แชร์

บทที่ 609

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
เมื่อเห็นนางรับขวดยา ไทเฮาก็เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “นั่งลง”

“จิ่นชู วันนี้ฝ่ายห้องเครื่องทำขนมหรือไม่? มอบให้ชิงหยวนได้ลิ้มลองสักชามสิ”

“เพคะไทเฮา”

คำสั่งอย่างกะทันหันของไทเฮาทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

ในไม่ช้า จิ่นชูก็นำขนมมา ลั่วชิงยวนจึงรับขนมแล้วกินเข้าไปสองสามคำแล้วพูดว่า “ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันต้องกลับไปหาทางจัดการกับเรื่องนี้ แล้วเหตุใดจึงมิให้หม่อมฉันออกไปเพคะ?”

ไทเฮาพยักหน้าเล็กน้อย

ลั่วชิงยวนจึงยืนขึ้นและทำความเคารพ ก่อนจะหันหลังกลับเพื่อจากไป

ทว่า ทันทีที่นางยืนขึ้น ขันทีก็รีบเข้ามาหาไทเฮาทันที ลั่วชิงยวนเหลือบมองไปด้านข้างจึงเห็นว่าขันทีพูดอะไรบางอย่างข้างหูของไทเฮา

สีหน้าของไทเฮาเปลี่ยนไปกะทันหัน

จู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกกังวลใจ นางจึงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นในทันที

ทว่า ทันทีที่นางไปถึงประตู จู่ ๆ เสียงของไทเฮาก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง “ชิงยวน”

เสียงอันสง่างามนั้นทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนสั่นสะท้าน

“ตัวข้ามีอีกเรื่องจะบอกเจ้า มานี่สิ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงกำขวดยาซึ่งอยู่ในฝ่ามือใต้แขนเสื้อไว้แน่น

จิ่นชูกำลังเดินเข้ามา

ทันใดนั้น บรรยากาศก็ตึงเครียดทันที

ลั่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 610

    ในที่สุดฟู่เฉินหวนก็เดินออกจากราชสำนัก ก่อนจะเห็นว่าซูโหยวยังคงรออยู่ข้างนอก เขาออกคำสั่งทันทีว่า “ไปตรวจสอบตามเนื้อหาคำให้การเหล่านี้ จะต้องได้รับหลักฐานการกระทำผิดทั้งหมด!”ซูโหยวพยักหน้า “กระหม่อมขอให้เซียวชูจัดการเรื่องนี้ไว้ก่อนที่จะเข้าวังหลวงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนซึ่งกำลังอารมณ์ดีจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าซักถามเบาะแสมากมายได้เช่นไรในเวลาอันสั้นเช่นนี้?”ในขณะที่ซูโหยวกำลังจะพูด ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็น มหาราชาจารย์เหยียนเดินผ่านมา เขาจึงยกมือขึ้นปิดปากของตนเอาไว้เมื่อเขาและฟู่เฉินหวนเดินเข้าไปยังมุมร้าง ซูโหยวก็พูดอย่างรีบเร่งว่า “ท่านอ๋อง คำให้การเหล่านี้ล้วนได้มาจากพระชายา!”“ก่อนที่กระหม่อมจะเข้าไปในพระราชวัง ไทเฮาได้เรียกพบพระชายา จากนั้นก็ให้จิ่นชูจากพระตำหนักโช่วสี่มารับนางไป!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปทันที “ว่ากระไรนะ! ไฉนเจ้ามิบอกข้าก่อนหน้านี้เล่า?!”ทันทีที่พูดจบ ฟู่เฉินหวนก็รีบมุ่งหน้าไปยังพระตำหนักโช่วสี่อย่างรวดเร็วเมื่อฟู่เฉินหวนมาถึงพระตำหนักโช่วสี่โดยเร็ว เขาก้าวเดินเข้าไปในห้องโถงอย่างแข็งกร้าว ทันใดนั้น เขาก็เห็นฉากกรอกยาพิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 611

    ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพร้อมกับเหลือบมองซูโหยวทันที เช่นนั้นซูโหยวจึงรีบขอให้หมอออกไปก่อน จากนั้นก็พูดว่า “กระหม่อมจะไปเชิญหมอเพิ่มอีกสองสามคน”ซูโหยวเชิญหมอมาอีกหลายคน แต่ผลลัพธ์ก็เกือบจะเหมือนเดิมมีพิษอยู่ในร่างกาย แต่ในขณะนี้ ดูเหมือนจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ทว่าอาการบาดเจ็บนั้นร้ายแรงมากและจำเป็นต้องได้รับยา นอกจากนี้ นางยังต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาครึ่งเดือนก่อนจึงจะเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งยังต้องได้รับการดูแลอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นนั้นแล้วนอกจากยาที่หมอสั่งให้ในวันนี้ เหล่านางรับใช้ก็ยังนำสมุนไพรต่าง ๆ มากมายเข้ามาพร้อมทั้งตักน้ำมาขัดผิวปรนนิบัติให้นางเดิมทีลั่วชิงยวนต้องการลุกขึ้น แต่เมื่อมองดูผู้คนที่ยุ่งวุ่นวายทั้งภายในและภายนอกห้อง นางก็ไม่อยากลุกขึ้นทันทีนี่ไม่ใช่วิธีที่พระชายาควรได้รับการปฏิบัติหรอกหรือ?หลังจากกินจนอิ่ม ลั่วชิงยวนก็นอนหลับสนิทเมื่อถึงช่วงดึก ฟู่เฉินหวนก็เข้ามาในเรือนนอนเขานำขวดยารักษาบาดแผลคุณภาพสูงยื่นให้กับจือเฉา “เปลี่ยนยาให้นาง”จือเฉาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างเชื่องช้า “ท่านอ๋อง บ่าวมิรู้ว่ายาใช้เช่นไรเพคะ?”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วด้วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 612

    “เดี๋ยวก่อน!”ฟู่เฉินหวนผงะเล็กน้อย จากนั้นหลือบมองมือของนางที่จับมือของเขาไว้ลั่วชิงยวนรีบดึงมือของนางกลับแล้วเอ่ยว่า “อย่าสังหารนักฆ่าสำนักเทียนอิงผู้นั้นเลย”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฟู่เฉินหวนก็รู้สึกสับสน "เหตุใดเล่า? เจ้าบอกว่าเขาจะมีชีวิตเพียงสองหรือสามวันเท่านั้นมิใช่หรือ?"“เพคะ รอจนกว่าเขาจะตายลงไปเอง อย่าได้ประหารชีวิตเขาเลยเพคะ”แม้ว่าฟู่เฉินหวนจะไม่รู้เหตุผล แต่เขาก็ไม่ได้ถามคำถามใดอีกต่อไปและทำเพียงตอบรับเท่านั้น “ได้สิ”หลังจากพูดเช่นนั้นเขาก็หันหลังกลับและออกจากห้องไปหลังจากนั้นไม่นานจือเฉาก็กลับมาพร้อมรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของนาง ลั่วชิงยวนมองนางอย่างแปลกประหลาด“เจ้ายิ้มร่าด้วยเหตุใด?”จือเฉาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับนอนลงข้างเตียง “บ่าวมีความสุขมากเจ้าค่ะ คราวนี้พระชายาได้รับบาดเจ็บ ท่านอ๋องก็มีทีท่าเป็นห่วงพระชายาอย่างแท้จริง!”“ไม่เพียงเท่านั้นท่านอ๋องยังมอบห้องนอนของพระองค์ให้กับพระชายาเพื่อการรักษาอาการบาดเจ็บด้วย!”“วันนี้ท่านอ๋องยอมทายาให้พระชายาด้วยซ้ำเจ้าค่ะ ท่านอ๋องจริงจังมากเพราะกลัวว่าจะทำให้พระชายาเจ็บอีกเจ้าค่ะ”แสงล้ำลึกทอประกายในดวงตาของลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 613

    “เจ้ายังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกหรือเปล่า? เจ้ายังสบายดีอยู่หรือไม่? เจ้าถูกวางยาพิษได้เช่นไร? หมอมาตรวจดูหรือยัง? หมอให้ยาถอนพิษเจ้าหรือไม่?” ลั่วอวิ๋นสี่ร้อนใจเป็นอย่างมากลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “ไม่เคยเห็นเจ้าใส่ใจข้ามากเพียงนี้มาก่อนเลยหนา”ลั่วอวิ๋นสี่ก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะนั่งลงแล้วพูดอย่างเย็นชา “ข้าเกรงว่าหากเจ้าตาย จะไม่มีใครช่วยข้าแก้แค้นต่างหากเล่า”“นี่! เจ้าบอกความจริงกับข้ามาเถอะ”ลั่วชิงยวนยิ้มและตอบว่า “หากข้ายังสามารถพูดคุยกับเจ้าได้อย่างง่ายดาย นั่นหมายความว่าข้าจะมิตายในเร็ววันนี้”“วันนี้ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว นางก็ขยิบตาให้จือเฉา จากนั้นจือเฉาก็ออกจากห้องไป นางยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก“ไฉนเจ้าต้องระมัดระวังนัก?” ทันใดนั้นลั่วอวิ๋นสี่ก็เริ่มจริงจัง นางขยับเข้ามานั่งใกล้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว“ก่อนหน้านี้ ที่ข้าเคยบอกเจ้าว่า ข้าจะหาปรมาจารย์วรยุทธให้เจ้า บัดนี้ข้าพบเขาแล้ว เพียงแต่เขามิใช่มนุษย์ เช่นนั้นแล้วเจ้าจะรับได้หรือไม่?” ลั่วชิงยวนพูดอย่างตรงไปตรงมาลั่วชิงยวนอุทานด้วยความตกใจ “เจ้าหมายถึงอะไร? มิใช่มนุษย์?”“หากมิใช่มนุษย์ แล้วเป็นสิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 614

    จู่ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกฟู่เฉินหวนบุกเข้ามาในห้อง แต่เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นใครนอกจากลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนตกตะลึงทั้งคู่จ้องมองกันและกันฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว จากนั้นก็หันหลังกลับและจากไปลั่วชิงยวนไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้?หลังจากที่ฟู่เฉินหวนจากไป ซูโหยวก็รีบเชิญหมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นลั่วชิงยวนจึงขอให้เขาตรวจชีพจรของนางหลังจากตรวจชีพจรแล้ว ซูโหยวก็พาเขาไปโดยไม่พูดอะไรภายในห้องตำราหมอหลวงกล่าวด้วยความเคารพต่อฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง พระชายามิได้ตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ท่านตรวจชีพจรของนางชัดเจนแล้วหรือยัง?”หมอหลวงตอบว่า “อย่าได้กังวลพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง กระหม่อมเป็นหมอหลวงมาหลายปีแล้วและได้วินิจฉัยชีพจรของเหล่าสนมในวังนับไม่ถ้วน กระหม่อมไม่มีวันตรวจชีพจรพลาดอย่างแน่นอนเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนพยักหน้า ความสงสัยของเขาหายไปแล้ว แต่กลับมีความกังวลฉายชัดในดวงตาของเขา“มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับร่างกายและจิตใจของนางหรือไม่?”ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดและพูดว่า “มียาตัวใดบ้างที่ทำให้มิอาจสังเกตเห็นอาการของพิษได้ในตอนแรกที่กิน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 615

    “เหอะ ข้าเคยเพลิดเพลินกับการปฏิบัติเช่นนี้ในตำหนักอ๋องตั้งแต่เมื่อใดกัน?” ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะถอนหายใจ และเริ่มใช้ตะเกียบคีบอาหารจือเฉาพูดด้วยรอยยิ้ม “คราวนี้ท่านอ๋องได้ยึดครองหอร่ำเมลัยทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นเขาจึงปิดหอและเชิญพ่อครัวผู้นี้มายังตำหนัก จากนี้ไปเขาจะทำอาหารให้พระชายาเพียงผู้เดียวเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกใจมาก “เขารับช่วงต่อหอร่ำเมลัยหรือ?”เยี่ยมมาก นางสามารถสร้างกำไรได้อีกแล้วนางครุ่นคิดขณะรับกินอาหาร “เช่นนี้ข้าต้องคิดว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าข้าจะกินอะไร”ไม่กี่วันต่อมา ลั่วชิงยวนก็ได้รับการดูแลอย่างพิถิพิถัน อีกทั้งคนรับใช้ทุกคนในตำหนักอ๋องยังให้ความเคารพต่อนาง ไม่ว่านางต้องการอะไรหรืออยากกินอะไร เพียงแค่พูดทุกคนก็พร้อมตามใจนางแล้วหมอหลวงมาตรวจชีพจรของนางทุกวันและสั่งยาให้แก่นางฟู่เฉินหวนยังมาหานางทุกคืน เขานั่งลงแล้วคุยกับนางเกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องคดีตระกูลฝูฝูว่านเจิงและฝูจ้าวถูกประหารชีวิตด้วยกันทั้งคู่ และด้วยการสอบสวนเชิงลึกของฟู่เฉินหวนทำให้รู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ไม่เพียงแต่เจ้ากรมกลาโหมเท่านั้น แต่ยังม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 616

    ในที่สุดซ่งเชียนฉู่ก็มาถึงแล้วเมื่อซ่งเชียนฉู่ปรากฏตัวอย่างปลอดภัยต่อหน้าต่อตานาง หัวใจอันหนักอึ้งที่ลั่วชิงยวนแบกอยู่ก็ผ่อนคลายลงได้ในที่สุด“ท่านได้รับบาดเจ็บเหมือนกันหรือ? ท่านเป็นเช่นไรบ้าง?” ซ่งเชียนฉู่เดินเข้ามาในห้องแล้วเอ่ยถามด้วยความกังวล ลั่วชิงยวนผงะเล็กน้อย “เหมือนกัน? มีใครได้รับบาดเจ็บอีกอย่างนั้นรึ? เมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"นางมองไปยังใบหน้าของซ่งเชียนฉู่ที่ค่อนข้างซีดเซียว“คนเหล่านั้นยังคงไล่ตามดีงูอย่างไม่ยอมแพ้ เวลานี้สถานการณ์แย่ลงเรื่อย ๆ ในครั้งนี้ข้าและเฉินเซี่ยวหานขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนภูเขา แต่แล้วพวกเรากลับถูกซุ่มโจมตี”“ข้าไม่เป็นไร แต่เฉินเซี่ยวหานได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมาระยะหนึ่งแล้ว วันนี้อาการบาดเจ็บของเฉินเซี่ยวหานหายดีขึ้นเล็กน้อย เช่นนั้นข้าจึงพาเขากลับมา”“ข้าได้ยินมาว่าตำหนักอ๋องกำลังตามหาข้า ข้าจึงวิตกกังวลยิ่ง”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ท่าทีของลั่วชิงยวนก็ดูเคร่งขรึมขึ้นทันที นางครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “คนเหล่านั้นน่าจะเป็นคนของสำนักวรยุทธเจียงฮู๋ พวกเขาสูญเสียอำนาจไปมากในยามนี้ เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะส่งนักฆ่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 617

    หลังจากนั้นไม่นาน ลั่วอวิ๋นสี่ก็เข้ามาอย่างมีความสุข ลั่วชิงยวนมอบสิ่งที่นางเตรียมไว้ล่วงหน้าให้อีกฝ่าย ก่อนจะสอนวิธีใช้ให้นาง แม้ว่าลั่วอวิ๋นสี่จะลองพยายาม เตี่ยฉุยก็เข้าสู่ร่างของลั่วอวิ๋นสี่ได้อย่างราบรื่นเขารีบออกจากประตูด้วยความตื่นเต้นและชกต่อยอากาศอย่างดุเดือดลั่วชิงยวนมองดูเขาด้วยตาเป็นประกาย พละกำลังและการเคลื่อนไหวของเขานั้นช่างสมกับเป็นนักฆ่าจริง ๆ!นางยืนขึ้นและเดินไปที่ประตู ก่อนจะเห็นว่าลั่วอวิ๋นสี่กำลังฝึกมีดสั้นอยู่ในลาน รวมทั้งตัวของเตี่ยฉุยเองก็ไม่ได้สัมผัสถึงการเหยียบบนพื้นหินมาเป็นเวลานานแล้ว เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากในขณะนี้ การเคลื่อนไหวของเขานั้นก็รุนแรงมากเช่นกันซ่งเชียนฉู่อุทานขึ้นว่า “ข้าไม่ได้เจอเจ้ามานานแล้ว นับว่าน่าแปลกใจจริง ๆ”“เป็นเรื่องยากที่จะหานักฆ่าที่มีวรยุทธสูงเช่นนี้”ลั่วชิงยวนยิ้มการถูกผู้อื่นควบคุมร่างกายทำให้ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกแปลกประหลาดและน่าขนลุก แต่ทว่า นางก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเริ่มจดจำตำแหน่งการเคลื่อนไหวเหล่านี้ไว้ในใจลั่วชิงยวนเฝ้าดูอยู่ที่ประตูอย่างตั้งใจ จือเฉาจึงตัดสินใจยกเก้าอี้มาไว้ให้นาง ทว่า หลังจาก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1256

    โฉวสือชีตกตะลึงเป็นครั้งแรกที่เขาพบเจอสตรีที่พูดจาโอหังเช่นนี้ตระกูลนักบวชหญิงมีสถานะเทียบเท่าราชวงศ์ แม้แต่จักรพรรดิยังต้องเกรงใจนักบวชหญิงสตรีผู้นี้กลับบอกว่าจะให้ตระกูลนักบวชหญิงมาอ้อนวอนให้นางเข้าร่วม มิรู้ว่านางเอาความมั่นใจมาจากไหน......ทุกคนเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมอย่างองอาจโฉวสือชีเป็นคนควบคุมเงินของกลุ่ม ตอนนี้จึงเลี้ยงอาหารอย่างมิสนราคา ถือเป็นการฉลองลั่วชิงยวนที่ไม่มีเงินติดตัวก็ได้กินอาหารโดยมิต้องจ่ายเงินนางนั่งข้างหน้าต่างโฉวสือชียกแก้วขึ้น “หวังว่าต่อไปจะร่วมมือกันอย่างมีความสุข”ลั่วชิงยวนคลี่ยิ้มจาง หยิบแก้วขึ้นมาด้วยนิ้วเรียวและชนกับเขาเบา ๆ “แน่นอน”“เพราะอย่างไรเสีย เจ้ากับข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่น”ลั่วชิงยวนยกยิ้ม รอยยิ้มบนใบหน้าซีดเซียวนั้นมีความหมายลึกซึ้ง แววตาลึกล้ำเย้ายวนในตอนนั้นหัวใจของโฉวสือชีเต้นรัวราวกับถูกนางมองทะลุโฉวสือชีพยายามปิดบังความตื่นตระหนกในใจหยิบตำราอาคมนักบวชหญิงออกมาวางไว้ข้างนาง“เจ้าอาจจะมิต้องการตำราเล่มนี้แล้ว แต่ข้าเก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์”โฉวสือชีน่าจะขโมยตำราอาคมนักบวชหญิงเล่มนี้มาต้องยอมรับว่า ตำราอาคมนักบวชหญิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1255

    ร่างผอมบางภายใต้ผ้าคลุมสีดำ ถึงแม้ว่าสีหน้าจะมิซีดเซียวเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังคงซีดขาวอยู่บ้างนางเดินไปที่ลานหรี่ตามองแสงแดดยามเช้าดวงตาของนางยังคงมิค่อยชินกับแสงทำให้แสบตาจนน้ำตาไหลดูเหมือนว่าหลังจากที่ออกมาจากห้องลับ ดวงตาของนางก็มิสามารถทนแสงที่สว่างจ้าได้ มิรู้ว่าต่อไปจะหายหรือไม่โฉวสือชีพาคนอื่น ๆ เดินมา“สีหน้าของเจ้าดูดีขึ้นมาก” โฉวสือชีมองลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนพยักหน้า “แก้ยันต์ผนึกวิญญาณให้พวกเจ้าได้แล้ว”ดังนั้น ลั่วชิงยวนจึงลงมือแก้ยันต์ผนึกวิญญาณให้ทุกคนเมื่อเห็นว่ารอยแผลเป็นจากยันต์ไม่มีแสงสีทองอีกต่อไป ทุกคนก็ดีใจมากนี่หมายความว่าพวกเขาเป็นอิสระแล้ว!หงไห่ยิ่งโหดเหี้ยม เขาหยิบมีดมาปาดรอยแผลเป็นที่ไหล่ออก แล้วกล่าวว่า “นับจากนี้ข้ามิใช่ทาสอีกต่อไปแล้ว!”“ชาตินี้จะมิเป็นทาสอีกแล้ว!”“ใครก็อย่าหวังจะสลักสิ่งนี้ให้ข้าได้อีก!”มันเป็นการกระทำที่โหดร้ายนองเลือด แต่ลั่วชิงยวนกลับเห็นความตื่นเต้นดีใจในแววตาของหงไห่ราวกับมิรู้สึกเจ็บปวดทุกคนต่างตื่นเต้นลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “ข้าจะพาพวกเจ้าหนีออกไป”กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็เดินไปที่ประตู หยิบเข็มทิศอาณัติ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1254

    โฉวสือชีได้ยินดังนั้นก็มองนางด้วยความตกใจ“นักบวชหญิงหรือ?!”ลั่วชิงยวนมีสีหน้าสงบนิ่ง กล่าวอย่างใจเย็น “ใช่ มีเพียงข้าได้เป็นนักบวชหญิงเท่านั้น ข้าจึงจะสามารถยกเลิกกฎและระเบียบที่มิยุติธรรมและช่วยคนที่พวกเจ้าอยากช่วยได้”“มิเช่นนั้นถึงแม้ว่าพวกเจ้าจะฆ่าคนไปมากเท่าใด ภายใต้กฎระเบียบนี้ก็ยังคงมีคนมากมายถูกใส่ร้าย ถูกบังคับให้เป็นทาสเหมือนเดิม”หลังจากที่โฉวสือชีฟังจบก็รู้สึกหวั่นไหวเพียงแต่ยังมองลั่วชิงยวนด้วยความมิวางใจ “เจ้าทำได้จริงหรือ?”“แน่นอน มิเช่นนั้นข้าจะมาที่นี่เพื่ออะไร?”โฉวสือชีมองหญิงสาวตรงหน้า เห็นได้ชัดว่านางอ่อนแอและซีดเซียวราวกับจะตายได้ทุกเมื่อกลัวว่าหากร่วมมือกับนาง นางจะตายก่อนที่การใหญ่จะสำเร็จแต่แววตาและน้ำเสียงที่หนักแน่นนั้นกลับทำให้น่าเชื่อถืออย่างบอกมิถูกเห็นว่าโฉวสือชียังคงลังเล ลั่วชิงยวนจึงหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมาแล้วใช้สายตาชี้ไปทางตู้เฟิงเฉินที่อยู่บนพื้น“ข้าเห็นอดีตของเขา”“เหตุผลของการมีอยู่ของทาสเป็นสิ่งที่ข้ามิคาดคิด ครอบครัวของเขาถูกทำร้าย แต่มิใช่เหตุผลอันชอบธรรมที่ทำให้เขาทำร้ายผู้บริสุทธิ์ได้”“เขาต่างจากผู้กระทำความผิดตรง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1253

    กล่าวจบ นางก็พูดต่อ “หากข้าอยากอยู่ในเมืองหลวงก็ต้องทำภารกิจปราบพวกเจ้าให้สำเร็จ”โฉวสือชีหัวเราะอย่างเย็นชา “ปราบหรือ? พวกข้าเป็นคน มิใช่สัตว์ เจ้าจะใช้เรื่องแก้ยันต์ผนึกวิญญาณมาขู่ให้พวกเราเชื่อฟังหรือ?”แต่แววตาของลั่วชิงยวนกลับลุกโชนดั่งเพลิง นางยกยิ้มกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “หามิได้”“ข้าจะพาพวกเจ้า หนีออกจากค่ายทาสนักโทษ”โฉวสือชีได้ยินดังนั้นก็ตกใจมากค่ายทาสนักโทษมีค่ายกลและกลไก ไม่มีใครหนีออกไปได้ง่าย ๆ ยิ่งไปกว่านั้น การป้องกันภายนอกก็แน่นหนา“เจ้าอยู่ในสภาพนี้ ยังจะพาพวกข้าหนีออกจากค่ายทาสนักโทษอีก? อย่าว่าแต่เจ้าทำมิได้เลย ถึงเจ้าจะทำได้ แต่พวกข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?”ลั่วชิงยวนฟังออกว่าโฉวสือชีอยากจะร่วมมือ มิเช่นนั้นคงมินั่งอยู่ที่นี่เพื่อลองใจนาง“เพราะมิใช่แค่พวกเจ้าที่ต้องการแก้ยันต์ผนึกวิญญาณ ข้าคิดว่าสหายและครอบครัวของพวกเจ้าก็ต้องการแก้ยันต์ผนึกวิญญาณเหมือนกัน”คำพูดของลั่วชิงยวนทำให้โฉวสือชีพูดมิออกมองปฏิกิริยาของโฉวสือชีแล้ว ลั่วชิงยวนก็รู้ว่าวิธีของนางถูกต้อง“ข้าอยากรู้ว่า เหตุใดพวกเจ้าถูกสลักยันต์ผนึกวิญญาณแล้วแต่ยังหนีออกมาได้?”โฉวสือชีขมวดคิ้ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1252

    โฉวสือชีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงถอดเสื้อนั่งขัดสมาธิตรงหน้าลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนหยิบยันต์ออกมาแปะลงบนรอยสักพลันมีแสงสีทองปรากฏขึ้นบนรอยสัก“เห็นหรือไม่ นี่แสดงว่ายันต์ผนึกวิญญาณมีอยู่จริง”“เมื่อแก้ยันต์ผนึกวิญญาณแล้ว ที่นี่ก็จะมีเพียงรอยสักและแผลเป็น จะไม่มีอักขระเวทแสงสีทองนี้อีก”ลั่วชิงยวนพยายามอธิบายให้พวกเขาฟังหากสามารถตกลงกันได้ด้วยดีก็ดีที่สุด นางมิอยากลงมือต่อสู้อีกแล้วนางสู้มิได้จริง ๆ หงไห่และคนอื่น ๆ ฟังเข้าใจ จึงพยักหน้า “เช่นนั้นเจ้ารีบแก้ยันต์ผนึกวิญญาณให้เขาเถิด”ลั่วชิงยวนก็บังเอิญทำได้ ใต้หล้านี้มีมิกี่คนที่แก้ยันต์ผนึกวิญญาณได้ และนางเป็นหนึ่งในนั้นเพียงแต่ร่างกายของนางตอนนี้จะยิ่งเสียพลังมากขึ้นนางหยิบยันต์ออกมา ก่อนจะใช้มีดกรีดนิ้วเพื่อใช้เลือดวาดยันต์ จากนั้นแปะลงบนหลังของโฉวสือชี วงแหวนแห่งเวทสีทองปรากฏขึ้นซึมเข้าไปในรอยแผลเป็นของยันต์ผนึกวิญญาณไม่มีปฏิกิริยาใดอีก“เสร็จแล้ว” ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างใจเย็นโฉวสือชีหันไปมองไหล่ของตัวเอง ดูเหมือนจะมิรู้สึกอะไร “เสร็จแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนจึงทดสอบให้พวกเขาดู ในรอยสักของยันต์ผนึกวิญญาณไม่มีอักขระเว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1251

    แต่ที่นี่มิได้มีแค่หงไห่คนเดียวยังมีคนชั่วร้ายอีกหลายคนเมื่อพวกเขาลงมือ ลั่วชิงยวนก็ถูกรุมซ้อมจนไร้ทางสู้สุดท้ายก็ถูกหงไห่จับตัวได้ และถูกกดร่างลงกับพื้นแน่นหงไห่หยิบมีดเล่มใหญ่ออกมา ซึ่งยังคงมีคราบเลือดแห้งกรังติดอยู่“ให้ข้าดูหน่อย จะตัดมือข้างไหนก่อนดี?”หงไห่พูดพลางจับข้อมือของนางกดลงพื้นใบมีดคมกริบวางลงบนข้อมือของนางและเคลื่อนไหวไปมาดูว่าจะกรีดตรงไหนดี“ข้างนี้แหละ”เมื่อเห็นว่าหงไห่จะลงมือแล้ว ลั่วชิงยวนก็ร้อนใจ พยายามดิ้นรนแต่ก็ดิ้นมิหลุดจนกระทั่งเงยหน้าขึ้นมองโฉวสือชีเดินผ่านมา ในที่สุดเขาก็ปิดตำราตำราที่คุ้นเคยเล่มนั้นทำให้ลั่วชิงยวนตกใจอาคมนักบวชหญิง!ในขณะที่หงไห่กำลังจะฟันลงมา ลั่วชิงยวนก็ตะโกนด้วยความร้อนใจ—“ข้าแก้ยันต์ผนึกวิญญาณได้!”โฉวสือชีตกใจ รีบหันกลับมาตะโกน “หยุด!”หงไห่ก็หยุดมือทันทีเขาปักมีดลงพื้นแล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าแก้ยันต์ผนึกวิญญาณได้รึ?”“เจ้าเป็นแค่นักบวชหญิงที่เพิ่งมา เจ้าจะแก้ได้อย่างไร”“พวกข้าจับนักบวชหญิงมามากมาย ไม่มีใครแก้ได้สักคน”“หากเจ้ากล้าหลอกลวงพวกข้า ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้น ๆ!”ลั่วชิงยวนรีบกล่าว “ข้าทำได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1250

    ผู้ชายหลายคนจับภรรยาและน้องสาวของตู้เฟิงเฉินไป แล้วลากเข้าไปในห้องเสียงร้องโหยหวนดังระงมตู้เฟิงเฉินร้อนใจ อยากจะช่วยพวกนาง แต่ก็ทำอะไรมิได้“พวกสัตว์เดรัจฉาน!” ตู้เฟิงเฉินพยายามวิ่งเข้าไป แต่กลับถูกฟาดลงไปนอนกับพื้น เขายังลุกขึ้นวิ่งเข้าไปขัดขวางอีกครั้ง“พวกเราสำนึกผิดแล้ว เหตุใดจึงทำกับพวกเราเช่นนี้!” หญิงสาวร้องไห้ดิ้นรน แต่ก็ถูกตบหน้ามิหยุดชายที่ตบนางกล่าวว่า “ทาสก็คือทาส! นี่คือประโยชน์ของพวกเจ้า!”“พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ขัดขืน ยอมรับอย่างสงบก็พอ!”พูดจบ ก็ลากหญิงสาวเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูมีเสียงดิ้นรนและกรีดร้องดังมาจากในห้องตู้เฟิงเฉินทรุดตัวร้องเอ่ยนามภรรยาและน้องสาวด้วยความสิ้นหวัง ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีพุ่งชนประตูแต่กลับถูกชายหลายคนจับกดลงพื้นในตอนนั้น ลั่วชิงยวนราวกับสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของเขาลั่วชิงยวนน้ำตาคลอตู้เฟิงเฉินมิยอมแพ้ พยายามดิ้นรนเข้าไปช่วย แต่กลับถูกรุมซ้อมจนหัวแตก นอนคว่ำอยู่หน้าประตูอย่างอ่อนแรงได้แต่มองประตูที่ถูกเปิดออก มีคนออกมา แล้วมีคนใหม่เข้าไปอีกเมื่อเห็นคนที่เขารักถูกทรมาน เขาก็เกลียดชังจนอยากจะทำลายใต้หล้าที่มิยุติธรรมผืนนี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1249

    นางยัดเศษผ้าจากชุดที่ถูกกระชากจนขาดเข้าไปในปากของตู้เฟิงเฉินแล้วหยิบผ้าคลุมสีดำขึ้นมาคลุมร่างปกปิดอาภรณ์ที่ขาดวิ่นนางก้มลง แววตามิหวาดกลัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้วจ้องมองตู้เฟิงเฉินอย่างเย็นชา“ข่มขืนหญิงสาวยี่สิบสามคน คนชั่วช้าเช่นเจ้า แม้แต่จะปราบเจ้า ข้ายังรังเกียจ”เมื่อตู้เฟิงเฉินรู้ตัวว่าถูกหลอกก็โกรธจัด จ้องมองนางด้วยดวงตาแดงก่ำ พยายามดิ้นรนสุดกำลังแต่ก็ดิ้นมิหลุดลั่วชิงยวนหยิบมีดมากรีดเสื้อของเขา แล้วฉีกออกอย่างแรงแน่นอนที่ไหล่ของเขาก็มียันต์ผนึกวิญญาณเช่นเดียวกันเหตุใดพวกเขาจึงมีเหมือนกันหมดนางรู้แค่ว่าแคว้นหลีมีสถานที่แห่งหนึ่งที่ใช้คุมขังนักโทษโดยเฉพาะมีคนชั่วร้ายที่ก่ออาชญากรรมหรือคนที่ทรยศแคว้นหลี พวกเขาจะมิตาย แต่จะถูกขังไว้ที่นั่นแต่คนชั่วร้ายทั้งสิบคนนี้ พวกเขาหนีออกมาจากที่นั่นได้หรือ?พวกเขามีชื่อเสียงโด่งดัง เดินทางไปทั่วแคว้นหลีมานานแล้วตามปกติควรจะปราบพวกเขาที่นี่ แล้วค่อยส่งไปขังเมื่อตั้งสติได้ ลั่วชิงยวนก็เอื้อมมือไปกระชากหน้ากากของตู้เฟิงเฉินออกลอกออกทีละชั้น ในที่สุดก็เผยใบหน้าที่แท้จริงใบหน้าที่ดูเด็ดเดี่ยวมิได้น่าเกลียดเหมือนที่ลั่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1248

    ลมพัดกระโชกแรงความสงบในยามราตรีราวกับถูกกำจัดไปอย่างรุนแรง พลังที่แปลกประหลาดบุกรุกเข้ามาเมื่อความรู้สึกมิสงบบันดาลขึ้น ลั่วชิงยวนก็ตื่นขึ้นทันทีแต่ก็สายไปแล้ว มีเสียงหัวเราะของบุรุษดังมาจากในความมืด ในวินาทีต่อมาไหล่ของลั่วชิงยวนก็ถูกจับ แล้วลากออกไปจากห้องลั่วชิงยวนถูกโยนลงพื้นอย่างแรง รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างมีคนก่อไฟไว้ในลาน คนชั่วร้ายทั้งเก้าคนกำลังนั่งเล่นอยู่ในลานนอกจากชายคนหนึ่งที่กำลังอ่านหนังสือ คนอื่น ๆ ต่างจ้องมองลั่วชิงยวนตู้เฟิงเฉินนั่งยอง ๆ จิกผมของลั่วชิงยวนเพื่อให้นางแหงนหน้าขึ้น“โอ้โห ครั้งนี้ส่งสาวงามที่อ่อนแอมาให้พวกเรา จุ๊ จุ๊...”ตู้เฟิงเฉินมีใบหน้าที่ค่อนข้างดูดี แต่แววตาบ่งบอกถึงความเจ้าชู้โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่มองลั่วชิงยวนราวกับจะกลืนกิน ช่างน่าขนลุก“คิดหรือว่าครั้งนี้ข้าจะยอมพวกเจ้า ใครจะมาก่อน?” ตู้เฟิงเฉินถามอย่างใจร้อนคนอื่น ๆ มิพูด ตู้เฟิงเฉินหัวเราะเบา ๆ “เรื่องดี ๆ เช่นนี้ยังมิกระตือรือร้นกันอีกรึ? เช่นนั้นข้าก็มิเกรงใจแล้ว”กล่าวจบก็ใช้นิ้วเชยคางของลั่วชิงยวน “เช่นนั้นข้าจะเป็นคนแรกที่ได้สนุกเอง”จากนั้นคว้าคอเสื้อของลั่วชิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status