Share

บทที่ 96

Author: หว่านชิงอิ๋น
พิษในร่างจือเฉาโดนถอนออกไปและสามารถรักษาชีวิตไว้ได้

ส่วนสวีเซียงเซียงและคนอื่น ๆ จากเรือนโอสถก็โดนขับไล่ออกไป ชุนเยวี่ยซึ่งทำงานในเรือนโอสถได้รับการสนับสนุนจากแม่นมเติ้งเพื่อเป็นการขอบคุณเธอสำหรับคำให้การของนาง

แม่นมเติ้งนำยาตามใบเทียบยาของลั่วชิงยวนกลับมาให้ และลั่วชิงยวนเองก็นั่งบดยาอยู่

“พระชายา บ่าวคิดว่า สวีเซียงเซียงคงมิกล้าคิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาเองเป็นแน่ อย่างน้อยก็ภายใต้การดูแลของบ่าว นางมิกล้าประมาทเยี่ยงนี้” แม่นมเติ้งยังคงคิดไม่ตก

ลั่วชิงยวนยิ้ม “แน่นอนว่านางมิกล้า ข้าถามจือเฉาโดยละเอียดแล้ว นางบอกว่ามีเฉียงเวยเป็นคนคอยชี้นำอยู่”

“เช่นนั้นเหตุใดสวีเซียงเซียงจึงไม่เอ่ยถึงเรื่องเฉียงเวยเล่าเจ้าคะ?” แม่นมเติ้งตกใจ

“เรื่องนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยาก ต้องมีคนอื่นอยู่เบื้องหลังเฉียงเวยซึ่งมอบตำลึงเงินให้สวีเซียงเซียงมากพอที่จะให้นางหุบปากสนิท หรือสวีเซียงเซียงก็อาจโดนผู้นั้นข่มขู่จึงไม่กล้าสารภาพออกมา” นางเดาว่าเรื่องทั้งหมดนี้ต้องเกี่ยวพันกับลั่วเยวี่ยอิง

มีเพียงลั่วเยวี่ยอิงเท่านั้นที่จ้องเล่นงานและอยากเห็นนางตาย

“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ เช่นนั้นพระชายาจะยอมปล่อยวางเรื่องในคราวน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 97

    เมื่อลั่วเยวี่ยอิงตามมาทัน นางก็เห็นยาที่กลิ้งออกมาจากกล่อง นี่มันยาที่ท่านหมอกู้มอบให้นางเพื่อรักษาแผลมิใช่รึ? ยาพวกนี้ทำจากเครื่องยาสมุนไพรที่ล้ำค่าทั้งนั้น นางยังรู้มาอีกว่า ยาพวกนี้จะช่วยให้บาดแผลบนใบหน้าของนางไม่เป็นรอยแผลเป็น“ลั่วชิงยวน นี่เจ้ามาขโมยยาของข้าสินะ” ลั่วเยวี่ยอิงเข้าใจได้ในทันที นางจะต้องมาขโมยยานี้เพื่อเอาไปรักษานางบ่าวไร้ค่าจือเฉานั่นเป็นแน่สารเลวนัก ข้าวของของนาง ทาสไร้ค่าคู่ควรมาแตะต้องหรือ?เมื่อโดนจับได้ ลั่วชิงยวนก็ยิ่งตื่นตระหนก นางรีบคว้ากล่องยาแล้ววิ่งหนีต่อลั่วเยวี่ยอิงกัดฟันกรอดแล้วรีบไล่ตาม“หยุดนะ”ลั่วชิงยวนนั้นตื่นตระหนกเหมือนโจรที่โดนไล่ตามจับ นางวิ่งสุดฝีเท้าจนหอบหายใจแทบไม่ทัน ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ตามนางมาไม่ลดละจนมาถึงเรือนเล็กลั่วชิงยวนเกือบจะล้มกลิ้งไปแล้ว นางโผเข้าหาจือเฉาแล้วรีบเปิดกล่องยา ละล่ำละลักพูดว่า “เร็วเข้า จือเฉารีบกินเร็ว”จือเฉาหยิบยาขึ้นมาพร้อมอ้าปากเตรียมกลืนลงไปลั่วเยวี่ยอิงรุดตามมาและไม่รอช้ายกมือขึ้นฟาดอย่างแรงจนเม็ดยากระเด็นร่วงจากมือจือเฉาเม็ดยานั้นกลิ้งไปตามแผ่นหินปูทางเดิน ลั่วชิงยวนรีบพุ่งตัวตามไปเก็บ มีหรือ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 98

    ในสวน แม่นมเติ้งและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันอึ้งงัน พวกเขาไม่คิดว่าวิธีการที่พระชายาใช้จะทำให้ลั่วเยวี่ยอิงฉวยยานั้นขึ้นมาแล้วกินลงไปเองหากว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับอาการบาดเจ็บของลั่วเยวี่ยอิง ก็ไม่มีอันใดที่เกี่ยวข้องกับพระชายาทั้งสิ้น ในสายตาของทุกคนเห็นว่า ลั่วเยวี่ยอิงนั้นเป็นฝ่ายที่แย่งชิงยาไปกินเองแม่นมเติ้งห็นว่า งานที่แสนยากนั้นเมื่ออยู่ในมือพระชายาก็สำเร็จได้อย่างง่ายดาย นางไม่เพียงเล่นลูกไม้กับลั่วเยวี่ยอิง ทำตามแผนได้สำเร็จและยังได้แก้แค้นอีกด้วย นี่มันน่าพึงพอใจยิ่งนักนางยิ่งรู้สึกชื่นชมพระชายามากขึ้นหากว่าไม่ใช่เพราะเป็นการไม่สะดวกที่จะพูดคุยกันตรงนี้ นางก็คงจะเอ่ยชื่นชมพระชายาออกมาแล้วที่ทางเดินนอกสวน ฟู่เฉินหวนเองก็แอบยืนมองอยู่เงียบ ๆเด็กรับใช้อดไม่ได้ที่จะบอกว่า “กระหม่อมคิดว่า พระชายาโดนคุณหนูรองลั่วเล่นงานเสียอีก ไม่คาดเลยว่าแท้จริงเป็นพระชายาที่วางแผนเล่นงานคุณหนูรองลั่ว”แววตาสงบนิ่งของฟู่เฉินหวนเกิดคลื่นระลอกหนึ่ง ในดวงตาฉายแววคมกล้า เขายิ้ม “ข้ากลัวว่านางไม่ได้มีเจตนาเพียงแค่จะกลั่นแกล้งคุณหนูรองลั่วเท่านั้นหรอก”“ข้าไม่คิดมาก่อนว่า บุตรสาวสายตรงที่ไร้ค่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 99

    ลั่วชิงยวนตอบโดยไม่คิดมาก “หากว่าเขาเป็นที่เคารพอย่างสูงเช่นนั้น เขาก็คงไม่สนใจว่าของขวัญจะสูงค่าหรือไม่ หากแต่ต้องมอบให้ด้วยใจ”“หากว่าท่านอยากให้ท่านมหาราชครูลั่วพอใจท่าน ก็ต้องย่อมหาของที่เขาชมชอบ หากว่าเขาชอบอะไรแล้วยังไม่มีของสิ่งนั้น หม่อมฉันก็จะมอบของสิ่งนั้นให้เขา”ลั่วชิงยวนก็คิดว่าตนควรจะไปร่วมงานฉลองวันเกิดนี้ดีหรือไม่บางทีอาจจะมีโอกาสดี ๆ รอนางอยู่ก็เป็นได้นางไม่สามารถทุ่มเทลงพนันที่ฟู่เฉินหวนคนเดียวได้แล้วตอนนี้ทันใดนั้นก็มีเสียงก่นด่าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ลั่วชิงยวนมองตามเสียงไปก็เห็นลั่วเยวี่ยอิงเดินจูงมือมากับหญิงสาวงดงามผู้หนึ่ง“น่าแปลกนัก ที่เดี๋ยวนี้คางคกเองก็ทะยานไปเกาะยอดไม้ได้ แสดงว่าเจ้าอ่อนแอเลยโดนรังแกเอาได้ หากว่าเป็นข้า ข้าจะถลกหนังคางคกนั่นแล้วเอาไปทอดในกระทะเสียเลย”“หากว่ามันทะยานไปเกาะยอดไม้ แล้วจะยังนับว่าเป็นคางคกอยู่ไหม? หรืออาจจะเป็นคางคกมีปีก เจ้าคิดว่าตัวอะไรก็จะกลายร่างเป็นหงส์ได้ทั้งหมดเช่นนั้นหรือไร?”ขณะที่พูดเช่นนั้น พวกนางก็เดินเข้ามาในสวนหญิงสาวผู้นั้นสวมกระโปรงสีชมพู นางดูงดงามและเฉลียวฉลาดทว่าเด็มไปด้วยโทสะ นางมองลั่วชิงยวนด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 100

    ”บ้านเจ้าน่ะสิ ที่มีวิญญาณร้าย!”หลังจากที่พูดออกมาแล้ว ลั่วอวิ๋นซีก็วิ่งหนีไปอย่างโกรธเกรี้ยว นางดูเหมือนว่าโมโหอย่างมากแต่ลั่วชิงยวนเข้าใจดีว่าที่จริงแล้วนางเพียงหนีไปเพราะความกลัว“อวิ๋นซี อวิ๋นซี” ลั่วเยวี่ยอิงตื่นตระหนกเล็กน้อย นี่แม้แต้ลั่วอวิ๋นซีก็ไม่อาจจัดการลั่วชิงยวนได้หรือนางถลึงตามองลั่วชิงยวนอย่างเกลียดชังและรีบวิ่งตามลั่วอวิ๋นซีไปลั่วชิงยวนนั่งลงช้า ๆ นางนิ่วหน้าเล็กน้อยและครุ่นคิดการที่ใช้คำพูดไม่กี่คำขู่ให้ลั่วอวิ๋นซีกลัวจนหนีไปนั้นไม่ได้เป็นเรื่องง่าย จะต้องมีเรื่องร้ายแรงบางอย่างเกิดขึ้นที่จวนของนางเป็นแน่ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้นางหวาดกลัวเพียงนั้น“อะแฮ่ม… ชิงยวน ที่เจ้าพูดเมื่อกี้นี้จริงเหรอ? นางเป็นหลานสาวของอารองของเจ้า มหาราชครูลั่ว แล้วในจวนของมหาราชครูลั่ว…” ฟู่อวิ๋นโจวดูกังวลนั่นสินะลั่วอวิ๋นซีคนนี้เป็นหลานสาวของมหาราชครูลั่วและก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของนางเองเมื่อเป็นเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่จวนของอารองขึ้นมาในร่างกายของลั่วอวิ๋นซีนั้นมีพลังหยินนางหัวเราะเบา ๆ “ท่านถือเป็นจริงเป็นจังด้วยรึ? ข้าก็เพียงตั้ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 101

    หลังอาหารเที่ยง ลั่วชิงยวนก็พาแม่นมเติ้งออกจากตำหนักอ๋อง ทิ้งให้จือเฉาคอยอยู่เฝ้าเรือน“พระชายา หากว่าท่านต้องการหาของกำนัลวันเกิดให้กับท่านมหาราชครูลั่ว ของนั้นต้องพิถีพิถันหน่อยเจ้าค่ะ ไยเราถึงไม่ไปลองดูของล้ำค่าที่ศาลาทรัพย์สุขาวดีล่ะเจ้าคะ? เพราะอย่างไรก็ลงบัญชีของตำหนักอ๋องไว้”“มิต้องหรอก ของกำนัลที่ข้าจะให้ต้องไม่ใช้เงินของฟู่เฉินหวน”นางไม่อยากให้มีคนมาตำหนิเอาได้ในอนาคต“เราไปที่จวนมหาราชครูดูก่อนดีกว่า”หากว่ามีสิ่งที่เป็นปัญหาที่จวนมหาราชครู การช่วยกำจัดภัยนั้นก็ต้องมีค่ามากกว่าของล้ำค่าจากศาลาทรัพย์สุขาวดีแน่หลังจากที่ต้องผ่านตลาดอันแสนจอแจมา พวกนางก็มาถึงถนนสวีสี่ที่เงียบสงบ นางก็มองเห็นจวนมหาราชครูที่ใหญ่โตตอนนั้นบิดาของนางท่านอัครเสนาบดีก็ยืนอยู่ที่หน้าจวนมหาราชครูด้านหลังของเขาก็มีนักพรตเต๋าที่สวนชุดคลุมแบบนักบวชลัทธิเต๋าอยู่“น้องหญิงหรง เจ้าลองดูก่อน นี่มิใช่เรื่องหลอกลวงต้มตุ๋นแน่ ช่วงนี้ในจวนมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นมากมาย ต้องมีสิ่งใดที่ไม่ดีอยู่เป็นแน่” ลั่วไห่ผิงแนะนำอย่างจริงใจสตรีที่ดูมีสง่าราศีตรงหน้าประตูนั้นมีท่าทางดุร้ายและไม่อาจรับมือได้โดยง่าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 102

    ”เจ้ารักษาหน้าข้าหน่อยไม่ได้หรือไร? แค่นี้เจ้ายังทำข้าอับอายไม่พออีกรึ?”น้ำเสียงตำหนินั้นเป็นเหมือนดั่งมีดแหลมคมที่บาดลึกเข้าไปในหัวใจของลั่วชิงยวนแม้ว่านางจะชินชาแล้วกับเรื่องนี้ แต่ลั่วชิงยวนก็ยังคงรู้สึกไม่ดี ตอนนี้เหมือนว่านางได้กลายเป็นลั่วชิงยวนอย่างสมบูรณ์ และรับรู้ได้ถึงอารมณ์และความเจ็บปวดทั้งหมดของร่างลั่วชิงยวนแต่นางก็โศกเศร้าอยู่เพียงชั่วขณะเท่านั้นสิ่งที่ลั่วไห่ผิงสนใจก็มีแค่ว่า ตัวตนของนางนั้นจะทำให้เขาต้องขายหน้า ในเมื่อนางเป็นบุตรสาวที่ตัดทิ้งไปแล้ว ไยนางเองต้องมีเยื่อใยอยู่ด้วยเล่ายิ่งไปกว่านั้นลั่วไห่ผิงก็มีท่าทีเปลี่ยวเหงา และเขาเองก็ไม่มีญาติสนิทเลยเหมือนกันลั่วไห่ผิงจากไปแล้วเมื่อมองแผ่นหลังที่อ้างว้างของเขา ลั่วชิงยวนก็หันกลับมาและมองไปยังจวนมหาราชครูที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ประกายเย็นเยียบฉายแวบผ่านดวงตาของนางนางจะต้องมาร่วมงานฉลองวันเกิดให้ได้นางแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเหนือจวนมหาราชครู มันมีบรรยากาศที่อึมครึมอยู่จริง ๆ แต่ก็ไม่มากนัก นางไม่ได้เห็นสิ่งอื่นใดอีกก่อนอื่นต้องลองเดินสำรวจรอบ ๆ จวนดูเสียก่อน“แม่นมเติ้ง ออกไปลองถามคนแถวนี้มาซิว่า ช่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 103

    ”หลิงหยวนถัง”ที่ตั้งของหลิงหยวนถังนั้นอยู่บนถนนที่ขึ้นชื่อในด้านพิธีการจัดงานศพ ผู้ที่มาที่นี่โดยทั่วไปจะเป็นคนสามัญ หรือคนรับใช้จากตระกูลชั้นสูงอาภรณ์ของลั่วชิงยวนนั้นค่อนข้างสะดุดตา ดังนั้นนางและแม่นมเติ้งจึงไปหาอาภรณ์ชุดใหม่เปลี่ยนเพื่อให้ดูเหมือนชาวบ้านธรรมดา ก่อนหาผ้าโปร่งมาปิดบังใบหน้าไว้จากนั้นพวกนางก็เดินเข้าไปในร้านที่มีตุ๊กตากระดาษมากมายวางเรียงอยู่เป็นตั้งตรงหัวมุมมีเก้าอี้ไม้โยกตั้งอยู่หลังกองตุ๊กตากระดาษ เสียงเก้าอี้นั้นโยกดังเอี๊ยดอ๊าด แน่นอนว่าต้องมีคนผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่จากนั้นก็มีเสียงหม่นขรึมดังขึ้น “ท่านต้องการเพียงแวะพักชั่วคราวหรือต้องการพักค้างคืน?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็อดนิ่วหน้าไม่ได้“ท่านหมายความเช่นไร…” แม่นมเติ้งเองก็งุนงงเพราะร้านที่พวกนางเข้ามานั้นไม่ใช่โรงเตี๊ยมลั่วชิวยวนจับแขนของแม่นมเติ้งก่อนยกยิ้มและเดินเข้าไปที่เก้าอี้โยก “เถ้าแก่ล้อเล่นแล้ว อยู่ในร้านจัดงานศพ แล้วจะนอนในโลงศพหรือไร?”เสียงเก้าอี้โยกหยุดลงทันทีอากาศดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะมีกระแสลมหอบหนึ่งพัดเข้ามาในร้าน ทำให้ตุ๊กตากระดาษทั้งหลายพากันขยับไหวจนดูเหมือนว่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 104

    ก่อนที่แม่นมเติ้งจะเข้าถึงกองหุ่นกระดาษนั้น ร่างที่อยู่ในกองกระดาษก็ลุกขึ้นจนตุ๊กตากระดาษร่วงพรูลงบนพื้นแม่นมเติ้งตกตะลึงไปอีกครั้งเมื่อนางมองลั่วชิงยวนอย่างพินิจ แม่นมเติ้งก็พรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก “พระชายา ท่านปลอดภัยหรือไม่เจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนปัดมือไปมาและจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย “ข้าจะเป็นอะไรไปได้เล่า”ลั่วชิงยวนหันหน้าไปมองเจ้าของร้านที่นอนอยู่บนพื้น นางกับแม่นมเติ้งช่วยกันอย่างมากเพื่อจะลากเขาออกมาชายผู้นั้นหมดสติไป และมีรอยบวมแดงเห็นได้ชัดอยู่บนหน้าผาก รวมถึงมีอักขระเวทย์หลายตัวอยู่ด้วยนี่เป็นรอยประทับที่เข็มทิศชะตาทิ้งเอาไว้นางเดินตรงไปที่โต๊ะแล้วหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาเปิดออกก่อนที่จะอ่านอย่างละเอียดธงอัญเชิญวิญญาณ โคมไฟล่อวิญญาณ จานสังเวยโลหิต ยันต์ชาตะ…มากมายหลายสิ่งยิ่งนักสิ่งของพวกนี้ล้วนมีไว้เพื่อดึงดูวิญญาณมีเสียงเล่าลือออกมาว่า จวนมหาราชครูนั้นมีวิญญาณสิงสู่ เป็นไปได้หรือไม่ว่า พวกเขาเป็นผู้อัญเชิญวิญญาณเหล่านั้นมาเอง?หากว่าต้องการขจัดวิญญาณร้ายแน่นอนว่าต้องไม่ใช้ของพวกนี้ตอนนั้นเองเจ้าของร้านก็ฟื้นขึ้นมา ใบหน้าของเขาซีดเผือดและสีหน้าก็งุนงง เมื่อเ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1407

    ตามแผนที่นั้น ลั่วชิงยวนนำทางพวกเขาอ้อมไปอ้อมมา ในที่สุดก็มาถึงถ้ำที่โหยวเซียงผลักนางลงไปเนื่องจากก่อนหน้านี้โหยวเซียงนำคนมาไล่ตามพวกนางจากด้านล่าง ด้านบนจึงไม่มีสิ่งใดปิดบังแล้วและบนผนังหินก็มีเถาวัลย์ยาวห้อยลงมาด้วยเมื่อลองดึงเถาวัลย์นั้นก็พบว่าแข็งแรงมาก“ไปกันเถอะ”คนใบ้ยังคงเดินนำหน้า เขาจับเถาวัลย์ปีนขึ้นไปเมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้วลั่วชิงยวนก็ปีนตามไปสุดท้ายก็ดึงโฉวสือชีขึ้นไปทัศนวิสัยเบื้องหน้าพลันสว่างและกว้างขึ้นลั่วชิงยวนมองไปที่คนใบ้ “ยามนั้นเจ้าถูกลากตัวมาที่นี่หรือ?”คนใบ้พยักหน้าโฉวสือชีกล่าวว่า “ข้าก็เหมือนจะเคยมาที่นี่เช่นกัน รู้สึกว่าที่นี่มีพลังหยินเข้มข้นนัก”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ถูกต้อง ก็ที่นี่แหละ”นี่คือจุดหมายที่สองของพวกเขาลั่วชิงยวนทำได้เพียงค้นหาไปทีละแห่ง ตามตำแหน่งที่อยู่ใกล้พวกนางมากที่สุดนางหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมาเริ่มค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนทั้งสามถือโอกาสพักผ่อนในป่าสักครู่และหาอะไรกินเพื่อเติมพลังยามนี้ก็บ่ายแล้ว เห็นได้ชัดว่าฟ้าใกล้จะมืดลง ทั้งสามจึงออกเดินทางต่ออีกครั้งจนได้พบถ้ำแห่งหนึ่งด้านนอกถูกปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้หนา เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1406

    ทั้งสามรีบวิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในมิช้า โหยวเซียงและต่งอวิ๋นซิ่วก็นำผู้คนจำนวนมากมาถึงที่นี่อย่างรีบร้อนแต่เมื่อทั้งคณะพุ่งเข้าไปในถ้ำ กลับพบว่าสิ่งนั้นหายไปแล้ว!สีหน้าของต่งอวิ๋นซิ่วเปลี่ยนไป นางตวาดเสียงดัง “ตามหาให้ทั่ว!”“ข้ามิเชื่อหรอกว่าจะยังมีใครที่เดินเหินไปมาอย่างอิสระในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ได้!”ยามนี้ลั่วชิงยวนมีแผนที่อยู่ในมือ นางสามารถเดินไปไหนมาไหนในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ได้อย่างอิสระจริง ๆนางถึงขนาดรู้ทุกซอกทุกมุมในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ดีกว่าต่งอวิ๋นซิ่วและพรรคพวกด้วยซ้ำเพราะนั่นคือแผนที่ที่อวี๋ตันเฟิ่งวาดให้นาง ซึ่งละเอียดลออยิ่งส่วนพวกต่งอวิ๋นซิ่ว ท้ายที่สุดแล้วความทุ่มเทที่พวกนางมีต่อเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ย่อมมิอาจเทียบกับอวี๋ตันเฟิ่งได้ ความเข้าใจที่พวกนางมีจึงด้อยกว่าอวี๋ตันเฟิ่งลั่วชิงยวนเดินตามแผนที่ มิได้วิ่งหนีเข้าไปในหน้าผาหากไปในเส้นทางนั้นก็อาจถูกตามทันได้ขณะที่วิ่งหนี ลั่วชิงยวนก็แหงนหน้ามองตามผนังหินไปด้วยในที่สุดก็พบทางเข้าถ้ำแห่งหนึ่งแม้จะสูงไปสักหน่อยแต่ทางขึ้นไปก็มิได้ชันมาก ปีนป่ายขึ้นไปก็ได้แล้ว“ปีนขึ้นไปทางนั้น!”เมื่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1405

    สิ่งที่อยู่ในโลงเริ่มสั่นไหวรุนแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น และโลงศพก็ระเบิดออกในที่สุดทันใดนั้น ศพชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาบีบคอฝูเหมิ่งไว้สิ่งที่เป็นกึ่งคนกึ่งผีทั้งสองเริ่มต่อสู้กันลั่วชิงยวนสังเกตอยู่ครู่หนึ่งก็พบว่า ชายคนนั้นก็ดุร้ายเช่นกันและเป็นสิ่งที่อันตรายมากทั้งสองเข้าโรมรันต่อสู้กันอย่างดุเดือดเนื่องจากศพชายคนนั้นฉุดรั้งฝูเหมิ่งไว้ ลั่วชิงยวนจึงหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ขึ้นมาสังเกตการณ์ในถ้ำแห่งนี้อย่างเงียบ ๆแท้จริงแล้วที่นี่คือหนึ่งในจุดรวมพลังศพของอวี๋ตันเฟิ่งก็ควรจะอยู่ที่นี่ ไม่มีทางผิดพลาดแน่แต่ถ้ำแห่งนี้มีขนาดเล็กเพียงเท่านี้ มองปราดเดียวก็เห็นทั่วแล้ว ไม่มีที่ให้เข้าไปลึกกว่านี้แล้วลั่วชิงยวนถือเข็มทิศมองอยู่นาน และทันใดนั้นดวงตาของนางก็พลันเป็นประกายใต้พื้นถ้ำ!เมื่อมองไปยังใต้โลงศพก็พบว่าเป็นจานกลมขนาดใหญ่ น่าจะขยับได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็เริ่มค้นหาตัวไขกลไก ในที่สุดสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่รูปปั้นหินบนผนัง“พวกเจ้าช่วยคุ้มกันข้าหน่อย!”ลั่วชิงยวนหยิบเชือกออกมาคล้องที่เอวพร้อมมัดไว้ก่อนจะส่งปลายเชือกให้อาถู่และโฉวสือชีถือไว้จากนั้นนางก็กระโจนไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1404

    โฉวสือชีชะงักไปครู่หนึ่ง “มีทางลงไปจากหน้าผาด้วยหรือ?”ลั่วชิงยวนพยักหน้าหลังจากที่ทั้งสามพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ออกเดินทางต่อมุ่งหน้าลงจากเขาไปเมื่อเดินไปได้ประมาณหนึ่งชั่วยาม ลั่วชิงยวนก็พาพวกเขามาถึงเชิงผา ที่นี่มีหน้าผาสูงชันทั้งสองด้านและด้านล่างเป็นลำธารตื้น ๆ สายหนึ่งพวกเขาก้าวเท้าไปตามลำธาร เดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆที่นี่อากาศหนาวเย็นจัด หนาวจนมือเท้าชาเลยทีเดียวทางเดินบางครั้งก็กว้าง บางครั้งก็แคบ แสงสว่างบางครั้งก็สว่างจ้า บางครั้งก็สลัวเดินไปนานมาก ในที่สุดด้านหน้าก็ปรากฏร่างหนึ่งศพของหงไห่นั่นเองเมื่อตกลงมาจากที่สูงเช่นนั้นจึงมิเหลือแม้แต่ซากศพที่สมบูรณ์...ลั่วชิงยวนหดหู่ใจ หยิบยันต์รวมวิญญาณออกมาแล้วนำขวดออกมาบรรจุวิญญาณของหงไห่แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าโฉวสือชีและคนใบ้ค้นบริเวณนี้มาครู่หนึ่งแล้วเมื่อกลับมาถึง ทั้งสามก็สบตากัน สีหน้าหนักอึ้งไปตามกัน“ฝูเหมิ่งยังมิตาย”พวกเขามิพบศพของฝูเหมิ่งเรื่องนี้อยู่ในความคาดหมายของลั่วชิงยวนอยู่แล้ว เพราะท้ายที่สุด ในร่างของฝูเหมิ่งในตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิงแต่เมื่อตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น ร่างกายของฝูเหมิ่งก็น่าจะได้ร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1403

    ลั่วชิงยวนรีบเงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นใบหน้าอันน่าสะพรึงกลัวปรากฏอยู่เหนือศีรษะของนาง!มิว่าจะเป็นฝูเหมิ่งหรือโหยวจิ้งเฉิงที่อยู่ในร่างของฝูเหมิ่งล้วนจ้องไปที่ลั่วชิงยวนเป้าหมายของพวกเขาคือลั่วชิงยวนมาโดยตลอด!ฝูเหมิ่งแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมกระโจนเข้ามาทันใดนั้นเอง หงไห่ก็ตัดเชือกที่เอวทิ้งแล้วพุ่งตัวกระโจนเข้าใส่ขณะที่เขาหลุดออกจากหน้าผา ลั่วชิงยวนตกใจจนหน้าซีดเผือดจากนั้นก็เห็นหงไห่คว้าตัวฝูเหมิ่งไว้ ทั้งสองร่วงลงจากหน้าผาไปพร้อมกันลั่วชิงยวนตาไวมือไว รีบคว้าเชือกที่ผูกเอวหงไห่ไว้อีกครั้ง แต่แรงของนางกลับฉุดพวกเขาไว้มิได้นางจึงพันเชือกไว้รอบข้อมือเชือกรัดจนข้อมือนางขาวซีดและฝ่ามือถลอกคนใบ้รีบเข้ามาช่วยดึงลั่วชิงยวนไว้ เกรงว่านางจะถูกฉุดกระชากลงไปด้วยหงไห่กอดฝูเหมิ่งไว้แน่น ส่วนฝูเหมิ่งก็กัดแทะไหล่ของหงไห่อย่างโหดเหี้ยมเลือดสาดกระเซ็น เศษเนื้อชิ้นแล้วชิ้นเล่าตกลงไปในหุบเหวลั่วชิงยวนกัดฟันแน่น “เจ้าจงอดทนไว้!”หงไห่ทนความเจ็บปวดอย่างสุดกำลัง บังคับฝูเหมิ่งไว้ให้ได้“ปล่อย! พวกเจ้าฉุดข้าไว้มิได้หรอก! พวกเจ้าจะถูกข้าดึงลงไปด้วย!”โฉวสือชีก็ขยับตัวอย่างกระวนกระวาย หม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1402

    โชคดีที่นางจับกริชไว้แน่นส่วนคนใบ้ที่อยู่ด้านหลังก็รีบคว้าแขนของนางไว้อย่างรวดเร็วแล้วช่วยพยุงนางไว้ลั่วชิงยวนยืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง รอดตายหวุดหวิดในใจของทุกคนตึงเครียดอย่างยิ่ง แต่กลับไม่มีใครเอ่ยคำใด ด้วยเกรงว่าจะทำให้คนอื่น ๆ ตึงเครียดไปด้วย พวกเขาก้าวเท้าแต่ละก้าวบนหน้าผาอย่างเชื่องช้าแต่ดูเหมือนหนทางเบื้องหน้าจะไร้ที่สิ้นสุด มิรู้ว่าเมื่อใดจึงจะได้เหยียบพื้นอย่างมั่นคงทันใดนั้นเอง หงไห่ที่ไต่นำหน้าก็หยุดนิ่งลั่วชิงยวนจำต้องหยุดตาม มิกล้าเข้าไปใกล้มากนัก เพราะก้อนหินที่เหยียบอยู่นั้นอาจรับน้ำหนักสองคนมิไหวเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ก้อนหินที่เหยียบอยู่พังลงพร้อมกัน พวกเขาจึงเว้นระยะห่างกันพอสมควร“มีกระไรหรือ?” ลั่วชิงยวนถามทันใดนั้นก็มีลมกระโชกแรงพัดมาจากเบื้องหน้า พร้อมกับกลิ่นอายอาฆาตลั่วชิงยวนขมวดคิ้วอันตรายที่มาจากเบื้องหน้าทำให้ลั่วชิงยวนกลั้นหายใจนางขยับเท้าไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วก็ได้เห็นภาพสยองชวนขนลุกบนหน้าผาเบื้องหน้า ฝูเหมิ่งกำลังเกาะติดอยู่ราวกับแมงมุม ซึ่งขวางทางของพวกเขาไว้พอดีที่แขนขาของเขามีกรงเล็บเหล็ก เหมือนกับที่ลั่วชิงยวนเคยเห็นบนร่างข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status