ๋อง! บัดนี้มิใช่เวลาจะมาโกรธกริ้วขอรับ มาคิดหาหนทางกันก่อนเถิดขอรับ ว่าควรจะแก้ไขปัญหาอย่างไรดีท่านอ๋อง!” จะแก้ไขปัญหาอย่างไรหรือ?! สีหน้าของอ๋องฉีเคร่งขรึมดุจน้ำลึก โทสะพลุ่งพล่านถึงขีดสุดแล้ว ทว่าเขากลับเยือกเย็นลงได้อย่างรวดเร็ว ชีหยวนขุดหลุมพรางหลอกเขามากมายเพียงนี้ ก็เพื่อให้เขาถูกคนนับพันรุมชี้นิ้วประณาม แต่คิดจริงหรือว่ามันจะง่ายดายเพียงนั้น? เขาเลื่อนมือไปเช็ดโลหิตที่ไหลซึมออกมาเพราะทุบตีข้าวของจนถูกบาดเป็นแผลบนตัวจินเป่าซึ่งอยู่ด้านข้างอย่างเลือดเย็น ก่อนจะเดินออกไปด้วยสีหน้ามืดครึ้ม จินเป่าตัวสั่นเทิ้ม เขารู้ดีแก่ใจ หากเมื่อครู่ท่านอาจารย์มิได้กล่าวประโยคนั้นออกมา บัดนี้ตนเองคงกลายเป็นศพไปแล้ว หนีรอดจากความตายออกมาได้ เขาก็ร่ำไห้ปล่อยโฮออกมาอย่างอดไม่ไหว ขันทีสวีสะบัดมือตบหน้าเขาไปอีกหนึ่งฉา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 168  

    หมอหลวงหูไม่กล้าอืดอาดล่าช้า ใครจะไม่รู้บ้างว่ากุ้ยเฟยพระองค์นี้นี้เป็นดวงใจฝ่าบาท? เขาอดไม่ได้กระซิบเสียงเบาถามฝ่ายตรวจการสำนักสกุลซุนอีกครั้ง “ใต้เท้า เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือขอรับ?” กุ้ยเฟยมีพระพลานามัยแข็งแรงดีมาตลอด เพิ่งจะตรวจชีพจรไปเมื่อไม่กี่วันก่อนมิใช่หรือ? เหตุใดจึงประชวรขึ้นมากะทันหัน? ฝ่ายตรวจการสำนักสกุลซุนส่งเสียงกระแอมออกมาหนึ่งที ก่อนจะหรี่ตาลงเชิงว่าตักเตือนเขา “เจ้าเองก็ระวังตัวไว้บ้าง องครักษ์เสื้อแพรจับตัวเด็กสาวคนหนึ่งไว้ได้ เด็กสาวคนนั้นยังกล่าวอีกว่า นางต้องการฟ้องร้องอ๋องฉี และวันนี้ยังคิดจะไปตีกลองร้องทุกข์ที่หน้าประตูวังด้วย! เรื่องลุกลามบานปลายไปกันใหญ่แล้ว” ตีกลองร้องทุกข์ หมอหลวงหูสูดหายใจเย็นเยียบเฮือกหนึ่ง เขาเพียงเปล่งเสียงออกมาหนึ่งคำ พูดไม่ออกไปชั่วขณะ เด็กสาว จะฟ้องร้องอ๋องฉี? มิหนำซ้ำยังต้องการตีกลองร้องทุกข์ด้วย เรื่องนี้ต้องมีความอยุติธรรมมากมายเพียงใดกัน? เหตุใดระยะนี้อ๋องฉีถึงได้มีแต่ปัญหารุมเร้าเพียงนี้? ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือหนาหู ว่ามีความสัมพันธ์คลุมเครือกับหานเยว่เอ๋อบุตรีบุญธรรมของจวนหย่งผิงโหว ต่อมาหานเยว่เอ๋อก็ปล่อยปละ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status