Share

บทที่ 598

Auteur: หว่านชิงอิ๋น
สีหน้าของบุรุษผู้นั้นดูทั้งประหลาดใจและสงสัย เขาตกใจมากจนพูดไม่ออกครู่หนึ่ง

“ลูกเอ๋ย แม่ตามหาเจ้ามานานแล้ว ในที่สุดก็พบเจ้าเสียที” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนไม่อาจปกปิดความตื่นเต้นของนางได้

บุรุษผู้นั้นขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น “เหตุใดแม่ของข้ายังสาวถึงเพียงนี้”

ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าโศก "ลูกเอ๋ย ดูตัวเจ้าเถิด นี่คือชีวิตหลังความตาย"

“เจ้าถูกลักพาตัวโดยพวกค้ามนุษย์ตั้งแต่ยังเล็ก พ่อและแม่ตามหาเจ้ามาสามสิบปีแล้ว แต่เจ้ากลับจำพ่อแม่มิได้และฆ่าพวกเราโดยมิได้ตั้งใจ”

“ข้ามิอาจบอกเจ้าได้ว่าเราทั้งคู่เป็นพ่อแม่ทางสายเลือดของเจ้าจนในที่สุดพวกเราก็ตายลง!”

“พ่อของเจ้ากลับชาติมาเกิด ในขณะที่เจ้าและข้ากลายเป็นวิญญาณโดดเดี่ยว ตอนนี้ข้าพบร่างกายของข้าแล้ว และข้าก็พบเจ้าเช่นกัน ลูกชายของข้า!”

บุรุษผู้นั้นตกใจกับคำพูดที่ประดิษฐ์ขึ้นของลั่วชิงยวนทันที

“ท่าน… ท่านเป็นแม่ของข้าจริงหรือ?”

ลั่วชิงยวนพูดอย่างเร่งรีบว่า “หากไม่เช่นนั้น บัดนี้เจ้าอยู่ในมือของข้า และข้าสามารถทำให้เจ้าหายไปได้ทุกเมื่อ แต่ข้าไม่เลือกจะทำเพียงเพราะเจ้าเป็นบุตรชายของข้า!”

ท่าทีของบุรุษผู้นั้นราวกับไม่เชื่ออย่างสุดใจ

“แล
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 599

    “ลั่วเยวี่ยอิง ผู้ใดให้สิทธิ์เจ้าบุกเข้ามาในห้องของข้า” ลั่วชิงยวนเดินไปหาลั่วเยวี่ยอิงด้วยน้ำเสียงอันเฉียบคมลั่วเยวี่ยอิงหัวเราะเบา ๆ “ข้าได้ยินมาว่าแม่นางฝูเสวี่ยเข้ามาในห้องนี้ ข้ามาพบแม่นางฝูเสวี่ย เช่นนั้นเกี่ยวอะไรกับท่าน?”“ยิ่งกว่านั้น ห้องนี้มีกลิ่นคาวเลือดชัดเจน แม่นางฝูเสวี่ยได้รับบาดเจ็บและท่านอ๋องก็นำตัวนางกลับมายังตำหนัก ทุกคนต่างรู้ดีว่าแม่นางฝูเสวี่ยอยู่ที่นี่! ลั่วชิงยวนข้าขอแนะนำท่านอย่าได้ทำอะไรกับแม่นางฝูเสวี่ยเด็ดขาด มิเช่นนั้นท่านอ๋องก็ไม่อาจไว้ชีวิตท่านได้!”หลังจากที่ลั่วเยวี่ยอิงพูดจบ นางก็มองไปรอบ ๆ แล้วเอ่ยขึ้นทันทีว่า “ท่านซ่อนแม่นางฝูเสวี่ยไว้ที่ใด ข้าอยากเจอนางเดี๋ยวนี้!”ลั่วเยวี่ยอิงพูดขณะที่นางค้นหาไปทั่วห้อง นางเปิดตู้อาภรณ์และเอื้อมมือไปใต้เตียงเมื่อสักครู่อาภรณ์ที่เปื้อนเลือดของนางถูกยัดไว้ใต้เตียงชั่วคราวและยังไม่ได้ถูกจัดเก็บลั่วชิงยวนรีบจับตัวลั่วเยวี่ยอิงแล้วผลักนางออกไปทันที “ลั่วเยวี่ยอิง! เจ้ามาที่นี่เพื่อถามอะไรข้า? ตำหนักอ๋องเป็นที่ของเจ้าอย่างนั้นรึ?”“ท่านอ๋องพาฝูเสวี่ยกลับไปที่หอฝูเสวี่ยแล้ว หากเจ้าต้องการพบนาง เจ้าก็ควรไปที่หอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 600

    หัวใจของลั่วชิงยวนสั่นระรัวเว่ยอวิ๋นเซี๋ยเป็นคนแรกที่รีบเร่งไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น "แค่ถอดอาภรณ์ของนางออกก็ดูได้แล้วนี่!"“หากนางเป็นฝูเสวี่ยจริง นางคงได้รับบาดเจ็บบนร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว!”จือเฉาปกป้องลั่วชิงยวนอย่างสุดกำลัง นางพยายามหยุดยั้งเว่ยอวิ๋นเซี๋ย “เจ้าบ้าไปแล้วรึ?! เจ้ากล้าเปลื้องอาภรณ์ของพระชายางั้นรึ?!”แต่จือเฉาเพียงคนเดียวไม่อาจหยุดพวกนางได้ในเวลานี้ ลั่วเยวี่ยอิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เว่ยอวิ๋นเซี๋ยพูดถูก หากลั่วชิงยวนคือฝูเสวี่ย เราก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป หากถอดอาภรณ์ของนางออกและเห็นบาดแผลเช่นนั้นก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าใช่นางหรือไม่”“พี่หญิง โปรดให้ความร่วมมือด้วย เราไม่ต้องการทำร้ายท่าน เพียงแต่ห่วงใยท่านเท่านั้น”ขณะที่นางพูดเช่นนั้น นางก็นำคนอื่น ๆ เข้ามาล้อมรอบตัวลั่วชิงยวนจือเฉาปกป้องลั่วชิงยวนและถอยห่างออกไปทีละก้าวลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว บาดแผลที่แขนของนางก็มีเลือดไหลซึมออกมา ลั่วเยวี่ยอิงและคนอื่น ๆ ได้เห็นแล้วแม้ว่านางจะซ่อนตัวไว้ แต่ลั่วเยวี่ยอิงและคนอื่นอาจพูดเรื่องไม่ดี หลังจากที่พวกนางออกไปข้างนอก พวกนางก็จะกระจายข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 601

    “พวกเจ้าต่างเป็นสตรีสูงศักดิ์จากตระกูลร่ำรวย แต่วันนี้เจ้ากล้าบุกรุกเข้ามาในตำหนักอ๋องและก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่! การกระทำไร้ยางอายเช่นนี้พวกเจ้าไปเรียนรู้มาจากที่ใดกัน?”เมื่อถูกถามด้วยคำถามนี้ สีหน้าของพวกนางก็ดูน่าเกลียดทันที“พวกข้าเพียงแค่...” เว่ยอวิ๋นเซี๋ยต้องการอธิบายฟู่อวิ๋นโจวไอเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “ที่นี่ตำหนักอ๋อง ผู้ใดอนุญาตให้พวกเจ้าเข้ามา?! ออกไป!"ฟู่อวิ๋นโจวโกรธมากลั่วเยวี่ยอิงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องออกไปพร้อมกับทุกคนเว่ยอวิ๋นเซี๋ยและคนอื่น ๆ ไม่พอใจอย่างมากเนื่องจากเกือบจะถูกไล่ออกจากตำหนักอ๋อง“ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าลั่วชิงยวนจะกล้าลงมือเช่นนี้ นางถูกเปิดเผยตัวตนแล้วชัด ๆ! ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”ลั่วเยวี่ยอิงกลับหัวเราะขึ้นมาเว่ยอวิ๋นเซี๋ยจ้องมองนาง “เจ้ายังหัวเราะได้อยู่อีกหรือ?”ลั่วเยวี่ยอิงยิ้มและพูดว่า “วันนี้นางทุบตีพวกเราใช่หรือไม่?”“ทุกคนกลับเถอะ อย่าได้ปล่อยผ่านเรื่องนี้ เรื่องราวน่ารังเกียจที่เกิดขึ้นในวันนี้จะต้องบอกเล่าแก่คนอื่น ๆ ให้ได้”ดวงตาของเว่ยอวิ๋นเซี๋ยเป็นประกาย นางตะคอกขึ้นอย่างเย็นชา “หากเป็นเช่นนั้น ข้าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 602

    “แม่นางซ่งมิเป็นไรหรอก”ดูเหมือนว่าซ่งเชียนฉู่จะตกอยู่ในอันตราย และราชันย์อสรพิษได้ช่วยนางไว้แล้วเมื่อนางอัญเชิญราชันย์อสรพิษในห้องตำราของตระกูลฝู ด้วยเหตุนี้ราชันย์อสรพิษจึงมิได้ปรากฏตัวครั้นราชันย์อสรพิษอยู่เคียงข้างซ่งเชียนฉู่แล้ว ก็มิน่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นกับซ่งเชียนฉู่ได้อีกยามนี้อาการของนางค่อนข้างบาดเจ็บสาหัส ลั่วเยวี่ยอิงจะต้องสร้างความยุ่งยากอย่างแน่นอน นางจึงจำเป็นต้องหาวิธีรับมือกับเรื่องเหล่านี้“ข้าจะสั่งยา แม่นมช่วยไปรับยาที่ร้านโอสถให้ข้าที” ลั่วชิงยวนหยิบพู่กันและกระดาษมาเขียนเทียบยาทันที จากนั้นนางก็ยื่นเทียบยาให้แม่นมเติ้งแม่นมเติ้งรับเทียบยาแล้วพูดว่า “บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้ พระชายาอดทนก่อนนะเจ้าคะ”แม่นมเติ้งไปร้านโอสถ ขณะที่ลั่วชิงยวนนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงสักพัก“จือเฉา เจ้าออกไปสอบถามข่าวลือข้างนอก หากมีข่าวลือเกี่ยวกับข้า กลับมาบอกข้าด้วย” ลั่วชิงยวนหลับตาพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“เจ้าค่ะ” เมื่อพูดจบจือเฉาก็ออกไปทันทีหลังจากนั้นไม่นานจือเฉาก็กลับมาด้วยความโกรธ ลั่วชิงยวนที่เพิ่งดื่มยาเสร็จและรู้สึกง่วงนอนเล็กน้อยกลับถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงโกรธของจือเฉา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 603

    จือเฉายืนรออยู่ข้างนอก แต่กลับถูกองครักษ์ประจำคุกใต้ดินไล่ออกไป เช่นนั้นจือเฉาจึงต้องกลับไปที่เรือนก่อนเมื่อนางเดินเข้าไปในคุกใต้ดิน ตลอดทางทั้งสองฝั่งก็มีองครักษ์ประจำคุกใต้ดินคอยเฝ้าอยู่และรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดลั่วชิงยวนพบกับนักฆ่าของสำนักเทียนอิงซึ่งถูกขังอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของทางเดินเขานั่งขัดสมาธิพร้อมกับหลับตาพิงผนัง ขณะที่ทั้งมือและเท้าของเขาถูกล่ามด้วยโซ่ตรวน ลั่วชิงยวนต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทำให้องครักษ์ประจำคุกใต้ดินอยู่ห่างออกไปเล็กน้อยจากนั้นนางก็มองไปยังคนที่นั่งอยู่ในห้องขังแล้วเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เจ้ามีนามว่าอะไร?”นักฆ่ายังคงนิ่งเงียบแต่ในขณะนั้นกลับมีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น “ท่านแม่ เขาดูเหมือนข้า!”นั่นคือเสียงของเตี่ยฉุยซึ่งอยู่ในเครื่องราง ลั่วชิงยวนปลดปล่อยเขาแล้วพูดว่า “ใช่ ดูคล้ายกันมาก เขาคือผู้ที่ทำให้เจ้าเป็นเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้ เจ้าอยู่ในร่างของเขา”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เตี่ยฉุยก็โกรธมาก “ว่ากระไรนะ?!”เมื่อได้ยินเสียงพูด นักฆ่าสำนักเทียนอิงซึ่งกำลังนั่งอยู่ในห้องขังก็ไม่อาจนั่งนิ่งได้อีกต่อไป เขาลืมตาขึ้น ก่อนจะหรี่ตาลงเล็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 604

    องครักษ์ประจำคุกใต้ดินตกใจเป็นอย่างมากพลางคิดว่าลั่วชิงยวนจะสามารถสอบปากคำได้รวดเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ?พวกเขาทุกคนรู้จักนักฆ่าแห่งสำนักเทียนอิงเป็นอย่างดี เหล่านักฆ่าจะไม่มีวันทรยศต่อเจ้านายของพวกเขาเด็ดขาด ไม่ว่าจะใช้วิธีสอบสวนแบบใดก็ตามไม่อาจส่งผลต่อพวกเขาได้เลยเช่นนั้นแล้วทั้งท่านอ๋องและเซียวชูจึงมิได้สั่งให้ประหารชีวิตเขาตั้งแต่แรก เพราะรู้ว่ามิอาจสอบสวนสิ่งใดได้เลยเมื่อพระชายาต้องการเข้ามาสอบปากคำ เช่นนั้นแล้วพวกเขาจึงมิได้จริงจังกับเรื่องนี้ ตราบใดที่นางไม่สามารถเข้าถึงตัวนักฆ่าได้โดยตรง ทว่า นางไม่เคยพบกับนักฆ่ามาก่อน นางจะสอบปากคำเขาได้เช่นไร?องครักษ์ประจำคุกใต้ดินนำโต๊ะกับเก้าอี้มาวางให้นาง ก่อนจะนำปากกาและกระดาษวางไว้บนโต๊ะลั่วชิงยวนนั่งลง จากนั้นก็เริ่มจดบันทึกหลักฐานการกระทำความผิดของตระกูลฝูตามคำสารภาพของนักฆ่าหลังจากเขียนบันทึกหลักฐานนางก็ถูข้อมืออย่างเหนื่อยล้าเมื่อนางมองขึ้นไปก็พบเข้ากับสายตาขององครักษ์ประจำคุกใต้ดินหลายคนซึ่งยืนอยู่ข้างนาง “มัวมองข้าหาปะไร ไปทำงานของพวกเจ้าสิ”จากนั้นองครักษ์ประจำคุกใต้ดินก็รู้สึกตัว พวกเขาจึงหันหลังกลับและจากไปลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 605

    ครู่ต่อมา นักฆ่าชุดดำซึ่งสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าก็รีบเร่งเข้ามา องครักษ์ประจำคุกใต้ดินไม่อาจต่อกรกับเขาได้!เมื่อเขาเห็นลั่วชิงยวน เขาก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัดนักฆ่าจับกริชไว้แน่น ก่อนจะรีบวิ่งมาหานางอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนมิได้ซ่อนตัวแต่นางกลับเลือกก้าวไปข้างหน้าแทนนางรู้ว่าคนที่พยายามฆ่าปิดปากนางมาถึงแล้ว แต่นางคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะกล้าบุกเข้ามาในตำหนักอ๋องเพียงเพื่อที่จะฆ่าปิดปากนางลั่วชิงยวนยกมือขึ้นเพื่อป้องกันกริชของคู่ต่อสู้ นางอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงพร้อมทั้งต่อสู้กับอีกฝ่าย แม้ว่านางจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นางก็ยังคงรวดเร็วนักหลายครั้งที่นางพยายามคว้ากริชจากมือของอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายก็หลบได้ในทุกครั้งทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ในขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน ทันใดนั้น นักฆ่าผู้นั้นขว้างกริชไปยังนักฆ่าอีกคนซึ่งอยู่ในห้องขังนักฆ่าสามารถหลบเลี่ยงได้ แต่กลิ่นหอมจาง ๆ ซึ่งเล็ดลอดออกมาจากกริชก็ทำให้นักฆ่าอาเจียนเป็นเลือดทันทีสีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไป นักฆ่าผู้นี้ได้รับพิษไปแล้ว ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดพิษและฆ่าเขาได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 606

    ในคุกใต้ดิน ในที่สุดลั่วชิงยวนก็ปล่อยมือจากนักฆ่าผู้นั้น จากนั้นนางก็ปล่อยให้เขาหลบหนีไปนางไล่ตามเขาไปจนสุดทางออกจากคุกใต้ดิน กระทั่งผ่านสวน แต่เมื่อนางไปถึงสวนหลังตำหนัก ร่างนั้นก็หายไปแล้วเขากำลังหนีออกจากตำหนัก!ขณะนี้มีกำลังคนไม่มากนักในตำหนักอ๋อง และไม่มีที่ไหนที่จะไล่ตามเขาไปได้ทว่า ในขณะนี้ที่ลานหน้าตำหนัก ซูโหยวกำลังกลับมาพร้อมกับคนของเขา เมื่อเขารู้ว่ามีนักฆ่าบุกเข้าไปในคุกใต้ดิน เขาก็รีบไปที่นั่นพร้อมกับคนของเขาในทันทีเขารีบเร่งไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของคุกใต้ดิน ซึ่งมีนักฆ่าสำนักเทียนอิงอยู่ในห้องขังนั้น นักฆ่าได้อาเจียนออกมาเป็นเลือด จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นสีหน้าของซูโหยวเปลี่ยนไปอย่างมากฟู่เฉินหวนกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตำหนักอ๋อง เช่นนั้นจึงขอให้เขารีบกลับทันที ทว่า เขาก็ยังช้าเกินไปหนึ่งก้าว“ผู้ใดมันกล้าบุกเข้ามายังตำหนักอ๋องเพื่อก่อเหตุฆาตกรรมเช่นนี้!” ซูโหยวขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาแฝงไปด้วยความโกรธแค้นจากนั้นเขาก็ถามองครักษ์ประจำคุกใต้ดินทันทีว่า “วันนี้มีอะไรผิดปกติในตำหนักอ๋องหรือไม่?”องครักษ์ประจำคุกใต้ดินส่ายหน้า ก่อนจะลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพู

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status