Share

บทที่ 95

Author: หว่านชิงอิ๋น
ซูโหยวรีบเข้ามาช่วยฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง เป็นอะไรไปพ่ะย่ะค่ะ?”

ฟู่เฉินหวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในทรวงร้อนรุ่มดั่งไฟสุม หัวก็ปวดแทบระเบิด ความเจ็บปวดนั้นมันมากเกินทนไหว เหมือนว่าหัวจะแตกออกเป็นเสี่ยง

“รีบไปตามท่านหมอกู้มาเร็ว”

เซียวชูรีบไปตามท่านหมอกู้มา ท่านหมอกู้ตรวจชีพจรดูลิ้นและดาของฟู่เฉินหวน เขาลอบตกใจ ปกติแล้วสุขภาพของฟู่เฉินหวนนั้นแข็งแรงมาโดยตลอด แต่เหตุใดถึงมีคนฉวยโอกาสจากเขาได้ง่ายนัก?

“ท่านหมอกู้ ท่านอ๋องเป็นอะไรหรือขอรับ?” ซูโหยวถาม

“ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก เพียงท่านอ๋องฉุนเฉียวมากไป และอ่อนล้าจากหลายเรื่อง น่าจะต้องกินยาสักเดือนก็จะฟื้นกำลังมาได้แล้ว” หมอกู้ตอบ

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปกับท่านหมอกู้เพื่อรับยามา” ซูโหยวเดินไปส่งท่านหมอกู้

เมื่อเขาหันหลังไป ก็มีรอยยิ้มแฝงนัยปรากฏบนริมฝีปากของหมอกู้

ครึ่งชั่วยามต่อมาซูโหยวก็กลับมาพร้อมยา หลังจากที่ฟู่เฉินหวนกินยาเข้าไป อาการปวดหัวของเขาก็ทุเลาลงอย่างมาก

“ท่านอ๋อง ช่วงนี้ท่านอ๋องอย่าเพิ่งกังวลกับเรื่องในตำหนักอ๋องดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ แม่บ้านเติ้งนั้นรับผิดชอบเรื่องของเรือนชั้นใน กระหม่อมจะดูแลเรื่องอื่น ๆ เอง สุขภาพของท่านอ๋องสำคัญที่ส
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 96

    พิษในร่างจือเฉาโดนถอนออกไปและสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ส่วนสวีเซียงเซียงและคนอื่น ๆ จากเรือนโอสถก็โดนขับไล่ออกไป ชุนเยวี่ยซึ่งทำงานในเรือนโอสถได้รับการสนับสนุนจากแม่นมเติ้งเพื่อเป็นการขอบคุณเธอสำหรับคำให้การของนางแม่นมเติ้งนำยาตามใบเทียบยาของลั่วชิงยวนกลับมาให้ และลั่วชิงยวนเองก็นั่งบดยาอยู่“พระชายา บ่าวคิดว่า สวีเซียงเซียงคงมิกล้าคิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาเองเป็นแน่ อย่างน้อยก็ภายใต้การดูแลของบ่าว นางมิกล้าประมาทเยี่ยงนี้” แม่นมเติ้งยังคงคิดไม่ตกลั่วชิงยวนยิ้ม “แน่นอนว่านางมิกล้า ข้าถามจือเฉาโดยละเอียดแล้ว นางบอกว่ามีเฉียงเวยเป็นคนคอยชี้นำอยู่”“เช่นนั้นเหตุใดสวีเซียงเซียงจึงไม่เอ่ยถึงเรื่องเฉียงเวยเล่าเจ้าคะ?” แม่นมเติ้งตกใจ“เรื่องนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยาก ต้องมีคนอื่นอยู่เบื้องหลังเฉียงเวยซึ่งมอบตำลึงเงินให้สวีเซียงเซียงมากพอที่จะให้นางหุบปากสนิท หรือสวีเซียงเซียงก็อาจโดนผู้นั้นข่มขู่จึงไม่กล้าสารภาพออกมา” นางเดาว่าเรื่องทั้งหมดนี้ต้องเกี่ยวพันกับลั่วเยวี่ยอิงมีเพียงลั่วเยวี่ยอิงเท่านั้นที่จ้องเล่นงานและอยากเห็นนางตาย“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ เช่นนั้นพระชายาจะยอมปล่อยวางเรื่องในคราวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 97

    เมื่อลั่วเยวี่ยอิงตามมาทัน นางก็เห็นยาที่กลิ้งออกมาจากกล่อง นี่มันยาที่ท่านหมอกู้มอบให้นางเพื่อรักษาแผลมิใช่รึ? ยาพวกนี้ทำจากเครื่องยาสมุนไพรที่ล้ำค่าทั้งนั้น นางยังรู้มาอีกว่า ยาพวกนี้จะช่วยให้บาดแผลบนใบหน้าของนางไม่เป็นรอยแผลเป็น“ลั่วชิงยวน นี่เจ้ามาขโมยยาของข้าสินะ” ลั่วเยวี่ยอิงเข้าใจได้ในทันที นางจะต้องมาขโมยยานี้เพื่อเอาไปรักษานางบ่าวไร้ค่าจือเฉานั่นเป็นแน่สารเลวนัก ข้าวของของนาง ทาสไร้ค่าคู่ควรมาแตะต้องหรือ?เมื่อโดนจับได้ ลั่วชิงยวนก็ยิ่งตื่นตระหนก นางรีบคว้ากล่องยาแล้ววิ่งหนีต่อลั่วเยวี่ยอิงกัดฟันกรอดแล้วรีบไล่ตาม“หยุดนะ”ลั่วชิงยวนนั้นตื่นตระหนกเหมือนโจรที่โดนไล่ตามจับ นางวิ่งสุดฝีเท้าจนหอบหายใจแทบไม่ทัน ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ตามนางมาไม่ลดละจนมาถึงเรือนเล็กลั่วชิงยวนเกือบจะล้มกลิ้งไปแล้ว นางโผเข้าหาจือเฉาแล้วรีบเปิดกล่องยา ละล่ำละลักพูดว่า “เร็วเข้า จือเฉารีบกินเร็ว”จือเฉาหยิบยาขึ้นมาพร้อมอ้าปากเตรียมกลืนลงไปลั่วเยวี่ยอิงรุดตามมาและไม่รอช้ายกมือขึ้นฟาดอย่างแรงจนเม็ดยากระเด็นร่วงจากมือจือเฉาเม็ดยานั้นกลิ้งไปตามแผ่นหินปูทางเดิน ลั่วชิงยวนรีบพุ่งตัวตามไปเก็บ มีหรือ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 98

    ในสวน แม่นมเติ้งและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันอึ้งงัน พวกเขาไม่คิดว่าวิธีการที่พระชายาใช้จะทำให้ลั่วเยวี่ยอิงฉวยยานั้นขึ้นมาแล้วกินลงไปเองหากว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับอาการบาดเจ็บของลั่วเยวี่ยอิง ก็ไม่มีอันใดที่เกี่ยวข้องกับพระชายาทั้งสิ้น ในสายตาของทุกคนเห็นว่า ลั่วเยวี่ยอิงนั้นเป็นฝ่ายที่แย่งชิงยาไปกินเองแม่นมเติ้งห็นว่า งานที่แสนยากนั้นเมื่ออยู่ในมือพระชายาก็สำเร็จได้อย่างง่ายดาย นางไม่เพียงเล่นลูกไม้กับลั่วเยวี่ยอิง ทำตามแผนได้สำเร็จและยังได้แก้แค้นอีกด้วย นี่มันน่าพึงพอใจยิ่งนักนางยิ่งรู้สึกชื่นชมพระชายามากขึ้นหากว่าไม่ใช่เพราะเป็นการไม่สะดวกที่จะพูดคุยกันตรงนี้ นางก็คงจะเอ่ยชื่นชมพระชายาออกมาแล้วที่ทางเดินนอกสวน ฟู่เฉินหวนเองก็แอบยืนมองอยู่เงียบ ๆเด็กรับใช้อดไม่ได้ที่จะบอกว่า “กระหม่อมคิดว่า พระชายาโดนคุณหนูรองลั่วเล่นงานเสียอีก ไม่คาดเลยว่าแท้จริงเป็นพระชายาที่วางแผนเล่นงานคุณหนูรองลั่ว”แววตาสงบนิ่งของฟู่เฉินหวนเกิดคลื่นระลอกหนึ่ง ในดวงตาฉายแววคมกล้า เขายิ้ม “ข้ากลัวว่านางไม่ได้มีเจตนาเพียงแค่จะกลั่นแกล้งคุณหนูรองลั่วเท่านั้นหรอก”“ข้าไม่คิดมาก่อนว่า บุตรสาวสายตรงที่ไร้ค่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 99

    ลั่วชิงยวนตอบโดยไม่คิดมาก “หากว่าเขาเป็นที่เคารพอย่างสูงเช่นนั้น เขาก็คงไม่สนใจว่าของขวัญจะสูงค่าหรือไม่ หากแต่ต้องมอบให้ด้วยใจ”“หากว่าท่านอยากให้ท่านมหาราชครูลั่วพอใจท่าน ก็ต้องย่อมหาของที่เขาชมชอบ หากว่าเขาชอบอะไรแล้วยังไม่มีของสิ่งนั้น หม่อมฉันก็จะมอบของสิ่งนั้นให้เขา”ลั่วชิงยวนก็คิดว่าตนควรจะไปร่วมงานฉลองวันเกิดนี้ดีหรือไม่บางทีอาจจะมีโอกาสดี ๆ รอนางอยู่ก็เป็นได้นางไม่สามารถทุ่มเทลงพนันที่ฟู่เฉินหวนคนเดียวได้แล้วตอนนี้ทันใดนั้นก็มีเสียงก่นด่าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ลั่วชิงยวนมองตามเสียงไปก็เห็นลั่วเยวี่ยอิงเดินจูงมือมากับหญิงสาวงดงามผู้หนึ่ง“น่าแปลกนัก ที่เดี๋ยวนี้คางคกเองก็ทะยานไปเกาะยอดไม้ได้ แสดงว่าเจ้าอ่อนแอเลยโดนรังแกเอาได้ หากว่าเป็นข้า ข้าจะถลกหนังคางคกนั่นแล้วเอาไปทอดในกระทะเสียเลย”“หากว่ามันทะยานไปเกาะยอดไม้ แล้วจะยังนับว่าเป็นคางคกอยู่ไหม? หรืออาจจะเป็นคางคกมีปีก เจ้าคิดว่าตัวอะไรก็จะกลายร่างเป็นหงส์ได้ทั้งหมดเช่นนั้นหรือไร?”ขณะที่พูดเช่นนั้น พวกนางก็เดินเข้ามาในสวนหญิงสาวผู้นั้นสวมกระโปรงสีชมพู นางดูงดงามและเฉลียวฉลาดทว่าเด็มไปด้วยโทสะ นางมองลั่วชิงยวนด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 100

    ”บ้านเจ้าน่ะสิ ที่มีวิญญาณร้าย!”หลังจากที่พูดออกมาแล้ว ลั่วอวิ๋นซีก็วิ่งหนีไปอย่างโกรธเกรี้ยว นางดูเหมือนว่าโมโหอย่างมากแต่ลั่วชิงยวนเข้าใจดีว่าที่จริงแล้วนางเพียงหนีไปเพราะความกลัว“อวิ๋นซี อวิ๋นซี” ลั่วเยวี่ยอิงตื่นตระหนกเล็กน้อย นี่แม้แต้ลั่วอวิ๋นซีก็ไม่อาจจัดการลั่วชิงยวนได้หรือนางถลึงตามองลั่วชิงยวนอย่างเกลียดชังและรีบวิ่งตามลั่วอวิ๋นซีไปลั่วชิงยวนนั่งลงช้า ๆ นางนิ่วหน้าเล็กน้อยและครุ่นคิดการที่ใช้คำพูดไม่กี่คำขู่ให้ลั่วอวิ๋นซีกลัวจนหนีไปนั้นไม่ได้เป็นเรื่องง่าย จะต้องมีเรื่องร้ายแรงบางอย่างเกิดขึ้นที่จวนของนางเป็นแน่ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้นางหวาดกลัวเพียงนั้น“อะแฮ่ม… ชิงยวน ที่เจ้าพูดเมื่อกี้นี้จริงเหรอ? นางเป็นหลานสาวของอารองของเจ้า มหาราชครูลั่ว แล้วในจวนของมหาราชครูลั่ว…” ฟู่อวิ๋นโจวดูกังวลนั่นสินะลั่วอวิ๋นซีคนนี้เป็นหลานสาวของมหาราชครูลั่วและก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของนางเองเมื่อเป็นเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่จวนของอารองขึ้นมาในร่างกายของลั่วอวิ๋นซีนั้นมีพลังหยินนางหัวเราะเบา ๆ “ท่านถือเป็นจริงเป็นจังด้วยรึ? ข้าก็เพียงตั้ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 101

    หลังอาหารเที่ยง ลั่วชิงยวนก็พาแม่นมเติ้งออกจากตำหนักอ๋อง ทิ้งให้จือเฉาคอยอยู่เฝ้าเรือน“พระชายา หากว่าท่านต้องการหาของกำนัลวันเกิดให้กับท่านมหาราชครูลั่ว ของนั้นต้องพิถีพิถันหน่อยเจ้าค่ะ ไยเราถึงไม่ไปลองดูของล้ำค่าที่ศาลาทรัพย์สุขาวดีล่ะเจ้าคะ? เพราะอย่างไรก็ลงบัญชีของตำหนักอ๋องไว้”“มิต้องหรอก ของกำนัลที่ข้าจะให้ต้องไม่ใช้เงินของฟู่เฉินหวน”นางไม่อยากให้มีคนมาตำหนิเอาได้ในอนาคต“เราไปที่จวนมหาราชครูดูก่อนดีกว่า”หากว่ามีสิ่งที่เป็นปัญหาที่จวนมหาราชครู การช่วยกำจัดภัยนั้นก็ต้องมีค่ามากกว่าของล้ำค่าจากศาลาทรัพย์สุขาวดีแน่หลังจากที่ต้องผ่านตลาดอันแสนจอแจมา พวกนางก็มาถึงถนนสวีสี่ที่เงียบสงบ นางก็มองเห็นจวนมหาราชครูที่ใหญ่โตตอนนั้นบิดาของนางท่านอัครเสนาบดีก็ยืนอยู่ที่หน้าจวนมหาราชครูด้านหลังของเขาก็มีนักพรตเต๋าที่สวนชุดคลุมแบบนักบวชลัทธิเต๋าอยู่“น้องหญิงหรง เจ้าลองดูก่อน นี่มิใช่เรื่องหลอกลวงต้มตุ๋นแน่ ช่วงนี้ในจวนมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นมากมาย ต้องมีสิ่งใดที่ไม่ดีอยู่เป็นแน่” ลั่วไห่ผิงแนะนำอย่างจริงใจสตรีที่ดูมีสง่าราศีตรงหน้าประตูนั้นมีท่าทางดุร้ายและไม่อาจรับมือได้โดยง่าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 102

    ”เจ้ารักษาหน้าข้าหน่อยไม่ได้หรือไร? แค่นี้เจ้ายังทำข้าอับอายไม่พออีกรึ?”น้ำเสียงตำหนินั้นเป็นเหมือนดั่งมีดแหลมคมที่บาดลึกเข้าไปในหัวใจของลั่วชิงยวนแม้ว่านางจะชินชาแล้วกับเรื่องนี้ แต่ลั่วชิงยวนก็ยังคงรู้สึกไม่ดี ตอนนี้เหมือนว่านางได้กลายเป็นลั่วชิงยวนอย่างสมบูรณ์ และรับรู้ได้ถึงอารมณ์และความเจ็บปวดทั้งหมดของร่างลั่วชิงยวนแต่นางก็โศกเศร้าอยู่เพียงชั่วขณะเท่านั้นสิ่งที่ลั่วไห่ผิงสนใจก็มีแค่ว่า ตัวตนของนางนั้นจะทำให้เขาต้องขายหน้า ในเมื่อนางเป็นบุตรสาวที่ตัดทิ้งไปแล้ว ไยนางเองต้องมีเยื่อใยอยู่ด้วยเล่ายิ่งไปกว่านั้นลั่วไห่ผิงก็มีท่าทีเปลี่ยวเหงา และเขาเองก็ไม่มีญาติสนิทเลยเหมือนกันลั่วไห่ผิงจากไปแล้วเมื่อมองแผ่นหลังที่อ้างว้างของเขา ลั่วชิงยวนก็หันกลับมาและมองไปยังจวนมหาราชครูที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ประกายเย็นเยียบฉายแวบผ่านดวงตาของนางนางจะต้องมาร่วมงานฉลองวันเกิดให้ได้นางแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเหนือจวนมหาราชครู มันมีบรรยากาศที่อึมครึมอยู่จริง ๆ แต่ก็ไม่มากนัก นางไม่ได้เห็นสิ่งอื่นใดอีกก่อนอื่นต้องลองเดินสำรวจรอบ ๆ จวนดูเสียก่อน“แม่นมเติ้ง ออกไปลองถามคนแถวนี้มาซิว่า ช่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 103

    ”หลิงหยวนถัง”ที่ตั้งของหลิงหยวนถังนั้นอยู่บนถนนที่ขึ้นชื่อในด้านพิธีการจัดงานศพ ผู้ที่มาที่นี่โดยทั่วไปจะเป็นคนสามัญ หรือคนรับใช้จากตระกูลชั้นสูงอาภรณ์ของลั่วชิงยวนนั้นค่อนข้างสะดุดตา ดังนั้นนางและแม่นมเติ้งจึงไปหาอาภรณ์ชุดใหม่เปลี่ยนเพื่อให้ดูเหมือนชาวบ้านธรรมดา ก่อนหาผ้าโปร่งมาปิดบังใบหน้าไว้จากนั้นพวกนางก็เดินเข้าไปในร้านที่มีตุ๊กตากระดาษมากมายวางเรียงอยู่เป็นตั้งตรงหัวมุมมีเก้าอี้ไม้โยกตั้งอยู่หลังกองตุ๊กตากระดาษ เสียงเก้าอี้นั้นโยกดังเอี๊ยดอ๊าด แน่นอนว่าต้องมีคนผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่จากนั้นก็มีเสียงหม่นขรึมดังขึ้น “ท่านต้องการเพียงแวะพักชั่วคราวหรือต้องการพักค้างคืน?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็อดนิ่วหน้าไม่ได้“ท่านหมายความเช่นไร…” แม่นมเติ้งเองก็งุนงงเพราะร้านที่พวกนางเข้ามานั้นไม่ใช่โรงเตี๊ยมลั่วชิวยวนจับแขนของแม่นมเติ้งก่อนยกยิ้มและเดินเข้าไปที่เก้าอี้โยก “เถ้าแก่ล้อเล่นแล้ว อยู่ในร้านจัดงานศพ แล้วจะนอนในโลงศพหรือไร?”เสียงเก้าอี้โยกหยุดลงทันทีอากาศดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะมีกระแสลมหอบหนึ่งพัดเข้ามาในร้าน ทำให้ตุ๊กตากระดาษทั้งหลายพากันขยับไหวจนดูเหมือนว่

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1407

    ตามแผนที่นั้น ลั่วชิงยวนนำทางพวกเขาอ้อมไปอ้อมมา ในที่สุดก็มาถึงถ้ำที่โหยวเซียงผลักนางลงไปเนื่องจากก่อนหน้านี้โหยวเซียงนำคนมาไล่ตามพวกนางจากด้านล่าง ด้านบนจึงไม่มีสิ่งใดปิดบังแล้วและบนผนังหินก็มีเถาวัลย์ยาวห้อยลงมาด้วยเมื่อลองดึงเถาวัลย์นั้นก็พบว่าแข็งแรงมาก“ไปกันเถอะ”คนใบ้ยังคงเดินนำหน้า เขาจับเถาวัลย์ปีนขึ้นไปเมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้วลั่วชิงยวนก็ปีนตามไปสุดท้ายก็ดึงโฉวสือชีขึ้นไปทัศนวิสัยเบื้องหน้าพลันสว่างและกว้างขึ้นลั่วชิงยวนมองไปที่คนใบ้ “ยามนั้นเจ้าถูกลากตัวมาที่นี่หรือ?”คนใบ้พยักหน้าโฉวสือชีกล่าวว่า “ข้าก็เหมือนจะเคยมาที่นี่เช่นกัน รู้สึกว่าที่นี่มีพลังหยินเข้มข้นนัก”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ถูกต้อง ก็ที่นี่แหละ”นี่คือจุดหมายที่สองของพวกเขาลั่วชิงยวนทำได้เพียงค้นหาไปทีละแห่ง ตามตำแหน่งที่อยู่ใกล้พวกนางมากที่สุดนางหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมาเริ่มค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนทั้งสามถือโอกาสพักผ่อนในป่าสักครู่และหาอะไรกินเพื่อเติมพลังยามนี้ก็บ่ายแล้ว เห็นได้ชัดว่าฟ้าใกล้จะมืดลง ทั้งสามจึงออกเดินทางต่ออีกครั้งจนได้พบถ้ำแห่งหนึ่งด้านนอกถูกปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้หนา เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1406

    ทั้งสามรีบวิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในมิช้า โหยวเซียงและต่งอวิ๋นซิ่วก็นำผู้คนจำนวนมากมาถึงที่นี่อย่างรีบร้อนแต่เมื่อทั้งคณะพุ่งเข้าไปในถ้ำ กลับพบว่าสิ่งนั้นหายไปแล้ว!สีหน้าของต่งอวิ๋นซิ่วเปลี่ยนไป นางตวาดเสียงดัง “ตามหาให้ทั่ว!”“ข้ามิเชื่อหรอกว่าจะยังมีใครที่เดินเหินไปมาอย่างอิสระในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ได้!”ยามนี้ลั่วชิงยวนมีแผนที่อยู่ในมือ นางสามารถเดินไปไหนมาไหนในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ได้อย่างอิสระจริง ๆนางถึงขนาดรู้ทุกซอกทุกมุมในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ดีกว่าต่งอวิ๋นซิ่วและพรรคพวกด้วยซ้ำเพราะนั่นคือแผนที่ที่อวี๋ตันเฟิ่งวาดให้นาง ซึ่งละเอียดลออยิ่งส่วนพวกต่งอวิ๋นซิ่ว ท้ายที่สุดแล้วความทุ่มเทที่พวกนางมีต่อเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ย่อมมิอาจเทียบกับอวี๋ตันเฟิ่งได้ ความเข้าใจที่พวกนางมีจึงด้อยกว่าอวี๋ตันเฟิ่งลั่วชิงยวนเดินตามแผนที่ มิได้วิ่งหนีเข้าไปในหน้าผาหากไปในเส้นทางนั้นก็อาจถูกตามทันได้ขณะที่วิ่งหนี ลั่วชิงยวนก็แหงนหน้ามองตามผนังหินไปด้วยในที่สุดก็พบทางเข้าถ้ำแห่งหนึ่งแม้จะสูงไปสักหน่อยแต่ทางขึ้นไปก็มิได้ชันมาก ปีนป่ายขึ้นไปก็ได้แล้ว“ปีนขึ้นไปทางนั้น!”เมื่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1405

    สิ่งที่อยู่ในโลงเริ่มสั่นไหวรุนแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น และโลงศพก็ระเบิดออกในที่สุดทันใดนั้น ศพชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาบีบคอฝูเหมิ่งไว้สิ่งที่เป็นกึ่งคนกึ่งผีทั้งสองเริ่มต่อสู้กันลั่วชิงยวนสังเกตอยู่ครู่หนึ่งก็พบว่า ชายคนนั้นก็ดุร้ายเช่นกันและเป็นสิ่งที่อันตรายมากทั้งสองเข้าโรมรันต่อสู้กันอย่างดุเดือดเนื่องจากศพชายคนนั้นฉุดรั้งฝูเหมิ่งไว้ ลั่วชิงยวนจึงหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ขึ้นมาสังเกตการณ์ในถ้ำแห่งนี้อย่างเงียบ ๆแท้จริงแล้วที่นี่คือหนึ่งในจุดรวมพลังศพของอวี๋ตันเฟิ่งก็ควรจะอยู่ที่นี่ ไม่มีทางผิดพลาดแน่แต่ถ้ำแห่งนี้มีขนาดเล็กเพียงเท่านี้ มองปราดเดียวก็เห็นทั่วแล้ว ไม่มีที่ให้เข้าไปลึกกว่านี้แล้วลั่วชิงยวนถือเข็มทิศมองอยู่นาน และทันใดนั้นดวงตาของนางก็พลันเป็นประกายใต้พื้นถ้ำ!เมื่อมองไปยังใต้โลงศพก็พบว่าเป็นจานกลมขนาดใหญ่ น่าจะขยับได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็เริ่มค้นหาตัวไขกลไก ในที่สุดสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่รูปปั้นหินบนผนัง“พวกเจ้าช่วยคุ้มกันข้าหน่อย!”ลั่วชิงยวนหยิบเชือกออกมาคล้องที่เอวพร้อมมัดไว้ก่อนจะส่งปลายเชือกให้อาถู่และโฉวสือชีถือไว้จากนั้นนางก็กระโจนไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1404

    โฉวสือชีชะงักไปครู่หนึ่ง “มีทางลงไปจากหน้าผาด้วยหรือ?”ลั่วชิงยวนพยักหน้าหลังจากที่ทั้งสามพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ออกเดินทางต่อมุ่งหน้าลงจากเขาไปเมื่อเดินไปได้ประมาณหนึ่งชั่วยาม ลั่วชิงยวนก็พาพวกเขามาถึงเชิงผา ที่นี่มีหน้าผาสูงชันทั้งสองด้านและด้านล่างเป็นลำธารตื้น ๆ สายหนึ่งพวกเขาก้าวเท้าไปตามลำธาร เดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆที่นี่อากาศหนาวเย็นจัด หนาวจนมือเท้าชาเลยทีเดียวทางเดินบางครั้งก็กว้าง บางครั้งก็แคบ แสงสว่างบางครั้งก็สว่างจ้า บางครั้งก็สลัวเดินไปนานมาก ในที่สุดด้านหน้าก็ปรากฏร่างหนึ่งศพของหงไห่นั่นเองเมื่อตกลงมาจากที่สูงเช่นนั้นจึงมิเหลือแม้แต่ซากศพที่สมบูรณ์...ลั่วชิงยวนหดหู่ใจ หยิบยันต์รวมวิญญาณออกมาแล้วนำขวดออกมาบรรจุวิญญาณของหงไห่แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าโฉวสือชีและคนใบ้ค้นบริเวณนี้มาครู่หนึ่งแล้วเมื่อกลับมาถึง ทั้งสามก็สบตากัน สีหน้าหนักอึ้งไปตามกัน“ฝูเหมิ่งยังมิตาย”พวกเขามิพบศพของฝูเหมิ่งเรื่องนี้อยู่ในความคาดหมายของลั่วชิงยวนอยู่แล้ว เพราะท้ายที่สุด ในร่างของฝูเหมิ่งในตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิงแต่เมื่อตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น ร่างกายของฝูเหมิ่งก็น่าจะได้ร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1403

    ลั่วชิงยวนรีบเงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นใบหน้าอันน่าสะพรึงกลัวปรากฏอยู่เหนือศีรษะของนาง!มิว่าจะเป็นฝูเหมิ่งหรือโหยวจิ้งเฉิงที่อยู่ในร่างของฝูเหมิ่งล้วนจ้องไปที่ลั่วชิงยวนเป้าหมายของพวกเขาคือลั่วชิงยวนมาโดยตลอด!ฝูเหมิ่งแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมกระโจนเข้ามาทันใดนั้นเอง หงไห่ก็ตัดเชือกที่เอวทิ้งแล้วพุ่งตัวกระโจนเข้าใส่ขณะที่เขาหลุดออกจากหน้าผา ลั่วชิงยวนตกใจจนหน้าซีดเผือดจากนั้นก็เห็นหงไห่คว้าตัวฝูเหมิ่งไว้ ทั้งสองร่วงลงจากหน้าผาไปพร้อมกันลั่วชิงยวนตาไวมือไว รีบคว้าเชือกที่ผูกเอวหงไห่ไว้อีกครั้ง แต่แรงของนางกลับฉุดพวกเขาไว้มิได้นางจึงพันเชือกไว้รอบข้อมือเชือกรัดจนข้อมือนางขาวซีดและฝ่ามือถลอกคนใบ้รีบเข้ามาช่วยดึงลั่วชิงยวนไว้ เกรงว่านางจะถูกฉุดกระชากลงไปด้วยหงไห่กอดฝูเหมิ่งไว้แน่น ส่วนฝูเหมิ่งก็กัดแทะไหล่ของหงไห่อย่างโหดเหี้ยมเลือดสาดกระเซ็น เศษเนื้อชิ้นแล้วชิ้นเล่าตกลงไปในหุบเหวลั่วชิงยวนกัดฟันแน่น “เจ้าจงอดทนไว้!”หงไห่ทนความเจ็บปวดอย่างสุดกำลัง บังคับฝูเหมิ่งไว้ให้ได้“ปล่อย! พวกเจ้าฉุดข้าไว้มิได้หรอก! พวกเจ้าจะถูกข้าดึงลงไปด้วย!”โฉวสือชีก็ขยับตัวอย่างกระวนกระวาย หม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1402

    โชคดีที่นางจับกริชไว้แน่นส่วนคนใบ้ที่อยู่ด้านหลังก็รีบคว้าแขนของนางไว้อย่างรวดเร็วแล้วช่วยพยุงนางไว้ลั่วชิงยวนยืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง รอดตายหวุดหวิดในใจของทุกคนตึงเครียดอย่างยิ่ง แต่กลับไม่มีใครเอ่ยคำใด ด้วยเกรงว่าจะทำให้คนอื่น ๆ ตึงเครียดไปด้วย พวกเขาก้าวเท้าแต่ละก้าวบนหน้าผาอย่างเชื่องช้าแต่ดูเหมือนหนทางเบื้องหน้าจะไร้ที่สิ้นสุด มิรู้ว่าเมื่อใดจึงจะได้เหยียบพื้นอย่างมั่นคงทันใดนั้นเอง หงไห่ที่ไต่นำหน้าก็หยุดนิ่งลั่วชิงยวนจำต้องหยุดตาม มิกล้าเข้าไปใกล้มากนัก เพราะก้อนหินที่เหยียบอยู่นั้นอาจรับน้ำหนักสองคนมิไหวเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ก้อนหินที่เหยียบอยู่พังลงพร้อมกัน พวกเขาจึงเว้นระยะห่างกันพอสมควร“มีกระไรหรือ?” ลั่วชิงยวนถามทันใดนั้นก็มีลมกระโชกแรงพัดมาจากเบื้องหน้า พร้อมกับกลิ่นอายอาฆาตลั่วชิงยวนขมวดคิ้วอันตรายที่มาจากเบื้องหน้าทำให้ลั่วชิงยวนกลั้นหายใจนางขยับเท้าไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วก็ได้เห็นภาพสยองชวนขนลุกบนหน้าผาเบื้องหน้า ฝูเหมิ่งกำลังเกาะติดอยู่ราวกับแมงมุม ซึ่งขวางทางของพวกเขาไว้พอดีที่แขนขาของเขามีกรงเล็บเหล็ก เหมือนกับที่ลั่วชิงยวนเคยเห็นบนร่างข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status