แชร์

บทที่ 606

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-06 16:00:00
ในคุกใต้ดิน ในที่สุดลั่วชิงยวนก็ปล่อยมือจากนักฆ่าผู้นั้น จากนั้นนางก็ปล่อยให้เขาหลบหนีไป

นางไล่ตามเขาไปจนสุดทางออกจากคุกใต้ดิน กระทั่งผ่านสวน แต่เมื่อนางไปถึงสวนหลังตำหนัก ร่างนั้นก็หายไปแล้ว

เขากำลังหนีออกจากตำหนัก!

ขณะนี้มีกำลังคนไม่มากนักในตำหนักอ๋อง และไม่มีที่ไหนที่จะไล่ตามเขาไปได้

ทว่า ในขณะนี้ที่ลานหน้าตำหนัก ซูโหยวกำลังกลับมาพร้อมกับคนของเขา เมื่อเขารู้ว่ามีนักฆ่าบุกเข้าไปในคุกใต้ดิน เขาก็รีบไปที่นั่นพร้อมกับคนของเขาในทันที

เขารีบเร่งไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของคุกใต้ดิน ซึ่งมีนักฆ่าสำนักเทียนอิงอยู่ในห้องขังนั้น นักฆ่าได้อาเจียนออกมาเป็นเลือด จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้น

สีหน้าของซูโหยวเปลี่ยนไปอย่างมาก

ฟู่เฉินหวนกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตำหนักอ๋อง เช่นนั้นจึงขอให้เขารีบกลับทันที ทว่า เขาก็ยังช้าเกินไปหนึ่งก้าว

“ผู้ใดมันกล้าบุกเข้ามายังตำหนักอ๋องเพื่อก่อเหตุฆาตกรรมเช่นนี้!” ซูโหยวขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาแฝงไปด้วยความโกรธแค้น

จากนั้นเขาก็ถามองครักษ์ประจำคุกใต้ดินทันทีว่า “วันนี้มีอะไรผิดปกติในตำหนักอ๋องหรือไม่?”

องครักษ์ประจำคุกใต้ดินส่ายหน้า ก่อนจะลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 607

    “นักฆ่าผู้นี้ถูกวางยาพิษจริง ๆ ยากที่จะรักษาเขาได้ ข้าทำได้เพียงให้เขามีชีวิตอยู่ได้สองหรือสามวันเท่านั้น หากเจ้าต้องการพยาน ควรรีบลงมือโดยเร็วที่สุด!”“ข้าไม่มีเวลามากพอที่จะอธิบายเรื่องราวให้เจ้าได้ฟังอย่างละเอียด นักฆ่าที่มาในวันนี้สวมหน้าปิดบังใบหน้าไว้ เขามีทักษะการต่อสู้ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับสำนักเทียนอิงและสำนักวรยุทธเจียงฮู๋ เป็นไปได้ว่าตัวตนของคนผู้นี้นั้นไม่ธรรมดาเลย”“ข้าไล่ตามเขาไปที่สวนหลังตำหนัก แต่แล้วเขาก็หายตัวไป เขาน่าจะหนีออกจากตำหนักไปแล้ว เขาคงคิดว่านักฆ่าสำนักเทียนอิงตายแล้ว เราจะใช้โอกาสนี้จับพวกเขาโดยมิทันให้ได้ตั้งตัว”“ข้าจะเข้าวัง”หลังจากการอธิบายเรื่องทั้งหมด ลั่วชิงยวนก็ก้าวเดินมุ่งหน้าออกจากคุกใต้ดินซูโหยวหยิบบันทึกพยานหลักฐานจำนวนมากขึ้นมาดู ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากพระชายาอ๋อง นางสามารถถามหลักฐานมากมายจากปากของนักฆ่าสำนักเทียนอิงได้เช่นไร!เมื่อครู่นี้เขายังสงสัยนางด้วยซ้ำไป!เมื่อเขาฟื้นคืนสติได้ ร่างของลั่วชิงยวนก็เดินจากไปแล้วจู่ ๆ ซูโหยวก็กำฝ่ามือของเขาแน่น ราวกับในใจของเขารู้สึกผิดเป็นอย่างมากเขาไล่ตามนางไปทันทีแต่ลั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-06
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 608

    หัวใจลั่วชิงยวนสั่นไหวอย่างรุนแรงไทเฮารู้ดีว่าบุคคลที่นางเชิญคือลั่วชิงยวน พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการเห็นได้ชัดว่าไทเฮาก็รู้เรื่องนี้แล้วเช่นกันลั่วชิงยวนไม่ปิดบังอีกต่อไป “ใช่เพคะ!”ไทเฮายิ้มออกมาอย่างไม่อาจคาดเดาได้ จากนั้นนางจึงเงยหน้าขึ้นมองลั่วชิงยวน “เจ้ารู้หรือไม่พระชายาสถานะของเจ้าตอนนี้คืออะไร?”“ฟู่เฉินหวนเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ และเมื่อเจ้าแต่งงานกับราชวงศ์ ทุกสิ่งที่เจ้าพูดไปจนถึงทุกการกระทำล้วนเป็นหน้าเป็นตาของราชวงศ์ ทว่า เจ้ากับไปที่หอนางโลมเพื่อเป็นนางรำ”“หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป เกียรติยศและศักดิ์ศรีของราชวงศ์เทียนเชวียจะต้องเสื่อมเสียเพราะเจ้าใช่หรือไม่?”เสียงของไทเฮาเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ เต็มไปด้วยน้ำเสียงอันน่าเกรงขามในห้องโถงอันเงียบสงบแห่งนี้ และทำให้ผู้คนที่ได้ยินสั่นสะท้านด้วยความกลัวลั่วชิงยวนคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกับก้มศีรษะลงทันที คิ้วของนางขมวดมุ่น นางมิอาจเอื้อนเอ่ยคำพูดใดได้เลยไทเฮามองดูนางอย่างเย็นชา “เจ้าจะไม่พูดสิ่งใดเลยหรือ? เช่นนั้นแล้วเจ้าก็คงเข้าใจดีถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ใช่หรือไม่?”“ข้าควรลงโทษเจ้าเช่นไรกับความผิดเยี่ยงน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-07
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 609

    เมื่อเห็นนางรับขวดยา ไทเฮาก็เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “นั่งลง”“จิ่นชู วันนี้ฝ่ายห้องเครื่องทำขนมหรือไม่? มอบให้ชิงหยวนได้ลิ้มลองสักชามสิ”“เพคะไทเฮา”คำสั่งอย่างกะทันหันของไทเฮาทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในไม่ช้า จิ่นชูก็นำขนมมา ลั่วชิงยวนจึงรับขนมแล้วกินเข้าไปสองสามคำแล้วพูดว่า “ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันต้องกลับไปหาทางจัดการกับเรื่องนี้ แล้วเหตุใดจึงมิให้หม่อมฉันออกไปเพคะ?”ไทเฮาพยักหน้าเล็กน้อยลั่วชิงยวนจึงยืนขึ้นและทำความเคารพ ก่อนจะหันหลังกลับเพื่อจากไปทว่า ทันทีที่นางยืนขึ้น ขันทีก็รีบเข้ามาหาไทเฮาทันที ลั่วชิงยวนเหลือบมองไปด้านข้างจึงเห็นว่าขันทีพูดอะไรบางอย่างข้างหูของไทเฮาสีหน้าของไทเฮาเปลี่ยนไปกะทันหันจู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกกังวลใจ นางจึงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นในทันทีทว่า ทันทีที่นางไปถึงประตู จู่ ๆ เสียงของไทเฮาก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง “ชิงยวน”เสียงอันสง่างามนั้นทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนสั่นสะท้าน“ตัวข้ามีอีกเรื่องจะบอกเจ้า มานี่สิ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงกำขวดยาซึ่งอยู่ในฝ่ามือใต้แขนเสื้อไว้แน่นจิ่นชูกำลังเดินเข้ามาทันใดนั้น บรรยากาศก็ตึงเครียดทันทีลั่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-07
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 610

    ในที่สุดฟู่เฉินหวนก็เดินออกจากราชสำนัก ก่อนจะเห็นว่าซูโหยวยังคงรออยู่ข้างนอก เขาออกคำสั่งทันทีว่า “ไปตรวจสอบตามเนื้อหาคำให้การเหล่านี้ จะต้องได้รับหลักฐานการกระทำผิดทั้งหมด!”ซูโหยวพยักหน้า “กระหม่อมขอให้เซียวชูจัดการเรื่องนี้ไว้ก่อนที่จะเข้าวังหลวงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนซึ่งกำลังอารมณ์ดีจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าซักถามเบาะแสมากมายได้เช่นไรในเวลาอันสั้นเช่นนี้?”ในขณะที่ซูโหยวกำลังจะพูด ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็น มหาราชาจารย์เหยียนเดินผ่านมา เขาจึงยกมือขึ้นปิดปากของตนเอาไว้เมื่อเขาและฟู่เฉินหวนเดินเข้าไปยังมุมร้าง ซูโหยวก็พูดอย่างรีบเร่งว่า “ท่านอ๋อง คำให้การเหล่านี้ล้วนได้มาจากพระชายา!”“ก่อนที่กระหม่อมจะเข้าไปในพระราชวัง ไทเฮาได้เรียกพบพระชายา จากนั้นก็ให้จิ่นชูจากพระตำหนักโช่วสี่มารับนางไป!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปทันที “ว่ากระไรนะ! ไฉนเจ้ามิบอกข้าก่อนหน้านี้เล่า?!”ทันทีที่พูดจบ ฟู่เฉินหวนก็รีบมุ่งหน้าไปยังพระตำหนักโช่วสี่อย่างรวดเร็วเมื่อฟู่เฉินหวนมาถึงพระตำหนักโช่วสี่โดยเร็ว เขาก้าวเดินเข้าไปในห้องโถงอย่างแข็งกร้าว ทันใดนั้น เขาก็เห็นฉากกรอกยาพิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-08
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 611

    ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพร้อมกับเหลือบมองซูโหยวทันที เช่นนั้นซูโหยวจึงรีบขอให้หมอออกไปก่อน จากนั้นก็พูดว่า “กระหม่อมจะไปเชิญหมอเพิ่มอีกสองสามคน”ซูโหยวเชิญหมอมาอีกหลายคน แต่ผลลัพธ์ก็เกือบจะเหมือนเดิมมีพิษอยู่ในร่างกาย แต่ในขณะนี้ ดูเหมือนจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ทว่าอาการบาดเจ็บนั้นร้ายแรงมากและจำเป็นต้องได้รับยา นอกจากนี้ นางยังต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาครึ่งเดือนก่อนจึงจะเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งยังต้องได้รับการดูแลอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นนั้นแล้วนอกจากยาที่หมอสั่งให้ในวันนี้ เหล่านางรับใช้ก็ยังนำสมุนไพรต่าง ๆ มากมายเข้ามาพร้อมทั้งตักน้ำมาขัดผิวปรนนิบัติให้นางเดิมทีลั่วชิงยวนต้องการลุกขึ้น แต่เมื่อมองดูผู้คนที่ยุ่งวุ่นวายทั้งภายในและภายนอกห้อง นางก็ไม่อยากลุกขึ้นทันทีนี่ไม่ใช่วิธีที่พระชายาควรได้รับการปฏิบัติหรอกหรือ?หลังจากกินจนอิ่ม ลั่วชิงยวนก็นอนหลับสนิทเมื่อถึงช่วงดึก ฟู่เฉินหวนก็เข้ามาในเรือนนอนเขานำขวดยารักษาบาดแผลคุณภาพสูงยื่นให้กับจือเฉา “เปลี่ยนยาให้นาง”จือเฉาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างเชื่องช้า “ท่านอ๋อง บ่าวมิรู้ว่ายาใช้เช่นไรเพคะ?”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วด้วย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-08
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 612

    “เดี๋ยวก่อน!”ฟู่เฉินหวนผงะเล็กน้อย จากนั้นหลือบมองมือของนางที่จับมือของเขาไว้ลั่วชิงยวนรีบดึงมือของนางกลับแล้วเอ่ยว่า “อย่าสังหารนักฆ่าสำนักเทียนอิงผู้นั้นเลย”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฟู่เฉินหวนก็รู้สึกสับสน "เหตุใดเล่า? เจ้าบอกว่าเขาจะมีชีวิตเพียงสองหรือสามวันเท่านั้นมิใช่หรือ?"“เพคะ รอจนกว่าเขาจะตายลงไปเอง อย่าได้ประหารชีวิตเขาเลยเพคะ”แม้ว่าฟู่เฉินหวนจะไม่รู้เหตุผล แต่เขาก็ไม่ได้ถามคำถามใดอีกต่อไปและทำเพียงตอบรับเท่านั้น “ได้สิ”หลังจากพูดเช่นนั้นเขาก็หันหลังกลับและออกจากห้องไปหลังจากนั้นไม่นานจือเฉาก็กลับมาพร้อมรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของนาง ลั่วชิงยวนมองนางอย่างแปลกประหลาด“เจ้ายิ้มร่าด้วยเหตุใด?”จือเฉาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับนอนลงข้างเตียง “บ่าวมีความสุขมากเจ้าค่ะ คราวนี้พระชายาได้รับบาดเจ็บ ท่านอ๋องก็มีทีท่าเป็นห่วงพระชายาอย่างแท้จริง!”“ไม่เพียงเท่านั้นท่านอ๋องยังมอบห้องนอนของพระองค์ให้กับพระชายาเพื่อการรักษาอาการบาดเจ็บด้วย!”“วันนี้ท่านอ๋องยอมทายาให้พระชายาด้วยซ้ำเจ้าค่ะ ท่านอ๋องจริงจังมากเพราะกลัวว่าจะทำให้พระชายาเจ็บอีกเจ้าค่ะ”แสงล้ำลึกทอประกายในดวงตาของลั่วชิงยวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 613

    “เจ้ายังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกหรือเปล่า? เจ้ายังสบายดีอยู่หรือไม่? เจ้าถูกวางยาพิษได้เช่นไร? หมอมาตรวจดูหรือยัง? หมอให้ยาถอนพิษเจ้าหรือไม่?” ลั่วอวิ๋นสี่ร้อนใจเป็นอย่างมากลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “ไม่เคยเห็นเจ้าใส่ใจข้ามากเพียงนี้มาก่อนเลยหนา”ลั่วอวิ๋นสี่ก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะนั่งลงแล้วพูดอย่างเย็นชา “ข้าเกรงว่าหากเจ้าตาย จะไม่มีใครช่วยข้าแก้แค้นต่างหากเล่า”“นี่! เจ้าบอกความจริงกับข้ามาเถอะ”ลั่วชิงยวนยิ้มและตอบว่า “หากข้ายังสามารถพูดคุยกับเจ้าได้อย่างง่ายดาย นั่นหมายความว่าข้าจะมิตายในเร็ววันนี้”“วันนี้ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว นางก็ขยิบตาให้จือเฉา จากนั้นจือเฉาก็ออกจากห้องไป นางยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก“ไฉนเจ้าต้องระมัดระวังนัก?” ทันใดนั้นลั่วอวิ๋นสี่ก็เริ่มจริงจัง นางขยับเข้ามานั่งใกล้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว“ก่อนหน้านี้ ที่ข้าเคยบอกเจ้าว่า ข้าจะหาปรมาจารย์วรยุทธให้เจ้า บัดนี้ข้าพบเขาแล้ว เพียงแต่เขามิใช่มนุษย์ เช่นนั้นแล้วเจ้าจะรับได้หรือไม่?” ลั่วชิงยวนพูดอย่างตรงไปตรงมาลั่วชิงยวนอุทานด้วยความตกใจ “เจ้าหมายถึงอะไร? มิใช่มนุษย์?”“หากมิใช่มนุษย์ แล้วเป็นสิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 614

    จู่ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกฟู่เฉินหวนบุกเข้ามาในห้อง แต่เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นใครนอกจากลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนตกตะลึงทั้งคู่จ้องมองกันและกันฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว จากนั้นก็หันหลังกลับและจากไปลั่วชิงยวนไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้?หลังจากที่ฟู่เฉินหวนจากไป ซูโหยวก็รีบเชิญหมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นลั่วชิงยวนจึงขอให้เขาตรวจชีพจรของนางหลังจากตรวจชีพจรแล้ว ซูโหยวก็พาเขาไปโดยไม่พูดอะไรภายในห้องตำราหมอหลวงกล่าวด้วยความเคารพต่อฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง พระชายามิได้ตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ท่านตรวจชีพจรของนางชัดเจนแล้วหรือยัง?”หมอหลวงตอบว่า “อย่าได้กังวลพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง กระหม่อมเป็นหมอหลวงมาหลายปีแล้วและได้วินิจฉัยชีพจรของเหล่าสนมในวังนับไม่ถ้วน กระหม่อมไม่มีวันตรวจชีพจรพลาดอย่างแน่นอนเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนพยักหน้า ความสงสัยของเขาหายไปแล้ว แต่กลับมีความกังวลฉายชัดในดวงตาของเขา“มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับร่างกายและจิตใจของนางหรือไม่?”ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดและพูดว่า “มียาตัวใดบ้างที่ทำให้มิอาจสังเกตเห็นอาการของพิษได้ในตอนแรกที่กิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1199

    ลั่วชิงยวนที่ถูกขังไว้สองวันเริ่มรู้สึกอึดอัดราวกับถูกจองจำในคุกหิมะตกหนักติดต่อกันหลายวันยิ่งทำให้นางรู้สึกหดหู่เมื่อหิมะเริ่มเบาบางลงนางจึงออกมานั่งที่เก้าอี้ในเรือนสัมผัสกับความเย็นยะเยือกที่โปรยปรายลงบนใบหน้า“พระชายา ระวังจะเป็นหวัดนะเจ้าคะ”จือเฉานำกาน้ำชาอุ่นมาวางไว้บนโต๊ะข้าง ๆ แล้วรินใส่ถ้วยให้นางไอร้อนจากน้ำชาช่วยเพิ่มความอบอุ่นในวันหิมะตกอันหนาวเหน็บจือเฉานั่งอยู่ข้าง ๆ เหม่อมองท้องฟ้าด้วยความกังวล “พระชายา เหตุใดท่านอ๋องจึงใจร้ายกับท่านเช่นนี้เจ้าคะ”“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีลั่วเยวี่ยอิงที่คอยยุแยง บัดนี้ลั่วเยวี่ยอิงก็ตายไปแล้ว เหตุใดท่านอ๋องจึงยังเป็นเช่นนี้ ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายามีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนก็มิอาจเข้าใจได้เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใดกันตั้งแต่ที่นางถูกเฉินชีจับตัวไปบนเขาหรือไม่สิ น่าจะเริ่มตั้งแต่เรื่องของฟู่จิ่งหานตอนที่ฟู่เฉินหวนตัดสินใจจัดการกับฟู่อวิ๋นโจว เขาเข้าวังไปหลายวันแล้วเมื่อกลับมาก็หย่ากับนางแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นในวัง แม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็มิยอมบอกนางหรือบางทีอาจจะมิรู้เหมือนกันวันนี้แม่นมเติ้งเป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1198

    เขามีสีหน้าเย็นชาขณะกล่าวเสียงเรียบ “กลับตำหนักกับข้า”ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงให้จือเฉาเก็บข้าวของตามฟู่เฉินหวนออกจากวังเมื่อขึ้นรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งสารถีให้กลับตำหนักทันทีทั้งยังเร่งให้รีบกลับด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่รถม้าแล่นไปอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนถูกเขย่าโคลงเคลงจนตัวแทบปลิว แต่ก็ยังพยายามทรงตัว มิเอ่ยคำใดจนกระทั่งรถม้ามาถึงหน้าตำหนักลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นรอยแดงบนใบหน้าของฟู่เฉินหวนนางยกมือขึ้น แตะใบหน้าเขาเบา ๆ “ใบหน้าของท่านเป็นอะไรไป?”ฟู่เฉินหวนคว้าข้อมือของนางไว้แล้วจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ “มิใช่เพราะเจ้าหรอกรึ!”ลั่วชิงยวนชะงักไปชั่วพริบตานั้น ฟู่เฉินหวนก็กระชากนางลงจากรถม้าอย่างแรง ทำให้นางเกือบล้มนางเดินเซ แต่ก็ยังถูกฟู่เฉินหวนลากเข้าไปในตำหนักฟู่เฉินหวนเดินอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างเต็มไปด้วยโทสะราวกับพยายามอดกลั้นมานานลั่วชิงยวนจึงตระหนักได้ว่าเขาคงถูกจักรพรรดิสูงสุดลงโทษมิเช่นนั้นรอยแดงบนใบหน้าเขาจะมาจากไหนเมื่อมาถึงลานด้านใน นางก็สะบัดตัวหลุดจากฟู่เฉินหวน“ท่านจะทำอะไร!”ทันใดนั้น ฟู่เฉินหวนก็บีบคางน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1197

    ผ่านไปครู่หนึ่ง เซิ่งไป่ชวนก็มาถึงลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเซิ่งไป่ชวนเห็นเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ บนหน้าผากนาง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “พระชายารู้สึกหนาวหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “ข้ามิเป็นอะไร มิต้องตรวจชีพจรแล้ว ข้าจะเขียนใบเทียบยาให้ เจ้าช่วยไปหยิบยาให้หน่อย”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า เขาย่อมเชื่อมั่นในฝีมือแพทย์ของลั่วชิงยวนจึงมิฝืนใจเพียงแต่กล่าวว่า “เห็นอาการของพระชายาทรงทรุดลงทุกวัน เกรงว่าจะเป็นเพราะความวิตกกังวล พระชายาควรปล่อยวางบ้าง”“เพื่อรักษาพระวรกายให้แข็งแรงขอรับ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขอบคุณหมอหลวงเซิ่ง”“ข้าจะระมัดระวัง”ขณะที่กำลังสนทนากัน ก็พลันได้ยินเสียงตวาดดังมาจากด้านนอก“ว่ากระไรนะ! สั่งลงไป ผู้ใดกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกให้ตัดหัวได้เลย!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยด้วยความสงสัย นางจึงสวมรองเท้าเดินออกไปจือเฉานำผ้าคลุมมาสวมให้นางเห็นจักรพรรดิสูงสุดกำลังโมโหอยู่ใต้ชายคา“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความอยากรู้จักรพรรดิสูงสุดกล่าวว่า “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้ามิได้ดุใครมานานแล้วเลยลองฝึกฝนดู”จากนั้นจักรพรรดิสูงสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1196

    เดิมทีนางตั้งใจจะบอกข่าวดีนี้แก่เขาในยามที่เขากับนางคืนดีกันแล้วทว่าสิ่งที่รอคอยกลับเป็นการหลอกลวง เขาชิงเอาเข็มทิศอาณัติสวรรค์ของนางไปบัดนี้เขาใจแข็งเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงจำต้องบอกเรื่องนี้แก่เขาในใจนางยังคงมีความหวัง หวังว่าเพื่อลูกในครรภ์ ฟู่เฉินหวนอาจจะใจอ่อนลงบ้างทว่าประตูบานนั้นยังคงปิดสนิทนอกจากเสียงลมหวีดหวิวที่พัดผ่านก็ไม่มีเสียงตอบรับใดสายลมหนาวราวกับจะพัดพาความอบอุ่นสุดท้ายในใจนางให้หายไปน้ำตาใสไหลรินอาบแก้มซีดเผือดลั่วชิงยวนหันหลังเดินจากไปอย่างเงียบงันเหล่าบ่าวไพร่ในตำหนักเห็นนางแล้วอยากจะทักทาย แต่ก็ลังเล มิกล้าเอ่ยปากบัดนี้ลั่วชิงยวนราวกับคนไร้วิญญาณ เดินออกจากตำหนักไปอย่างไร้จุดหมายนางเดินไปเรื่อย ๆ รู้สึกราวกับว่าสายลมหนาวจะพัดพาร่างนางให้แหลกสลายไป ความหนาวเหน็บกัดกร่อนกระดูก......ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนทรุดลงนอนสลบแน่นิ่งกองอยู่ที่มุมห้อง พื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจนกระทั่งซูโหยวกลับมาพบเข้า จึงรีบให้คนไปตามหมอหลวงมู่มาโดยด่วนหมอหลวงมู่ตรวจอาการแล้วก็ตกใจยิ่งนัก รีบปรุงยาให้ทันทีและยังนำโสมมังกรที่ตกทอดกันมาในตระกูลออกมาตัดแบ่งส่วนเล็ก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1195

    เขามิอยากแตะต้องนางแม้เพียงปลายเล็บฟู่เฉินหวนรีบส่งคนออกไปตามล่าเฉินชี แล้วจึงกวาดสายตามองลั่วชิงยวนที่นอนอยู่บนพื้นหิมะอย่างเย็นชาก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “พากลับไป”องครักษ์สองนายเข้ามาพยุงลั่วชิงยวน แล้วพานางออกไปจากศาลาลั่วชิงยวนจ้องมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจนางก็พลันเหมือนถูกบีบขณะที่นางถูกพาตัวออกไป เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นทั่วศาลาเสียดแทงโสตประสาทยิ่งนักเมื่อกลับถึงตำหนัก ฟู่เฉินหวนก็รีบจัดการวางกำลังคนไปจับตัวเฉินชีลั่วชิงยวนยืนรออยู่ท่ามกลางหิมะ จนกระทั่งเขาจัดการทุกอย่างเสร็จจึงเดินเข้าไปหา“ฟู่เฉินหวน...”ทว่าฟู่เฉินหวนกลับมองนางด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตำรา แล้วปิดประตูใส่หน้าเสียงปิดประตูดังสนั่น ทำให้ลั่วชิงยวนสะดุ้งตกใจนางมิยอมแพ้ เดินไปเคาะประตู “ฟู่เฉินหวน ท่านรังเกียจหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่!”“เฉินชีกับลั่วฉิงร่วมมือกัน! เหตุใดท่านจึงหลอกเอาเข็มทิศของหม่อมฉันไป! ทั้งหมดนี้เป็นแผนของพวกเขา!”นางทุบประตูเรียก “ฟู่เฉินหวน ท่านต้องอธิบายให้หม่อมฉันฟัง!”ประตูเปิดออกกะทันหันฟู่เฉินหวนก้าวออกมาด้วยความโกรธ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1194

    ลั่วชิงยวนเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเขาด้วยความโกรธครั้นเห็นนางมิยอมอ้าปากแม้สักนิด เฉินชีจึงโน้มกายเข้าไปใกล้ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เจ้าอยากให้ข้าทำเกินเลยกว่านี้รึ?”ลั่วชิงยวนขบฟันแน่นก่อนจะยอมอ้าปากรับสิ่งที่เฉินชีป้อนให้เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบด้าน“สวรรค์โปรด! สองคนนี้กำลังทำสิ่งใดกันอยู่”“พระชายาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการกำลังลักลอบคบชู้ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้หรือ?”เหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์ต่างส่งคนไปทูลท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการให้รีบมาโดยพลันเฉินชีนั่งอยู่ในศาลา ยังคงจงใจแสดงท่าทีคลอเคลียกับลั่วชิงยวน แล้วกระซิบเสียงเบา “หลังจากวันนี้ เจ้าคงมิอาจอยู่ในเมืองหลวงได้อีกแล้วกระมัง?”“เหตุใดจึงมิติดตามข้ากลับแคว้นหลีเล่า?”“เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นคนของแคว้นหลี”“ข้าสามารถส่งเจ้ากลับสู่ตำแหน่งเดิม ให้เป็นนักบวชหญิงผู้สูงส่งได้”“หากเจ้าเต็มใจ จงกะพริบตา แล้วข้าจะพาเจ้าไป”ช่างไร้ยางอาย!ลั่วชิงยวนเบิกตากว้างจนดวงตาแดงก่ำ มิยอมกะพริบตาแม้เพียงน้อยในใจนางก่นด่าเฉินชีนับร้อยครั้งครั้นเห็นนางดื้อรั้นเช่นนี้ เฉินชีกลับหัวเราะออกมา“ดูท่าว่าอาเหลายังคงรู้จักข้าดี”ทั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1193

    จนกระทั่งฟ้าสาง ผู้คนเริ่มทยอยออกมาตามถนนบรรยากาศบนท้องถนนเริ่มคึกคักขึ้น เฉินชียังคงโอบนางเดินไปข้างหน้าอย่างแช่มช้าในสายตาของคนภายนอก ทั้งสองดูสนิทสนมกันมากจนกระทั่งเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจ “นั่นมิใช่พระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการหรือ? เหตุใดนางจึง...”ลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้น หัวใจก็พลันกระตุกแต่เฉินชีกลับยกยิ้มอย่างสาแก่ใจ แล้วพาลั่วชิงยวนไปที่ร้านขนมร้านนั้นก่อนจะแสร้งถามลั่วชิงยวนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าชอบกินอันไหน?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขาด้วยความโกรธเฉินชีกลับยิ่งหัวเราะอย่างลำพองใจเขาโยนถุงเงินหนัก ๆ ลงบนแผงร้าน “ข้าเหมาทั้งหมด!”เถ้าแก่ตกตะลึงจากนั้นเฉินชีก็หยิบขนมชิ้นหนึ่งมาป้อนที่ปากของลั่วชิงยวน “ลองชิมดูหรือไม่?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขา มิยอมอ้าปากแววตาของเฉินชีเย็นชา มือใหญ่เลื่อนไปที่ท้ายทอยของนางแล้วออกแรงบีบพลางยัดขนมเข้าไปในปากของนางด้วยรอยยิ้ม“กินสิ”ท้ายทอยของลั่วชิงยวนเจ็บปวด นางจำใจต้องอ้าปากกัดขนมชิ้นนั้นเฉินชีเห็นดังนั้นจึงพอใจมาก “ชอบหรือไม่?”เขามองนางด้วยสายตาคมกริบ ก่อนยกมือขึ้นเช็ดเศษขนมที่มุมปากของนางท่าทาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1192

    สติเลือนรางลงทุกขณะ ในที่สุดก็ต้านฤทธิ์ยามิไหวจึงสลบไปเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ลั่วชิงยวนก็รู้สึกได้ถึงการเข้ามาใกล้ของใครบางคนพยายามลืมตาขึ้น แต่ก็ยังคงอ่อนแรงจนขยับร่างกายมิได้มีเงาร่างหนึ่งทรุดกายลงตรงหน้าในวินาทีต่อมา มือเย็นเฉียบก็คว้าปลายคางของนาง บังคับให้นางเงยหน้าขึ้นลั่วชิงยวนจึงเห็นใบหน้าที่ขยายใหญ่ขึ้นตรงหน้ารอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลังโดยมิรู้ตัวเฉินชี!“เหตุใดจึงเป็นเจ้าอีก! เจ้ากล้ามาที่เมืองหลวงเลยหรือ!” ลั่วชิงยวนพูดอย่างอ่อนแรงเฉินชีดึงนางขึ้นจากพื้น แล้วบีบปลายคางของนาง “ฟู่เฉินหวนมิต้องการเจ้าแล้ว”“ไปกับข้าเถอะ”ลั่วชิงยวนสะบัดมือเขาออกอย่างแรง “เจ้าฝันไปเถิด!”“อาเหลา เหตุใดเจ้าจึงยังดื้อรั้นเช่นเดิม นิสัยเช่นนี้ทำให้เจ้าต้องพบเจอความยากลำบากอีกมาก” เฉินชียกยิ้มขณะจ้องมองใบหน้าของนางใบหน้าซีดเซียว อ่อนแรงราวกับจะแตกสลายได้เพียงแค่สัมผัส เขาชื่นชอบยิ่งนักทันใดนั้นลั่วชิงยวนที่มีแววตาเย็นชากัดมือที่บาดเจ็บของเขาอย่างแรงกัดจนเลือดไหลทะลักเข้ามาในปากเฉินชีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดลั่วชิงยวนฉวยโอกาสวิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1191

    ลั่วชิงยวนกล่าวจบก็ยกจอกสุราขึ้นดื่มจนหมดฟู่เฉินหวนหรี่ตาจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า มิละสายตาไปแม้แต่น้อย แล้วค่อย ๆ ดื่มสุราในจอกจนหมด“ฟู่เฉินหวน ที่จริงมีอีกเรื่องหนึ่ง...” ลั่วชิงยวนตั้งใจจะบอกเรื่องการมีตัวตนของชีวิตน้อย ๆ ในครรภ์ทว่ายังพูดมิจบก็ถูกฟู่เฉินหวนขัดจังหวะ“เจ้านำเข็มทิศติดตัวมาหรือไม่”“ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วยทำนาย”ลั่วชิงยวนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหยิบเข็มทิศในอกเสื้อออกมา“ท่านอยากจะให้ทำนายเรื่องใด?” ลั่วชิงยวนถามฟู่เฉินหวนจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า สายตาเย็นชานั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกแปลกประหลาด“เหตุใดท่านจึงมองหม่อมฉันเช่นนั้น?”ตอนนี้สายตาที่ฟู่เฉินหวนมองนางราวกับมองคนแปลกหน้าเฉียบคมและเย็นชาเสียงเย็นเยียบดังขึ้น “เจ้าเป็นใครกันแน่”ลั่วชิงยวนตกใจ มองเขาด้วยความมิเข้าใจ “ท่านเป็นอะไรไปเพคะ?”มองแววตาเย็นชาของฟู่เฉินหวนแล้ว ลั่วชิงยวนก็พลันรู้สึกใจคอมิดี จู่ ๆ เริ่มวิงเวียน ภาพตรงหน้าพร่าเลือนนางรีบกุมศีรษะ ตระหนักได้ว่าตอนนี้นางมีบางอย่างผิดปกติ นางเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างยากลำบาก “ท่านวางยาในสุราหรือ?”แต่ฟู่เฉินหวนกลับมิตอบในตอนนั้นเอง ประ

DMCA.com Protection Status