แชร์

บทที่ 614

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-09 18:37:10
จู่ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออก

ฟู่เฉินหวนบุกเข้ามาในห้อง แต่เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นใครนอกจากลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนตกตะลึง

ทั้งคู่จ้องมองกันและกัน

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว จากนั้นก็หันหลังกลับและจากไป

ลั่วชิงยวนไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้?

หลังจากที่ฟู่เฉินหวนจากไป ซูโหยวก็รีบเชิญหมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นลั่วชิงยวนจึงขอ

ให้เขาตรวจชีพจรของนาง

หลังจากตรวจชีพจรแล้ว ซูโหยวก็พาเขาไปโดยไม่พูดอะไร

ภายในห้องตำรา

หมอหลวงกล่าวด้วยความเคารพต่อฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง พระชายามิได้ตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ”

ฟู่เฉินหวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ท่านตรวจชีพจรของนางชัดเจนแล้วหรือยัง?”

หมอหลวงตอบว่า “อย่าได้กังวลพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง กระหม่อมเป็นหมอหลวงมาหลายปีแล้วและได้วินิจฉัยชีพจรของเหล่าสนมในวังนับไม่ถ้วน กระหม่อมไม่มีวันตรวจชีพจรพลาดอย่างแน่นอนเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”

ฟู่เฉินหวนพยักหน้า ความสงสัยของเขาหายไปแล้ว แต่กลับมีความกังวลฉายชัดในดวงตาของเขา

“มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับร่างกายและจิตใจของนางหรือไม่?”

ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดและพูดว่า “มียาตัวใดบ้างที่ทำให้มิอาจสังเกตเห็นอาการของพิษได้ในตอนแรกที่กิน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 615

    “เหอะ ข้าเคยเพลิดเพลินกับการปฏิบัติเช่นนี้ในตำหนักอ๋องตั้งแต่เมื่อใดกัน?” ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะถอนหายใจ และเริ่มใช้ตะเกียบคีบอาหารจือเฉาพูดด้วยรอยยิ้ม “คราวนี้ท่านอ๋องได้ยึดครองหอร่ำเมลัยทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นเขาจึงปิดหอและเชิญพ่อครัวผู้นี้มายังตำหนัก จากนี้ไปเขาจะทำอาหารให้พระชายาเพียงผู้เดียวเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกใจมาก “เขารับช่วงต่อหอร่ำเมลัยหรือ?”เยี่ยมมาก นางสามารถสร้างกำไรได้อีกแล้วนางครุ่นคิดขณะรับกินอาหาร “เช่นนี้ข้าต้องคิดว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าข้าจะกินอะไร”ไม่กี่วันต่อมา ลั่วชิงยวนก็ได้รับการดูแลอย่างพิถิพิถัน อีกทั้งคนรับใช้ทุกคนในตำหนักอ๋องยังให้ความเคารพต่อนาง ไม่ว่านางต้องการอะไรหรืออยากกินอะไร เพียงแค่พูดทุกคนก็พร้อมตามใจนางแล้วหมอหลวงมาตรวจชีพจรของนางทุกวันและสั่งยาให้แก่นางฟู่เฉินหวนยังมาหานางทุกคืน เขานั่งลงแล้วคุยกับนางเกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องคดีตระกูลฝูฝูว่านเจิงและฝูจ้าวถูกประหารชีวิตด้วยกันทั้งคู่ และด้วยการสอบสวนเชิงลึกของฟู่เฉินหวนทำให้รู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ไม่เพียงแต่เจ้ากรมกลาโหมเท่านั้น แต่ยังม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-10
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 616

    ในที่สุดซ่งเชียนฉู่ก็มาถึงแล้วเมื่อซ่งเชียนฉู่ปรากฏตัวอย่างปลอดภัยต่อหน้าต่อตานาง หัวใจอันหนักอึ้งที่ลั่วชิงยวนแบกอยู่ก็ผ่อนคลายลงได้ในที่สุด“ท่านได้รับบาดเจ็บเหมือนกันหรือ? ท่านเป็นเช่นไรบ้าง?” ซ่งเชียนฉู่เดินเข้ามาในห้องแล้วเอ่ยถามด้วยความกังวล ลั่วชิงยวนผงะเล็กน้อย “เหมือนกัน? มีใครได้รับบาดเจ็บอีกอย่างนั้นรึ? เมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"นางมองไปยังใบหน้าของซ่งเชียนฉู่ที่ค่อนข้างซีดเซียว“คนเหล่านั้นยังคงไล่ตามดีงูอย่างไม่ยอมแพ้ เวลานี้สถานการณ์แย่ลงเรื่อย ๆ ในครั้งนี้ข้าและเฉินเซี่ยวหานขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนภูเขา แต่แล้วพวกเรากลับถูกซุ่มโจมตี”“ข้าไม่เป็นไร แต่เฉินเซี่ยวหานได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมาระยะหนึ่งแล้ว วันนี้อาการบาดเจ็บของเฉินเซี่ยวหานหายดีขึ้นเล็กน้อย เช่นนั้นข้าจึงพาเขากลับมา”“ข้าได้ยินมาว่าตำหนักอ๋องกำลังตามหาข้า ข้าจึงวิตกกังวลยิ่ง”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ท่าทีของลั่วชิงยวนก็ดูเคร่งขรึมขึ้นทันที นางครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “คนเหล่านั้นน่าจะเป็นคนของสำนักวรยุทธเจียงฮู๋ พวกเขาสูญเสียอำนาจไปมากในยามนี้ เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะส่งนักฆ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-10
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 617

    หลังจากนั้นไม่นาน ลั่วอวิ๋นสี่ก็เข้ามาอย่างมีความสุข ลั่วชิงยวนมอบสิ่งที่นางเตรียมไว้ล่วงหน้าให้อีกฝ่าย ก่อนจะสอนวิธีใช้ให้นาง แม้ว่าลั่วอวิ๋นสี่จะลองพยายาม เตี่ยฉุยก็เข้าสู่ร่างของลั่วอวิ๋นสี่ได้อย่างราบรื่นเขารีบออกจากประตูด้วยความตื่นเต้นและชกต่อยอากาศอย่างดุเดือดลั่วชิงยวนมองดูเขาด้วยตาเป็นประกาย พละกำลังและการเคลื่อนไหวของเขานั้นช่างสมกับเป็นนักฆ่าจริง ๆ!นางยืนขึ้นและเดินไปที่ประตู ก่อนจะเห็นว่าลั่วอวิ๋นสี่กำลังฝึกมีดสั้นอยู่ในลาน รวมทั้งตัวของเตี่ยฉุยเองก็ไม่ได้สัมผัสถึงการเหยียบบนพื้นหินมาเป็นเวลานานแล้ว เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากในขณะนี้ การเคลื่อนไหวของเขานั้นก็รุนแรงมากเช่นกันซ่งเชียนฉู่อุทานขึ้นว่า “ข้าไม่ได้เจอเจ้ามานานแล้ว นับว่าน่าแปลกใจจริง ๆ”“เป็นเรื่องยากที่จะหานักฆ่าที่มีวรยุทธสูงเช่นนี้”ลั่วชิงยวนยิ้มการถูกผู้อื่นควบคุมร่างกายทำให้ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกแปลกประหลาดและน่าขนลุก แต่ทว่า นางก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเริ่มจดจำตำแหน่งการเคลื่อนไหวเหล่านี้ไว้ในใจลั่วชิงยวนเฝ้าดูอยู่ที่ประตูอย่างตั้งใจ จือเฉาจึงตัดสินใจยกเก้าอี้มาไว้ให้นาง ทว่า หลังจาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-11
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 618

    ในเวลานี้ ลั่วเยวี่ยอิงก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “หยุดพูดได้แล้ว”นางมองไปที่ลั่วชิงยวนอีกครั้งแล้วพูดว่า “พี่หญิง อย่าได้ถือสาสิ่งที่พวกนางพูดเลยเจ้าค่ะ”“หากพี่หญิงลดน้ำหนักได้เช่นนี้ ใบหน้านั่นก็ต้องหายได้ด้วยใช่หรือไม่?”การถามถึงใบหน้าของลั่วชิงยวนอย่างเปิดเผยเช่นนี้ ก็ดูคล้ายจงใจจะเน้นเรื่องใบหน้าอัปลักษณ์ของนางให้ผู้อื่นเอาไปเป็นประเด็น พลังการเย้ยหยันนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าคำพูดของผู้อื่นเลยลั่วอวิ๋นสี่ที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาก่อนหน้านี้นางเย้ยหยันลั่วชิงยวนว่าอ้วนพอ ๆ กับหมู แต่เมื่ออีกฝ่ายผอมลงแล้ว นางกลับล้อเลียนอีกฝ่ายเรื่องใบหน้าอันอัปลักษณ์แทน เมื่อมองดูสีหน้าของคนที่กำลังชมการแสดงเหล่านั้น ความภาคภูมิใจซ่อนเร้นอยู่ในดวงตาของลั่วอวิ๋นสี่ ลั่วอวิ๋นสี่คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลั่วชิงยวนจะถอดหน้ากากของนางออกแล้วเผยใบหน้านั้นให้อีกฝ่ายได้เห็นทำให้พวกนางรู้สึกละอายใจและแสดงให้เห็นว่าพวกนางนั้นไร้สาระมากเพียงใด!“ข้ามิได้ต้องการให้เจ้ามาสนใจหน้าข้า” ลั่วชิงยวนตอบลั่วเยวี่ยอิงอย่างเย็นชาเมื่อนางเห็นท่าทีของลั่วเยวี่ยอิงเช่นนี้ นางก็รู้ทันทีว่าคำพูดข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-11
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 619

    ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา จากนั้นนางก็ตบอีกฝ่ายเต็มแรงโดยไม่ลังเลใจ เสียงตบดังลั่นชัดเจนทำให้ทั้งบริเวณเงียบลงในทันที“กล้าตีข้าหรือ!”สตรีผู้นั้นโกรธมากพร้อมทั้งรีบพุ่งไปข้างหน้าเพื่อต่อสู้กลับ แต่ถูกลั่วชิงยวนคว้าข้อมือของนางไว้ ก่อนจะผลักนางอย่างแรง ทำให้ร่างกายของนางร่วงหล่นจากศาลานางตกลงไปในสระน้ำทันที“อ๊ะ ช่วยด้วย!” สตรีผู้นั้นกระเสือกกระสน ทุกคนตกใจและลุกขึ้นยืนรวมตัวกันทันที แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้ากระโดดลงไปช่วยนางคนรับใช้ของตำหนักรีบไปช่วยเหลือสตรีนางนั้นทันที แต่เมื่อนางได้รับการช่วยเหลือแล้ว ร่างกายของนางก็ไม่ขยับเขยื้อนแต่อย่างใดเลย“เอ่อ นางคงไม่ตายใช่หรือไม่?”ฝูงชนตื่นตระหนกเป็นอย่างมากคนรับใช้ตรวจสอบลมหายใจของอีกฝ่ายทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ก่อนที่เขาจะเอ่ยรายงานว่า "พระชายา นางไม่หายใจแล้ว!"“นางตายแล้วจริงหรือ?” ทุกคนอุทานด้วยความตกใจลั่วเยวี่ยอิงตกตะลึง ดวงตาของนางเบิกกว้างจ้องมองไปยังลั่วชิงยวนด้วยความไม่เชื่อ “พี่หญิง ท่านฆ่าคน!” “เหตุใดท่านจึงทำเช่นนี้ นางมีความผิดก็จริง แต่นางไม่ควรต้องมาจบชีวิตเช่นนี้!” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-12
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 620

    เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ซ่งเชียนฉู่ก็รีบวิ่งมาเช่นกัน หลังจากสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ นางก็ได้ให้คนนำศพออกไปเก็บไว้ก่อนเมื่อผู้คนในศาลาเห็นว่าลั่วชิงยวนยังไม่ได้ถูกช่วยเหลือมาเป็นเวลานาน พร้อมกันนั้นพวกนางก็เห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี พวกนางจึงต้องการหลบหนีออกไป ทว่า พวกนางกลับถูกซ่งเชียนฉู่หยุดไว้และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พระชายาตกลงไปในน้ำ ไม่อาจรู้ได้ว่านางเป็นหรือตาย เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไม่อาจออกไปจากที่นี่ได้แม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนไม่ได้หมดสติ นางกลั้นหายใจ แต่การตอบสนองของร่างกายทำให้นางรออย่างเงียบ ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือการตอบสนองเช่นนี้อาจมาจากการทดลองยาในวันนี้ อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ทางยาของหญ้าเทพวสันต์นั้นรุนแรงเกินไปจึงไม่อาจปรับเข้ากับสมุนไพรชนิดอื่นได้อย่างสมดุล นำไปสู่การตอบสนองของร่างกายทำให้รู้สึกราวกับถูกแช่แข็ง ในความมืดมิด มือข้างหนึ่งคว้าแขนของนางไว้แล้วดึงนางขึ้นจากใต้น้ำ ในขณะที่นางถูกดึงขึ้นจากน้ำ ลั่วชิงยวนก็ตัวสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ผิวของนางซีดขาว และหนาวสั่นจนดูราวกับหายใจไม่ออก หัวใจของฟู่เฉินหวนคล้ายกับถูกบีบจนขึ้นมาที่ลำคอ เขาเดินจากไปพร้อมลั่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-12
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 621

    ทุกคนมองหน้ากัน ด้วยความไม่แน่ใจว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการจะทำอะไรกับพวกนาง ในเวลานี้ แม่บ้านเติ้งก็มาถึงพร้อมกับกลุ่มนางรับใช้พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณหนูทั้งหลายรบกวนช่วยยืนข้างกันด้วยเจ้าค่ะ ต่อจากนี้พวกท่านจะถูกตรวจค้นร่างกาย เช่นนั้นแล้วพวกท่านอย่าได้เอะอะไป”“อย่าพูดหากไม่มีใครถาม! ไม่ต้องส่งสายตาให้ใคร”“ไม่อนุญาตให้สบตากัน มิฉะนั้นหากพบว่าพวกท่านสบตากัน พวกท่านทั้งหมดจะถูกปฏิบัติไม่ต่างจากผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องโทษ!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้เอื้อนเอ่ยออกมาบรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างมาก ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปทางซ้ายและขวารอให้ใครสักคนแสดงความไม่พอใจออกมาเสียก่อน ตัวตนของพวกนางล้วนไม่ธรรมดาจะถูกตรวจค้นร่างกายเช่นนี้ได้อย่างไร?“ไม่ต้องสอดส่ายสายตา ก้มหน้าลง!” แม่บ้านเติ้งดุทุกคนถอนสายตาและก้มหน้าด้วยความตกใจ นางรับใช้ก้าวไปข้างหน้า ดึงคนเหล่านั้นทั้งหมดออกให้ห่างกัน ก่อนที่จะเริ่มค้นร่างกายพวกนางทีละคนลั่วเยวี่ยอิงก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เช่นกันนางยังถูกนางรับใช้ตรวจค้นร่างกายอีกด้วยลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกอับอายอย่างยิ่ง นางไม่เพียงแต่เป็นคุณหนูรองจวนอัครเสนาบดีเท่านั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-13
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 622

    “พวกเจ้าคิดว่าตำหนักอ๋องของข้าเข้ามาได้ง่ายนักรึ?”“หากตัวข้าเห็นพวกเจ้าในตำหนักอีก ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าก้าวออกไปอีก”เสียงที่เจือเจตนาสังหารทำให้ใจของผู้คนสั่นสะท้านกลืนน้ำลายอย่างประหม่า“ออกไป”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ตกใจ ก่อนจะรีบหันหลังกลับและวิ่งไปที่ประตูทันที น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเย็นชา “เอาของของพวกเจ้าออกไป!”พวกนางรีบวิ่งกลับด้วยความกลัว พร้อมกับหยิบสิ่งของบนพื้นแล้ววิ่งออกจากตำหนักไปการเชือดไก่ให้ลิงดูในวันนี้ก็เพื่อเตือนสติพวกนางทั้งหลาย ชาตินี้พวกนางคงไม่กล้าก้าวเข้าเข้ามาในตำหนักอ๋องอีกเลยตลอดชีวิต ทุกคนออกไปแล้ว แต่ลั่วเยวี่ยอิงยังไม่จากไป นางเก็บข้าวของและพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวลว่า “ท่านอ๋องพระองค์สงสัยหม่อมฉันหรือเพคะ?”“หม่อมฉันรู้ว่าเรื่องทั้งหมดในวันนี้เป็นความผิดของหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ควรพาคนเหล่านี้เข้ามาและทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้”“แต่หม่อมฉันไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ ก่อนหน้านี้พวกนางเคยถูกพี่หญิงทุบตีเพราะพูดจาดูหมิ่นพี่หญิงข้างนอก หม่อมฉันเพียงอยากจะพาพวกนางไปขอโทษพี่หญิงเท่านั้น”“ใครเล่าจะรู้…”ลั่วเยวี่ยอิงพูดด้วยท่าทางน่าสงสารแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-13

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1199

    ลั่วชิงยวนที่ถูกขังไว้สองวันเริ่มรู้สึกอึดอัดราวกับถูกจองจำในคุกหิมะตกหนักติดต่อกันหลายวันยิ่งทำให้นางรู้สึกหดหู่เมื่อหิมะเริ่มเบาบางลงนางจึงออกมานั่งที่เก้าอี้ในเรือนสัมผัสกับความเย็นยะเยือกที่โปรยปรายลงบนใบหน้า“พระชายา ระวังจะเป็นหวัดนะเจ้าคะ”จือเฉานำกาน้ำชาอุ่นมาวางไว้บนโต๊ะข้าง ๆ แล้วรินใส่ถ้วยให้นางไอร้อนจากน้ำชาช่วยเพิ่มความอบอุ่นในวันหิมะตกอันหนาวเหน็บจือเฉานั่งอยู่ข้าง ๆ เหม่อมองท้องฟ้าด้วยความกังวล “พระชายา เหตุใดท่านอ๋องจึงใจร้ายกับท่านเช่นนี้เจ้าคะ”“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีลั่วเยวี่ยอิงที่คอยยุแยง บัดนี้ลั่วเยวี่ยอิงก็ตายไปแล้ว เหตุใดท่านอ๋องจึงยังเป็นเช่นนี้ ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายามีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนก็มิอาจเข้าใจได้เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใดกันตั้งแต่ที่นางถูกเฉินชีจับตัวไปบนเขาหรือไม่สิ น่าจะเริ่มตั้งแต่เรื่องของฟู่จิ่งหานตอนที่ฟู่เฉินหวนตัดสินใจจัดการกับฟู่อวิ๋นโจว เขาเข้าวังไปหลายวันแล้วเมื่อกลับมาก็หย่ากับนางแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นในวัง แม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็มิยอมบอกนางหรือบางทีอาจจะมิรู้เหมือนกันวันนี้แม่นมเติ้งเป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1198

    เขามีสีหน้าเย็นชาขณะกล่าวเสียงเรียบ “กลับตำหนักกับข้า”ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงให้จือเฉาเก็บข้าวของตามฟู่เฉินหวนออกจากวังเมื่อขึ้นรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งสารถีให้กลับตำหนักทันทีทั้งยังเร่งให้รีบกลับด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่รถม้าแล่นไปอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนถูกเขย่าโคลงเคลงจนตัวแทบปลิว แต่ก็ยังพยายามทรงตัว มิเอ่ยคำใดจนกระทั่งรถม้ามาถึงหน้าตำหนักลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นรอยแดงบนใบหน้าของฟู่เฉินหวนนางยกมือขึ้น แตะใบหน้าเขาเบา ๆ “ใบหน้าของท่านเป็นอะไรไป?”ฟู่เฉินหวนคว้าข้อมือของนางไว้แล้วจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ “มิใช่เพราะเจ้าหรอกรึ!”ลั่วชิงยวนชะงักไปชั่วพริบตานั้น ฟู่เฉินหวนก็กระชากนางลงจากรถม้าอย่างแรง ทำให้นางเกือบล้มนางเดินเซ แต่ก็ยังถูกฟู่เฉินหวนลากเข้าไปในตำหนักฟู่เฉินหวนเดินอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างเต็มไปด้วยโทสะราวกับพยายามอดกลั้นมานานลั่วชิงยวนจึงตระหนักได้ว่าเขาคงถูกจักรพรรดิสูงสุดลงโทษมิเช่นนั้นรอยแดงบนใบหน้าเขาจะมาจากไหนเมื่อมาถึงลานด้านใน นางก็สะบัดตัวหลุดจากฟู่เฉินหวน“ท่านจะทำอะไร!”ทันใดนั้น ฟู่เฉินหวนก็บีบคางน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1197

    ผ่านไปครู่หนึ่ง เซิ่งไป่ชวนก็มาถึงลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเซิ่งไป่ชวนเห็นเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ บนหน้าผากนาง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “พระชายารู้สึกหนาวหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “ข้ามิเป็นอะไร มิต้องตรวจชีพจรแล้ว ข้าจะเขียนใบเทียบยาให้ เจ้าช่วยไปหยิบยาให้หน่อย”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า เขาย่อมเชื่อมั่นในฝีมือแพทย์ของลั่วชิงยวนจึงมิฝืนใจเพียงแต่กล่าวว่า “เห็นอาการของพระชายาทรงทรุดลงทุกวัน เกรงว่าจะเป็นเพราะความวิตกกังวล พระชายาควรปล่อยวางบ้าง”“เพื่อรักษาพระวรกายให้แข็งแรงขอรับ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขอบคุณหมอหลวงเซิ่ง”“ข้าจะระมัดระวัง”ขณะที่กำลังสนทนากัน ก็พลันได้ยินเสียงตวาดดังมาจากด้านนอก“ว่ากระไรนะ! สั่งลงไป ผู้ใดกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกให้ตัดหัวได้เลย!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยด้วยความสงสัย นางจึงสวมรองเท้าเดินออกไปจือเฉานำผ้าคลุมมาสวมให้นางเห็นจักรพรรดิสูงสุดกำลังโมโหอยู่ใต้ชายคา“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความอยากรู้จักรพรรดิสูงสุดกล่าวว่า “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้ามิได้ดุใครมานานแล้วเลยลองฝึกฝนดู”จากนั้นจักรพรรดิสูงสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1196

    เดิมทีนางตั้งใจจะบอกข่าวดีนี้แก่เขาในยามที่เขากับนางคืนดีกันแล้วทว่าสิ่งที่รอคอยกลับเป็นการหลอกลวง เขาชิงเอาเข็มทิศอาณัติสวรรค์ของนางไปบัดนี้เขาใจแข็งเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงจำต้องบอกเรื่องนี้แก่เขาในใจนางยังคงมีความหวัง หวังว่าเพื่อลูกในครรภ์ ฟู่เฉินหวนอาจจะใจอ่อนลงบ้างทว่าประตูบานนั้นยังคงปิดสนิทนอกจากเสียงลมหวีดหวิวที่พัดผ่านก็ไม่มีเสียงตอบรับใดสายลมหนาวราวกับจะพัดพาความอบอุ่นสุดท้ายในใจนางให้หายไปน้ำตาใสไหลรินอาบแก้มซีดเผือดลั่วชิงยวนหันหลังเดินจากไปอย่างเงียบงันเหล่าบ่าวไพร่ในตำหนักเห็นนางแล้วอยากจะทักทาย แต่ก็ลังเล มิกล้าเอ่ยปากบัดนี้ลั่วชิงยวนราวกับคนไร้วิญญาณ เดินออกจากตำหนักไปอย่างไร้จุดหมายนางเดินไปเรื่อย ๆ รู้สึกราวกับว่าสายลมหนาวจะพัดพาร่างนางให้แหลกสลายไป ความหนาวเหน็บกัดกร่อนกระดูก......ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนทรุดลงนอนสลบแน่นิ่งกองอยู่ที่มุมห้อง พื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจนกระทั่งซูโหยวกลับมาพบเข้า จึงรีบให้คนไปตามหมอหลวงมู่มาโดยด่วนหมอหลวงมู่ตรวจอาการแล้วก็ตกใจยิ่งนัก รีบปรุงยาให้ทันทีและยังนำโสมมังกรที่ตกทอดกันมาในตระกูลออกมาตัดแบ่งส่วนเล็ก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1195

    เขามิอยากแตะต้องนางแม้เพียงปลายเล็บฟู่เฉินหวนรีบส่งคนออกไปตามล่าเฉินชี แล้วจึงกวาดสายตามองลั่วชิงยวนที่นอนอยู่บนพื้นหิมะอย่างเย็นชาก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “พากลับไป”องครักษ์สองนายเข้ามาพยุงลั่วชิงยวน แล้วพานางออกไปจากศาลาลั่วชิงยวนจ้องมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจนางก็พลันเหมือนถูกบีบขณะที่นางถูกพาตัวออกไป เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นทั่วศาลาเสียดแทงโสตประสาทยิ่งนักเมื่อกลับถึงตำหนัก ฟู่เฉินหวนก็รีบจัดการวางกำลังคนไปจับตัวเฉินชีลั่วชิงยวนยืนรออยู่ท่ามกลางหิมะ จนกระทั่งเขาจัดการทุกอย่างเสร็จจึงเดินเข้าไปหา“ฟู่เฉินหวน...”ทว่าฟู่เฉินหวนกลับมองนางด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตำรา แล้วปิดประตูใส่หน้าเสียงปิดประตูดังสนั่น ทำให้ลั่วชิงยวนสะดุ้งตกใจนางมิยอมแพ้ เดินไปเคาะประตู “ฟู่เฉินหวน ท่านรังเกียจหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่!”“เฉินชีกับลั่วฉิงร่วมมือกัน! เหตุใดท่านจึงหลอกเอาเข็มทิศของหม่อมฉันไป! ทั้งหมดนี้เป็นแผนของพวกเขา!”นางทุบประตูเรียก “ฟู่เฉินหวน ท่านต้องอธิบายให้หม่อมฉันฟัง!”ประตูเปิดออกกะทันหันฟู่เฉินหวนก้าวออกมาด้วยความโกรธ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1194

    ลั่วชิงยวนเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเขาด้วยความโกรธครั้นเห็นนางมิยอมอ้าปากแม้สักนิด เฉินชีจึงโน้มกายเข้าไปใกล้ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เจ้าอยากให้ข้าทำเกินเลยกว่านี้รึ?”ลั่วชิงยวนขบฟันแน่นก่อนจะยอมอ้าปากรับสิ่งที่เฉินชีป้อนให้เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบด้าน“สวรรค์โปรด! สองคนนี้กำลังทำสิ่งใดกันอยู่”“พระชายาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการกำลังลักลอบคบชู้ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้หรือ?”เหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์ต่างส่งคนไปทูลท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการให้รีบมาโดยพลันเฉินชีนั่งอยู่ในศาลา ยังคงจงใจแสดงท่าทีคลอเคลียกับลั่วชิงยวน แล้วกระซิบเสียงเบา “หลังจากวันนี้ เจ้าคงมิอาจอยู่ในเมืองหลวงได้อีกแล้วกระมัง?”“เหตุใดจึงมิติดตามข้ากลับแคว้นหลีเล่า?”“เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นคนของแคว้นหลี”“ข้าสามารถส่งเจ้ากลับสู่ตำแหน่งเดิม ให้เป็นนักบวชหญิงผู้สูงส่งได้”“หากเจ้าเต็มใจ จงกะพริบตา แล้วข้าจะพาเจ้าไป”ช่างไร้ยางอาย!ลั่วชิงยวนเบิกตากว้างจนดวงตาแดงก่ำ มิยอมกะพริบตาแม้เพียงน้อยในใจนางก่นด่าเฉินชีนับร้อยครั้งครั้นเห็นนางดื้อรั้นเช่นนี้ เฉินชีกลับหัวเราะออกมา“ดูท่าว่าอาเหลายังคงรู้จักข้าดี”ทั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1193

    จนกระทั่งฟ้าสาง ผู้คนเริ่มทยอยออกมาตามถนนบรรยากาศบนท้องถนนเริ่มคึกคักขึ้น เฉินชียังคงโอบนางเดินไปข้างหน้าอย่างแช่มช้าในสายตาของคนภายนอก ทั้งสองดูสนิทสนมกันมากจนกระทั่งเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจ “นั่นมิใช่พระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการหรือ? เหตุใดนางจึง...”ลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้น หัวใจก็พลันกระตุกแต่เฉินชีกลับยกยิ้มอย่างสาแก่ใจ แล้วพาลั่วชิงยวนไปที่ร้านขนมร้านนั้นก่อนจะแสร้งถามลั่วชิงยวนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าชอบกินอันไหน?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขาด้วยความโกรธเฉินชีกลับยิ่งหัวเราะอย่างลำพองใจเขาโยนถุงเงินหนัก ๆ ลงบนแผงร้าน “ข้าเหมาทั้งหมด!”เถ้าแก่ตกตะลึงจากนั้นเฉินชีก็หยิบขนมชิ้นหนึ่งมาป้อนที่ปากของลั่วชิงยวน “ลองชิมดูหรือไม่?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขา มิยอมอ้าปากแววตาของเฉินชีเย็นชา มือใหญ่เลื่อนไปที่ท้ายทอยของนางแล้วออกแรงบีบพลางยัดขนมเข้าไปในปากของนางด้วยรอยยิ้ม“กินสิ”ท้ายทอยของลั่วชิงยวนเจ็บปวด นางจำใจต้องอ้าปากกัดขนมชิ้นนั้นเฉินชีเห็นดังนั้นจึงพอใจมาก “ชอบหรือไม่?”เขามองนางด้วยสายตาคมกริบ ก่อนยกมือขึ้นเช็ดเศษขนมที่มุมปากของนางท่าทาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1192

    สติเลือนรางลงทุกขณะ ในที่สุดก็ต้านฤทธิ์ยามิไหวจึงสลบไปเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ลั่วชิงยวนก็รู้สึกได้ถึงการเข้ามาใกล้ของใครบางคนพยายามลืมตาขึ้น แต่ก็ยังคงอ่อนแรงจนขยับร่างกายมิได้มีเงาร่างหนึ่งทรุดกายลงตรงหน้าในวินาทีต่อมา มือเย็นเฉียบก็คว้าปลายคางของนาง บังคับให้นางเงยหน้าขึ้นลั่วชิงยวนจึงเห็นใบหน้าที่ขยายใหญ่ขึ้นตรงหน้ารอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลังโดยมิรู้ตัวเฉินชี!“เหตุใดจึงเป็นเจ้าอีก! เจ้ากล้ามาที่เมืองหลวงเลยหรือ!” ลั่วชิงยวนพูดอย่างอ่อนแรงเฉินชีดึงนางขึ้นจากพื้น แล้วบีบปลายคางของนาง “ฟู่เฉินหวนมิต้องการเจ้าแล้ว”“ไปกับข้าเถอะ”ลั่วชิงยวนสะบัดมือเขาออกอย่างแรง “เจ้าฝันไปเถิด!”“อาเหลา เหตุใดเจ้าจึงยังดื้อรั้นเช่นเดิม นิสัยเช่นนี้ทำให้เจ้าต้องพบเจอความยากลำบากอีกมาก” เฉินชียกยิ้มขณะจ้องมองใบหน้าของนางใบหน้าซีดเซียว อ่อนแรงราวกับจะแตกสลายได้เพียงแค่สัมผัส เขาชื่นชอบยิ่งนักทันใดนั้นลั่วชิงยวนที่มีแววตาเย็นชากัดมือที่บาดเจ็บของเขาอย่างแรงกัดจนเลือดไหลทะลักเข้ามาในปากเฉินชีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดลั่วชิงยวนฉวยโอกาสวิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1191

    ลั่วชิงยวนกล่าวจบก็ยกจอกสุราขึ้นดื่มจนหมดฟู่เฉินหวนหรี่ตาจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า มิละสายตาไปแม้แต่น้อย แล้วค่อย ๆ ดื่มสุราในจอกจนหมด“ฟู่เฉินหวน ที่จริงมีอีกเรื่องหนึ่ง...” ลั่วชิงยวนตั้งใจจะบอกเรื่องการมีตัวตนของชีวิตน้อย ๆ ในครรภ์ทว่ายังพูดมิจบก็ถูกฟู่เฉินหวนขัดจังหวะ“เจ้านำเข็มทิศติดตัวมาหรือไม่”“ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วยทำนาย”ลั่วชิงยวนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหยิบเข็มทิศในอกเสื้อออกมา“ท่านอยากจะให้ทำนายเรื่องใด?” ลั่วชิงยวนถามฟู่เฉินหวนจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า สายตาเย็นชานั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกแปลกประหลาด“เหตุใดท่านจึงมองหม่อมฉันเช่นนั้น?”ตอนนี้สายตาที่ฟู่เฉินหวนมองนางราวกับมองคนแปลกหน้าเฉียบคมและเย็นชาเสียงเย็นเยียบดังขึ้น “เจ้าเป็นใครกันแน่”ลั่วชิงยวนตกใจ มองเขาด้วยความมิเข้าใจ “ท่านเป็นอะไรไปเพคะ?”มองแววตาเย็นชาของฟู่เฉินหวนแล้ว ลั่วชิงยวนก็พลันรู้สึกใจคอมิดี จู่ ๆ เริ่มวิงเวียน ภาพตรงหน้าพร่าเลือนนางรีบกุมศีรษะ ตระหนักได้ว่าตอนนี้นางมีบางอย่างผิดปกติ นางเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างยากลำบาก “ท่านวางยาในสุราหรือ?”แต่ฟู่เฉินหวนกลับมิตอบในตอนนั้นเอง ประ

DMCA.com Protection Status